NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร่ายเวทรัก(จางอี้หาน)

    ลำดับตอนที่ #2 : คนแปลกหน้าที่หล่อขั้นเทพ

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 65


    2

     

    ท่าจอดเรือของรอยัลฮ่องกง ยอชต์คลับ อ่าวคลอสเวย์ เกาะฮ่องกง

    “คุณ คุณค่ะ คุณ”

    แอนนี่หรืออลิสาพยายามเขย่าตัวเรียกผู้ชายตัวโตๆ ที่นอนหงายอยู่บนเตียงในความมืดนั้น แต่เขาไม่มีปฎิกิริยาตอบสนองใดๆกลับมาเลย มีเพียงลมหายใจสม่ำเสมอ และกลิ่นแอลกอฮอล์จางๆโชยออกมาจากร่างแค่นั้น

    เอาไงดีนะ ทิ้งเขาไว้ตรงนี้ แล้วหนีไปเลยจะดีไหมนะ เขาจะตายหรือเปล่านะ

    แอนนี่พยายามคิด  เธอก้าวลงมาจากเตียงอย่างหวาดกลัว แล้วก็ผลุนผลันวิ่งออกจากห้องนอนที่มืดมิด ที่อยู่ชั้นล่างของเรือ เธอวิ่งกลับมาด้านบนของเรือ แล้วก็ต้องตกใจหนักกว่าเดิม

    อะไรกันเนี่ย เรือ เรือออกจากฝั่งมาได้ยังไง แล้วเธอจะขึ้นไปบนบกได้ยังไงกันล่ะเนี่ย

    แอนนี่เดินวนๆไปรอบเรือด้านบน มองผิวน้ำและท่าเรือที่อยู่ห่างออกไป อย่างสับสน

    อีตาบ้านั่นแน่ๆเลย ที่ขับเรือออกมาลอยอยู่นอกฝั่งอย่างนี้ แล้วนี่เธอจะกลับเข้าฝั่งยังไงล่ะ เธอขับเรือก็ไม่เป็นซะด้วย เอ๊ะ แล้วมือถือเธอล่ะ เธอเอามันไว้ที่ไหน โทรหานีน่าดีกว่า แล้วกระเป๋าเธอล่ะ เธอถอดมันไว้ในห้องนอนนั่นนี่

    แอนนี่รีบปีนกลับลงไปชั้นล่าง และเดินกลับไปยังห้องนอนห้องเดิมอีกครั้ง เพราะทิ้งกระเป๋าสะพายและมือถือไว้ที่นั่น  

    เมื่อก้าวขากลับเข้ามาในห้องนอนที่มืดมิด ผู้ชายคนนั้นยังนอนอยู่ที่เดิมและท่าเดิมเลย เธอผ่อนลมหายใจอย่างโล่งอก ที่อีตาบ้านั่นไม่มีท่าทีจะฟื้นขึ้นมา 

    แอนนี่กระเถิบตัวขยับเข้าไปใกล้ร่างผู้ชายตัวโตๆคนนั้น ไอ้บ้านี่ดันนอนทับกระเป๋าเธอไว้ 

    เฮ้อ เธอพ่นลมหายใจอย่างขัดเคืองใจ ตัวก็โต จะแงะเอากระเป๋าออกมายังไงล่ะ เธอมองสายกระเป๋าที่โผล่ออกมาจากร่างที่นอนหงายนั้นอย่างชั่งใจ

    เอาน่า คงไม่ตื่นขึ้นมาหรอกมั้ง ก็ตะกี้เขาพูดทำนองว่า โดนวางยามาอะไรเทือกๆนั้นนี่  ถ้าโดนวางยาสลบมาจริงๆ ก็ไม่น่าจะตื่นง่ายๆหรอกน่า 

    แอนนี่เขยิบเข้านั่งบนเตียงข้างๆร่างของผู้ชายคนนั้น แล้วมองสำรวจตัวเขาทั่วๆอีกครั้ง

    เออ จะว่าไปตานี่หล่อชะมัดเลยแหะ ขนาดแสงสลัวๆขนาดนี้นะ เค้าโครงหน้าแบบตะวันออกผสมตะวันตก ที่มิกซ์มาแบบลงตัวเป๊ะ บนใบหน้าตานี่สุดยอดเลย ขนตายาวเป็นแพ จมูกโด่งเหมือนคนยุโรป แต่สีผิวขาวแบบคนจีน ปากหยักได้รูปสวยอย่างกับผู้หญิง คิ้วก็ชัดสุดๆ นี่ถ้าเจอตอนกลางวันคงจะต้องมองตาค้างแน่ๆ

    ระหว่างที่แอนนี่เอาแต่ยิ้ม มองหน้าหล่อๆของจางอี้หานอยู่นั้น อยู่ๆร่างนั่นก็ขยับตัว ลืมตาปรือมามองหน้าเธอ

    “ใครน่ะ เข้ามาในห้องฉันได้ไง”

    เสียงทุ้มๆพึมพำแล้วหลับตาลงไปอีก แอนนี่สะดุ้ง ตกลงอีตานี่มันสลบหรือละเมอกันแน่ฟะเนี่ย 

    ไม่ได้การแล้ว รีบเอากระเป๋าแล้วหนีไปโทรหานีน่า ที่เรือด้านบนดีกว่า นั่งจ้องอีตานี่ต่อไป คงโดนตกไปแน่ๆ ยิ่งมองก็ยิ่งหล่อขนาดนี้ไม่ไหวๆ  

    แอนนี่ก้มตัวลง ใช้สองมือช่วยกันแซะกระเป๋าเธอ ให้ออกมาจากร่างของจางอี้หานช้าๆ แต่น้ำหนักตัวของเขาที่ทับอยู่บนกระเป๋าสะพายใบเล็กๆของเธอ ดูจะไม่่ใช่งานง่ายๆเลย 

    “บ้าเอ๊ย ทำไมนายถึงตัวหนักขนาดนี้ล่ะหึ กินอะไรเข้าไปน่ะ ลดน้ำหนักบ้างนะนายน่ะ”

    แอนนี่บ่นด่าจางอี้หานที่นอนไม่รู้เรื่องอยู่ เธอชักจะเหนื่อย เพราะใช้มือหนึ่งพยายามยกร่างเขาขึ้น อีกมือดึงสายกระเป๋าไว้ แต่ร่างเขาน่ะขึ้นมาจากพื้นที่นอนแค่นิดนึงเอง แล้วก็หล่นไปนอนเช่นเดิมอีก 

    “โอ้ย นายช่วยเขยิบไปหน่อยไม่ได้รึไง นายคนหล่อ ฉันจะเอากระเป๋าอ่ะ”

    แอนนี่ชักโมโห ลืมตัวยกมือตีแขนจางอี้หานไปทีนึง แล้วก็ต้องตกใจ เพราะเขาลืมตาปรือๆมาจับมือเธอไว้แน่นเลย

    “นาย จับมือฉันทำไม ปล่อยมือฉันนะ”

    “เจ็บ ตีทำไม”

    อีตานั่น พึมพำทั้งที่หลับตาลงไปอีกแล้ว นี่จะหลับหรือจะตื่นกันแน่ ที่บอกว่าโดนวางยามานี่ อำกันใช่ไหม

    “ก็นายทับกระเป๋าฉันอยู่ ฉันจะเอากระเป๋าของฉัน”

    แอนนี่พูดแล้วมองจางอี้หาน ที่เงียบไปอีกแล้วอย่างโคตรจะโมโหเลย แล้วเรื่องอะไรมาจับมือเธอไว้เนี่ย เธอพยายามบิดข้อมือออก แต่เขาก็บีบมือแน่นขึ้น เธอก็เลยใช้อีกมือช่วยแงะมือของตัวเอง ให้ออกจากมือใหญ่ๆนั่น 

    แต่จางอี้หานกลับกระชากดึงแขนเธอ อย่างรำคาญๆ มีผลให้ร่างเธอพุ่งเข้าไปหาตัวเขา ทับไปบนร่างเขาซะงั้น

    “ไอ้บ้า นี่นายจะทำอะไร แกล้งเมาใช่ไหม”

    แอนนี่ตกใจต่อว่าจางอี้หาน แล้วก็รีบใช้มือยันร่างตัวเองขึ้นมาจากร่างแข็งแรงนั่น แต่เขากลับเคลื่อนไหวไวกว่า ใช้อีกมือโอบกอดเอวเธอ แล้วก็เคลื่อนมาแตะแผ่นหลังกดร่างเธอลงมาชิด แล้วกอดค้างไว้

    “อื้อ อยู่นิ่งๆหน่อยซิเบบี๋”

    “ใครเบบี๋ของนาย ไอ้บ้าปล่อยฉันนะ”

    แอนนี่ตกใจ เมื่อร่างเธอแนบชิดอยู่บนร่างแข็งแรงของจางอี้หาน เรียกได้สนิทสนมฟิวแฟนขนาดนั้น เธอไม่เคยมีแฟนมาก่อน เคยเห็นแต่เพื่อนๆกอดกับแฟนแบบนี้ เพิ่งจะรู้ว่ามันอุ่นๆ แล้วก็ร้อนระอุได้ขนาดนี้

    เธอใจเต้นแรง แล้วก็ดิ้นรนหนักกว่าเดิม จนดูเหมือนว่า เขาจะขมวดคิ้วราวกับไม่พอใจเท่าใดนัก ที่เธอดิ้นขลุกขลักไม่เลิกอยู่บนร่างเขา

    “บอกให้อยู่เฉยๆไง”

    จางอี้หานพลิกตัวมานอนตะแคง แล้วรวบร่างที่ดิ้นรนทำให้เขานอนไม่สบายด้วยสองมือ รั้งมากอดไว้แน่น เกยคางแนบแก้มนุ่มๆนั่น เขาลืมตาไม่่ค่อยจะขึ้น แต่ได้กลิ่นหอมแปลกๆจากร่างที่กอดอยู่ กลิ่นหอมแบบที่เขาไม่เคยได้กลิ่นมาก่อน

    “หอมจัง กลิ่นอะไรหอมดี”

    จางอี้หานซุกไซ้ใบหน้าหล่อๆนั่นลงมาที่แก้มของแอนนี่ แล้วกดจมูกกับปากไล่ลงมาที่ซอกคอของเธอ ทำท่าดมกลิ่นจากกายเธอ แล้วกดปากลงที่ซอกคอเธองับช่วงไหล่เธอเบาๆ

    “อุ้ย นาย”

    แอนนี่ตกใจ ที่เขาเม้มปากกับไหล่เธอ ราวกับหมั่นเขี้ยวเธอ แล้วก็ไซ้หน้าไปมาไม่หยุด

    “ตัวหอมจัง กลิ่นอะไรนะ ผมชอบ”

    จางอี้หานพึมพำกับร่างนุ่มๆ ที่มีกลิ่นหอมประหลาดๆ กลิ่นนี่ทำให้เขารู้สึกหมั่นเขี้ยวร่างในอ้อมแขน อยากงับเธอไปทั้งตัวเลย แล้วเขาก็ทำมันจริงๆ

    เขาถูปากอุ่นๆ ขึ้นไปจากซอกคอไปจูบใบหูเล็กๆ แล้วงับเม้มที่ใบหูนั่น ร่างในอ้อมแขนเขาร้องอื้ออา เมื่อเขาเริ่มจูบไปทั่ว แล้วลืมตามามองผู้หญิงที่เขาเห็นหน้าไม่ชัดในอ้อมแขน

    “ผมอยากฟัดคุณจัง คุณน่าฟัดเป็นบ้าเลยที่รัก”

    แอนนี่อ้าปากค้างกับประโยคของจางอี้หาน นี่เขาพูดบ้าอะไร เธอรีบยกแขนดันตัวเขา แต่มันไม่ได้ขยับเลยสักนิด เพราะขนาดตัวเขากับเธอแล้วแตกต่างกันมาก 

    จางอี้หานที่ครึ่งหลับครึ่งตื่น ทำทุกอย่างตามที่ใจปรารถนา เขาก้มหน้าลงไปปิดปากที่ส่งเสียงอื้ออ้าประท้วงนั่น กดริมฝีปากลงไปที่ปากนุ่มๆ นั่นแล้วแทรกลิ้นลงไป ไล้ลิ้นอุ่นๆไปบนริมฝีปากเธอ เพื่อชิมรสชาติของเธอก่อน เมื่อมันแตะเข้ากับลิ้นเล็กๆของเธอ ก็ให้ความรู้สึกที่น่าพึงพอใจสำหรับเขาที่สุด

    “อื้อ คุณหวานนะที่รัก”

    เขาพึมพำแล้วแทรกลิ้นเข้าไปในโพรงปากของเธออีกครั้ง แอนนี่ตัวชาวาบ เหมือนโดนไฟช็อต นี่เป็นจูบแรกของเธอกับบุรุษเพศ ที่ผ่านมาแค่ผู้ชายเข้าใกล้ เธอก็เผ่นตลอด จับมือเธอยังยากเลย

    ไอ้ฉายา “แม่มดแอนนี่” นั่นไม่ใช่ได้มาเปล่าๆ มันมาจากเธอไม่เคยให้ผู้ชายคนใดเข้าใกล้ แม้เธอจะมีเสน่ห์ดึงดูดทางเพศ แต่เธอก็พยายามกลบมันด้วยการแต่งตัวทึมๆ เพราะไม่ชอบให้ผู้ชายมาประชิดตัว

    “อื้อ นาย อื้อ”

    จางอี้หานไม่ได้สนใจ เสียงอู้อี้ที่ประท้วงเขาเลย เขายังคงเดินหน้าต่ออย่างไม่รู้ตัว ด้วยการพลิกร่างที่นอนตะแคงด้วยกัน โดยตัวเขาขึ้นไปคร่อมตัวเธอไว้ทั้งตัว แอนนี่ที่กำลังมึนเมากับจูบแรก ถูกพลิกร่างนอนอยู่ใต้ร่างแกร่งของเขา

    เขาจูบเธอซ้ำแล้วซ้ำเล่า จนเธอเริ่มสั่นสะท้าน เขาไล่ปากลงไปตามแนวแก้ม ลำคอ ไหล่  เขาหงุดหงิดกับชุดที่ขวางกั้นผิวเธอไว้ จึงลงมือแกะกระดุมเสื้อเธอออกไปให้พ้นทาง 

    แอนนี่ที่งุนงงตามจางอี้หาน ซึ่งชำนาญการถอดมากกว่าใส่มากนักไม่ทัน เธอสะดุ้งเมื่อปากอุ่นๆ นั่นจูบไซ้เนินอกของเธอ ลิ้นอุ่นๆของเขาลากอยู่บนทรวงอกเธออย่างชำนาญ เธอตัวสั่นครางออกมาอย่างไม่รู้ตัว

    “อื้อๆ”

    จางอี้หานปัดเสื้อผ้าบางเบาสีดำของแอนนี่ออก เผยให้เห็นบราลูกไม้สีดำ เขาจูบอกอิ่มบนผ้าลูกไม้บางๆ แล้วงับยอดอกเธอผ่านบรา ร่างอวบอิ่มใต้ร่างเขาสะท้าน ยอดอกเธอแข็งขึ้นจากสัมผัสที่รุกรานของเขา

    “ให้ผมดูหน่อยนะที่รัก”

    จางอี้หานพูดพึมพำ ไม่รอให้แอนนี่อนุญาตด้วยซ้ำ เพราะเขาปัดสายบราเธอออกทันที เผยให้เห็นทรวงอกที่ใหญ่กว่ามาตรฐานเพื่อนๆของเธอ เขาก้มหน้าลงไปใช้ริมฝีปากเม้มยอดอกสีชมพูเข้มนั่น ส่งผลให้ร่างนุ่มๆเจ้าของอกอิ่มร้องอื้อ อย่างสับสนกับอารมณ์บางอย่างที่พลุ่งพล่านของตัวเอง 

    แอนนี่รู้สึกร้อนวูบวาบกับสัมผัสที่จาบจ้วงของจางอี้หาน เธอบิดร่างเมื่อเขาละเลงลิ้นกับยอดอกของเธอ และดูดกลืนมันราวกับหิวกระหาย เธอรู้สึกว่าถูกเขาดูดเรี่ยวแรงเธอไป ร่างเธอยกตัวขึ้นตามแรงเขาที่สัมผัสเธออยู่

    “อื้อ นายหยุด หยุดเถอะ อื้อ”

    แอนนี่ร้องประท้วงจางอี้หาน อย่างอ่อนแรง ตัวเธออ่อนระทวยอยู่ใต้ร่่างเขา เสียงสั่นพร่าเล็กๆนั่น ทำให้เขาอยากเห็นหน้าเธอชัดๆขึ้นมา แต่แสงสว่างในห้องนอนใต้ดินนี่มันน้อยมาก เขาใช้มือสัมผัสอกอิ่มนั่นอย่างพึงพอใจ 

    “ไม่หยุดดีกว่านะ ผมว่าคุณก็ชอบมัน พอๆกับผมแหล่ะที่รัก”

    เขาก้มลงไปจัดการร่างเล็กๆ แต่อวบอิ่มนั่นต่อ คราวนี้แอนนี่หมดแรงจะคัดค้านอะไรแล้ว เพราะทั้งปากทั้งมือเขาฟอนเฟ้นทรวงอกเธออย่างถนัดถนี่ เธอได้แต่ส่งเสียงคราง งุนงงกับความรู้สึกแปลกใหม่ที่ไม่เคยมีประสบการณ์ด้านนี้มาก่อน

    จางอี้หานพึงพอใจกับเสียงครางของคนใต้ร่าง เขาลูบมือลงไปที่หน้าท้องแบนราบนั่น ไปสะดุดที่ขอบกระโปรงบานสั้นๆสีดำของเธอ จึงแตะต้นขาแล้วตลบชายกระโปรงนั่นขึ้น แตะนิ้วไปเรื่อยๆ จนถึงจุดกึ่งกลางลำตัวของเธอ ที่ถูกห่อหุ้มไว้ด้วยกางเกงชั้นในตัวจิ๋วสีดำ เขากดนิ้วลงไปที่จุดที่ไวต่อสัมผัสของเธอ

    แอนนี่หยัดร่างขึ้นทันที ที่นิ้วมือของจางอี้หานสัมผัสไปที่จุดนั้น เขาทำอะไรเธอเนี่ย ร่างเธอถึงร้อนวูบวาบขนาดนี้ เธอสะอื้นกับนิ้วที่กดย้ำๆไปมาบริเวณนั้นไม่หยุด 

    จางอี้หานหันไปปิดปากเธอ ด้วยปากอุ่นของตัวเอง แล้วรุกล้ำเธอต่อไป จนเธอสั่นระริกไปทั้งร่าง  เขาเกี่ยวขอบกางเกงชั้นในตัวจิ๋วนั่นไปด้านข้าง แทรกนิ้วไปสัมผัสของจริงลึกล้ำลงไปกว่าเดิม 

    คราวนี้เธอสะอื้นอยู่ในปากเขา บิดร่างเร่าไปมา แล้วก็เกร็งตัว เมื่อเขาไม่หยุด ซ้ำยังใช้อีกมือวนเวียนบนยอดอกเธอไปด้วย  เธอก็กรีดร้องออกมาในปากเขาในที่สุด ร่างเธอสั่นสะท้านกระตุกนิดๆ ท่ามกลางความรู้สึกพึงพอใจของเขา

    “อื้อ นาย นายเลิกเถอะ ฉันขอร้อง ฉันไม่ไหว”

    “ที่รักคุณเสร็จนำหน้าไปรอบนึงแล้ว ไม่ต้องห่วงผมส่งคุณถึงดวงดาวอีกหลายรอบแน่ๆที่รัก”

    จางอี้หานกดจูบที่ปากเธอแล้วพึมพำบอก เขาพลิกร่างอ่อนระทวยที่สะท้านน้อยๆของแอนนี่ แล้วรูดซิปกระโปรงเธอลง เธอยังคงปรือตาอยู่ ทำไมเธอหมดแรงแบบนี้นะ 

    เขาถอดเสื้อตัวเอง และกางเกงของตัวเองออกไปอย่างรวดเร็ว แอนนี่ที่ตาปรืออยู่ หันมาเห็นร่างเปลือยเปล่าของจางอี้หานที่คุกเข่าอยู่ตรงหน้า ก็ตระหนกตกใจหนัก 

    อะไร เขาโป๊ทั้งตัวทำไม นี่เขาจะข่มขืนเธองั้นเหรอ

    แอนนี่ตาเบิกโพลง เธอรวบรวมเรี่ยวแรงหมุนร่างของตัวเอง ที่เหลือแค่กางเกงในตัวจิ๋วตัวเดียว หมุนตัวกลิิ้งลงมาจากเตียง หัวเธอกระแทกกับขอบชั้นวางของข้างเตียงดังโป๊ก ยิ่งทำให้ได้สติหนักขึ้น

    เธอยืนขึ้น ใช้มือปิดหน้าอกของตัวเองไว้ มองไปรอบๆห้องหาเสื้อผ้าของตัวเอง แล้วก็พุ่งตัวไปคว้ากระเป๋า และรวบเสื้อผ้าของตัวเองออกมา มือไม้สั่นเทาไปหมด 

    “แกๆ ไอ้โรคจิต แกๆ ไอ้หื่นกาม ไปตายซะเหอะ”

    แล้วแอนนี่ก็คว้ารีโมทแอร์ที่อยู่บนโต๊ะ เขวี้ยงใส่หัวของจางอี้หานเข้าเต็มเปา

    “โอ้ย เธอ เจ็บนะ”

    จางอี้หานที่สติไม่เต็มร้อย ยกมือขึ้นกุมหัวตัวเอง ที่โดนรีโมทกระแทกเข้าจังๆ ระยะใกล้ๆ เขาก้มตัวลงร้องในขณะที่แอนนี่หมุนตัวที่ยังสั่นสะท้าน ออกจากห้องไป ยืนอยู่หน้าห้องแล้ว 

    เอาไงดี ถ้าตานั่นตามออกมาล่ะ เธอกลัวๆ รีบดันโต๊ะที่วางอยู่หน้าห้องมาขวางทาง ไม่ๆไม่พอเบาไป เธอคว้าข้าวของหนักๆไปวางบนโต๊ะอีกมากมายเท่าที่จะคว้ามาได้ แล้วก็รีบลงมือใส่เสื้อผ้าตัวเองกลับไปเหมือนเดิม 

    แอนนี่ที่สวมเสื้อผ้าแล้วก็รีบวิ่งขึ้นไปชั้นบนของเรือ หยิบมือถือตัวเองมากดเบอร์ของนีน่า ด้วยท่าทีตื่นๆ มองลงไปทางห้องด้านล่างเรือ อย่างกังวลใจ

    “นีน่า ช่วยฉันที ฉันติดอยู่ในเรือ มันลอยออกมาจากฝั่ง นีน่า รีบมาช่วยฉันที”

    ปังๆๆ

    เสียงทุบประตูด้านล่างของเรือ แอนนี่สะดุ้ง ระล่ำระลักบอกเพื่อนสาว

    “นีน่า มาช่วยฉันที รีบมานะ มีไอ้โรคจิตตามฉันอยู่ นีน่า ฮือๆ ฉันกลัว”

    "ปังๆๆ เปิดซิโว้ย"

     

    ….จบตอน….

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×