คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #17 : แอนนี่ ช่วยแม่หน่อยนะลูก
17
อพาร์ทเม้นท์เล็กๆของแอนนี่ ย่านจิมซาจุ่ย ฮ่องกง
สองวันมาแล้ว ที่แอนนี่กังวลเรื่องข้อความล่าสุด ของแองจี้ติดต่อกลับก็ไม่ได้ ข้อความส่งไปหาก็ไม่อ่าน
พี่สาวของเธอเงียบหายไปเลย
“เฮ้อ”
“อะไรน่ะ ถอนหายใจรอบที่สามแล้วนะลูก”
คุณอำพลที่กำลังเอาตะเกียบคีบอาหารเข้าปาก ขมวดคิ้วและเอ่ยปากถามลูกสาว ที่นั่งเขี่ยอาหาร ทั้งที่ปกติเจริญอาหารจะแย่
“พ่อค่ะ พี่แองจี้ติดต่อไม่ได้เลยค่ะ”
“ก็แองจี้เขาก็เป็นอย่างนั้น ตั้งนานแล้วไม่ใช่รึไง”
คุณอำพลหัวเราะ เพราะเข้าใจแล้วว่า แอนนี่นั้นครุ่นคิดเรื่องอะไร
ก็คงเรื่องที่มาเล่าให้ฟังเมื่อสองวันก่อน ว่าพี่สาวส่งข้อความแปลกๆมาหา แต่โทรกลับก็ปิดเครื่องนั่นล่ะมั้ง
“มันก็ใช่อยู่ค่ะพ่อ ที่พี่แองจี้เขาติดต่อยาก แต่คราวนี้มันแปลกๆยังไงไม่รู้ค่ะพ่อ”
“แปลกนี่ แปลกยังไงล่ะ แอนนี่เอ๊ย”
“ก็ ก็หนูรู้สึกไม่ดีเลยค่ะพ่อ มันเหมือนกับ แองจี้กำลังมีเรื่องเลยค่ะพ่อ เหมือนตอนที่แองจี้ตกน้ำ หนูรู้สึกแว่บๆเหมือนใจหาย มันแปลกๆแบบนั้นค่ะ”
คุณอำพลหุบยิ้ม เพราะเมื่อสักห้าปีก่อน แอนนี่ก็เป็นแบบนี้ ก่อนที่แม่จะโทรมาว่า แองจี้จมน้ำเกือบตาย เขาพยายามฝืนยิ้มปลอบใจลูกสาวคนเล็ก
“ไม่มีอะไรหรอกมั้ง แอนนี่คิดมาก เพราะห่วงพี่เค้าล่ะมั้งลูก”
“ค่ะ ก็ขอให้เป็นแบบนั้นเหอะค่ะพ่อ หนูไม่อยากให้พี่แองจี้เป็นอะไรไป ถึงแม้เขาจะไม่ค่อยชอบหนูก็เหอะค่ะ”
“คิดมากๆ กินข้าวเหอะลูก เดี๋ยวไม่มีแรงไปสอนเด็กๆหรอก”
แอนนี่พยักหน้า มองพ่อที่คีบกับข้าวมาใส่ชามของเธอ เธอไม่ควรทำแบบนี้ซินะ ทำให้พ่อเป็นกังวลไปอีกคน
เธอเงยหน้ามายิ้มให้กับพ่อ แล้วตักอาหารเข้าปาก พยายามทำตัวให้เป็นปกติ
…………………..
ร้านสะดวกซื้อ ย่านจิมซาจุ่ย
“ยัยแม่มด ใกล้เลิกงานรึยัง”
“จื่อหยา อ่อ เลิกแล้วล่ะ เดี๋ยวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะ”
หวังจื่อหยานั่งคร่อมมอเตอร์ไซด์คันโตของตัวเอง มองเข้าไปในร้านสะดวกซื้อ ที่แอนนี่มาทำพาร์ทไทม์ในวันหยุด
เขาส่ายหน้า เมื่อเห็นเธอวิ่งหายเข้าไปหลังร้าน เพื่อเปลี่ยนชุดของตัวเอง
“จื่อหยา วันนี้ไม่มีสอนเหรอไง ทำไมมารับแอนนี่ได้ล่ะ”
“อือ ไม่มีแล้ว ให้พี่ไห่สอนไปแล้ว”
“อะไรอ่ะ ชอบหนีงานแบบนี้ แล้วจะเอาเงินที่ไหนไปผ่อนเจ้าจิมมี่นี่ล่ะ”
แอนนี่เอานิ้วจิ้มไปที่มอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์ของเขา หวังจื่อหยาหัวเราะ กับชื่อเล่นที่เธอตั้งให้รถของเขา
“เออน่า เดี๋ยวขอแม่ให้ผ่อนให้ก็ได้น่ะ ขี้นมาเหอะ จะไปแอบดูบ้านพี่สาวไม่ใช่เหรอ”
“อือ แต่แอนนี่ไปเองก็ได้นะจื่อหยา ไม่ต้องให้จื่อหยาหนีงานไปเป็นเพื่อนแอนนี่หรอกน่า”
เขาส่ายหัว แล้วก็ตบเบาะมอเตอร์ไซด์ เป็นการยืนกรานว่าจะไปเป็นเพื่อน
“มาเร็ว เจ้าจิมมี่รอนานแล้วนะ ไปคนเดียวเดี๋ยวก็กลับบ้านมืดค่ำอีก จื่อหยาก็ต้องเป็นห่วง นอนไม่หลับอีกแหล่ะ ไปด้วยกันนี่แหล่ะ จบๆไป”
“แหะๆ เหรอ เอางั้นเหรอ”
"ขึ้นมายัยแม่มด อย่าให้จื่อหยาโมโหนะ"
แอนนี่ทำปากยื่นๆ ก่อนจะก้าวขึ้นไปนั่งคร่อมซ้อนหลังหวังจื่อหยา เขาหันมาวางหมวกกันน็อคครอบหัวให้เธอ แล้วก็ติดสายรัดที่ใต้คางให้ด้วย
“เกาะดีๆนะ จิมมี่มันแรงดีกว่าไอ้เป๋าเป่าเยอะนะ”
“อย่ามาบูลลี่เป๋าเป่าน่าจื่อหยา เดี๋ยวเหอะๆ”
หวังจื่อหยาหัวเราะ แล้วจับมือแอนนี่ให้โอบเอวเขา เขาหันหน้าไป แล้วยิ้มออกมา เพราะเธอไม่เห็นหน้าเขาแล้ว
เขาชอบตามรับตามส่งแอนนี่ ก็เพราะแบบนี้ เขาชอบที่เธอโอบกอดเขาแบบนี้ ร่างนุ่มๆของเธอที่แนบชิดมานั่น กลิ่นหอมๆ ของไอ้น้ำหอมที่เธอบอกว่า ทำใช้เองนั่น เขาก็คุ้นเคยกับมันมาหลายปีแล้ว
รถวิ่งออกไปอย่างไม่รวดเร็วเท่าไหร่ เพราะคนขับนั้นไม่ได้อยากรีบไปถึงจุดหมายสักเท่าไหร่ เขาอยากยืดเวลาที่เธอกอดเขาแบบนี้ไปให้นานแสนนาน
…………………
สี่แยกไฟแดง ย่านเจิ้งกวนโอ
จางอี้หานนั่งอยู่ที่เบาะหลัง ในรถหรูที่มีคนขับ และอาเฟิงนั่งอยู่ที่ด้านหน้า เขาเงยหน้าขึ้นมามอง เพราะรถหยุดเคลื่อนที่
อ้อ ติดไฟแดงซินะ
เขาหันไปมองนอกรถ เห็นรถมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์คันนึง มาจอดเทียบรถของเขา มีผู้ชายขับมีผู้หญิงนั่งซ้อนท้ายมาด้วย
เขากำลังจะหันกลับมา แต่ก็สะดุดกับชายผ้าที่โผล่ออกมา จากระเป๋าสะพายของผู้หญิงที่นั่งซ้อนท้ายนั่น
เฮ้ย ผ้านั่นมัน ผ้าของเขานี่น่า
จางอี้หานตาเบิกโพลง เป็นเวลาเดียวกันกับที่ สัญญาณไฟจราจรเปลี่ยนเป็นสีเขียวพอดี
คนขับรถของเขาออกรถ พร้อมกับที่รถมอเตอร์ไซด์บิ๊กไบค์คันนั้น ก็พุ่งตัวออกไป เขากดกระจกรถลง แล้วมองตามผู้หญิงที่ไม่เห็นหน้า เพราะสวมหมวกกันน็อคสีดำเต็มใบไป
ชายผ้าที่ปลิวออกมาจากกระเป๋าสะพายนั่น ยังปลิวนำหน้าเขาไประยะกระชั้นชิด
“ยัยแม่มด! ยัยแม่มดเว้ย!”
จางอี้หานตะโกนตามหลัง เมื่อรถของเขาเลี้ยวซ้ายไป แต่ไอ้รถมอเตอร์ไซด์คันนั้นมันพุ่งตรง ข้ามสี่แยกไฟแดงไปแล้ว
“ไอ้บ้าเอ๊ย!”
อาเฟิงและคนขับรถสะดุ้ง เพราะจู่ๆเจ้านายที่นั่งข้างหลัง ก็เปิดกระจกไปตะโกน แล้วก็สบถเสียงลั่นรถแบบนั้น
“เอ่อ มีอะไรเหรอครับคุณอี้หาน”
“แม่งเอ๊ย คลาดกันไปอีกแล้ว ยัยแม่มดนั่นแน่ๆ”
“นี่พวกแกขับรถ จะรีบไปไหนกันน่ะ หึ”
จางอี้หานหงุดหงิด ที่คลาดกับยัยแม่มดน้อยนั่นอีกแล้ว เขาหรี่ตาลง แล้วพาลกับลูกน้องตัวเอง
“อ้าว ก็รีบไปที่ผับ ตามที่เจ้านายบอกไงครับ”
“เออ รีบฉิบหาย จะรีบไปตายรึไงฟะ”
“เอ่อ ให้ขับช้ากว่านี้เหรอครับ เดี๋ยวไปไม่ทันแขกที่นัดไว้นะครับ”
อาเฟิงงง เกาหัวแกร่กๆ หลายวันมาแล้วที่เจ้านาย เอาแต่หงุดหงิด
เมื่อเช้าก็เหมือนจะดีขึ้นแล้วนี่น่า แล้วตกเย็นทำไมเกรี้ยวกราดขึ้นมาอีกวะ
“หึ ตามใจพวกมึงเหอะ แม่ง ไม่ได้ดั่งใจสักอย่างเลยเว้ย”
จางอี้หานหลับตา แล้วทิ้งตัวกับเบาะอย่างเซ็งๆ และอารมณ์เสีย
แม้จะหลับตาไปแล้ว เขาก็ยังเห็นภาพของ ยัยแม่มดน้อยนั่น ที่โอบกอดเอวผู้ชาย ซึ่งขับมอเตอร์ไซด์คันโตนั่นอยู่เลย
เขากัดฟันกรอดๆ ด้วยความขุ่นเคือง เขาเป็นคนหวงของ อะไรที่เป็นของเขา เขาไม่ชอบให้ใครมาแตะต้องมัน
ยัยตัวแสบ นี่ไปกับไอ้ผู้ชายที่ขับมอเตอร์ไซด์คันนั้น จริงๆซินะ กล้าดีนะ ไปกอดผู้ชายคนอื่นนอกจากเขาได้
“แม่งเอ๊ย อย่าให้เจอตัวนะเว้ย”
จางอี้หานหลับตาแต่สบถออกมา ทำตัวสองคนหน้ารถสะดุ้งเฮือก อาเฟิงรีบสะกิดให้คนขับ เร่งความเร็วให้ไปถึงที่หมายไวๆ
…………….
บ้านของคุณนายลี่หยาง ที่เจิ้งกวนโอ
“ไม่เห็นมีใครอยู่เลยนี่แอนนี่”
หวังจื่อหยาถอดหมวกกันน็อคออก แล้วหันไปคุยกับแอนนี่ ที่นั่งซ้อนหลังอยู่
แอนนี่ขยับตัวก้าวลงจากรถ หวังจื่อหยาหันไปยกเอวเธอ ช่วยให้ลงจากรถได้สะดวกขึ้น
“นั่นดิจื่อหยา บ้านเงียบเชียบผิดปกตินะ แป๊บนึงนะจื่อหยา แอนนี่โทรหาแม่สักหน่อยดีกว่า ใจคอไม่ดีเลยอ่ะ”
แอนนี่ก้มลงมองหามือถือในกระเป๋าสะพาย เธอดึงผ้าคลุมเนื้อดีของอีตาบ้านั่น ออกมาพันคอตัวเองไว้ก่อน
แล้วเอามือถือออกมาโทรหาคุณนายลี่หยาง ผู้เป็นแม่ ด้วยท่าทีที่ร้อนรน
ตึ้ดๆๆ
ทำไมไม่รับสายนะ แม่ขา เกิดอะไรขึ้นกัน
แอนนี่กดโทรไปอีกรอบ รู้สึกโหวงๆอีกแล้ว เกิดอะไรกับแองจี้แน่ๆ ไอ้ความรู้สึกแบบนี้ มันเหมือนจะเตือนเธอว่า แฝดผู้พี่กำลังมีเรื่องแน่ๆ
ตึ้ดๆๆ
“แอนนี่เหรอลูก ฮือๆ”
“แม่ค่ะ แม่ แม่ร้องไห้ทำไมค่ะ”
แอนนี่ใจหาย ใจเธอดิ่งวูบตกไปอยู่แทบเท้า เสียงร้องไห้ของแม่ กับลางสังหรณ์ของเธอเกี่ยวกับฝาแฝด ผู้เป็นพี่นั่น
ไม่นะ พี่แองจี้อย่าเป็นอะไรไปนะ
“แอนนี่ หนูมาหาแม่ได้ไหมลูก ฮือๆ แอนนี่ ช่วยแม่หน่อยนะลูก”
……จบตอน……
ความคิดเห็น