NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร่ายเวทรัก(จางอี้หาน)

    ลำดับตอนที่ #16 : ปัญหาของพี่สาวกับแม่

    • อัปเดตล่าสุด 30 ก.ย. 65


    16

     

    หนึ่งสัปดาห์ต่อมา 

    หลังจากงานวันเกิดของทั้งพี่สาวและเธอ ผ่านพ้นไปนั้น แอนนี่ก็ไม่ได้ติดต่อ กับทางบ้านของแม่อีกเลย 

    เธอกลับมาสู่โหมดปกติของตัวเอง คือวุ่นวายกับการเรียนและงานพิเศษ สารพัดงานของเธอนั่นเอง

    ………………

    ที่โรงเรียนสอนไอกิโด้สำหรับเด็กเล็ก ย่านจิมซาจุ่ย ฮ่องกง

    บ่ายสามโมง ระหว่างที่แอนนี่ กำลังทำการสอนตามปกติอยู่นั้น

    ตึ้ดๆ  ตึ้ดๆ  ตึ้ดๆ

    มือถือของแอนนี่ดังติดๆกันสามรอบ แต่เธอไม่ได้รับสาย เพราะมัวแต่สาละวน อยู่กับนักเรียนในคลาสของวันนี้

    หวังจื่อหยา ซึ่งสอนจบ และไปอาบน้ำเรียบร้อยแล้ว เดินกลับมาที่ม้านั่งตัวยาว ที่วางไว้ติดกับผนังของห้องเรียน 

    เขาหันไปมองมือถือของแอนนี่ที่วางอยู่ และมองเธอ ที่กำลังสนุกสนานกับการสอน 

    แองจี้รึ!!

    ยัยพี่สาวตัวแสบของ แม่มดน้อยของเขา ติดต่อมาหาน้องสาวเป็นด้วยหรือเนี่ย

    หวังจื่อหยาแอบยิ้มเยาะ แล้วก็ส่ายหัว เขาเคยเจอแองจี้สองสามครั้ง และคิดว่ารู้สถานการณ์ของสองพี่น้องนี่ดี ว่าไม่ได้สนิทสนมกันแบบฝาแฝดคนอื่น 

    ยัยพี่สาวนั่น ถ้าไม่คอขาดบาดตาย คงไม่ติดต่อแอนนี่หรอก  นี่สงสัยจะเรื่องด่วนจริงๆ

    “แอนนี่ครับ แอนนี่ มือถือๆ ด่วนๆ”

    เขาตัดสินใจกวักมือเรียกแอนนี่ ยัยแม่มดน้อยของเขา หันมายิ้มเผล่ แล้วก็วิ่งปรู้ดมาหาเขา ที่มุมห้อง 

    เธอตัวเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ เพราะสอนมาเกินครึ่งชั่วโมงแล้ว แต่ยังคงยิ้มสดใส 

    เพราะเธอมีความสุข กับการทำงานของตัวเอง และชอบอยู่กับเด็กมากกว่าพวกผู้ใหญ่

    “อะไรอ่ะจื่อหยา เรียกแอนนี่ทำไม”

    “มือถือแอนนี่ แองจี้ทั้งโทร ทั้งแชทมาเลยอ่ะ สงสัยจะเรื่องด่วนนะ”

    “หือ แองจี้น่ะนะ โทรมาแอนนี่”

    เป็นไงล่ะ หวังจื่อหยายิ้ม ก็ขนาดน้องสาวยังงงๆ ที่พี่สาวโทรมาเลย แสดงว่าเป็นอย่างที่เขาคิดไม่ผิดเพี้ยน ว่าขานั้นไม่ค่อยติดต่อน้องสาวเท่าไหร่นัก

    “นั่นดิ สงสัยจะฟ้าถล่ม ฮ่าๆ ลองโทรกลับดิ สงสัยเรื่องใหญ่ โทรมาเองขนาดนี้”

    “จ๊ะ แป๊บนึงนะ จื่อหยามองๆ เด็กให้แอนนี่ด้วยนะ”

    “โทรเหอะ เดี๋ยวจื่อหยาดูให้”

    แล้วหวังจื่อหยา ก็ลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินไปพูดคุย และดูเด็กๆในคลาสของแอนนี่ซ้อมให้

    แอนนี่ขมวดคิ้วด้วยความสงสัย ว่าพี่สาวนึกอะไร โทรมาหาเธอ แปลกแหะ

    แล้วก็แปลกยิ่งกว่า เพราะเมื่อโทรกลับไป ปรากฎว่าปลายสาย หรือทางมือถือของแองจี้กลับปิดเครื่อง 

    “อะไรอ่ะ อะไรของแองจี้นะ”

    แอนนี่กดโทรออกไปซ้ำอีกครั้ง ก็เหมือนเดิม ปิดเครื่อง จึงกดเข้าไปอ่านข้อความที่ส่งมา หลังจากที่แองจี้คงโทรมา แล้วเธอไม่ได้รับสาย

    “แอนนี่ ฝากดูแลแม่ด้วยนะ พี่คงไม่อยู่สักพัก พี่ห่วงแม่ ยังไงแอนนี่ไปอยู่กับแม่ให้ทีนะ”

    ยิ่งอ่านข้อความของแองจี้ ก็ยิ่งงงไปใหญ่ อะไร ทำไมจู่ๆแองจี้ มาฝากแม่กับเธอน่ะ

    “มีอะไรเหรอแอนนี่ ทำไมทำหน้าแบบนั้นล่ะ”

    หวังจื่อหยา หันมามองแล้วสงสัย เพราะสีหน้าของแอนนี่นั้น ไม่ค่อยจะสู้ดีสักเท่าไหร่

    “ติดต่อแองจี้ไม่ได้อ่ะจื่อหยา มีข้อความฝากไว้ บอกฝากแม่ จะไม่อยู่ ให้แอนนี่ไปอยู่กับแม่ แอนนี่งงอ่ะ ไม่เห็นเข้าใจเลย”

    หวังจื่อหยา ลูบหัวแอนนี่เบาๆ เธอดูหน้าเสียไปเช่นนี้ คงเป็นห่วงพี่สาวล่ะซิ เขาว่าฝาแฝดมักจะสื่อสารกันได้ โดยบางทีไม่ต้องพูดกัน 

    “ใจเย็นๆก่อนนะแอนนี่ อาจจะไม่มีอะไรก็ได้ พี่สาวแอนนี่ออกจะเปรียวขนาดนั้น เดี๋ยวพรุ่งนี้อาจจะติดต่อมาใหม่ก็ได้นะ ใจเย็นนะ หน้าเสียแบบนี้ สอนไหวไหม ให้จื่อหยาสอนให้มั้ยล่ะ”

    “ไม่ ไม่เอา คลาสของแอนนี่ เดี๋ยวสอนเอง ขอบคุณนะจื่อหยา เดี๋ยวแองจี้คงติดต่อมาใหม่ แอนนี่ไปสอนต่อก่อนนะ”

    แอนนี่พยายามฝืนยิ้มให้กับหวังจื่อหยา ทั้งๆที่ในใจรู้สีึกแปลกๆ แองจี้มีเรื่องอะไรนะ ไม่เคยมาบอกฝากแม่ กับเธอมาก่อนเลย 

    ปกติแองจี้หวงแม่จะตาย กลัวแม่จะรักเธอมากกว่า จู่ๆมาฝากแม่ ให้เธอไปอยู่กับแม่ นี่ไม่ใช่แองจี้ที่ปกติๆทำแล้ว

    แอนนี่กัดริมฝีปาก เธอเอาแต่ครุ่นคิดเรื่องนี้ วนๆในหัว แต่ก็พยายามกลับไปตั้งสติสอนนักเรียน จนหมดชั่วโมงตามหน้าที่

    “ขอบคุณค่ะ/ขอบคุณครับ”

    เหล่านักเรียนก้มตัวลง ทำความเคารพเธอ ส่วนเธอก็ยิ้มอ่อนๆ ก้มตัวรับ จากนั้นด็กๆก็แยกย้ายกันไป ทางห้องแต่งตัว 

    แอนนี่หันไปคว้ามือถือมาดูอีกครั้ง ไม่มีข้อความใหม่ๆมาจากแองจี้ ที่เธอส่งข้อความกลับไปก็ไม่ได้เปิดอ่าน

    “เฮ้อ อะไรน่ะแองจี้ ทำไมทำแปลกๆแบบนี้”

    เธอเพ่งมองข้อความนั่นอีกครั้ง สองจิตสองใจ ไม่กล้าโทรไปบอกแม่ ว่าแองจี้ส่งข้อความเช่นนี้มาหาเธอ 

    ถ้าบอกแม่ คงจะต้องตกใจแน่ๆเลย เดี๋ยวลองติดต่อแองจี้ไปเรื่อยๆก่อนดีกว่า เผื่อมันจะไม่มีอะไรแบบที่จื่อหยาบอก

    ………………

    ประตูผู้โดยสารขาออก สนามบินนานาชาติฮ่องกง

    “แน่ใจเหรอว่าจะไปน่ะ”

    ผู้ชายรูปร่างสูงโปร่ง ดูสำอางค์หันหน้าไปถาม สาวชุดขาว ที่สวมแว่นดำและแมสคาดหน้าไว้ เขาถอนหายใจเป็นครั้งที่สอง เมื่อเธอพยักหน้า 

    “อือ ก็จะให้ทำยังไงล่ะแดนนี่”

    “ไม่คิดดูอีกทีเหรอ จะเสี่ยงทำแบบนี้จริงๆเหรอ”

    “ไม่คิดแล้ว คิดมาหลายวันแล้วล่ะ ไปนะ แล้วจะติดต่อมานะแดนนี่”

    สาวชุดขาวแว่นดำนั่น เดินหายไปทางประตูทางเข้าเครื่อง ทิ้งให้ชายหนุ่มที่มีท่าทีเป็นห่วงเป็นใย ยืนมองเธอจนลับตาไป

    “หมดกัน แล้วงานที่เหลืออยู่ล่ะ จะทำยังไงล่ะทีนี้”

    ………………………

    ห้างสรรพสินค้าK11 ย่านจิมซาจุ่ย ฮ่องกง

    “นี่แม่แน่ใจแล้วเหรอครับ ที่จะใช้ยัยเด็กเซเลบนั่น มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ให้กับห้างเรา แล้วก็โรงแรมของเรา”

    “จ๊ะ ก็เซ็นสัญญากันไปแล้วไงจ๊ะอี้หาน ลูกก็เห็นตัวคอนแท็กนั่นแล้วไม่ใช่เหรอจ๊ะ”

    จางอี้หานทรุดตัวลงนั่งที่โซฟาตัวข้างๆ กับคุณนายจางเหมี่ยน เขายังคงขมวดคิ้ว แต่ก็พยักหน้าเชิงว่าเห็นสัญญานั่นแล้ว

    “ครับ ได้อ่านแล้วครับ ก็เลยถามแม่นี่ไงครับ คนอื่นที่ดังกว่าแองจี้ก็มีนี่ครับ ทำไมแม่เลือกแองจี้ล่ะครับ”

    คุณนายจางเหมี่ยนหัวหราะออกมา สมกับเป็นจางอี้หาน น้องชายของเหม่ยหลิงจริงๆ อะไรที่สงสัยไม่มีทางซะล่ะ ที่ลูกชายเธอจะยอมปล่อยผ่านไปง่ายๆ

    “ก็แหม คนรู้จักกันน่ะอี้หาน ช่วยๆอุดหนุนกันไป อย่าคิดมากเลย คอนแท็กแค่สองปีเองลูก”

    “ไม่ติดเรื่องเวลา เรื่องเงินหรอกครับ แต่ติดใจว่าทำไมเลือกเธอมากกว่า มีอะไรที่ผมต้องรู้เพิ่มรึเปล่าครับแม่”

    “ฮ่าๆ ก็มีนิดหน่อยน่า เอ้าๆเล่าให้ฟังก็ได้ คือคุณนายลี่หยางเขาช็อตนิดหน่อย ก็เลยยืมเงินแม่ไป แม่ดูๆแล้วก็จ้างทางหนูแองจี้มา ก็หักๆกับหนี้สินกันไป จะได้ไม่ต้องติดหนี้เรามากนักไงลูก”

    “อ๋อ ถ้าแบบนี้ก็พอเข้าใจได้ครับ ดีกว่าหนี้สูญ อย่างน้อยๆ ก็ได้ใช้งานบ้าง ดีกว่าหนี้สูญ อย่างนั้นซินะครับ”

    “ก็ ประมาณนั้นแหล่ะลูก”

    “บอกผมได้รึเปล่าครับ ว่ายอดที่ยืมไปน่ะเท่าไหร่ครับ”

    คุณนายจางเหมี่ยนทำหน้าลังเล ก่อนจะถอนหายใจ แล้วยอมเปิดปากเอ่ยถึงตัวเลข ที่คุณลี่หยางยืมไป

    "สาม ล้านน่ะจ๊ะอี้หาน"

    "หา!! นิดหน่อย สามล้าน แม่ครับ เฮ้อ! ไม่นิดหน่อยแล้วมั้งครับนั่น"

    "ก็แหม เขาเป็นเพื่อนอาเหม่ยหลิงนะอี้หาน แม่ก็เห็นเขามาตั้งแต่เด็กๆ ก็คิดว่าเขา ก็เหมือนลูกสาวน่ะลูก เขาเดือดร้อน ถึงกับมาร้องไห้ มาออกปากยืม เอ่อ แม่ก็สงสารน่ะอี้หาน"

    จางอี้หานเม้มปาก แล้วก็ส่ายหน้า เขาไม่เห็นด้วยสักนิด แต่รู้ว่ามารดาบุญธรรมนั้น ออกจะใจดี 

    ยิ่งกับบรรดาญาติๆ คนคุ้นเคยแล้วล่ะก็ คุณนายจางของเขานั้น แสนจะใจกว้าง ราวกับแม่น้ำฮวงโห

    "ครับๆ สงสารก็เรื่องนึงครับแม่ แต่เขาจะเอาที่ไหนมาคืนแม่ล่ะครับ ธุรกิจเขาก็แค่ทรงๆ ไม่ได้กำไรมากมาย ต่อให้แม่จ่ายค่าพรีเซ็นเตอร์ให้เขาไป แล้วเอามาหักหนี้เนี่ย ก็ยังไม่พอจ่ายเลยนะครับ"

    "จ๊ะ แม่รู้ ก็ช่วยๆกันไปน่ะอี้หาน"

    จางอี้หาน สวมกอดคุณนายจางเหมี่ยน เขาพึมพำกับแม่ แล้วก็ถอนใจอีกรอบ

    "พอแล้วนะครับแม่ สามล้านก็ใช้คืนเรา ไม่หมดแล้ว เฮ้อ ต่อไปไม่ให้เขายืมเพิ่มอีกนะครับ"

    "จ๊ะๆ แม่ก็บอกเขาไปแล้วล่ะจ๊ะ ว่ายอดมันชักจะสูงเกินแล้ว"

    จางอี้หานเงียบไป เขาครุ่นคิดถึงยัยแม่มดขึ้นมา

    คุณนายลี่หยางงั้นรึ!! สามล้านที่ยืม ห้าแสนค่าพรีเซ็นเตอร์สองปี ก็ตกอีกหนึ่งล้าน 

    รวมก็สี่ล้าน หึ!!

    บ้านนั้น ครอบครัวยัยตัวแสบของเขานี่ มีปัญหาอะไรกันนะ?

     

    .......จบตอน.......

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×