คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #15 : ต่างก็คิดถึงกัน
15
บ้านพักของจางอี้หาน บนเกาะฮ่องกง ประเทศฮ่องกง
สองครั้งแล้วซินะ ที่เขาปล่อยให้ยัยแม่มดน้อยนั่น หลุดมือไปได้
จางอี้หานยืนพิงระเบียงหน้าห้องนอน ยืนรับลมอยู่ที่บ้านของเขาเอง ในมือของเขามีแก้วไวน์ที่ใสแจ๋ว ภายในแก้วมีน้ำสีแดงเข้ม เคลื่อนที่ไปมา เพราะเขาหมุนแก้ววนไปไม่ได้หยุด
แก้วที่ไม่หยุดนิ่งนั่น ก็เหมือนกับสมองของเขา ที่กำลังทำงานอย่างปั่นป่วนและสับสน
ผู้หญิงคนนั้นในเรือ กับ ยัยแองจี้ที่ร่างอวบอิ่มนั่น เป็นคนๆเดียวกันหรือเปล่า
แล้วยัยแองจี้ ที่เดี๋ยวก็บ้าผู้ชาย เดี๋ยวก็ไล่ตะเพิดเขานั่น มันคืออะไรกันนะ
ทำไมลึกๆในใจของเขา มันบอกว่า เขาเจอเธอมาสองครั้งแล้ว
แต่พอเขาเช็คคิวงานวันฮาโลวีนเมื่อปีก่อน ของยัยแองจี้เซเลบนั่นแล้ว เธอไปปรากฎตัวอยู่ที่ไต้หวัน ในคืนที่เขาเกิดเรื่องบนเรือ
เฮ้อ แม่มด เธอเป็นยัยแม่มดจริงๆ
มันนานขนาดไหนแล้วนะ ที่ไม่มีผู้หญิงคนไหน เจาะเกราะที่เขาสร้างไว้ ทะลุเข้ามาทำให้เขาสับสนได้ขนาดนี้
เคยมีนะ นานมาแล้ว ครั้งหนึ่งในอดีต ก่อนที่เขาจะมาเป็นจางอี้หานแบบในทุกวันนี้
เคยมีผู้หญิงคนนึง ที่มาเขย่าเกราะของเขาได้ แต่ก็แค่เขย่าเบาๆ เธอคนนั้นแค่ทิ้งรอยร้าวเอาไว้ แล้วก็จากไป
หึ ก็ตอนนั้นเขาเป็นแค่เด็กผู้ชายวัยรุ่น ครอบครัวแตกแยก ฐานะก็แสนจะขัดสน ที่ดันไปหลงชอบคนดังประจำโรงเรียนอย่างหล่อน
เธอ “ลู่ไป่หลิน” ดาวประจำโรงเรียน ก็เลยแค่หยอกเย้าความรู้สึกเขา แล้วก็จากไปกับผู้ชายคนอื่น อย่างไม่ใยดี
ครั้งนั้น เขาก็แค่เสียความรู้สึกไปไม่ถึงเดือน แล้วก็กลับมาใช้ชีวิตต่อไป นานๆทีก็จะนึกถึงหล่อนขึ้นมา เวลามีผู้หญิงที่หิวโซเงินทอง คล้ายกับหล่อน เดินเข้ามาในชีวิตให้เขาพบเจอ
แต่ครั้งนี้ ยัยแม่มดน้อยนี่ ไม่ได้แค่เขย่าเกราะกำบังของเขา แต่หล่อนหายตัวเข้ามาอยู่ในเกราะของเขา
ไม่รู้หล่อนใช้เวทมนต์อะไรกับเขา ที่ทำให้ผ่านมาเกินปีแล้ว เมื่อหลับตาลงครั้งใด เขาก็คิดถึงแต่เรื่องที่กอดร่างนุ่มๆนั้น กลิ่นนั่นที่ติดจมูก เมื่อยามเขาคลอเคลียร่างหล่อน ก็ยังเหมือนตามติดเขาไม่จืดจางไป
“ไม่มีครั้งที่สามแน่นอนที่รัก ถ้าเราเจอกันอีกหน มันจะไม่มีทาง ที่ผมจะปล่อยให้แม่มดอย่างคุณ หายตัวไปจากชีวิตผมได้อีก ครั้งหน้าผมสัญญาด้วยเกียรติของจางอี้หาน ว่าผมจะมัดคุณไว้กับเตียง ไม่ปล่อยให้คุณใช้เวทมนต์อะไร หายตัวไปอีกแล้ว”
จางอี้หานพึมพำ กับไวน์แดงในแก้ว ราวกับบอกกับเธอผู้นั้น
เขาวางแก้วไวน์ลงกับโต๊ะที่ระเบียง แล้วหันหน้ามองท้องฟ้าในยามค่ำคืน เขามองเห็นแสงไฟในยามค่ำคืนของเกาะฮ่องกง ที่ระยิบระยับราวกับดวงดาว
จางอี้หานยกมือขึ้นแตะศรีษะของตัวเอง จุดที่ถูกเธอเขวี้ยงรีโมทใส่หัวในคืนนั้น ไม่มีบาดแผลใดๆภายนอก หลงเหลือไว้แล้ว แต่เขาก็ยังจะแตะตรงจุดนั้นตลอด เวลาที่นึกถึงเธอ
ครั้งแรกก็หลอกว่าจะตัดเชือกให้ แล้วก็เขวี้ยงรีโมทใส่หัวเขา ก่อนจะหนีไป ครั้งที่สองก็หลอกเขาว่า จะให้ไปส่งที่บ้าน แล้วก็จูบร่ำลาเขาซะดิบดี ก่อนจะหายตัวไปอีก
“ยัยตัวแสบ ยัยแม่มด รู้มั้ยว่าผ้าคลุมผืนนั้นน่ะ มันมีความหมายกับผมขนาดไหน ฝากไว้กับคุณก่อนนะที่รัก ถ้าเราเจอกันอีก ผมเอาคืนคุณอย่างสาสมแน่นอน ฝันดีนะยัยแม่มด”
จางอี้หานหัวเราะหึๆ เขาพึมพำคาดโทษหล่อน จากนั้นก็คว้าแก้วไวน์ เดินเข้าห้องนอนไป
………………
ห้างสรรพสินค้าK11 ย่านจิมซาจุ่ย ฮ่องกง
“เป็นไปได้เหรออาเฟิง คนอย่างอี้หานน่ะนะ จะพาผู้หญิงเข้าไปในห้องทำงาน แล้วก็บอกว่าจะขับรถไปส่งบ้าน ขับรถให้เอง ไม่น่าเป็นไปได้นะอาเฟิง”
คุณนายจางเหมี่ยนขมวดคิ้ว กับคำรายงานของอาเฟิง ถึงเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ ที่ผับเจวัน
“เอ่อ ผมก็ว่าอย่างงั้นครับ คุณนายจาง ตอนแรกที่เห็นคุณอี้หานอุ้มคุณแองจี้มา ผมก็นึกว่าผมตาฝาด แต่ไม่ได้ตาฝาดแน่ๆครับ ผมสบตาคุณอี้หาน ระยะแค่นี้เองนะครับคุณนายจาง”
อาเฟิงยื่นแขนของเขาออกไป แสดงท่าทางประกอบให้คุณนายจางเหมี่ยน มารดาของจางอี้หานดู ท่าทีที่อาเฟิงเล่ามา บ่งบอกว่า ตัวคนเล่าเองก็ตื่นเต้น ตกใจกับพฤติกรรมของลูกชายเธอมาก
“แล้วไง แล้วทำไมอี้หาน ไม่ไปส่งหนูแองจี้ที่บ้านล่ะ ถ้าเขานัดแนะกันเรียบร้อย อย่างที่แกว่าน่ะ ทำไมสองแม่ลูกนั่น ถึงต้องกลับกันเองล่ะอาเฟิง มันฟังดูเข้าท่าไหมล่ะนั่น”
อาเฟิงกระพริบตาถี่ๆ ยิ้มแหยๆ แล้วก็ยกมือเกาหัวตัวเอง ส่ายหัวกับคำถามของเจ้านายหญิง เพราะเขาเองก็จนปัญญาเรื่องนั้นเหมือนกัน
“นั่นดิครับ ผมก็งงครับ คุณนายจาง อ่อ แต่ก่อนผับจะเลิก คุณแองจี้มายืนคุยที่หน้าผับ กับผู้ชายคนนึงนะครับ แล้วก็ขึ้นรถมอเตอร์ไซด์ไปด้วยกัน แต่ผมก็ไม่เห็นว่า เธอกลับมาที่ผับตอนไหน ตอนผมไปรายงานคุณอี้หานน่ะ โห คุณอี้หานโกรธจนหน้าตึงเป๊ะเลยครับ พอเราขึ้นไปดู คุณแองจี้ก็ดันอยู่ที่ห้องครับ”
“หือ ออกไปกับผู้ชาย แล้วกลับมาอีกรอบน่ะเหรออาเฟิง เอ๊ะ หรือเพราะเรื่องนี้ อี้หานเลยไม่ไปส่งหนูแองจี้”
“ไม่รู้เหมือนกันครับคุณนายจาง ผม แหะๆ ไม่กล้าถามคุณอี้หานหรอกครับ เดี๋ยวจะหัวโน แขนเดาะอีกครับ”
“เฮ้อ เออๆ เล่าอะไรก็ไม่รู้ ปวดหัวจริงๆ ไม่เห็นรู้เรื่องสักอย่างเลยเนี่ย”
คุณนายจางเหมี่ยนโบกมือ เหมือนจะไล่อาเฟิง ที่เข้ามารายงานเรื่องลูกชายให้ฟัง เพราะเธอกำชับว่า ถ้ามีผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ลูกชาย อาเฟิงมีหน้าที่ต้องมารายงานเธอทุกครั้ง
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับคุณนายจาง เดี๋ยวคุณอี้หานจะหาตัวผมไม่เจอ”
“อืม อ้อ เกือบลืมไปเลยอาเฟิง เรื่องลู่ไป่หลิงน่ะ อี้หานไม่ได้ไปสุงสิง อะไรกับหล่อนใช่ไหม”
“คุณไป่หลิงเหรอครับ อ๋อ ก็มีแต่เธอพยายามติดต่อคุณอี้หานครับ แต่คุณอี้หานไม่ได้ติดต่อกลับไปนะครับ วันก่อนที่ผมรายงานว่าเธอมาขอพบ คุณอี้หานก็ไม่ได้รับนัดครับ”
“ดีแล้ว ฉันไม่ชอบยัยไป่หลิงนี่เลย ตอนอี้หานไปชอบ ก็ไปแต่งงานกับเศรษฐีใหญ่ที่ไต้หวัน พอหย่าผัวไม่ทันไร ก็มาตามตื้ออี้หานอีก นี่ถ้าอี้หานไม่ได้เป็นลูกบุญธรรมของฉัน ฉันว่าหล่อนก็คงไม่ชายตาแลอี้หานหรอก ผู้หญิงแบบนี้ต้องอยู่ให้ห่างๆไว้”
อาเฟิงพยักหน้า เขารู้ดีว่า ลู่ไป่หลิง เป็นคนเช่นไร ก็เขาติดตามนายน้อยอี้หานมาตั้งแต่แรก ก่อนที่คุณนายจางจะรับมาเป็นบุตรบุญธรรมซะอีก
เขาเคยเจอผู้หญิงคนนั้น ที่แสดงท่าทีดูถูกนายน้อยอี้หาน และยังจำสายตาเหยียดๆของเธอได้ดี
“ผมว่าคุณอี้หาน ก็ไม่ได้สนใจคุณไป่หลิงแล้วนะครับคุณนาย แต่กับคุณแองจี้ที่อุ้มเมื่อคืน จับมือเมื่อคืนนี่ ถ้าคุณนายเห็นล่ะก็ ผมว่ามันใช่มากกว่าครับ คุณอี้หานเหมือนคนละคนเลยครับ มืองี้จับแน่นไม่ยอมปล่อยเลยครับ”
“ไอ้บ้าเฟิง แกก็ชวนฉันกลับมา คิดเรื่องปวดหัวนั่นอีกแล้ว ก็แกบอกว่า เขาโมโหไม่ไปส่ง ไม่รับสายหนูแองจี้แล้วนี่น่า ยังจะมาบอกว่า เขาไปตกหลุมรักอีก โอ้ย ปวดหัว ไปๆ รีบไปหาอี้หานไป รายงานอะไรของแก๊ ไม่เห็นรู้เรื่องรู้ราวเลย หึ”
อาเฟิงรีบเผ่นออกมา จากห้องท่านประธานอย่างว่องไว เพราะคุณนายจางหันรีหันขวาง เหมือนหาของที่จะเขวี้ยงใส่เขา เป็นการใหญ่ ด้วยความขุ่นเคือง กับเรื่องราวที่เขาเล่า ไม่ปะติดปะต่อนั่น
“โธ่ ผมก็งงเหมือนกันแหล่ะครับคุณนาย แต่จะไม่รายงานก็อดไม่ได้ ก็คุณอี้หานแกตกหลุมรักจริงๆนะครับ ตาผมไม่ฝาดหรอกครับคุณนาย”
อาเฟิงมายืนบ่นอยู่หน้าห้อง แล้วก็ส่ายหัว รีบจ้ำกลับไปเฝ้าหน้าห้องเจ้านายน้อย ก่อนที่จะเรียกหาตัวแล้วไม่เจอ
……………
อพาร์ทเม้นท์เล็กๆของแอนนี่ ย่านจิมซาจุ่ย ฮ่องกง
สามทุ่มแล้ว แอนนี่นั่งอยู่บนเตียงนอน อ่านข้อความของมารดา คุณนายลี่หยางที่ส่งมาถามไถ่ เรื่องที่เธอขอตัวกลับจากงานปาร์ตี้วันก่อน ว่าหายปวดท้องแล้วใช่ไหม
เฮ้อ ก็เธอดันไปโกหกว่าปวดท้อง อาหารไม่ย่อยนี่น่า เลยทำให้แม่เป็นห่วงไปใหญ่
อีตาโรคจิตบ้ากามนั่น ป่านนี้คงไปส่งพี่แองจี้แล้วล่ะมั้ง คงจะจีบๆกันอยู่ซินะ ถึงมาเข้าหาเธอประชิดตัวขนาดนั้น
พี่แองจี้ออกจะเสน่ห์แรง หุ่นดีไม่อวบอ้วนอย่างเธอ มีผู้ชายมาชอบตลอดตั้งแต่เด็กแล้ว
แอนนี่หัวเราะ เมื่อนึกถึงเรื่องสมัยตอนยังอยู่ด้วยกัน นอนห้องเดียวกันกับพี่แองจี้ เธอมักจะเล่าเรื่องส่วนตัวให้กันและกันฟังเสมอๆ
เมื่อก่อนแองจี้ก็ป๊อปปูล่าร์ตั้งแต่เด็กแล้ว เธอมักจะเป็นที่สนใจ ของบรรดาผู้ชายมากหน้าหลายตา ที่วนเวียนกันเข้ามาจีบ ผู้ชายพวกนั้นมักจะมองข้ามเธอ
“ยัยแอนนี่ ยัยแม่มด” นั่นแหล่ะที่ผู้ชายพวกนั้นชอบเรียกขานเธอ
ก็เธอไม่ใช่ พี่แองจี้ นางฟ้าแองจี้นี่น่า เธอไม่ชอบชุดสีชมพูหวานๆ เธอชอบสีดำ สีทึมๆ ไม่ชอบให้ผู้ชายมาแตะตัว จะให้ไปเกาะมือจับแขน แตะแก้มผู้ชาย แบบที่พี่แองจี้ทำ เธอก็ขยะแขยงชะมัด
บรื๋อ ขนลุก ให้ใครมาแตะตัวเธอน่ะเหรอ บ้าชะมัด เธอซัดผู้ชายจนน่วม เป็นประจำมาตั้งแต่เด็ก พวกผู้ชายที่โรงเรียนต่างก็เลย ไม่ค่อยชอบเธอสักเท่าไหร่
แม้ว่าเธอจะมีหน้าตาพิมพ์เดียวกับพี่สาว แต่เธอแต่งตัวไม่เหมือนกัน และแสดงออกไม่เหมือนกันเลยสักนิด มันก็เป็นแบบนั้นมาตั้งแต่เด็กแล้ว
ผู้ชายแตะตัวงั้นเหรอ ไอ้บ้าจางอี้หานนั่น ก็แตะตัวเธอนะ มันยิ่งกว่าแตะอีก ไม่เคยมีใคร กล้ารุกล้ำร่างกายเธอได้แบบนั้น
เอ๊ะ แต่เธอก็ไม่ได้ขนลุก รังเกียจสัมผัสของเขานะ
นั่นซิ ทำไมนะ ทำไมไม่รู้สึกขยะแขยง เหมือนจะอ๊วก แบบเดียวกับเวลาที่มีผู้ชายคนอื่น มาลูบตัวเธอเลย
ไม่ๆ อย่าไปคิดถึงไอ้บ้านั่นดีกว่า มันคงเพราะมันรูปหล่อน่ะ เธอก็เลยหลงกลหน้าตามัน
คนบ้านั่น ดันหล่อชะมัด หุ่นเขาเวลาแนบตัวเธอมาก็แข็งแรง ขนาดเธอคลุกคลีในแวดวงผู้ชาย ที่เล่นยูโด ไอกิโด้ มาหลายปี ก็ไม่เคยมีผู้ชายคนไหนหุ่นดีแบบเขาเลย
เธอก็คงจะหลงกลหน้าตาที่หล่อเหลา กับหุ่นที่เฟอร์เฟ็กซ์ แบบเทพเจ้ากรีกนั่นล่ะมั้ง
ยัยแอนนี่เอ๊ย นั่นมันผู้ชายของพี่สาวเธอนะ เลิกคิดๆ อย่าไปนึกถึงเขาเลย ผู้ชายของพี่สาว ก็คือของต้องห้าม เธอจะไปหลงชอบ หลงรักเขาไม่ได้ รีบนอนเลย
แอนนี่ปิดโคมไฟอันเล็กๆข้างหัวเตียง รีบทิ้งตัวลงบนที่นอน แล้วตลบผ้าห่มคลุมร่าง พยายามข่มตานอน และบอกตัวเองว่า อย่าไปฝันถึงจางอี้หานอีก เพราะเขาเป็นผู้ชายต้องห้าม
……จบตอน……
ความคิดเห็น