NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ร่ายเวทรัก(จางอี้หาน)

    ลำดับตอนที่ #10 : ความรู้สึกที่โคตรสับสน

    • อัปเดตล่าสุด 28 ก.ย. 65


    10

     

    ผับเจวัน ย่านจิมซาจุ่ย ฮ่องกง

    แอนนี่รู้สึกแปลกที่แปลกทาง นั่นเพราะเธอไม่คุ้นเคยกับสถานที่แบบนี้เท่าไหร่  เอ่อ อย่าเรียกว่าไม่คุ้นเคยเลยจะดีกว่า เรียกว่าไม่เคยมาเลยก็น่าจะใช่ 

    "เฮ้อ"

    เธอเผลอพ่นลมหายออกมา เสียงดังไปหน่อย จนคุณนายลี่หยางผู้เป็นแม่ได้ยินเข้า จึงหันมามองหน้าเธอ และถามไถ่ด้วยความห่วงใย

    “แอนนี่เป็นอะไรเหรอลูก ไม่ชอบที่นี่เหรอจ๊ะ”

    “อ๋อไม่ใช่หรอกค่ะแม่ แอนนี่ชอบค่ะ”

    แอนนี่แอบเอานิ้วไขว้กันอยู่ด้านหลัง แบบที่พ่อชอบทำเวลาพูดเรื่องไม่จริงกับเธอ ก็เธอจะไปพูดจา ทำลายน้ำใจของแม่ได้ยังไง 

    ไอ้สถานที่แบบนี้ คงจะเสียเงินไปหลายตังค์เลย ที่จะต้องจับจองมาจัดงานวันเกิดนี่ 

    “ไม่มีรสนิยมจริงๆนะยัยซื่อบื้อ นี่น่ะติดอับดับที่เที่ยวยอดฮิตของยุคเลยนะ ใครไม่รู้จักก็เรียกว่าแปลกเลยล่ะ น่าขายหน้าจริงๆนะคะแม่ ยายแอนนี่นี่เชยชะมัดเลยค่ะ”

    แองจี้หันมาคุยกับแม่ ว่าน้องสาวราวกับเธอไม่ได้ยืนอยู่ตรงนั้น ทำเอาแอนนี่เม้มปาก

    อดทนไว้แอนนี่ ปีนึงเจอกันแค่ไม่กี่หนเองนะ ใจเย็นๆนะ นั่นพี่สาวเธอนะ แอนนี่ได้แต่ปลอบใจตัวเอง กับลักษณะท่าทีที่พี่สาวปฎิบัติกับเธอ มาตลอดหลายปีที่ไม่ได้อยู่ด้วยกัน

    จริงๆเมื่อก่อน เธอสองคนเคยสนิทกันมาก จนวันที่ต้องแยกกันไปคนละทิศละทางนั้น แองจี้ก็เหมือนจะโมโหอะไรเธอไม่รู้ เจอกันก็คอยแต่จะจิกกัดเธออยู่ตลอด

    “ทำไมว่าน้องอีกแล้วแองจี้ น้องไม่ค่อยมีเวลามาเที่ยวแบบเรา ไม่รู้จัก ไม่ชอบก็ไม่แปลกเลย”

    “หึ รีบเข้าไปเหอะค่ะแม่ จะสองทุ่มแล้ว ป่านนี้เพื่อนๆแองจี้มากันแล้วมั้ง อ้อ ถ้าเพื่อนฉันทักเธอผิด ก็อย่าทำตัวให้ฉันขายหน้านะยัยแม่มด”

    แองจี้เบื่อหน่าย เพราะพูดไปคุณนายลี่หยาง ก็เอาแต่ปกป้องน้องสาว เธอจึงหันไปกำชับกับยัยน้องแสนเชย ให้รักษาภาพพจน์ของเธอด้วย

    “อือ ไม่ทำหรอก ถ้าทักผิด จะเออออให้ก็แล้วกันนะ”

    แอนนี่พึมพำรับปากพี่สาว นึกแค่ว่า แค่คืนเดียว พรุ่งนี้ก็กลับไปเป็นอย่างเดิมแล้ว อดทนเอาไว้แค่นั้น

    “แม่ค่ะ ตามมาเร็วเข้าค่ะ เดี๋ยวเพื่อนๆถามหาแม่นะคะ แองจี้สั่งเค้กมาด้วย แม่มาถ่ายรูปด้วยกันนะคะ”

    “เค้กอะไร แล้วของแอนนี่ล่ะลูก สั่งเผื่อน้องรึเปล่าแองจี้”

    “โอ้ย แม่ค่ะ ก็กินไปด้วยกันจะเป็นไรค่ะ งานนี้มีแขกของยัยแอนนี่รึเปล่าล่ะค่ะ ไม่มีสักคน แล้วจะต้องสั่งเค้ก มาเผื่อทำไมกัน”

    แองจี้โมโหอีกแล้ว ทุกทีเลยแม่เธอนี่ เวลายัยแอนนี่อยู่ด้วยทีไร อะไรก็จะให้มีสอง อะไรก็จะต้องแบ่ง น่าเบื่อชะมัด 

    แองจี้เดินลิ่วๆหายเข้าไปในผับด้านใน ทิ้งแม่กับน้องสาว ที่ยืนมองหน้ากันตาปริบๆไว้

    “แม่ตามแองจี้เข้าไปเหอะค่ะ เดี๋ยวแอนนี่ตามไปนะคะ ไปเข้าห้องน้ำแป๊บนึงนะคะแม่”

    “อ้อ ห้องวีไอพีที่ชั้นสองนะลูก ห้องแรกเลยนะแอนนี่”

    “ค่ะแม่ เดี๋ยวแอนนี่ตามไปนะคะ”

    คุณนายลี่หยางพยักหน้าให้ลูกสาวคนเล็ก แล้วก็ส่ายหัวเดินตามร่างบางๆ ของลูกสาวคนโตไปที่ชั้นบน

    …………..

    ทางเดินไปยังห้องน้ำของผับ ชั้นหนึ่ง

    แอนนี่เดินตรงไปตามป้ายที่บอกทางไปห้องน้ำ เธอเลี้ยวขวาแล้วก็ก้มมองมือถือ ที่มีเสียงเรียกเข้าดังขึ้น จึงไม่ได้มองทาง

    ร่างของเธอปะทะเข้ากับร่างแข็งแรง ของคนที่เลี้ยวมาจากอีกด้านหนึ่ง จนเธอเซแถ่ดๆไป เธอหลับตาลง นึกว่าตัวเองคงจะต้องถลา ลงไปนอนแอ้งแม้งที่พื้นเป็นแน่

    “นี่คุณน้องแองจี้ครับ จะหลับตาอีกนานไหม ผมมีธุระต้องไปทำต่อนะ”

    เสียงใครข้างหูน่ะ แอนนี่ลืมตาขึ้นมา แล้วก็เบิกตาโพลง 

    หา!! อีตารูปหล่อโรคจิต ที่อยู่ในเรือนั่น แอนนี่ตกใจรีบยกมือผลักตัวเอง ออกมาจากอ้อมแขนของจางอี้หาน 

    จางอี้หานหรี่ตามอง ยัยแองจี้ที่ทำท่าทางกลัวเขา อย่างแปลกใจ

    “นี่วันนี้ เล่นบทใหม่เหรอครับน้องแองจี้ ฮ่าๆ เอาเหอะ จะเล่นบทไล่ตาม หรือบทกลัวก็แล้วแต่เหอะ ตามสบาย”

    “นาย นายมาทำอะไรที่นี่น่ะ”

    แอนนี่ชี้นิ้วใส่หน้าจางอี้หาน นิ้วสั่นระริก เธอยังจดจำได้ดี ว่าไอ้คนหล่อนี่ มันลวนลามเธอยังไง บนเรือในตอนนั้น นี่มันมายืนลอยหน้าลอยตาอยู่ที่นี่ ได้ยังไง

    “ฮ่าๆ ถามบ้าอะไร ก็นี่มันของผม แม่คุณโทรมาจอง บอกให้ผมไปร่วมไอ้งานวันเกิดคุณน้องด้วย อะไรมาทำเป็นจำไม่ได้ นี่เล่นเนียนนะเนี่ย”

    จางอี้หานเพ่งมองยัยเซเลบตัวแสบ วันนี้มาแปลกจริงๆ แต่แปลกที่เขารู้สึกว่า เธอในวันนี้ดวงตาคู่นั้นมันมีอะไรนะ

    “หา แม่เชิญนาย นายรู้จักแองจี้”

    “ครับแม่คุณเชิญผม ก็แผนคุณไม่ใช่เหรอที่อยากเจอผมน่ะ แล้วใช่เรารู้จักกันครับคุณน้องแองจี้ ฮ่าๆ เออมุกความจำเสื่อมของคุณ วันนี้มันเข้าท่า มากกว่าไอ้มุกเกาะเป็นปลิง เมื่อหลายวันก่อนมากเลยนะ”

    จางอี้หานยกมือขึ้นลูบคาง แล้วก้าวขาเข้าไปหาร่างแบบบาง แต่อวบอัดตรงหน้า ชุดที่เธอใส่วันนี้ นี่มันดูเย้ายวนตาชะมัด 

    ทำไมเขารู้สึกว่า เธอไม่ได้ผอมแห้งแรงน้อย เหมือนกับคราวก่อนที่เจอกันเลยนะ เขากวาดตามองร่างเธอ ภายใต้แสงไฟสลัวๆของผับ 

    เธอเห็นสายตาของเขา ที่จ้องมองมาแล้ว จึงยกมือขึ้นกอดอก ราวกับจะปิดบังมันไว้ แต่มันกลับทำให้ดูน่ามองกว่าเดิมไปอีก

    “นาย ถอยออกไป ฉันจะไปห้องน้ำ”

    “หือ ก็ไปซิครับ คุณน้องแองจี้ เดี๋ยวเจอกันนะ เดี๋ยวผมจะแวะไปงานของคุณที่ชั้นบน”

    แอนนี่เม้มปาก อยากจะทุ่มไอ้หน้าหล่อนี่ลงกับพื้น แล้วสับให้เป็นหมื่นๆชิ้น ไอ้บ้าโรคจิต สายตายังลวนลามเหมือนเดิมไม่มีผิด 

    ดีนะ ที่มันนึกว่าเธอเป็นแองจี้ ยังไงรีบไปเนียนๆลาแม่ แล้วเผ่นกลับบ้านดีกว่ามั้ง 

    แอนนี่พยายามเบี่ยงตัวเองหันข้างแล้ว เดินหลบๆร่างสูงใหญ่ที่ยืนตรงกลางทางเดิน ไม่ยอมเคลื่อนที่หลบให้เธอเลยสักนิดนั่น 

    ช่วงที่กำลังจะผ่านร่างของเขาไป อยู่ๆจางอี้หานก็ตวัดแขนดึงร่างของแอนนี่เข้ามาหาตัว ด้วยความที่หมั่นไส้ อยากจะแกล้งยัยเด็กนี่ ที่มองเขาด้วยสายตารังเกียจเช่นนั้น

    “อ้อ นึกขึ้นได้พอดี วันก่อนคุณน้องแองจี้อยากจูบผมไม่ใช่เหรอ งั้นวันนี้วันเกิด ผมจูบให้เป็นของขวัญวันเกิดคุณน้อง โอเคไหมครับ”

    “อุ๊ย ไอ้บ้า แกปล่อยนะ จูบบ้าอะไร”

    จางอี้หานรู้สึกตื่นเต้น กับการทุบตีของแอนนี่ ใจเขาเต้นตึ่กตั่กขึ้นมา จนต้องเพ่งมองร่างในอ้อมแขนที่ดิ้นไม่หยุดอีกครั้ง 

    นี่มันอะไรกันวะ ก็คราวก่อนยัยนี่ทำท่าจะปล้ำจูบเขาในลิฟต์ ที่ห้างสรรพสินค้าของเขาเอง ตอนเขาจะไปส่งเธอขึ้นรถ เขายังรีบผลักเธอออก รู้สึกไม่ชอบใจด้วยซ้ำ

    แล้วทำไมวันนี้ เขาไม่อยากปล่อยมือจากร่างนี่ ที่กำลังด่าทอให้เขาปล่อยๆเลยเนี่ย

    “อยู่เฉยๆซิ ผมบอกให้อยู่เฉยๆก่อน”

    “ก็ปล่อยก่อนซิ ไอ้บ้า แกมันนิสัยไม่ดี ปล่อยนะ”

    ร่างเล็กๆ แต่นุ่มไปทั้งตัวในอ้อมแขนนี่ ยิ่งดิ้นก็ยิ่งถูไถร่างอุ่นๆอวบๆนั่นไปกับตัวเขา ส่งผลให้เขาอยากทำมากกว่ากอด มากขี้นทุกที

    “ถ้าไม่หยุด จะหาว่าไม่เตือนนะ”

    จางอี้หานก้มหน้าลงไปพูดกับเธอ ดวงตาเธอที่จ้องมองเขา ราวกับอยากจะทำร้ายเขานั่น ดูไม่ใช่การแสดงแบบที่เขาคิดไว้เลย

    เขาควรทดสอบอีกแบบจะดีกว่า ว่าเขาสับสนหรืออะไรกันแน่

    “ไอ้…”

    จางอี้หานก้มลงไปปิดปากที่เผยอออก เพื่อจะต่อว่าเขานั่น เขากดแผ่นหลังนุ่มๆเนียนมือนั่นเข้ามา แล้วบดขยี้ริมฝีปากลงไป ปากเธอนุ่มและอุ่น มีเสียงอู้อี้ลอดออกมาจากแนวฟันเล็กๆเรียงตัวนั่น

    เขาแทรกลิ้นลงไปในโพรงปากเล็กๆนั่น ผ่านแนวฟันที่ครูดลิ้นเขาเล็กน้อย เมื่อลิ้นเขาแตะกับลิ้นเธอ สัมผัสนี่ มันก็ทำให้รู้สึกตื่นเต้นแปลกๆ ลิ้นเธอขยับแตะกับลิ้นเขา แบบไม่ได้สันทัด แต่ทำเอาเขาชาวาบไปทั้งร่าง

    ทำไมคุ้นๆ กับวิธีการตอบสนองแบบนี้นะ เขากดปากลงไปย้ำๆ เหมือนจะเช็ค ไม่แน่ใจว่าเช็คความรู้สึกตัวเอง หรืออยากจะเช็คเธอกันแน่แล้วตอนนี้

    “อืม ยัยตัวแสบ”

    จางอี้หานเงยหน้าขึ้น แล้วก้มลงไปจูบต่อ เขาอยากทำเพิ่มขึ้นๆกับร่างสั่นในอ้อมกอดนี่ แต่ตรงนี้มันทางเดิน อ้อ เขาคิดได้แล้ว 

    จางอี้หานตวัดแขนอุ้มร่างสั่นระริกนั่นขึ้นมา เธอหลับตาพริ้ม ตาปรือ ปากแดงระเรื่อจากการจูบกับเขา ไปถึงสองครั้งติดๆกันนั้น เขาซุกหน้าลงกับซอกคอขาวๆของเธอ แล้วก็พบว่า

    หือ? กลิ่นนี่ ไอ้กลิ่นหอมนี่มัน?

    กลิ่นนี้ที่เขาตามหามาเป็นปี ทำไมยัยนี่ มีกลิ่นนี่ตามตัว เขากอดร่างนั้นแนบแน่นขึ้น แล้วเดินตรงไปทางห้องทำงานของตัวเองทันที

    ระหว่างอุ้มร่างสั่นๆนั่นไว้ จางอี้หานก็ซุกหน้าลงไปอีกครั้ง เพื่อเช็คว่าจมูกเขาเพี้ยนไปหรือไม่ หางตาเขาเหลือบไปเห็น อาเฟิงคนสนิทของเขา ที่ยืนอยู่หน้าห้องทำงานของเขา

    จมูกเขาไม่เพี้ยน ยัยเด็กนี่ กลิ่นนี่มัน กลิ่นที่เขาตามหานี่น่า

    อาเฟิงถึงกับอ้าปากค้าง กับภาพเจ้านายของตัวเองอุ้มสาวมาที่ห้อง ใบหน้าของเจ้านาย ที่กำลังซุกไซ้กับซอกคอของสาวมาตลอดทางนั่น ตาเขาฝาดไปหรือเปล่า

    “เปิดประตู”

    “คะ ครับ คุณอี้หาน”

    ชัดแล้วเสียงแบบนี้ เจ้านายแน่นอน อาเฟิงรีบปิดประตูตามหลัง ร่างสูงใหญ่ของเจ้านายที่เดินเข้าไป เขาไม่อยากจะเชื่อเลย ว่าจะมีโอกาสได้เห็นภาพเช่นนี้ 

    เจ้านายของเขา ลากผู้หญิงเข้าไปนัวเนียในห้องทำงาน ทั้งๆที่ไม่เคยทำเช่นนี้มาก่อน

     

    ………จบตอน…….

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×