ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [-REST-] "Autumn Story" "บันทึกรักยามฤดูใบไม้ผลัดสี" - [Astro Fic : Eunwoo x Moonbin]

    ลำดับตอนที่ #1 : Chapter 01 : พบกันอีกครั้ง

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 217
      6
      2 พ.ย. 60

    ตอนที่ 01

    _________________________________________________________________________________



    21 ตุลาคม 2018



    เสียงของหยาดฝนเม็ดโต ค่อยๆเริ่มตกกระทบบนหลังคาบ้าน เป็นเสียงดังเปาะแปะ

    บนท้องฟ้านั้น ดูหม่นหมอง มีเมฆก้อนทึบสีทมิฬขนาดใหญ่ กำลังค่อยๆคืบคลานเข้ามาเรื่อยๆ

    กระแสลมเย็น พัดผ่านมาหวิวๆ พลางหอบเอากลุ่มใบไม้สีแก่ หลุดร่วงปลิวไปตามแรง


    ร่างของเด็กหนุ่มคนหนึ่ง กลับไม่ได้ดูสงบนิ่ง เยือกเย็น หรือเกรงขาม เหมือนในบรรยากาศตอนนี้

    แต่ตรงกันข้าม ที่เขาเอาแต่ตัวสั่น หัวใจเต้นรัว เกร็งไม้เกร็งมือ ภายในอกร้อนรุ่มไปหมด

    นั่นก็เพราะอะไรน่ะหรือ?


    [พี่ชาคนอึน ^^] : "มุนบิน อาทิตย์หน้าพี่จะกลับบ้านแล้วนะ"

    [บินจอมเขมือบ :p] : "จริงเหรอ เอาจริงๆนะ ดีใจจัง"

    [พี่ชาคนอึน ^^] : "จริงสิ จะโกหกทำไมล่ะ"


    เด็กหนุ่มในชุดไหมพรมสีเบจ พลันลุกขึ้นกระโดดโลดเต้นอย่างดีใจ

    ไม่พอยังเอาเจ้าเหมียวขนปุย ที่กำลังหลับอย่างสบายใจ

    เอามาอุ้มแล้วโยนเล่นอีกด้วย

    ก็ช่วยไม่ได้นี่นา คนมันดีใจสุดๆไปเลยนี่ ในเมื่อ...


    ชาอึนวู พี่ชายของ มุนบิน ที่ไปฝึกงานอยู่ที่ต่างประเทศมา 1 ปีเต็ม อีกเพียงไม่กี่วัน

    เขาก็จะกลับมาหา น้องชายที่รอและคิดถึงเขาจะแย่อยู่แล้ว

    เขาจะรู้บ้างหรือเปล่านะ ว่าทุกๆเวลาที่ผ่านพ้นไป มุนบินนั้นอ้างว้างและคิดถึงเขามากมายเหลือเกิน


    อันที่จริงแล้ว เขาไม่จำเป็นต้องคิดถึงพี่ชายมากถึงขนาดนั้นก็ได้ แต่เพราะมันมีอะไรที่มากกว่านั้น

    ความรู้สึกของมุนบิน ที่มีต่อชาอึนวูนั้น มันมากกว่าแค่คำว่าพี่น้อง

    และมันก็ซับซ้อนยิ่งกว่านั้น...


    ย้อนกลับไป เมื่อสมัยที่มุนบินยังเป็นเด็กน้อยวัยประถม

    คุณพ่อและคุณแม่ พาเขาไปเดินห้างแห่งหนึ่งในใจกลางเมือง

    แต่วันนั้นกลับเป็นวันที่แสนโชคร้าย

    เมื่อมีกลุ่มอาชญากรรม สร้างความวุ่นวายบุกเข้าขโมยของและยิงกราดผู้คนในห้าง

    และแน่นอนว่า เหยื่อของเหตุการณืในครั้งนี้ก็คือคุณพ่อคุณแม่ของเขานั้นเอง

    ที่ปกป้องเขาจนถึงลมหายใจสุดท้าย

    สองร่างชายหญิง ต่างโอบประคองลูกน้อยของตนไว้ ท่ามกลางความวุ่นวาย

    กระสุนปืนพุ่งกระจัดกระจายไปทั่วทุกทิศ ทะลวงทุกสิ่งที่ขวางหน้า

    ไม่เว้นแต่ร่างของชายหญิงคู่นี้ ที่กำลังปกป้องลูกรัก


    เด็กน้อยในอ้อมประคองต่างร้องไห้งอแงด้วยความตื่นตระหนกและความกลัวจนตัวสั่น

    เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย เข้ามากำราบได้ทัน

    แต่ก็ไม่สามารถยิ้อชีวิตของพ่อและแม่ของมุนบินได้


    นั่นจึงทำให้มุนบินต้องกลายเป็นเด็กกำพร้า

    ถูกส่งเข้าศูนย์รับเลี้ยงเด็ก หรือบ้านเด็กกำพร้า

    ที่อยู่ในบริเวณเมืองที่ใกล้เคียงกันกับเขา

    และเขาก็เก็บเรื่องพ่อแม่ของเขาไว้เป็นความลับ

    ไม่เคยบอกให้ใครรู้แม้แต่เพื่อนสนิทอย่างซานฮา


    เวลาผ่านไป จนเขาอายุได้ 16 ปี

    มีครอบครัวหนึ่ง มาเยี่ยมบ้านเด็กกำพร้า ดูท่าทางเป็นครอบครัวมีฐานะ มีชื่อเสียง

    ครอบครัวนี้ มีคุณแม่ คุณพ่อ และลูกชายอีกหนึ่งคน

    พวกเขา อาสาจะรับอุปการะมุนบินไปเลี้ยง โดยที่ตัวเขาเองก็ไม่ทราบสาเหตุว่าทำไม

    แต่มันก็ทำให้เขาได้พบอึนวู ที่ซึ่งตอนนั้น อึนวูย่างเข้าวัย 18 พอดี


    แม้มุนบินจะเป็นลูกบุญธรรม แต่เขาก็ไม่เคยรู้สึกขาดอะไรไป เพราะเขาต่างก็ได้รับความรักเท่าๆกันกับลูกแท้ๆของครอบครัวนี้ และทั้งสองคนก็สนิทกันมากเสียด้วย แม้จะพบกันได้ไม่ถึงเดือน

    ทั้งสองตัวแทบติดกันตลอด ทำอะไรเหมือนๆกัน ชอบอะไรเหมือนๆกัน แม้จะนิสัยต่างกัน

    ทั้งความอ่อนโยน ความใจดี ความเป็นผู้ใหญ่ของอึนวู ที่คอยเอาใจใส่ดูแลเขาอยู่เสมอ


    นั่นคือจุดเริ่มต้นของความรักต้องห้ามนี้ ความรักมากกว่าพี่น้อง ที่มีต่อพี่ชายของเขา

    ซึ่งเขาไม่สามารถหักห้ามหัวใจของตัวเองได้เลยสักครั้ง

    แม้เขาจะคิดแล้วคิดอีก ว่าผลเสียที่ตามมาจะเป็นอย่างไร แต่ความผูกพันในทุกๆวัน ทำให้เขาควบคุมอารมณ์ที่อยากจะสารภาพรักออกไปแทบไม่อยู่


    การที่อึนวูไปฝึกงานที่ต่างประเทศแบบนี้ มันก็มีข้อดีอยู่บ้าง ที่ทำให้หัวใจเขา สงบลงสักหน่อย

    แต่นี่มันก็ผ่านมานานแล้วนะ 4 ปีน่ะ ที่มุนบิน มีความรักต่ออึนวูน่ะ

    ตอนนี้เขาอายุครบ 20 ปีพอดี คุณพ่อคุณแม่ก็ปล่อยให้อยู่กันเองได้แล้ว

    เขาโดดเดี่ยว และเหงามาก เพื่อนที่มหาลัยก็ไม่ค่อยจะมี พี่รหัสก็เป็นพวกเกเร

    ไหนช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา เขาก็เพิ่งจะสูญเสียเพื่อนสนิทไป จากอุบัติเหตุอีก

    ทิ้งมรดกภาระไว้ให้เขา ก็คือเจ้าแมวแร็กดอล ขนปุยสีขาวนี่แหละ


    "นี่จินจิน พี่อึนวูจะกลับมาแล้วนะ คิดถึงมั้ยๆ"

    "เมี๊ยว!"

    "อื้อ เราจะได้อยู่ด้วยกัน พร้อมหน้าพร้อมตาสักที"


    เพราะความโดดเดี่ยวและความอ้างว้างหรือเปล่านะ

    ที่ทำให้มุนบิน สามารถคุยกับแมวได้เข้าใจแล้วถึงขนาดนี้



    21 เมษายน 2017


    รถยนต์คันหรูยี่ห้อราคาแพง แล่นเข้ามาจอดเทียบตรงทางเดินฟุตบาท บนถนนในย่านชานเมือง

    เวลานี้เป็นเวลายามค่ำ ท้องฟ้าเริ่มโพล้เพล้ ตามทางฟุตบาทกว้าง และตึกแถวธุรกิจที่เรียงรายนั้น

    ต่างก็มีเหล่านึกศึกษาเดินไปมาอยู่พลุกพล่าน บ้างก็ช็อปปิ้ง นั่งสนทนากันตามม้านั่ง

    ถ่ายรูป และทำธุระกิจกรรมต่างๆ


    ภายในรถยนต์คันหรู ที่ด้านของคนขับ ชายคนหนึ่งซึ่งใส่แว่นสีดำ

    ทอดมองสายตาออกไปผ่านกระจกติดฟิล์มในรถ

    มองไปยังที่ซอยในซอกตึก เห็นร่างของใครบางคนที่คุ้นเคย

    กำลังยืนสนทนาอยู่กับนักศึกษาหญิงคนหนึ่ง


    "น้องคะ น้องชื่อมุนบินใช่มั้ยคะ อันนี้พี่ซื้อมาฝากค่ะ อย่าลืมกินให้หมดเลยนะค้าาา พี่ไปละ บาย"


    มุนบินรับถุงขนมมาในมือด้วยหน้าตางงงวย แต่ก็แฝงไปด้วยความเคยชิน

    เขาแค่ยัดมันเก็บเข้าไปในกระเป๋า และเดินตรงไปยังรถยนต์ที่ซึ่งมาจอดรอเพียงเมื่อครู่นี้

    แต่ยังไม่ทันจะถึงตัวรถ ทางด้านฝั่งคนขับก็เปิดประตูรถลงมา


    ทุกสายตาในบริเวณนั้น ต่างจับจ้องไปยังร่างของชายหนุ่มที่ก้าวเท้าลงมาจากรถ

    ราวกับเจ้าชายในนิยาย กำลังปรากฎตัว

    ร่างสูงเดินมายังมุนบินที่ซึ่งยืนมองเขาอยู่นิ่งๆ


    "อยู่แค่ปี 1 ฮอตขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย"


    อึนวู ถอดแว่นดำออก เขาเพียงแค่สวมชุดสูทธรรมดาๆทั่วไป

    แต่กลับดึงดูดทุกๆคนให้มองไปยังเขา


    "เฮ้อ ชินแล้วแหละ ส่วนใหญ่ก็มีแต่พวกผู้หญิงแรดๆทั้งนั้น"


    อึนวู ยิ้มให้กับมุนบินเล็กน้อย พลางใช้มือค่อยๆจัดเนคไทที่เบี้ยวๆให้กับมุนบิน


    "ก็ดีแล้ว ที่มองออกว่าอะไรเป็นอะไร เลือกผู้หญิงก็เลือกดีๆละกัน ฉันไม่ห้ามนายหรอก เรื่องแฟน"


    "อื้ม"


    อึนวูคงไม่รู้ ว่าสาเหตุที่มุนบินไม่เคยสนใจผู้หญิงคนไหนเลยนั้น ก็เพราะว่า

    เขามีชาอึนวูคนนี้อยู่ทั้งใจแล้วน่ะสิ


    "ฉันหิวน่ะ ไม่อยากกลับไปกินที่บ้านแล้ว ไปหาอะไรกินแถวนี้กันเถอะ"


    ชาอึนวู กล่าวขึ้นมาเรียบๆและใช้แขนโอบไหล่มุนบิน เดินไปพร้อมๆกัน

    ซึ่งในตอนนี้ หัวใจของมุนบินเต้นอย่างรุนแรง ถ้ามันพูดได้

    มันคงตะโกนออกมาแล้วว่า หยุดทำให้ใจฉันเต้นแรงสักที ไอ้พี่ชายคนนี้!


    "เห้ยแกร เหมือนแฟนกันเลยเนอะ ดูดิ"

    "กรี๊ดดดด หล่ออ่ะ เสียดาย"

    "คิดมากไปมั้ง อาจเป็นเพื่อน เป็นพี่น้องกันก็ได้"

    "คนนั้นคือมุนบิน นิเทศปี 1 ส่วนผู้ชายคนนั้น ใครอะหล่อมากเลย"

    "นั่นสิแกร อยากได้ๆๆๆ"


    เสียงซุบซิบนินทาดังขึ้นเป็นระยะๆ

    บ้างก็เบา บ้างก็ดัง(โดยไม่ได้ตั้งใจ)

    ผ่านเข้ามาในหูของทั้งสองคน

    มุนบิน ทำได้แค่เพียงก้มหน้า รู้สึกเขินและประหม่า

    แต่อึนวูที่ได้ยินคำพูดเหล่านั้น ก็ไม่ได้แยแสอะไร

    เขาเพียงแค่กระชับแขนที่โอบไหล่มุนบินอยู่เพียงเท่านั้น


    เพราะอึนวูเป็นคนแบบนี้ จึงไม่ยากเลย ที่จะทำให้ใครๆที่ได้อยู่ใกล้ชิด

    จะรู้สึกดี และตกหลุมรัก ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกโดยการกระทำมากกว่าคำพูด

    หรือแม้แต่การเก็บรายละเอียดเล็กๆน้อยๆให้กับอีกฝ่าย

    เขาทั้งอ่อนโยน และ เรียบง่าย ไม่มีผู้ชายคนไหน เพอร์เฟ็คได้มากกว่านี้อีกแล้ว



    1 สัปดาห์ต่อมา


    ในช่วงเช้าของวันธรรมดาวันหนึ่ง มุนบิน ค่อยๆขยับตัว และเปิดเปลือกตาขึ้นช้าๆ รับแสงแดดอ่อนๆ

    เขาได้ยินเสียงของคนคุยกันแว่วๆ ดังมาจากนอกห้อง แต่จะเป็นเสียงใครได้ล่ะ นอกจากอึนวู


    มุนบินยันตัวลุกขึ้นนั่ง หยิบแว่นตาบนชั้นหัวเตียงมาสวม

    เขาลุออกไปดุสถานการณ์นอกห้อง ว่าเกิดอะไรขึ้น


    อึนวูที่ซึ่งกำลังทำอาหารเช้า กำลังยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าอ่างซิงค์

    ในมือเขาถือโทรศัพท์และกำลังวางสายพอดี


    "มีอะไรเกิดขึ้นเหรอ?"


    มุนบินเดินเข้ามาถามเงียบๆ ซึ่งอึนวู หันหน้ามาเผชิญกับมุนบินตรงๆ

    เขาจับไหล่มุนบินไว้ และพูดออกมาอย่างราบเรียบ


    "พ่อกับแม่ บังคับให้พี่ไปฝึกงานที่ยุโรปน่ะ พี่จำเป็นต้องไป มันกระทันหันมาก เดินทางอาทิตย์หน้า เพราะพ่อกับแม่เตรียมเอกสารเดินทางไว้ก่อนหน้านี้แล้ว พี่แค่ต้องเก็บของ"


    ในตอนนั้น มุนบินทั้งตกใจ และเสียใจ มันเป็นอะไรที่เกิดขึ้นรวดเร็ว และกระทันหันโดยไม่ทันตั้งตัวเลย


    "แล้ว จะไปอยู่นานเท่าไหร่ล่ะ"


    "คงประมาณ ปีกว่าๆ... แต่ไม่ถึงสองปีหรอก"


    1 ปีเองงั้นเหรอ บางคนอาจจะบอกว่าเป็นช่วงเวลาที่ไม่นานเท่าไหร่นัก

    แต่สำหรับมุนบิน ที่เหลือเพียงอึนวูคนเดียวแล้ว

    เขาจะต้องอยู่อย่างโดดเดี่ยวในช่วงเวลา 1 ปีเต็มเลยงั้นเหรอ

    มันเกินไปหรือเปล่านะ


    มุนบินรู้สึกหน้ามืด และสติขาดหาย แต่อึนวูก็ทำได้เพียงสวมกอดเขา


    "ไม่เป็นไรนะ พี่อยากให้เราเข้าใจ ว่ามันจำเป็นต่ออนาคตของพวกเรา

    ที่ผ่านมาเราพึ่งเงินพ่อแม่มาตลอด แต่ตอนนี้ มันถึงเวลาที่เราต้องพึ่งตัวเองแล้ว

    เพราะฉะนั้น ถ้าคิดในแง่บวก ถือว่าเป็นการฝึกใช้ชีวิตด้วยตัวคนเดียวให้ได้"


    แม้มุนบินจะเห็นด้วย แต่มันก็ยังทำให้เขารู้สึกใจหวิวๆอยู่เช่นกัน

    เขาไม่เคยคิดเลยว่าชีวิตนี้ จะต้องอยู่อย่างลำพังอีกครั้ง หลังจากที่ออกมาจากบ้านหลังนั้น



    ณ ที่สนามบิน เวลา 18:00 น.


    "คงถึงเวลาแล้วแหละ พี่ไปแล้วนะ"


    "โชคดีนะครับ..."


    "ไว้พี่จะติดต่อกลับมา ถ้าเป็นไปได้นะ"


    "พี่จะกลับมาใช่มั้ย"


    "กลับมาสิ พี่ไม่ทิ้งนายหรอก เพราะพี่มีแค่เราคนเดียว"


    อึนวู เดินเข้ามาสวมกอดน้องชายตัวเองเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนจะขึ้นเครื่อง

    มุนบินกอดอึนวูแน่น ราวกับไม่อยากให้เขาไป

    เขาหลับตาลง สูดกลิ่นของพี่ชายเข้าลึกๆ ราวกับจะเก็บมันไว้ให้นานที่สุด

    ในที่สุด พวกเขาก็คลายอ้อมกอดต่อกัน


    อึนวูเดินผละออกไป โบกมือลาอีกครั้ง

    ภาพที่มุนบินเห็นคือภาพที่พี่ชายของเขาค่อยๆเดินออกห่างไปเรื่อยๆจนลับตา

    น้ำตาที่กลั้นไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ ไม่สามารถทนกลั้นได้อีกต่อไป

    เขาเพียงแค่ปล่อยให้มันไหลลงมาเงียบๆ ช้าๆ

    คงต้องยอมรับว่า ตั้งแต่ตอนนั้น เขาต้องอ้างว้างแล้วจริงๆ

    มองไปทางไหนก็พบแต่คนแปลกหน้า มีเพียงแค่บ้านแสนสุข ที่เจ้าเหมียวขนปุยรอเขาอยู่


    มุนบินเดินออกมาเรียกรถแท็กซี่เพื่อกลับบ้าน ระหว่างทางเขาเพียงนึกถึงเรื่องราวต่างๆที่เกิดขึ้นมากมายในเวลาอันไล่เลี่ยกัน ทั้งการสูญเสียเพื่อน และการจากไปยังที่ไกลแสนไกลของพี่ชายที่เขารัก มากกว่าคำว่า พี่ชาย



    ปัจจุบัน 27 ตุลาคม 2018


    ในช่วงเช้าของวันนี้ อากาศค่อนข้างเย็น

    น้ำค้างในยามเช้า ต่างเกาะกันตามใบหญ้าและใบไม้เหลืองเขียว

    ท้องฟ้าเป็นสีเทาครึ้มๆ แต่ไม่ได้มีท่าทีว่าฝนจะเทลงมา

    บนถนนที่เป็นหลุมบางแห่ง ก็มีน้ำขังอยู่เล็กๆ เป็นสัญลักษณ์ของการบอกว่า

    เมื่อคืนที่ผ่านมา เพิ่งเกิดฝน และหยุดลงไม่นานนี้


    มุนบิน ตื่นลุกจากเตียงตั้งแต่เช้า เขาอาบน้ำแต่งตัว ทานอาหารเช้า เตรียมตัวจะเดินทางไปยังสนามบิน


    "เจ้าตัวอ้วนยังหลับอยู่เลย โอ๊ะ เกือบลืมเติมอาหารแหน่ะ"


    มุนบินหยิบเสื้อโค้ทสีเบจมาสวมใส่ และพลางนึกขึ้นได้ว่า เขาต้องเติมอาหารแมวในเช้านี้ เพราะเกรงว่าอาจจะไม่ได้กลับมาเช้านัก คือเติมเผื่อไว้ช่วงเที่ยงนั่นเอง


    ทันทีที่เปิดประตูออกไป สายลมหนาวของฤดูใบไม้ร่วงก็พัดโชยมา นำกลิ่นของธรรมชาติลอยมาด้วย

    เขาไขกุญแจรถยนต์คันเดิมที่เขาเคยนั่งบ่อยๆเมื่อตอนที่อึนวูยังไปรับไปส่งเขาที่มหาลัย

    แต่คราวนี้มันเปลี่ยนไป จากที่เคยเอาแต่นั่งเฉยๆ ตอนนี้เขาสามารถขับมันได้แล้ว เพราะตั้งแต่อึนวูไป เขาก็เรียนขับรถทันที


    มุนบินสตาร์ทรถและฮัมเพลงอย่างอารมณ์ดี

    เพราะว่าในวันนี้ จะเป็นวันที่เขา ได้พบกับอึนวูสักที

    และตอนนี้ เขากำลังจะเดินทางไปรับอึนวูที่สนามบินนั่นเอง


    ที่สนามบินเช้าวันนี้ ไม่ค่อยวุ่นวายเท่าไหร่นัก แต่บรรยากาศ และภาพที่มุนบินเห็น มันช่างดูเหมือนกับวันนั้น วันที่เขาและอึนวูแยกจากกันไม่มีผิด ราวกับภาพเหล่านี้มันย้อนหวนคืนมาอีกครั้ง

    ในวันนั้น จากลา แต่วันนี้นั้น พบเจอ


    เขาได้ยินเสียงเครื่องบินกำลังลงเครื่องแล้ว จึงไม่รอช้า ไปยืนรอที่หน้าประตูสนามบิน

    ใช้เวลาไม่นานนัก เหล่าผู้โดยสารก็ลงจากเครื่องและพรั่งพรูกันเข้ามาในสนามบิน


    มุนบินหุบยิ้มไม่ได้ ที่เขาดีใจเหลือเกิน แต่ฉับพลัน รอยยิ้มของเขาก็ค่อยๆหุบลง

    เมื่อเขาเห็นอึนวู เดินมาเคียงคู่กับสตรีคนหนึ่งที่เขาไม่รู้จัก และท่าทางว่าหล่อนกับอึนวู ช่างดูสนิทสนมกันนัก


    อึนวู ดูเปลี่ยนไปทันทีในสายตาของมุนบิน

    และสตรีคนนั้น คือใครกัน?


    _________________________________________________________________________________



    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×