ตอนที่ 14 : Chapter 13
Chapter 13
โม่เส้าเฉียนที่ไม่เคยระเบิดอารมณ์ที่โหดร้ายของตัวเองออกมาหลายปี เกือบจะพลั้งมือฆ่าคนลงไปเสียแล้วในคืนนั้น !
“อยากดื่มอะไรไหม”
อยู่ๆ ชุนเสี่ยวที่ไม่ได้พูดอะไรที่เป็นส่วนตัวกับนอกจากเรื่องงานมาตลอดทั้งวันก็พูดขึ้นหลังจากเข้ามาในห้อง
“อย่าลำบากเลย ผมแค่จะแจ้งตารางงานให้ทราบแล้วกลับไปพักเสียที” โม่เส้าเฉียนปฏิเสธอย่างไม่เห็นน้ำใจ
“ไม่เอาน่า ถ้านายไม่ดื่มมันสักหน่อย ฉันจะไม่ทนฟังตารางยาวเหยียดที่อยู่ในมือของนายและแน่นอนว่า พรุ่งนี้และอาจจะเบี้ยวงานส่วนใหญ่ และทำให้นายที่เพิ่งได้ทำงานวันแรกต้องเจอปัญหานะ…” ชุนเสี่ยวไม่เสียเวลาพูดมากมายเพื่อโน้มน้าวให้ได้สิ่งที่ต้องการ แต่ยื่นคำขาดเสียเลยนี่คือนิสัยของเขา
โม่เส้าเฉียนส่ายหน้าอย่างลำบากใจ ก่อนจะคลายเนกไทที่ดูเหมือนจะรัดคอให้หายใจไม่ออกมากขึ้น ก่อนที่จะรับกระป๋องเบียร์ที่เปิดมาแล้วเรียบร้อยโดยไม่ทันได้ระแวงสักนิด แค่ตั้งใจจะทำให้เสร็จๆ ไปเท่านั้น หลังจากยกดื่มไปจนหมดในคราวเดียว ก็ก้มลงมาให้ความสนใจกับงานตรงหน้า ชุนเสี่ยวนั่งที่ฝั่งตรงข้าม ในมือถือกระป๋องเบียร์เอาไว้ไม่ได้ยกดื่ม มีเพียงสายตาที่เจ้าเล่ห์จนเขารู้สึกรังเกียจ จึงก้มหน้าแจกแจงเรื่องตารางงานเรื่อยไป จนเวลาผ่านมาสักพักชายหนุ่มก็เริ่มรู้สึกว่ามีอะไรไม่ชอบมาพากล
ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่าง ทั้งกระสับกระส่ายและเหงื่อซึมออกมาจากทั่วทุกแห่งในผิวหนัง หัวใจเต้นเร็วราวกับจะหลุดออกมาข้างนอกให้ได้ ส่วนล่างตื่นตัวอย่างดุดัน ขยายใหญ่จนอึดอัดและทำให้ปวดร้าวไปหมด ตอนนี้โม่เส้าเฉียนรู้สึกเหมือนอยากจะฉีกทึ้งทุกสิ่งทุกอย่างตรงหน้าให้มันพินาศ ทุกอย่างเริ่มควบคุมยากขึ้นทุกที แม้แต่จะหายใจยังลำบาก เขาปลดกระดุมเม็ดบนเพื่อระบายความร้อนออกจากร่างกาย แต่ดูเหมือนมันจะช่วยไม่ได้เท่าไหร่ ไปๆ มาก็กลายเป็นกระชากออกอย่างรุนแรง
“ฮึๆ” เสียงหัวเราะเบาๆ ของใครบางคนในห้อง เปลี่ยนให้โม่เส้าเฉียนกลายเป็นสัตว์ร้ายและกระโจนใส่ชุนเสี่ยวราวกับฆาตกรข่มขืนผู้มีจิตใจวิปริต
โม่เส้าเฉียนกลืนน้ำลายลงคออย่างอยากลำบากเมื่อหวนไปคิดถึงเรื่องในวันนั้น เขาถูกอุบายง่ายๆ ของชุนเสี่ยวเปลี่ยนให้กลายเป็นสัตว์ได้อย่างง่ายดาย หลังจากทุกอย่างจบลง และมันก็ใช้เวลาจนเกือบรุ่งสาง ร่างกายที่บอบบางเต็มไปด้วยเลือดและร่องรอยราคีที่ชายหนุ่มได้สร้างไว้ เมื่อได้สติหาใช่ว่าจะรู้สึกผิดที่ทำไป แต่กลับพุ่งตรงเข้าบีบคออีกฝ่ายอย่างเอาเป็นเอาตาย
ไม่มีคำอ้อนวอนขอชีวิต มีแต่สายตาเยาะเย้ยและหัวเราะอย่างสมเพศจากชุนเสี่ยว ทำเอาโม่เส้าเฉียนที่เคยคิดว่าไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นบนโลกใบนี้ก็ตาม จะทำแค่สิ่งที่ตั้งใจไว้และไม่เปิดเผยด้านเลวร้ายของตัวเองออกไปให้ใครได้รู้ กลับต้องมาสิ้นท่าเพราะคนที่ทำทุกอย่างไปเพื่อความสะใจ
แล้วนี่มันอะไร เขามีสิทธิ์อะไรไปลงโทษและทำร้ายคนอื่น แค่เพราะหน้าตาไปเหมือนกับคนคนนั้น
หลังจากคิดได้อย่างนั้น ความรู้สึกที่ไม่เคยมีมาก่อนในชีวิตก็ตัดสินใจลุกจากเตียงอีกครั้ง เมื่อพยาบาลออกจากห้องไปได้สักพัก เขาหยิบเสื้อคลุมตัวยาวที่แขวนเอาไว้ที่มุมห้องมาแล้วสวมมันอย่างลวกๆ ก่อนจะเปิดประตูออกไปข้างนอกเพื่อตามหาใครบางคน
ใครบางคนที่อาจจะกำลังสูญเสียทุกอย่างในโลกใบนี้เมื่อได้เจอกับสิ่งที่เลวร้ายที่สุดแบบเขา
โม่เส้าเฉียนพยายามวิ่งหาคนที่หน้าเหมือนชุนเสี่ยวไปทั่วโรงพยาบาล แต่ไม่ว่าจะไปทางไหนก็พบเลยสักแห่งจนใจจำต้องกลับมาที่ห้องอย่างหมดหวัง เขาเลยตั้งใจกลับมาเพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าและตั้งใจจะออกจากโรงพยาบาลเสียเลย แต่พอเปิดประตูห้องกลับพบคนที่ต้องการเจออยู่ในนั้นพอดี
“คุณไปไหนมา คุณยังเจ็บอยู่นะเที่ยววิ่งออกไปแบบนั้นได้ยังไง” หลินเฉินรีบพูดขึ้นเมื่อได้เห็นผู้จัดการของน้องชายเปิดประตูเข้ามา ในขณะที่อีกคนยันยืนมึนงงและไม่เข้าใจ เขาจึงรีบอธิบายให้อีกฝ่ายเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นทันที “ผมยอมรับ ว่าผมไม่ใช่ชุนเสี่ยว เป็นเป็นพี่ชายฝาแฝดของเขา”
“ชุนเสี่ยวไม่เคยมีฝาแฝด”
“อ๋อ มีสิ พ่อแม่กับของเราแยกทางกันตั้งแต่เกิด ชุนเสี่ยวมากับแม่ที่เมืองเอส ส่วนผมอยู่กับพ่อที่ชนบท ผมเองก็เพิ่งรู้ความจริงมาเมื่อไม่นานมานี่เอง”
โม่เส้าเฉียนหลับตาลงพยายามทำใจให้สงบมากกว่านี้แล้วเปิดประตูเดินเข้ามาในห้อง เพื่อจะได้ทำความเข้าใจว่าจะทำอย่างไรต่อไปกับเหตุการณ์นี้ดี อีกอย่างที่เขาอยากรู้มากที่สุดในตอนนี้ ทำไมคนคนนี้ถึงยังกลับมาที่นี่อีก แถมด้วยในใบหน้าที่เหมือนไม่ได้เกิดอะไรที่รุนแรงขึ้นเมื่อสักครู่นี้ ไม่เข้าใจ…ไม่เข้าใจจริงๆ
“แล้วคุณมาทำอะไรที่นี่ แล้วชุนเสี่ยวไปไหน”
“ผมมาเพื่อพบกับน้องชาย แต่พอมาถึงก็มาเจอคุณเข้าก่อน แล้วชุนเสี่ยวก็หายไปทิ้งจดหมายบอกผมแค่ว่าเขาไม่สบายต้องการพักผ่อน ผมก็แค่ปลอมตัวตามคำขอของเขาเท่านั้น”
“คุณรู้จักน้องชายของคุณดีแค่ไหน สนิทมากพอที่จะปลอมตัวมาเป็นเขาเลยหรือ คุณรู้หรือว่าเขาทำอะไรบ้าง และเขาได้ทำอะไรลงไปบ้าง” โม่เส้าเฉียนขยับไปนั่งบนเตียงหลังจากถอดเสื้อคลุมออก ก่อนจะคิดวิเคราะห์ตามสิ่งที่อีกฝ่ายบอกอย่างเงียบๆ
“เอ่อ…คือ” หลินเฉินจนปัญญาในคำถามนี้ เขารู้จักน้องชายมากแค่ไหน อย่าว่าเช่นนั้นเลย เขายังไม่เคยเห็นหน้าน้องชายเลยสักครั้งต่างหาก
“หรือไม่เคยเจอกันเลย” โม่เส้าเฉียนเลิกคิ้วถามเสียงสูง
‘ใช่ ไม่เคยเจอกันมาก่อนเลย’
หลินเฉินได้แต่เงียบ ก้มหน้าลงด้วยไม่รู้จะอธิบายอย่างไร แต่มาถึงขั้นนี้แล้วโกหกไปก็ไม่ช่วยอะไร อีกอย่างเขาก็รู้สึกอึดอัดไม่น้อยที่ต้องแสดงและโกหกคนอื่น เมื่อไม่มีคำตอบให้บรรยากาศในห้องจึงเงียบสนิท
“รู้ไหม ว่าสิ่งทำลงไปมัน ‘โง่’ ขนาดไหน” โม่เส้าเฉียนเอ่ยขึ้นมาในที่สุด ก่อนจะอธิบายต่อทันที “ชุนเสี่ยว ไม่ใช่บุคคลธรรมดาทั่วไปที่คิดจะสวมรอยได้ง่ายๆ เขามีหน้าที่ความรับผิดชอบมากมาย อาชีพที่ทำต้องใช้พรสวรรค์ ความเคยชิน เรียนรู้ที่จะตอบโต้อย่างชาญฉลาด วางตัวอย่างเหมาะสมในสังคม แค่เรื่องพวกนี้ก็ทำให้คุณลำบากที่จะเป็นเขาแล้ว นี่เรายังไม่ได้พูดถึงนิสัยส่วนตัวอันเป็นเอกลักษณ์ของชุนเสี่ยวอีกนะ จะบอกอะไรให้ ต่อให้คุณเก่งกาจ อดทนจนสามารถทำหน้าที่แทนเขาได้ แต่ไม่มีวันที่คุณแสดงนิสัยเหมือนที่เขาเป็นได้”
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

13 ความคิดเห็น
-
#8 Cervidae (จากตอนที่ 14)วันที่ 16 ธันวาคม 2561 / 17:24อ่านแล้วสนุกมากเลย เป็นกำลังใจให้นะคะไรท์#80
-
#7 คนผ่านมา (จากตอนที่ 14)วันที่ 16 ธันวาคม 2561 / 08:10พี่เส้ารู้แล้ววววววว55555 หลงรักคนพี่ยัง#70