ตอนที่ 82 : บทที่ 14/7 (100)
บทที่ 14/7 (100%)
ตกดึกคืนนั้นแดเนียลก็เข้ามาหาเธอที่ห้องจริงๆ แต่สิ่งที่ทำให้เธอรู้สึกแปลกใจเป็นอย่างมากคือการที่เขาสัมผัสเธออย่างอ่อนโยนเหมือนกลัวเธอจะบอบช้ำทั้งที่เมื่อวานเป็นเขาเองที่ทำให้ร่างกายของเธอต้องบอบช้ำและมีร่องรอยป่าเถื่อนเต็มไปหมด
หลังจากจบบทรักอ่อนหวานนุ่มนวลที่สุดที่เธอเคยได้รับจากเขา คนที่เธอไม่คิดว่าเขาจะพูดอะไรแบบนี้กับคนไร้ค่าเช่นเธอกลับพูดบางประโยคกับเธอพร้อมกับกอดเธอไว้แนบอกเปลือยเปล่าของเขา
“คนบางคนแม้ว่าเราจะทำดีกับเขาขนาดไหนเขาก็ไม่เห็นค่าของเราหรอก เพราะฉะนั้นต่อจากนี้ก็ต้องหันมารักตัวเองให้มากๆ เก็บเรื่องดีๆ ไว้เป็นความทรงจำก็พอ ส่วนเรื่องร้ายๆ ที่ผ่านมามันก็แค่ช่วงหนึ่งของชีวิต มีผ่านเข้ามาแต่เดี๋ยวมันก็ผ่านไปอย่าไปคิดถึงมันให้ตัวเองทุกข์ใจ เธอต้องเข้มแข็งให้มากกว่านี้ โลกใบนี้ไม่ได้เลวร้ายแบบที่เธอคิดถ้าเธอเลือกใช้ชีวิตให้มันถูก แต่มันก็ไม่ได้สวยงามอะไรนักหรอกนะแม้ว่าเธอจะเลือกทางเดินที่เธอคิดว่ามันถูกต้องแล้วก็ตาม”
นี่เขากำลังพูดให้เราเข้มแข็งเรื่องของแม่ใช่ไหม เธอได้แต่คิดอยู่ในใจแล้วกอดตอบเขาแน่นเพราะตอนนี้เธอรู้สึกอ้างว้างเดียวดายเหลือเกิน อย่างน้อยก็ยังมีอ้อมกอดนี้ที่ให้ความอบอุ่นกับเธอในตอนนี้ เธอหวังว่าพรุ่งนี้ตอนตื่นขึ้นมาความอบอุ่นที่เขามีให้จะไม่ใช่แค่เพียงความฝัน
วันต่อๆ มาเธอก็กลับไปทำงานเป็นผู้ช่วยเลขาให้เขาตามปกติถึงแม้ว่าเธอจะต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่คิดเรื่องของแม่ระหว่างที่ทำงานอยู่ก็ตามเพราะเธอรู้ว่าอย่างน้อยแม่ของเธอก็คงจะสบายดีจากเงินจำนวนมากที่แดเนียลให้ไป เมื่อคิดถึงเรื่องแม่จนไปถึงเรื่องของผู้ชายที่นั่งทำงานห้องเดียวกันกับเธออยู่ตอนนี้เธอก็อดที่จะลอบมองเขาไม่ได้เพราะตั้งแต่คืนนั้นที่เขาอ่อนโยนกับเธอ คืนต่อๆ มาเขาก็ยังคงอ่อนโยนกับเธอแม้ว่าทั้งคำพูดและสีหน้าท่าทางจะยังคงเย็นชาเหมือนเดิมก็ตามนั้นจึงทำให้เธอลบภาพความป่าเถื่อนที่เขาขืนใจเธอวันนั้นไปจนสิ้นแม้ว่าเขาจะไปเคยเอ่ยคำว่าขอโทษหรือแม้แต่พูดถึงเหตุการณ์วันนั้นอีกเลยก็ตาม
วันนี้เป็นวันอาทิตย์ที่เธอนั้นอยู่ที่คอนโดมิเนียมกับเขาเพราะวันหยุดเสาร์อาทิตย์นี้เธอไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์เหมือนอย่างเคย โดยเหตุผลหลักๆ คือทั้งคุณผู้หญิงและคุณผู้ชายนั้นยังไม่กลับมาจากไซบีเรียและอีกเหตุผลหนึ่งก็คือถ้าเธอกลับไปที่นั่นเธอจะต้องคิดฟุ้งซ่านเรื่องของแม่อีกแน่ๆ เพราะทั้งแม่เธอและเธอนั้นได้อาศัยอยู่ที่คฤหาสน์หลังนั้นด้วยกันมาถึงสี่ปีเต็ม
“ทำอะไร”
“ฉันว่าจะลองทำน้ำสตรอเบอร์รี่บีทรูทสมูทตี้ให้คุณลองดื่มน่ะค่ะ” เธอตอบเจ้าของเสียงทุ้มที่เดินมาโอบเอวเธอจากด้านหลังระหว่างที่เธอกำลังหั่นบีทรูทเป็นชิ้นเล็กๆ เพื่อที่จะนำไปต้มให้สุกง่ายๆ เสร็จแล้วจะได้นำไปปั่นเพื่อคั้นเอาแต่น้ำแล้วนำไปปั่นรวมกับสตรอเบอรรี่แล้วก็ส่วนผสมอื่นๆ ที่เตรียมไว้อีกที
“อืมหอม น่าจะอร่อย” คนเพิ่งมาถึงเอ่ยปากชมพร้อมทั้งซุกจมูกคมสันไปตรงซอกคอของคนที่กำลังทำหั่นบีทรูทอยู่ ยิ่งตอนนี้หญิงสาวมัดผมรวบสูงยิ่งทำให้เขาสูดดมกลิ่นหอมจากซอกคอของเจ้าตัวได้อย่างสะดวกกว่าเดิม
“อร๊าย เดี๋ยวค่ะคุณแดเนียลฉันจั๊กจี้” คนโดนก่อกวนร้องบอกพลางย่นคอหนีจมูกโด่งๆ ของเขา
“อยากกินแล้ว”
“คุณเพิ่งทานข้าวกลางวันไปเองนะคะ ต้องรออีกสักพักนึงเลยค่ะกว่าจะเสร็จ”
“จะกินนมไม่ได้จะกินสมูทตี้” พูดจบคนปากว่ามือถึงก็แหวกสาบเสื้อคลุมของหญิงสาวออกแล้วใช้มือทั้งสองข้างบีบ***************เบาๆ
“เดี๋ยวค่ะ” คนโดน*************รีบปล่อยมือจากการหั่นบีทรูทและเปลี่ยนมาตะครุบฝ่ามือหน้าทั้งสองข้างทันที
“อะไร” คนโดนขัดจังหวะถามขึ้นอย่างขัดใจ
“ไปในห้องได้ไหมคะ” จนถึงตอนนี้เธอรู้ดีว่าคนที่เข้ามากอดเธอจากทางด้านหลังนั้นต้องการอะไรและเธอก็พร้อมจะสนองเขาเพียงแต่ว่าเธอยังไม่พร้อมที่จะให้เขาทำอะไรเธอตรงนี้
“ทำไม” คนหิวถามคลอเคลียอยู่ข้างใบหูขาวสะอาด
“ตรงนี้มันสว่าง” หลังจากเธอตอบออกไปร่างของเธอก็โดนคนด้านหลังจับหันไปหาเขาจากนั้นก็โดนประกบจูบลงมาอย่างไม่ทันตั้งตัวจนเธอแทบละลายกับจูบอ่อนหวานที่แสนเอาแต่ใจนั้นของเขา
“เลิกอายได้แล้ว เธอสวยมาก” พูดจบเขาก็อุ้มเธอจากเคาน์เตอร์ทำอาหารไปนั่งบนโต๊ะทานข้าวที่อยู่ใกล้ๆ แทนจากนั้นก็ประกบจูบดูดดื่มกับเธออีกครั้ง พร้อมกับมือทั้งสองข้างของเขาที่ค่อยๆ ดึงชุดคลุมของเธอให้ออกจากร่างอย่างใจเย็น
“แต่ว่า” คนโดนปลุกเร้ายังคงอิดออด ไม่ใช่เพราะว่าเธออายที่จะต้อง******เขาตอนกลางวันแสกๆ เพราะที่ผ่านมาแต่กระทั่งตอนกลางคืนเขาก็ไม่เคยปิดไฟทำกับเธอเลยสักครั้ง แต่หลังจากวันนั้นที่เขาทำเนื้อตัวเธอเป็นรอย เธอก็ได้ร้องขอกับเขาให้ปิดไฟเวลาเขาจะทำอะไรกับเธอเพราะเธออายร่องรอยราคีอันป่าเถื่อนบนตัวเธอแม้ว่าจะเกิดจากน้ำมือของเขาก็ตาม แต่เขาก็ยังเป็นเขาคนที่เอาแต่ใจชายหนุ่มจึงทำเพียงแค่เปิดไฟหรี่ที่แสงสลัวเวลาทำอะไรกับเธอ ไม่ได้ปิดไฟมืดสนิทแบบที่เธอร้องขอแต่นั้นเธอก็ถือว่าดีมากแล้ว แต่ถ้าเขาจะทำอะไรกับเธอตรงนี้ตอนนี้เขาจะต้องเห็นร่องรอยนั้นอย่างชัดเจนอีกแน่ๆ
********************************
********************************
********************************
“เธอสวยมาก สวยจนฉันแทบคลั่ง เลิกอายได้แล้ว” ********************************************************************************************************************************************จนคนที่ไม่เคยโดนคนตรงหน้าชมว่าสวยหรือพูดจากคล้ายออดอ้อนด้วยคำพูดหวานหูเช่นนี้มาก่อนใจอ่อนและยอมตามใจเขาตรงนี้อย่างที่เขาต้องการ
****************
****************
****************
****************
****************
****************
****************
เขาสร้างความมั่นใจให้กับคนที่ยังคงเขินอายเป็นบางครากับร่องรอยรักสีกุหลาบบนตัวเธอด้วยคำพูดหวานหูเพราะสำหรับเขาร่องรอยเหล่านั้นไม่ได้น่าเกลียดเลยสักนิด ตรงกันข้ามมันกลับ*********ของเขาที่มีต่อเธอให้มากขึ้นกว่าเดิมสุดท้ายแล้วหญิงสาวก็เลิกปิดเลิกบังร่างกายตัวเองและเธอก็คล้อยตามเขาอย่างอ่อนหวานและ******เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา
พลอยไพลินตามใจชายหนุ่มเหมือนเช่นทุกครั้งที่เขาต้องการแต่ดูเหมือนว่าจะมีสิ่งหนึ่งที่เปลี่ยนไป สิ่งหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะต่างไปจากเดิมนั่นก็คือใจของเธอที่เต็มใจจะมอบความสุขให้เขาเพียงเพราะเขาพูดจาหวานหูกับเธอไม่กี่ประโยค ใจของเธอก็ดูเหมือนว่ามันจะได้รับการเยียวยาและมีความสุขอย่างมากเวลาที่เขาโอบกอดใกล้ชิด
+++++วันนี้มาอัพให้สองตอนค่า จะได้ไม่ค้าง+++++
+++++ตอนนี้ใกล้จะหมดโควต้าอัพให้อ่านเป็นตัวอย่างแล้วนะคะ+++++
แบบไม่ตัดอยู่ใน E-book นะค้าาาา
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ
