ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Nueve Cuatro Tres!

    ลำดับตอนที่ #9 : Tales from Reverie 3: พ่อมดมหาภัย 1.1

    • อัปเดตล่าสุด 27 ก.ย. 51


              แสงอาทิตย์ฤดูใบไม้ผลิแผดเผาร้อนแรงยังให้ความอบอุ่นแล่นไปทั่วกาย อากาศเจือด้วยกลิ่นหญ้าเขียวสดและดอกไม้ชวนให้เคลิบเคลิ้มไปในภวังค์ พื้นหญ้าที่สัมผัสกับแผ่นหลังยิ่งเป็นประดุจบทเพลงขับกล่อม สติสัมปชัญญะทั้งหมดดูจะถูกความนุ่มละมุนของสิ่งรอบข้างดึงให้เลือนหาย พลันของเหลวอุ่นๆก็เหมือนจะถูกรินใส่ปากให้กลืนลงสู่ท้อง ความร้อนจากเครื่องดื่มแผ่ซ่าน พลังอำนาจแห่งอิสระเสรีกลับคืนสู่ร่างกายของเขา

     

                ดวงตาที่ปิดสนิทเปิดหรี่เพื่อให้คุ้นชินกับสภาพแสง มันสว่างจ้าอย่างที่เขาคุ้นเคย สภาพแสงตะวันแบบนี้คงไม่ใช่ที่ไหนอื่นไกลนอกจากเนฟัลธอส สัมผัสรอบข้างก็คงจะเป็นทุ่งหญ้าที่ไหนสักแห่ง ไม่ก็สวนเมเนลสักสวนในเมือง แต่ที่แน่ๆย่อมไม่ใช่สวนชั้นในสุดเพราะที่นั่นมีมหาวิหารสองแห่งขนาบบวกกับปราสาทเนฟัลธอสตระหง่านอยู่เป็นศูนย์กลาง อีกทั้งต้นไม้ก็สูงใหญ่กว่าสวนอื่น จึงย่อมต้องทอดเงาบดบัง ส่งผลให้แสงแดดที่สวนชั้นในสุดไม่มีทางเจิดจ้าได้ขนาดนี้

     

                ภาพเลือนๆเริ่มชัดเจนขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป ซึ่งความแจ่มชัดตามปกติเป็นเครื่องยืนยันว่าแว่นตาทรงเหลี่ยมกรอบสีดำยังคงอยู่บนดั้งจมูก เขายกมือขึ้นจัดตำแหน่งแว่นก่อนดันกายขึ้นนั่งอย่างเชื่องช้า ศีรษะปวดตุบจากอุบัติเหตุในท้องพระโรงพาให้การรับรู้ค่อนไปทางมึนงง

     

                ทันทีที่ระบุตำแหน่งตนได้ ก็ต้องอุทานลั่นในใจ

     

                นี่ไม่ใช่ทุ่งนอกเมือง...นี่มันสวนเมเนลที่พระมหาคูบัวปักกลดอยู่ต่างหาก! เห็นได้ชัดว่าที่อยู่ไกลออกไปคือเขตตลาด และกลดหักๆที่ปักไว้บังหน้าของท่านพระครูก็อยู่ในระยะการมองเห็น ห่างจากจุดที่เขาอยู่ไม่เกินห้าสิบเมตร

     

                ท่านวีเบิร์ตเป็นอะไรหรือเปล่าคะ เสียงหวานที่ไม่อาจระบุตำแหน่งเอ่ยถาม ทำให้นายวีเบิร์ตต้องตื่นตกใจเพราะเขาลืมเหตุผลในการมาที่นี่ไปสนิทเสียแล้ว ดวงตาหลบมองพื้นหญ้าด้วยความรู้สึกประหลาด พลันรองเท้าส้นสูงที่ดูคล้ายจะมีสายหนังสีขาวพันโดยรอบก้าวเข้ามา ก่อนที่เจ้าของร่างจะย่อตัวลง มือหนึ่งเอื้อมตรวจสอบบาดแผลที่ศีรษะของชายหนุ่ม

     

                อา...ถ้านี่คือสวรรค์สมชื่อ คนคนนี้ก็คงเป็นนางฟ้า นายปานาส วีเบิร์ต แทบจะลืมหายใจ

     

                ดวงหน้ามนงดงามรูปไข่ดูนุ่มนวลน่าทะนุถนอม เส้นผมสีน้ำตาลเข้มเกือบดำม้วนเป็นลอนใหญ่ปัดมาด้านหน้าสองข้าง ดวงตากลมโตเป็นประกายสีเทา ไม่สิ สีน้ำตาลอมเขียว สีเฮเซล จมูกโด่งรั้น และริมฝีปากสีชมพูอ่อนเหมือนเด็กทารกยิ่งทำให้สตรีตรงหน้าดูอ่อนหวาน ทว่าเมื่อเธอละสายตามามองเขาอย่างสงสัย เขาก็มอบความสงสัยกลับไปด้วยเช่นกัน

     

                แม้จะสวยหวานขนาดนี้ ทำไมเขาถึงคิดว่าเธอเหมือนเต่าไปได้กันนะ

     

                สาวน้อยคลี่ยิ้มแหยๆ กระนั้นดวงตากลมโตของเธอก็แทบปิดสนิท ขอโทษทีนะคะท่านที่ฉันในร่างแปลงร่วงลงมาอย่างนั้น พอดีฉันยังไม่ค่อยแม่นเรื่องจุดปลายทางเท่าไหร่ ต้องขอโทษด้วยจริงๆค่ะ

     

                ม-ไม่เป็นไรครับ คำพูดของปานาสเริ่มตะกุกตะกักไม่ต่างกับความคิดตามลำดับขั้นตอนที่ปัจจุบันอยู่ในสภาพรถไฟตกราง เขาไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดีนอกจากทำตัวนิ่งๆแข็งทื่อไว้ก่อนเป็นยอดดี พละกำลังทั้งหมดทุ่มเทไม่ให้ดวงตาเหม่อลอยเวลาจับจ้องไปที่เธอ

     

                แต่ เฮ้ ตะกี้น่ะ เดี๋ยวนะครับ ไม่ใช่ว่าคุณเป็น...

     

                แม่มดหมายเลขสิบหก ผู้มีอำนาจเหนือสรรพสัตว์ วริธาน เลอโวซ์ ยินดีที่รู้จักค่ะ รอยยิ้มงดงามดูราวจะเปล่งประกาย ท่านธาซูเอล บูเค่อ เกษียณตัวท่านเองออกจากตำแหน่งไปเมื่อสองปีที่แล้วน่ะค่ะ ฉันเลยมารับตำแหน่งนี้แทน

     

                เหรอครับ... นอกจากชื่อ นามสกุล ตำแหน่ง ก็ไม่ได้สนใจจะเก็บรายละเอียดอย่างอื่นต่ออีก ความสามารถและปัญญาของเขาเลอะเลือนดังถูกวางยาพิษ วริธาน เลอโวซ์ ชื่อคุณเพราะจัง

     

                ขอบคุณค่ะ สาวน้อยวริธานตอบรับตามมารยาท เธอตัดสินใจรวมกระโปรงสีขาวนั่งขัดสมาธิลงตรงหน้าเขา สายตามองแต่เพียงหน้าปัดนาฬิกาสีเงินที่ไม่มีเข็มหรือตัวเลขใดๆปรากฏ ฉันก็ได้ยินชื่อคุณมานานเหมือนกันค่ะ ปานาส วีเบิร์ต ผู้ครอบครองเวทแห่งปัญญา พ่อมดหมายเลขยี่สิบแห่งลอสสอธ

     

                แค่ได้ยินชื่อตัวเองจากปากของเธอก็ดูจะส่งอิทธิพลให้นายผู้ครอบครองเวทแห่งปัญญา(อ่อน)แทบจะละลาย เจตนาที่แท้จริงของผู้ส่งสารจะเป็นอะไรก็ช่างมันเถิด

     

                น่ารักเหลือเกิน... สติล่องลอยจนหลุดปากพูดสิ่งที่คิดในใจออกมา

     

                อะไรนะคะ?!” หญิงสาวเบิกตาโพลงพร้อมอุทานด้วยความไม่เชื่อหู หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใสเจื่อนลงทันทีเพราะเสียขวัญกับรอยยิ้มกว้างแบบฝันๆล่องลอยใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัวที่เริ่มปรากฏชัดบนใบหน้าของปานาส ทำให้วริธานต้องลอบส่งสายตามองด้วยความหวาดหวั่น สาวน้อยพยายามข่มอารมณ์หงุดหงิดและอื่นๆอีกมากมายที่เริ่มปะทุ เหลือบมองหน้าปัดนาฬิกาสีเงินว่างเปล่าสลับกับชายหนุ่มหมายเลขยี่สิบสลับกันไปด้วยความกระวนกระวาย

     

                ทันใดก็ราวกับสวรรค์ทรงโปรด หรือบางทีอาจเป็นนรก ตัวอักษรสีดำโผล่ขึ้นบนพื้นที่ปราศจากตัวอักษร ดูดแสงเรืองรองของนาฬิกาสีเงินจนสิ้น มันปรากฏอยู่ราวสามวินาทีก่อนจางลง เรียงกันไปเป็นรหัสสั้นๆที่ชวนให้ใจหาย

     

                18 : 00

     

                แล้วอย่างนี้จะให้แปลความว่าอย่างไรได้...

     

                ครั้นรวบรวมสมาธิสำเร็จ สาวน้อยตัดสินใจทันที เรากลับไปที่ปราสาทกันเถอะค่ะท่านวีเบิร์ต วริธานแสร้งยิ้มกว้าง แล้วจับมือหนาของชายผู้ไร้สติไว้แน่น เธอหลับตาลงรวมรวมสมาธินึกถึงจุดหมายปลายทาง แต่สมาธิกลับถูกสัมผัสหนักๆขัดขวาง ดวงตาสีเฮเซลลืมขึ้น เห็นว่าบุรุษหมายเลขยี่สิบเอื้อมมือมาแตะไหล่

     

                ปานาสยิ้มตาเยิ้มชวนขนลุก ผมทำเองดีกว่า

     

                ทว่าการกระทำที่เจ้าตัวหมายสร้างความประทับใจกลับประดุจอัญเชิญปีศาจจากใต้พิภพเข้าครอบงำภาพลักษณ์ของนายปานาสต่อแม่มดมือใหม่โดยเบ็ดเสร็จ วริธานสวดมนต์เป็นภาษาแปลกๆที่อีกฝ่ายฟังไม่เข้าใจ แต่กระนั้นก็ฟังคุ้นอยู่เพราะท่านพระครูหมั่นสวดกรอกหูให้เขาฟังเป็นประจำทุกสัปดาห์

     

                สายลมพัดพลิ้ว...

     

                และสวนเมเนลที่เคยว่างเปล่านั้นก็ปราศจากผู้คน ชาวลอสสอธทั้งสองหายไปอย่างไร้ร่องรอย

     

    ø

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×