ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Nueve Cuatro Tres!

    ลำดับตอนที่ #14 : Interlude-My Graceful World [2/5]

    • อัปเดตล่าสุด 31 ต.ค. 51


    พรุ่งนี้สอบความถนัดแพทย์...วันนี้โดดเรียน

    เขียนอินเท่อรหลูดเพิ่มมานิดนึง เพิ่มตอนใหม่ในไหดองอันเข้มข้น

    อ่านแล้วอาจไม่เข้าใจ ไม่รู้ว่ากล่าวถึงอะไร ก็ช่างมันเหอะ
    คือ ตัวเนื้อเรื่องไม่มีทางอ้างถึงเรื่องในตอนนี้ได้เลย ฮ่าๆๆ

    มันก็เลยเป็นเพียงInterlude...ที่อาจช่วยให้เข้าใจเรื่องได้มากขึ้น(หรือน้อยลง)เท่านั้นล่ะครับ

    เชิญชม

    ------





    I

    โลกของฉัน...เป็นโลกที่สวยงาม

    ครั้นมองรอบตัวยลพฤกษา ยั่งยืนสง่าสีเงิน ทอง ขาว เรืองรัศมีพราววับวาม งดงามด้วยผืนพรมผลึกหิมะ เหนือยอดไม้มีตะวันเจิดจ้า

    กระนั้น...ระหว่างกิ่งสาขากลับมืดมิด ด้วยพิษร้ายแห่งคำสาป กำราบฤทธิ์ชนเผ่าแห่งแสง มิให้ร้อนแรงเฉกอาทิตยา มนตราถูกสะกดกั้น ด้วยขอบขัณฑ์แดนดิน อันเป็นสินลือค่า -- ผืนพนาที่ได้รับการอำนวยพระพรจากสรวงสวรรค์

    โลกของฉัน...เป็นโลกที่สวยงาม -- ฉันเคยคิดอย่างนี้เมื่อนานแสนนานมาแล้ว เพราะโลกของฉันมีเพียงผืนป่า โลกของฉันมีเพียงเพื่อนพ้องของฉัน โลกของฉันไม่มีการเจ็บ การตาย ไม่มีโลภ โกรธ หลง หรือเกลียดชัง -- โลกของฉันมีแต่ความงดงาม โลกของฉันจึงเป็นโลกที่สวยงาม

    ฉันใช้ชีวิตในโลกของฉัน...เนิ่นนาน...จนไม่คิดว่าภายนอกมีโลกของคนอื่นอยู่ด้วย ฉันไม่รู้ว่าโลกของคนอื่นเป็นอย่างไร เพราะเพื่อนพ้องของฉันบอกไว้เพียงว่า ใครก็ตามที่ออกไปยังโลกของคนอื่นจะไม่มีวันได้กลับมา...ฉันไม่อยากจากโลกของฉันไปก็จริง แต่ฉันก็ไม่อยากอยู่แต่ในโลกของฉันหรอก หากโลกของคนอื่นยังต้องการความสามารถของชนเผ่าแห่งแสงอย่างฉัน

    ฉันรักเพื่อนพ้องของฉัน ขณะเดียวกันก็กระหายใคร่รู้ว่า โลกของคนอื่นจะงดงามเช่นโลกของฉันหรือไม่

    ฉันพอเดาได้ว่า โลกของคนอื่นย่อมไม่งดงามอย่างโลกของฉันแน่ ฉันอยากช่วยเหลือให้โลกของคนอื่นงดงาม ฉันอยากทำให้ทุกคนทั้งในโลกของฉันและโลกของคนอื่นมีความสุข

    แต่ฉันออกไปไม่ได้ -- ชนเผ่าแห่งแสงออกไปจากโลกของเราไม่ได้

    ...เว้นแต่ว่า ฉันจะไม่ใช่ชนเผ่าแห่งแสงอีกต่อไป...

    ------

    II

    หยาดน้ำค้างสีเงิน...ร่วงหล่นจากใบสีทอง

    ไหลลงจากความเรืองรอง

    ลงสู่ครรลองเยือกเย็น


    ฉันมองลงไปในลำธาร อยากรู้ว่าหมู่ปลาที่แหวกว่ายเหล่านี้เกิดมาจากไหน อยากรู้ว่าหมู่ปลาที่แหวกว่ายเหล่านี้จะว่ายวนถึงแห่งใด


    มัจฉาในสายชล...เคยเร้นกายหลังโขดหิน

    พลัดพรากยาวไกลจากถิ่น

    สู่แดนดินที่เพรียกหา

    เจ้าปลาน้อย...เจ้าจักไปยังแห่งใด

    โปรดบอกข้าทีได้ไหม

    หากได้หวนคืนสักหน


    ฉันมองลงไปในลำธาร เห็นภาพสะท้อนของตนบนผิวน้ำที่ไม่เคยหยุดนิ่งแม้อากาศจะหนาวเย็นเพียงใด ฉันเห็นดวงตาสีขาวสดใสเปล่งประกาย ฉันเห็นร่างสีเงินยวงทอแสงนวลดังจันทรา...ฉันสงสัยว่าชนเผ่าอื่นๆจะเป็นเช่นไร


    ชนเผ่าแห่งแสง...ร่วงหล่นจากสรวงสวรรค์

    สายนทีรินหลั่งทุกคืนวัน

    ตราบนิรันดร์ข้าจำรอคอย

    คำสาป...พร่างพร้อยมนตราทั่วทิศ

    ทวยเทพยดาผู้หลงผิด

    แม้นคิดดูแล้วฤๅไฉน


    ฉันไล่สายตาตามลำธารไป แต่มองเห็นเพียงความมืดมิด โลกของฉันสวยงามก็จริง แต่การปิดกั้นตนจากภายนอกทำให้ฉันกังวลกับโลกของฉันขึ้นทุกวัน -- ฉันไม่เคยรู้จักความทุกข์ เพราะสถานที่สวยงามเช่นนี้ไม่เคยมีมันปรากฏ

    แต่บัดนี้ความทุกข์กลับกล้ำกรายในจิตใจของฉัน...ความทุกข์เพราะรู้ว่า คงอีกไม่นาน โลกของฉันใบนี้จักพังพินาศลง หากชนเผ่าแห่งแสงทุกคนพึงพอใจแต่ความสุขของตนเอง แล้วละทิ้งโลกของคนอื่นไว้ภายนอกนั้น

    ฉันจะมีความสุขได้อย่างไร หากรู้ว่าโลกของคนอื่นยังมีแต่ความทุกข์เศร้า ฉันจะมีความสุขได้อย่างไร หากโลกของฉันยังงดงามด้วยมนตราอันเป็นคำสาป...คำสาปมิให้ฉันได้ออกไปจากที่นี่ แล้วทำให้โลกของคนอื่นได้มีโอกาสงดงามบ้าง

    คำสาปที่ไม่เปิดโอกาสให้ชนเผ่าแห่งแสงคนใดได้ออกจากดินแดนที่ได้รับการอำนวยพระพรจากสรวงสวรรค์ เพื่อสร้างสรรค์ความดี

    ...เพื่อลบล้างคำสาปที่มีไปตลอดกาล...


    ผองผู้มิวายชนม์...วันหนึ่งจงเดินทางไป

    แสวงหาโลกหล้าใบใหม่

    ละทิ้งพงไพรงดงาม

    สู่แดนดิน...เปี่ยมล้นซึ่งไฟสงคราม

    ม่านควันปกคลุมเขตคาม

    ทุกยามไร้สุขทุกข์ตรม


    ฉันได้แต่มองไปในลำธาร มองฟากฟ้าสีคราม มองทัศนียภาพรอบตัวสีดำมืดมน

    ฉันไม่รู้ว่าลำธารสายนี้จะไหลไปถึงที่ใด เพราะดวงตาฉันไม่อาจมองผ่านม่านหมอกคำสาปมืดมิดนี้ไปได้ด้วยแสงเรืองรองของหมู่พฤกษชาติ

    ฉันรักโลกของฉัน...ฉันรักเพื่อนพ้องของฉัน -- ฉันก้าวเดินเลียบลำธารไปเรื่อยๆ...ยาวไกล...นานนัก...ผ่านเพื่อนพ้องหลายคนที่เอ่ยถาม แต่ฉันก็ไม่ตอบกระไร

    ฉันก้าวเดินต่อไป จนลำธารไหลแรงขึ้น และใหญ่ขึ้น ฉันเลิกมองลงไปในลำธารแล้ว ฉันมองแต่ทิศทางที่จะเดินไปข้างหน้าเท่านั้น

    อา...โลกของฉัน...โลกของฉันช่างแสนสวยงาม...ฉันคิดเช่นนี้อยู่ตลอดเวลาที่ย่างผ่านผืนป่า

    ความมืดมิดยังปกคลุมรอบตัว

    ดวงอาทิตย์ยังเจิดจ้าเหนือศีรษะ

    ...แต่เสียงกรีดร้องที่ไม่เคยได้ยินมาก่อนในชีวิตกลับแว่วดัง...

    เสียงโหยหวนนั้นใกล้เข้ามาทุกที -- ฉันยังคงเดินไปข้างหน้า

    ฉันก้าวเดิน...เดิน...เดิน...พยายามไม่สนใจเสียงร้องที่ไม่เคยได้ยินนั้น

    "ท่านขอรับ...ช่วยข้าด้วย" ใครคนหนึ่งเรียกฉันผ่านความมืดมิด

    ฉันเดินเข้าไปหา มองตรงไปข้างหน้า...เห็นคนจากชนเผ่าจากโลกข้างนอกค่อยๆล้มลงทั้งยืน

    ของเหลวสีแดงข้นที่เจิ่งนอง รินผ่านผลึกหิมะลงสู่ลำธารใหญ่

    ฉันเห็นแท่งไม้เล็กๆสีดำสองแท่งปักอยู่กลางแผ่นหลังของคนแปลกหน้า ฉันไม่รู้ว่ามันคือสิ่งใด แต่ฉันไม่กล้าแตะต้องมัน

    เมื่อฉันไม่รู้ว่าควรทำเช่นไร ฉันจึงเดินต่อไป...วิ่งต่อไป...ผ่านลำน้ำใหญ่

    เดินต่อไป...ไปข้างหน้า...จนกว่าความมืดมิดจะไม่มืดมิดอีกต่อไป

    ------

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×