คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : (sf) golden babyboy (1/100)
golden retriever
"ชานยอลต้องไปอยู่ที่อื่นแล้วนะ"
"โฮ่ง!"
"ชานยอล ไม่เอา"
เสียงแกมดุจากเจ้านายผู้เป็นที่รักทำหัวใจดวงน้อยๆของสัตว์สี่เท้าแสนซื่อสัตย์ฟีบเล็กลงราวกับถูกบีบ มันรับรู้แม้จะไม่ได้เจนจัดภาษามนุษย์หากทว่าแววตาของคนตรงหน้าก็สื่อสัมผัสได้อย่างชัดเจนว่าอีกไม่นานตัวของเขาเองนั้นกำลังจะโดนทิ้ง .. ชานยอลโตขึ้นเรื่อยๆ ไม่ได้น่าตาน่ารักตัวกลมอุ้มได้เหมือนตอนเด็กแล้ว ขนที่ยาวเฟื้อย ชอบทำตัวปัญญาอ่อนสร้างปัญหา และคดีล่าสุดที่ก่อไว้เพราะผมเองกำลังจะช่วยเจ้านายจากขโมยงัดบ้านแท้ๆแต่เหมือนความเห็นของสุนัขและมนุษย์นั้นจะไม่ตรงกัน
สี่เท้าย่ำเดินวนรอบกายหญิงวัยกลางคนอย่างออดอ้อน .. อย่าทิ้งชานยอลไปนะ อย่าทำแบบนั้น ชานยอลขอโทษ จะไม่ทำอีกแล้ว .. เห่าโฮ่งๆเป็นภาษาสุนัขทั้งยังงับเรียวน่องเบาๆบอกกล่าวหากทว่าทั้งโดนสะบัดและง้างมือข้างขวาขึ้นเตรียมฟาดอย่างโทสะ
"ชานยอล!!"
"หงิง .."
ครางเสียงอ่อนอย่างจำยอม คอหดเล็กลงพร้อมทั้งกระดิกหางสั่นอย่างเชื่องช้า หลังๆมานี้ไม่ว่าชานยอลจะทำอะไรก็ดูจะขัดหูขัดตาเจ้านายไปเสียหมด ทั้งๆที่ตอนเป็นเด็กแม้ชานยอลจะเคยวิ่งชนตู้แตกก็ยังไม่เคยดุเลยสักครั้ง มีอะไรเปลี่ยนไปหรอ .. ทำไมเจ้านายไม่รัก ไม่กอดหอมชานยอลเหมือนเดิม
สายจูงถูกดึงให้ตึงขึ้นมากกว่าเก่า .. คู่สามีภรรยาคู่หนึ่งที่เดินลงจากรถเก๋งสีขาวยิ้มร่าอารมณ์ดีมาแต่ไกลหากทว่าดูแล้วก็ใจหวิวแปลกๆ ญาติเจ้านายหรอ ไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเลย ชานยอลควรจะเห่าดีหรือเปล่า ถ้าเห่าจะโดนตีอีกมั้ย
เกิดคำถามแบบฉบับสุนัขภายในหัวโกลเด้นท์ รีทรีฟเวอร์ วนไปวนมา ได้แต่ชะเง้อคอมองผู้มาเยือนคนใหม่อย่างนิ่งๆ เพราะถ้าซนมากไปอาจจะโดนดุมากกว่าเดิมอีกก็ได้
"น่ารักกว่าในรูปนะคะเนี่ย"
"โฮ่ง! "
"ชานยอล"
สีหน้าบอกบุญไม่รับของสุนัขวัยหนุ่มนั้นไม่ได้เป็นปัญหาแก่หญิงมาใหม่คนนั้น .. เธอยิ้มรับอย่างอ่อนโยนก่อนจะขอลองจูงชานยอลดูบ้าง
ทำไมล่ะ .. ทำไมต้องทำเหมือนกับจะขายชานยอลไป ไม่จริงน่า..ชานยอลอยู่กับเจ้านายมาตั้งเล็กๆเลยนะ เจ้านายรักชานยอลมาก ชานยอลก็รักเจ้านาย ไม่มีวันหรอก ไม่มีวันเป็นแบบนั้น
"ถ้าไม่มีปัญหาอะไร งั้นขอพาน้องกลับเลยนะคะ"
"โฮ่งๆ!!"
เขี้ยวขาวเริ่มแยกโชว์เด่นหรายามเมื่อโดนจูงจากคนแปลกหน้า .. อันที่จริงสิ่งที่ชานยอลจินตนาการเอาไว้ก็ถือว่าถูกต้องทุกประการ เธอขายชานยอลผ่านเว็บไซต์ออนไลน์เว็บไซต์หนึ่งเพราะรู้สึกว่าเลี้ยงดูแลและรับภาระต่อไปไม่ไหว ค่าใช้จ่ายที่พอๆกับค่าเลี้ยงดูตัวเองนั้นทำให้ตัดสินใจไม่ยากถ้าจะปล่อยมันให้ไปอยู่กับคนที่เลี้ยงต่อได้แม้จะมีเยื่อความผูกพันห่วงใยที่คอยป้อนข้าวป้อนน้ำมาตั้งแต่เล็กก็ตาม
"ชานยอล อย่าทำแบบนี้"
"โฮ่ง!!"
เจ้านายของเขารับเชือกต่อจากลูกค้า .. เธอพยายามฉุดกระชากลากสุนัขตัวใหญ่ให้เดินตามเพื่อขึ้นรถเก๋งคันใหม่เอี่ยมคันนั้นหากทว่าก็สะบักสะบอมเละเทะเพราะชานยอลเองก็ดิ้นสุดแรงเกิด
ก่อเกิดความกลัว ความวุ่นวายในจิตใจ ตอนนี้ตัวชานยอลเองเริ่มรู้สึกไม่ปลอดภัยเลยสักนิด แม้กระทั่งคนที่รักและไว้ใจที่สุดก็กลับประเคนตัวเขาไปให้กับคนอื่นโดยไม่แม้แต่จะพูดจะคุยด้วยดีๆ ใช้แต่กำลังขู่เข็ญ .. ผู้คนเดินผ่านไปมาเหลือบมองโกลเด้นท์ในภาพลักษณ์สุนัขใจดี ฉลาด คราวนี้กลับกลายเป็นหัวดื้อหัวรั้นต่อต้านดิ้นรนให้หลุดออกจากพันธนาการ ชานยอลจะไม่เชื่อใจใครอีกต่อไป ชานยอลจะไม่เชื่ออีกแล้ว!
ไม่นานนักสายจูงก็หลุด .. ตัวใหญ่ๆของสัตว์สี่เท้าเซตามแรงเหวี่ยงก่อนจะได้สติวิ่งหนีกระเจิงออกไปจากตรงนั้นทันควัน .. เสียงร้องเรียกไล่ตามยังด้านหลังแต่ก็สามารถหยุดรั้งชานยอลเอาไว้ได้
เสียใจมากๆเลยนะ.. ทำไมทำกันแบบนี้
*
"ฝนจะตกแล้วครับหมอ"
"เอ้า งั้นเดี๋ยวกลับกันก่อนเลยครับ ผมอยู่แทนเอง"
"ขยันจัง งั้นผมขอตัวเลยนะครับ"
กายสูงของเด็กฝึกงานในยูนิฟอร์มสีฟ้าอ่อนประจำคลีนิครักษาสัตว์ที่ใหญ่ที่สุดใจกลางเมืองเอ่ยด้วยน้ำเสียงนอบน้อม .. ใครๆต่างก็รู้ว่าฉายาทั้งความน่ารักใจดีแถมยังเรียนเก่งคงหนีไม่พ้นคุณหมอแบคฮยอน สัตวแพทย์หนุ่มน้อยที่เปรียบเสมือนกับดอกไม้แสนสวยชวนให้มองกระชุ่มกระชวยหัวใจทั้งลูกค้าและคนที่ทำงานร่วมกัน
กลิ่นหอมอ่อนๆจากโลชั่นเด็กที่โชยออกมาทุกครั้งยามเดินผ่าน รอยยิ้มหวานใสไร้พิษภัย ใบหน้าจิ้มลิ้มใจดี เหมือนนางฟ้ามากกว่าคนจริงๆเสียอีก
"ไม่กลับหรอครับ?"
"อ๋อ..ก..กลับครับ กลับๆ"
ใบหน้าเหม่อลอยแบบนั้นแบคฮยอนเห็นมันทุกวันแทบชินตา .. พนักงานหนุ่มคนนี้ชอบจะยืนเหม่อทุกครั้งเวลาได้คุยกับเขาหรือว่าจ้องเขานานๆ ก็ไม่รู้ว่าเหมือนกันเพราะอะไรแต่แบคฮยอนคิดเอาเองว่าอีกฝ่ายคงทำงานหนักจนสมองเบลอชั่วคราวแน่ๆ
สิ้นเสียงกระดิ่งกรุ๊งกริ๊งและแผ่นหลังกว้างนั้นเดินลับออกไปแล้ว .. หันกลับมาสนใจแฟ้มเอกสารในมือต่อพร้อมกับหยาดฝนหยดชะโลมถาโถมลงมาทันที กายบางแอบชำเลืองมองบ้างเป็นบางครั้ง ไม่อยากจะเล่าเรื่องขายหน้าของตัวเองหรอกนะว่าแบคฮยอนกลัวฝนตกกับเสียงฟ้าร้องเป็นที่สุด เหตุการณ์ฝังใจในวันเด็กกลายเป็นปมที่อยากจะเอาชนะแต่มันก็ช่างยากเย็นแสนเข็ญเกินกว่าจะทำใจได้เหลือเกิน
ไฟในร้านกระพริบติดๆดับๆ .. ดวงตาเรียวเล็กที่หลายๆคนชอบมองว่าคล้ายดวงตาลูกหมาน้อยเริ่มกลอกล่อกแล่กด้วยความกลัว เรียวนิ้วกำแฟ้มเอกสารแน่น ขอร้อง อย่ามาดับตอนนี้นะ
ภาวนาได้ไม่นานเสียงฟ้าผ่าที่ดังเสียดแทรกขึ้นทำแบคฮยอนย่อตัวหลบใต้เคาน์เตอร์ก่อนจะเอามือปิดหูแล้วน้ำตาซึมออกมาเงียบๆ ทั้งคลีนิคก็มีเพียงแค่เขาอยู่คนเดียว จะหันหน้าหาใครช่วยก็ไม่มี อยากจะร้องไห้
ปั่ก!!
เสียงชนประตูจากวัตถุบางอย่างทำคุณหมอหนุ่มสะดุ้งสุดตัว ถ้าเป็นลูกค้าหรือคนธรรมดาๆทั่วไปก็คงไม่กระแทกตัวเองกับประตูจนเกิดเสียงแบบนั้นหรอกใช่มั้ย ไม่อยากจะคิดให้เสียขวัญหรือกำลังใจหรอกนะ แต่ถ้าเสียงนั้นไม่ได้เกิดจากคนแล้วเกิดจากอะไร
ความเงียบแทรกซึมปกคลุมทั่วบริเวณ ตัวเล็กขดตัวเป็นกุ้งอยู่นานนับหลายนาทีแข่งกับเสียงฝนที่ในที่นี้เหมือนจะซาลงไปบ้างแล้ว .. ทำใจฮึดสู้พร้อมทั้งขยับตัวออกมาจากแหล่งหลบภัย เหลือบสายตามองดูหน้ากระจกร้านเพราะต้นเสียงมันดังมาจากตรงนั้น และก้อนกลมสีเหลืองทองเปียกฝนที่นอนแอ้งแม้งอยู่อย่างเปล่าเปลี่ยวคือคำตอบ
*
"หลงมาจากไหนเนี่ย"
พอฝนหยุดตกก็ดูเหมือนทุกอย่างจะกลับมาคลี่คลาย ความตื่นตัวขวัญผวาของคุณหมอหนุ่มน้อยก็ดูจะดีขึ้นด้วย .. ไฟทั้งห้องสว่างโล่และมีสมาชิกอยู่ร่วมกันได้ไม่ถึงครึ่งชั่วโมงกำลังเหลือบมองกันไปมาด้วยความไม่คุ้นชิน
แบคฮยอนยิ้มมุมปากเล็กๆ หยิบผ้าขนหนูวางคลุมร่างอันเปียกปอนให้อย่างใจดี จะว่าไปก็ดูเหมือนสุนัขมีเจ้าของมากกว่าสุนัขจรจัด แถมยังมีกลิ่นตัวหอมอ่อนๆเหมือนพึ่งอาบน้ำด้วย สงสัยคงหลุดมาจากบ้านคนที่ไหนสักแห่ง
เมื่อฉุกคิดได้ว่าควรจะไปหาอุปกรณ์ทำแผลมาเพิ่มเติมเหตุเพราะสังเกตเห็นเลือดซึมช่วงบริเวณหน้าท้อง กายเล็กจึงผลุดลุกจากเตียงสีฟ้าอ่อนอย่างรวดเร็ว หากทว่านับหนึ่งไม่ถึงสามก็ต้องหยุดกึกด้วยเรียวมือของใครบางคนที่จับหมับเข้าโดยทันที
เขาหันกลับไปมองด้วยความสงสัยก่อนจะเบิกตาตี๋โพลงขึ้นยามเมื่อโกลเด้นท์น่ารักตัวนั้นกลายเป็นหนุ่มวัยกลัดมันในสภาพเปลือยท่อนบน ผ้าขนหนูนุ่มๆร่วงปรกลงช่วงหน้าขาแต่ส่วนนั้นก็แอบนูนเด่นนิดๆจนแบคฮยอนหน้าแดงแปร๊ดอย่างขลาดเขิน .. แล้วสุนัขตัวนั้นล่ะ หายไปไหน หายไปไหนแล้ว!!
"อย่าไป"
"..."
"อย่าหนี ชานยอลไป"
เสียงทุ้มต่ำเอื้อนเอ่ยราวกับคำกระซิบ ใบหน้าหล่อเหลาเกาะพร่างพราวเต็มไปด้วยหยาดน้ำแถมยังขึ้นสีเหมือนจะไม่สบาย
".. คุณเป็นใครเนี่ย"
"ชานยอล"
"..."
"ชานยอลเอง"
กระตุกข้อมือเพียงนิดเดียวก็โอนย้ายร่างกายตัวเองไปล้มใส่ตักร่างใหญ่ยักษ์อย่างไม่ทันตั้งตัว แบคฮยอนหน้าเหวอ .. ทันทีที่บั้นท้ายกดทับลงกับหน้าขาของอีกฝ่ายโดยมีเพียงผ้าขนหนูผืนบางกั้นส่วนนั้นอยู่ทำคุณหมอหนุ่มตัวเกร็งราวกับถูกฟรีซ เกิดมายี่สิบกว่าปีไม่เคยใกล้ผู้ชายขนาดนี้ แฟนก็ไม่เคยมี แล้วนายคนนี้อยู่ดีๆวาร์ปมาจากไหนก็ไม่รู้มากอดเขานั่งบนตักเนี่ย
แก้มอุ่นร้อนแนบขนาบกับแแก้มเย็นชืดของคนตัวเล็ก .. ความขี้อ้อนในแบบฉบับโกลเด้นท์ทำเสียงครางหงิงๆจนแบคฮยอนเขินหน้าแทบไหม้ จะขยับตัวไปทางไหนก็เนื้อสัมผัสเนื้อ เขาไม่ได้สักเสื้อผ้าสักชิ้นเลยนี่นา!
"อือ..อ..อืม"
คิ้วหนาเริ่มขมวดเมื่อสัญชาตญาณดิบเริ่มออก กลิ่นหอมอ่อนโยนที่ใกล้จมูกโด่งสันเรียกให้วัยผสมพันธุ์นั้นออกอาการโรคจิต .. บั้นท้ายนุ่มนิ่มใกล้สัมผัสส่วนนั้นเหลือเกิน ชานยอลปวด ปวดจนอยากจะทำอะไรสักอย่าง
แขนแกร่งเริ่มล็อคตัวร่างบางให้แน่นขึ้น ส่งเสียงทุ้มต่ำครางเอาแต่ใจทั้งยังขยับตัวช้าๆเป็นจังหวะทำเหมิอนติดสัดขึ้นมาซะดื้อๆ
"ไอ้บ้า!! ปล่อย!!"
"อะ"
"ปล่อยเดี๋ยวนี้!!"
มือเรียวนุ่มยกขึ้นหยิกแขนแกร่งก่อนที่จะถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เมื่อรับรู้ได้ว่าทั่วทั้งตัวของกายสูงนั้นกลายเป็นสีแดงฝาดก็ขนลุกขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ มันเกิดขึ้นไวมาก ไวจนแบคฮยอนเองก็คิดตามไม่ทันเหมือนกัน
ผ้าเช็ดตัวผืนบางจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ หัวใจดวงเล็กเต้นระส่ำ ได้แต่ภาวนาว่าอีกฝ่ายจะไม่ลุกขึ้นมาในตอ—
กายโปร่งยืนขึ้นเต็มความสูง ดวงตาคู่นั้นปรือง่วงพร้อมทั้งยังพ่นลมหายใจอุ่นร้อนอยู่ตลอดด้วยฤทธิ์ไข้ มันร่วงลงไปแล้ว สิ่งปกปิดชิ้นสุดท้ายของผู้ชายบ้ากามคนนั้น
อยากกรี๊ด นี่มันเรื่องบ้า! เรื่องบ้าชัดๆ!
*
กลิ่นหอมอ่อนๆจากน้ำยาปรับผ้านุ่มลอยฟุ้ง ความรู้สึกนุ่มสบายราวกับนอนอยู่บนเตียงพอดีตัวทำให้เลือกที่จะหลับตาพริ้มมุดตัวเข้าใกล้ความนุ่มนิ่มตามสัญชาตญาณ ชานยอลไม่เคยสัมผัสความรู้สึกแบบนี้มานานมากแล้ว ตั้งแต่จำความได้ เขาถูกย้ายบ้านจากเจ้านายคนเก่าด้วยเหตุเพราะขนาดตัวที่เล็กและซนมากกว่าลูกสุนัขตัวอื่นๆ ชอบกัดรองเท้า ชนแก้วแตก เป็นตัวปัญหา และหลังจากที่ใช้ชีวิตสนุกสนานตามประสาหมาเด็กได้ไม่นาน เจ้าดื้อตาใสก็ถูกหอบใส่ตระกร้าพร้อมกิ๊ฟเซทขวดนมและผ้าขนหนูเน่าให้กับคนมารับซื้อไปอย่างไม่ทันจะได้ร่ำลาเจ้านายคนเก่าสักคำ
บ้านใหม่ ชีวิตใหม่ .. ชานยอลที่เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในสมาชิกครอบครัวดูท่าจะเป็นที่รักของคนทั้งบ้าน ไม่ว่าใครต่างก็พร้อมรับทุกปัญหาที่เกิดขึ้น ทั้งไหนจะกัดเสื้อขาด ทำสนามหญ้าหน้าบ้านเละเทะ หายไปเกลือกน้ำนองริมถนนเวลาที่ฝนตก เขารู้สึกมีความสุขแฮปปี้กับชีวิตที่ได้เกิดมาเป็นสุนัขของบ้านหลังนี้ เจ้านายไม่เคยดุด่าชานยอลเลย หนำซ้ำยังชอบพาเขาไปเล่นด้วย หาขนมให้ทาน ทำให้ชานยอลรักและรู้สึกผูกพันจนอยากจะอยู่กับเจ้านายแบบนี้ตลอดไป
หากแต่พอกาลเวลาเปลี่ยน .. คนก็เปลี่ยน
จากขนาดตัวกลมอ้วนเล็กๆเริ่มมีขาที่ยาวขึ้น .. ร่างกายไม่ได้พกพาง่ายดูน่ารักน่าชังเหมือนแต่ก่อน ขนยาวเฟื้อยที่นานๆครั้งจะดูแลทำความสะอาดถ้าไม่สกปรกและมอมแมมจริงๆ ชานยอลไม่ใช่ลูกหมาตัวเล็กน่ารักอีกต่อไป
จากที่เคยปูที่นอนแสนนุ่มให้นอนก็กลับล่ามโซ่เฝ้าโรงรถ .. ถึงจะเข้าฤดูฝนมานานมากแล้วแต่เจ้านายเองก็ไม่คิดที่จะหาที่อยู่ใหม่ให้ พื้นโรงจอดรถสกปรกน้ำเจิ่งนอง สัตย์มีพิษเคยกัดจนนอนซมไข้เพราะความเจ็บปวด กับข้าวแสนอร่อยก็เริ่มป้อนน้อยลงจนกลายเป็นได้กินแค่วันละมื้อเท่านั้น .. ทำไมล่ะ ชานยอลทำอะไรผิด
จู่ๆก็รู้สึกราวกับถูกบีบรัดไปทั่วทั้งหัวใจ น้ำลายก้อนเหนียวกลืนยากลำบากพร้อมทั้งซึมน้ำตาเม็ดใสออกมาอย่างเชื่องช้า .. ชานยอลเสียใจ เสียใจมากๆเลยนะ
กายสูงขยับสายขยับขวา ความฝันที่เป็นความจริงมาก่อนหลอกหลอนปั่นป่วนสมองทำเอากลิ่นหอมอ่อนๆจากผ้าห่มไร้ประสิทธิภาพในการรักษาความเจ็บปวดไปอย่างสิ้นเชิง
"อ้ะ!"
ลืมตาโพลงเมื่อร่างกายพร้อมจะใช้งานต่อ .. อกแกร่งกระเพื่อมขึ้นลงตอบสนองกับหัวใจข้างซ้ายที่ดังรัวเร็วราวกับกลอง เสียงพ่นลมหายใจดังหนักๆกับภาพพื้นฝ้าสีเรียบตรงหน้าบ่งบอกว่านี่คือความฝัน แต่ดูเหมือน.. มุมมองเวลาตื่นนอนนี่จะแปลกไปสักหน่อย
ขยับตัวขึ้นนั่งอย่างุนงง ทำไมร่างกายถึงได้เทอะทะและแปลกประหลาดอย่างนี้ แล้วทำไมขาหน้า ..
"โฮ่ง!"
อยู่ๆก็เผลอเห่าออกมาหากทว่าเสียงที่ปรากฎกลับทุ้มต่ำไม่ได้แหบก้องอย่างเช่นทุกวัน สายตาประสบเข้ากับขาหน้าของเขาที่ได้กลายเป็นมือของมนุษย์ ชานยอลจะร้องไห้ หรือว่านี่คือฝันซ้อนฝัน อาจจะกำลังฝันว่าตัวเองเป็นคน นอนต่อดีไหม นอนต่ออีกสักหน่อย
สั่งสมองให้ปิดเปลือกตาลงหมับ แต่ในความสมาธิสั้นของสายพันธุ์จึงทำแบบนั้นได้เพียงแค่สามวินาทีและไม่นานก็ลืมตาขึ้นดังเดิม เขาหลับไม่ได้ พึ่งจะหลับไปเองจะให้หลับอีกได้ยังไง
กระวนกระวายราวกับหนูติดจั่น หากอยู่ในร่างสุนัขคงเดินวนไปวนมาชวนเห่าอยู่ทั้งวัน ทำยังไงดี ชานยอลจะทำยังไงดี .. เบนสายตากวาดมองรอบห้อง และความช็อคสุดขีดก็บังเกิดแก่โกลเด้นท์ตัวยักษ์
กระจกหน้าตู้เสื้อผ้าแบบเต็มตัวฉายสะท้อนเงาของหนุ่มหน้าตาดีปรือตาโตๆอยู่บนเตียงกว้าง .. เรือนผมเทาสว่างรับกับใบหน้าหล่อเหลาเอาเรื่องนั้นทำชานยอลหัวใจเขย่าแบบไม่ยั้ง
นั่นมัน!! นั่นมัน!!!!
"อ้า!!!"
ส่งเสียงกรีดร้องก่อนจะเอามือปิดตาแล้วโกยตัวเองลงจากเตียง .. วินาทีนี้ราวกับหลุดเข้าไปในหนังสยองขวัญที่เคยดูกับเจ้านาย ชานยอลกำลังโดนไล่ล่า มีคนสิงอยู่ในตู้นั้น อีกสักพักมันก็จะคลานออกมาแล้วหักคอชานยอลดังกรึ๊บ!
ขายาวที่ไม่เคยใช้งานมาก่อนขยับคลานวิ่งล้มหน้าคะมำ มือทั้งคู่เอื้อมไปจับลูกบิดกลมมนพร้อมทั้งออกแรงกระชากจนเกิดเสียงดังลั่น เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเพียงแค่หมุนข้อมือเล็กน้อยก็จะสามารถออกจากห้องนี้ไปได้แล้ว เอาแต่ทุบตีบานประตูกับใช้เล็บขูดครืดคราดและส่งเสียงร้องเอาแต่ใจราวกับสุนัข
"ปล่อย!! ปล่อยชานยอลไปนะ!!"
ออกแรงทั้งหมดทุบตีปั้งๆๆ จนในที่สุดสวรรค์ก็มอบพรให้แก่โกลเด้นท์เจ้าปัญหา .. ประตูที่น่าสงสารถูกเปิดออกและยังไม่ทันจะได้รู้ว่าเป็นเพราะฝีมือใคร เท้าทั้งคู่ก็โกยแน่บออกจากห้องจนแบคฮยอนตกใจยืนตัวแข็งทื่ออยู่กับที่
ทุกอย่างมันเกิดขึ้นไวมาก เสียงสับเท้าออกไปเมื่อสักครู่นี้คือชานยอลใช่ไหม? .. หมอหนุ่มทวนคำถามกับตัวเองช้าๆ และเมื่อรับรู้ได้ว่าเป็นจริงดังว่าถึงได้ค่อยหันกลับไปเรียกชายหนุ่มเอาไว้ด้วยความตกใจ
"ชานยอล!"
ตั้งแต่เกิดมาจวบจนจะขึ้นเลขสาม .. แบคฮยอนไม่เคยเจอคนประหลาดที่วิ่งทั่วบ้าน ส่งเสียงร้องแหกปากราวกับเจอผีหลอกได้ขนาดนั้น ตัวเล็กเอ่ยเสียงแกมดุเรียกกายสูงเอาไว้ก่อนจะรีบวิ่งตามเพราะในไม่ช้าคนตรงหน้าจะชนปั่กเข้ากับประตูบานใสทันที
"ชานยอลหยุด!"
ตึ้ง!!
เมื่อเหยียบเบรคไม่ทันจึงเป็นไปตามคาดการณ์ .. นี่ถ้าไม่ใช่คนเขาจะหนึกว่าเป็นหมา ซุ่มซ่ามขนาดนี้หมาชัดๆ !!
*
"บอกว่าให้หยุดทำไมไม่ฟังกันเลย"
ประคบเย็นวางไว้เหนือจมูกจากอุบัติเหตุที่กายสูงพุ่งตัวใส่กระจกอย่างไม่คิดจะเหลือบมองรอบกายให้ดีเสียก่อน .. รอยฟกช้ำและดวงตากลมโตกระพริบกลอกไปมาด้วยความเจ็บทำแบคฮยอนไม่กล้าดุใส่หนักๆเพราะสงสารดวงตาอันไร้เดียงสาเหมือนเด็กแปดขวบแบบนั้น
ชานยอลนั่งบนเก้าอี้ล้อเลื่อนโดยมีแบคฮยอนนั่งบนเตียงพยาบาล สาเหตุมาจากปัญหาความสูงทำให้เขาต้องกลายมาเป็นคนนั่งบนเตียงนี่แทน .. เอาอีกแล้ว ชานยอลกำลังรู้สึกว่าตัวเองใจง่าย เพียงแค่เหลือบเห็นมือเรียวนุ่มที่คอยประคบทำแผลให้ก็รู้สึกใจเต้นตึกตักราวกับได้บ้านใหม่ คนตรงหน้าทั้งดูใจดี มีสเน่ห์ แถมยังตัวหอมอ่อนๆ สีหน้าและแววตาเวลาตั้งใจทำอะไรบางอย่างดึงดูดหัวจิตหัวใจโกลเด้นท์ตัวน้อยๆให้ติดกับได้อย่างจัง
คนตัวเล็กแอบชำเลืองมองกายสูงที่เอาแต่จ้องแล้วก็เกร็งตัวนิ่งสนิทคล้ายกับกลัวว่าถ้าเผลอปล่อยลมหายใจออกไปเพียงนิดก็จะโดนดุกลับมา ..ความรู้สึกแปลกๆเหมือนเลี้ยงเด็กไม่กี่ขวบนี่มันคืออะไร หากจะมองผิวเผินคนตรงหน้าคงเป็นหนุ่มได้ประมาณนึงแล้ว แต่ทำไมดวงตากลมโตคู่นั้นถึงสัมผัสได้ว่าชานยอลยังไม่โตเลยสักนิด
"จับไว้"
"..."
"จับอันนี้ไว้"
ต้องส่งสัญญาณเป็นครั้งที่สองเพราะความเหม่อลอยออกนอกหน้า.. ชานยอลเอื้อมจับประคบเย็นอย่างว่าง่ายก่อนจะยิ้มแหะๆใส่ไม่รู้เรื่องราว ดีเท่าไหร่แล้วที่ไม่ชนกระจกแตกแล้วบาดหน้าเอา ไม่งั้นเขานี่แหละจะบ่นเช้าบ่นเย็นเลยคอยดู
"เจ็บมั้ย"
พยักหน้ารับก่อนที่จู่ๆหางตาก็เริ่มซึมหยดน้ำ .. อ่อนไหวขนาดนี้เลยหรอ แบคฮยอนชักจะมองว่ามันแปลกขึ้นทุกที
"ร้องไห้หรอ"
"อึก.."
"ไม่ร้อง ร้องทำไม"
"ฮึก..ชานยอลคิดถึงบ้าน"
มือปล่อยประคบเย็นร่วงลงกับพื้นก่อนเบะริมฝีปากรับในทันที .. ชายหนุ่มส่งเสียงร้องไห้งอแงออกมาพร้อมกันกับยกหลังมือขึ้นเช็ดดวงตาอันแดงก่ำ ไม่มีฟอร์มเลย เป็นการร้องไห้ที่ตัวของแบคฮยอนเองก็ไม่เคยเจอใครทำแบบนี้นอกเสียจากเด็กอนุบาล เสียงไอโขลกค่อกแค่ก ร้องจ้าออกมาแบบไม่ลืมหูลืมตาทำคุณหมอหนุ่มลนลานรีบเผลอกอดอย่างลืมตัว
มือเรียวตบแผ่นหลังใต้สาบเสื้อยูนิฟอร์มของคลีนิคเบาๆ คนตรงหน้าสะอึกสะอื้นพร้อมกับโผกอดแบคฮยอนตอบอย่างต้องการความรัก .. เขาชักจะเจอเรื่องแปลกๆเยอะมากไปแล้วในวันนี้
"ชานยอล"
"ฮึก..คิดถึงบ้าน ชานยอลจะกลับบ้าน"
"หยุดร้องก่อนนะ"
เผลอลูบกลุ่มผสมสีเทาสว่างอย่างลืมตัว อ้อมกอดอบอุ่นที่มอบให้กันและกันช่วยผ่อนปรนความรู้สึกแย่ๆภายในจิตใจให้ทุเลาลง .. โกลเด้นท์ตัวยักษ์ซบหน้าเอียงลงกับไหล่เล็ก กอบโกยเอาความรู้สึกดีๆเพื่อหล่อเลี้ยงหัวใจที่แห้งเหี่ยวจากเหตุการณ์สะเทือนขวัญก่อนหน้าให้กลับมาสดใสดังเดิม
แบคฮยอนยังคงยืนนิ่งพร้อมทั้งพูดเบาๆปลอบโยน ไม่รู้ว่าตัวชานยอลเองจะผ่านเรื่องราวร้ายๆหรือเจออะไรมา หากเขานั้นเองสัมผัสได้ว่าสิ่งที่อีกฝ่ายแสดงออกมันคือความจริงอันแสนบริสุทธิ์ .. ผู้ชายตัวใหญ่ที่มีดวงตาฉายแววความซื่อแบบนั้นเขาเองก็ไม่เคยพบเจอที่ไหนมาก่อนเหมือนกัน
และก็ยอมรับ .. ว่าน่ารักมากเลยจริงๆ
*
ชานยอลนอนหลับไปหนึ่งวันเต็มๆเพราะพิษไข้ .. และก็ถือว่าเป็นความโชคดีที่ในวันนั้น โอ เซฮุน สัตวแพทย์ประจำคลีนิคอีกสาขาหนึ่งแวะซื้อขนมเข้ามาฝาก จึงได้ช่วยกันใส่เสื้อผ้าแล้วก็เช็ดตัวพาไปพักยังห้องให้เสร็จสรรพ
ตกดึกแบคฮยอนแทบไม่ได้นอนเลยทั้งคืน .. เวลาที่ชานยอลป่วยนั้นจะชอบงอแงร้องไห้แล้วก็ดิ้นไปมาเหมือนเด็กๆ ริมฝีปากแดงห้อเลือดเอาแต่พร่ำเพ้อคอยแต่จะบอกว่าอย่าทิ้งชานยอลไปนะ อย่าทิ้งชานยอลไปอยู่แบบนั้นซ้ำๆ .. เห็นแล้วก็บีบหัวใจ แต่ที่สงสัยคือ สุนัขโกลเด้นท์ที่เขานำเข้ามารักษาในคลีนิคในคืนวันฝนตกนั้นมันหายวับแล้วกลับกลายมาเป็นร่างสูงตรงหน้านี่ได้ยังไงกัน
หลังจากปลอบโยนและหายซึมกับการคิดถึงบ้านได้เพียงไม่นาน .. เสียงวิ่งชนตู้ชนโต๊ะดังปึ้งปั้งมาแต่ไกลทำให้หมอหนุ่มเริ่มกุมขมับ จะดุจะว่าก็ไม่ได้ เดียวมาเล่นบทโศกใส่เขาอีก วนลูปอยู่แบบนี้ ไม่เป็นอันทำการทำงานกันแล้ว
"ชานยอล"
"ค้าบบบ"
เพล้ง!!
เสียงแเก้วแตกรอบที่สามนับตั้งแต่เลยเที่ยงมา .. แบคฮยอนได้แต่อ้าปากหวอแล้วเบนสายมองเศษแก้วใสแตกกระจุยกระจายเต็มพื้น นี่เขาจะต้องเสียแก้วไปอีกกี่ใบ ร่างสูงถึงจะยอมหยุดซนแล้วนั่งนิ่งๆแบบที่คนอื่นเค้าทำกันเสียที
กายสูงโปร่งยืนนิ่ง .. เบะริมฝีปาก ก่อนจะเอามือกำชายเสื้อของตัวเองเอาไว้แน่น เขาเหลือบมองใบหน้าของคนที่ยืนไม่ห่างจากจุดเกิดเหตุมาก จะดุมั้ย จะดุชานยอลหรือเปล่า
"ช..ชานยอล ไม่ได้ทำ เมื่อกี๊ เมื่อกี๊มันวิ่งหนีชานยอล มันก็เลยตกแตก"
น้ำเสียงสั่นเครือพร้อมดวงตาที่ช้อนมองทำราวกับว่าตัวเองไม่ได้ทำผิด .. เห็นแบบนั้นแล้วใครมันจะไปกล้าดุลง
"อย่าพึ่งเดิน! เดี๋ยวเหยียบ"
"อ้า!!!"
ได้แต่ยกมือขึ้นตบหน้าผากตัวเองดังแป๊ะ ราวกับประโยคของเขาเป็นน้ำมันแล้วการกระทำของชานยอลเป็นไฟ ยิ่งพูดยิ่งยุ ยิ่งพูดยิ่งทำ เห็นทีความน่ารักที่แบคฮยอนมองคงจะไร้ประสิทธิภาพลงเมื่อเทียบกับความดื้อตาใสนั่นจริงๆ
*
ผ่านมาหลายสัปดาห์กับการเลี้ยงดูชานยอลในฐานะสมาชิกคนใหม่ของคลีนิค ความซุ่มซ่ามเหมือนลูกหมานั้นทุเลาลงเรื่อยๆจนแบคฮยอนคิดว่าน่าพอใจในระดับนึง ที่สัมผัสได้คือความหัวไว และความขี้อ้อนจนเกินพอดี .. ชอบมาซุก มากอดหอมเวลาเขาหลับ ทีแรกแบคฮยอนก็เขินจนต้องแยกกันนอน หากทว่ามีหรือว่าคนตัวโตจะกล้านอนคนเดียว เอาข้ออ้างว่ากลัวผีหลอกมาบอกเขาแถมยังพูดอีกว่าเป็นหมาต้องนอนกับเจ้าของ
คือยังไง.. คือสรุปทุกวันนี้เขาเลี้ยงหมาหรือคนกันแน่?
"พี่แบค"
"หืม?"
สรรพนามที่เปลี่ยนไปเพราะดูๆแล้วชานยอลน่าจะอายุน้อยกว่าเขาเลยให้เรียกแบบนั้น .. กายสูงกับเสื้อโอเวอร์ไซส์สีขาวรับกับกางเกงวอมตัวใหญ่ที่ซื้อให้ดูดีจนปฏิเสทไม่ได้ แบคฮยอนเองก็ชอบลอบมองอีกฝ่ายเหมือนกัน แต่เจ้าตัวไม่รู้หรอก ซื่อบื้อเกินคำอธิบาย
"เมื่อเช้าชานยอลมีน้ำออกมาจากนี่ด้วย"
พูดจบก็กุมไอ้โลกของตัวเองไม่สนใจว่าแบคฮยอนจะรู้สึกขลาดเขินกับรูปประโยคนั้นมากแค่ไหน .. น้ำหรอ น้ำเดียวที่จะออกมาจากตรงนั้นก็คงไม่ใช่อย่างที่คิดหรอกมั้ง
"เนี่ย .. ชานยอลลองจับๆดู แล้วมันก็—"
"เดี๋ยวไว้พี่จะลองถามเพื่อนให้แล้วกัน"
"พี่แบคไม่เป็นหรอ"
"..."
"พี่แบคลองจับดูดิ ให้ชานยอลจับให้มั้ย"
พูดจบมือที่ไวกว่าปลาหมึกก็เตรียมคว้าเรียวขาให้เข้ามาชิด แบคฮยอนร้องเสียงหลงรีบเอนเอียงกายหนีเพราะกลัวว่ามือของอีกคนจะปัดโดนส่วนอ่อนไหวนั่นเข้าจริงๆ .. ตัวเล็กยิ่งไวต่อสัมผัสอะไรแบบนี้ เกิดมีอารมณ์ขึ้นมา ซวยแน่
"จะเล่นไล่จับหรอ"
"ไม่เล่น"
"ฮ่าๆ ชานยอลเป็นคนไล่นะ พี่แบคโดนแน่"
"ชานยอล! บอกว่าไม่เล่น ชาน—ย๊า"
กายบางคว้าหมอนบนเตียงยกฟาดอีกคนที่ดูเริ่มสนุกกับแกล้งเขา .. ความได้เปรียบของขายาว วิ่งไม่ตามไม่นานก็ตะครุบเหยื่อได้อย่างแม่นยำ ตัวใหญ่ๆโอบกอดแบคฮยอนจากด้านหลัง ซุกใบหน้าลงกับท้ายทอยพร้อมทั้งกดจูบจนคนพี่ขนลุกเกรียวกราวอย่างห้ามไม่อยู่
จมูกโด่งสันไล่สูดดมกลิ่นหอมอ่อนโยนด้วยความหลงไหล เนื้อผิวเนียนนุ่มสัมผัสกับริมฝีปากหยักเสียดสีร้อนรุ่มจนเป็นตัวแบคฮยอนเองที่บ้ากามเผลอครางเสียงอ่อนออกมาเบาๆ .. ราวกับสติหลุดลอย คุณหมอหนุ่มใช้มือวางทาบลงกับผนังตรงหน้าปล่อยให้หมาเด็กของเขานั้นจูบเนื้อผิวไล่มาตามหลาดไหล่ มือแกร่งส่งสอดเข้าไปลูบหน้าท้องแบนราบใต้สาบเสื้อ ทั้งยังลูบปัดป่ายผ่านยอดอกนูนเด่นนั่นอีก
ถ้าจะบอกว่าอยากให้ทำมากกว่านี้.. แบคฮยอนจะดูโรคจิตมั้ยนะ
"ชานยอล.."
บั้นท้ายกลมกลึงสัมผัสได้ถึงเนื้อผ้ากางเกงจากคนที่ยืนซ้อนหลังกำลังตั้งใจบดเบียดลงมาอย่างรู้งาน .. เสียงหายใจกระแทกหนักๆรดลงยังข้างใบหูพร้อมทั้งริมฝีปากงับเบาๆเข้ากับเนื้ออ่อนส่วนนั้น
ดีเกินไปแล้ว ..
"พี่แบค"
"..."
"เปียกหมดแล้วครับ"
#614Hadesz
ขอเปลี่ยนเป็น sf นะคับ 555555 มันอยากเขียนหลายฉากมากจริงๆ ขออภัยสุดๆ
ความคิดเห็น