คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #13 : os | ♡alian boy 100%
♡alian boy
"ปาร์ค ชานยอล รหัส 6104 ส่วนสูง 187 เซนติเมตร น้ำหนัก 70 กิโลกรัม ดีหมดทุกสิ่งอย่างยกเว้นมีปากแต่ไม่พูด"
ร่างเล็กของหญิงผิวกายสีเขียวกระด่างกระดาวเอ่ยขึ้น ในมือเรียวหยาบกร้านที่มีเพียงแค่นิ้วสี่นิ้วถือแฟ้มเอกสารข้อมูลของ'มนุษย์ต่างดาว'สายพันธุ์ที่ดีที่สุดในดาวเอเซโทป หรือต่างเป็นที่รู้จักในนามโลกที่สองนอกระบบสุริยะจักรวาล .. เธอสวมเสื้อกาวน์สีขาวดูสะอาดอ้าน ตาเม็ดเล็กเหลือบขึ้นมองมนุษย์ต่างดาววัยหนุ่มพร้อมกับขยับแว่นบนกรอบหน้าช้าๆ
ดวงตาคู่คมสีน้ำตาลเข้มมีเสน่ห์ ผิวกายขาวละเอียดไม่ต่างจากเนื้อผิวมนุษย์โลก ริมฝีปากหยักน่าจูบ ประกอบกับจมูกโด่งสันรับกรามแหลมคมพอดิบพอดี ..
นี่แหล่ะ..เขาถึงได้กลายเป็นสายพันธุ์ที่งดงามที่สุดในดาวดวงนี้
"นายควรจะรีบสืบพันธุ์ซะนะ"
เสียงสำลักกาแฟจาก ดร.ฝ่ายควบคุมเครื่องจักรทำเอาเขาต้องเหลือบมอง อันที่จริงแล้ว..ตัวเธอเองก็ยังหาสายพันธุ์เหมาะสมสำหรับหนุ่มต่างดาวตรงหน้าไม่ได้ หรือจะเรียกว่าไม่มีใครคู่ควรกับเขาซะมากกว่า ..
ดูดีเกินไป .. ชานยอลเหมาะกับประโยคนี้ซะจริงๆ
"..."
"ไม่คิดจะตอบคำถามฉันหน่อยหรือไง?"
"..."
"ก็ได้ๆ พ่อหนุ่มติสท์แห่งดาวเอเซโทป"
เธอกลอกตาเป็นวงกลมรอบที่ล้านแปดพร้อมกับเหลือบมองร่างสูงบนโซฟาชนิดพิเศษ นิ้วแกร่งบังคับของเล่นทรงลูกบาศก์ในมืออย่างคล่องแคล่ว ..จากตอนแรกที่คละๆสีกันผสมปนเปไปเสียหมด เขาสามารถทำให้มันกลับมาเป็นสีเดียวกันได้อย่างเดิมทุกด้านภายในเวลา 5 วินาที
"ทำลายสถิติเมื่อวานนี้จาก 6.43 วินาที"
"..."
"จะเอาแชมป์รูบิคแข่งกับพวกมนุษย์โลกหรือไง?"
ชานยอลวางสิ่งที่เรียกว่ารูบิคลงกับโต๊ะ หยัดยืนขึ้นเต็มความสูงพร้อมกับล้วงมือใส่กระเป๋ากางเกงตัวเก่ง ไม่คิดแม้แต่จะปรายตามองหรือตอบคำถาม ทำดีหน่อยก็เพียงแค่เดินผ่านให้ได้กลิ่นกายก็เท่านั้น .. หญิงตัวเขียวเบะปากพร้อมกับหันไปหาผู้ควบคุมแผนกด้านเครื่องจักรอีกครั้ง เธอก้าวฉับๆพร้อมกับทิ้งตัวลงนั่งข้างๆอย่างกระเง้ากระหงอด
"ฉันชักจะท้อแล้วสิ"
"เอาน่า..เขาไม่ได้เป็นใบ้สักหน่อย"
"ไม่เป็นก็เหมือนเป็น"
"เชื่อเถอะ..พอเจอคนที่ถูกใจ เดี๋ยวก็พูดเก่งขึ้นเองแหละ"
อย่างที่ได้ยิน .. หนุ่มต่างดาวคนนี้มีปากไว้เพื่อแค่ทานอาหารกับคว่ำมันลงยามเมื่อไม่พอใจเท่านั้น หากนึกครึ้ม..อยากได้ยินเสียงอีกฝ่ายก็มีแค่เวลาทำให้โกรธหรือตอบคำถามที่เป็นสาระ ส่วนรายละเอียดยิบย่อยอื่นๆคือล้วนเป็นหนุ่มใบ้ทั้งหมด
อาการแบบนี้เริ่มตั้งแต่ปาร์ค ชาน อายุเพียงแค่สิบสี่ปี เริ่มถามคำตอบคำ ชินชาไปเสียทุกสิ่ง ทั้งๆที่วัยนี้ควรจะเป็นวัยอยากรู้อยากลอง อยากรู้จักความรัก หากแต่เขาไม่! .. เอาแต่หมกตัวอยู่กับห้องทดลองและเกมรูบิคของเขาตลอด ..
จนถึงปัจจุบันก็ยังคงเป็นแบบนั้น ..
"หรือที่นี่จะไม่มีเสป็คสาวในฝัน" เพราะ ดร.แผนกเครื่องจักรจุดประกายความคิดให้แก่เธอเข้า ดวงตาที่เคยเรียวเล็กเท่าเม็ดข้าวสารก็เบิกโพลงขึ้นจนแทบจะปลิ้นออกมาเดินเล่นข้างนอก
"ใช่! มันต้องเป็นอย่างนั้นแน่!"
"..."
"เตรียมเรื่องนี้ให้พร้อมค่ะ..ฉันจะส่งปาร์ค ชานยอลไปโลกมนุษย์"
*
"ผมไม่ไป"
คิ้วเข้มจรดเข้าหากันเกือบติดเป็นเส้น ลงไปยังโลกมนุษย์งั้นหรอ? เหอะ..ไม่เคยมีความคิดนั้นอยู่ในสมองอันชาญฉลาดของ ปาร์ค ชานยอล เลยแม้แต่เสี้ยวเดียว .. พวกมนุษย์น่ะ ..มีแต่จะทำตัวน่ารำคาญ ไร้สาระไปวันๆ หนุ่มต่างดาวที่มีไอคิวทะลุสองร้อยเจ็บสิบอย่างเขาคงอยู่ร่วมได้ยากลำบากนัก
หญิงผิวเขียวลอบถอนหายใจก่อนจะกลับมาปั้นหน้ายิ้มแฉ่งให้กับเขา ถึงจะรู้ว่ามันยากลำบากแต่ภารกิจครั้งนี้มันต้องสำเร็จ!
"ฉันกะเอาไว้แล้วว่านายต้องพูดแบบนี้"
"..."
"งั้นมาลองฟังข้อเสนอดูหน่อยมั้ยล่า~"
"ข้อเสนอห่วยๆน่ะหรอ?"
"นี่!"
ร่างบางเตรียมกระโจนหน้าใส่คนตัวใหญ่หากแต่เพราะดร.ที่ยืนซ้อนอยู่ด้านหลังรั้งตัวเอาไว้จึงทำได้เพียงแค่ขบสันกรามแน่นจนมันนูนเด่นออกมา จมูกเรียวแหลมสูดหายใจเข้าปอดลึกๆพร้อมกับส่งยิ้มให้กับสุดหล่อในโลกใบนี้อีกครั้ง แม้เล็บจะจิก ตาจะเขียวปั้ดแค่ไหนแต่เพื่อภารกิจและหน้าที่อันสำคัญยิ่งส่งผลให้เธอทำได้แค่นั้น .. แค่นั้นจริงๆ
"แต่นายต้องมีคู่นะปาร์ค ชานยอล"
"..."
"ฉันก็แค่อยากให้นายรู้จักความรักซะบ้าง มันสดใสสีชมพูไปหมดเลยนะ..รู้บ้างหรือเปล่า"
"คนที่ไม่เคยมีคู่ กล้าที่จะสอนอะไรแบบนี้ด้วยหรอครับ"
"โอ๊ย!! ไอ้บ้านี่!!" อดไม่ได้ที่จะสับขาเอาแฟ้มเข้าไปฟาดไหล่แกร่งนั่นดังเพี๊ยะ ที่เธอยังหาชายในฝันไม่ได้ก็เพราะคำว่าเลือกยังไงล่ะยะ!!
"ยังไงผมก็ไม่ไป..เลิกพย-"
"เราจะให้นายเลี้ยงลูกแมว" จู่ๆเสียงดร.ฝ่ายควบคุมที่เงียบมานานแสนนานก็ดังขึ้น ปาร์ค ชานยอลมีท่าทีลังเลอยู่เพียงพักเล็กๆก่อนจะกลับมาทำหน้าตาอวดดีเช่นเดิม แมวแล้วไง แมวแล้วมันยังไงล่ะ! .. รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่รู้ทันความชอบโดยส่วนตัวของชายหนุ่มผุดขึ้นอย่างมีความหวัง เขาแอบเห็นว่าร่างสูงชอบไอ้เจ้าสัตว์สี่เท้าขนฟูเสียงแหลมนั่นมากๆ ถึงขนาดเคยเห็นว่ามีรูปลูกแมวเก็บไว้ใต้ลิ้นชักเต็มไปหมด .. แต่ที่เลี้ยงไม่ได้ก็เพราะว่าเราไม่ใช่โลกมนุษย์ อุณหภูมิ อาหาร ไม่มีใครบนโลกนี้มีสัตว์เลี้ยงไว้ครอบครองเลยแม้แต่คนเดียว
"ถ้านายยอมลงไปโลกมนุษย์ เราจะให้นายเลี้ยงลูกแมวเลยนะ"
"ผ..ผมไม่ได้ชอบ" ใจนึงก็อยากเลี้ยงแหละ ไม่เคยเห็นตัวจริงๆสักที แค่เห็นตาแป๋วๆกับเสียงแง้วๆในคลิปใจชานยอลก็บางเป็นกระดาษไข
"จริงหรอ? โอกาสอย่างนี้ไม่ใช่ว่าใครในโลกเราจะหากันได้ง่ายๆซะด้วยสิ"
ไม่หรอก .. ก็แค่แมวนี่นา
*
"มี๊!"
"หิวหรอ? นมมั้ย?"
ครับ .. เพราะแมวนี่แหละที่ทำให้ผมลงมาเหยียบอยู่ใจกลางห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งบนโลกมนุษย์อย่างเก้ๆกังๆ .. ไอ้ตัวอ้วนขนฟูเท่ากำปั้นสีครีมสะอาดกำลังขดอยู่ในอ้อมอกของผมหลังจากที่หลับมาร่วมหลายชั่วโมง มันพยายามจะดื้อและตะกุยเสื้อผมไม่หยุดจนต้องแวะข้างทางเพื่ออบรมนิสัยกันเล็กน้อย
"ไม่เอาๆ เจ็บ"
"มี๊!!" จนปัญญาแหล่ะครับ.. เลี้ยงก็ไม่เคยเลี้ยง หลังจากที่ผมเก็บตัวอยู่ในห้องทดลองมาร่วมหลายอาทิตย์เพื่อให้อุณหภูมิเลือด การใช้ชีวิต การอยู่ ทำกิจวัตรทุกอย่างให้เหมือนพวกมนุษย์ ผมก็ถูกปล่อยลงจากยานอวกาศสู่ป่าข้าวโพดรกร้างพร้อมด้วยลูกแมวตัวนี้ และด้วยมันสมองที่ชาญฉลาดมากกว่ามนุษย์ทั่วไปทำให้การเดินทางมายังห้างที่ว่าไม่ได้เกินความสามารถสักเท่าไหร่นัก .. ข้อมูลทุกอย่างถูกบันทึกไว้ในหัวของผมหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็นที่พัก ธนาคาร ดร.พวกนั้นซัพพอร์ทให้อย่างดี ดีมากด้วยแหล่ะ ..
"ในข้อมูลนี้มันบอกว่าหิวนี่ แต่เอาให้กินแล้วทำไมไม่กินอ่ะ" ดวงตาคู่คมแปรเปลี่ยนเป็นสีเขียวเพียงครู่เดียวเพื่อสแกนความต้องการของลูกแมวตัวน้อย ไอ้เจ้าก้อนก็ดิ้นไม่หยุด เขาชักจะหัวร้อนขึ้นมานิดๆแล้ว ..
"แมวน่ารักจัง" เสียงแปลกหน้าที่ดังอยู่ด้านหลังทำให้ผมจำต้องหันกลับไปมองทั้งๆที่มือก็คาอุ้มไอ้ตัวแสบอยู่ ผู้ชายหน้าสวยภายใต้ชุดยูนิฟอร์มเหมือนพนักงานแจกใบปลิวตามร้านขายไอศกรีมห่างจากตรงนี้ไปไม่ถึงสามสิบเมตรกำลังส่งยิ้มหวานอัธยาศัยดีให้แก่ผม ..
และจู่ๆภาพบางอย่างก็แล่นเข้ามาในหัวโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ ..
ผมเห็นเราสองคนกำลังแลกจูบกันอย่างเร่าร้อนภายในห้องน้ำที่ไหนสักแห่ง ภาพที่เราต่างปลดเปลื้องเสื้อผ้าให้แก่กันและอย่างรีบร้อนราวกับหื่นกระหายในเซ็กส์เสียเต็มประดา เสียงคนตรงหน้าครางหวานยามเมื่อผมซุกใบหน้าลงไปกับซอกคอเนียนระหง เขาเอ่ยชื่อผม ร้องขอให้ผมช่วยทำบางอย่างกับร่างกายของตัวเอง .. มือเรียวเล็กประคองใบหน้าเอาไว้ก่อนจะส่งสายตาหวานเยิ้ม เราสองคนหอบกระเส่าต่างส่งเสียงประสานเรียกชื่อของกันและกัน .. 'ผมจะไม่ไหวแล้ว แบคฮยอน' ..
"บ..แบคฮยอน"
"หืม? รู้จักผมหรอครับ" คนน่ารักขมวดเรียวคิ้วแปลกใจเล่นเอาร่างสูงที่พึ่งเห็นภาพประหลาดๆพวกนั้นขวัญเสียขึ้นมาแบบดื้อๆ .. ท..ทำไมถึงเห็นอะไรแบบนี้ล่ะ คนพึ่งเคยเจอหน้ากันแท้ๆไปคิดแบบนั้นกับเขาได้ไงเนี่ย!
"ครับ อ๋อ..ช..ชื่อเพื่อน"
"โอ๊ะ ชื่อเดียวกันเลยครับ" และรอยยิ้มหวานๆนั่นกำลังปลุกปั่นใจผมให้เต้นแรงจนมันแทบจะระเบิดออกมานอกอก ผมมองหน้าแบคฮยอนไม่ได้เลย..มองทีไรมันจะต้องคิดแต่ไอ้เรื่องแบบนั้น มองปากก็อยากจูบ มองคอก็อยากกัด มองไม่ได้ มองไม่ได้สักอย่าง!
"ห้างจะปิดแล้วนะครับ ฝนก็จะตกแล้วด้วย คุณ..?"
"ชานยอลครับ"
"อ่า คุณชานยอลพักอยู่ไหนหรอครับ?" ด้วยความอัธยาศัยดีทำให้แบคฮยอนชวนคุยได้อย่างราบรื่นและเป็นธรรมชาติ .. ซึ่งมันผิดกับผม กลิ่นตัวหอมอ่อนๆลอยเตะจมูกจนต้องลอบกลืนน้ำลายเงียบๆ ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกว่าตัวเองเข้าขั้นโรคจิตมากขึ้นทุกทีๆ ไอ้ตัวเล็กในอกก็ดิ้นไม่หยุด จนต้องเผลอทำเสียงดุใส่ไปรอบนึง ..
"ก..ก็ไม่ไกลหรอกครับ ประมาณสามสิบกิโลน่าจะได้"
"โห ไกลอยู่นะครับ แล้วมีรถหรือเปล่า ถ้าไม่มีเอาน้องตากฝนไปจะไม่สบายนะ" แบคฮยอนชักสีหน้าเป็นกังวลพร้อมกับเหลือบมองก้อนขนฟูที่ดื้อกับผู้เป็นเจ้าของไม่ยอมหยุด
"ถ้าไม่ว่าอะไร..ขอผมอุ้มน้องหน่อยได้หรือเปล่าครับ?" ใครมาเห็นภาพนี้คงแปลกใจพิลึก .. ภาพที่ผมนั่งห่างกับแบคฮยอนประมาณสองคืบ ก้มหน้าก้มตาไม่ยอมมองคู่สนทนา เอาแต่ปรามแมวเด็กในอ้อมแขนโดยเหลือบมองคนข้างกายอยู่เป็นระยะว่าจะไม่เข้าใกล้กันมากไปกว่านี้ .. ถ้าจ้องอีกกลัวเจอกับภาพอะไรแปลกๆเข้านั่นแหละปัญหา พวกดร.นั่นใส่อะไรแปลกๆในหัวผมหรือเปล่านะ!
"ได้สิครับ..อ..เอาเลย" ผมรีบวางไอ้แมวเด็กของผมไว้ด้านข้างเพื่อไม่ให้เราสัมผัสกันและกัน และนั่นมันทำให้แบคฮยอนถึงกับเฟลอยู่นิดหน่อย
"รังเกียจอะไรผมหรือเปล่าครับ?"
"คือ..ม..ไม่ครับ ไม่เลย"
"แล้วทำไมคุณไม่มองหน้าผม ผมมันอัปลักษณ์จนทนมองไม่ได้เลยหรอ" ชานยอลรีบเงยหน้ามองคนนั่งข้างกายเพราะไม่อยากให้แบคฮยอนเข้าใจผิด .. ดวงตาเรียวรีสีน้ำตาลอ่อนรับกับผมขาวครีมเหมือนลูกแมวในอ้อมอกแบบเดียวกันเป๊ะ จมูกรั้นเชิด ริมฝีปากอิ่มสีเชอร์รี่กำลังบึนเล็กๆเพราะเกิดอาการน้อยใจขึ้นมา แก้มเนียนใสที่ย้วยนิดหน่อยมันน่ารักเสียจนอยากจะ ..
อยากจะ .. มกไวมกดทเมำวใงไงใไดม ไอ้บ้า!
"น่ารัก.."
"หือ?"
"ค..คือ..ผมว่าผมรีบกลับดีกว่า"
"แต่น้องมายองหลับแล้วนะครับ"
"..."
"ถ้าไม่เสียเวลามากเกินไป .. คุณชานยอลไปอยู่ที่บ้านผมก่อนจะได้มั้ยครับ"
- 45%
เสียงเปิดประตูบ้านชั้นเดี่ยวขนาดกลางในช่วงเวลาเกือบห้าทุ่มของวันดังขึ้น .. ดวงจันทร์กลมๆแทบไร้ซึ่งแสงนวลเหตุมาจากก้อนเมฆหนาครึ้มบดบังหนาแน่นและอีกไม่นานฝนคงตกลงมาอย่างที่ใจคิด .. แบคฮยอนไขกุญแจในมือด้วยความคล่องแคล่วประกอบกับผลักบานประตูสีไม้เข้าไปอย่างเช่นทุกๆวัน .. หากแต่ วันนี้ไม่ได้กลับบ้านคนเดียว
ชานยอลกระชับมายอง .. หรือลูกแมวตัวน้อยแสนดื้อในอ้อมอกให้แนบแน่นขึ้นกว่าเก่าเพราะมันเริ่มที่จะตะกุยเสื้อของของเขาอีกครั้ง เห็นแบคฮยอนบอกว่าขนสีครีมอ่อนๆทำให้นึกไปถึงมายองเนสซึ่งร่างสูงเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ามันคืออะไร? .. อาจจะเป็น ชื่อของตัวการ์ตูน?
ไฟในบ้านสว่างโล่ทั่วทั้งหลัง .. ความสะอาดสะอ้าน กลิ่นหอมอ่อนๆเหมือนกลิ่นตัวแบคฮยอนลอยคลุ้งจนต้องแอบอมยิ้มออกมาอย่างปิดไม่มิด
"มี๊!"
"มาหาแบคมั้ย?" เพราะในขณะที่อยู่ในอ้อมอกของหนุ่มหน้าหวาน ..เจ้ามายองไม่มีทีท่าว่าจะดื้อรั้นเหมือนอยู่กับเขาเลยสักนิด ไม่ตะกุยเสื้อ ไม่ร้อง แถมยังแสดงท่าทีออดอ้อนเหมือนหลงรักร่างบางเข้าให้เต็มเปา .. ชานยอลส่งต่อแมวเด็กให้กับคนตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม ไม่อิจฉาแบคฮยอนหรอกนะ .. เพราะขนาดตัวเขาเอง ก็ยังรู้สึกว่าร่างเล็กน่ารักมากๆเหมือนกัน
มือเรียวรับเจ้าก้อนขนฟูอย่างทะนุถนอม แอบจุ๊บจมูกแดงๆของไอ้ตัวเล็กลงไปอย่างมันเขี้ยว เขาเองก็ชอบแมว แต่ไม่มีเวลาที่จะเลี้ยงมันนี่ล่ะสิที่เป็นปัญหา
"บ้านคุณน่าอยู่จัง"
"มาอยู่มั้ยล่ะครับ" คนสวยยิ้มมุมปากเมื่อเห็นอีกฝ่ายมีท่าทีอึกอักเพราะโดนเขาเอ่ยชวน ทำไมจะไม่รู้ล่ะว่าร่างสูงก็แอบสนใจตัวเองอยู่เหมือนกัน .. ไม่งั้นชวนมาบ้านคงไม่ปักใจมาง่ายๆแบบนี้
"อ่า.."
"ฮะๆ ผมหยอกน่า แต่ถ้าอยากมาอยู่จริงๆ ก็มาได้นะครับ จะได้เล่นกับมายองด้วย เนาะ"
ลูกแมวสีครีมอ่อนขานรับราวกับรู้ว่าแบคฮยอนสื่อความว่าอะไร .. เสียงลมกรรโชกที่เริ่มดังแรงขึ้นอยู่ด้านนอกส่งผลให้คนตัวเล็กต้องแอบเดินไปแง้มผ้าม่านตรงบานหน้าต่างเพื่อสังเกตการณ์ ต้นไม้หลายสิบต้นที่ถูกปลูกเป็นทิวแถวตามท้องถนนไหวเอน ด้วยบรรยากาศความมืดมิด กอปรกับอากาศเริ่มเย็นลงทำให้บ้านเดี่ยวหลังนี้ดูวังเวงแปลกๆพิลึก
สักพักเจ้ามายองก็ตะกุยเสื้อชายหนุ่มเพื่อขอให้ปล่อยลงไปเดินสำรวจพื้นที่แบบคนอื่นๆเขาบ้าง จำให้แบคฮยอนต้องย่อกายลงปล่อยไอ้ตัวอ้วนกลมให้เป็นอิสระ .. เป็นครั้งแรกที่สี่เท้าเล็กๆนั่นได้ลองสัมผัสกับพื้นกระเบื้องเย็นเฉียบดูและเหมือนจะชอบใจเพราะเพียงไม่นานก็วิ่งวุ่นชนขอบตู้ทั่วบ้าน .. แบคฮยอนหัวเราะเบาๆก่อนจะเหลือบมองคนที่ยืนข้างกันด้วยรอยยิ้มกว้างน่าเอ็นดู
"ดูเหมือนคุณน่าจะไม่ได้กลับบ้านแล้วแหล่ะครับ"
"..."
"นอนที่นี่เถอะนะ" ไม่เชิงขอร้อง .. แต่เพราะแววตาคู่นั้นที่ดูคล้ายกับออดอ้อนเขาอยู่ลึกๆทำให้หูของร่างสูงเริ่มขึ้นสีแดงเถือกลามไปยังลำคอ .. ชานยอลรู้สึกร้อนใบหน้าจนต้องเป่าปากดังฟู่ เกิดมาก็พึ่งจะเคยเป็น ชักจะแอบคิดเล็กๆแล้วว่าพวกมนุษย์มันต้องมีสารบางอย่างที่หลั่งออกมาแล้วทำให้เขากลายเป็นอาการแบบนี้
"ทานข้าวมาหรือยังครับ เดี๋ยวผมทำใ-อ้ะ!"
เสียงฟ้าร้องที่จู่ๆก็ดังเสียดแทรกเข้ามาทำให้ร่างบางเผลอสะดุ้งชนกับอีกฝ่ายจนล้มลงไปกองบนโซฟาด้วยกัน .. ใบหน้าจิ้มลิ้มที่ซบอยู่กับแผงอกแกร่งของตัวเองนั้นอันตรายต่อหัวใจมาก .. มากเสียจนอยากจะหลับตาแล้วขอให้ตื่นขึ้นมาอีกทีในวันพรุ่งนี้ ..ไหนจะมือบางที่จับอยู่ตรงหลาดไหล่ กลิ่นแชมพูอ่อนๆหอมฟุ้งชวนให้อยากก้มลงไปจุ๊บเบาๆด้วยความเอ็นดู
แบคฮยอนเงยหน้าขึ้น .. แอบพิจารณาใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติไม่ต่างจากพวกนักร้องไอดอลที่เขาเคยเห็นตามโทรทัศน์ จมูกได้รูป ตาคม แถมเสียงทุ้มนุ่มเวลาเอ่ยปากพูดประโยคใดๆออกมาก็ชวนเขินกัดลิ้นตายสิ้นดี
"คุณหล่อจัง.." คนตัวเล็กเผลอพูดพึมพัมออกมาเบาๆหากแต่มันกลับเป็นชนวนชิ้นดีที่ทำให้ ปาร์ค ชานยอล เผลอจิกปลายเล็บลงกับโซฟา.. ยิ่งได้เห็นใกล้ๆว่าริมฝีปากจิ้มลิ้มสีหวานนั่นมันน่าลิ้มลองขนาดไหน หัวสมองหนุ่มต่างดาวอย่างเขานั้นมันขาวโพลนไร้ซึ่งความคิดไปเสียดื้อๆ
แบคฮยอนสะบัดหัว .. ยันกายลุกออกจากคนตรงหน้าพร้อมกับปิดแก้มยุ้ยๆที่กำลังจะสุกเป็นมะเขือเทศเต็มทน
"อ่าา~ น่าอายจัง ผมพูดอะไรออกไปเนี่ย" กายบางเตรียมหันขวับเพื่อนที่จะเข้าครัวไปทำอาหารให้อีกฝ่ายหากแต่มือแกร่งที่คว้าเอาเอวคอดลงมานั่งบนตักตัวเองอีกครั้งทำให้แบคฮยอนแอบเหวอไปชั่วขณะ .. ใบหน้าของเราสองคนห่างกันเพียงแค่จมูกกั้น สัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนแสนเซ็กซี่นั่นที่ข้างหูจนต้องกำเสื้อของชานยอลเอาไว้จนมันเริ่มยับ
"คุณก็น่ารัก" .. ดวงตาทั้งคู่สบประสานกันราวกับตกอยู่ในภวังค์ บางสิ่งบางอย่างดึงดูดให้ริมฝีปากอ่อนนุ่มค่อยๆเคลื่อนเข้าหาจนประกบแนบลงไปอย่างอ่อนโยน ริมฝีปากหยักที่ไม่เคยแม้แต่จะให้สาวใดได้ครอบครองตอนนี้เขากำลังปล่อยให้ลูกแมวแบคฮยอนตรงหน้าเดินเกมเล่นอย่างพึงพอใจ ... แขนเรียวยกขึ้นคล้องลำคอแข็งแกร่งอย่างเหมาะเจาะ ขยับใบหน้าจิ้มลิ้มปรับองศาจูบของเราทั้งคู่ให้ลึกซึ้งมากเกินกว่าจะบรรยายได้ .. รู้สึกดี ชานยอลคิดแค่นั้น ..
มือแกร่งของชายหนุ่มค่อยๆสัมผัสเข้ากับเอวบอบบางภายใต้สาบเสื้อ อยากจะสอดมือเข้าไปลูบไล้ผิวกายเนียนผ่องของอีกฝ่ายแทบแย่หากแต่นึกได้ว่าเราเองก็พึ่งรู้จักกัน .. ไม่ถึงสามชั่วโมงด้วยซ้ำ(?) .. แบคฮยอนแอบหัวเราะ ถอนริมฝีปากหวานฉ่ำนั่นออกมาเพียงนิดก่อนจะเป็นฝ่ายค่อยๆสอดมือเข้าไปใต้เสื้อไซส์ยักษ์ของชานยอลแทน เรียวคิ้วเริ่มหักลง.. นิ้วนุ่มนิ่มจงใจลากวนไปเวียนมากับหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามของเขาอย่างรู้งาน
"อา..อะ.."
"ชอบหรอครับ" เมื่อปลายนิ้วจงใจลากสูงขึ้น เสียดสีกับหน้าอกแนบแน่น จำให้ต้องหลุดครางเสียงต่ำออกมาอย่างห้ามไม่ได้ ..ใบหน้าหล่อเหลากำลังบ่งบอกว่าต้องการคนน่ารักแทบบ้า และจะดีขึ้นไปอีก .. ถ้าเราสองคนได้ทำอะไรที่มันมากกว่านั้น
"เมี๊ยว.." เจ้าก้อนกลมที่กระโดดขึ้นมาขัดจังหวะถึงบนเตียงส่งผลให้ทั้งคู่เหลือบมอง .. เป็นครั้งแรกที่ปาร์ค ชานยอลรู้สึกเคืองนิดๆกับดวงตาลูกแก้วใสแจ๋วแสนไร้เดียงสาคู่นั้นของเจ้าแมวเด็ก รู้งานดีจริงๆว่าควรเข้ามาตอนไหน ให้ตายเถอะ ..
"ผมว่า..ผมไปทำอาหารให้คุณดีกว่า" รอยยิ้มน่ารักผุดพราวจนอยากจะกดจมูกลงไปหอมแก้มให้ชื่นใจสักฟอด ดูเหมือนว่าแบคฮยอนเองก็คงสนใจเขาอยู่บ้างเหมือนกัน สงสัยงานนี้..การสานสัมพันธ์ระหว่างเราทั้งคู่อาจจะเป็นไปได้อย่างราบรื่น ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด..
*
เสียงค้นกระเป๋าท่ามกลางความเงียบสงัดของบ้านเดี่ยวชั้นเดียวหลังนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลาตีสาม เจ้าของร่างเล็กบอบบางภายใต้เสื้อสีขาวแขนยาวตัวโคร่งกับกางเกงวอร์มสีดำกำลังซอกแซกหาบางสิ่งบางอย่างด้วยความขมักเขม้น .. ดวงตาเรียวรีจดจ้องไปยังร่างสูงโปร่งที่นอนหลับสนิทบนเตียงของตัวเอง เมื่อแน่ใจว่าอีกฝ่ายจะไม่ตื่นขึ้นมาในตอนนี้ถึงได้ลงมือ'ขโมยเงิน'ที่เก็บไว้อย่างดีภายใต้กระเป๋าเป้แสนเท่ห์ของเขาอย่างรวดเร็ว
"โห.." ควักธนบัตรที่อยู่ภายในนั้นออกมาได้ราวสิบใบก็ต้องหลุดเสียงอุทานออกมาอย่างตื่นเต้น คนบ้าที่ไหนใส่เงินไว้ในนี้เป็นปึกๆ ตั้งแต่เกิดมา..แบคฮยอนไม่เคยได้สัมผัสเงินมากมายขนาดนี้มาก่อนเลยสักครั้ง หัวใจดวงน้อยๆเต้นถี่ยิบจนต้องสูดหายใจเข้าลึกๆ เขาขอมันสักก้อนสองก้อนคงไม่ว่ากันหรอกใช่หรือเปล่าล่ะ..
แบคฮยอนหยัดกายลุกขึ้นอีกหนก่อนจะวิ่งไปเอากระเป๋าเสื้อผ้าที่ตระเตรียมพร้อมไว้อยู่แล้วออกมาจากตู้ ก้มลงโกยเงินใส่กระเป๋าของตัวเองให้ได้มากที่สุดเท่าที่ต้องการ สิ้นเสียงรูดซิบเป็นอันบ่งบอกว่า..เหยื่อคนล่าสุด เสียเหลี่ยมให้เขาเสียแล้ว
"ขอโทษนะครับ แต่เราอย่ารู้จักกันดีกว่า คุณชานยอล"
*
"โอ๊ย!"
"เมี๊ยว!!"
"มายอง มันเจ็บ"
แม้เปลือกตาทั้งคู่จะยังไม่ได้เปิดขึ้นมารับแสงภายนอกหากแต่ความแหลมคมจากเล็บที่พึ่งเริ่มงอกของแมวเด็กแสนดื้อทำให้เขาไม่จำเป็นต้องเสียเวลาเดาผู้ร้ายเลยว่าเป็นใคร ปาร์ค ชานยอลขมวดเรียวคิ้วเป็นอันดับแรก กระพริบเปลือกตาแสนหนักอึ้งของตัวเองเป็นลำดับถัดมาก่อนจะพบว่ารอบกายของเขามันสว่างจ้าเพราะทดแทนด้วยแสงอาทิตย์ไปซะหมด .. ความเงียบงันไร้ซึ่งผู้คนจำให้ชายหนุ่มยันกายขึ้นนั่ง ได้แต่นึกสงสัยว่าคนน่ารักทำไมถึงไม่อยู่ ..
"คุณแบคฮยอน.." เสียงทุ้มติดแหบเล็กน้อยเหตุเพราะพึ่งตื่นมาได้ไม่ถึงนาที.. ดวงตาคู่คมที่สามารถใช้งานได้เหนือธรรมชาติบ่งบอกว่าบ้านหลังนี้ไม่มีใครอยู่เลยนอกจากเขาและแมวเด็กอีกหนึ่งตัว .. จนมาหยุดอยู่ที่กระเป๋าเป้ใบเก่ง และดูเหมือนว่ามันจะมีสิ่งผิดปกติไปจากเดิมอยู่หน่อย
เพียงแค่ชายหนุ่มมองมันจากตรงนี้เขารับรู้ได้ทันทีว่าจำนวนเงินที่เขาได้รับมามันไม่เท่าเดิม.. ไม่อยากจะฟันธงว่าคนน่ารักเป็นคนขโมยไปหากแต่ถ้าไม่ใช่เขา..ก็คงไม่มีใครที่จะเข้าข่ายได้อีกแล้ว
เจ็บที่ใจอยู่หน่อย .. แต่ถ้าคิดว่าจะหนีเขาพ้น คุณก็คิดผิดอยู่เหมือนกันนั่นแหละ แบคฮยอน
*
"อีกแล้วหรอวะ"
"..."
"มึงไม่ละอายใจบ้างหรอที่ไปขโมยเงินใครต่อใครเค้ามา"
"แล้วกูเลือกอะไรได้วะ!"
เสียงของแบคฮยอนที่วีนขึ้นจน โด คยองซู ขมวดปมคิ้วเพราะรู้ว่าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้านี้จะต้องมีปัญหาเกิดขึ้น มันไม่ใช่ครั้งแรก มันทำบ่อยเสียจนกลายเป็นเรื่องชินชาสำหรับชายหนุ่มไปแล้ว ถึงจะรู้ว่าอีกฝ่ายสามารถทำงานสุจริตได้อย่างเช่นเขา อย่างเช่นเด็กกำพร้าคนอื่นๆ แต่แบคฮยอนไม่เอา แบคฮยอนไม่เลือก เพราะมันลำบาก มันได้เงินน้อย .. สุดท้ายบั้นปลายอาชีพที่เลือกก็คือโจรอย่างนั้นน่ะหรอ
"ขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายได้มั้ย"
"กูฟังมึงพูดมาหลายรอบแล้วคยอง"
"แบคฮยอน..กูเป็นห่วงมึงนะเว้ย" เมื่อเห็นว่าร่างบางที่มาอยู่กับเขาได้ไม่ถึงครึ่งวันกำลังเดินเก็บข้าวของใส่กระเป๋าให้วุ่นทำเอาหนุ่มตาโตถึงกับถอนใจเพราะไม่รู้จะปรามอย่างไรคนดื้อถึงจะเชื่อ .. แบคฮยอนเป็นแบบนี้มาโดยตลอด แต่ถึงจะอย่างนั้นก็หลุดรอดมือตำรวจมาได้ทุกครั้งจนแอบคิดว่าดวงมันมาทางเส้นสายโจรกรรมอะไรเทือกๆนั้นหรือเปล่า ทั้งๆที่มันเป็นสิ่งไม่ดีแท้ๆแต่กลับราบรื่นจนเขาเองยังงง
"แบค"
"เดี๋ยวกูเข้ามาวันพรุ่งนี้นะ"
"แบคฮยอน!" ร่างบางไม่แม้แต่จะหันกลับมามองเพื่อนสนิท แบงค์พันสามใบที่วางไว้ให้ตรงหัวเตียงของเพื่อนคนเดียวทำให้คยองซูแทบอยากจะลากมันมาทึ้งหัวเรียกสติว่าทำไมถึงได้ทำตัวแบบนี้ .. ไม่อยากจะแช่งมันหรอกนะ แต่ก็ขอให้มันเจอบทเรียนหนักๆจากคนที่มันไปขโมยเงินเค้ามาซะบ้าง จะได้รู้ว่าผลกรรมมันเป็นยังไง
*
ผมรับกุญแจห้องจากเคาน์เตอร์มาด้วยท่าทีเอือยๆมึนๆด้วยช่วงเวลาที่ดึกเข้าไปทุกทีๆ เพราะอะไรที่ทำให้ผมต้องกลายมาเป็นคนไม่มีบ้าน ไม่มีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง เหอะ..ก็เพราะความจน ความไม่มี นั่นแหละ..ปัญหาสำคัญสำหรับลูกกำพร้าอย่างผมเลย .. ผมเป็นโจร ผมขโมยเงินคนอื่นเค้าไปทั่ว ถามจริงว่าอยากทำมั้ยก็คงไม่ ใครมันจะไปอยากทำกันล่ะ ..
และการขโมยเงินครั้งนี้ก็คิดว่าคงจะทำเป็นครั้งสุดท้ายแล้วด้วย..ผมถึงได้เอาเงินของผู้ชายคนนั้นออกมาให้ได้มากที่สุด และเริ่มต้นกับอะไรใหม่ๆ ซึ่งอะไรใหม่ๆที่ว่านั้นผมก็ยังคิดไม่ออกอยู่ดีว่ามันคืออะไร
เสียงรองเท้าผ้าใบสีชาดังเป็นจังหวะไปตามทางเดินมุ่งสู่ลิฟท์เก่าๆตัวหนึ่งตรงหน้า .. ผมไม่รอช้าที่จะใช้งานมันด้วยความคล่องแคล่วเพราะก็คงไม่มีใครจะมาเดินเข้าออกโรงแรมในช่วงเวลาเกินเที่ยงคืนมาเกือบหนึ่งชั่วโมงขนาดนี้หรอก .. เมื่อแทรกตัวเข้ามาในกล่องพาหนะแคบๆ กดปุ่มตรงแถบด้านข้างด้วยอาการง่วงงุนเต็มทีบานประตูสี่เหลี่ยมนั่นจึงปิดลง ..
ใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาทีก็ถึงที่หมาย .. และทันทีที่ลิฟต์เปิดออก ร่างสูงโปร่งอันแสนคุ้นเคยก็ยืนกอดอกรอเขาอยู่ตรงหน้าราวกับรู้ว่าแบคฮยอนจะต้องขึ้นมาอยู่บนชั้นนี้
"ค..คุณ" ดวงตาเรียวรีไร้ซึ่งอาการง่วงงุนเป็นปลิดทิ้ง ตกใจจนระบบรวนไปหมดจนไม่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร มือเรียวเตรียมจะตะปบเข้ายังปุ่มลิฟท์เพื่อหนี หากแต่ ปาร์ค ชานยอลที่กระชากเอาข้อมือของอีกฝ่ายออกมาทำให้ตัวเล็กปลิวตามแรงต้องการของชายหนุ่มอย่างไม่ต้องสงสัย
"พอหรือเปล่าครับเงิน?"
"ผ..ผม"
"อยากได้อีกเท่าไหร่คุณบอกผมสิ" ร่างบางพยายามบิดข้อมือออกจากอีกคนจนเกิดรอยนิ้วแดงเป็นแถบ มันทั้งเจ็บทั้งกลัวไปหมดจนอยากจะร้องไห้ออกมาเลยจริงๆ
ถึงเขาจะเคยถูกจับได้จนเจอกับตำรวจมาก็ตั้งไม่รู้ต่อกี่ครั้ง หากแต่คราวนี้เขากลับรู้สึกว่ามันน่ากลัว น่ากลัวเสียยิ่งกว่าเจอกับตำรวจเสียอีก
"ผมไม่มีเงินใช้คืนคุณหรอกนะ"
"เหอะ..ก็แค่เงิน ผมเองก็ไม่ได้อยากจะได้คืนสักเท่าไหร่หรอกนะครับ"
"งั้นคุณก็ปล่อยผมไปสิ!! ย-ย๊า!!" ตัวเล็กถูกหนุ่มร่างสูงอุ้มในท่าเอาตัวพาดบ่า มือแกร่งที่ล็อคเอาเอวบางไว้เสียแนบแน่นทำให้แม้แต่จะดิ้นยังรู้สึกเจ็บ
"คุณรู้ใช่มั้ยว่าผมต้องการอะไร"
"ไม่!! ผมไม่รู้อะไรทั้งนั้น!!"
"อ่า..ถ้าเป็นอย่างนี้แม้แต่กางเกงก็คงต้องผมถอดให้สินะ" ดวงหน้าจิ้มลิ้มแดงปรี๊ดทันทีที่ได้ยินคำพูดล่อแหลมแบบนั้น และต่อให้ตายยังไงชาตินี้ก็คงดิ้นไม่หลุด เขาชักจะตะหงิดๆใจซะแล้วว่าผู้ชายคนนี้เจ็บเป็นบ้างหรือเปล่า
ทันทีที่บานประตูห้องปิดลงซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าใช่ห้องของตัวเองที่จองไว้หรือมันเป็นห้องของผู้ชายตัวใหญ่ที่กำลังแบกเขาเข้ามาพร้อมกับทุ่มลงกับเตียงผืนกว้างอย่างไม่ถนอมเลยแม่แต่นิดกันแน่ .. แบคฮยอนพยายามตะเกียกตะกายขึ้นมานั่งอีกครั้งหากแต่ชายหนุ่มที่โถมตัวลงมาตรึงแขนทั้งสองข้างของเขาเอาไว้จึงทำให้ตัวเล็กได้แต่บิดซ้ายบิดขวาหวังจะให้หลุด
"ถ..ถ้าคุณปล้ำผม คุณเองก็จะโดนจับ!"
"ก็ดี จับได้ก็จับไปสิ อย่าลืมว่าคุณเองก็ขโมยเงินผมเหมือนกัน"
"..."
"ผมจะไม่โกรธคุณเลยนะแบคฮยอน แค่คุณหาเหตุผลไร้สาระอะไรก็ได้มาสักข้อเพื่อแลกกับเงินแค่นี้ ผมให้ได้ และจะให้มากกว่านั้นด้วย"
ใบหน้าจิ้มลิ้มสื่อถึงความงุนงง .. แล้วทำไม ปาร์ค ชานยอลถึงจะต้องมาใจดีกับเขาด้วย ทั้งๆที่เราเองก็ไม่ได้รู้จักกันมาก่อนเหมือนกัน..
"ทำไม.."
"คงเป็นเพราะผมชอบ.."
"..."
"คุณคงเป็นคนๆแรก ..ที่ทำให้ผมเข้าใกล้กับคำว่าชอบได้มากที่สุด ไม่เกี่ยวกับเวลา แต่เกี่ยวแค่ว่า..วันๆนึงผมคิดถึงคุณมากเกินกว่าจะคิดถึงแต่เรื่องอื่น" ดวงตาคู่คมเหลือบมองริมฝีปากจิ้มลิ้มที่เคลือบน้ำลายอยู่หน่อยจนมันวาวเล็กๆเพิ่มความน่าจูบเข้าไปอีกเท่าตัว ดวงตาเรียวรีแอบเกิดอาการสั่นไหวจนไม่กล้าแม้แต่จะเงยขึ้นสบตากับเขา แบคฮยอนไม่เคยถูกรักหรอก .. ใครจะมารักเขากัน .. ผู้ชายคนนี้กำลังทำให้ชายหนุ่มสับสน
"แต่การที่ผมชอบคุณมันก็ไม่ได้หมายความว่าผมจะไม่ลงโทษกับสิ่งที่คุณทำลงไปหรอกนะ" มือแกร่งเอื้อมปลดกระดุมเสื้อสีขาวของตัวเองออกทีละเม็ดจนคนใต้ร่างเสียวสันหลังวูบ .. ดวงตาคมคายกรีดมองผิวพรรณของร่างบางอย่างพิจารณาพร้อมกับจงใจค่อยๆสอดมือเข้าไปลูบไล้หน้าท้องแบนราบอย่างต้องการ
"เพราะฉะนั้น..มาเป็นของผมเถอะ แบคฮยอน"
CUT
*อัพคัทแล้วนะคับบ อยู่ในทวิต
"ไม่น่าเชื่อเลยจริงๆว่าเราจะเจอ"
"นั่นสิ .. ฉันก็นึกว่าปาร์ค ชานยอล เป็นสายพันธุ์สุดท้ายนี้แล้วด้วยซ้ำ"
เสียงใครพูดน่ะ .. แล้วเขาอยู่ที่ไหน?
ดวงตาเรียวรีพยายามปรับโฟกัสกับภาพตรงหน้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น คล้ายว่าฝันก็ไม่ใช่จะว่าความจริงก็ไม่เชิงเพราะความปวดหนึบตรงบริเวณหัวไหล่และลำตัวกำลังรุมเร้าชายหนุ่มอยู่ทุกขณะ อากาศเย็นๆปะทะผิวกายเป็นพักๆราวกับนอนเอื่อยอยู่ภายในห้องปรับอากาศ แบคฮยอนลืมตาขึ้นอย่างช้าๆก่อนจะรู้สึกว่าห้องทั้งห้องนี้เต็มไปด้วยสีขาว แถมยังสว่างจ้าจนต้องเผลอขมวดปมคิ้วเสียแน่น
"ฟื้นแล้วๆ" เสียงนั้นใกล้เข้ามาเรื่อยๆพร้อมด้วยเงาของใครสักคนขยับยุกยิกอยู่ปลายเตียง เขาเอนเอียงใบหน้าเพื่อหาต้นตอของเสียงก่อนจะสะดุ้งจนสุดตัวเมื่อสิ่งมีชีวิตรูปร่างแปลกประหลาดปรากฏสู่สายตา
"อะ!!"
"ขี้ตกใจเหมือนกันนะเนี่ย"
"อ..อย่าเข้ามาใกล้ผม!" ดวงตาคู่หวานเหลือบมองผิวพรรณเขียวกระด่างกระดาวของเจ้าตัวประหลาดสวมชุดกาวน์สีขาวที่ยืนอยู่ข้างเตียงสองตัวด้วยหัวใจเต้นตุบตับเพราะความกลัว มันดูเหมือน..เอเลี่ยนในหนังวิทยาศาสตร์ที่เขาเคยดูอย่างไรอย่างนั้น ไหนจะดวงตาเม็ดเล็กเท่าข้าวสาร นิ้วมือทั้งสองข้างไม่ครบองค์ประกอบ ..ให้ตายเถอะ! นี่เขาฝันอยู่แน่ๆ !!
"เด็กน้อยขี้ตกใจ" ตัวประหลาดสวมแว่นเอ่ยด้วยเสียงโทนแหลมก่อนจะฉีกยิ้มน่าขนลุกให้เขาอย่างมีจริต
"พ..พวกคุณเป็นใคร แล้วผมอยู่ที่ไหน ผมมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง แล้ว..แล้-"
"อ่ะ ใจเย็นๆก่อนนะ ไว้ถ้าปาร์ค ชานยอล กลับมาเมื่อไหร่ฉันจะเล่าให้ฟังแล้วกัน"
"คุณชานยอล? คุณชานยอลเกี่ยวอะไร?"
แกร๊ก ..
เสียงเปิดประตูดังขัดจังหวะขึ้นก่อนที่บทสนทนาระหว่างผมกับเจ้าตัวประหลาดนี่จะดำเนินไปมากว่านี้ รูปร่างสูงโปร่งในชุดสีดำพอดีตัว ดวงตาคู่คมสีเขียวเข้มผิดแปลกไปจากเดิมกำลังเดินเข้ามาในห้องด้วยใบหน้าเรียบนิ่ง .. ปาร์ค ชานยอล ทำไมมาอยู่ที่นี่ แล้ว .. แล้วตัวประหลาดเอเลี่ยนรู้จักเขาได้ยังไง ให้ตายเถอะ! ผมกำลังฝันร้ายอยู่ใช่หรือเปล่านะ!
"คุณ.."
"ปวดหัวหรือเปล่าครับ? หายใจสะดวกมั้ย?" มือแกร่งที่ล้วงกระเป๋ากางเกงอยู่เอื้อมเข้ามาแตะยังข้างแก้มก่อนจะไล่ขึ้นไปยังหน้าผากมน ตัวเล็กได้แต่นั่งนิ่ง เขามองการกระทำอ่อนโยนนั่นสลับกับมองสัตว์ประหลาดเอเลี่ยนที่กำลังยิ้มกรุ่มกริ่มเหมือนเวลาดูฉากอินเลิฟในซีรีย์สักเรื่อง
"ที่นี่ที่ไหน"
"..."
"คุณ! ที่นี่ที่ไหน!"
"เดี๋ยวผมเล่าให้ฟัง" ใบหน้าหล่อเหลาหันกลับมามองสิ่งมีชีวิตที่ตัวเล็กกว่าทั้งสองด้วยแววตาแกมดุ ก็นานๆที ปาร์ค ชานยอลจะคุยเป็นเรื่องเป็นราวกับใครสักคน แถมไม่ใช่คุยธรรมดา..มีแตะเนื้อต้องตัวเป็นห่วงเป็นใยกันอีกต่างหาก สงสัยแผนลงไปโลกมนุษย์ครั้งนี้คงจะได้ผลเกินคาดแล้วจริงๆสินะ .. เมื่อเห็นว่าด็อกเตอร์เอเลี่ยนทั้งสองนั้นจะไม่ยอมให้ความเป็นส่วนตัวกับเขาชายหนุ่มจึงเอ่ยเสียงเรียบเพื่อปรามให้เชื่อฟัง
"พวกผมจะคุยกัน"
"คุยสิ คุยเลย"
"แบบส่วนตัว" เรียวคิ้วเข้มเริ่มขมวด และตอนที่หนุ่มต่างดาวคนนี้โกรธมันน่ากลัวน้อยซะที่ไหนล่ะ
"แหม..ฉันก็แค่อยากจะรู้จักหนุ่มน้อยน่ารักคนนี้ว่าเป็นใครก็แค่นั้นเอง อ้อ..เห็นมีแผลด้วยนะ เป็นจ้ำเลยตอนฉันมาเปลี่ยนเสื้อให้น่ะ" ชานยอลหันกลับไปมองร่างบางที่กำลังกัดริมฝีปากตัวเองด้วยความประหม่า ใบหน้าจิ้มลิ้มขึ้นสีเลือดฝาดจนเก็บอาการเอาไว้ไม่อยู่ แล้วแผลพวกนั้นมันใครทำล่ะ ให้ตายเถอะ..แล้วจะมาอมยิ้มล้อผมทำไมเนี่ยไอ้คนบ้า!
"มันไม่ใช่แผล มันเป็-"
"เอ่อ ผ..ผมขอเวลาคุยกับคุณชานยอลหน่อยนะครับ นะครับนะ" หัวใจดวงเล็กเต้นตุบตับเผลอบีบมือแกร่งเอาไว้แน่น อาจจะไม่เรียกว่าเชิงบีบแต่น่าจะเป็นจิกเล็บซะมากกว่า เจอกันครั้งแรกออกจะเป็นคนขี้อายหนักมากๆด้วยซ้ำแล้วทำไมตอนนี้ถึงได้กลายเป็นคนนิสัยไม่ดีแบบนี้นะ! .. ชานยอลยิ้มเล็กๆก่อนจะพยักพเยิดหน้าให้ชนกลุ่มนั้นออกไปจากห้อง สิ้นเสียงปิดประตูได้ไม่เท่าไหร่แบคฮยอนก็จัดการฟาดมือลงไปยังหน้าท้องอีกคนแรงๆจนร่างสูงนิ่วหน้าเพราะตั้งตัวไม่ทัน
"ตีทำไม ผมเจ็บ"
"เล่ามาเลยนะ คุณพาผมมาที่ไหนเนี่ย!" ดวงตาคู่หวานกวาดมองไปรอบห้อง ถึงจะโล่งใจไปเปราะนึงเพราะมีอีกฝ่ายอยู่ด้วยแต่ก็ยังตะขิดตะขวงใจเพราะเจอกับสัตว์ประหลาดพวกนั้นอยู่ดี
"ดาวเอโซโทป"
"ห้ะ? นี่คุณอำผมเล่นหรอ ดาวบ้าอะไ-"
"มองตาผมสิ" ดวงตาสีเขียวมรกตดูลึกลับน่าค้นหากำลังสบเข้ากับดวงตาของผม เขาดูเหมือนไม่ใช่มนุษย์เลย .. ไม่เลยแม้แต่นิด
"ห..หมายความว่ายังไง"
"..."
"คุณเป็นเหมือนกับคนพวกนั้นน่ะหรอ?" ความเงียบคือคำตอบที่ชัดเจนที่สุดสำหรับแบคฮยอน
"และสิ่งที่ผมจะบอกคุณก็คือ.."
"..."
"คุณเองก็เป็นเหมือนกันกับผม"
"..." แบคฮยอนหน้าชาไปชั่วขณะ เรียวคิ้วสีอ่อนขมวดชนกันอย่างปิดความรู้สึกไม่มิด หมายความว่ายังไงที่บอกว่าผมเองก็เป็นเหมือนกับเขา..ผมไม่ใช่คน? อย่างงั้นน่ะหรอ? .. ตัวเล็กสูดหายใจเข้าลึกๆก่อนจะปล่อยเสียงหัวเราะแห้งๆออกมาราวกับคิดว่าอีกฝ่ายกำลังอำเขาเล่นต่อ บางทีปาร์ค ชานยอลอาจจะใส่คอนแทคเลนส์เพื่อมาหลอกเขาก็ได้
"พ..พูดเรื่องอะไรเนี่ย เลิกล้อผมเล่นเถอะน่า"
"แบคฮยอน"
"..."
"ผมมีบางอย่างที่อยากจะเล่าให้คุณฟังเกี่ยวกับมายอง" จู่ๆหัวใจของแบคฮยอนก็เต้นระรัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ เขากำลังกลัวว่าเหตุการณ์ต่อไปชายหนุ่มจะพูดเรื่องราวอะไรขึ้นมาแล้วทำให้เขารู้สึกแย่ กำลังกลัวว่า .. ตัวเองจะไม่ใช่คนขึ้นมาจริงๆ
"คนภายนอกรวมถึงคุณอาจจะมองว่ามายองก็เป็นแค่ลูกแมวธรรมดาๆตัวนึง .. แต่จริงๆแล้ว ระบบร่างกายของมันจะตอบสนองต่อแค่เฉพาะคนที่มีสปีชีส์อาศัยอยู่ในดาวดวงนี้เท่านั้น"
เกิดความเงียบขึ้นจนแม้กระทั่งเสียงลมหายใจยังดังกว่า .. แบคฮยอนกัดริมฝีปากแน่นพร้อมกับกำผ้าปูที่นอนจนมันยับยู่ยี่ไม่เป็นทรง
"มันจะไม่ร้อง ไม่สนใจมนุษย์หน้าไหนทั้งสิ้น ยกเว้นเสียแต่..คนๆนั้นจะไม่ใช่มนุษย์"
"ไม่จริง .. แล้วทำไมผมถึงอยู่บนโลกได้ล่ะถ้าผมไม่ใช่คน" ตัวเล็กเถียงทันควัน .. น้ำเสียงเริ่มสั่นเครือกอปรไปด้วยดวงตาคู่หวานกำลังจะมีน้ำตาเม็ดโตร่วงลงมา ..ชานยอลเอื้อมมือลงไปวางไว้บนศรีษะกลมมน ลูบเบาๆพร้อมกับยื่นใบหน้าเข้าไปพูดใกล้ๆ
"เพราะคุณอยู่บนโลกตั้งแต่เกิด.. ถ้าอย่างนั้น คุณเคยเจอหน้าพ่อกับแม่บ้างหรือเปล่า"
"ฮึก.." เมื่อทนไม่ไหวแบคฮยอนจึงปล่อยหยาดน้ำให้ไหลรินออกมาโดยไม่ปิดกั้น ชายหนุ่มขยับกายเข้าไปใกล้เด็กน้อยก่อนจะสวมกอดเอาไว้เพื่อให้อีกฝ่ายรับรู้ว่าเขาจะยังอยู่ตรงนี้ไม่ทิ้งแบคฮยอนไปไหน .. ใบหน้าจิ้มลิ้มซบลงกับอกแกร่งพร้อมกับปล่อยเสียงร้องไห้ออกมามากกว่าเก่า มันเป็นอารมณ์ตกใจเสียมากกว่าที่เขาเองพึ่งจะมารับรู้ว่าแท้จริงแล้วตัวเองไม่ใช่มนุษย์ แล้วถ้าเกิดว่าเขาเป็นแบบนี้ เขาจะได้กลับไปยังโลกมั้ย? เขาจะได้เจอคยองซู จะได้เจอเพื่อนหรือเปล่า? หรือว่า..เขาจะได้อยู่ที่นี่ตลอดไป
"ผมเสียใจนะ หยุดร้องไห้ได้แล้วครับ"
"..อ..อึก"
"ทำแบบนี้ผมยิ่งรู้สึกว่าคุณกำลังจะเกลียดผมไปอีกคนนะ" แบคฮยอนเงยหน้าขึ้นก่อนจะส่ายศรีษะไปมาเบาๆ
"ไม่..ผ..ผมไม่ได้เกลียดคุณนะ"
"แต่คุณดูจะไม่ชอบเอามากๆที่คุณเป็นแบบนี้"
"ผมแค่.." เราทั้งคู่เงียบไปอย่างไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นบทสนทนาเมื่อไหร่ เสียงสะอื้นเบาๆทำให้ชานยอลรู้สึกปวดใจหนึบๆอยู่บ้าง และเขาควรจะปล่อยให้อีกฝ่ายอยู่คนเดียวในช่วงเวลานี้
"งั้น..ถ้าคุณอยากคุยกับผมเมื่อไหร่ เรียกได้เลยนะ" ร่างโปร่งเตรียมหันหลังเดินกลับหากแต่มือเล็กกลับดึงให้อีกฝ่ายนั่งลงบนเตียงผืนเดียวกัน แบคฮยอนขยับกายบอบบางเข้าไปใกล้ก่อนจะโน้มตัวลงไปจูบริมฝีปากหยักแสนคุ้นเคยนั่นด้วยความโหยหา สัมผัสน่าหลงไหลจากเรียวมือเนียนนุ่มที่กำลังคล้องลำคอแกร่งกล่อมให้ชานยอลจูบตอบอย่างไม่อิดออด เรียวลิ้นแดงฉ่ำค่อยๆสอดเข้าไปในโพรงปากของร่างสูงพร้อมกับประคองใบหน้าไร้ที่ติของอีกฝ่ายเพื่อปรับองศาจูบระหว่างเราให้ใกล้ชิดมากกว่าเดิม .. ไม่รู้ว่านานเท่าไหร่แล้วที่เราถ่ายทอดความรู้สึกนี้ให้แก่กันและกัน จนเมื่อใบหน้าจิ้มลิ้มค่อยๆถอนออกมาอย่างเชื่องช้า เสียงกระซิบหวานๆจรดลงยังริมฝีปากของร่างสูงคือสิ่งที่ทำให้ใจชายหนุ่มเต้นแรงเสียจนแทบหลุดออกมานอกอก
"ผมอยากคุยกับคุณ..ตลอดเวลาเลย"
"ไม่ร้องไห้แล้วหรอครับ" มือแกร่งค่อยๆเอื้อมปาดน้ำตาบนแก้มเนียนใสและการตอบรับที่เหมือนลูกแมวขี้อ้อนแบบนั้นมันน่าเอ็นดูจนอยากจะจับมาฟัดให้ช้ำเสียจริงๆ
"ก็คุณโอ๋ผมแล้วนี่"
"..."
"เวลาที่ผมร้องไห้ ช่วยโอ๋ผมตลอดไปเลยได้หรือเปล่าครับ"
"ก็ได้นะ..แต่ว่าวิธีโอ๋ของผมไม่เหมือนคนทั่วไป คุณรู้ใช่หรือเปล่าครับ แบคฮยอน"
END
*จบแบบจึ้กกก ไปเลย 5555 ค้างคาไปหมดแต่อย่าดานุเลยนะคะ ไปอ่าน nc ให้ใจร่มๆน้าา
*ไม่มีใครเล่นแท็กนานแล้วว อยากเห็นคนเล่นแท็กบ้างง #614Hadesz แท็กนี้เลยค้าบบ
เม้นๆเร้วว เดี๋ยวมาอัพบ่อยๆน้า
ความคิดเห็น