คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #57 : ตอนที่56
***นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของไรต์ มีการอ้างอิงจากหนังที่เป็นแรงบันดาลใจบางส่วน ไม่ได้มีเจตนาจะลอกเลียนแต่อย่างใด ขอให้ทุกคนสนุกสนานกับนิยายเรื่องนี้***
***เหตุการณ์ต่อสู้ครั้งนี้ให้นึกภาพว่าทุกอย่างเกิดเร็วมากจากวินาทีไปวินาที
ประกอบกับความเร็วของแวมไพร์ด้วยนะ
ปัง!!!
ตาข่ายพุ่งออกจากปืนกระบอกใหญ่เข้าหาร่างของเอ็ดเวิร์ดที่กำลังวิ่งเข้าหาทหารคนนึง ร่างของเอ็ดเวิร์ดลอยไปตามตาข่ายที่กระทบตัว ตาข่ายเข้ารัดร่างของเขาจนไม่สามารถขยับตัวได้ เขาพยายามจะเอาตาข่ายออกจากร่างกายแต่ตาข่ายถูกดัดแปลงพิเศษให้มีใบมีดอยู่ตามมุมที่ตัดกันของเชือกด้วย ใบมีดจึงขูดขีดไปตามร่างของเอ็ดเวิร์ด
"ล้อม"
เมื่อร่างของเอ็ดเวิร์ดถูกตาข่ายพันธนาการไว้แล้ว ทหารจึงไม่สนใจเขาเริ่มปฏิบัติการต่อ ทหารจำนวน20คนเข้าล้อมตัวเกลที่ยังนอนทรมานกับคลื่นเสียงที่ถูกปล่อยออกมา ทหารตีวงล้อมเกลให้อยู่ใจกลางวง
เกลที่รู้สึกตัวว่าคลื่นเสียงจะไม่มีวันหยุดถ้าพวกมันยังเห็นเธอยังรู้สึกตัวอยู่ เธอจึงใช้ความอดทนเฮือกสุดท้ายทำเหมือนว่าเธอสลบไป ทหารคนที่ยิงปืนคลื่นเสียงหยุดปล่อยคลื่นเสียงเมื่อเห็นว่าร่างของเกลนิ่งไปแล้ว แต่วงล้อมก็ยังบีบเข้าหาตัวเกลอย่างรวดเร็ว
พรึบ
เกลลุกขึ้นยืนแล้วพุ่งเข้าหาทหารที่ตีวงล้อมเข้ามาทันที การต่อสู้เกิดขึ้นเร็วมาก เมื่อทหารรู้ตัวว่าถูกหลอกก็ตีวงเข้ามาเร็วขึ้น ทหารจำนวนมากใช้ทั้งโล่และกระบองทุบตีไปที่เกลเพื่อให้เกลสิ้นฤทธิ์ เกลปัดป้องอย่างเต็มที่ ตอนนี้เธอมีเพียงพลังกาย เพราะพลังจิตมีไม่มากเนื่องจากการที่เธอโดนคลื่นเสียงพุ่งเล่นงานไปที่สมองเป็นเวลานานทำให้สมองของเธอได้รับบาดเจ็บไม่สามารถคุมสติให้ใช้พลังจิตได้ เกลรู้สึกได้ว่าพวกมันคิดแผนกันมาดีแล้ว รู้ว่าเกลสามารถทำอะไรได้บ้าง และต้องรับมือกับเธออย่างไร
"ปล่อยนะโว๊ยไอพวกบ้า"
เกลที่ถูกยึดให้อยู่กับที่โดยทหารรอบตัว โล่ที่ดันให้ร่างของเกลขยับเขยื้อนไม่ได้ เกลพยายามดิ้นเต็มที่แต่ก็ไม่สามรถสู้แรงชายที่ถูกฝึกมาอย่างดี20คนที่ยืนซ้อนช่วยกันดันกักร่างเธอเอาไว้ พอเธอจะต่อสู้กับคนใดคนหนึ่งคนที่อยู่ใกล้เธอที่เหลือก็จะใช้อาวุธทำร้ายเธอทันที
"แมร่งเอ๊ย"
เอ็ดเวิร์ดที่เห็นเกลโดนตรึงไว้กับที่ก็ฉีกกระชากตาข่ายออก ใบมีดของตาข่ายบาดไปทั่วร่างกายของเขา ถึงจะไม่มีเลือดไหลออกมาแต่ก็สร้างรอยขีดข่วนไปทั่วร่างของเขาได้
"ป้องกันวง"
ทหารที่เหลือที่ไม่ได้ตรึงร่างของเกลกันมาเห็นเอ็ดเวิร์ดที่ออกมาจากตาข่ายได้ก็ตะโกนบอกคนอื่นๆที่เหลืออยู่ ทหารที่เหลืออีก20นาย ตีวงล้อมแล้วเข้าโจมตีเอ็ดเวิร์ดอย่างพร้อมๆกัน แต่พวกเขาไม่ได้ใช้อาวุธหนักที่เกลเคยสอนพวกเขา มีเพียงโล่กับกระบองเท่านั้น เหมือนว่าทหารพวกนี้คิดมาแล้วว่าต้องทำงานให้เงียบที่สุดและไม่ได้จะเอาชีวิตของพวกเขา
เอ็ดเวิร์ดใช้พละกำลังของแวมไพร์พุ่งเข้าชน หักคอหักแขนขาของทหารไปได้หลายคนแต่ว่าเขาก็ไม่อาจออกจากวงล้อมไปหาเกลได้ในตอนนี้
"ยิงได้"
เอ็ดเวิร์ดหันไปตามเสียงที่ตะโกนออกมาจากวงล้อมของเกล เขามองเห็นทหารคนหนึ่งที่อยู่นอกวงเล็งปืนอะไรสักอย่างไปที่เกลที่ถูกตีวงล้อมไว้ตรงกลาง
ปัง ฟิ้ว ฉึก
ลูกดอกที่บรรจุของเหลวสีดำปักลงที่ไหล่ข้างหลังของเกล จนตัวเกลสะดุ้งด้วยความตกใจ เธอรู้สึกถึงของเหลวบางอย่างกำลังไหลเข้าสู้ตัวเธอ ผ่านไปเพียงเสี้ยววินาทีร่างของเกลก็ชาวาบไปทั้งตัวแล้วล้มลงกับพื้น ความทรมานมากมายเข้ากัดกินร่างกายของเธอ เธอรู้สึกได้ถึงมีตัวอะไรไม่รู้ในร่างกายของเธอกำลังกัดกินเลือดเนื้อของเธอจากข้างใน ทหารทุกคนเมื่อเห็นว่าภารกิจเสร็จสิ้นก็สลายวงล้อมออกห่างร่างของเกลที่นอนบิดตัวไปมาจากความทรมานอยู่กับพื้นทันที
"อึก อึก แค่กๆ"
เสียงเกลที่สำลักของเหลวสีแดงสดออกมา ทหารทุกคนวิ่งมาเข้าแถวเรียงกันอย่างเรียบร้อยที่หน้าของรถคันหนึ่ง
เอ็ดเวิร์ดที่เห็นว่าทหารเลิกเข้ามาสู้กับเขาแล้ว และวิ่งไปรวมตัวกัน เขามองหาเกลแล้วรีบวิ่งเขาไปหาเกลที่นอนอยู่กับพื้นทันที
"แค่กๆ อึก"
เกลเด้งตัวตะแคงข้างสำลักเลือดลงพื้นและกำลังจะทิ้งตัวลงเหมือนเดิม เอ็ดเวิร์ดที่เห็นวิ่งเข้ามารับร่างของเกลได้ทัน เขาเห็นลูกดอกที่ลักษณะเหมือมเข็มฉีดยาที่ภายในว่างเปล่าปักอยู่ที่ช่วงไหลข้างหลังของเกล เขาจับและดึกมันออกจากเกลทันที
"อึก เอ็ด"
เกลมองหน้าเอ็ดเวิร์ด ใบหน้าของเธอบ่งบอกถึงความทรมานในร่างกาย
"พวกแกทำอะไรเธอ"
เอ็ดเวิร์ดตะโกนใส่พวกทหารที่ยืนเข้าแถวอยู่ข้างหน้ารถคันหนึ่ง แล้วทหารคนหนึ่งก็เดินไปเปิดประตูรถออก ชายในชุดสูทเดินลงมาจากรถ เขาเดินผ่านทหารที่เข้าแถวอยู่ตรงมาหายังเอ็ดเวิร์ดที่มีร่างของเกลอยู่ในอ้อมแขน
"รู้ไหม กว่าจะหาตัวเธอได้ยากขนาดไหน ฉันไม่นึกเลยว่าเธอจะกล้ากลับมาที่เดิม ทำฉันเสียเวลาหาไปหลายเดือน เธอทำฉันไว้แสบมากนะ"
เกลจ้องไปที่ชายคนนั้นอย่างอาฆาต เธอจำใบหน้านั้นได้ เขาคือประธานที่อยู่ในข่าว เป็นบอสใหญ่ของโครงการวิจัยบ้าๆที่ทำกับเธอ
"ไม่ต้องมองฉันแบบนั้น แกคงรู้สึกทรมานมากสินะ ก่อนที่แกจะตายฉันจะบอกให้ก็ได้ ยาที่เธอพึ่งได้รับไปมันคือยาที่เข้าไปทำร้ายพวกเซลล์ของเธอที่ได้รับยาทดลองไปก่อนหน้านี้ และฉันเดาว่าแกคงใช้มันมาตลอด ดังนั้น... ยานี้ก็จะทำลายทุกเซลล์ในร่างกายของแก ให้แกตายอย่างช้าๆ ให้สมกับที่แกทำฉันเสียหายไปหลายแสนล้าน!!! "
ชายคนนั้นตะโกนใส่หน้าเกลแล้วหันหลังเดินออกไป เพียงไม่ถึงนาทีรถคันใหญ่สีดำก่อนหน้าที่ล้อมไว้ก็หายไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ เอ็ดเวิร์ดกอดร่างกายของเกลที่กำลังสั่นเทาไปทั้งตัว ความเจ็บปวดทรมานที่ค่อยๆกัดกินเกลจากภายในทำให้เกลเจ็บปวดจนร้องไม่ออก
" เกล เธอจะไม่เป็นอะไร"
" อึก เอ็ดเวิร์ด ฉันขอโทษ"
เกลพูดออกมาโดยที่เลือดยังไหลออกมาไม่หยุด เอ็ดเวิร์ดมองใบหน้าของเกลที่ทุกข์ทรมานมากก็ได้แต่เสียใจที่เขาปกป้องเกลไม่ได้ ใบหน้าของแวมไพร์หนุ่มบิดเบี้ยวไปด้วยความเศร้า ความโกรธ ความโมโห
"เธอจะต้องโอเค"
เอ็ดเวิร์ดช้อนร่างเกลขึ้นมาอุ้มแนบออกแล้ววิ่งไปยังรถของเขาอย่างรวดเร็ว เขาปลดล็อกรถออกแล้วเปิดประตูด้วยแรงมหาศาลตามอารมณ์โกรธของเขา
ปัง เพล้ง!!!
ประตูรถที่เปิดออกจนสุดและกระแทกกับตัวรถจึงทำให้กระจกแตกละเอียดลงไปกองกับพื้น เอ็ดเวิร์ดว่างร่างของเกลอย่างเบามือที่เบาะ แล้ววิ่งไปหยิบกระเป๋าของเขาที่เบาะหลัง เขาหยิบเข็มฉีดยาอันใหญ่ที่บรรจุพิษของเขาไว้ข้างใน เมื่อได้ของที่ต้องการแล้วเขาก็วิ่งไปหาเกลอย่างรวดเร็วอีกครั้ง ในมือของเขาอีกข้างหยิบโทรศัพท์ออกมาแล้วกดโทรหาอลิซน้องสาวของเขาทันที
"อลิซ มาที่โรงเรียนเดี๋ยวนี้เลย"
เอ็ดเวิร์ดพูดด้วยเสียงเหี่ยมจากความโกรธก่อนหน้านี้แล้วโยนโทรศัพท์ทิ้งไปที่เบาะคนขับ เอ็ดเวิร์ดถอดปลอกเข็มฉีดยาออกแล้วจะปักเข้าที่หน้าอกของเกล
พรึบ
มือบางของเกลหยุดมือของเอ็ดเวิร์ดเอาไว้ก่อนที่เข็มที่ปักลงที่อกเธอ
"นี่อะไร อึก"
"พิษของฉัน ได้โปรดเถิดเกล ให้ฉันช่วยเธอ"
เอ็ดเวิร์ดอ้อนวอนเกลด้วยใบหน้าที่เศร้าสุดใจ เขาไม่อยากจะรอช้าไปมากกว่านี้แล้ว เขาไม่พร้อมจะเสียเกลไป เกลที่ได้ยินเสียงอันสั่นเครือของเอ็ดเวิร์ดก็ยิ้มออกมา แล้วปล่อยมือออก
ปึก ฉีดดด
" อืมมมม"
เอ็ดเวิร์ดปัดเข็มลงที่อกของเกลแล้วกดฉีดพิษเข้าไปในหัวใจของเกลทันที เกลครางออกมาเมื่อรู้สึกถึงของเหลวเข้าสู่ร่างกายของเธออีกครั้ง
"เธอโอเคไหม รู้สึกอะไรบ้าง"
เกลส่ายหน้าให้เอ็ดเวิร์ดเป็นคำตอบ ตอนนี้ตัวเธอทั้งตัวไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆแล้ว แม้แต่แรงขยับตัวที่จับเอ็ดเวิร์ดเมื่อครู่ก็หายไปแล้ว
"เอ็ด ฉันขอโทษนะ"
"เธอไม่ต้องขอโทษ เธอไม่ผิดอะไร ฉันต่างหากที่ปกป้องเธอไม่ได้"
เกลมองใบหน้าของคนรักที่บิดเบี้ยวจากความเจ็บปวดในหัวใจมากขนาดไหน ถ้าเขาเป็นมนุษย์ธรรมดาเธอคงเห็นน้ำตาของเขานองหน้าแล้วตอนนี้ เกลยิ้มออกมาให้เอ็ดเวิร์ด เธอไม่อยากให้เขารู้สึกผิดในเรื่องนี้เลย แต่เธอก็ไม่มีแรงแม้แต่จะกอดปลอบเขาด้วยซ้ำ
"ฉันขอโทษ... ที่ฉันรักษาสัญญาไม่ได้แล้ว ฉันรักนายมากนะและจะรักตลอดไป"
เกลพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม เธอยังยิ้มอยู่ในขณะที่ดวงตาของเธอค่อยๆปิดลง
"ไม่เกล เธออย่าทิ้งฉันไป..."
เอ็ดเวิร์ดมองใบหน้าของคนรักที่ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้านั้นแต่ดวงตาที่ปิดสนิทพร้อมกับเสียงลมหายใจที่หายไป ทำให้เขาคุมตัวเองไว้ไม่อยู่
"ไม่นะเกล อยู่กับฉันก่อน ไม่!!!!!"
เอ็ดเวิร์ดสวมกอดร่างของเกลที่แน่นิ่งไปแล้ว ไม่มีลมหายใจไม่มีแม้เสียงหัวใจที่เคยได้ยินทุกครั้งเมื่อเขากอดเธอ เขาโอบกอดร่างของเกลไว้แน่นพร้อมกับตะโกนร้อง ความเจ็บปวดมากมายที่อัดแน่อยู่ในอกไม่มีน้ำตาช่วยระบายออกมาได้
" เกล อยู่กับฉันสิ อย่าทิ้งฉันไป"
เอ็ดเวิร์ดกอดร่างที่เริ่มเย็นของเกลเอาไว้แล้วร้องเรียกเกลให้อยู่กับเขา เขาอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเกล
เอี๊ยดดดด
"เอ็ดเวิร์ด เกิดอะไรขึ้น ทำไมเกล"
รถของอลิซที่มีคัลเลนอีกสามคนขับเข้ามาจอดข้างรถของเอ็ดเวิร์ดอย่างรวดเร็วจนได้ยินเสียงล้อบดกับถนน
อลิซและโรซาลีที่เห็นใบหน้าของเกลที่ซีดไร้สีเลือดบนหน้า ร่างกายที่สัมผัสได้แต่ไกลๆว่าเย็นเฉียบ ที่มุมปากยังมีรอยเลือดที่ไหลออกมาอยู่ แต่ร่างของเกลกับนิ่งไม่ขยับเขยื้อน ทั้งสองคนยกมือปิดปากตัวเอง ใบหน้าที่เศร้าเสียใจแสดงออกมาทันที
ชายหนุ่มอีกสองคนก็ไม่ต่างกัน ทั้งคู่ตื่นตกใจกับสิ่งที่เห็น น้องชายของเขากอดคนรักที่เหมือนกับตายแล้ว เอ็ดเวิร์ดตะโกนด้วยความเสียใจ
"พาเกลไปหาคาร์ไลล์ก่อนเถอะ"
แจสเปอร์ที่ตั้งสติขึ้นมาได้คนแรกเอ่ยบอกเอ็ดเวิร์ด แต่เอ็ดเวิร์ดยังกอดเกลอยู่ไม่ยอมขยับตัว แจสเปอร์เดินไปจับที่ไหล่ของเอ็ดเวิร์ดเพื่อเรียกสติ
เอ็ดเวิร์ดที่รู้สึกถึงมือของใครมาแตะที่ไหลเขาก็หันไปมอง
"พาเกลไปบ้านก่อนเถอะ อาจจะยังทัน"
แจสเปอร์พูดบอกเอ็ดเวิร์ด เอ็ดเวิร์ดที่ได้ยินก็พยักหน้าเข้าใจ ช้อนร่างกายของเกลขึ้นมาอุ้มออกมาจากรถ แจสเปอร์เปิดประตูรถเบาะหลังเพื่อให้เอ็ดเวิร์ดกับเกลเข้าไปข้างใน แล้วปิดประตูทั้งหมด เดินไปฝั่งคนขับของรถเอ็ดเวิร์ดทันที
" เอ็มเม็ตต์ดูผู้หญิงด้วย เจอกันที่บ้าน"
"โอเค"
แจสเปอร์ตะโกนบอกเอ็มเม็ตต์ให้ดูแลหญิงสาวสองคนที่ยังยืนนิ่งอยู่ด้วยความตกใจ
แจสเปอร์เมื่อขึ้นรถได้ก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว เขามองกระจกหลังเป็นระยะๆ ยิ่งเห็นเอ็ดเวิร์ดกอดร่างของเกลที่ไร้การเคลื่อนไหวและใบหน้าที่เจ็บปวดทรมานของน้องชายก็ยิ่งเพิ่มความเร็วมากขึ้น เขาไม่อยากจะเห็นใบหน้าที่แสนเจ็บปวดของเอ็ดเวิร์ดเลย
ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงรถยนต์ของเอ็ดเวิร์ดก็มาจอดที่หน้าบ้าน เอ็ดเวิร์ดอุ้มร่างของเกลเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว แต่ก็ยังไม่เร็วพอที่จะไม่ให้เอสเม่เห็น เอสเม่ที่เห็นช็อตที่เอ็ดเวิร์ดอุ้มร่างอันไร้สติของเกลเข้าไปยังห้องทำงานของสามีเธอ ใบหน้าที่ไร้สีสันของเลือดและเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากทำให้เธอล้มทั่งยืน แต่แจสเปอร์ที่ตามมารับไว้ได้ทัน
"เกิดอะไรขึ้นแจสเปอร์ ทำไมหนูเกลเขา..."
"ผมก็ไม่รู้ครับ แต่ตอนนี้เราต้องช่วยเกลก่อน"
เอ็ดเวิร์ดพาร่างของเกลเข้ามาหาคาร์ไลล์ในห้องทำงานทันที เมื่อคาร์ไลล์เห็นลูกชายของเขาอุ้มร่างของคนรักเข้ามาก็ตกใจแต่เขายังคุมสติได้ เขาสั่งให้เอ็ดเวิร์ดพาเกลไปยังเตียงคนไข้ที่อยู่ในส่วนของห้องที่เหมือนห้องพยาบาล
“ เกิดอะไรขึ้นเอ็ดเวิร์ด”
คาร์ไลล์พูดถามเอ็ดเวิร์ดและหยิบจับอุปกรณ์ออกมาทำงานไปด้วย
“พวกมันลอบโจมตีเรา มันฉีดบางอย่างให้เกล มันจะฆ่าเธอ ผมเลยฉีดพิษเข้าหัวใจของเกล แต่ว่าเกลก็….”
“ไม่เป็นไรนะ ไปนั่งพักก่อนฉันจัดการเอง”
คาร์ไลล์พูดปลอบเอ็ดเวิร์ดที่แสดงสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าวเมื่อพูดถึงเหตุการณ์มี่เกิดขึ้นกับคนรักของเขา เอ็ดเวิร์ดเดินถอยหลังออกมาทิ้งตัวลงที่เก้าอี้ไม่ไกล ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความเศร้า เขานั่งมองคาร์ไลล์ตรวจร่างกายที่นิ่งสนิทของเกลด้วยใจที่เจ็บปวด
คาร์ไลล์เข้าทำการตรวจอาการของเกลทันที เขาตรวจร่างกายของเกลภายนอกว่ามีรอยบาดเจ็บตรงไหนหรือไม่ แต่ก็ไม่พบบาดแผลอะไรนอกจากรอยช้ำที่แขนของเกล ร่องรอยของการโดนของแข็งฟาดทั่วทั้งสองแขน เขาหยิบหูฟังมาใส่แล้วฟังการเต้นของหัวใจของเกล แต่ไม่ว่าจะแตะตรงบริเวณใดไม่มีแม้เสียงอะไร ทั้งการเต้นของหัวใจหรือว่าการหายใจ
"เป็นอย่างไรบ้างคะ"
เอสเม่ที่ยืนอยู่กับคนอื่นๆถามขึ้น พวกเขายืนมองคาร์ไลล์ตรวจร่างกายของเกลอยู่สักครู่แล้ว พวกเขาเห็นเพียงใบหน้าเคร่งเครียดและเศร้าจากคาร์ไลล์เท่านั้น
"ผมก็ไม่รู้ แต่จากที่เอ็ดเวิร์ดพูดร่างกายของเกลได้รับพิษแวมไพร์ไปแล้ว แต่ผมไม่รู้ว่ายาที่เธอได้รับก่อนหน้าจะมีผลกับพิษแวมไพร์หรือไม่ เราทำได้เพียงแค่รอดู"
"โถ่ที่รัก"
เอสเม่เดินเข้าไปหาคาร์ไลล์และกอดเขา เธอมองไปที่ร่างกายของเกลที่นิ่งเหมือนร่างไร้วิญญาณ
เอ็ดเวิร์ดที่ได้ฟังสิ่งที่คาร์ไลล์พูดออกมาก็เจ็บปวดไปทั้งใจ เขาไม่อยากจะรออีกแล้ว เขาอยากให้เกลฟื้นขึ้นมากอดเขาตอนนี้ ตื่นขึ้นมายิ้มให้เขาเหมือนที่เคยทำมาตลอด
อลิซที่เห็นหน้าพี่ชายของตัวเองเศร้าจึงช่วยกอดปลอบเขา เธอเองก็เจ็บปวดในหัวใจและเชื่อว่าทุกคนในห้องนี้ต่างเจ็บปวด แต่พวกเราไม่สามารถจะหลั่งน้ำตาเพื่อคนที่รักได้ ทำได้เพียงเก็บความเจ็บปวดนั้นไว้ในใจของตัวเอง
เวลาผ่านไปไม่รู้กี่ชั่วโมงที่ครอบครัวคัลเลนคอยยืนเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของร่างกายของเกลบนเตียง เอสเม่ โรซาลีและอลิซช่วยกันทำความสะอาดร่างกายให้กับเกล เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับร่างกายที่เย็นและซีดเซียว ร่องรอยเขียวจากการฟกช้ำตามแขนของเกลยังเด่นชัด ทั้งสามคนต้องฝืนกล้ำกลืนความเจ็บปวดของใจ มองดูร่างกายของคนที่รักนอนแน่นิ่งอยู่ตรงหน้า
เอ็ดเวิร์ดที่ถูกแจสเปอร์และเอ็มเม็ตต์บังคับให้คาร์ไลล์ตรวจร่างกายและไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า เพราะเขาไม่ยอมขยับตัวลุกออกจากเก้าอี้ที่นั่งเฝ้าดูร่างของเกล ทุกคนต่างรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดนั้นเจ็บปวดแค่ไหน และรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดคงเหมือนตายทั้งเป็นเมื่อขาดเกลไป แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะช่วยน้องชายของเขาได้เลย
“เธอกลับมาหาฉันนะเกล ฉันรักเธอนะ รักเธอมากๆ ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเธอ”
เอ็ดเวิร์ดที่เข้ามาหาเกลที่นอนอยู่บนเตียง เขาจับมือที่เคยอุ่นแต่บัดนี้กับเย็นเท่ากับมือของเขา เอ็ดเวิร์ดพล่ำขอร้องให้เกลฟื้นขึ้นมา เรียวแรงของเขาหมดไปเมื่อมองใบหน้าที่ซีดเซียวและดวงตาปิดสนิทของเกล ขาทั้งสองข้างคุกเข่าลงข้างเตียงของเกล เขาจับมือแล้วแนบหน้าลงกับมือของเกล ร้องเรียกให้เกลฟื้นขึ้นมาหาเขา
“ฟื้นเถอะเกล ฉันคิดถึงเธอมากมายเหลือเกิน ตื่นขึ้นมายิ้มให้ฉันหัวเราะให้ฉันเหมือนเดิมได้ไหม ฉันขอโทษที่ดูแลเธอไม่ดี ฉันผิดเอง ฉันขอโทษ”
คัลเลนคนอื่นๆได้แต่มองสมาชิกในครอบครัวเศร้าเสียใจ โทษตัวเองที่ปกป้องคนที่รักไม่ได้ พวกเขาเจ็บปวดในใจทุกครั้งที่เห็นสมาชิกของพวกเขาต้องเจ็บปวดรวดร้าว แต่พวกเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
TBC
น้องเป็นอะไรอ่าาาาาาาา
อิไรต์แต่งดราม่าอีกแล้วววววววว
ยังไงต่ออออ จบเลยไหมมมม
เศร้าไหม แต่งเศร้าไม่ค่อยเก่ง
ไรต์กลัวเก็บรายละเอียดไม่ครบ
ยังไม่ได้ตรวจคำผิด
ความคิดเห็น