ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Give you All my Time เวลาของฉันเป็นของคุณ (EDxOC)END

    ลำดับตอนที่ #57 : ตอนที่56

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.5K
      238
      8 ก.ย. 64

    ***นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของไรต์ มีการอ้างอิงจากหนังที่เป็นแรงบันดาลใจบางส่วน ไม่ได้มีเจตนาจะลอกเลียนแต่อย่างใด ขอให้ทุกคนสนุกสนานกับนิยายเรื่องนี้***

    ***เหตุการณ์ต่อสู้ครั้งนี้ให้นึกภาพว่าทุกอย่างเกิดเร็วมากจากวินาทีไปวินาที 

    ประกอบกับความเร็วของแวมไพร์ด้วยนะ

     


    ปัง!!!

    ตาข่ายพุ่งออกจากปืนกระบอกใหญ่เข้าหาร่างของเอ็ด​เวิร์ดที่กำลังวิ่งเข้าหาทหารคนนึง​ ร่างของเอ็ดเวิร์ดลอยไปตามตาข่ายที่กระทบตัว​ ตาข่ายเข้ารัดร่างของเขาจนไม่สามารถขยับตัวได้ เขาพยายามจะเอาตาข่าย​ออกจากร่างกายแต่ตาข่ายถูกดัดแปลงพิเศษให้มีใบมีดอยู่ตามมุมที่ตัดกันของเชือกด้วย ใบมีดจึงขูดขีดไปตามร่างของเอ็ดเวิร์ด 

     

    "ล้อม" 

    เมื่อร่างของเอ็ดเวิร์ด​ถูกตาข่ายพันธนาการ​ไว้แล้ว​ ทหารจึงไม่สนใจเขา​เริ่มปฏิบัติการ​ต่อ​ ทหารจำนวน20คนเข้าล้อมตัวเกลที่ยังนอนทรมานกับคลื่นเสียงที่ถูกปล่อยออกมา​  ทหารตีวงล้อมเกลให้อยู่ใจกลางวง​ 

     

    เกลที่รู้สึกตัวว่าคลื่นเสียงจะไม่มีวันหยุดถ้าพวกมันยังเห็นเธอยังรู้สึกตัวอยู่​ เธอจึงใช้ความอดทนเฮือกสุดท้ายทำเหมือนว่าเธอสลบไป​ ทหารคนที่ยิงปืนคลื่นเสียงหยุดปล่อยคลื่นเสียงเมื่อเห็นว่าร่างของเกลนิ่งไปแล้ว​ แต่วงล้อมก็ยังบีบเข้าหาตัวเกลอย่างรวดเร็ว

     

    พรึบ

    เกลลุกขึ้นยืนแล้วพุ่งเข้าหาทหารที่ตีวงล้อมเข้ามาทันที​ การต่อสู้เกิดขึ้นเร็วมาก​ เมื่อทหารรู้ตัวว่าถูกหลอก​ก็ตีวงเข้ามาเร็วขึ้น​ ทหารจำนวนมากใช้ทั้งโล่และกระบองทุบตีไปที่เกลเพื่อให้เกลสิ้นฤทธิ์​ เกลปัดป้องอย่างเต็มที่​ ตอนนี้เธอมีเพียงพลังกาย เพราะพลัง​จิตมีไม่มากเนื่องจากการที่เธอโดนคลื่นเสียงพุ่งเล่นงานไปที่สมองเป็นเวลานานทำให้สมองของเธอได้รับบาดเจ็บ​ไม่สามารถคุมสติให้ใช้พลังจิตได้ เกลรู้สึกได้ว่าพวกมันคิดแผนกันมาดีแล้ว​  รู้ว่าเกลสามารถทำอะไรได้บ้าง และต้องรับมือกับเธออย่างไร 

     

    "ปล่อยนะโว๊ยไอพวกบ้า" 

    เกลที่ถูกยึดให้อยู่กับที่โดยทหารรอบตัว​ โล่ที่ดันให้ร่างของเกลขยับเขยื้อน​ไม่ได้​ เกลพยายามดิ้นเต็มที่แต่ก็ไม่สามรถสู้แรงชายที่ถูกฝึกมาอย่างดี20คนที่ยืนซ้อนช่วยกันดันกักร่างเธอเอาไว้​ พอเธอจะต่อสู้กับคนใดคนหนึ่งคนที่อยู่ใกล้เธอที่เหลือก็จะใช้อาวุธ​ทำร้ายเธอทันที​ 

     

    "แมร่งเอ๊ย" 

    เอ็ดเวิร์ด​ที่เห็นเกลโดนตรึงไว้กับที่ก็ฉีกกระชากตาข่ายออก​ ใบมีดของตาข่ายบาดไปทั่วร่างกายของเขา​ ถึงจะไม่มีเลือดไหลออกมาแต่ก็สร้างรอยขีดข่วนไปทั่วร่างของเขาได้

     

    "ป้องกันวง" 

    ทหารที่เหลือที่ไม่ได้ตรึงร่างของเกลกันมาเห็นเอ็ดเวิร์ดที่ออกมาจากตาข่ายได้ก็ตะโกนบอกคนอื่นๆที่เหลืออยู่​ ทหารที่เหลืออีก20นาย​ ตีวงล้อมแล้วเข้าโจมตีเอ็ดเวิร์ดอย่างพร้อมๆกัน​ แต่พวกเขาไม่ได้ใช้อาวุธหนักที่เกลเคยสอนพวกเขา​ มีเพียงโล่กับกระบองเท่านั้น​ เหมือนว่าทหารพวกนี้คิดมาแล้วว่าต้องทำงานให้เงียบที่สุดและไม่ได้จะเอาชีวิตของพวกเขา

     

    เอ็ดเวิร์ดใช้พละกำลังของแวมไพร์พุ่งเข้าชน​ หักคอหักแขนขาของทหารไปได้หลายคนแต่ว่าเขาก็ไม่อาจออกจากวงล้อมไปหาเกลได้ในตอนนี้

     

     

    "ยิงได้" 

    เอ็ดเวิร์ด​หันไปตามเสียงที่ตะโกนออกมาจากวงล้อมของเกล เขามองเห็นทหารคนหนึ่งที่อยู่นอกวงเล็งปืนอะไรสักอย่างไปที่เกลที่ถูกตีวงล้อมไว้ตรงกลาง

     

    ปัง​  ฟิ้ว​  ฉึก​ 

    ลูกดอกที่บรรจุของเหลวสีดำปักลงที่ไหล่ข้างหลังของเกล จนตัวเกลสะดุ้งด้วยความตกใจ​ เธอรู้สึกถึงของเหลวบางอย่างกำลังไหลเข้าสู้ตัวเธอ​ ผ่านไปเพียงเสี้ยว​วินาที​ร่างของเกลก็ชาวาบไปทั้งตัวแล้วล้มลงกับพื้น​ ความทรมานมากมายเข้ากัดกินร่างกายของเธอ เธอรู้สึกได้ถึงมีตัวอะไรไม่รู้ในร่างกายของเธอกำลังกัดกินเลือดเนื้อของเธอจากข้างใน ทหารทุกคนเมื่อเห็นว่าภารกิจ​เสร็จสิ้นก็สลายวงล้อมออกห่างร่างของเกลที่นอนบิดตัวไปมาจากความทรมานอยู่กับพื้นทันที

     

    "อึก​ อึก​ แค่กๆ" 

    เสียงเกลที่สำลักของเหลวสีแดงสดออกมา​  ทหารทุกคนวิ่งมาเข้าแถวเรียงกันอย่างเรียบร้อยที่หน้าของรถคันหนึ่ง

     

    เอ็ดเวิร์ดที่เห็นว่าทหารเลิกเข้ามาสู้กับเขาแล้ว​ และวิ่งไปรวมตัวกัน​ เขามองหาเกลแล้วรีบวิ่งเขาไปหาเกลที่นอนอยู่กับพื้นทันที​  

     

    "แค่กๆ​ อึก"

    เกลเด้งตัวตะแคงข้างสำลักเลือดลงพื้นและกำลังจะทิ้งตัวลงเหมือนเดิม​ เอ็ดเวิร์ด​ที่เห็นวิ่งเข้ามารับร่างของเกลได้ทัน​ เขาเห็นลูกดอกที่ลักษณะ​เหมือมเข็มฉีดยา​ที่ภายในว่างเปล่าปักอยู่ที่ช่วงไหลข้างหลังของเกล​ เขาจับและดึกมันออกจากเกลทันที

     

    "อึก​ เอ็ด"

    เกลมองหน้าเอ็ดเวิร์ด​ ใบหน้าของเธอบ่งบอกถึงความทรมานในร่างกาย

     

    "พวกแกทำอะไรเธอ" 

    เอ็ดเวิร์ดตะโกนใส่พวกทหารที่ยืนเข้าแถวอยู่ข้างหน้ารถคันหนึ่ง​ แล้วทหารคนหนึ่งก็เดินไปเปิดประตูรถออก​ ชายในชุดสูทเดินลงมาจากรถ​ เขาเดินผ่านทหารที่เข้าแถวอยู่ตรงมาหายังเอ็ดเวิร์ด​ที่มีร่างของเกลอยู่ในอ้อมแขน

     

    "รู้ไหม​  กว่าจะหาตัวเธอได้ยากขนาดไหน​  ฉันไม่นึกเลยว่าเธอจะกล้ากลับมาที่เดิม​ ทำฉันเสียเวลาหาไปหลายเดือน​  เธอทำฉันไว้แสบมากนะ" 

    เกลจ้องไปที่ชายคนนั้นอย่างอาฆาต​ เธอจำใบหน้านั้นได้​ เขาคือประธานที่อยู่ในข่าว​ เป็นบอสใหญ่ของโครงการวิจัยบ้าๆที่ทำกับเธอ​ 

     

    "ไม่ต้องมองฉันแบบนั้น​  แกคงรู้สึกทรมานมากสินะ​ ก่อนที่แกจะตายฉันจะบอกให้ก็ได้​  ยาที่เธอพึ่งได้รับไปมันคือยาที่เข้าไปทำร้ายพวกเซลล์ของเธอที่ได้รับยาทดลองไปก่อนหน้านี้​  และฉันเดาว่าแกคงใช้มันมาตลอด​  ดังนั้น... ยานี้ก็จะทำลายทุกเซลล์ในร่างกายของแก​ ให้แกตายอย่างช้าๆ​ ให้สมกับที่แกทำฉันเสียหายไปหลายแสนล้าน!!! "

    ชายคนนั้นตะโกนใส่หน้าเกลแล้วหันหลังเดินออกไป​ เพียงไม่ถึงนาทีรถคันใหญ่สีดำก่อนหน้าที่ล้อมไว้ก็หายไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น


    ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากใช้เวลาไม่ถึงสิบนาทีด้วยซ้ำ เอ็ดเวิร์ดกอดร่างกายของเกลที่กำลังสั่นเทาไปทั้งตัว ความเจ็บปวดทรมานที่ค่อยๆกัดกินเกลจากภายในทำให้เกลเจ็บปวดจนร้องไม่ออก

     

    " เกล​  เธอจะไม่เป็น​อะไร"

     

    " อึก​ เอ็ดเวิร์ด​ ฉันขอโทษ"

    เกลพูดออกมาโดยที่เลือดยังไหลออกมาไม่หยุด  เอ็ดเวิร์ดมองใบหน้าของเกลที่ทุกข์ทรมาน​มากก็ได้แต่เสียใจที่เขาปกป้องเกลไม่ได้​ ใบหน้าของแวมไพร์หนุ่มบิดเบี้ยว​ไปด้วยความเศร้า ความโกรธ ความโมโห​ 

     

    "เธอจะต้องโอเค" 

    เอ็ดเวิร์ด​ช้อนร่างเกลขึ้นมาอุ้มแนบออกแล้ววิ่งไปยังรถของเขาอย่างรวดเร็ว​  เขาปลดล็อกรถออกแล้วเปิดประตูด้วยแรงมหาศาลตามอารมณ์​โกรธของเขา​ 

     

    ปัง​  เพล้ง!!! 

    ประตูรถที่เปิดออกจนสุดและกระแทกกับตัวรถจึงทำให้กระจกแตกละเอียดลงไปกองกับพื้น เอ็ดเวิร์ดว่างร่างของเกลอย่างเบามือที่เบาะ​ แล้ววิ่งไปหยิบกระเป๋าของเขาที่เบาะหลัง​ เขาหยิบเข็มฉีดยาอันใหญ่ที่บรรจุพิษของเขาไว้ข้างใน​ เมื่อได้ของที่ต้องการแล้วเขาก็วิ่งไปหาเกลอย่างรวดเร็วอีกครั้ง​ ในมือของเขาอีกข้างหยิบโทรศัพท์​ออกมาแล้วกดโทรหาอลิซน้องสาวของเขาทันที

     

    "อลิซ  มาที่โรงเรียนเดี๋ยวนี้เลย" 

    เอ็ดเวิร์ด​พูดด้วยเสียงเหี่ยมจากความโกรธก่อนหน้านี้แล้วโยนโทรศัพท์​ทิ้งไปที่เบาะคนขับ   เอ็ดเวิร์ดถอดปลอกเข็มฉีดยาออกแล้วจะปักเข้าที่หน้าอกของเกล​ 

     

    พรึบ

    มือบางของเกลหยุดมือของเอ็ดเวิร์ด​เอาไว้ก่อนที่เข็มที่ปักลงที่อกเธอ

     

    "นี่อะไร​ อึก" 

     

    "พิษของฉัน​ ได้โปรดเถิดเกล​ ให้ฉันช่วยเธอ" 

    เอ็ดเวิร์ด​อ้อนวอนเกลด้วยใบหน้าที่เศร้าสุดใจ​ เขาไม่อยากจะรอช้าไปมากกว่านี้แล้ว​ เขาไม่พร้อม​จะเสียเกลไป​  เกลที่ได้ยินเสียงอันสั่นเครือ​ของเอ็ดเวิร์ดก็ยิ้มออกมา​ แล้วปล่อยมือออก

     

    ปึก​  ฉีดดด

     

    " อืมมมม"

    เอ็ดเวิร์ดปัดเข็มลงที่อกของเกลแล้วกดฉีดพิษเข้าไปในหัวใจของเกลทันที​ เกลครางออกมาเมื่อรู้สึกถึงของเหลวเข้าสู่ร่างกายของเธออีกครั้ง

     

    "เธอโอเคไหม​ รู้สึกอะไรบ้าง" 

    เกลส่ายหน้าให้เอ็ดเวิร์ด​เป็นคำตอบ​ ตอนนี้ตัวเธอทั้งตัวไร้ซึ่งความรู้สึกใดๆแล้ว​ แม้แต่แรงขยับตัวที่จับเอ็ดเวิร์ด​เมื่อครู่ก็หายไปแล้ว

     

    "เอ็ด​  ฉันขอโทษนะ" 

     

    "เธอไม่ต้องขอโทษ​ เธอไม่ผิดอะไร​ ฉันต่างหากที่ปกป้องเธอไม่ได้" 

    เกลมองใบหน้าของคนรักที่บิดเบี้ยว​จากความเจ็บปวดในหัวใจมากขนาดไหน​ ถ้าเขาเป็นมนุษย์ธรรมดาเธอคงเห็นน้ำตาของเขานองหน้าแล้วตอนนี้​ เกลยิ้มออกมาให้เอ็ดเวิร์ด​ เธอไม่อยากให้เขารู้สึกผิดในเรื่องนี้เลย​ แต่เธอก็ไม่มีแรงแม้แต่จะกอดปลอบเขาด้วยซ้ำ

     

    "ฉันขอโทษ... ที่ฉันรักษาสัญญา​ไม่ได้แล้ว​  ฉันรักนายมากนะและจะรักตลอดไป" 

    เกลพูดออกมาพร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอาบแก้ม​ เธอยังยิ้มอยู่ในขณะที่ดวงตาของเธอค่อยๆปิดลง​ 

     

    "ไม่เกล​ เธออย่าทิ้งฉันไป..." 

    เอ็ดเวิร์ดมองใบหน้าของคนรักที่ยังมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้านั้นแต่ดวงตาที่ปิดสนิทพร้อมกับเสียงลมหายใจที่หายไป​ ทำให้เขาคุมตัวเองไว้ไม่อยู่​ 

     

    "ไม่นะเกล​ อยู่กับฉันก่อน​ ไม่!!!!!" 

    เอ็ดเวิร์ดสวมกอดร่างของเกลที่แน่นิ่งไปแล้ว​ ไม่มีลมหายใจไม่มีแม้เสียงหัวใจที่เคยได้ยินทุกครั้งเมื่อเขากอดเธอ​ เขาโอบกอดร่างของเกลไว้แน่นพร้อมกับตะโกนร้อง​  ความเจ็บปวดมากมายที่อัดแน่อยู่ในอกไม่มีน้ำตาช่วยระบายออกมา​ได้​ 

     

    " เกล​ อยู่กับฉันสิ​ อย่าทิ้งฉันไป" 

    เอ็ดเวิร์ดกอดร่างที่เริ่มเย็นของเกลเอาไว้แล้วร้องเรียกเกลให้อยู่กับเขา​ เขาอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีเกล

     

    เอี๊ยดดดด   

     

    "เอ็ดเวิร์ด​ เกิดอะไรขึ้น​ ทำไมเกล" 

    รถของอลิซที่มีคัลเลนอีกสามคนขับเข้ามาจอดข้างรถของเอ็ดเวิร์ด​อย่างรวดเร็วจนได้ยินเสียงล้อบดกับถนน

     

    อลิซและโรซาลีที่เห็นใบหน้าของเกลที่ซีดไร้สีเลือดบนหน้า​ ร่างกายที่สัมผัสได้แต่ไกลๆว่าเย็นเฉียบ​ ที่มุมปากยังมีรอยเลือดที่ไหลออกมาอยู่​ แต่ร่างของเกลกับนิ่งไม่ขยับเขยื้อน​ ทั้งสองคนยกมือปิดปากตัวเอง ใบหน้าที่เศร้าเสียใจแสดงออกมาทันที

    ชายหนุ่มอีกสองคนก็ไม่ต่างกัน​ ทั้งคู่​ตื่นตกใจกับสิ่งที่เห็น​ น้องชายของเขากอดคนรักที่เหมือนกับตายแล้ว เอ็ดเวิร์ดตะโกนด้วยความเสียใจ

     

    "พาเกลไปหาคาร์ไลล์ก่อนเถอะ" 

    แจสเปอร์ที่ตั้งสติขึ้นมาได้คนแรกเอ่ยบอกเอ็ดเวิร์ด​  แต่เอ็ดเวิร์ดยังกอดเกล​อยู่​ไม่ยอมขยับตัว​  แจสเปอร์เดินไปจับที่ไหล่ของเอ็ดเวิร์ดเพื่อเรียกสติ​   

    เอ็ดเวิร์ดที่รู้สึกถึงมือของใครมาแตะที่ไหลเขาก็หันไปมอง​ 

     

    "พาเกลไปบ้านก่อนเถอะ​ อาจจะยังทัน"

    แจสเปอร์พูดบอกเอ็ดเวิร์ด​ เอ็ดเวิร์ด​ที่ได้ยินก็พยักหน้าเข้าใจ​ ช้อนร่างกายของเกลขึ้นมาอุ้มออกมาจากรถ​ แจสเปอร์เปิดประตูรถเบาะหลังเพื่อให้เอ็ดเวิร์ดกับเกลเข้าไปข้างใน​ แล้วปิดประตูทั้งหมด​ เดินไปฝั่งคนขับของรถเอ็ดเวิร์ด​ทันที

     

    " เอ็มเม็ตต์ดูผู้หญิงด้วย​ เจอกันที่บ้าน" 

     

    "โอเค" 

    แจสเปอร์ตะโกนบอกเอ็มเม็ตต์ให้ดูแลหญิงสาวสองคนที่ยังยืนนิ่งอยู่ด้วยความตกใจ

    แจสเปอร์เมื่อขึ้นรถได้ก็ขับรถออกไปอย่างรวดเร็ว​ เขามองกระจกหลังเป็นระยะๆ​ ยิ่งเห็นเอ็ดเวิร์ด​กอดร่างของเกลที่ไร้การเคลื่อนไหวและใบหน้าที่เจ็บปวดทรมานของน้องชายก็ยิ่งเพิ่มความเร็วมากขึ้น​ เขาไม่อยากจะเห็นใบหน้าที่แสนเจ็บปวดของเอ็ดเวิร์ด​เลย

    ​ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงรถยนต์ของเอ็ดเวิร์ด​ก็มาจอดที่หน้าบ้าน​ เอ็ดเวิร์ดอุ้มร่างของเกลเข้าบ้านไปอย่างรวดเร็ว​ แต่ก็ยังไม่เร็วพอที่จะไม่ให้เอสเม่เห็น​ เอสเม่ที่เห็นช็อตที่เอ็ดเวิร์ดอุ้มร่างอันไร้สติของเกลเข้าไปยังห้องทำงานของสามีเธอ​ ใบหน้าที่ไร้สีสันของเลือดและเลือดที่ไหลออกมาจากมุมปากทำให้เธอล้มทั่งยืน​ แต่แจสเปอร์ที่ตามมารับไว้ได้ทัน

     

    "เกิดอะไรขึ้นแจสเปอร์​ ทำไมหนูเกลเขา..." 

     

    "ผมก็ไม่รู้ครับ​ แต่ตอนนี้เราต้องช่วยเกลก่อน" 

     

     

     

    เอ็ดเวิร์ดพาร่างของเกลเข้ามาหาคาร์ไลล์ในห้องทำงานทันที​ เมื่อคาร์ไลล์เห็นลูกชายของเขาอุ้มร่างของคนรักเข้ามาก็ตกใจแต่เขายังคุมสติได้​ เขาสั่งให้เอ็ดเวิร์ดพาเกลไปยังเตียงคนไข้ที่อยู่ในส่วนของห้องที่เหมือนห้องพยาบาล

     

    “ เกิดอะไรขึ้นเอ็ดเวิร์ด​”

    คาร์ไลล์พูดถามเอ็ดเวิร์ด​และหยิบจับอุปกรณ์ออกมาทำงานไปด้วย​ 

     

    “พวกมันลอบโจมตีเรา​  มันฉีดบางอย่างให้เกล​ มันจะฆ่าเธอ ผมเลยฉีดพิษเข้าหัวใจของเกล​ แต่ว่าเกลก็….” 

     

    “ไม่เป็นไรนะ​ ไปนั่งพักก่อนฉันจัดการเอง” 

    คาร์ไลล์พูดปลอบเอ็ดเวิร์ดที่แสดงสีหน้าเจ็บปวดรวดร้าว​เมื่อพูดถึงเหตุการณ์​มี่เกิดขึ้นกับคนรักของเขา เอ็ดเวิร์ดเดินถอยหลังออกมาทิ้งตัวลงที่เก้าอี้ไม่ไกล ใบหน้าของเขาบิดเบี้ยวไปด้วยความเศร้า เขานั่งมองคาร์ไลล์ตรวจร่างกายที่นิ่งสนิทของเกลด้วยใจที่เจ็บปวด

     

    คาร์ไลล์เข้าทำการตรวจอาการของเกลทันที​ เขาตรวจร่างกายของเกลภายนอกว่ามีรอยบาดเจ็บ​ตรงไหนหรือไม่​ แต่ก็ไม่พบบาดแผลอะไรนอกจากรอยช้ำที่แขนของเกล​ ร่องรอยของการโดนของแข็งฟาดทั่วทั้งสองแขน​   เขาหยิบหูฟังมาใส่แล้วฟังการเต้นของหัวใจของเกล​ แต่ไม่ว่าจะแตะตรงบริเวณใดไม่มีแม้เสียงอะไร ทั้งการเต้นของหัวใจหรือว่าการหายใจ  

     

    "เป็นอย่างไรบ้างคะ" 

    เอสเม่ที่ยืนอยู่กับคนอื่นๆถามขึ้น​ พวกเขายืนมองคาร์ไลล์ตรวจร่างกายของเกลอยู่สักครู่แล้ว​ พวกเขาเห็นเพียงใบหน้าเคร่งเครียดและเศร้าจากคาร์ไลล์เท่านั้น

     

    "ผมก็ไม่รู้​ แต่จากที่เอ็ดเวิร์ด​พูด​ร่างกายของเกลได้รับพิษแวมไพร์​ไปแล้ว​ แต่ผมไม่รู้ว่ายาที่เธอได้รับก่อนหน้าจะมีผลกับพิษแวมไพร์หรือไม่​ เราทำได้เพียงแค่รอดู" 

     

    "โถ่ที่รัก" 

    เอสเม่เดินเข้าไปหาคาร์ไลล์และกอดเขา​ เธอมองไปที่ร่างกายของเกลที่นิ่งเหมือนร่างไร้วิญญาณ​ 

     

    เอ็ดเวิร์ด​ที่ได้ฟังสิ่งที่คาร์ไลล์พูดออกมาก็เจ็บปวดไปทั้งใจ​ เขาไม่อยากจะรออีกแล้ว​ เขาอยากให้เกลฟื้นขึ้นมากอดเขาตอนนี้​ ตื่นขึ้นมายิ้มให้เขาเหมือนที่เคยทำมาตลอด​ 


    อลิซที่เห็นหน้าพี่ชายของตัวเองเศร้าจึงช่วยกอดปลอบเขา​ เธอเองก็เจ็บปวดในหัวใจและเชื่อว่าทุกคนในห้องนี้ต่างเจ็บปวด​ แต่พวกเราไม่สามารถ​จะหลั่งน้ำตาเพื่อคนที่รักได้​ ทำได้เพียงเก็บความเจ็บปวดนั้นไว้ในใจของตัวเอง

     

    เวลาผ่านไปไม่รู้กี่ชั่วโมงที่ครอบครัวคัลเลนคอยยืนเฝ้าดูการเปลี่ยนแปลงของร่างกายของเกลบนเตียง​ เอสเม่ โรซาลีและอลิซช่วยกันทำความสะอาดร่างกายให้กับเกล​ เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ให้กับร่างกายที่เย็นและซีดเซียว​ ร่องรอยเขียวจากการฟกช้ำตามแขนของเกลยังเด่นชัด​ ทั้งสามคนต้องฝืนกล้ำกลืนความเจ็บปวดของใจ มองดูร่างกายของคนที่รักนอนแน่นิ่งอยู่ตรงหน้า​ 


    เอ็ดเวิร์ดที่ถูกแจสเปอร์และเอ็มเม็ตต์บังคับให้คาร์ไลล์ตรวจร่างกายและไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า​ เพราะเขาไม่ยอมขยับตัวลุกออกจากเก้าอี้ที่นั่งเฝ้าดูร่างของเกล​ ทุกคนต่างรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดนั้นเจ็บปวดแค่ไหน​ และรู้ว่าเอ็ดเวิร์ด​คงเหมือนตายทั้งเป็นเมื่อขาดเกลไป​ แต่พวกเขาก็ไม่สามารถจะช่วยน้องชายของเขาได้เลย

     

    “เธอกลับมาหาฉันนะเกล​ ฉันรักเธอนะ​ รักเธอมากๆ​ ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าขาดเธอ” 

    เอ็ดเวิร์ดที่เข้ามาหาเกลที่นอนอยู่บนเตียง​ เขาจับมือที่เคยอุ่นแต่บัดนี้กับเย็นเท่ากับมือของเขา​ เอ็ดเวิร์ดพล่ำขอร้องให้เกลฟื้นขึ้นมา เรียวแรงของเขาหมดไปเมื่อมองใบหน้าที่ซีดเซียว​และดวงตาปิดสนิทของเกล​ ขาทั้งสองข้างคุกเข่าลงข้างเตียงของเกล​ เขาจับมือแล้วแนบหน้าลงกับมือของเกล​ ร้องเรียกให้เกลฟื้นขึ้นมาหาเขา

     

    “ฟื้นเถอะเกล​ ฉันคิดถึงเธอมากมายเหลือเกิน​ ตื่นขึ้นมายิ้มให้ฉันหัวเราะให้ฉันเหมือนเดิมได้ไหม  ฉันขอโทษที่ดูแลเธอไม่ดี​ ฉันผิดเอง​  ฉันขอโทษ” 

    คัลเลนคนอื่นๆได้แต่มองสมาชิกในครอบครัวเศร้าเสียใจ​ โทษตัวเองที่ปกป้องคนที่รักไม่ได้​ พวกเขาเจ็บปวดในใจทุกครั้งที่เห็นสมาชิกของพวกเขาต้องเจ็บปวดรวดร้าว​ แต่พวกเขาก็ช่วยอะไรไม่ได้

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    TBC

    น้องเป็นอะไรอ่าาาาาาาา

    อิไรต์แต่งดราม่าอีกแล้วววววววว

    ยังไงต่ออออ​ จบเลยไหมมมม

    เศร้าไหม แต่งเศร้าไม่ค่อยเก่ง 

    ไรต์กลัวเก็บรายละเอียดไม่ครบ

     ยังไม่ได้ตรวจคำผิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×