คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #34 : ตอนที่33
***นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของไรต์ มีการอ้างอิงจากหนังที่เป็นแรงบันดาลใจบางส่วน ไม่ได้มีเจตนาจะลอกเลียนแต่อย่างใด ขอให้ทุกคนสนุกสนานกับนิยายเรื่องนี้***
“ใช่ ทำอะไรไม่ได้ ส่วนการใช้ยา เพราะว่าร่างกายไม่ได้รับยามานานหลายปี พอได้รับร่างกายเลยปรับไม่ทันและต่อต้าน จึงทำได้แค่ช่วยบรรเทาได้ชั่วคราว แต่…กลับกันยังเป็นตัวเร่งอาการด้วย”
เกลอธิบายต่ออย่างละเอียด ถึงตัวเธอจะเป็นอัจฉริยะขนาดไหน แต่หลายหัวก็ดีกว่าหัวเดียว อาจมีใครที่ช่วยเธอคิดหาทางออกดีๆได้ก็ได้ ซึ่งเธอก็พร้อมรับฟัง
“งั้นตอนนี้ก็ทำได้เพียงรักษาไปตามอาการ แล้วช่วงนี้มีอาการอีกไหม”
คาร์ไลล์ที่คิดหาวิธีช่วยเกลเต็มความสามารถ ประสบการณ์หลายพันปีของเขากลับช่วยเกลไม่ได้เลย คงเพราะการทดลองที่เกลเจอเป็นการทดลองที่เป็นวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ที่เขาเองก็ไม่รู้จัก
“ไม่มีค่ะ หนูก็สังเกตตัวเองตลอด หนูพบว่าถ้าไม่ใช่พลังก็จะไม่มีอาการ และไม่กระตุ้นให้อาการกำเริบด้วย”
“โอเค ลุงคงต้องศึกษาเรื่องนี้เพิ่มขึ้นอีกเยอะเลย”
“ไม่ต้องก็ได้นะคะ หนูเองก็ไม่อยากให้คุณเครียดเรื่องนี้ด้วย”
“ไม่เป็นไร ถึงยังไงก็เป็นหน้าที่ของหมอคนหนึ่ง”
เกลพยักหน้าเข้าใจคาร์ไลล์ ถึงเธอจะรู้ชะตากรรมแต่เธอก็ไม่คิดจะทำร้ายน้ำใจของใครที่มองให้เธอ เกลนั่งคุยกับครอบครัวคัลเลนอีกสักพัก พ่อแม่ของเธอก็มาถึง
ทอมกับเจนตกใจนิดหน่อยที่เจอคัลเลนหลายคน จึงทำความรู้จักกันสักพัก แล้วโรซาลี เอ็มเม็ตต์ อลิซและเจสเปอร์ก็ขอตัวออกไปข้างนอก เหลือเพียงคาร์ไลล์ เอ็ดเวิร์ด ตัวเกลและพ่อแม่อยู่ฟังผลการตรวจร่างกาย
“จากผลที่ตรวจมาและที่คุยกับเกลเพิ่มมา ก็ดูตอนนี้ร่างกายของเกลก็ปกติดี แค่ดูแลตัวเองดีๆอย่าให้อาการกำเริบก็จะสามารถใช้ชีวิตปกติได้”
“แล้วจะทำยังไงให้อาการไม่กำเริบหล่ะคะพี่คาร์ไลล์”
เจนถามขึ้นมาเมื่อฟังผลการตรวจจากคาร์ไลล์จบ คาร์ไลล์หันไปมองเกล เกลจึงเข้าใจดีว่าคาร์ไลล์อยากให้เธอพูดเอง เกลจึงอธิบายให้ทอมกับเจนฟังโดยให้ดูไม่เลวร้ายมากนัก บอกเรื่องที่ทอมกับเจนรู้แล้วมีความสุขมากกว่าความทุกข์
“ลูกต้องดูแลตัวเองดีๆรู้ไหม”
“รู้ค่าาาา ไม่ต้องห่วงค่ะแม่”
“น้าฝากเกลด้วยนะเอ็ดเวิร์ด”
“ครับ ผมจะดูแลเกลอย่างดี”
“เดี๋ยวก่อนนะคะแม่ ฝากเฝิกอะไรกัน นี่สนิทกันหรอ”
เกลที่เห็นเจนคุยกับเอ็ดเวิร์ดอย่างสนิทสนม มีฝากดูแลเธอด้วย หรือว่าการมาที่บ้านเธอตามที่เจนบอกมันมีอะไรมากกว่านั่นอีก ซึ่งดูจากใบหน้าของพ่อทอมที่ไม่ได้แปลกใจอะไรกับคำพูดของแม่เจน แล้วเอ็ดเวิร์ดที่รับปากอย่างรวดเร็วไม่มีกระตุกกระตักอะไรเลย เธอหายไปสองเดือนตกข่าวเยอะขนาดนี้เลยหรอ
“ใช่ สนิทกันมากกกกด้วย”
“อะไรอ่าาา ได้ไง หนูไม่เข้าใจ พ่อคะ”
เกลที่งงกับเหตุการณ์ตรงหน้า จึงหันไปหาทอมเพื่อให้เขาไขความกระจ่างนี้ให้เธอ แต่ทอมทำเพียงยิ้มมุมปากของครางรับในลำคอ
“อืม…”
“what!!!”
เกลอุทานออกมาอย่างอยากรู้ แต่ทำไมทุกคนให้ห้องถึงยิ้มกริ่มแบบนั้นมาให้เธอล่ะ
‘โอ๊ย คนสวยงง’
เกลพยายามจะถามหาความจากเอ็ดเวิร์ดตลอดเวลา แต่เขาก็ไม่ยอมเล่าให้เธอฟัง เธองัดไม้ตายแกล้งงอนมาใช้ เอ็ดเวิร์ดยังไม่สนใจเธอเลย จนตอนนี้เธอนั่งอยู่บนรถของเขาที่กำลังไปส่งเธอที่บ้านก็ยังไม่ยอมเล่า เขาจะพาเธอออกไปนอกเรื่องตลอด หลบหลีกเก่งจริงๆ
“พรุ่งนี้ฉันมารับนะ”
“ไม่เป็นไร บ้านฉันไกลเดี๋ยวฉันเอารถไปเองได้”
“ไม่เป็นไรบ้านฉันรวยมีเงินเติมน้ำมันเยอะ”
“จ้ะ พ่อคนรวย จะมาก็อย่าสายหล่ะ ไม่งั้น…ตายแน่”
เกลทำท่าวาดนิ้วไปที่คอพร้อมพูดขู่คนที่อาสาจะเป็นคนขับรถประจำตัวเธอ เรียกรอยยิ้มขำจากเอ็ดเวิร์ดออกมาได้ เกลเองที่ทำหน้าจริงจังในตอนแรกก็หลุดขำตามมา
เกลโบกมือลาเอ็ดเวิร์ดที่ขับรถห่างออกไปเรื่อยๆจนลับตาไป เกลเดินเข้าไปในบ้านทำกิจวัตรประจำวันเหมือนเดิม เปลี่ยนเสื้อผ้า เข้าสวน รดน้ำ ให้อาหารวัว ช่วยเจนกับทอมทำงานบ้านและงานในสวนอย่างไม่เน็ดเหนื่อย ซึ่งเกลคิดว่านี่แหล่ะความสุขอีกอย่างของชีวิตที่มีครอบครัว
“มาเร็วกว่าที่คิดไว้นะเนี่ย”
เกลที่ออกมายืนรอเอ็ดเวิร์ดที่หน้าบ้าน เธอกะว่าจะออกมาก่อนเวลานัดแต่เอ็ดเวิร์ดก็ยังมาถึงก่อนอยู่ดี
“ฉันว่างไง”
เอ็ดเวิร์ดพูดพร้อมยิ้มมุมปากส่งไปให้เกล
‘ชิ คนอะไรเท่ชะมัด’
เกลคิดในใจ ทำไมคนตรงหน้าถึงเท่เกินเบอร์ขนาดนี้ ถ้าใครมาเห็นแบบเธอต้องอ่อนระทวยไปหมดแล้วแน่ๆ แต่เธอจะไม่บอกเขาแน่ว่าเธอก็เป็น
“เธอคิดอะไรอยู่”
“อะไร เปล่าสะหน่อย รู้ได้ไง”
“ก็หน้าเธอมันฟ้อง บอกฉันได้ไหม ฉันอ่านใจเธอไม่ได้นะ”
“ไม่บอกหรอก แบร่”
เกลแลบลิ้นใส่เอ็ดเวิร์ดหนึ่งที่แล้วเดินเข้าไปนั่งในรถ เอ็ดเวิร์ดที่นั่งอยู่บนกระโปรงหน้ารถก็ได้แต่ยิ้มให้กับท่าทีของเกล เอ็ดเวิร์ดเดินขึ้นรถบ้าง แล้วสตาร์ทรถขับออกไป
ขับรถมาได้ครึ่งทางเอ็ดเวิร์ดก็ยังสนใจสิ่งที่เกลคิดในใจก่อนหน้าและเอ่ยถามเกลอีกครั้ง แต่เกลก็ยังไม่บอกอยู่ดี เกลจึงเสนอให้เอ็ดเวิร์ดลองเดาดูจากท่าทางของเกล ตลอดทางเกลกับเอ็ดเวิร์ดจึงเล่นใบ้คำกันไปแทน ซึ่งทำให้เอ็ดเวิร์ดลืมเรื่องที่ต้องการรู้ก่อนหน้าไป
“วันนี้มาเร็วไป นักเรียนยังไม่ค่อยมาเลย”
“ดีแล้ว เราจะได้ไปทำธุระกันก่อน”
“หือ ธุระอะไรฉันจำไม่ได้ว่านัดอะไรใครไว้นะ”
“ไม่ใช่ธุระแบบนั่น ฉันขอตารางสอนเธอหน่อย”
“เอาไปทำไมอะ”
เกลถามเอ็ดเวิร์ดแต่มือก็ยังเปิดกระเป๋าเป้ออกและหยิบตารางสอนออกมาให้เอ็ดเวิร์ด เอ็ดเวิร์ดที่หยิบตารางสอนมาดูก็มองดูแล้วพยักหน้าเข้าใจอยู่คนเดียว
เอ็ดเวิร์ดที่ดูตารางสอนจนพอใจแล้ว เขาก็จับมือของเกลให้เดินตามเขาไป เกลเดินตามเอ็ดเวิร์ดไปเรื่อยๆ จนมาถึงห้องธุรการ ห้องที่รวมงานทุกอย่างของโรงเรียนไว้ในห้องนี้แล้ว
“มาที่นี่ทำไมหรอ”
“มาเปลี่ยนวิชาเรียนไง”
เกลยังงงอยู่กับสิ่งที่เอ็ดเวิร์ดบอก จนเอ็ดเวิร์ดเดินเข้าไปคุยกับเจ้าหน้าที่คนหนึ่ง ถามถึงเรื่องรายวิชาต่างๆ ซึ่งเธอจำได้ว่ามันเป็นวิชาที่เธอลงเรียนไปทั้งหมด และเธอก็ได้เข้าใจ เอ็ดเวิร์ดเปลี่ยนตารางเรียนในวิชาที่ไม่เหมือนเธอทั้งหมดให้มาเรียนกับเธอ
เกลยิ้มออกมาเมื่อเข้าใจการกระทำของเอ็ดเวิร์ดแล้ว เขาน่าจะคิดเรื่องนี้มาตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว ถึงว่าทำไมออกมารับเธอเร็ว
‘นายนี่ร้ายจริงๆ’
เกลยืนรอเอ็ดเวิร์ดสักพักจนเขาย้ายวิชาเรียนเสร็จแล้วเดินมาหาเธอ การย้ายวิชาเรียนง่ายกว่าเดิมเพราะเมื่อพึ่งเปิดเรียนไปวันแรก
“ไปกัน”
“เป็นไงบ้าง”
“ก็เรียบร้อยดี บางวิชาที่ต้องใช้ใบส่งตัวก็อาจจะยังไม่มีให้ เพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้ทำให้ ต้องบอกอาจารย์ไปก่อน”
“ไม่เห็นต้องย้ายเลย”
“เธอไม่เห็นจริงหรอ”
เอ็ดเวิร์ดถามเกลด้วยใบหน้าเจ้าเล่ห์ เขารู้ว่าเธอแกล้งลองเชิงเขา และเป็นจริงดังที่คิดเมื่อเกลหลบสายตาเขาแล้วยิ้มออกมา
“ชิ เห็นก็ได้”
“ดีมาก ฮ่าๆๆ เราไปหาที่นั่งกันเถอะ”
เอ็ดเวิร์ดพูดและกัวเราะออกมาด้วยความดีใจ และชวนเกลไปหาที่นั่งเพราะยังไม่ถึงเวลาเรียน
เกลกับเอ็ดเวิร์ดพาเกลเดินออกมาข้างนอกอาคารมาในโซนที่มีโต๊ะนั่ง เกลมองไปเจอกับกลุ่มเพื่อนที่นั่งเล่นอยู่ที่โต๊ะๆหนึ่ง ก็หันหน้าไปส่งสายตาให้เอ็ดเวิร์ดเพื่อสื่อความหมายสิ่งที่เธออยากจะทำ
“อืม ไปสิ”
เอ็ดเวิร์ดเอ่ยอนุญาตและตัวเขาเองก็เดินไปพร้อมเกลด้วย เขาเข้าใจสิ่งที่เกลจะสื่อ ทั้งสายตา ท่าทางการมอง เขาเห็นว่าเกลมองอะไรอยู่ และพฤติกรรมของเกลที่ผ่านๆมา เขารู้ว่าเกลจะใส่ใจกับเพื่อนของเธอทุกๆคนเสมอ ไม่มีการทิ้งเพื่อนมาหาเขาหรือทิ้งเขาไปหาเพื่อน เธอมักจะพูดบอกขอก่อนเสมอไม่มีการหักหน้าหรือหักหารน้ำใจใคร
“ไงเพื่อนๆ”
“ไงเกล”
เกลทักทายเพื่อนของเธอที่นั่งอยู่ ซึ่งอยู่กันครบรวมถึงสมาชิกใหม่อย่างเบลล่าด้วย เกลนั่งลงข้างแองเจลล่าที่นั่งริมสุด พร้อมกับดึงเอ็ดเวิร์ดให้นั่งลงข้างๆเธอด้วย เอ็ดเวิร์ดก็นั่งลงอย่างไม่อิดออด เรียกความสนใจและตื่นเต้นจากเพื่อนในกลุ่มและคนอื่นๆรอบด้วย เพราะตรงบริเวณที่นั่งนี่ก็มีหลายโต๊ะและนักเรียนอีกส่วนที่ไม่ได้อยู่ที่ลานจอดรถก็จะมานั่งที่นี่ ซึ่งเป็นเรื่องแปลกใหม่ก็คือ พวกเขาไม่เคยเห็นคัลเลนคนไหนออกมานั่งข้างนอก บางข่าวก็ลือว่าพวกเขากลัวผิวเสียถ้าโดนมลภาวะข้างนอก ซึ่งทำให้เกลที่ได้ยินมาแรกๆขำแทบตาย เพราะตัวเกลรู้ความจริงอยู่แล้วว่าเหตุผลคืออะไร
“วันนี้มาแปลกแห่ะ ไม่เคยเห็นคัลเลนออกมานั่งข้างนอกมาก่อน”
“ใช่ นี่ครั้งแรกของฉัน คงต้องมาบ่อยๆแล้ว เพราะตรงนี่บรรยากาศดี”
เอ็ดเวิร์ดพูดตอบไมค์ที่ถามเขา เขารู้ว่าตัวไมค์มีอคติกับเขา แต่เขาจะไม่สนใจ เขาจึงกวนคนที่ถามโดยการตอบคำถามโดยไม่มองหน้าคนถาม แต่มองเพียงใบหน้าของเกลที่รอดูว่าเขาจะตอบว่ายังไง และสิ่งที่เขาได้จากการกวนก็มีสิ่งดีๆหลายอย่าง เช่น ใบหน้ายุ่งไม่พอใจของคนถาม และใบหน้าเขินจากคนที่เขานั่งมองหน้าอยู่ กลายเป็นว่าตอนนี้เขานั่งเอียงข้างเข้าหาเกลและเกลก็นั่งเอียงเข้าหาเขา
“แหม่ ยิ้มสดใสยามเช้าเชียวนะเกล”
แองเจลล่าเอ่ยแซวเกลที่นั่งอยู่ข้างๆเธอ เกลจึงเอียงตัวไปชนแองเจลล่าเบาๆเมื่อโดนแซว
“ฉันก็ยิ้มแบบนี้ทุกวันอยู่แล้ว”
เกลพูดแก้ตัวออกมาด้วยแก้มที่ยังแดงๆอยู่ เกลนั่งหันออกเป็นท่าตรงแทน แต่ก็ขยับเข้าใกล้เอ็ดเวิร์ดมากขึ้น เรียกรอยยิ้มพอใจจากเอ็ดเวิร์ดได้ เกลเริ่มคุยเรื่องนั้นนี้กับเพื่อนโดยมีเอ็ดเวิร์ดนั่งฟัง
เอ็ดเวิร์ดนั่งฟังเกลคุยกับเพื่อน พร้อมกับการหาข่าวใหม่ๆจากเสียงที่เขาได้ยินในหัวไปด้วย เขารู้สึกถึงสายตาหลายๆคู่ที่มองมาแต่เขาชินแล้วเพราะเขามักเป็นที่สนใจอยู่แล้ว แต่ว่ามันมีคู่หนึ่งที่ให้ความรู้สึกแตกต่างจากคนอื่น เขามองหาตามความรู้สึกของเขาจนไปเจอกับเจ้าของสายตานั่น และไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นเด็กที่พึ่งย้ายมาใหม่ และเมื่อเอ็ดเวิร์ดมองไปที่เธอกลิ่นของเธอก็พุ่งเข้าโจมตีเขาทันที เอ็ดเวิร์ดเบือนหน้าหนีพร้อมกับกลั่นหายใจทันที เขาหันหน้าออกไปอีกทางเพื่อตัดความสนใจจากกลิ่นอันยั่วยวนทิ้งไปให้ได้ แต่เมื่อเขาหันหน้าออกจึงไม่เห็นว่าคนที่นั่งข้างๆเขากำลังสนใจอาการของเขาอยู่
เกลมองอาการของเอ็ดเวิร์ดที่เริ่มไม่สงบนิ่งเหมือนเดิม ตอนแรกเธอไม่คิดอะไรจนแต่ยินเสียงการตัดลมหายใจดังมาใกล้ๆ เธอจึงรู้ว่ามาจากเอ็ดเวิร์ด เขากลั่นลมหายใจทำไม เกลที่กำลังจะถามแต่เขาหันหน้าไปทางอื่นก่อน เธอจึงมองหาสิ่งที่ทำให้เอ็ดเวิร์ดเกิดอาการแปลก และเจอกับเบลล่าที่นั่งนิ่งเพ่งมองไปที่บางอย่างอย่างใจจดใจจ่อ เธอมองตามสายตาของเบลล่าไปก็พบว่าเบลล่ากำลังมองเอ็ดเวิร์ดอยู่ เกลประมวลข้อมูลจนรู้ว่าเอ็ดเวิร์ดกลั่นหายใจหนีกลิ่นของเบลล่า เกลกำลังจะช่วยเอ็ดเวิร์ดแต่ก็มีเสียงเรียกความสนใจของทั้งกลุ่มขึ้นมาก่อน
“เอ็ดเวิร์ด นายเป็นอะไรไหม”
เสียงใสของเบลล่าที่เอ่ยถามออกมา ถึงแม้จะไม่ดังมาก แต่ไม่รู้ว่าเพราะสกิลนางเอกรึป่าว ตอนที่เบลล่าพูดเสียงรอบๆเบาลงมากจนเสียงของเบลล่าดังพอให้ทั้งกลุ่มได้ยิน รวมถึงโต๊ะที่อยู่รอบโต๊ะที่กลุ่มเธอนั่งด้วย
ทุกคนที่ได้ยินเสียงเบลล่ามองหน้าเบลล่าแปปหนึ่งแล้วหันมามองเอ็ดเวิร์ดที่ยังหนีจากกลิ่นของเบลล่าอยู่ โดยการปิดจมูกและเบือนหน้าออกห่างๆ
“เกล เอ็ดเวิร์ดเป็นอะไรหรอ”
แองเจลล่าเอ่ยถามเกล ซึ่งทำให้ทุกคนที่สนใจเอ็ดเวิร์ดหันมามองเกลแทน แต่เกลกลับนั่งนิ่งไม่พูดอะไร ทำให้ใครหลายๆคนเริ่มเอาประเด็นที่เกลนิ่งตอนที่เอ็ดเวิร์ดกำลังเป็นอะไรไม่รู้ไปนินทา แต่ไม่มีใครสังเกตได้ว่าเกลกำลังมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น
เกลรู้สึกอึดอัดกับสายตาของหลายคนที่มองมาที่เธอ เธอรู้สึกว่าสมองและร่างกายถูกช็อตจนทำอะไรไม่ทัน เกลกำลังคิดว่าจะพูดอะไร พูดอย่างไรดีเพื่อช่วยแก้สถานการณ์ให้เอ็ดเวิร์ดได้ แต่อยู่ดีๆสมองเธอตอนนี่กลับว่างเปล่า ว่างเปล่าขนาดที่ไม่มีเรื่องไหนเลย ซึ่งมันแปลกมาก เกลไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน เหมือนกับว่าเธอลืมเสียทุกสิ่งณตอนนี้ ลืมว่าเมื่อกี้เพื่อนถามเธอว่าอะไร ลืมว่าเอ็ดเวิร์ดเป็นอะไร เมื่อกี้เขาทำหน้าหรือท่าทางเป็นอย่างไร ซึ่งมันพึ่งเกิดไม่นานเอง ทำไมเธอถึงนึกไม่ออกหล่ะ
‘ทำไม ทำไมไม่มีอะไรเลย ทำไมนึกไม่ออก’
เกลส่งเสียงถามตัวเองในใจ มันเหมือนกับว่าเธอสมองเสื่อมจำอะไรก่อนหน้าไม่ได้เลย
‘ผิดปกติแล้ว’
พรึบบบ
เกลลุกขึ้นยืนอย่างรวดเร็ว เรียกอาการตกใจจากคนบริเวณรอบๆตัวเธอ แม้แต่เอ็ดเวิร์ดก็ตกใจ เกลขยับตัวออกจากที่นั่งอย่างรวดเร็วแล้วเดินออกไปจากบริเวณนั้นทันที พอเดินไปจากบริเวณโต๊ะนั่งหมดเกลก็เปลี่ยนเป็นวิ่งออกไปแทน เรียกเสียงฮือฮาจากฟูงชนที่มองดูอยู่ได้
เอ็ดเวิร์ดที่เห็นเกลลุกขึ้นยืนแล้วเดินออกไปอย่างรวดเร็วโดยที่ไม่รอหรือบอกอะไรเขา หรือบอกอะไรใครเลย เมื่อเขาเห็นเกลออกวิ่งเขาจึงออกวิ่งตามเกลไปด้วย แต่เขาต้องพยายามข่มร่างกายให้ใช้ความเร็วปกติ เพราะมีคนอยู่เยอะไป ซึ่งทำให้เขาขัดใจมากเพราะเกลกำลังจะลับสายตาเข้าไปแล้ว เขาคิดว่าเกลใช้พลังในการเคลื่อนตัวออกไป แต่เขาไม่สามารถตะโกนบอกไม่ให้เกลใช้พลังได้ หรือใช้พลังตามเกลให้ทันได้
เอ็ดเวิร์ดเริ่มโทษตัวเอง ถ้าเขาลุกเร็วกว่านี้ หรือไม่มัวแต่โฟกัสกับการหลบหลีกกลิ่นของผู้หญิงคนนั้นจนไม่เห็นว่าเกลมีท่าทีแปลกไป เรื่องก็คงไม่เป็นแบบนี้ ตอนนี้เขาควรที่จะเป็นคนพาเกลออกไปจากตรงนี้ ไม่ใช่การที่เกลกำลังจะหายไปแบบนี้
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
TBC
หลบตีนรีดแปป ฮ่าๆๆๆ อย่าฆ่าไรต์นะ
ไรต์เริ่มว่างแล้ว เดี๋ยวพรุ่งนี้มาต่อให้น้าาาา
ยังไม่ตรวจคำผิด
ขอบคุณทุกเม้นทุกกำลังใจน้าาาาาาาาา
ความคิดเห็น