ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Give you All my Time เวลาของฉันเป็นของคุณ (EDxOC)END

    ลำดับตอนที่ #25 : ตอนที่24

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 3.96K
      345
      17 ก.พ. 65

     ***นิยายเรื่องนี้แต่งขึ้นจากจินตนาการของไรต์ มีการอ้างอิงจากหนังที่เป็นแรงบันดาลใจบ้าง ไม่ได้มีเจตนาจะลอกเลียนแต่อย่างใด ขอให้ทุกคนสนุกสนานกับนิยายเรื่องนี้***

     

    ปัง

    กระสุนจากหัวหน้านักฆ่าพุ่งเข้าใส่หญิงสาวจนล้มไป เกลมองเห็นว่าเขายิ่งไม่โดนหัวของหญิงสาวคนนั้น เขาน่าจะแม่นกว่านี้เธอจะได้ไม่ต้องเก็บกวาดเอง ชายนักฆ่าพูดกับดอกเตอร์อีกสองสามคำก็ได้ยินเสียงปืนตามมา

     

    ปัง ปัง

    กระสุนอีกสองนัดพุ่งเข้าร่างของดอกเตอร์ เธอไม่ได้สนใจว่าพวกเขาคุยอะไรกัน แต่แอบเสียดายนิดๆที่ดอกเตอร์ตาย เธอยังไม่ได้ข้อมูลอะไรเลย เธอมองดอกเตอร์ที่คอยๆตายไป แล้วละสายตาไปมองหญิงสาวที่นอนมองเธออยู่เหมือนกัน เกลยิ้มให้หญิงสาว ขณะที่หัวหน้านักฆ่าหันหลังแล้วเดินมาหาเกลกับชายหนุ่มที่ยังนั่งอยู่

     

    “ยิ้มอะไร”

    หัวหน้านักฆ่าเห็นเกลยิ้มก็ถามออกมา แล้วมองตามสายตาของเกลไปยังข้างหลัง หญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้นพร้อมกับมีดในมือ

     

    “กลัวไม่ได้ซีนรึไง”

    เกลนั่งมองหัวหน้านักฆ่าเข้าไปสู้กับหญิงสาวถือมีด เธอไม่ได้สนใจแค่มองอย่างผ่านๆ เธอชันเข่าขึ้น ปัดเศษฝุ่นที่เปื้อนออกจากเสื้อผ้า พร้อมกับหาวออกมา เกลเริ่มง่วงแล้ว เพราะวันนี้เธอยังไม่ได้นอนเลย ตั้งแต่ที่ถูกจับมาก็เที่ยงคืนกว่าๆแล้ว ตอนนี้คงใกล้เช้าแล้ว พอไม่ได้ออกกำลังมันก็จะง่วงหน่อยๆ เธอไม่สนใจว่าใครจะมองเธออยู่ไหม เพราะเธอรู้สึกได้ถึงสายตาคู่หนึ่งที่มองเธออยู่ คงเป็นใครไม่ได้นอกจากชายหนุ่มที่เธอพึ่งอัดเขาไป เพราะอีกสองคนยังสู้กันอยู่และเธอรู้ว่าใครจะพลาดท่า เกลหันไปมองชายหนุ่มที่มองเธออยู่ แล้วส่งยิ้มให้เขา เกลพูดออกมาแบบไม่มีเสียง ‘คอยดูนะ’ แต่ให้เขาอ่านปากเธอได้แล้วแวบไปข้างหลังของนักฆ่าที่สู้กับหญิงสาวเสร็จแล้ว ขณะที่นักฆ่าหันมามองยังทางที่เกลกับชายหนุ่มเคยอยู่ก็เห็นแค่เพียงรอยยิ้มจากชายหนุ่มที่นั่งอยู่คนเดียว เขาหันมองด้านข้างเพื่อหาเกล แต่ก็ไม่ทัน เกลถีบไปที่ข้อพับขาจากด้านหลัง ทำให้นักฆ่าทรุดตัวคุกเข่าลง เธอจับยึดศีรษะของเขาไว้แน่น เธอรู้สึกถึงแรงต้านของเขา แต่เขาสู้แรงเธอไม่ได้

     

    ก๊อบ

    เสียงกระดูกช่วงคอหักออกจากกันตามแรงที่บิดศีรษะ ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเกลอยู่ไหน และสิ่งสุดท้ายที่เขาเห็นก็คือรอยยิ้มของปีศาจในร่างเด็กสาว เกลมองชายหนุ่มที่ค่อยๆลุกขึ้นเดินมาหาเธอ ใบหน้าช่วงปากของเขายังเต็มไปด้วยเลือด

     

    “เหลือแค่เราแล้วนะ”

     

    ถุ๊ย

    ชายหนุ่มยังไม่หยุดกวนเขาถุยเลือดออกมาจากปาก แล้วหยิบหลอดยาจากในเสื้อออกมา

     

    “ที่เหลือในห้องทดลองปลอดภัยดี”

    เขาพูดออกมา เกลคิดว่าเขาคงไม่รู้ว่าเธอเอายาออกมาแล้ว แต่เธอคิดว่าในศูนย์นี้คงยังมีอีก

     

    “มันถูกทำที่ไหน”

    เกลถามออกไป เขาคงคิดว่าเกลต้องการยา แต่จริงๆเธอต้องการรู้ที่อยู่ของพวกที่เหลือต่างหาก

     

    “ถ้าเธอเป็นคนสุดท้ายที่ยืนไหว ฉันจะบอก”

    เกลถอนหายใจใส่เขา แล้วยิ้มออกมามันเป็นรอยยิ้มที่ฝืนกล้ามเนื้อบนใบหน้ามากๆ แต่เธอก็พยายามยิ้มออกมา

     

    "นี่ยังคิดจะสู้อีกหรอ"

     

    “ไม่สู้แล้วไง เธอจะปล่อยฉันไปหรอ”

    ชายหนุ่มพูดออกมา แต่สายตามองไปยังข้างหลังเกล และเกลเองก็รู้ว่าคืออะไร หญิงสาวถือมีดที่ยังไม่ตายไง บอกแล้วเด็กทดลองอย่างพวกเธอมันอึดจะตาย ถ้าหัวไม่ทะลุละก็ มันจะยังไม่จบ

     

    “ไม่หรอก”

    เกลยังยืนคุยกับเขาต่อ เหมือนไม่รู้ว่าอะไรกำลังมา ส่วนเขาก็ยิ้ม

     

    “ใช่ไหมล่ะ เฮ้ออ”

    เขายักไหล่ยุ๊กยิ๊กไปมาเหมือนเป็นเด็กน้อย5ขวบพร้อมรอยยิ้ม ชายหนุ่มโยนยาทิ้งไป จริงๆยานั้นสามารถทำให้เขามีพลังมากขึ้น ถ้าใช้มันก็มีสิทธิ์ชนะเกลได้ด้วยซ้ำ แต่เขาไม่ใช้มัน คงยอมรับที่จะตายแล้วมั้ง แต่เกลไม่ใส่ใจหรอกว่าเขาคิดอะไร เพราะยังไงแผนการของเธอต้องลุล่วง ซึ่งก็คือ ทุกคนจะต้องตายทั้งหมด…ไปพร้อมกับเธอ

     

    “ฉันจะฆ่าแก”

    เสียงตะโกนแล้วแรงวิ่งตรงมาหาเธอทางด้านหลัง เกลทำเพียงหันไปรับมืออย่างช้าๆ เธอจับไปที่ใบหน้าของหญิงสาว

     

    จึก จึก

    เสียงมีดแทงทะลุเข้าไปในเนื้อสองที แต่เกลไม่ได้สนใจ ไม่มีความรู้สึกใดๆ เกลจับไปที่หน้าของหญิงสาวออกแรงให้เธอทรุดตัวลง

     

    “อยากรู้ไหมว่าฉันเก่งขนาดไหน ฉันจะทำให้ดู”

    เกลออกแรงบีบคั้นไปที่หัวของหญิงสาว ทั้งแรงบีบภายนอกและแรงบีบภายในจากพลังจิต

     

    “อือ…อื้อ”

    หญิงสาวขัดขืนสุดฤทธิ์แต่ก็ไม่สามารถขยับตัวหรือลุกขึ้นได้

     

    “อื้อออออออ”

    เสียงระเบิดของศีรษะดังขึ้นพร้อมกับเสียงร้องอย่างเคียดแค้นครั้งสุดท้ายของหญิงสาว เกลก้มลงมองไปที่ท้องของเธอที่มีมีดเล่มหนึ่งปักอยู่ เกลมองมันอย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไร เป็นคนธรรมดาคงเจ็บเจียนตาย แต่เธอก็เหมือนตายไปแล้วนั่นแหละ เป็นแค่มนุษย์ทดลองที่กลายเป็นนักฆ่าเดนตาย เธอดึงมีดออกจากท้อง และรู้สึกถึงสัมผัสที่หัว เกลรู้ว่าชายหนุ่มกำลังเล็งปืนจ่อที่หัวเธอนานพอดู แต่เธอไม่กลัวเพราะเธอใช้พลังตรึงเขาไว้กับที่แล้ว เกลกลับหลังหันไปหาเขาอย่างช้าๆ ยืนมองชายหนุ่มถือปืนยืนค้างเหมือนหุ่นโดนสตาฟไว้ ชายหนุ่มกัดฟันส่งเสียงร้องพยายามขัดขืนสุดฤทธิ์ เธอมองดูอย่างยิ้มๆ แล้วใช้มีดที่ถืออยู่ในมือแทงเข้าไปที่ท้องของเขา มีดในมือแทงเข้าไปช้าแล้วดึงออกมาอีกครั้งแล้วกดเข้าไปใหม่ ชายหนุ่มขัดขืนพลังของเกลได้นิดหน่อยใช้แขนที่ถือปืนฟาดเกล แต่เธอจับทัน เธอหักแขนของเขาให้หลุดออกจากไหล เสียงกระดูกที่ดังขึ้นจากการหักทำให้เกลพึงพอใจ เธอดึงมีดออกมาแล้วแทงไปที่อกของชายหนุ่มดันเขาให้ติดกำแพง เอาปืนออกมาจากมือของเขาแล้วปล่อยให้ร่างของเขาทรุดลงไปกับพื้น

    sds

    “ชีวิตเรามันโคตรเฮงซวยเลย เธอว่าไหม แค่จะตายดีๆ ยังทำไม่ได้”

    คำพูดของเขาทำให้เกลนึกถึงเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตของเธอ พวกเขาเองก็คงไม่ต่างจากเธอ ไม่ฆ่าก็ถูกฆ่า ใครอยากจะมีชีวิตแบบนี้

     

    “ไม่ต้องห่วง ฉันจะฆ่านายเอง บอกมาว่าศูนย์ใหญ่อยู่ที่ไหน”

     

    “ฮึฮึ แบร่”

    sds

    ชายหนุ่มขำออกมาพร้อมแลบลิ้นใส่เธอ เธอรู้ว่าเขาไม่บอกเธอแน่ เธอยิ้มให้กับท่าทางของเขา รอยยิ้มครั้งนี้มันเป็นของจริง เธอรู้สึกสงสารเขาจริงๆ ไม่ควรมีใครต้องโดนแบบพวกเธอ

     

    “แล้วฉันจะตามนายไป…พร้อมกับคนอื่นๆ”

    ชายหนุ่มหุบยิ้มคิดตามคำพูดของเกลพร้อมมองรอยยิ้มสุดท้ายที่เธอมอบให้เขา ทำไมมันช่างอบอุ่น

    ปัง

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    เกลเดินเตร็ดเตร่ไปทั่วศูนย์นี้ เพื่อหาสิ่งที่เธอต้องการ เธอสามารถรวบรวมหลอดยามาได้12อัน ซึ่งอยู่ตรงหน้าของเธอตอนนี้ เธอหยิบขึ้นมา 4 หลอดเก็บลงในกระเป๋าเสื้อแล้วเดินออกมา พร้อมกับเสียงไฟฟ้าลัดวงจร ประกายไฟเกิดขึ้นตามมา เกลเดินผ่านแต่ละห้องอย่างช้าๆ และแต่ละห้องก็เกิดไฟลัดวงจรตามหลังเธอมาเรื่อยๆ เธอเดินผ่านศพแล้วศพเล่าจนออกมานอกศูนย์วิจัยร้างที่กำลังมีเพลิงลุกไหม้ได้ เกลยืนมองไฟที่กำลังลุกไหม้พร้อมกับกระเป๋าใบหนึ่งที่ใส่แท็บเล็ตที่มีข้อมูลของทุกคนในศูนย์วิจัยไว้ การเดินทางของเธอกำลังจะเริ่มต้นขึ้น เธอยกนาฬิกาที่ข้อมือออกมาดู พบว่าตอนนี้ตีสี่กว่าแล้ว เธอต้องเอาจดหมายไปส่ง เกลวิ่งกลับมาที่บ้านด้วยความเร็วเหนือมนุษย์ เธออยากไปถึงก่อนพ่อกับแม่ตื่น เธอไม่รู้ว่ายานอนหลับจะต้านการตื่นเช้าเป็นกิจวัตรประจำวันของชาวสวนได้รึเปล่า เกลเข้าบ้านด้วยประตูหน้าเป็นปกติ ในบ้านยังเงียบสงบแปลว่ายังไม่มีใครตื่น ศพที่นอนอยู่ในบ้านยังมีอยู่เหมือนเดิม เกลไม่คิดจะเก็บกวาด เธอบอกรายละเอียดพ่อกับแม่ลงในจดหมายแล้ว เพียงแค่พ่อกับแม่เธอไม่ตกใจมากเกินไปก็พอ

    เกลเดินขึ้นชั้นบนไปเอาจดหมาย แล้วเดินออกมา เธอหยุดยืนมองหน้าห้องของพ่อกับแม่ เธอไม่รู้จะได้กลับมาเมื่อไร หรือเธอจะตายก่อนกลับมาไหม แค่เพียงพวกเขาปลอดภัยเธอก็พอใจแล้ว เกลก้มมองปืนที่เธอใช้ฆ่าพวกนักฆ่า มันมีลายนิ้วมือเธออยู่ ตำรวจจะต้องเอามันไปพิสูจน์หลักฐานหาคนฆ่าพวกนี้แน่ เธอหยิบมันขึ้นมาใส่ไว้ในกระเป๋าแล้วเดินออกไปจากบ้าน

    ระยะทางที่เกลต้องไปโรงเรียนนั่นไกลพอสมควร เธอจึงต้องเร่งความเร็วมากๆ จนแทบขาดอากาศหายใจตาย เธอเดินไปยังล็อคเกอร์ของเอ็ดเวิร์ด เธอใช้พลังจิตปลดล็อกออกแล้วใส่จดหมายจำนวน1ฉบับลงไป แล้วปิดมันไว้เหมือนเดิม เธอลูบป้ายชื่อเจ้าของล็อคเกอร์อย่างห่วงหา เธอจะทิ้งเขาไปแล้ว เธอไม่อยากจะคิดว่าเขาจะลืมเธอ ลืมเธอไปเมื่อนางเอกของเรื่องมา…..มาแทนที่เธอ

    เกลเดินออกไปตามถนนเข้าไปในเมือง เธอหาเสื้อผ้าเปลี่ยนแต่ตอนนี้ยังเช้ามากๆ ไม่มีร้านขายเสื้อผ้าที่ไหนเปิด เธอเดินหาร้านที่ไม่มีประตูเหล็ก เธอปลดล็อกร้านด้วยพลังแล้วเดินหาเสื้อผ้าเปลี่ยนเข้าห้องน้ำเช็ดล้างร่างกายด้วย เมื่อทำทุกอย่างเสร็จแล้ว เกลก็เดินมาที่เคาท์เตอร์วางไม้แขวนที่มีราคาติดอยู่พร้อมกับหยิบเงินออกมาจากกระเป๋าเงินวางไว้ด้วย เธอสำรวจร้านนี้แล้วว่าไม่มีกล้องวงจรปิด ถึงมีพลังของเธอจะกวนสัญญาณมันได้

    เกลจะต้องเดินทางไกลมากๆ ไปยังที่ที่ศูนย์วิจัยใหญ่ตั้งอยู่ แล้วไหนจะต้องไปหาพี่น้องของยัยดอกเตอร์โรคจิตนั่นอีก

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    1 เดือนผ่านไป

    เกลไล่ล่าตามเก็บพวกมนุษย์ทดลองที่เหลือ และพวกนักวิทยาศาสตร์ที่ทำงานให้กับศูนย์วิจัย เธอไม่ต้องการให้เหลือใครคนใดที่สามารถคิดยาทดลองบ้าๆนั้นขึ้นมาอีก ทุกที่ที่เธอไปเธอจะเผาทำลายหลักฐานข้อมูลทุกอย่าง และเป็นการส่งสารเตือนถึงทุกคนที่มีส่วนร่วมว่าเธอกำลังไปล่ามัน จนตอนนี้เธอทำลายศูนย์ใหญ่เป็นที่เรียบร้อย เหตุการณ์ไฟไหม้ครั้งใหญ่สุดในประวัติกาล ตึกสูงร้อยชั้นเกิดไฟฟ้าลัดวงจรทุกชั้น เป็นเหตุประหลาด แต่ไม่มีใครหาคำอธิบายได้นอกเหนือจากหลักฐานที่บอกว่าไฟฟ้าลัดวงจรจริงๆ ซึ่งฆ่าคนไปมากถึงร้อยกว่าชีวิตในนั้น เหมือนพวกเขาไม่รู้ตัวเลยว่า….จะตาย

     

    ครึ่งเดือนผ่านไป

     

    ฝิ้ว…ฉึก ฝิ้ว…ฉึก

    ยามที่คอยอารักขาบ้านตากอากาศหลังหนึ่งล้มลงไปกองอยู่กับพื้นพร้อมเลือดที่ไหลออกมาจากลำคอ ไม่มีใครรู้สึกถึงอันตราย ก่อนตายเพียงได้ยินเหมือนเสียงลมพัดวูบผ่านตัว แล้ววิญญาณของพวกเขาก็ออกจากร่างไป

    เสียงของมีคมถูกวางไว้บนโต๊ะเรียกให้สายตาของคนที่กำลังนั่งอ่านเอกสารอยู่อีกฝั่งเงยหน้ามามองตรงต้นเสียง ดอกเตอร์สาววัยสี่สิบกว่าๆเงยมองบุคคลที่มาใหม่ที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ พร้อมกับอุ้มสัตว์เลี้ยงขนปุยของเธอไว้

     

    “ไงคะ ดอกเตอร์”

    เกลพูดทักทายคนตรงข้ามที่เธอตั้งใจจะมาหา โดยไม่มองหน้าอีกฝ่าย เกลทำเพียงเล่นกับแมวน้อยในมือเธอ

     

    “ฉันรู้ว่าเธอจะมา”

    เกลอมยิ้มออกมา ปล่อยแมวลงไปแล้วหันมาส่งยิ้มให้กับดอกเตอร์ข้างหน้าเธอ ดอกเตอร์อีกคนที่มีใบหน้าเหมือนกับอีกคนที่เธอเกลียด เธอหยิบกล่องไม้ยาวขึ้นมาวางที่โต๊ะ เธอเปิดออกแล้วหมุนไปให้อีกฝ่ายดู หลอดยาจำนวนมากปรากฏให้เห็น

     

    “มันไม่ใช่สิ่งที่เธอต้องการใช่ไหมล่ะ”

     

    “ใช่ และคุณรู้ว่าฉันต้องการอะไร”

     

    “ฉันให้เธอไม่ได้”

    เกลหุบยิ้มทันทีที่ได้ยินเสียงที่เอ่ยออกมาจากปากของคนตรงหน้าเธอ เกลเลื่อนมือไปหยิบมีดขึ้นมา แล้วออกจากปักมันลงบนโต๊ะเป็นการสื่อว่าเธอเริ่มไม่พอใจแล้ว

     

    ปึก

     

    “แม่ไม่เป็นไรจ้ะ ไม่เป็นไร”

    ดอกเตอร์พูดออกมา เกลรู้ว่าดอกเตอร์ไม่ได้พูดกับเธอ เพราะมีอีกหนึ่งชีวิตอยู่ในห้องนี้ด้วย

     

    “ถ้าเธอกล้าแตะฉัน ฉันจะเด็ดหัวอัปลักษณ์นั่นออกมา”

    เกลพูดใส่หน้าดอกเตอร์ แต่อีกคนก็ได้ยิน เกลหันไปมองยังที่ที่เด็กทดลองอีกคนยืนอยู่ ที่ใบหน้าของเธอมีแผลเป็นขนาดใหญ่อยู่บนหน้า จริงๆดอกเตอร์ดูตกใจที่เธอรู้โดยไม่ต้องมอง ระยะเวลาที่เธอผ่านมา ไล่ตามล่าฆ่าคนในศูนย์วิจัยไปทั่ว เธอหาวิธีรักษาโรคของเธอไปด้วย ซึ่งมันก็คือไขกระดูกจากพ่อกับแม่ พวกคนระดับล่างมักจะไม่รู้อะไร แต่พวกบอร์ดบริหารที่กลัวตายมากๆคนหนึ่ง ได้บอกใบ้เธอมาว่าดอกเตอร์หญิงที่เป็นพี่น้องกับยัยโรคจิตน่าจะรู้ว่าพ่อแม่ของเธอคือใคร ใครเป็นคนบริจาคไข่กับสเปิร์มมา ถึงแม้เกลจะทำใจไว้แล้วก็ตามว่าเธอจะตายตามคนอื่นๆไป

     

    “คุณจะไม่บอกฉันจริงๆ ใช่ไหม”

     

    “มันไม่มีประโยชน์อะไร เธอคิดว่ามันจะยังรักษาได้งั้นหรอ”

    เกลอยากจะเถียงต่อแต่เธอก็เถียงไม่ได้ ครั้งล่าสุดที่อาการกำเริบจนเธอต้องฉีดยา เธอพบว่ายาหลอดเดียวเอาไม่อยู่ อาการปวดหัวของเธอมันไม่หายไปแถมยังรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมด้วย เธอต้องฉีดยาเพิ่มอีกเข็มถึงจะบรรเทาอาการลงได้ และก่อนหน้าที่เธอจะมาบ้านหลังนี้ เธอก็ต้องฉีดยาไปอีก เพราะอาการของเธอกำเริบมีเลือดไหลออกมาจากร่างกาย

     

    “ถ้างั้น…ก็ตายกันให้หมดนี้แหละ จะได้จบสักที”

    เกลพูดออกมาเสียงเรียบ มองจ้องไปยังดอกเตอร์ข้างหน้าเธอ เกลดึงมีดออกมาจากโต๊ะจะแทงดอกเตอร์ แต่มีมือมาขัดเธอเอาไว้ แล้วดึงเธอให้ลุกออกมาด้วยกำลังมหาศาล เกลเข้าต่อสู้กับลูกสาวของดอกเตอร์นั้น หญิงสาวปัดมีดของเกลหล่น ไถลไปตกอยู่ข้างหน้าดอกเตอร์ที่ลุกจากเก้าอี้มามองดูลูกสาวของตัวเองกำลังถูกเกลอัด ใช่ ถูกอัด เธอรุกใส่หญิงสาวเต็มความสามารถ และจากประสบการณ์การต่อสู้มา แค่หญิงสาวที่ถูกเลี้ยงไว้ให้ปกป้องนักวิทยาศาสตร์เฉยๆ ไม่ได้สู้กับใคร จะมาสู้เกลได้อย่างไร เธอผ่านเหตุการณ์เสี่ยงตายมาทั้งชีวิต แค่เด็กทดลองอีกคนมันจิ๊บๆมาก เธอออกแรงเหวี่ยงจนหญิงสาวกระเด็นไปกระแทกผนัง จนกระอักเลือดออกมา เธอหันไปเห็นรูปวาดเธอตอนเด็ก เธอหยิบมันขึ้นมาดู เธอหันไปมองยังดอกเตอร์ที่มองเธออยู่ แล้วส่งยิ้มไปให้ดอกเตอร์ เกลออกแรงหักกรอบไม้ให้แตกออกแล้วฉีกภาพวาดให้ขาดออกจากกัน ดึงกระดาษออก เหลือไปเพียงไม้ที่เคยเป็นกรอบของภาพ แต่ตอนนี้กลายมาเป็นอาวุธของแล้ว ปลายไม้ที่ถูกหักออกจนแหลมสามารถทิ่มแทงได้ ถูกนำมาใช้เป็นอาวุธ เกลเหยียดยิ้มใส่ดอกเตอร์แล้ว แวบเคลื่อนที่อย่างรวดเร็วเข้าไปหาลูกสาวของดอกเตอร์ที่ลุกยืนขึ้นได้ เธอแทงไม้ไปที่ไหล่ด้านหน้าของหญิงสาว ไม้ทะลุไปอีกด้านและปักเข้ากับกระจก ยึดตรึงไม่ให้หญิงสาวขยับตัว เธอมองไม้อีกด้ามในมือ เธอจับไม้เล็งไปที่หัวของหญิงสาว

     

    “ไม่ อย่าาาาา”

     

    ปึก เพล้ง

    เสียงของไม้ปักเข้าไปศีรษะของหญิงสาวพร้อมกับกระจกที่ไม่สามารถทนแรงกระแทกได้อีก จนแตกออก ร่างไร้วิญญาณของหญิงสาวล่วงลงไปข้างนอกพร้อมกระจกที่แตกออก

     

    “ฮึก ฮืออออ แกกกก”

    ดอกเตอร์กรีดร้องแล้วหยิบมีดที่อยู่ใกล้ตัววิ่งเข้ามาหาเกล เธอเพียงใช้มือเดียวหยุดการเคลื่อนไหวของดอกเตอร์ได้ เกลผลักดอกเตอร์ไปกระแทกผนังอย่างแรง ดอกเตอร์ก็กระอักเลือดออกมาแล้ว เกลยึดมือที่ถือมีดไว้ และใช้อีกมือบีบไปที่คอของดอกเตอร์ เธอค่อยๆเพิ่มแรงเข้าไปทีละนิดๆ

     

    “อึก อึก แกรู้ไหมว่า แก…ฆ่า…ใครไป”

     

    “หึหึ คิดว่าตอนนี้ฉันสนรึไง”

    เกลดึงมีดออกมาจากมือของดอกเตอร์ ถือมีดด้วยมือขวา ส่วนมือซ้ายกำอยู่ที่คอของดอกเตอร์ เธอเล็งมีดลงไปที่คอของดอกเตอร์ หามุมที่จะปักมันลงไปแล้วทำให้ดอกเตอร์ตายช้าที่สุด

     

    “อึก อ๊อก แก”

    ใบหน้าที่บูดเบี้ยวข้างหน้าเกลช่างเหมือนกับเดจาวูเธอเคยเห็นมันมาก่อน เกลหัวเราะในลำคอ แล้วปล่อยมือที่กำคอดอกเตอร์ออกขณะเดียวกันก็ปาดมีดไปที่คอที่ไร้การจับกุม ร่างของดอกเตอร์ล้มลงกับพื้นเลือดค่อยๆไหลออกมาจากคอ เกลทรุดตัวนอนลงไปที่พื้นข้างๆดอกเตอร์ เธอฟังเสียงเลือดที่ค่อยๆ ไหลออกมา เสียงลมหายใจที่เข้าออกผ่านหลอดลมที่ถูกเฉือน หลับตาลงช้าๆ ปล่อยร่างกายไป ไม่สนใจสิ่งใดแล้ว

    'มันจบแล้วสินะ  จบสิ้นสักที ต่อไปนี้จะอยู่อย่างสงบๆ สักที'

     

    “ไม่โว๊ยยยย ฉันจะกลับบ้าน”

    เกลที่เหมือนกับทะเลาะกับเสียงข้างในตัวเอง เด้งตัวขึ้นจากพื้นร้องตะโกนออกมา มันเหมือนกับว่าตอนนี้ร่างกายของเธอเป็นของเธอ ส่วนอีกหนึ่งดวงวิญญาณลึกๆในใจได้หายไปแล้ว วิญญาณได้เป็นอิสระ

    เกลลุกขึ้นไปเก็บกล่องยาใส่กระเป๋าแล้วเดินออกจากบ้านไป เกลหันมาดูอีกครั้งเห็นเพียงดอกเตอร์ที่เลือดไหลออกมาไม่หยุดแต่แน่นิ่งไปแล้ว เธอมองไปยังสวิตช์ไฟที่อยู่ติดผนัง เธอส่งพลังเข้าไปให้มันลัดวงจร แล้วเดินออกไป

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    the End.

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    ล้อเล่น 5555

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    .

    TBC….

    จบเรื่องในส่วนของthe witch part1แล้วนะ

    ต่อไปจะเป็นเรื่องของทไวไลค์แล้ววววววว

    รอติดตามชมได้ ขอกำลังใจ ขอเม้นให้ไรต์ด้วยนะ

     

    แก้คำผิดแล้วจ้า
     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×