ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic D.Gray-man] TNB 2: The Dawn Goddess บุ๊คแมนของเหล่าโนอา ภาค เทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ (ฟิคแปล)

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 8: Death and Life and Death again (ความตาย ความเป็น และความตายอีกครั้ง)

    • อัปเดตล่าสุด 9 พ.ค. 61


    Title: The Noah’s Bookman 2: The Dawn Goddess บุ๊คแมนของเหล่าโนอา ภาค เทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ

    Story: Saturnalius

    Translator: KITDS

     

    Chapter 8: Death and Life and Death again (ความตาย ความเป็น และความตายอีกครั้ง)

    “เขาตายแล้วแน่นอน”บุ๊คแมนหนุ่มนิ่วหน้าพลางคุกเข่าลงข้างๆ ร่างไร้วิญญาณของคุณพ่อเจมส์ มีชาวบ้านมาพบเขาเมื่อเช้าตอนที่มาเพื่อรับศีลวันอาทิตย์ พวกเขารู้ถึงความสามารถด้านการแพทย์ของราวี่ เพราะชายหนุ่มผมแดงเคยจัดกระดูกให้ชาวบ้านคนนึงเมื่อไม่กี่อาทิตย์ก่อน พวกเขาเลยตามชายหนุ่มมาตรวจดู ชาวบ้านที่มุงดูอยู่ซึ่งส่วนมากเป็นหญิงสาวเขยิบเข้ามาดูอย่างใจจดจ่อ “เหมือนจะสักพักแล้วด้วย”

    “มีอะไรที่ท่านพอจะทำได้มั้ยคะ? นายท่าน”คาร่าถามด้วยความกังวล ใครกันที่จะมาทำเรื่องแบบนี้กับบาทหลวงของพวกเขา? เขาเป็นคนดีแท้ๆ

    “เลิกพวกนายท่านอะไรนั่นเถอะ โอเคมั้ย?”ราวี่ขมวดคิ้ว มือสะบัดเป็นเชิงไล่ “ฉันไม่ใช่ขุนนางจริงๆสักหน่อย เรียกฉันว่าบุ๊คแมนก็พอแล้ว เข้าใจ?

    ชาวบ้านนั้นอยู่ในสภาวะตึงเครียดอยู่แล้ว หกวันก่อน อีกามาวิ่งไล่ราวี่ตามถนนหนทาง พวกเขายังเชื่อว่าชายหนุ่มตายไปแล้วจนถึงเมื่อวานตอนเช้าเมื่อราวี่กลับมากะทันหันอย่างลึกลับ แล้วพวกเขาก็ได้เรียนรู้รากเง้าครอบครัวเชื้อสายขุนนางของเขา ซึ่งมันก็ทำให้หลายคนรู้สึกไม่สบายใจ พวกเขาถูกสั่งสอนมาตลอดว่าให้ปฏิบัติตัวกับขุนนางเหมือนพวกเขาเป็นพระเจ้า และราวี่ก็ไม่อยากได้อะไรแบบนั้นเลย เขาแค่อยากถูกปฏิบัติด้วยแบบคนธรรมดาทั่วไป

    “สำหรับคำตอบ”ราวี่พูดต่อ “ทำอะไรไม่ได้แล้วนอกจากฝังเขา ไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น มันเหมือนจะแก้ไม่ได้แล้ว”ราวี่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น เขาเห็นเหตุการณ์เมื่อคืนตอนที่โร้ดเข้าไปในห้วงความคิดของชายหนุ่มและทำให้เขากลัวกับฝันร้ายของตัวเองจนสิ้นใจ

    “แล้วเทพธิดาแห่งชีวิตล่ะ”คอนเนอร์ ช่างอบขนมเสนอ “โรนัลด์เคยเห็นเวทมนต์ของเธอแล้วนี่”

    “นายจำไม่ได้รึไงว่ามันทำให้โฮวาร์ดเป็นยังไง?”คาร่า ภรรยาช่างอบแย้ง และนั่นทำให้ราวี่สนใจ โรนัลด์เคยพูดว่าโฮวาร์ดไม่เป็นตัวของตัวเองหลังจากไปขอเทพธิดาให้พาลูกชายตัวเองกลับมา แต่ไม่เคยเล่าต่อว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขาหรือทำไมตอนนี้เขาถึงไม่อยู่ที่หมู่บ้านแล้ว

    “เขาเดินไปเดินมาเหมือนซากศพมีชีวิต”เธอเล่าต่อ “จนเขาพาตัวเองไปจมน้ำตายที่ทะเลสาบนั่น”

    สิ่งที่เป็นไปได้ก็คือ อาคุม่าในตัวออกมาจากร่างเขาและทิ้งเพียงเปลือกนอกของเขาไว้ที่ทะเลสาบ และมันก็คงดูเหมือนว่าเขาพาตัวเองไปจมน้ำ “นั่นฟังดูเสี่ยงมากนะ”ราวี่แทรกขึ้นมาด้วยน้ำเสียงค่อนข้างเรียบ “นายแน่ใจหรอว่าอยากลอง? อยากให้เขากลับมาขนาดนั้นเลยหรอ?

    ชาวบ้านพากันเงียบไปพักหนึ่ง การจะพาหลวงพ่อกลับมามีความเสี่ยงสูง และถึงเขาจะเป็นที่รักในหมู่ผู้คน แต่คงไม่มีใครจะเสี่ยงชีวิตเพื่อเขา ยกเว้นไว้แต่คนหนึ่ง วาเนสซ่า เธอเป็นสาววัยราวสิบหกปีเจ้าของผิวนุ่ม ริมฝีปากอิ่มสีแดงและผมหยักศกสีน้ำตาล เธออายุครึ่งหนึ่งของบาทหลวง แต่เขาก็เอาเธอมาแต่งเป็นภรรยา ราวี่เคยมั่นใจว่าวาเนสซ่าเกลียดเจมส์เมื่อเธอไม่เคยดูมีความสุขเลยเวลาอยู่กับเขา แต่หญิงสาวก็เอาแต่สะอื้นเบาๆอยู่ที่ริมฝูงชนไม่หยุดตั้งแต่พบร่าง เธอยังไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ แต่สีหน้าที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดรวดร้าวก็บอกทุกอย่าง ว่าเธออาจจะคิดที่จะเสียสละเพื่อเขา ผู้หญิงโง่งม บุ๊คแมนหนุ่มคิด

    “สงสัยเราจะต้องฝังเขาแล้ว”แซนดี้ ภรรยาช่างปะรองเท้าทำลายความเงียบ “เราคงจะไปตามบาทหลวงที่หมู่บ้านข้างๆมาสวดให้เขาได้”ทุกคนพยักหน้าเมื่อมันฟังดูเป็นแผนการที่ดี

    .....

    ความเงียบหม่นหมองครอบงำหมู่บ้าน ราวี่ยกเลิกคลาสเรียน ให้เวลาผู้คนไว้ทุกข์ และมันยังให้เวลาเขาสำรวจรอบหมู่บ้านได้อย่างอิสระ ฝนเริ่มตกช่วงสาย ก่อเงาครึ้มตามถนนหนทาง ราวี่สวมเสื้อคลุมมีฮู้ดสีเขียวเพื่อกันฝน เขาเดินผ่านชาวบ้านโดยที่พวกเขาไม่ทันสังเกตและแอบฟังบทสนทนา ไม่มีอะไรที่น่าสนใจเว้นแต่เรื่องของเทพธิดาแห่งชีวิตที่ถูกพูดถึงขึ้นมาบ้าง แต่ก็แค่พูดถึง ไม่มีอะไรมากกว่านั้น ไม่มีใครอยากจะเสียสละเพื่อพานักบวชกลับมา

    แต่มันยังมีอย่างอื่นอีก บางคนเริ่มพูดเปรียบเปรยถึงค้างคาวที่มาวางยาเด็กๆของพวกเขา ชายฉกรรจ์บางส่วนรวมตัวกันพูดเรื่องที่จะต้องจัดการกับค้างคาว ราวี่คิดว่าเป็นค้างคาวดูดเลือด ในเมื่อมันมาอาศัยอยู่แถวนี้เพราะปศุสัตว์ในเมืองข้างเคียง ราวี่เลยปล่อยผ่านไป แต่แล้วเขาก็ได้ยินคนพูดถึงอีก เรื่องของค้างคาว มันจะต้องเป็นค้างคาวตัวใหญ่ที่ทำให้ทั้งเมืองพูดถึงในช่วงที่เศร้าหมองกันขนาดนี้

    แซนดี้กับโรนัลด์ได้ออกเดินเท้าหลังจากที่พูดคุยกันก่อนหน้าเรื่องศพของบาทหลวงเจมส์ ด้วยความหวังที่จะได้รับความช่วยเหลือจากบาทหลวงหมู่บ้านข้างเคียงมาช่วยสวดส่ง พวกเขาเพิ่งกลับมาได้ไม่นานมานี้ และไม่ได้กลับมาเพียงกับบาทหลวง แต่รวมถึงเอ็กโซซิสท์อีกหนึ่งคน

    ราวี่ไม่รู้จักเอ็กโซซิสท์คนนี้ เขาตัวสูงผอม อายุประมาณ16 ผิวซีดกับผมสีบลอนด์สว่าง เขาพูดเสียงเบาด้วยสำเนียงเยอรมัน เสื้อคลุมเขาดูปกติแต่ยาวจนเกือบถึงข้อเท้า มือพันด้วยผ้าพันแผลเหมือนได้รับบาดเจ็บมา การเคลื่อนไหวของเขาเก้ๆกังๆ ราวกับยังไม่คุ้นชินกับอินโนเซนส์ เขาสะพายธนูมาด้วยหนึ่งคันแม้จะไม่มีลูกธนูหรือกระบอกใส่มาด้วย

    ราวี่ยืนอยู่ด้านหลังชาวบ้านที่มายืนเคารพศพและแฝงตัวอยู่ในผู้คน เขาไม่ได้ใส่ใจในพิธีเท่าไหร่และสนใจจะมาดูเอ็กโซซิสท์คนใหม่นี้มากกว่า เขามองมาทางราวี่หลายครั้งแต่ก็ไม่ได้ทำท่าเหมือนจะเข้ามาหาหรือคุยกับเขาเลย

    เอ็กโซซิสท์หนุ่มออกจากงานไปเร็วพอๆกับที่มา เดินออกจากงานเพื่อกลับไปยังที่ที่เขาจากมา ราวี่มองตามเขาจนเขาออกจากหมู่บ้านไป ราวี่ไม่ได้มีเหตุผลอะไรให้ตามตัวอีกฝ่ายเลยตัดสินใจกลับมาที่บ้าน

    “ราวี่ปอน~

    ราวี่ยังไม่ทันถึงบ้านตอนที่เสียงหนึ่งเรียกความสนใจเขา ชายหนุ่มหันไปเห็นท่านเอิร์ลในร่างอ้วนกลม เธอดูคล้ายกับพ่อขุนนางคนก่อน แต่แทนที่จะเป็นกางเกงสูท เธอสวมกางเกงที่คล้ายกับกางเกงบลูมเมอร์แทน หมวกที่เธอสวมนั้นใบใหญ่ตกแต่งด้วยดอกไม้กับขนนก มันดูเป็นผู้หญิงมากกว่าคนก่อนที่เป็นหมวกทรงสูงแบบผู้ชาย และมันก็แอบดูตลกเมื่อขอบปีกวางอยู่บนหูยาวใหญ่ของเธอพอดี

    “มาเถอะ~”เธอยื่นมือมาหาเขา “ถึงเวลาสร้างอาคุม่าแล้ว~

    ......

    วาเนสซ่าคุกเข่าอยู่ที่พื้น โคลนเปื้อนเปรอะที่ชายกระโปรง เธอร้องไห้มานานจนตาช้ำ มือทั้งสองประสานเข้ามากัน ภาวนาร้องขอปาฏิหาริย์ เธอเป็นเด็กสาวคริสเตียนเคร่งศาสนา ตลอดชีวิตที่ผ่านมาเธอถูกสอนมาตลอดว่าห้ามขอพรต่อพระเจ้าจอมปลอม แต่ตอนนี้เธอก็อยู่ตรงนี้อย่างไร้ทางเลือก สวดภาวนาต่อเทพธิดาท่ามกลางสายฝน “ได้โปรดเถอะค่ะ เทพธิดาแห่งแสงสว่าง ได้โปรดพาสามีสุดที่รักของฉันกลับมาด้วย”

    ประตูสู่โนอาอาร์คปรากฏขึ้นพร้อมกับท่านเอิร์ลที่โผล่มาอย่างยิ่งใหญ่มายืนอยู่บนหินหลุมศพใกล้ๆกัน เธอถือร่มสีชมพูคันประจำ แต่ก็ไม่มีฝนหยดใส่เธอเลยราวกับว่าเธอสามารถบังคับให้มันเบนไปตกรอบตัวเธอได้ ราวี่เองก็เดินทางผ่านประตูเข้ามา แต่การปรากฏตัวของท่านเอิร์ลนั้นเรียกความสนใจจนเขาสามารถแอบมาได้โดยที่อีกฝ่ายไม่ทันสังเกต เขายืนอยู่ข้างกายท่านเอิร์ลและใช้ความสามารถที่จะซ่อนตัวแม้จะอยู่ในที่โล่งเพื่อสังเกตการณ์

    ดวงตาของวาเนสซ่าเบิกกว้างด้วยความตกใจ เธอคิดว่าเรื่องราวของชาวบ้านจะเป็นแค่เรื่องเพ้อฝันและนิทานหลอกเด็ก แต่ตอนนี้เทพธิดาก็ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ ตัวจริงเสียงจริงและไม่ถูกฝนสักเม็ด

    “แน่นอนจ้ะที่รัก~”ท่านเอิร์ลยิ้มกว้างจนถึงหู และเรียกโครงกระดูกสีดำมาข้างกาย “สิ่งที่เธอต้องทำมีเพียงเรียกหาเขา เรียกชื่อเขา เพื่อพาเขากลับมา~

    วาเนสซ่าไม่เข้าใจว่าชาวบ้านจะทำมันเป็นเรื่องใหญ่ทำไม มันดูง่าย และดีพอที่จะพาที่รักของเธอกลับมา “เจมส์ที่รัก! กลับมาหาฉันเถอะค่ะ!

    สายลมพัดแรงผ่านผืนป่าเหมือนดวงวิญญาณถูกฉีกกระชากกลับมาจากโลกหลังความตายเข้ามาสู่โครงกระดูกสีนิล มันเคลื่อนไหวขยับนิ้วมือเล็กน้อย “วา... วาเนสซ่า? เกิด...อะไรขึ้น?

    “เจมส์ที่รัก!”เธอร้อง “คุณกลับมาหาฉันแล้ว! เพียงคืนเดียวคุณก็จากฉันไป ฉันทนเสียคุณไปไม่ได้!

    “ฉัน... ถูกฆ่า”เขาตอบ “ด้วย... ด้วยฝีมือของเขา”เขาพยายามจะชี้มือแต่ร่างกายเขาไม่ขยับตามที่ต้องการ เขาควบคุมมันไม่ได้

    วาเนสซ่ามองตามและเพิ่งสังเกตเห็นราวี่ที่ยืนอยู่ข้างท่านเอิร์ลเป็นครั้งแรก แขนทั้งสองของชายหนุ่มกอดอกอยู่ใต้ผ้าคลุม ใบหน้าของเขาเรียบเฉยไร้อารมณ์ต่างจากปกติที่ดูเป็นมิตร เจมส์พูดถูกมาโดยตลอด บุ๊คแมนไม่ใช่คนอย่างที่เขาแสดงให้เห็น

    “เจมส์พูดถูก! เธอมันเป็นปิศาจ!”หญิงสาวคว้ามือกระดูก เตรียมจะพามันวิ่งไปกับเธอ “เราต้องไปเตือนทุกคน! พวกเขาต้องฟังเธอแล้วตอนนี้!”เธอดึงแขนโครงกระดูกแต่มันไม่ขยับและลอยนิ่งอยู่แบบเดิม

    “ฉันเริ่มเหนื่อยกับโบสถ์ที่เข้ามาขัดขวางบันทึกของฉันแล้วนะ”ราวี่หรี่ดวงตาที่เผยให้เห็นเพียงข้างเดียวมองไปยังร่างกระดูกของเจมส์

    ชาวบ้านพากันตื่นตัวตั้งแต่เขากลับมาเช้าวันก่อน เขาคิดว่ามันเป็นเพราะอีกาแต่เหมือนจะมีอะไรมากกว่านั้น บางสิ่งที่ไม่มีใครพูดถึง ไม่ใช่ทุกคนที่จะเชื่อเรื่องนั้น คนที่เขาคุยด้วยบ่อยๆก็จะอยู่รอบตัวเขา ผู้หญิงและเด็กๆด้วย แต่มันก็ยังมีคนที่เว้นระยะห่างกับเขา ส่วนมากเป็นผู้ชายในหมู่บ้าน ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มมีเหตุมีผล ข่าวลือ

    “ผู้หญิงหน้าโง่~”ท่านเอิร์ลเอ่ย ภาพลักษณ์ชั่วร้ายขึ้น เพียงแค่ท่านเอิร์ลสะบัดมือและสั่งอย่างไร้เสียง โครงกระดูกก็เคลื่อนไหว มือจับปากของวาเนสซ่าและง้างมันออก

    “หยอดนะ! จาทาอาไร?!”เธอกรีดร้องและพยายามจะแงะมือนั้นออกจากปาก แต่กระดูกก็แข็งแรงกว่าเธอมากเกินไป “ช่วยด้วย! ช่วยด้วยยย!

    .....

    เสียงร้องขอความช่วยเหลือก้องทั่วเนินเขาไปจนถึงหมู่บ้าน ผู้คนยังเศร้าโศกกับการจากไปของเจมส์ พวกเขาทนเสียอีกคนไปไม่ได้

    “นั่นเสียงเหมือนวาเนสซ่าเลย!”หญิงสาวคนหนึ่งกู่ร้องขึ้นมา ชายหลายนายหยิบจับเครื่องมือและมุ่งไปยังป่า พวกเขาแอบลังเลเมื่อครั้งที่แล้วเป็นการเผชิญหน้ากับจำพวกปิศาจ แต่ก็เลือกจะไป และระหว่างที่บุ๊คแมนเคยช่วยปกป้องหมู่บ้านจากปิศาจตัวนั้น แต่คุณพ่อเจมส์ช่วยกำจัดความลังเลในใจพวกเขา พวกเขากลัวถึงความเป็นไปได้ที่ว่าชายที่สอนลูกๆเขาอยู่จะเป็นปิศาจจริงๆ

    แต่ยังไงก็มีบางส่วนในกลุ่มที่ไม่ได้เชื่อแบบนั้น อย่างโรนัลด์ที่เคยคุยกับราวี่หลายครั้ง เขาไม่เชื่อเรื่องไร้สาระที่ว่าราวี่เป็นปิศาจ มันน่าขัน ราวี่เป็นคนที่เป็นมิตรที่สุดที่เขาเคยพบมา

    เมื่อกลุ่มคนไปถึงก็พบกับราวี่ที่คุกเข่าอยู่ข้างวาเนสซ่า ท่านเอิร์ลได้กลับไปตั้งแต่งานของเธอจบลง ราวี่ขออยู่ต่ออีกสักพักเพื่อปิดเรื่องราวและตำนานของหมู่บ้าน เขาไม่ชอบบันทึกอะไรครึ่งๆกลางๆ และในจังหวะที่เขาเปิดบันทึกขึ้นมาถึงสองเรื่องในเวลาเดียวกัน บันทึกของหมู่บ้านแห่งนี้จะสรุปปิดได้เร็วกว่าเรื่องราวของโนอามาก

    “ปิศาจอีกตัว”ราวี่โกหกไป เขาอุ้มร่างของหญิงสาวไว้ในอ้อมแขน ประคองศีรษะเหมือนเธอถูกอะไรกระแทกมา “มันโจมตีตอนที่เธอสวดมนต์กับรูปปั้นอยู่”

    “เธอไม่ได้สวดมนต์ขอพรเทพธิดาแห่งชีวิต”ชายคนหนึ่งแย้งขึ้นมา “แกพาเธอมาที่นี่!

    ราวี่มองชายคนนั้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ เขาไม่เคยคุยกับอีกฝ่ายมาก่อน เขาเป็นเจ้าของร้านตัดเสื้อหรืออะไรสักอย่าง ไม่มีใครแน่ใจเท่าไหร่ “ฉันตามเธอมาที่นี่”ราวี่ตอบกลับ “อยากจะดูให้แน่ใจว่าเธอจะไม่ทำเรื่องที่เสียใจทีหลัง ฉันรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับโฮวาร์ด มันก็ไม่ใช่เรื่องที่จะให้มันเกิดซ้ำสองนี่ เข้าใจมั้ย?

    “อย่ามาโกหกหน่อยเลย!”ช่างตัดเสื้อตะโกนอีกครั้ง

    “เดี๋ยวก่อนนะ”โรนัลด์เดินออกมาอยู่ตรงหน้าฝูงชน “คุณบุ๊คแมนไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากช่วยพวกเราตั้งแต่เขามาที่นี่ เขาช่วยลูกๆฉันไว้ด้วย”

    “เจ้าพวกนั้นไม่เคยโผล่มาก่อนจนเขามาที่นี่!”ช่างตีเหล็กเสริม ราวี่เองก็ไม่เคยคุยกับเขาเหมือนกัน ชายหนุ่มไม่มีลูกหรือภรรยา และเขาไม่ได้สนใจจะอ่านเขียนด้วย “ออกไปให้พ้นทางก่อนเราจะเหมานายเข้าไปด้วย”

    “คุยกันมีเหตุผลหน่อยน่า เจเรมี่”โรนัลด์แย้ง “เราไม่มีหลักฐานอะไรว่าเขาเป็นคนพามันมาที่นี่ และฉันก็ไม่เชื่อด้วย”

    หนึ่งในนั้นเหวี่ยงพลั่วในมือและราวี่แทบจะไม่ทันสังเกตมันด้วยซ้ำเมื่อโรนัลด์ยืนบังพอดี แต่บุ๊คแมนหนุ่มที่ดึงเสื้อช่างปะรองเท้าหลบวงเหวี่ยงนั้น ทำให้โรนัลด์ถูกมันเฉี่ยวจนมึนหัวและสลบไป

    ชายอีกคนจับตัวราวี่ไว้ และเขาก็เป็นแค่ไม้ซีกเทียบกับพวกเขา แต่นั่นไม่ใช่สาเหตุที่เขาจะสู้ไม่ได้ ราวี่นั้นเก่ง แต่พวกเขามีจำนวนได้เปรียบ ตอนนี้มันเป็นเขาคนเดียวสู้กับคนทั้งโลก

    TBC…

     

    ll TALK WITH TRANSLATOR ll

    สวัสดีครับ ไม่ได้พบกันนาน

    ตอนนี้ค่อนข้างยาวเลยทีเดียวเทียบกับตอนอื่นๆ รู้สึกแปลนาน หรือผมงงๆอะไรเองรึเปล่าก็ไม่รู้555

    ก็หวังว่าจะชอบกันนะครับ ตอนต่อไปจะพยายามเข็นออกมาให้เร็วที่สุดนะครับ ^ ^

    ไว้พบกันใหม่ตอนหน้าครับ

    - พาร์ท

    Killer in the Dark Shadow

     


    TF:)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×