ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic D.Gray-man] TNB 2: The Dawn Goddess บุ๊คแมนของเหล่าโนอา ภาค เทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ (ฟิคแปล)

    ลำดับตอนที่ #15 : Chapter 15: Left in the fountain (เหลือทิ้งไว้ในน้ำพุ)

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.ย. 61


    Title: The Noah’s Bookman 2: The Dawn Goddess บุ๊คแมนของเหล่าโนอา ภาค เทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ

    Story: Saturnalius

    Translator: KITDS

     

    Chapter 15: Left in the fountain (เหลือทิ้งไว้ในน้ำพุ)

    ราวี่ดีใจเสียยิ่งกว่าอะไรเมื่อได้ถอดชุดทางการพวกนั้นออก เขาเกือบจะเอาตัวไม่รอดในชุดพวกนั้น รองเท้าหุ้มส้นทิ้งรอยรองเท้ากัดเต็มส้น ครั้งหน้าเขาจะกลับไปใส่รองเท้าบู๊ทคู่ปกติใต้กางเกงขายาว มันสบายกว่ากันเยอะ

    แต่งานเลี้ยงก็ไม่ได้ไร้สาระเสียทีเดียว แม้มันจะค่อนข้างน่าดีใจที่ได้เจอเอโลอีสอีกครั้ง แต่นั่นยังไม่ใช่จุดเด่นของงาน เขาได้ข่าวลือที่ต้องตามเรื่องให้ได้

    ชายหนุ่มผมแดงมาถึงเมืองชายทะเลแปลกตาในสเปนด้วยประตูของโนอาอาร์ค ประตูนั้นแอบซ่อนอยู่ในตรอกซอกซอยหนึ่งใกล้ใจกลางเมือง ประตูจะเปิดขึ้นอีกครั้งในสามชั่วโมง เพราะงั้นราวี่เลยมีเวลาให้สำรวจพื้นที่

    เขาเคยมาที่นี่มาก่อน ที่นี่คือสถานที่ซึ่งเกิดสงครามกับสิ่งน่าขนลุกนั่น เจ้าอะโพคริฟอส ครั้งนั้นต้องใช้โนอาเกือบทั้งตระกูลเพื่อโค่นมันลง และสุดท้าย มันก็แตกสลายในกำมือโร้ด เธอรู้สึกโกรธและหึงหวง เมื่อสิ่งน่าขยาดนั่นฉีกกระชากครอบครัวเธอ กินทิกี้และมอบความปวดหัวที่สาหัสที่สุดให้แก่ไวส์ลี่ มันพยายามเรียบเรียงความทรงจำของราวี่ใหม่และทำลายพี่น้องของเธอ โร้ดฉุนขาดและมันก็ได้สัมผัสกับความเกรี้ยวกราดของเธอ

    จัตุรัสเมืองที่เกิดการปะทะขึ้นซ่อมแซมเรียบร้อย ไม่หลงเหลือร่องรอยการต่อสู้สักรอย ในเมื่ออะโพคริฟอสใช้ขนนกประหลาดของมันเขียนความทรงจำผู้คนส่วนมากในเมืองขึ้นใหม่ คนเหล่านั้นเลยไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นหรืออะไรทำลายจัตุรัสเมือง ไม่มีใครที่ตอบคำถามบุ๊คแมนได้จริงๆ สักคน

    แต่ไม่เป็นไร นั่นไม่ใช่จุดประสงค์ที่แท้จริงของเขาที่นี่ ความตั้งใจแรกเขาคือตามรอยข่าวลือที่ผู้ดีพากันพูดคุยเรื่อยเปื่อยพลางกินชีสจิบไวน์ เรื่องแรก และอาจจะเป็นเรื่องที่น่าสนใจที่สุด เกี่ยวกับกลุ่มคนในเสื้อโค้ทสีดำเงินแปลกประหลาดที่เข้ามาในพื้นที่ ปราบปิศาจที่มารุกรานท้องถนน ผ่าท้องผู้คนและทิ้งร่างพวกเขาไว้ในน้ำพุ แน่นอนว่ามันเป็นฝีมือของอาคุม่า แม้พฤติกรรมมันจะต่างออกไปจากตัวที่เขาเคยเจอ ราวี่เคยเจอตัวที่ประหลาดมากๆ ครั้งหนึ่งในบันทึกชิ้นก่อนของเขา รวมถึงสาวรับใช้แปลกๆ ที่ลูลูเบลเลี้ยงไว้ข้างกายด้วย แต่ตัวนี้ให้ความรู้สึกเหมือน แจ็ค เดอะ ริปเปอร์ มากกว่าอาคุม่าเสียอีก

    ราวี่เคยโรนัลด์เกี่ยวกับมัน และโรนัลด์ก็หัวเราะอย่างเกือบผิดวิสัย ขบขันกับผลงานของสิ่งสร้างของเขา ราวกับจิตรกรที่พึงพอใจกับรูปปั้นที่ใช้เวลาสร้างร่วมอาทิตย์ เขาบอกราวี่ว่าเขาปล่อยตัวทดลองไปจำนวนหนึ่งหลังจากรอบทดลองที่เยอรมันก่อนหน้า โรนัลด์ใช้ส่วนผสมจากวัตดุดิบประหลาดที่หาได้ในส่วนลึกของโนอาอาร์ค ทดลองใช้พวกมันและรอดูผลลัพธ์ เขาไม่ได้คาดว่าจะมีตัวไหนเหลือรอดไป แต่ดูเหมือนจะมีอยู่หนึ่งตัว

    โนอาอาร์คเริ่มเคลื่อนไหวแปลกๆ โรนัลด์เสริมโดยพึ่งพาความทรงจำของไมโทร่าคนก่อนเพื่อเติมเต็มรายละเอียดบางอย่าง หลังจากสงครามเมื่อห้าปีก่อน โนอาอาร์คก็ไม่ถูกใช้งานอีก เมื่อไม่มีโนอาหรือท่านเอิร์ลคอยดูแลมัน มันเลยอยู่เฉยอย่างเดียวดายไร้เจ้านาย แต่ในตอนนี้ ที่โนอาพากันกลับมาและมีผู้คุมหางเสือเป็นท่านเอิร์ลคนใหม่ ไข่ภายในอาร์คเริ่มทำตัวแปลกๆ สร้างธาตุประกอบแปลกใหม่ขึ้นมาเพื่อสร้างอาคุม่าและสิ่งสร้างอื่นๆ วัตถุดิบใหม่จากไข่ทำให้อาร์คเปลี่ยนไปด้วย ปรับแปลงทิวทัศน์ภายในนิดหน่อยและสร้างพืชพันธ์เติบโตเบ่งบานภายในเมือง ต้นปาล์มงอกขึ้นมา ดอกชบาเขตร้อนขึ้นเกาะตามกำแพง

    แต่ไม่มีใครกังวลเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงนี้ ท่านเอิร์ลดูดีอกดีใจกับการประดับตกแต่งใหม่ พลางบอกว่าไข่ได้พัฒนาไปเป็นสิ่งที่แข็งแกร่งขึ้น พอถาม คำถามของราวี่ก็ได้รับคำตอบว่า “เดี๋ยวเธอก็จะเห็นพลังใหม่ของมันเอง~” จากท่านเอิร์ล

    และบางทีเขาอาจจะกำลังได้เห็นพลังของมันตอนนี้ ราวี่ตามรอยข่าวลือมา ส่วนมากตามคำขอของโรนัลด์ในสำรวจตรวจตรา และส่วนหนึ่งตามความอยากรู้อยากเห็นของตัวเอง ด้วยประเด็นสนธนาเกี่ยวกับเอ็กโซซิสท์ในแถบนี้ ราวี่ไม่คิดว่ามันจะยังอยู่ แต่มันก็ทิ้งความเสียหายไว้

    อาคุม่าถูกกล่าวว่าเป็นมนุษย์ที่มีลักษณะประหลาด มันใช้ร่างของชายหนุ่มที่น่าจะอยู่ในช่วงวัยเลข2 จากกัสติยา มีเส้นผมสีบลอนด์ตาฟ้าทั่วไป เขาโดดเด่นท่ามกลางชาวสเปนใต้เชื้อสายอาหรับที่มีเส้นผมและสีผิวเข้มกว่า บางคนบอกว่าเขาดูเหมือนคนเหนื่อยไม่หายและบ่นกับตัวเองเกี่ยวกับสภาพอากาศตลอด หลายคนเจอมนุษย์อาคุม่า แม้น้อยคนจะรู้ว่าเขาเป็นปิศาจที่ระรานแถวนี้ จนกระทั่งเขาถูกจับและ ชำระล้าง

    ราวี่หลบเข้าไปในร้านกาแฟใกล้ๆ ชายหาดและถามไถ่เกี่ยวกับเหตุการณ์ในช่วงนี้ มันห่างออกมาจากตัวน้ำพุ แต่ดูเหมือนมนุษย์อาคุม่าจะเดินไปทั่ว แวะเยือนเกือบทั้งเมืองเพื่อล่าเหยื่อ ราวี่แนะนำตัวว่าเป็นนักประวัติศาสตร์ ซึ่งทำให้เขาได้ข้อมูลมากกว่าคนปกติ ตนถึงตอนนี้เขาได้คำจากพยานหลายปาก ข้อมูลบางส่วนต่างกัน แต่หลายส่วนก็เหมือนกัน

    ดูเหมือนว่ามนุษย์อาคุม่าจะเลือกเหยื่อ เป็นพฤติกรรมที่ราวี่ไม่เคยเห็นในอาคุม่ามาก่อน มันเป็นระบบและช่างเลือกอย่างมีแบบแผนและเป็นนิสัย มันทิ้งเหยื่อทุกคนไว้ในน้ำพุ เต็มไปด้วยรอยรูปดาวที่ราวี่รู้ว่าเป็นพิษเลือดอาคุม่า ร่างกายจะยังอยู่จนถึงยามเช้าที่สลายไปเมื่อต้องแสง เจ้าอาคุม่าตัวนี้มีสติปัญญา ทิ้งให้ราวี่สงสัยว่ามันวิวัฒน์ไปถึงไหนหรือโรนัลด์แค่ทำให้มันฉลาดขึ้น ในหนึ่งเดือนนี้ฝีมือเขาพัฒนาไปแค่ไหนกัน

    “คุณรู้มั้ย คุณนักประวัติศาสตร์”เจ้าของร้านกาแฟเท้าเคาน์เตอร์ เขาสวมชุดทั่วไปเหมือนคนในพื้นที่ เสื้อผ้าหลวมๆ ที่ปกปิดผิวจากแดดแผดเผา เส้นผมสั้นยุ่งเหยิงและพูดจาด้วยสำเนียงติดอาหรับ “มีบางคนที่เห็นการต่อสู้กับเจ้าปิศาจนั่นด้วย”

    “งั้นหรอ?” ราวี่ถามกลับอย่างรำพึงรำพัน พลางจิบชาที่สั่งมา

    “ใช่” เจ้าของร้านตอบ “เป็นคนแก่ จากหน้าตาน่าจะ70ได้ แต่งตัวเหมือนขอทานและแบกสมุดวาดรูป ดูติสท์มากเลยใช่มั้ยล่ะ? ฉันเจอเขาครั้งสุดท้ายเมื่อวาน นั่งร่างภาพอยู่ที่ชายหาด บอกว่าเขาต้องการเก็บความทรงจำของที่นี่ไว้หรืออะไรติสท์ๆนี่แหละ แต่เขายังอยู่นะ หาไม่ยากหรอก เขาดูแปลกมาก”

    ราวี่ขอบคุณสำหรับข้อมูล กระดกชาจนหมดแล้วมุ่งหน้าไปชายหาด ลักษณธแบบนั้นมันคุ้นๆ และบุ๊คแมนหนุ่มก็พอรู้ว่าเขาคือใคร ชายหนุ่มเดินมาถึงชายหาดและถอดบู๊ทออกจากเท้าทั้งสองปล่อยให้มันย่ำทราย อากาศนั้นอุ่นชื้น ทำให้ขากางเกงเกาะผิวบริเวณที่เคยถูกทับด้วยบู๊ท เขาแต่งตัวเยอะไปหน่อยสำหรับสภาพอากาศแบบนี้ เผลอลืมไปว่าที่นี่อุ่นได้เพียงไหน

    บุ๊คแมนหนุ่มมองหาชายจิตรกร เดินข้ามปราสาททรายไปจำนวนหนึ่งพลางยกมือป้องตาบังแสงแดด เจ้าปูขยับหนีเมื่อเงาทาบทับมาจากเบื้องหลังเขา ชายหนุ่มผมแดงหันไปและเกือบจะปล่อยรองเท้าหลุดมือเมื่อประจัญหน้ากับจิตรกรลึกลับ เอ็กโซซิสท์ระดับเสนาธิการ ฟรอย ทีเอดอล มันสายเกินกว่าจะทำตัวเหมือนเขาไม่ได้อยู่ตรงนั้นและเนียนกลืนไปกับฝูงชนเมื่อทีเอดอลเห็นตัวเขาแล้วพร้อมดันแว่นขึ้นจมูกขณะที่สังเกตบุ๊คแมน

    “หืมม”ทีเอดอลส่งเสียงใช้ความคิด “ดูเหมือนภาพวาดจากครั้งอดีตเลยนะ”

    คำกล่าวนั้นแปลกประหลาดจนราวี่ต้องกระพริบตาปริบๆ เขาไม่คิดว่าจะเจอทีเอดอลที่นี่ ตามคำของคนในท้องที่แล้ว มันก็เกือบอาทิตย์แล้วที่เอ็กโซซิสท์มากำจัดมนุษย์อาคุม่า ทีเอดอลรั้งท้ายเพื่ออยู่วาดรูปทิวทัศน์ แต่พบเห็นล่าสุดเมื่อวาน เขามีทีมของเขา แต่ราวี่ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับพวกเขาเลย ทีมเก่าของเขาไม่ตายก็พิการ คันดะตายไปแล้ว ดีช่าก็ไปตั้งแต่ก่อนหน้านั้น และนอยซ์ มารี่ที่โชคร้ายเจอกับเชอริล ทีมเขาน่าจะใหม่ทั้งหมด แต่พอเหลือบมองรอบๆ ก็บอกได้ว่าทีเอดอลอยู่คนเดียว

    “มาสิ ชมทะเลด้วยกัน”ทีเอดอลเอ่ยเชิญ

    “หือ?”ราวี่กระพริบตา มันตรงข้ามกับที่เขาคิดไว้เสียอีก ไม่มีคำถามว่าทำไมเขาอยู่ตรงนี้ หรือเพราะอะไร แค่บอกว่าเขาควรชมทะเล

    “เธอควรจะสนุกไปกับโอกาสที่เธอได้รับอีกครั้งนี้นะ”ทีเอลดอลกล่าวต่อ เดินอ้อมตัวราวี่เพื่อไปยังริมทะเล เขาหันกลับมามองเจ้าของเส้นผมสีแดง “ดีแล้วที่ยูคุงไม่ได้ทำอะไรน่าเสียดายลงไป”

    ราวี่จ้องเสนาธิการอยู่พักหนึ่ง มันเป็นประโยคที่เปี่ยมด้วยอารมณ์ แต่ทีเอดอลมักจะเจ้าอารมณ์และติสท์อยู่แล้ว แต่มันก็บ่งบอกว่าเขาไม่เห็นด้วยกับภารกิจลับของคันดะที่ให้สังหารบุ๊คแมนของโนอา ทุกครั้งที่ราวี่เจอทีเอดอล เขาดูเหมือนเอ็กโซซิสท์น้อยลงเรื่อยๆ และดูเหมือนจิตรกรที่บังเอิญอยู่ตรงนั้นมากกว่า จริงอยู่ว่าเขาเป็นคนเริ่มศึกครั้งสุดท้ายระหว่างเอ็กโซซิสท์และโนอา แต่เขาก็นั่งร่วมโต๊ะกับโนอา ดื่มชากับพวกเขา และร่างภาพวิว ทีเอดอลเป็นคนแปลก

    แต่ถึงอย่างนั้นก็เถอะ ราวี่ยักไหล่พลางซุกมือข้างหนึ่งลงกระเป๋ากางเกง ส่วนอีกข้างถือรองเท้าบู๊ทของตน ตอนนี้ เขาไม่มีเหตุผลอะไรให้เชื่อว่าทีเอดอลจะเป็นปฏิปักษ์กับเขา ไม่มีสักครั้งที่ทีเอดอลจู่โจมบุ๊คแมน และตอนนี้ ราวี่ก็เป็นคนกลาง ตัวคนเดียวและแค่มีชีวิตอยู่

    ราวี่นั่งบนพื้นทรายข้างๆ ทีเอดอล เหม่อมองภาพทิวทัศน์ เขาสังเกตคลื่นทุกลูก เรือบนผืนน้ำ ก้อนเมฆบนท้องฟ้า นกนางนวลที่บินวนในอากาศ โฉบลงมาหาปลาในเวลาที่ดีที่สุด ผิวน้ำที่สะท้อนใต้แสงอาทิตย์ คลื่นที่ม้วนตัวออกซัดเข้ากับชั้นใต้น้ำ ปูที่เดินไปมาหลบคลื่นพลางหาอาหารจากสิ่งมีชีวิตตัวเล็กในทราย มันเป็นภาพที่งดงามจริงๆ ราวี่ไม่ค่อยมีโอกาสมาหยุดดื่มด่ำทัศนียภาพและไม่ต้องพะวงถึงนักดาบบางคนที่อาจจะโผล่มาด้านหลังเขา ขู่ที่จะตัดหัวเขา

    แต่แล้ว เขาก็มั่นใจว่าวาติกันจะมอบหมายภารกิจลับให้เอ็กโซซิสท์คนอื่นมาตามล่าเขาอีกแน่

    ทั้งสองนั่งอยู่ใต้ความเงียบเหม่อมองเส้นขอบฟ้า การพบเจอครั้งนี้ขัดจังหวะการค้นคว้าของเขาเกี่ยวกับพฤติกรรมประหลาดของอาคุม่าที่โรนัลด์สร้าง ในขณะที่ทีเอดอลมีข้อมูลที่เขาต้องการ แต่การถามถึงมันจะดูน่าสงสัย ราวี่จะไม่แปลกใจเลยถ้าทีเอดอล ไม่ ได้ยินเรื่องที่ราวี่ได้เจอโนอาจากพ่อสองไฝ ราวี่รู้ว่าลิงก์อยู่ตรงนั้น เห็นทิกี้พาราวี่เข้าประตูอาร์คไป ศูนย์บัญชาการกลางรู้ว่าบุ๊คแมนของเหล่าโนอายังมีชีวิตอยู่ ด้วยฝีมือของรินาลี่และเฉาจี๋ แต่เขาบอกไม่ได้ว่าทีเอดอลรู้ด้วยรึเปล่า เขาเป็นคนที่บุ๊คแมนหนุ่มรู้สึกว่าอ่านยาก สีหน้าเขามักจะสงบเยือกเย็น แม้กระทั่งยามเผชิญหน้ากับโนอา

     แต่ความเงียบก็ไม่ได้เสียหาย คู่รักคู่หนึ่งเดินมาทางริมหาดในเสื้อคลุมอาบแดดตัวยาว เผยผิวมากกว่าที่คนส่วนมากกว่าจะเผยในแถบชายหาด พวกเขาน่าจะเป็นคนท้องถิ่นเมื่อฟังจากบทสนทนา ทั้งสองคนอยู่ใกล้น้ำและห่างออกไปหน่อย แต่ราวี่ยังคงได้ยินเสียงพูดคุยของพวกเขาท่ามกลางเสียงคลื่นกระทบฝั่ง

    “เห็นมั้ย?”ฝ่ายชายเริ่ม อ้าแขนท่าทางใหญ่โต เขาโบ้ยมาทางหาดและทราย ด้านหลังเขาและไปยังตัวเมือง “ไม่มีอะไรต้องกังวลเลย! ฆาตรกรน้ำพุหยุดลงมือแล้ว! อีกอย่างนะ ที่รัก ที่นี่คือชายหาดนะ ไม่ใช่น้ำพุ”

    “น... นายพูดถูก”ฝ่ายหญิงเห็นด้วยอย่างลังเลใจ พลางล้วงเอาผ้าปูลายตารางหมากรุกสีขาวแดง “ผู้หญิงที่น่าสงสารพวกนั้น ถูกฆาตรกรรมแล้วไปหมกทิ้งไว้ที่น้ำพุ มันเป็นโศกนาฏกรรมที่น่ากลัวมากเลย”

    “มันจบแล้วล่ะที่รัก”ผู้ชายย้ำอีกครั้ง “นักบวชพวกนั้นขับไล่ปิศาจในตัวเขาไปแล้ว มันไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว”

    “มันก็ยังน่ากลัวอยู่ดีนั่นแหละ”ผู้หญิงนิ่วหน้าพร้อมกางผ้าลงบนพื้น “สงสัยจังว่ามันเกี่ยวกับที่ฉันได้ยินมาจากน้องสาวรึเปล่า”

    “น้องเธอพูดอะไรอีกล่ะคราวนี้?” เขาดูไม่พอใจกับสิ่งที่น้องสาวภรรยาเขาพูดสักเท่าไหร่

    เธอชักสีหน้าก่อนจะกล่าวต่อ “เธอบอกว่าเพื่อนบ้านทำใจไม่ได้กับลูกชายที่เสียไปด้วย เอ่อ โรคบิดมั้งนะ เขาไปสวดร้องขอกับรูปปั้นนั้นที่โบสถ์ นายก็รู้จักที่เป็นเทวดามีปีกแห่งรุ่งอรุณใช่มั้ย? เธอบอกว่าหลังจากนั้นเขาก็ทำตัวแปลกมาก จู่ๆ ก็ไม่ไว้ใจใครเลย”

    “เดี๋ยวนะ น้อยสาวเธอที่ลามันช่า? ในเมืองเล็กๆนั่นน่ะนะ?”ชายหนุ่มดูจะสนใจเรื่องของเธอขึ้นมา

    “นั่นแหละ”เธอตอบพร้อมพยักหน้า “ที่นั่นไม่เลวเลยนะรู้มั้ย กังหันลมพวกนั้นสวยมาก แล้วปาเอญ่าก็อร่อยมากด้วย”

    บุ๊คแมนหนุ่มเหลือบมองทีเอดอล ไม่ว่าอีกฝ่ายจะไม่ได้ยินหรือแค่ไม่ได้สนใจพวกเขา เขายังคงร่างภาพที่เห็นลงสมุดของเขาก่อนจะปิดมันและยืนขึ้น “พยายามอยู่ในห่างปัญหาไว้ล่ะ บุ๊คแมนคุง”

    ราวี่มองเสนาธิการคนอาร์ตเดินจากหาดไป และไม่แน่ใจกับคำกล่าวของอีกฝ่าย ราวี่ยังคงไม่สามารถเข้าใจในตัวเขาได้

    TBC..

     

    ll WORDS FROM WRITER ll

    แล้วก็กลับมายังสถานที่คุ้นเคย ในมังงะไม่เคยระบุว่าที่นี่คือที่ไหน ฉันก็เลยสุ่มแปะมันลงไปที่ทางตอนใต้ของสเปน ฉันมีโอกาสได้ไปเรียนนอกสมัยม.ปลาย ฉันก็เลยได้เที่ยวเกือบทั่วสเปน ฉันร่างภาพเมืองนี้โดยใช้ คอสตา เดล โซล แต่เป็นเวอร์ชั่นที่คนพลุกพล่านน้อยกว่า

    มันมีเส้นแบ่งในประเทศ ด้วยภูเขามากมาย แบ่งระหว่างกัสติยาทางเหนือและอาหรับตอนใต้ มันสุดยอดมากเลย

    เราได้แวะที่ ลา แมงกา สำหรับมื้อเที่ยง และปาเอญ่ามันดีย์มาก

    และฉันก็พาทีเอดอลกลับเข้ามาในเรื่อง เขาเป็นตัวละครที่เขียนสนุกมากเลย

     

    ll TALK WITH TRANSLATOR ll

    สวัสดีครับ หายไปหนึ่งเดือนเพราะธุระปะปังหลายอย่าง ความจริงตอนนี้ก็หนีงานก็แปลครับ 555555

    แล้วก็วันก่อนมีผู้อ่านคนหนึ่งสอบถามมาเรื่องการรีปริ้นท์ TNB ภาคแรก ผมเลยไปคุยกับทางผู้แต่งมาเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร เลยอยากจะสอบถามครับ ว่ามีคนที่สนใจรวมเล่มภาคแรกอีกมั้ยครับ  ถ้าสนใจ ก็รบกวนตอบโพลด้วยนะครับ รายละเอียดและโพลจะอยู่ในตอนถัดไปครับ

    พาร์ท

    Killer in the Dark Shadow

    TF:)
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×