คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #14 : Chapter 14: Lavish Parties (งานเลี้ยงหรูหรา)
Title: The Noah’s Bookman
2: The Dawn Goddess บุ๊คแมนของเหล่าโนอา
ภาค เทพธิดาแห่งรุ่งอรุณ
Story: Saturnalius
Translator: KITDS
Chapter 14: Lavish Parties (งานเลี้ยงหรูหรา)
“เกือบจะลืมไปแล้วว่าพวกของทางการพวกนี้มันน่าอึดอัดขนาดไหน”ราวี่ขมวดคิ้วพร้อมมองเงาตัวเองในกระจก
เขาถูกบังคับให้สวมชุดเครื่องแบบทางการ
ชุดสูทสีดำสุภาพทับเสื้อกั๊กสีเขียวเข้มเข้าคู่กับหูกระต่ายนุ่มนิ่ม ชายหนุ่มดึงจับเจ้าหูกระต่ายพยายามทำให้มันเข้าที่
ชายหนุ่มผมแดงได้เดินทางไปยังคฤหาสน์คาเมล็อตหลังจากการเดินทางไปยังเยอรมันก่อนหน้าเพื่อเตรียมตัวสำหรับงานเทศกาลหรูหรา
ท่านเอิร์ลเรียกมันว่างานเลี้ยงฉลองวันเกิดของเหล่าโนอา แม้ราวี่จะบอกได้ว่าเธอเพียงอยากสนุกและสร้างเรื่องเพียงเพื่อเฉลิมฉลองเท่านั้น
ท่านเอิร์ลมีความชอบงานเลี้ยงฉลอง เช่นเดียวกับเธอคนก่อน และจริงๆ
แล้วก็ไม่ได้ต้องการเหตุผลเพื่อจัดมันสักเท่าไหร่
จากการค้นคว้าของเขาพบว่ามันไม่ใช่นิสัยใหม่
ท่านเอิร์ลเป็นเคาท์เตสประจำถิ่น และเป็นท่านเอิร์ลด้วยสิทธิ์ชอบธรรมของเธอเองโดยไม่ต้องแต่งงานเพื่อให้ได้ยศฐาบรรดาศักดิ์
เธอมีอำนาจมากและมีความสัมพันธ์แน่นแฟ้นกับราชวงศ์อังกฤษ
งานเลี้ยงเป็นงานอดิเรกของหญิงสาว และแม้ตอนนี้เธอจะเป็นท่านขุนนางพันปีคนปัจจุบัน
เธอก็ยังจัดงานเลี้ยงอยู่บ่อยครั้ง
และตอนนี้ที่ราวี่ได้รวมตัวกับครอบครัวของเขาอีกครั้ง
เธอก็บังคับให้เขาร่วมงานด้วย และถ้ามันไม่ใช่เพราะชุดงานเลี้ยงน่าอึดอัดที่โร้ดเตรียมไว้ให้เขา
ราวี่ก็คงไม่อะไรกับงานเลี้ยงพวกนี้เท่าไหร่ พวกมันเป็นที่ที่เขาจะสืบเสาะข้อมูล
เหตุการณ์ปัจจุบันและข่าวลือไร้สาระได้อย่างดี
“มันดูน่าอึดอัดนะคะ
คุณบุ๊คแมน”แซนดี้ขมวดคิ้วพลางจัดเสื้อตัวนอกด้านหลังให้เขา
เธอมีเวลาให้คุ้นเคยกับหน้าที่แม่บ้านและคนดูแลคฤหาสน์คาเมล็อต
โร้ดให้ตำแหน่งค่อนข้างสูงกับเธอ ทำให้เธอมีอิสระกับการจัดการทุกอย่างในบ้านและมีเวลาได้อยู่กับโรนัลด์ในเวลาที่เขาไม่ยุ่งงานท่วมหัว
หญิงสาวเริ่มคุ้นเคยกับงานและตำแหน่งนั้นก็เข้ากับความสามารถของเธอด้วย “ฉันคิดไม่ออกเลยว่าโรนัลด์รับมือกับมันได้ยังไง”
“สักทางหนึ่งแหละนะ”ราวี่ยักไหล่ “ทั้งโร้ดและท่านขุนนางต่างชอบงานเลี้ยงทั้งคู่
ยังไงเขาก็ต้องทำตัวให้ชิน”
“คุณเองก็ดูไม่เหมือนคนชอบงานเลี้ยงหรูหราพวกนี้นะ”แซนดี้ทำหน้านิ่วพร้อมเก็บหนังสือที่กระจัดกระจายบนพื้น
บุ๊คแมนไม่เคยทำตัวเหมือนคนร่ำคนรวยและพูดจาไม่เหมือนพวกเขาด้วย เขาดูค่อนไปทางซกมก
ทิ้งหนังสือกระจัดกระจายเป็นรูปแบบแปลกๆ ไปทั่วห้องตัวเองในคฤหาสน์คาเมล็อต
ชายหนุ่มมีหนังสือมากมายในห้อง ทั้งที่นี่และที่บ้านของท่านเอิร์ล
“ใช่ แต่พอเจอสักพักก็ชิน”ราวี่พยักหน้า
เคาะหัวรองเท้ากับพื้นให้มันเข้าที่ แต่มันก็เหมือนจะไม่เข้า
เมื่อราวี่มันจะเจอรอยรองเท้ากัดที่ส้นเท้าตลอด “แต่กับเสื้อผ้าเนี่ยไม่เท่าไหร่”
แซนดี้ไม่ค่อยเข้าใจเรื่องอลังการขนาดนั้น
สิ่งที่เธอกังวลมากที่สุดก่อนหน้านี้คือการแบ่งถั่วกับมันฝรั่งจะได้มีอาหารทานนานยิ่งขึ้น
แต่ตอนนี้เธอมีของกินมากเกินกว่าจะเข้าใจได้ ครอบครัวเธอจะไม่มีวันหิวโหยอีก
หญิงสาวกลับหลังหัน แต่แทนที่จะวางหนังสือลงบนโต๊ะเครื่องแป้งใกล้ๆ
เธอกลับทำมันหล่นด้วยความตกใจ
“นายไม่เคยใช้ประตูเก่งเลยสินะ?”ราวี่ส่ายหัวมองเงาสะท้อนของทิกี้ในกระจก
เหมือนกับตัวเขาคนก่อนหน้า เขาเพียงแค่เดินทะลุผ่านประตูแทนที่จะเปิดประตูให้ลำบาก
บุ๊คแมนหนุ่มคิดว่ามันเป็นนิสัยของจอยด์ที่สืบทอดมาในพันธุกรรมจากจอยด์คนก่อนสู่คนถัดไป
และเขาก็รู้ว่าทิกี้คงไม่ทำอะไรแบบนั้นถ้ามันเป็นคนอื่นที่อยู่ในห้องกับเขา
แซนดี้ยังไม่ชินกับพลังเหนือธรรมชาติพวกนี้และยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่ามันคืออะไร โดยเรียกพวกมันว่าพลังของเทวดา
มันฟังดูสมเหตุสมผลสำหรับเธอด้วยเหตุผลบางอย่าง เธอก็เลยปล่อยให้มันเป็นแบบนั้น
แต่ความคิดนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าพลังพวกนั้นจะไม่ทำให้เธอตกใจเป็นครั้งเป็นคราว
ทิกี้ดันแว่นขึ้นจมูกด้วยนิ้วชี้อย่างเคยชิน
ก่อนจะคุกเข่าลงไปเก็บหนังสือที่ร่วง “’การกลับคืนชีพของดานุ’”เขาอ่านชื่อหนังสือ “ของท่านเอิร์ลสินะ?”
“แน่นอน”ราวี่ตอบพลางยุ่งกับหูกระต่ายให้เข้าที่
“ตำนานเกี่ยวกับเทพธิดาแห่งรุ่งอรุณของไอร์แลนด์”
ทิกี้เงยขึ้นมองชายหนุ่มแดงในกระจก “เลิกยุ่งกับมันได้แล้ว
ถึงเวลาไปปรากฏตัวอย่างยิ่งใหญ่และคอยดูไม่ให้โรนัลด์หลงในทะเลหญิงสาวแล้ว นายก็รู้ว่าพวกเธอเป็นยังไง”
แซนดี้เกือบจะทำหนังสือที่เพิ่งเก็บตกอีกรอบ
“ไม่ต้องห่วง แซนดี้”ราวี่ยืนยัน “พวกเราจะบอกพวกเธอเองว่าเขาแต่งงานแล้ว
โอเค?”
บางทีมันอาจจะเป็นสิ่งที่พูดง่ายกว่าทำ
เมื่อราวี่และทิกี้เข้าสู่ห้องเต้นรำที่คฤหาสน์ของท่านเอิร์ล พวกเขาก็พบว่าโรนัลด์ได้ดึงความสนใจของสาวๆ
วัยอ่อนกว่าให้เข้ามาขอเขาแต่งงานเรียบร้อยแล้ว พวกเธอเข้ารุมประดังประเดเขาอย่างรวดเร็ว
ชายหนุ่มดันแว่นกรอบบางขึ้นด้วยความประหม่าในขณะที่พยายามจะล้มเลิกความตั้งใจรุกของหญิงสาวมากมาย
“คุณผู้หญิงครับ ได้โปรด”ทิกี้เข้าแทรก
“ญาติที่รักของผมคนนี้ได้หมั้นหมายเป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
หญิงสาวบางส่วนโอดโอยพลางถอยห่าง
กระจายตัวตามหาหนุ่มโสด โรนัลด์ถอนหายใจยาว “ฉันไม่ชินกับเรื่องพวกนี้จริงๆ”
มันเป็นคำพูดที่กล่าวน้อยกว่าจริงไปมาก โรนัลด์ใช้ชีวิตภายใต้ความยากจนมาโดยตลอด
วิถีชีวิตฟุ้งเฟ้อของตระกูลโนอานั้นตัดกันโดยสิ้นเชิง
ขณะที่ทิกี้ชวนโรนัลด์ไปดื่มไวน์สักแก้ว
ราวี่ก็ใช้เวลานี้เก็บเกี่ยวรอบตัว
มันเป็นเวลากว่าห้าปีแล้วที่เขาเคยอยู่ในสถานการณ์แบบนี้ มันประดับหรูหรางดงาม
อาหารเต็มทุกมุมห้อง บุฟเฟ่ต์อาหารประณีตตำหรับยุโรปแท้ พนักงานบริการแต่งตัวหัวจรดเท้าในชุดสูทและผ้ากันเปื้อน
คอยรับใช้แขกเหรื่อ บริการออเดิร์ฟและไวน์บนถาดเงิน
ตัวห้องนั้นกว้างขวางโอ่อ่า ทำให้มีพื้นที่เพียงพอสำหรับทั้งเต้นรำและโต๊ะเก้าให้นั่งและวางอาหารที่ริมห้อง
พื้นหินอ่อนสีขาวเข้ากับผ้าม่านสีเดียวกัน ผนังห้องทาด้วยสีทองสวย โคมไฟระย้าคริสตัลกลายอันแขวนอยู่บนเพดานขัดเงาวับปราศจากใยแมงมุม
แขกร่วมงานต่างแต่งชุดที่สวยหล่อที่สุด
ชายหนุ่มในชุดทักซิโด้เรียบกริบและหญิงสาวในชุดกระโปรงตัวเก่ง
วงดนตรีตั้งวงอยู่ด้านหนึ่งของห้อง ใกล้บันไดหลักที่พาขึ้นชั้นสอง ซึ่งส่วนมากเป็นเครื่องดนตรีเครื่องสาย
วงดนตรีเล่นเพลงวอลซ์เพื่อคนเต้นรำที่พากันเต้นตามจังหวะเกือบจะพร้อมเพรียงกัน
ราวี่มองผู้คนไปมาและคิดถึงวันเก่าๆ
เขาทิ้งชีวิตนี้ไปหลายปีก่อนตอนที่โนอาถึงจุดจบ และกลับไปใช้ชีวิตแบบนักเดินทางยาจกคนหนึ่ง
มันเข้ากับบันทึกของเขาและทำให้เขาสามารถคุยกับคนธรรมดาได้อย่างเท่าเทียม พวกเขาโต้ตอบกับเขาได้อย่างสบายใจ
มอบข้อมูลต่างๆ ที่เขาต้องการ บันทึกส่วนมากของเขามักจะเกี่ยวข้องกับคนแบบนั้น
พวกเขาถูกหลอกง่ายเมื่อมีการศึกษากันไม่สูง
เขาสามารถทำให้อีกฝ่ายเชื่อตามที่เขาต้องการได้
ชนชั้นสูงนั้นอาจจะยากจะโน้มน้าวกว่าหน่อย
ตอนแรกเขาคิดอย่างนั้น แต่หลังถูกบังคับอย่างไร้ปราณีให้เข้าร่วมหลายงานเลี้ยง
เขาก็เรียนรู้ เฝ้ามองและสังเกตคนอื่นๆ เลียนแบบท่าทางและวิธีการพูดของพวกเขา
เขาพบว่าชนชั้นสูงเองก็ชักจูงง่ายเหมือนคนอื่นๆ พูดจาป้อยอและหว่านเสน่ห์ให้ถูกจริตอีกฝ่ายสักหน่อย
ไม่ช้าพวกเขาก็จะตกอยู่ในกำมือ
และเขาห่างหายมันไปนาน
ชายหนุ่มซุกมือลงกระเป๋ากางเกงขณะที่มองทุกอย่าง ฝูงชนนี้ต่างจากแขกที่เคยร่วมงานของท่านเอิร์ลคนก่อน
มันก็พอคาดได้เมื่อมันต่างที่กัน
บทเพลงจบลงและผู้คนก็ขยับ บางส่วนเลือกเดินออกจากลานเต้นรำ
บางส่วนยังคงเต้นต่อ จากอีกฟากห้อง ราวี่มองเห็นคนคุ้นตาที่เขาไม่คาดคิดว่าจะเจอ หญิงสาวตัวไม่สูงมากแม้ส้นสูงใต้ชายกระโปรงและซับกระโปรงหลายชั้นจะเสริมให้เธอสูงขึ้นมาอีกสองสามนิ้ว
เธอมีผิวกายสีแทนบ่งบอกถึงความเป็นไปได้ถึงต้นกำเนิดจากแถบเมดิเตอร์เรเนียน
เส้นผมสีดำหนาถักเป็นเปียต่ำยาวถึงแผ่นหลัง ชุดกระโปรงเธอเป็นเสื้อแจ็กเก็ตสีเขียวต้นหญ้าสดทับกระโปรงยาวเข้าคู่กันที่ยกจีบขึ้นด้านหลังตามแฟชั่นยุคปัจจุบันแถวนี้
ราวี่มองหญิงสาวด้วยความสงสัยว่าเธอมาทำอะไรที่นี่
“กำลังสนุกอยู่เหรอ ราวี่ปอน~?”
ราวี่เหลือบสายตากลับมาเจอท่านเอิร์ลที่ยืนอยู่ข้างเขาพร้อมแก้วไวน์และจานเล็กใส่ชีสในมือ
เธอสวมชุดรูปแบบคล้ายๆ ของเด็กสาว แม้ชุดของท่านเอิร์ลจะเป็นแจ็กเก็ตสีฟ้านกยูงสดที่มีเน็คไทค่อนข้างผู้ชายกับกระโปรงยาวระพื้นสีเขียว
เธอประดับหมวกที่สวมเพิ่มด้วยขนนกยูงสามเส้นที่ใหญ่จนเขามองไม่เห็นหน้าหญิงสาว
“สักพักแล้วที่ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้น่ะ
รู้มั้ย?”เขามองเด็กสาวในชุดสีเขียวเดินไปหยิบไข่ปิศาจ*จากโต๊ะที่อยู่ไกล เธอมองกลับหลังมาและเหมือนจะพยักหน้าให้ราวี่ก่อนจะกลับไปคุยต่อ
“มีมากกว่านี้แน่นอน~”ท่านเอิร์ลยิ้มกว้างใต้หมวกใบโตยวบยาบ “ฉันล่ะชอบงานเลี้ยงดีๆ พวกนี้มาก~”
ราวี่กลับไปสนใจผู้คนอีกครั้งก่อนจะเห็นคู่งุ่มง่ามคู่หนึ่ง
“ดูนั่นสิ”เขาทึ่ง “โร้ดพยายามจะสอนโรนัลด์เต้นรำล่ะ”
โร้ดลากโรนัลด์มาริมห้องไม่ไกลจากจุดที่ราวี่และท่านเอิร์ลยืนอยู่
โร้ดยังไม่แต่งตัวเข้ากับสไตล์ปัจจุบันเท่าไหร่และยังคงใส่ชุดตัวเดิมที่เธอเคยใส่ก่อนหน้านี้
เธอสวมที่คาดผมบนผมชี้โด่ชี้เด่ของเธอเข้ากับชุดกระโปรงระบายเป็นชั้นสีม่วงและรองเท้าส้นตึกสีแดง
ส่วนโรนัลด์นั้นแต่งตัวตรงข้ามกับเด็กสาวด้วยเส้นผมสีดำปนเทาและสีหน้าเหนื่อยอ่อน
เขาดูเหมือนอยู่ผิดที่ผิดทางกับชุดทักซิโด้ราวกับเป็นส่วนหนึ่งของบริกร
แต่เขาก็ยืนปนกับแขก เอร็ดอร่อยกับอาหารในงานและเลี่ยงจะเต้นรำ แต่ยังไงซะ
โร้ดมักจะได้สมใจหวังเสมอ
“โอโฮะโฮะ~” ท่านเอิร์ลหัวเราะ “เขาเข้ากับครอบครัวคนอื่นได้ดีเหลือเกิน ฉันล่ะภูมิใจจริงๆ~”
ขณะที่มองโรนัลด์พยายามเต้น
ราวี่ก็ได้ยินบทสนทนาใกล้เคียง อันหนึ่งพูดถึงข่าวลือแปลกๆ ว่าเมืองยากจนในเขตการดูแลของคาเมล็อตถูกภัยพิบัติเข้าโจมตีด้วยผีเสื้อสีดำมากมาย
นั่นคือ ทีซ อย่างแน่นอน ราวี่สรุปได้เพียงว่าเมืองนั้นคือหมู่บ้านที่เขาเคยตั้งร้านหนังสือและเกือบเสียชีวิตสองครั้งในอาทิตย์เดียว
ทิกี้ฝังทีซไว้ในหัวใจของช่างตีเหล็กตอนที่พวกเขาจากมา ซึ่งคงออกมาโลดแล่นไม่นานหลังจากนั้นและปรากฏเป็นภัยพิบัติประหลาด
“เอ่อ ขออนุญาตนะคะ”เสียงของเธอแผ่วเบาเมื่อเธอผลักเด็กสาวถักเปียมาทางราวี่และท่านเอิร์ล
“ลิซซ่า ขอร้องล่ะ”เด็กสาวผมเปียต่อต้านแม้จะไร้ผล
แม้จะตัวเล็กกระจิดริดแต่ลิซซ่าก็สามารถผลักเด็กสาวฝ่าฝูงชนมาได้อย่างไม่ลำบาก
“ไม่ ไม่ล่ะ
เธอต้องเขาตั้งแต่เขามาถึงแล้ว เอโลอีส!”ลิซซ่าแย้ง “เอาเลย
ขอเขาเต้นรำสิ!”
“ผมยินดีครับ”ราวี่ยิ้มพลางยื่นมือให้
เอโลอีซจับมือเขาอย่างมั่นใจและพวกเขาก็เดินไปยังฟลอร์เต้นรำ ลิซซ่าเวิ่นเว้อกับเสน่ห์ของชายหนุ่มผมสีแดง
หนึ่งก้าว สองก้าว และพวกเขาก็เต้นรำอย่างง่ายดายเหมือนเคยเต้นด้วยกันมาก่อน
เอโลอีสเงยหน้าขึ้นมาคู่เต้นรำของเธอ
เพ่งเขาด้วยดวงตาสีเขียวมรกต “นายเลิกทำตัวมากเสน่ห์ได้แล้ว บุ๊คแมน
มันใช้กับฉันไม่ได้ผลหรอกนะ”มันมีสำเนียงบางๆ ติดอยู่ในน้ำเสียงเธอ แม้จะแทบฟังไม่ออก
เหมือนจะเป็นตุรกีไม่ก็กรีก
“มันหว่านเสน่ห์เธอไม่ได้เพราะเธอก็ทำเหมือนกัน
บุ๊คแมน”เขายิ้มติดเจ้าเล่ห์ใส่เธอ มันนานมากแล้วที่เขาเจออีกฝ่าย
แม้บุ๊คแมนจะมีมากมาย เขาแทบไม่เคยเจอคนที่ออกมาทำงานข้างนอก เขาเคยสภาบุ๊คแมนมาก่อน
แต่พวกเขาเป็นนักจัดเก็บ เป็นผู้ที่ถือครองบันทึกโลกฉบับสมบูรณ์ ‘เอโลอีส’ที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาก็เป็นนักประวัติศาสตร์ที่ทำงานอยู่
เดินทางทั่วโลกเหมือนกับราวี่
“ไม่เจอกันนานเลยสินะ เร้ด?”
“มันเท่าไหร่นะ 10ปีแล้วมั้ง?”ราวี่พยักหน้า
“ฮะ”เธอหัวเราะแค่นเสียง “นายพูดเหมือนนายไม่รู้ว่ามันนานแค่ไหนจนถึงระดับนาที”
“เอาเถอะ ถ้าเธอจะพูดแบบนั้น”ราวี่ยักไหล่
แต่มันก็เป็นเรื่องจริง เขาจำได้ชัดเจนว่าวันและเวลาที่เขาได้เจอ ‘เอโลอีส’ ครั้งแรกและวันเวลาที่พวกเขาแยกทางกัน
มันเป็นเวลา 10 ปี 2 เดือน 15 วันตั้งแต่บันทึกพวกเขาเกี่ยวข้องกัน มันเป็นการพบปะเพียงชั่วครู่
เป็นบันทึกที่ต้องการการสังเกตสองมุมมองพร้อมเพรียงกัน แม้ตอนนั้นราวี่จะมีประสบการณ์แล้ว
แต่เขาก็ยังเป็นแค่บุ๊คแมนฝึกหัด และยังคงทำเรื่องง่ายๆ ผิดพลาด ขณะที่’เอโลอีส’มองจากมุมหนึ่ง ราวี่และอาจารย์ของเขาก็ดูจากอีกมุม
พวกเขาพบกันที่จุดเริ่มต้นและจุดจบของการต่อสู้ในเมืองเล็กๆ ในรัสเซีย
เมื่อบทสรุปมาถึง พวกเขาก็จากกันมา และเจ้าของเส้นผมสีเพลิงก็ไม่คิดว่าจะได้เจอเธออีก
“ในเมื่อนายเหมือนจะทำงานให้กับเคาท์เตสแอทเทนโบโรห์
ฉันคิดว่าเราจะเจอกันอีก”เอโลอีสยิ้ม
ราวี่เหลือบมองไปทางท่านเอิร์ลที่ดูพึงพอใจจากริมห้องกับจานชีสและหมวกขนนกใบเขื่อง
เขาเพิ่งรู้ชื่อของอีกฝ่ายจากการค้นคว้า เอเวอลีน แอทเทนโบโรห์
หรือรู้จักทั่วไปในนาม อีฟ และมันก็เข้าที จริงๆ นะ เมื่อชื่อของท่านเอิร์ลคนก่อนคืออดัม
“ทำตามที่ขอหน่อยนะ เร้ด”เอโลอีสเสริมเมื่อเพลงจบลง
“อยู่ให้ห่างปัญหานะ เข้าใจมั้ย?”
ราวี่เพียงแค่ยิ้มและพยักหน้า
ถ้าแค่เธอรู้ว่าเขาถลำเข้ามาในเรื่องนี้ลึกแค่ไหนล่ะก็นะ
TBC….
ll WORDS FROM WRITER ll
ตอนที่ฉันลงมือเขียนตอนนี้ครั้งแรก ฉันตั้งใจจะโฟกัสกับโร้ดและโรนัลด์มากกว่านี้
ฉันมีความคิดที่จะเล่นกับไอเดียที่บุ๊คแมนมาเจอกันสักพักแล้ว
แต่ฉันก็คิดไม่ออกว่าจะให้มันออกมาในรูปแบบไหนโดยที่บุ๊คแมนไม่ถูกฆ่า
เพราะทุกคนเหมือนจะพากันตายไปหมดในเรื่องนี้
งานเลี้ยงเป็นโอกาสที่เหมาะที่สุดสำหรับการพบปะอย่างเรียบง่ายระหว่างทั้งสองคน
ขณะที่ราวี่เลือกจะทำงานกับข่าวลือของชนชั้นล่างและสังคมลับ ฉันจินตนาการให้เอโลอีสมักจะง่วนอยู่กับโลกขุนนาง
จัดการกับความลับของชนชั้นสูงและองค์กรที่พวกเขาควบคุมอยู่เบื้องหลัง
และฉันคิดว่าพวกเขาต่างรู้เทคนิคขุดคุ้ยข้อมูลเพื่อบอกเล่าเรื่องราวทั้งหมดของโลกใบนี้
ll TALK WITH TRANSLATOR ll
ห่างหายไปสักพัก ทั้งที่ตั้งใจจะมาอัพให้เร็วกว่านี้
แต่ผมดันงานเข้ากะทันหัน บวกกับแอบอู้ไปแต่งฟิคฉวนจื๋ออีกหน่อยนึงด้วย 5555 เรียกได้ว่าช่วงนี้รับงานแปลจนขี้เกียจแปลก็ไม่ผิดนักครับ
ทั้งๆที่เดือนนี้ตั้งใจจะอัพถี่หน่อยแท้ๆ งานดันเข้าเสียก่อนนี่เลยต้องทำงานก่อน ในตอนนี้มีเรื่องที่อยากจะอธิบายเพิ่มเติมกับคำแปลนิดหน่อยครับ
มันก็คือเรื่องของชุดกระโปรงของเอโลอีสกับท่านเอิร์ล
เผื่อใครไม่เห็นภาพจะให้จิ้มจึกตรงนี้ครับ เป็นชุดเดรสสมัยวิคตอเรียน ช่วงปี 1883-84 โดยประมาณ เขาจะเป็นเดรสสองชิ้น คือมีเสื้อแจ็กเก็ตทับชุดกระโปรงที่เป็นสุ่มๆไม่เท่ากระโปรงสุ่มของฝรั่งเศษด้านหลังอีกทีหนึ่ง
กว่าผมจะหาจำเพาะให้ได้ว่าเป็นเสื้อยุคไหนนี่สักพักเลย 5555
ก็ไว้พบกันใหม่ตอนหน้านะครับผม ^ ^
Killer in the Dark Shadow
ความคิดเห็น