ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic Haikyuu!!] Sunbeams แสงตะวัน (ฟิคแปล)

    ลำดับตอนที่ #11 : Chapter 11-1: Memories Transference (การถ่ายทอดความทรงจำ) (ครึ่งแรก)

    • อัปเดตล่าสุด 5 พ.ค. 63


    Title: Sunbeams แสงตะวัน

    Story: Saturnalius

    Translator: KITDS

     

    Chapter 11: Memories Transference (การถ่ายทอดความทรงจำ) (ครึ่งแรก)

    เคย์เดินกับยามากุจิไปที่ห้องทำงานของเขา ใช้เวลาระหว่างนั้นอาบแสงอ่อนโยนของหมู่ดาว

    มันเป็นประกายสีฟ้าระยิบระยับ ผสมผสานกับขาวและเหลือง กลุ่มดาวขนาดเล็กล้อมรอบแผนที่ดวงดาวและวัตถุดิบต่างๆ แอบมองผู้มาเยือนหายาก เคย์มาที่ห้องทำงานของยามากุจิไม่บ่อยนัก เพราะว่าสัตว์ประจำหมู่ดาวทำเขารู้สึกอึดอัดเล็กน้อย กับดวงตาเพ่งมองเขม็งของดวงดาวที่กำลังจะตายลง

    “พวกมันสบายดี” ยามากุจิบอก มือยื่นออกไปยังกลุ่มดาวสัตว์ประหลาด สัตว์หมู่ดาวเกาะหลังยามากุจิ และไซร้คอเขา

    “ข้าพอจะดูออกอยู่”

    พวกเขานั่งลงที่โต๊ะทำงาน ยามากุจิมองแผนที่ดวงดาวในขณะที่เคย์เล่นกับถ้วยบรรจุละอองดาว

    “เขาเป็นยังไงบ้างตอนที่ฟื้น?”

    “เหนื่อย และบางทีอาจจะสับสนนิดหน่อย แต่เขาก็นิ่งจนกระทั่งสังเกตว่าโออิคาวะไม่ได้อยู่ที่นั่น”

    “นั่นสินะ เขาไม่น่าจะรู้”

    เมื่อรู้ถึงสภาพของอิวาอิซึมิในตอนนั้น โออิคาวะก็จัดชุดใหญ่อยุ่เหมือนกัน ในตอนนั้นเขามีฮานะมากิและเท็นโดอยู่ด้วย พวกเขาได้ข่าวพร้อมกันจากนกของสึกาวาระ วันนั้นยอดสังหารของโออิคาวะอยู่ในหลักร้อยได้

    “แต่ก็ถือว่าเขารับมือกับมันได้ดี” เคย์ถูละอองดาวระหว่างนิ้ว ชื่นชมเวลาที่มันสะท้อนแสงจากดวงดาว

    แล้วพวกเขาก็ตกเข้าสู่ห้วงความเงียบสบายอารมณ์ ยามากุจิเพิ่มรายละเอียดใหม่ลงบนแผนที่ดวงดาวของเขา ตรวจสอบดวงดาวที่อารมณ์เสีย และเคย์ก็เล่นกับละอองดาวต่อไป เพลิดเพลินกับสัตว์อสูรประจำดวงดาวที่มีรอยบนหัวที่แทบจะจับต้องไม่ได้

    เคย์พบว่าตัวเองคิดนู่นนี่ไปเรื่อย

    รวมถึงอิวาอิซึมิก็มีหกคนที่รู้ เคย์ สึกาวาระ ไดจิ คุนิมิ และยาฮาบะ อากาอาชิอาจจะสงสัยอยู่ แต่เขาจะไม่ถามอะไรจนกว่าจะแน่ใจ ยังไม่มีใครถามว่าทำไมความสามารถบางอย่างยังไม่ปรากฏตัวออกมา จริงอยู่ว่ามันต้องใช้เวลา แต่มันก็ผ่านมาหลายชั่วชีวิตแล้ว

    และในหลายชั่วชีวิตนั้น มีเพียงโชโยคนเดียวที่กลับชาติมาเกิด ยาจิได้สืบทอดความสามารถบางอย่างของซาเอโกะมา แต่นอกจากนั้น ก็ไม่มีใครอีกเลย สำหรับเทวดาชั้นรองที่ตายไป ความสามารถของพวกเขาก็อาจจะส่งต่อให้กับนิมฟ์ แต่ก็ยังไม่มีใครได้ข่าวคราว

    เคย์แค่รอให้ใครบางคนสงสัยออกมาว่าทำไมไม่มีเทพองค์ใหม่จุติแทนที่องค์ที่พวกเขาเสียไปในสงคราม

    ถ้าสึกาวาระตั้งใจจะสู้ในสงครามครั้งใหม่นี้ ความลับทั้งหมดนั้นก็จะต้องถูกเปิดเผย ความลับจากอาซาฮีอาจทำให้ทานากะโกรธเป็นฟืนไฟ ความลับจากทานากะอาจทำให้ทุกคนหนีไปจากเขา ความลับจากคุโรโอะอาจสร้างความร้าวฉานระหว่างเทพหลายองค์ ความลับจากสึกาวาระอาจก่อให้เกิดความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจและความรู้สึกถูกหักหลังขึ้นมาได้

    อย่างน้อยๆ มันก็จะมีการโต้เถียงกัน หรืออาจจะมีกระทั่งการเผชิญหน้ากัน

    แต่ปัญหามันมีตั้งแต่ก่อนหน้าไปถึงจุดนั้นด้วยซ้ำ มีกุญแจมากมาย มันจะเหนื่อยมากแน่กับการแสดงเนื้อหาให้ทุกคนดู เชื่อมพวกมันเข้าด้วยกัน เกี่ยวโยงกันไว้จนกว่าความทรงจำจะไปตามทางของมัน เคย์ไม่อยากจะรับผิดชอบกับการแสดงเรื่องเลือดสาดให้บางคนอย่างยาจิดูสักเท่าไหร่ เธอมีอาวุธ เธอฝึกฝนมา แต่เธอไม่เคยเห็นสงครามจริงยกเว้นเสี้ยวความทรงจำของซาเอโกะ เป็นคนที่ไม่พร้อมจะรับสิ่งที่เคย์ผนึกไว้ในกุญแจ

    อุชิจิมะเองก็ต้องอยู่ด้วย ร่ายมนต์แห่งความสงบใส่เทพหัวร้อนเพื่อให้เขามองเหตุผล อย่างน้อย ก็เพื่อกันไม่ให้พวกเขาไปฆ่าใครเข้า

    สงครามไม่เคยง่าย และเคย์ก็ไม่คิดว่ามันจะง่ายด้วย แต่สงครามครั้งนี้มันซับซ้อนและต่างออกไป ผู้เข้าร่วมสงครามครั้งแรกจะได้รับผ้าโพกสีส้ม ผู้ที่เข้าร่วมสงครามครั้งล่าสุดจะได้ผ้าโพกสีแดงเข้มดุจเลือดจนเกือบดำ เคย์เก็บของตัวเองไว้ในช่องว่างเพราะเขาไม่ชอบมองมัน

    เขาสงสัยเหลือเกินว่าผ้าโพกของสงครามครั้งใหม่นี้จะเป็นสีอะไร

    การแต่งตั้งของโชโยจะเป็นชนวนแรกของเหตุการณ์ลูกโซ่

    ไดจิยุ่งอยู่กับการจัดการหน่วยรบที่รุกเข้ามาก่อนเทรุชิมะและทีมของเขาจะได้กลิ่น การใช้เวลาในการอธิบายทุกอย่างให้ทุกคนฟังจะเป็นการให้เวลาหน่วยรบพวกนั้นเข้ามาใกล้พวกเขามากขึ้น

    สึกาวาระต้องอธิบายเหตุผลของเขา รวมถึงคนที่รู้เรื่องทุกอย่างด้วย กระทั่งเคย์เองก็จะถูกตั้งคำถาม

    เคย์รู้ดีว่ามันไม่มีวิธีที่ถูกต้องในการเอาชนะสงคราม พวกเขาทุกคนรู้ดี สงครามครั้งนี้จะเป็นการดิ้นรนต่อสู้ ด้วยอารมณ์ที่หาที่ลงไม่ได้ที่รอและสั่งสมมานานเกินไป เคย์คงจะโกหกถ้าบอกว่าเขาไม่ได้ตั้งตารอจะตามหาสัตว์ประหลาดที่พรากปีกไปจากเขา

    สัตว์ประหลาดเองก็มีอายุขัย แต่พวกมันก็มีอายุที่ยืนยานเป็นรองเพียงแค่เวลาเกือบนิรันดร์ของเทพ เคย์รู้ว่ามันยังมีชีวิตอยู่ เขาจะไม่หยุดจนกว่าจะเจอตัวสัตว์ประหลาดตัวนั้น ใบหน้าของมันติดตรึงอยู่ในความทรงจำของเขา ความรู้สึกของกรงเล็บตราตรึงอยู่บนแผ่นหลังของเคย์

    เขาตั้งตารอคอยวันที่จะได้จบชีวิตไร้ค่าของมัน

    “เคย์?”

    ชายหนุ่มกะพริบตา และเงยขึ้นไปมองยามากุจิ

    สัตว์อสูรประจำดวงดาวไปหลบอยู่หลังเขา และตอนนั้นเองก็เคย์รู้สึกถึงเวทมนต์ต่อสู้ของเขาที่ไหลมารวมอยู่ตามแขน

    “ขอโทษที” เขาไล่เวทมนต์กลับไป แต่สัตว์อสูรก็ยังเลือกจะอยู่ใกล้ยามากุจิ

    “เจ้าเป็นอะไรหรือเปล่า?”

    “ไม่เป็นไร”

    “เจ้าปล่อยรังสีอาฆาตออกมาด้วย”

    เคย์ถูกช่วยจากการต้องตอบคำถามนั้นด้วยการมาถึงของเทพสุริยะ

    โชโยพุ่งเข้ามา เนื้อตัวสว่างไสวและอบอุ่น

    “สึกิชิมะ! ยามากุจิ!

    หนึ่งในสัตว์อสูรดวงดาว มังกรร่างเพรียวที่ขานรับชื่อ วัน ลอยไปนอนบนศีรษะของโชโย

    “เธอชอบเจ้าล่ะ” ยามากุจิยิ้มร่า เคย์รู้ว่าเขายังไม่พ้นข้อสงสัย ยามากุจิจะถามเขาทีหลัง แต่ตอนนี้เขารอดแล้ว

    “จริงเหรอ?”

    “อื้ม วันเคยเป็นมังกรสมุทรมาก่อน นางสร้างปัญหาอยู่หลายชั่วอายุคน แต่นางก็ได้ช่วยเทพในสงครามครั้งแรก ตอนนั้นข้ายังเด็กเกินจะสู้ แต่ข้าก็ส่งนางขึ้นไปบนฟ้าแทนคำขอบคุณ”

    โชโยพยักหน้าช้าๆ เมื่อไม่ให้รบกวนวันบนหัว เคย์ยิ้มและนั่งผ่อนคลายบนเก้าอี้

    “อะไรพาเจ้ามาที่นี่ล่ะ โชโย?”

    “ทานากะไม่ชอบการสลายเวทมนต์ โนยะบอกข้าเรื่องการใช้แรงแทน แต่พวกเขาก็อธิบายบางอย่างให้ข้าฟังอยู่? และโบคุโตะก็อธิบายไม่เก่งเอาเสียเลย เจ้าบอกว่าเจ้าช่วยสอนข้าได้” เขาบอกและหันไปหาเคย์

    “เจ้าปฏิเสธไม่ได้แล้วนะ สึกกี้” ยามากุจิกล่าวเป็นท่วงทำนอง

    เคย์กลอกตา แต่ก็ลุกขึ้นยืน

    กุญแจของอิวาอิซึมิหนักอึ้งอยู่ในกระเป๋าเขา ซึ่งมันบ้าบอมากเนื่องจากมันยังไม่มีความลับอะไรให้หนักเลย เขาเคยคิดว่ามันเป็นเรื่องทางจิตใจมากกว่า

    “เจ้าจะมาด้วยกันไหน ยามากุจิ?” โชโยถามพลางเท้าไหล่ของเคย์

    “ข้ายังมีงานต้องทำอยู่ แต่ถ้าเสร็จแล้วข้าจะตามไปนะ”

    เคย์ปัดผงละอองดาวใส่ชายหนุ่ม และยามากุจิก็ทำเพียงแค่ยิ้มกุ้มกริ่ม เขาไม่มีงานอะไรต้องทำ เคย์รู้ แต่เขาจะไม่พูดอะไร ยามากุจิคิดไปเอง นั่นเป็นคำอธิบายเดียว ไม่ว่าเทพแห่งหมู่ดาวจะเปรยเป็นนัยถึงอะไรก็ตามตอนที่พวกเขาคุยกัน เคย์ก็ไม่อยากจะสนใจทั้งนั้น

    วันลอยออกจากบนศีรษะของโชโย และพวกเขาก็ออกจากห้องทำงานไปด้วยกัน

    “ข้าถามอะไรเจ้าหน่อยได้ไหม?” เสียงของโชโยเบาหวิว แต่เปี่ยมไปด้วยความสงสัยใคร่รู้

    “ได้”

    “ทำไมทานากะถึงอาวุธสองชิ้นเหรอ? เขามักจะใช้สนับมือเหล็กก็จริง แต่กำไลนั่นก็เป็นอาวุธเหมือนกันใช่ไหม?”

    เคย์ผละจากไหล่ของเคย์เมื่อพวกเขามาถึงสถานที่ฝึกคราวที่แล้ว แต่เขานั่งตักเคย์และสลายปีกไปเมื่อเคย์นั่งลงบนพื้น

    ร่างกายโชโยร้อนผ่าวแม้จะไม่มีปีก เคย์ฝืนอุณหภูมิในร่างกายตัวเองให้ลดลงเมื่อโชโยจับมือเขาไปพลิกเล่น

    “กำไลนั่นเป็นของพี่สาวเขา ซาเอโกะจากไปในสงคราม เขาไม่ใช่กำไลนั่นในการฝึก”

    โชโยพยักหน้าลงช้าๆ

    “ยาจิได้พลังบางส่วนของเธอมาใช่ไหม?”

    “ถูกต้อง”

    “ทำไมล่ะ?”

    “อะไรทำไม?”

    “ทำไมยาจิถึงได้แค่พลังบางส่วน แต่ข้าได้เป็นเทพโดยสมบูรณ์ล่ะ?”

    เคย์ตอบคำถามนั้นไม่ได้ ตอบแบบเจาะจงไม่ได้ คำตอบที่แท้จริงของคำถามนั้นถูกผนึกไว้ในกุญแจดอกหนึ่งขจองคุโรโอะ

    “ข้าบอกไม่ได้ แต่มันเป็นแบบนั้นแหละ”

    “นั่นมันบ้าบอมากเลย” โชโยบอกด้วยท่าทางหัวเสียแบบเด็กๆ

    เคย์หลุดยิ้มและสะกิดโชโยให้ลุกจากตักเขา เวทมนต์สีฟ้าไหลตามแขนมารวมนี่ฝ่ามือ ลูกบอลสีฟ้าสองลูกลอยอยู่เหนือฝ่ามือของเคย์

    “เราจะเริ่มกันแบบง่ายๆ”

    โชโยเปลี่ยนสีหน้าเป็นตั้งอกตั้งใจและมันก็เกือบจะดูน่าขัน

    “เรียกเวทมนต์ของเจ้าขึ้นมา ไม่ต้องมาก”

    หลังจากคิดสักพัก และทำตามที่พวกเขาเคยฝึกด้วยกัน เคย์ตัดสินใจดัดแปลงเทคนิคการสลายเวทมนต์ที่จะสอนให้โชโย การแสดงให้เห็นเป็นภาพเหมือนจะช่วยเทพองค์น้อยได้ดี เพราะฉะนั้น แทนที่จะสอนตามวิธีที่เคย์รู้ โชโยจะได้เรียนรู้มันในวิธีแบบง่าย มันมีประสิทธิภาพเหมือนกัน และเคย์ก็ไม่ได้ทำให้เขาต้องเสี่ยงกับอะไรในการสอนเทคนิคนี้ด้วย

    สำหรับเคย์แล้ว การสลายเวทมนต์ทำได้เพียงแค่คิดถึงมัน แค่ความต้องการในการตัดกระแสมนตรา ความคิดที่จะห่อหุ้มร่างศัตรูของเขาจนมิด สร้างค่ายพลังงานที่ทำให้พวกเขาไม่สามารถใช้เวทมนต์ได้

    โชโยเรียกเวทมนต์เวทมนต์ได้บางส่วน พวกมันหลอมรวมกันบนฝ่ามือเขาและคลุมรอบมือเขาไว้

    “เหมือนคราวที่แล้ว แต่แทนที่จะตัดที่ต้นตอของเวทมนต์ ให้เจ้าสนใจแต่แสงพอ คลุมพวกมันด้วยเวทมนต์ของเจ้า ตัดมันออกจากตัวข้า”

    โชโยพยักหน้า เขาเลียริมฝีปากจากการเพ่งสมาธิ เขายกมือขึ้น เส้นสายเวทมนต์ค่อยๆ ยืดออกมายังลูกบอลแสงที่ลอยอยู่ของเคย์อย่างสั่นคลอน

    มันเป็นไปอย่างเชื่องช้า และโชโยก็รู้สึกหงุดหงิด และเคย์ก็ให้เขาบินรอบหาดเพื่อสงบอารมณ์ก่อนเริ่มใหม่อีกครั้ง คราวนี้ เคย์สร้างลูกบอลแสงขึ้นมาแค่หนึ่งลูก

    สักพัก โชโยก็ทำให้มีชั้นเวทมนต์สีแดงคลุมลูกบอลแสงของเคย์ได้เกือบมิด เขาไม่สามารถตัดเส้นสายที่เชื่อมกับฝ่ามือของเคย์ได้ เคย์คิดที่จะบอกใบ้แนะนำ แต่ความร้อนแรงในดวงตาของโชโยทำให้เขาเลือกจะเงียบแทน

    ในชั่วอึดใจ พลังเวทของโชโยปะทุขึ้น เพลิงลุกไล้ตามปีกของเขาขณะที่ร่างของส่องแสง แต่แสงในมือของเคย์มอดดับลงแทน

    “ข้าทำได้แล้ว!” โชโยทึ่งด้วยความดีใจ ปีกกะพรืออย่างรวดเร็วจนมันสั่นไหว

    “ใช่ เจ้าทำได้ ทีนี้ลองใหม่อีกครั้ง”

    โชโยดูสนุกกับมันมากขึ้นกว่าครั้งก่อน

    “มันไม่สำคัญเลยว่าศัตรูเจ้าจะแข็งแรงขนาดไหน” เคย์กล่าว “เจ้าจะสามารถสลายเวทมนต์ของพวกเขาได้เสมอ สิ่งที่เจ้าจะไม่รู้เลยคือเจ้าจะสลายมันได้นานแค่ไหนเท่านั้น มันอาจจะแค่วินาทีเดียวก็ได้”

    “เจ้าเคยบอกว่าแค่นั้นก็เพียงพอแล้วนี่ ใช่ไหม?” โชโยถาม ดวงตาจับจ้องไปที่ลูกบอลแสงลูกใหม่

    “ใช่”

    เคย์สัมผัสได้ถึงคำถามที่โชโยไม่ได้เอ่ยออกมา

    “มันเป็นแผนที่คาเงะยามะกับข้าใช้เวลาที่เราต่อสู้ ข้าจะสลายเวทมนต์ป้องกันของศัตรู แต่เพราะมันมีจำนวนมาก ข้ายั้งพวกมันไว้ได้ไม่นาน แต่ช่วงเวลานั้นก็จะทำให้คาเงะยามะสามารถใช้อาวุธสำหรับต่อกรกับศัตรูหลายตัวจัดการพวกมันได้”

    “ว้าว”

    TBC....


    ll TALK WITH TRANSLATOR ll

    สวัสดีครับผม

    เนื่องจากจำนวนหน้าในแต่ละตอนจะยาวขึ้นเรื่อยๆ ผมเลยจะตัดครึ่งตอนมาแปล (สำหรับตอนที่ยาวมากๆ) อย่างตอนนี้เองความยาวทั้งหมด แปลออกมาแล้วน่าจะประมาณ 16-18 หน้าได้ วันนี้เลยขอมาอัพแค่ครึ่งตอนก่อนครับ (ทั้งหมดเกือบ 8 หน้า) 

    ก็หวังว่าทุกคนจะสนุกกับตอนนี้นะครับผม ไว้พบกันใหม่ตอนหน้าครับ ^ ^

    ปล. สำหรับใครที่อ่านฟิค FFVII (เซฟิรอธxคลาวด์) สามารถไปอ่านฟิคแปลเรื่องใหม่ที่ผมเพิ่งลงได้นะครับ >>จิ้มจึก<<

    ปล2. ผมมีเรื่องอยากสอบถามผู้อ่านหน่อยครับ ว่าถ้าผมเปิดโดเนท (สนับสนุนคนแปล) ทุกคนจะคิดเห็นยังไงบ้างครับ แต่คือ ต่อให้โดเนทหรือไม่โดเนทผมก็อัพฟิคปกตินะ ยังไงผมแปลเป็นงานอดิเรก ใจหนึ่งก็รู้สึกเหมือนผมรับโดเนทแบบนี้เหมือนไปหากินกับฟิคคนอื่นอีกทีรึเปล่า แต่ถ้าได้อะไรจากการสละเวลาว่างบ้างก็ดีอะไรแบบนี้ครับ ถ้ามีใครเห็นไม่สมควรยังไงแจ้งได้นะครับ เพราะผมก็ไม่อยากทำให้ผู้อ่านลำบากใจ

    ด้วยรัก

    พาร์ท 

    Killer in the Dark Shadow

    double_B
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×