คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : Chapter 2: How to Make a Moon (วิธีสร้างพระจันทร์)
Title: Sunbeams แสงตะวัน
Story: Saturnalius
Translator: KITDS
Chapter 2: How
to Make a Moon (วิธีสร้างพระจันทร์)
เคย์ไม่แปลกใจเท่าไหร่เมื่อเทพสุริยะไซส์เทวดากลับมาอีกครั้งไม่กี่วันให้หลัง
และแน่นอนว่ายามากุจิปล่อยให้เขาเข้ามา
“-อยู่ข้างหลังนี่”
เขาได้ยินยามากุจิเดินมาตามทางเดิน และ... ไม่นะ เขาพาฮินาตะมายังห้องทำงานของเขา
เคย์ลุกขึ้นหมายจะล็อคประตูแต่มันก็เปิดออกก่อน
ยามากุจิ ผู้ซึ่งดวงดาวพร่างพราวบนผิวกายและกลุ่มดาวซ่อนเร้นบนเรือนผม
ดูจะกระหยิ่มยิ้มย่องเมื่อเปิดปากพูด
“เจ้ามีแขกมาเยี่ยมล่ะ สึกกี้!”เขาร้องพลางเปิดประตูกว้างขึ้น
แสงจากดวงดาวของยามากุจินั้นไม่สว่างพอจะรบกวนแสงสลัวในห้องทำงานของเคย์
แต่แสงเรืองรองของฮินาตะอาบย้อมทั่วทั้งห้องด้วยแสงสีอุ่นนั่น
ยามากุจิจากไปอย่างรวดเร็ว ทิ้งให้เคย์หรี่ตามองแขกไม่ได้รับเชิญ
“โอ๊ะ ขอโทษที”ฮินาตะกล่าว เขาหลับตาปี๋และแสงสว่างนั้นจางหายไปเมื่อปีกหุบกลับเข้าไปในแผ่นหลัง
“ดีขึ้นมั้ย?”
เคย์พยักหน้า กระพริบตาถี่ไล่จุดพร่าจากแสงไฟ
“คือ เจ้าเป็นเทพจันทรา”ฮินาตะพูดขึ้นหลังจากเงียบไปสักพัก
“ใช่”
“ข้าต้องไปถามสึกาวาระมาน่ะ”เขายิ้มแห้งพลางลูบหลังคอเหมือนกับจะถูกตำหนิ
“ไม่เป็นไรนี่”
ร่างเขาวูบไหวก่อนฮินาตะจะหายไป
เคย์กลับหลังหันไปเจอฮินาตะอยู่ท้ายห้องทำงานเขา
“นี่มันพระจันทร์เมื่อคืนก่อนนี่”
เขาสายตาดีใช้ได้ มันมีโมเดลหลายพันดวงในห้องทำงานของเคย์ บางดวงลอยอยู่
บางดวงถูกล็อกไว้เป็นวงแหวนง่ายๆ ในขณะที่บางดวงล่ามด้วยสายมนตราไว้เพื่อไม่ให้มันขยับจากจุดที่ควรอยู่
แต่ดวงโปรดเขาวางอยู่ด้านหลังดวงเดียวโดดๆ
ฮินาตะทรงตัวบนโต๊ะ มือทั้งสองพยุงร่างที่ขอบโต๊ะ
เคย์ถอนหายใจก่อนจะเดินมาหาเขา
“เจ้าสร้างพระจันทร์จริงๆ อย่างงั้นเหรอ?”ฮินาจะถาม นัยน์ตาเพลิงจับจ้องตรงหน้าตน
“ถ้าข้าเลือกที่จะทำล่ะก็ ใช่”
“ทำให้ดูหน่อยได้มั้ย?”
แล้วดวงตาคู่นั้นก็ย้ายมามองเคย์ วังวนสีน้ำตาล ส้ม
แดงเพ่งมายังใบหน้าเขา ถ้ามันจะทำให้ฮินาตะยอมไปจากที่นี่ล่ะก็คุ้มค่าที่จะทำ
“มันใช้เวลานะ”เขาบอก ฮินาตะดูไม่ใช่คนใจเย็นสักเท่าไหร่
แต่อีกฝ่ายก็เพียงพยักหน้า
เคย์ถอนหายใจอีกครั้งพลางถอนแว่น มันเป็นสิ่งที่อยู่ในตารางงานเขาอยู่แล้ว
เอนโนะชิตะกำลังสร้างระบบสุริยะขึ้นใหม่ และเขาก็ขอให้เคย์สร้างพระจันทร์ให้จำนวนหนึ่ง
ฮินาตะตามเขามาที่โต๊ะประดิษฐ์ และแล้วเคย์ก็ลงมือ
กล่องทรงเหลี่ยมเต็มไปด้วยวัตถุดิบทุกชนิด บางชิ้นละเอียดราวฝุ่นผง
บางชิ้นเป็นของเหลว และบางชิ้นไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นอะไร
เขาเรียงพวกมันเป็นตารางเรียบร้อย ถัดไปเป็นโหลสีของเขา มันค่อนข้างโมโนโทน
ส่วนมากเป็นสีฟ้าหลากเฉดสี แต่พวกมันจะเปลี่ยนเองเมื่อเขาใช้มัน
เขาเก็บเครื่องมือไว้ในห่อผ้า เมื่อเขาเอาออกมาก็เรียงมันไว้ที่ขอบโต๊ะ
ผังระบบสุริยะของเอนโนะชิตะก็อยู่ร่วมกับระบบอื่นๆ และเคย์วางมันบนพื้นที่แรงโน้มถ่วงต่ำ
พวกมันเลยลอยอยู่กลางอากาศ
งานหลักเขายังไม่ทันจะเริ่มฮินาตะก็ตื่นตาตื่นใจไปหมดแล้ว
เคย์เมินเฉยอีกฝ่ายก่อนจะเริ่ม
เขามองรูปแบบของเอนโนะชิตะก่อนจะวาดมือเหนือส่วนประกอบของตน เขาเลือกหย่อมพอดีมือ
ออกมาจากห้องกล่อง ผงสีเทาละเอียด เขียวสว่างระยิบระยับ ดินเหนียวสีเทาเข้ม
ของเนื้อเนียนสีขาวและก้อนหยาบสีดำ เคย์วางพวกมันไว้ในโซนแรงโน้มถ่วงจนกว่าจะใช้งาน
จากนั้นเขาเลือกกล่องฝาปิดสีดำแล้วเปิดมันออก ข้างในมีแผงกั้งแบ่งเป็นสามชั้น
ชั้นละเก้าช่อง นี่เป็นที่เก็บสีโทนสว่างทั้งหมด สีชมพู ม่วง แดง เหลือง มันมองไม่เห็นแต่ทุกช่องสี่เหลี่ยมเต็มไปด้วยสสารเวทมนต์หลากสี
มันดูเหมือนทราบหรือกลิตเตอร์ละเอียดๆ และมันก็ส่องสว่างเกือบจะเท่ากับดวงตาของฮินาตะ
เขาหยิบหนึ่งในเครื่องมือขึ้นมา มันเป็นจอบหัวข้าวหลามตัดบางๆ เขาใช้มันตักผงสีแดงชมพูจากชั้นที่สองของกล่องและเติมมันไว้ก่อนส่วนผสมอื่นๆ
ในชั้นแรงโน้มถ่วงก่อนจะวางกล่องลง เขาหันไปทางโหลสีเนื้อเหลวก่อนจะส่งเสียงในลำคอขณะใช้ความคิด
เคย์ใช้นิ้วชี้และนิ้วกลางข้างซ้ายจุ่มลงไปในสีฟ้าเทาอ่อนโดยเลี่ยงสีฟ้าฟ้า
ส่วนอีกข้างก็จุ่มสองนิ้วลงในสีเทาเรียบ
ชายหนุ่มหลับตาลงครู่หนึ่ง สัมผัสถึงไอเย็นที่ก่อตัวขึ้นระหว่างไหปลาร้าและกลางหลัง
มันเคลื่อนตัวผ่านแขนทั้งสองข้างสู่นิ้วทั้งสี่ที่จุ่มอยู่ในสี แสงสีฟ้าสว่างที่ดูราวกับของเหลวห่อหุ้มร่างของเคย์เมื่อเขาลืมตาขึ้น
ดวงตาสีน้ำตาลล้อมรอบด้วยสีฟ้า พวกมันดูเหมือนแสงสีขาวสว่างไม่ใช่อื่นใด
นี่เป็นส่วนที่เคย์ชอบที่สุด เวทมนต์ของเขาโลดแล่นอย่างอิสระ เจ้าดาวเคราะห์มีชีวิตขึ้นระหว่างมือทั้งสอง
มันรู้สึกเหมือนความแข็งแกร่ง
เมื่อดวงจันทร์แข็งตัวและค่อนข้างกลม แสงสีฟ้าของเคย์ก็หายไป
แต่ดวงตายังคงเรืองรอง เขาเสริมมิติให้มัน สร้างหลุมบนพื้นผิว ใส่แหล่งน้ำแข็งและควบคุมแรงโน้มถ่วงของมัน
เขาแอบปรับเปลี่ยนรายละเอียดที่เอนโนะชิตะต้องการนิดหน่อย แต่เขาไม่สนใจ
และเขาก็รู้ว่าเอนโนะชิตะเองก็ไม่สนเหมือนกัน
มันใช้เวลาถึงสองชั่วโมงกว่าเคย์จะพอใจ เขาแบมือแนบกับหน้าโต๊ะ
แสงสีฟ้าสว่างวาบทิ้งวงแหวนประทับอยู่บนโต๊ะ เส้นสายเวทมนต์เชื่อมดวงจันทร์ไว้กับวงแหวนมันจะได้อยู่กับที่ระหว่างที่เขาทำอย่างอื่น
เมื่อดวงตาเขากลับสู่ปกติ เขาก็สังเหตเห็นสีหน้าอ้าปากค้างของฮินาตะก่อนจะเลิกคิ้ว
“นั่นมันเยี่ยมไปเลย!”ฮินาตะกระโดดตัวลอย
แสงรองจากร่างเขาวูบไหวเมื่อเขาเริ่มพล่าม
เคย์ฟังด้วยความงงงวย ไม่เข้าใจว่าทำไมฮินาตะถึงตื่นเต้นนักกับอะไรธรรมดาอย่างการสร้างพระจันทร์
และน่าแปลกที่เคย์รู้สึกว่ายิ่งฮินาตะพูดมากเท่าไหร่ แก้มตัวเองก็ร้อนขึ้นเรื่อยๆ
ปีกของเทพสุริยะโผล่ออกมาแม้จะยังพับเก็บอยู่ข้างลำตัวเพื่อไม่ให้รบกวนข้าวของให้ห้องทำงาน
แต่จู่ๆ เขาก็หยุดพูดแล้วล้วงเข้าไปในกระเป๋ากางเกง เขาหยิบแผ่นโลหะเล็กๆ
ขนาดเท่าฝ่ามือออกมา มันกำลังสั่น
“ข้าต้องกลับไปที่วังแล้ว”เขากล่าวพลางเก็บแผ่นโลหะเข้ากระเป๋า
“โอเค”
“ขอบคุณสำหรับแสดงวิธีสร้างพระจันทร์ให้ข้าดูนะ! มันสุดยอดมาก! ไว้ข้าจะกลับมาใหม่!”
แล้วปีกฮินาตะก็พาเขาออกจากประตูและจากไป
ห้องทำงานของเคย์กลับสู่แสงสลัวอีกครั้ง
.........................................
“เจ้าไม่เคยให้แขกอยู่นานขนาดนั้นมาก่อน”ยามากุจิกล่าวขึ้นระหว่างที่พวกเขานั่งอยู่ที่หน้าผาตอนตกดึกวันนั้น
“ข้าทำงาน และเขาก็แค่อยู่ดู”เคย์ตอบปัดๆ หวังว่ายามากุจิจะเลิกคุยเรื่องนี้
แต่เขารู้จักอีกฝ่าย ยามากุจิไม่ใช่คนที่จะทำแบบนั้นเลย
“เจ้าปล่อยให้เขาอยู่ดูเหรอ?”
เคย์กัดกระผุงแก้มตัวเองเบาๆ ก่อนจะถอนหายใจ
“ข้าแค่คิดว่าเขาจะยอมไปหลังจากนั้น และเขาก็ไป”
“นั่นเพราะเขาถูกเรียกตัวกลับต่างหากล่ะ”ยามากุจิขำ
เคย์ไม่ตอบอะไร และทำเพียงมองขึ้นไปบนฟากฟ้ายามค่ำ มันไม่ได้มีกลุ่มดาวกลุ่มใหม่มานานมากแล้ว
เคย์รู้ว่ายามากุจิจะบอกเขาถ้ามี แต่เขาก็มองหามันอยู่ดี
แม้ว่าจะเป็นคนที่จัดวางพวกมันบนฟ้านั่น แต่ยามากุจิก็เฝ้ามองดวงดาวเหล่านั้นด้วยความอัศจรรย์ใจเสมอ
ดวงดาวของตัวเขาเองที่แต่งแต้มใบหน้า แขนและผิวที่สามารถมองเห็นได้ส่องสว่างมากขึ้นเมื่อกลุ่มดาวเริ่มพากันปรากฏตัว
พวกเขาอยู่ท่ามกลางความเงียบกันเกือบชั่วโมง ยามากุจิยิ้มให้เหล่าหมู่ดาว
และเคย์หลับตาพริ้ม
“ปีกเหรอ?”
เคย์ลืมตาขึ้นโพลง มันเรืองแสงสีฟ้าน้ำแข็ง
“ไม่ใช่”
“ขอโทษที ข้าถามไปโดยที่ไม่ทันคิด”ยามากุจิกระซิบ
“มันไม่เกี่ยวกับเจ้าเลย ไม่เห็นต้องขอโทษ”
ปีกของเคย์นั้นเป็นสิ่งที่น่าจับจ้อง
เขามีปีกสองคู่ คู่หนึ่งเป็นสีขาวเทา กว้างกว่าปีกทั่วไปถึงสองเท่าและปลายปีกเป็นสีฟ้า
พวกมันแข็งแรงพอจะปกป้องเขาจากการโจมตีด้วยพละกำลังราวกับเกราะเหล็ก ปีกคู่ที่สองนั้นเล็กกว่าและอยู่ล่างลงไปอีกบนแผ่นหลัง
พวกมันมีสีน้ำเงินเข้มปลายสีขาวด้วยขนนกที่อ่อนนุ่มกว่า คู่ที่สองนั้นไม่ได้มีหน้าที่คอยป้องกันเขา
แต่มันทำให้เขาบินได้เฉียบคมยิ่งขึ้น
แต่ตอนนี้มันเหลือแค่เพียงรอยแผลเป็นและกระดูกหักงอในที่ที่พวกมันเคยอยู่
ลวดลายคดโค้งล้อมรอบบริเวณโคนปีกสีเขียวแก่ปนดำ และแสบร้อนเป็นครั้งคราว
แม้เวลากว่าชั่วชีวิตจะผ่านไปแล้ว แต่บางครั้งเคย์ก็ยังคงตื่นขึ้นมาด้วยความหวังที่จะได้เห็นขนนกบนเตียงของตัวเองอีกครั้ง
TBC…
ll TALK WITH TRANSLATOR ll
สวัสดีครับ
ช่วงนี้มาอัพเร็วหน่อย เพราะเดือนนี้เป็นเดือนพิเศษสำหรับผมในหลายๆ
ความหมายเลยขยันเป็นพิเศษไปด้วยครับ 55555 ก็หวังว่าจะชอบกันนะครับ ภาษาเรื่องนี้ส่วนตัวผมยังรู้สึกว่าแปร่งๆ
อยู่บ้าง สามารถติชมได้เสมอนะครับ ไว้พบกันใหม่ตอนหน้าครับผม ^ ^
พาร์ท
Killer in the Dark Shadow
ความคิดเห็น