ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ♬ รับแปลเพลงญี่ปุ่น

    ลำดับตอนที่ #7 : [Kobayashi Sanae] Tsunaida te ni kisu wo

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ค. 55


     
     
    - Kobayashi Sanae-
     
     
    Tsunaida te ni kisu wo - โปรดมอบจุมพิตลงบนมือที่กอบกุมนี้
     
     
     
     
    そして 坊やは 眠りについた 
    息衝(づ)く 灰の中の炎 
    ひとつ ふたつと 浮かぶ ふくらみ 愛しい横顔 
    大地に 垂(た)るる 幾千の夢 
    Soshite bouya wa nemuri ni tsuita 
    ikizuku hai no naka no honoo 
    hitotsu, futatsu to ukabu fukurami itoshii yokogao 
    daichi ni taruru ikusen no yume, yume 
    และแล้วเด็กชายก็ดำดิ่งสู่ห้วงนิทรา
    เปลวเพลิงในเถ้าถ่านโหมไหม้
    ทีละหนึ่ง ทีละสอง
    ใบหน้าด้านข้างอันเต่งตูมของผู้เป็นที่รักผุดลอยขึ้นมา
    ความฝันนับพันหล่นร่วงลงเป็นผืนดิน
     
     
    銀の瞳のゆらぐ夜に 
    生まれおちた輝くお前 
    幾億の年月が いくつ 
    祈りを 土へ 還しても 
    Gin no hitomi no yuragu yoru ni 
    umare ochita kagayaku omae 
    ikuoku no toshitsuki ga 
    ikutsu inori wo tsuchi e kaesshitemo 
    เธอผู้เปล่งประกายได้ถือกำเนิด
    จากราตรีกาลอันพร่างพราวด้วยนัยน์ตาสีเงิน
    แม้ว่าจะส่งคำอธิษฐานกลับสู่พื้นดิน
    สักกี่ล้านเดือนปีก็ตามแต่
     
     
    ワタシは 祈り続ける 
    どうか この子に 愛を 
    つないだ 手に キスを 
    Watashi wa inori tsuzukeru 
    douka konoko ni ai wo 
    tsunaida te ni kisu wo 
    ฉันยังคงเฝ้าอธิษฐาน
    โปรดเถิด โปรดให้เด็กคนนี้ได้เป็นที่รัก
    โปรดเถิด โปรดมอบจุมพิตลงบนมือที่กอบกุมนี้
     
     
    そして 坊やは 眠りについた 
    息衝(づ)く 灰の中の炎 
    ひとつ ふたつと 浮かぶ ふくらみ 愛しい横顔 
    大地に 垂(た)るる 幾千の夢 
    Soshite bouya wa nemuri ni tsuita 
    ikizuku hai no naka no honoo 
    hitotsu, futatsu to ukabu fukurami itoshii yokogao 
    daichi ni taruru ikusen no yume, yume 
    และแล้วเด็กชายก็ดำดิ่งสู่ห้วงนิทรา
    เปลวเพลิงในเถ้าถ่านโหมไหม้
    ทีละหนึ่ง ทีละสอง
    ใบหน้าด้านข้างอันเต่งตูมของผู้เป็นที่รักผุดลอยขึ้นมา
    ความฝันนับพันหล่นร่วงลงเป็นผืนดิน
     
    銀の瞳のゆらぐ夜に 
    生まれおちた輝くお前 
    幾億の年月が いくつ 
    祈りを 土へ 還しても 
    Gin no hitomi no yuragu yoru ni 
    umare ochita kagayaku omae 
    ikuoku no toshitsuki ga 
    ikutsu inori wo tsuchi e kaesshitemo 
    เธอผู้เปล่งประกายได้ถือกำเนิด
    จากราตรีกาลอันพร่างพราวด้วยนัยน์ตาสีเงิน
    แม้ว่าจะส่งคำอธิษฐานกลับสู่พื้นดิน
    สักกี่ล้านเดือนปีก็ตามแต่
     
     
    ワタシは 祈り続ける 
    どうか この子に 愛を 
    つないだ 手に キスを 
    Watashi wa inori tsuzukeru 
    douka konoko ni ai wo 
    tsunaida te ni kisu wo 
    ฉันยังคงเฝ้าอธิษฐาน
    โปรดเถิด โปรดให้เด็กคนนี้ได้เป็นที่รัก
    โปรดเถิด โปรดมอบจุมพิตลงบนมือที่กอบกุมนี้
     
     
    ワタシは 祈り続ける 
    どうか この子に 愛を 
    つないだ 手に キスを 
    Watashi wa inori tsuzukeru 
    douka konoko ni ai wo 
    tsunaida te ni kisu wo
    ฉันยังคงเฝ้าอธิษฐาน
    โปรดเถิด โปรดให้เด็กคนนี้ได้เป็นที่รัก
    โปรดเถิด โปรดมอบจุมพิตลงบนมือที่กอบกุมนี้
     
     
    +++
     
    NOTE: เพลงนี้แปลช้า สารภาพว่าแก้เนื้อหามาประมาณล้านแปดรอบได้ (//อ้าปากหาวอย่างเหนื่อยล้า) เพราะตอนแรกที่แปลเสร็จ เราเข้าใจผิดไปอีกอย่าง นึกว่าเด็กในเพลงนี้ตาย (- -") เพราะเห็นว่านอนหลับในเปลวเพลิง (คิดว่าถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่าน ประมาณนั้น)  แต่เราไม่ได้ดูดีเกรย์แมน ไม่มั่นใจว่าตัวเองคิดถูกรึเปล่า พอลองไปถามคุณเพื่อนซึ่งติดตามดูเรื่องนี้ เพื่อนก็บอกว่าเพลงที่ร้องในตอนนี้ไม่มีใครตายสักกะหน่อย อีกอย่าง มันเป็นเพลงกล่อมเด็ก จะมีใครตายได้ยังไง =_=;
    เราเลยต้องมานั่งจดๆจ้องๆแก้คำแปลใหม่อีกรอบ รวมถึงตามหาเวอร์ชั่นที่คนอื่นแปลไว้ทั้งไทยทั้งเทศมาอ่าน แล้วก็ถึงกับบางอ้อว่า...อ้อ! แม่งไม่มีใครแปลเหมือนกันสักคนเลย 555+  ด้วยความสิ้นหวัง เราเลยต้องพึ่งตัวเองแล้วค่ะ และนี่คือการตีความเพลงๆนี้ของเรานะ (เป็นความเห็นส่วนตัวล้วนๆ จะเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยก็แล้วแต่เน้อ)
     
    ...เพลงนี้จัดอยู่ในประเภทเพลงกล่อมเด็กหรือLullaby (แม้ว่าอเล็นคุงคนร้องจะเป็นผู้ชายและไม่มีลูกก็ตาม - -") สังเกตได้จากทำนองเพลงและเนื้อเพลงท่อนแรกที่ร้องว่า 'และแล้วเด็กชายก็ดำดิ่งสู่ห้วงนิทรา' ค่ะ (//ลองนึกภาพแม่ร้องเพลงกล่อมลูกชายตัวน้อยๆจนหลับไป) ส่วนเปลวเพลิง น่าจะหมายถึงไฟในเตาผิงนะคะ (//ลองนึกภาพแม่ร้องเพลงกล่อมลูกดูอีกทีนะ คราวนี้มีสถานที่เพิ่มขึ้นมาด้วย คือห้องนอนที่มีเตาผิง55) 'ทีละหนึ่ง...ทีละสอง...' หมายถึงเถ้าถ่านที่ปะทุขึ้นมาเวลาไฟลุก ส่วนท่อน 'ใบหน้าอันเต่งตูมฯ' หมายถึงใบหน้ากลมๆน่ารักของเด็กที่คนร้องเพลงกล่อมมองเห็นค่ะ แล้วก็กระโดดไปท่อน 'จากราตรีกาลอันพร่างพราวด้วยนัยน์ตาสีเงิน' อันนี้น่าจะเดาได้เนอะว่านัยน์ตาสีเงินเป็นคำเปรียบของ'ดวงดาว'
     
    ต่อมา ขอข้ามไปท่อนที่ร้องว่า 'ฉันยังคงเฝ้าอธิษฐาน โปรดเถิด โปรดให้เด็กคนนี้ได้เป็นที่รัก โปรดเถิด โปรดมอบจุมพิตลงบนมือที่กอบกุมนี้' ให้ลองนึกภาพแม่ที่กล่อมลูกจนหลับในห้องนอนที่มีเตาผิงขึ้นมาอีกที(55) ความรักของแม่ จะทำให้แม่อธิษฐานขอพรจากพระเจ้าเพื่อลูก ซึ่งนั่นก็คือ 'ขอให้ลูกได้เป็นที่รักของคนอื่น' แล้วเวลาที่คนเราอธิษฐาน ตามศาสนาคริสต์ เราก็ต้องกุมมือทั้งสองข้างเข้าด้วยกันใช่ไหม การที่ขอให้มอบจุมพิตลงบนมือที่กอบกุม เราคิดว่า เป็นเหมือนการวิงวอนให้พระเจ้าลงมาจุมพิตยังมือที่กุมอธิษฐานของตน เพื่อแสดงให้เห็นว่าพระองค์ได้ฟัง รับรู้และพร้อมจะทำให้คำอธิษฐานของเราเป็นจริงค่ะ
     
    อธิบายจบแล้วล่ะ...เหนื่อยๆ 55
     
    *ขอย้ำอีกทีว่าที่พล่ามมาทั้งหมดนี่เป็นแค่ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ เนื้อเพลงถือว่าเป็นงานศิลปะ เพราะฉะนั้น นานาจิตตังค่ะ  ต่างคนต่างตีความไปคนละแบบ ไม่มีถูกผิดและไม่มีรูปแบบตายตัว  เหมือนกับภาพโมนาลิซ่าน่ะแหละ โมนาลิซ่ายิ้มทำไม? แล้วทำไมถึงยิ้มแบบนั้น? ไม่มีใครตอบได้ ได้แต่เดากันไปเอง ถ้าอยากรู้ความจริงก็คงต้องไปถามคนวาดเอา -_-"  เพลงนี้ก็เหมือนกัน ความคิดเห็นของเราอาจจะต่างจากคนอื่น และไม่รู้ว่าที่เดาไปถูกผิดอะไรตรงไหนบ้าง คนๆเดียวที่รู้ความหมายจริงๆของเพลงนี้คงมีแต่คนแต่งเพลง (...ซึ่งตอนนี้เราอยากไปแงะสมองเขาดูมากก หลังจากที่นั่งแปลเพลงนี้ด้วยความงงอยู่นาน ;_;) 
     
    ปล. เหมือนเดิมค่ะ...ไม่เข้าใจอะไรตรงไหนถามได้ เจอภาษาแปลกๆก็ท้วงมาได้เช่นกัน 
     
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×