คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : V
““เอกซ์เปลล์ลิอามัส!””
แสงสีแดงพุ่งตรงไปยังทิศทางที่ไม้กายสิทธิ์ชี้แต่กลับมีโล่โผล่ขึ้นมาทำให้คาถาที่ร่ายไปไม่เกิดผลลัพธ์ที่ต้องการ
“คอนฟรินโก”
หลังจากนั้นก็มีคนใส่ชุดสีดำปริศนาสองคนปรากฎขึ้นจากความว่างเปล่าและก็เกิดการสาดคาถาใส่กันของผู้วิเศษ เหล่าอเวนเจอร์ที่กำลังยืนเถียงกับโลกิก็ต้องหันมาสนใจกับสถานการณ์ตรงหน้าพวกเขาก่อนที่ธอร์จะเขวี้ยงค้อนตรงไปยังคนใส่ชุดสีดำแต่กลับมีบาเรียป้องกันเอาทำให้ไม่สามารถผ่านไปได้ ธอร์ที่เห็นอย่างงั้นถึงกับทำหน้าฉงน
แฮร์รี่และเดรโกรู้ดีว่าพวกคนตรงหน้าคือใคร เพราะชุดสีดำกับการที่ปกปิดหน้าตาอันเป็นเอกลักษณ์แบบนี้จะเป็นอะไรไปไม่ได้เลยนอกจาก ผู้เสพความตาย
เสียงสาดคาถาดังอยู่ไม่นานนักก็มีฝ่ายพลาดท่าเข้าให้แล้ว และคงไม่ต้องเดาเลยว่าใครจะชนะในศึกครั้งนี้
“เอกซ์เปลล์ลิอามัส!” เป็นเดรโกที่ร่ายคาถาออกไป และสุดท้ายมันโดน!
แฮร์รี่ที่เห็นอย่างนั้นก็ไม่รอช้ารับช่วงต่อร่ายคาถามึมงงใส่ผู้เสพความตายที่ผลาดท่าก่อนจะตามไปด้วยคาถามัดร่างกายไม่ให้ขยับไปไหน ผู้เสพความตาย อีกคนที่เห็นท่าไม่ดีก็จะทำการหายตัวแต่ก็โดนเดรโกขัดไว้และมีสภาพไม่ต่างจากอีกคนในเวลาต่อมา
“เห้อ” แฮร์รี่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยอ่อน มันเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะไม่เหนื่อยหลังจากที่พึ่งจัดการกับสัตว์ประหลาดนอกโลกและมาจัดการกับผู้เสพความตายต่อ และเดรโกก็ยังคงซึ่งท่าทีเรียบนิ่งตามฉบับเลือดบริสุทธิ์ที่ถูกสั่งสอนมาอย่างดี
พวกผู้เสพความตายนี่ชักจะบังอาจหาญกล้าขึ้นเรื่อยๆเลยแฮะ!
“เกิดอะไรขึ้นมัลฟอย?” แฮร์รี่ที่เห็นว่าเดรโกยืนนิ่งอยู่ตรงหน้าเหล่าอเวนเจอร์นานเกินไปก็อดไม่ได้ที่จะถามออกไป เขาเห็นเดรโกยืนจิ้มอากาศ? หรือแตะนะ
“มันคืออะไร?” โทนี่อดสงสัยไม่ได้กับกำแพงบาเรียตรงหน้าที่ทำอย่างไรก็ผ่านไปไม่ได้สักที ขนาดค้อนเทพก็ผ่านไม่ได้อ่ะคิดดู
โลกิที่ตอนนี้ยืนอยู่ข้างหลังเหล่าอเวนเจอร์พร้อมกับกำลังโดนเมินอยู่ก็ปลงตก ทำไมพวกมนุษย์นั่นถึงปล่อยให้เขาหลุดรอดออกไปจากสายตา? พวกมันไม่กลัวเขาจะหนีงั้นหรอแต่ถึงโลกิจะพูดอย่างนั้นเขาก็ไม่หนีอยู่ดี เพราะเพื่อนสนิทคนเดียวของเขากำลังโดนใครที่ไหนก็ไม่รู้โผล่มาและจะทำร้ายแฮร์รี่ เขาเป็นห่วง..?
เดี๋ยวนะ ทำไมเขาเป็นห่วงแฮร์รี่ขนาดนี้ เขาต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ
“อักษรรูน” เดรโกพูดขึ้นหลังจากที่ยืนเงียบอยู่สักพัก มันเป็นสิ่งเดียวที่คิดได้โดยการประมวณผลของสมองเดรโก
“นายแก้มันได้ไหมพอตตี้” เดรโกหันไปมองเพื่อนสนิทตนเอง ซึ่งคาดว่าคนสมองทึ่บแบบแฮร์รี่คงแก้ไม่ได้และเดรโกก็แก้ไม่ได้เช่นกัน.. อย่ามามองเขาแบบนั้นนะ ที่แก้ไม่ได้เป็นเพราะมันซับซ้อนเกินไปต่างหากล่ะ!
ในสถานการณ์แบบนี้อดไม่ได้ที่จะนึกถึงเฮอร์ไมโอนี่ผู้เป็นมันสมองของกลุ่ม
“ฉันไม่เคยเจออะไรที่ดูซับซ้อนขนาดนี้มาก่อน” บรูซพูดขึ้นอย่างสนใจในขณะที่หยิบหินอะไรสักอย่างขึ้นมา
แต่อยู่ๆกำแพงบาเรียที่กันพวกเขากับอเวนเจอร์ก็พังทลายลง ทำให้ตอนนี้สามารถผ่านไปได้ โลกิที่เห็นอย่างนั้นก็พุ่งตรงไปหาแฮร์รี่ทันที “นายไม่เป็นอะไรใช่ไหม” แฮร์รี่สัมผัสได้เลยว่าโลกิเป็นห่วงจากน้ำเสียงของเขา อดไม่ได้ที่หัวใจของเขาจะฟู “ไม่เป็นไรฮะ” ก่อนจะยิ้มตอบอีกฝ่าย
“อะแฮ่ม!” เสียงไม่เบาไม่ดังมากขัดบรรยากาศที่เกิดจากทั้งสอง
“โอ้ย!” เสียงโทนี่ร้องขึ้น สาเหตุมาจากการโดนตบหัวของใครบางคนที่เจ้าตัวก็ไม่รู้ เขาแค่เจ็บคอเลยไอนิดหน่อยเอง ทำไมต้องทำร้ายร่างกายกันด้วย
“เผื่อจะยังไม่ลืมว่าแกมีคดีติดตัวนะโลกิ” ไม่วายหันมาพูดใส่ทั้งสองที่ยืนมองหน้ากันโดยไม่ขยับไปไหนและแน่นอนว่าโลกิหันมามองเหยียดโทนี่นิดหน่อยตามนิสัยเจ้าตัวก่อนจะหันกลับไปหาแฮร์รี่ที่ตอนนี้ดูเหมือนจะคิดได้ว่าโลกิมีคดีติดตัว
โลกิมองแฮร์รี่ที่ตอนนี้กำลังเบือนหน้าหนีจากตนเอง “แฮร์รี่ ข้า..” โลกิพยายามจับมือเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของเขาแต่ก็ไม่วายโดนอีกฝ่ายชักมือกลับหลังจากที่รู้ตัวว่าโลกิทำอะไรไว้บ้าง
“เจ้าเป็นเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของข้านะแฮร์รี่..” โลกิช้อนตามองแฮร์รี่หวังให้อีกฝ่ายเห็นใจเหมือนทุกครั้งที่โลกิมักจะทำแฮร์รี่โกรธแต่ผลลัพธ์กลับไม่เป็นไปตามที่หวัง แฮร์รี่สะบัดหน้าหนีสายตาที่กำลังจ้องมองมายังตนอย่างเว้าวอน
เขาจะให้อภัยโลกิได้อย่างไร สิ่งที่โลกิทำคือการทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องตายเชียวนะ.. โลกิคิดจะยึดครองที่นี่ทำไม ไม่สิ ทำไมโลกิคิดจะยึดครองที่นี่ พอมาคิดดูแล้วจริงๆสุดท้ายแฮร์รี่ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับโลกิเลยและโลกิเองก็ไม่เคยรู้อะไรเกี่ยวกับแฮร์รี่เช่นกัน
“เจ้าอย่าเงียบเช่นนี้สิ” โลกิว่าพลางเอื้อมมือตนเองไปลูบแก้มนุ่มนิ่มของแฮร์รี่และไม่วายโดนปัดมือออก
ถึงแฮร์รี่จะบอกว่าโลกิทำเรื่องที่ไม่น่าให้อภัยสุดท้ายเขาก็เลิกเป็นเพื่อนกับโลกิไม่ได้อยู่ดี แฮร์รี่โกรธโลกิเรื่องนี้โลกิรู้ซึ่งเขาไม่อยากโดนเพื่อนสนิทคนนี้ของเขาโกรธ มันทำให้เขาแทบอยากจะทึ่งหัวตัวเองซะตอนนั้นว่าทำอะไรอยู่กันแน่ “ข้าไม่อยากให้เจ้าโกรธข้า” ถ้าไม่อยากให้โกรธแล้วทำไมถึงทำเรื่องแบบนี้เล่า มันคงน่าให้อภัยมั้ง!
“พอเลย ผมไม่โกรธแล้ว” มั้งนะ
แต่ทันทีที่พูดอย่างงั้นโลกิก็คลี่ยิ้มออกมาเสมือนถูกของทับอกแล้วโดนยกออกแต่ก็ต้องหุบยิ้มฉับพลันเมื่อน้ำเสียงกวนประสาทดังขึ้นมาขัดและเจ้าของเสียงนั้นจะเป็นใครไม่ได้เลยนอกจาก โทนี่ สตาร์ค
“ดูสิ พ่อเรนเดียร์ยิ้มออกมาแล้วหลังจากที่หน้าตึงเหมือนไปฉีดโบท็อกมา”
และคงไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมโลกิกลับมาหน้าตึงต่อพร้อมยืนเถียงกับโทนี่เสมือนที่นี่คือบ้านตนเอง นาตาชาที่เริ่มเอือมก็ทำได้แค่ยืนเท้าเอวมอง ส่วนสตีฟก็ยืนกอดอกมองสถานการณ์ตรงหน้าที่ไม่คิดจะเข้าไปขัด ซึ่งโลกิเหมือนจะลืมเป้าหมายของตนเองไปแล้วว่ามาทำอะไรที่นี่กะนแน่ ธอร์ผู้ซึ่งจะมาจับโลกิกลับแอสการ์ดได้แต่ยืนเฝ้ารออนุชาตนยืนด่ากับโทนี่ให้เสร็จ
“ข้าไม่อยากจากเจ้าไปเลย” ถ้าเหล่าอเวนเจอร์ได้ยินประโยคนี้นั่นก็คงเป็นคำพูดของโลกิที่น่าสะอิดสะเอียนที่สุดหลังจากทราบวีรกรรมที่ก่อ “แล้วทำไมคิดทำเรื่องพวกนี้ล่ะครับ” ปากเล็กงึมงำเสียงแผ่วเบา ซึ่งแฮร์รี่ก็ยังยืนยันคำเดิมว่าถ้าไม่อยากไปแล้วทำไมถึงทำเรื่องยุ่งยากพวกนี้เล่า!
“ขอโทษ” เป็นเพียงไม่กี่ตัวอักษรที่ทำให้แฮร์รี่จดจำมันได้ไปจนวันตายแน่นอน
ทั้งสองมองหน้ากันอยู่นานก่อนที่แฮร์รี่จะเอ่ยขัดบรรยากาศที่แสนเงียบเชียบนี้
…
“สัญญาไหมครับ ว่าจะกลับมาหาผม”
“ข้าสัญญา”
“แล้วเจ้าล่ะ สัญญาหรือไม่ว่าจะรอข้า”
“ผมสัญญาฮะ”
..? เกิดอะไรขึ้นนี่ มันเกิดอะไรขึ้น โอ้ว้าว เพื่อนสนิทที่ไหนเขาทำกันอย่างนี้ โปรดจงจำไว้ว่าเพื่อนสนิทแบบโลกิทำเองงง
ปล. โปรดจงอย่าใช้ความสมเหตุสมผลในการอ่านเรื่องของไรท์ปล.2 นู๋รี่ลูกเราก็เป็นได้แค่เพื่อนสนิทของคุณโลกิเขาแหละค่ะทุกคน เป็นได้แค่นี้จริงๆ เอาใจช่วยนู๋รี่เราด้วยนะคะ คำว่าเพื่อนสนิทโลกิพูดเบาๆก็เจ็บ
ปล.3 แต่ลุงโทนี่เขามีบทเยอะแปลกๆนะคะนั่น
จาก ไรท์
แก้คำผิด : ❌
ความคิดเห็น