คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #1 : |
กระทรวงเวทมนตร์อังกฤษในยามนี้มีผู้คนมาทำงานมากมายเหมือนปกติ แต่ก็มีสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนในกระทรวงต่างวุ่นวายกันจ้าละหวั่นเพราะใครบางคน
“แฮร์รี่! นายจะไปไม่ลาแบบนี้ไม่ได้นะ! รู้ไหมฉันน่ะใจหายแค่ไหน!” และนั่นเป็นเสียงของรอน วิสลี่ย์ที่เอ่ยเรียกเพื่อนสนิทอย่างแฮร์รี่ พอตเตอร์
“ฉันแค่ลาออกจากกระทรวงเอง นายอย่าเวอร์ไปหน่อยเลยรอน” แฮร์รี่ปลงตกกับความเวอร์วังของเพื่อนนี้รอบที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้เพราะเจ้าตัวชอบโอเวอร์เกิดเหตุทุกครั้ง
“ฉันจะคิดถึงนายแฮร์รี่” ว่าเสร็จก็พุ่งตัวไปกอดคนตรงหน้าต่อ
“นายรู้ไหมว่าฉันโดนเฮิร์มบ่นจนหูชาเรื่องที่นายไปไม่บอกไม่กล่าวกันแบบนี้” อ้อ ที่มานี่คือมาโทษกันนี่เอง
“และอย่าคิดว่าฉันมาโทษนายนะ ฉันแค่มาบอกลาและความคิดถึงเท่านั้นต่างหาก!”
“โอเคๆ ทีนี่นายก็ปล่อยฉันได้แล้วล่ะรอน” นานแล้วที่แฮร์รี่ไม่ได้รู้สึกใจหายและมีความสุขขนาดนี้ ใจหายที่ต้องจากเพื่อนไป และมีความสุขที่ตัวเองได้พักผ่อนกับคนอื่นเสียบ้างใช้เวลากับตัวเองให้มากขึ้น เขาเริ่มทำงานที่กระทรวงตั้งแต่ตอนที่ได้ปราบจอมมารลง นานแล้วจริงๆที่แฮร์รี่มีความสุข
“แล้วนายจะไปตอนไหนล่ะ ไม่สิ ฉันต้องถามว่านายจะไปที่ไหนเมื่อไร”
“ว่าจะไปอเมริกา และไปวันนี้เลย” พูดเสร็จพลางรอบสังเกตุคนตรงหน้าไปด้วย
“แฮร์รี่!!!!”
ดีนะที่เฮอร์ไมโอนี่ติดงานเขาเลยไม่ได้ยินเสียงบ่นของเธอเข้า
หลังจากที่รอดตัวมาจากรอนได้เขาก็กลับมาคฤหาสน์พ่อทูนหัวของตัวเอง คฤหาสน์หลังนี้ทำให้เขาต้องนึกถึงคนที่จากไปแล้วอย่างซีเรียส แบล็คทุกทีทำให้แฮร์รี่ไม่อยากจะกลับมาสักเท่าไร แต่เพราะมีเหตุจำเป็นเลยต้องกลับมา
“ยินดีต้อบรับกลับครับคุณชาย” ครีเชอร์ หรือเอลฟ์ประจำบ้านปรากฎตัวขึ้นทักทายผู้เป็นนายของตน
“สวัสดีฮะ” เขาตอบกลับไปก่อนที่จะให้มันไปทำอย่างอื่นต่อ
ขาเรียวก้าวเท้าขึ้นตรงไปยังห้องๆนึงที่ถูกปิดผนึกเอาไว้ก่อนจะไขกุญแจเข้าไปข้างไหนเพื่อเอาสิ่งที่ต้องการ
แฮร์รี่ก้าวลงจากยานพาหนะของมักเกิ้ลพร้อมสำรวจข้าวของเครื่องใช้ที่นำมาและยื่นเงินให้มักเกิ้ลที่มาส่งเขาไป เขาเลือกมาอเมริกาเพราะว่าต้องการพักผ่อนหรือจริงๆแล้วก็คือรักษาจิตใจสำหรับเรื่องราวที่เกิดขึ้นในฮอกวอตส์นั่นเอง แต่ถึงอย่างนั้นการพักผ่อนของเขาคือการเปิดร้านหนังสือก็เถอะ
แฮร์รี่มองเบื้องหน้าที่ปรากฎเป็นร้านหนังสือธรรมดาๆร้านหนึ่ง ซึ่งต่อไปนี้มันคือบ้านและที่ทำมาหากินของเขา ไม่ใช่ว่าเขาไม่มีเงินหรอกนะ แต่เป็นเพราะเขาลืมเอามันมาจากธนาคารกริงกอตส์และมันทำให้ตอนนี้เขามีเงินอยู่ไม่กี่เกลเลียนน่ะสิ
ชีวิตเขาช่างน่าอนาจดีแท้
ยามเช้าของอีกวันมาถึง เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นบ่งบอกถึงเวลาที่ต้องตื่นนอนของเขา แฮร์รี่ลุกขึ้นจากเตียงพร้อมทั้งทำภารกิจยามเช้าให้เสร็จ หลังจากนั้นเขาก็จัดการเตรียมของและพาตัวเองลงไปข้างล่าง ยามนี้มันเป็นร้านหนังสือและมีหนังสือมากมายให้เลือกซื้อ เขาเข้าไปที่เคาเตอร์ของร้านพร้อมตรวจดูความเรียบร้อยเตรียมเปิดร้าน
นี่สิ! คือการพักผ่อน(สำหรับแฮร์รี่)ที่ใฝ่ฝัน!
กรุ๊งกริ๊ง
”ยินดีต้อนรับครับ” แฮร์รี่เอ่ยทักทายก่อนจะเลื่อนสายตาไปมองคนตรงหน้าที่เขามายังร้านแห่งนี้
“ไปไม่ลากันเลยนะ พอตตี้” เสียงติดเล่นนิดๆดังขึ้นของเจ้าตัวบ่งบอกได้ว่าเป็นใคร
“เฟอเรท! นายมาที่นี่ได้ยังไง?!” คนตรงหน้าคือ เดรโก มัลฟอย ยังไงล่ะ
“เลิกเรียกฉันแบบนั้นสักทีพอตตี้” ลอร์ดมัลฟอยหน้าดำคล้ำทันทีที่ได้ยินฉายาอันไม่น่าอภิรมย์นัก
“นายก็เลิกเรียกฉันแบบนี้สิ” เหมือนมีกระแสไฟฟ้าเกิดขึ้นระหว่างสองคน เดรโกจ้องหน้าแฮร์รี่และแฮร์รี่ก็ไม่ยอม จ้องกลับเหมือนกัน
แต่ถึงอย่างนั้นเขากับเดรโกก็เป็นเพื่อนสนิทกันอยู่ดีหลังจากจบเรื่องจอมมารลงและเปิดใจคุยกันดีๆ(?) ซึ่งด้วยความที่เป็นคู่อริกันมาก่อนมันก็อดไม่ได้ที่จะแซะหรือกัดกันทุกครั้งไป
“ฉันแค่จะมาพักผ่อน” ไม่ว่าปล่าว ลอร์ดมัลฟอยก็เดินดูหนังสือในร้านที่มีหนังสือมักเกิ้ลซึ่งยากจะได้เห็นนัก
“ไม่คิดว่าพวกคลั่งเลือดบริสุทธิ์อย่างนายจะอ่่านหนังสือมักเกิ้ลได้นะ” แฮร์รี่อดไม่ได้ที่จะเอ่ยแซะคนที่เดินดูหนังสืออยู่อย่างไม่ใส่ใจอะไร
“ ..ไม่คิดเหมือนกัน” มัลฟอยหยุดเดินพร้อมหันมามองหน้าอีกคนก่อนจะกลับไปสนใจหนังสือต่อและตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจกับคำถากถางของเพื่อนสนิทตนเองนัก
และไม่นานลอร์ดมัลฟอยก็หาหนังสือที่ถูกใจได้เป็นเวลาเดียวกับเสียงกระดิ่งที่ดังขึ้นและมีร่างของชายคนนึงเดินเข้ามายังร้าน
แฮร์รี่และเดรโกหันมามองหน้ากันพร้อมกับคิดในใจว่า ‘ชุดเขียวอย่างกับสลิธีริน’
“ยินดีต้อนรับครับ” และยังคงเป็นแฮร์รี่ที่กล่าวทักทายคน(?)เข้ามาใหม่
“สวัสดีเจ้าพวกมนุษย์ต้วจ้อยทั้งสอง ข้าโลกิ บุตรแห่งโอดิน และเป็นเจ้าชายแห่งแอสการ์ด” คนมาใหม่ยิ้มเยาะแนะนำตัวเองด้วยประโยคที่คิดขึ้นมาอย่างมั่นใจ
และก็เป็นอีกครั้งที่แฮร์รี่กับเดรโกคิดพร้อมกันว่า ‘หลุดออกมาจากเซนต์ มังโกรึไง?’
“เอ่อ.. ผมแฮร์รี่ แฮร์รี่ พอตเตอร์ครับ เป็นเด็กชายผู้รอดชีวิต” เขาคิดว่าเล่นด้วยสักหน่อยคงไม่เป็นไร
“…” เดรโกปวดหัวกับการที่แฮร์รี่กำลังเล่นตลกที่มันไม่ตลกเลยสักนิด!!
“เด็กชายผู้รอดชีวิต? เจ้ากำลังพูดถึงสิ่งใดกันเจ้ามนุษย์”
“รู้ไหมฮะ ผมน่ะเป็นคนปราบจอมมารเลยนะ!” ยังไม่หยุด เพราะตอนนี้แฮร์รี่กำลังสนุกสุดๆ
‘เห้อ’ เดรโกอยากออกไปจากตรงนี้ แต่คิดได้ดังนั้นก็ไปดีกว่า เดรโกค่อยๆเดินออกไปจากร้านและออกไปได้สำเร็จปล่อยให้แฮร์รี่อยู่ตรงนั้นคนเดียว
“จริงหรือ เจ้าเคยปราบจอมมารจริงรึ?” โลกิก็เล่นกับแฮร์รี่ด้วยความที่เห็นว่าแฮร์รี่ยังเป็นเด็ก(?)
“จริงฮะ ผมเกือบเอาชีวิตไม่รอดแหนะ”
คนนึงที่คิดว่าอีกคนเป็นบ้าและอีกคนที่คิดว่าคนนึงยังเด็ก
หลังจากวันนั้นที่แฮร์รี่ได้เจอกับโลกิ โลกิก็มักจะมาหาเขาบ่อยๆมานั่งอ่านหนังสือในร้านบ้างมานั่งคุยกับเขาบ้าง เข้าออกร้านเขาเป็นว่าเล่นเลย และลูกค้าของเขาน่ะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆเลยล่ะแต่เพราะอะไรแฮร์รี่ก็ไม่ทราบ ซึ่งวันนี้ก็เป็นอีกวันที่โลกิเข้ามาในร้านของเขา
กรุ๊งกริ๊ง
“ยินดีต้อนรับครับ”
“สวัสดีเจ้ามนุษย์ตัวน้อย วันนี้มีหนังสืออะไรที่น่าสนใจอีกบ้างไหม” ว่าพลางก็กวาดสายตาไปรอบๆร้านหนังสือที่มาเป็นประจำ
“โอ๊ะ! มีแน่นอนฮะ เดี๋ยวผมไปเอามาให้ แล้วโลกิรับชาไหมฮะ”
“ได้ก็ดี” โลกิหันมองเจ้าของร้านตัวน้อยที่สูงเพียงอกของตนเองที่ตอนนี้กำลังหาหนังสือมาให้เขา
‘เหมือนกระรอกจริงๆ’ โลกิอดแอบคิดไม่ได้เลย
ผ่านไปไม่นานแฮร์รี่ก็หาสิ่งที่คิดว่าโลกิจะสนใจเจอพร้อมทั้งไปเตรียมชาให้สำหรับอ่านหนังไปด้วยพร้อมกัน
“นี่ครับ เป็นเรื่องเกี่ยวกับเทพกรีกล่ะ! คิดว่าโลกิน่าจะชอบนะฮะ” แฮร์รี่ยืนรอคล้ายกับว่าต้องการคำชมอยู่ร่ำไป
“ก็.. ดี” โลกิกดยิ้มเอาไว้ไม่ให้แสดงออกมามากเกินไป
“ใช่ไหมล่ะฮะ!” ตอนโลกิแสดงออกมาแบบนี้มีสเนห์ที่สุดเลย!
ไอ้หัวใจบ้า อย่าเต้นแรงนักสิ!
เปิดมาก็เอาเลยหรอคะนู๋รี่ มันก็จะเกินนน แล้วแบบเดรโกแกทิ้งเพื่อนไว้กับคนบ้า(?)เนี่ยนะ สงสารนู๋รี่มากนะ เป็นผู้ถูกกระทำมากเวอร์
เดรโก : …?
จาก ไรท์
แก้คำผิด : ❌
ความคิดเห็น