ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Bear Day วันของหมี(End)

    ลำดับตอนที่ #2 : วันของหมี : หมีสิงหมี

    • อัปเดตล่าสุด 3 มี.ค. 66


    “พี่ ผมกลับแล้วนะครับ!” 

     

    เสียงรายงานตัวกับผู้จัดการร้านสะดวกซื้อของแบร์ดังขึ้น ร่างสูง 170 รูปร่างไปทางอวบ ในชุดเสื้อยืดตัวใหญ่กับเป้สะพายหลังชะโงกหน้าไปบอกผู้จัดการที่อยู่ภายในหลังร้าน 

     

    “เออๆ กลับดีๆละ เจอกันพรุ่งนี้” 

     

    “คร้าบบบบ” 

     

    แบร์ หรือพ่อแม่และพี่ชายอีก 3 คนชอบเรียกว่า น้องหมี ตอบกลับเสียงใสมือที่ติดจะอวบนิดๆล้วงกระเป๋ากางเกงหยิบมือถือของตนขึ้นมาสไลด์หน้าจอเช็กนู่นนี่ตามที่ตนเองสนใจ 

     

    ร่างอวบแต่เพราะสูงอยู่พอควรจึงทำให้ดูไม่หน้าเกลียดเกินไปเดินออกจากร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่งในหมูบ้านขนาดกลาง แบร์เป็นลูกชายคนสุดท้องของบ้านสกุลพิทักษ์ บ้านแบร์ฐานะเรียกว่าปานกลางไม่มีหนี้สินแต่ก็ไม่ได้ร่ำรวย พี่ชายทั้ง 3 ของแบร์ล้วนจบวุฒิ ปวส. กันทั้งสิ้นส่วนเขาก็ดูจะเจริญรอยตามพี่ๆทั้งสามไม่ต่างกัน 

     

    แบร์เพิ่งจะไปสมัครเข้าวิทยาลัยแถวตัวเมืองมาเมื่อเดือนก่อนนี้เอง อีกราวๆ 2 อาทิตย์กว่าวิทยาลัยถึงจะเปิดช่วงนี้แบร์เลยมาหางานพิเศษทำ ซึ่งก็ได้งานเป็นพนักงานร้านสะดวกซื้อห่างจากบ้านแค่ 2 กิโลเท่านั้น 

     

    แกร็ก

     

    “ฮึบ ” 

     

    ร่างของเด็กวัยรุ่นอายุ 16 ปีปลดกุญแจที่ล็อคจักรยานคันโปรดซึ่งมีไว้ใช้ปั่นมาทำงานออกจากราวเหล็กไม่ไกลจากร้าน ก่อนจะกระโดดขึ้นไปนั่งบนเบาะใช้เท้าถีบออกไปจากซอยข้างร้านอย่างรวดเร็ว ตั้งใจว่าจะรีบไปกลับบ้านเพราะเมื่อกี้เขาเพิ่งพิมพ์อ้อนแม่ไปว่าอยากกินแกงส้มของโปรดตัวเอง 

     

    ถนนหนทางยาม 2 ทุ่ม ไม่ถือว่าเงียบเหงามากนัก แม้จะเป็นเมืองขนาดกลางแต่เพราะบ้านแบร์อยู่เกือบๆติดขอบเมืองจึงมีคนน้อยกว่าในเมืองมาก รถก็น้อยมีเพียงรถใหญ่กับรถของคนแถวนี้ที่ต้องขับกลับบ้านทางนี้เท่านั้น 

     

    ถนนสองเลนขาไปกับขากลับ แบร์ปั้นจักรยานของตนเองบนฟุตบาทเพื่อให้ปลอดภัยในยามกลางคืน แม้ว่าท้ายจักรยานของเขาจะมีไฟสีแดงติดไว้เพื่อเป็นตัวบ่งบอกว่ามียานพหนะคันเล็กๆอยู่ตรงนี้อยู่แล้วก็ตาม 

     

    “ฮึม ฮือ ถ้าเราได้ -”

     

    ปี้ดดดดดด

     

    “เหวอออออออ เชี่ย!” 

     

    โคร้ม! 

     

    ติ้ดๆ ๆ ๆ ๆ

     

     

     

     

     

    “อึก ปวดทั้งตัวเลยเฮะ?” 

     

    เสียงใสพูดขึ้นมาก่อนจะพยายามพยุงร่างตัวเองลุกจากพื้นแข็งที่ตัวเองนอนอยู่ สายตาคอยๆปรับเข้ากับภาพตรงหน้าก่อนคิ้วจะขมวดเป็นปมเพราะสงสัยว่าที่นี่คือที่ไหน? 

     

     

    “โอ้ย! เจ็บวุ้ย” มืออวบถูกยกขึ้นมากุมหัวตัวเอง ก่อนจะสะดุ้งตกใจเพราะเจอกับบางอย่างที่แปลกไปจากปกติ 

     

    “อะไรอยู่บนหัววะ แล้วทำไมผมยาวกว่าเดิม” แบร์ที่เริ่มตั้งสติได้ค่อยๆลูบที่หัวตัวเองอย่างสำรวจ มือที่จับไปทั่วสัมผัสโดนบางอย่างที่นุ่มฟูฉับพลันแบร์ก็ต้องตกใจ จากตอนแรกใช้มือเดียวจับตอนนี้จึงยกอีกข้างขึ้นจับพบว่ามืออีกข้างก็สัมผัสกับสิ่งที่ดูนุ่มฟูไม่ต่างกัน 

     

    “อะไรวะ ! อะไรอยู่บนหัว! แล้วทำไมผมยาวกว่าเดิมอะ!!” 

     

    มือเริ่มสำรวจส่วนหัวลงมาที่ผมเมื่อจับดูก็พบว่าผมดูยาวกว่าปกติหลายเท่า แบร์ตัดผมสั้นเกียนทรงนักเรียนไทยเดิมมาตลอด ทำไมอยู่ๆผมก็ยาวขึ้นมาจนถึงหลังหูแบบนี้ละ แล้วทำไมมือแบร์ดูแปลกไป!!!

     

    “โอ้ แบร์!! มือใครครับเนี่ย!! ”

     

    สายตามองเห็นมืออวบอิ่มดูนุ่มนิ่มกว่าเดิมทำเอาแบร์ถึงกับตกใจ แม้เขาจะเป็นคนที่เจ้าเนื้ออยู่บ้างแต่ก็ไม่ได้เจ้าเนื้อขนาดนี้หรือป่าว? แล้วที่อยู่บนหัวที่เหมือนหูนี่ละ? ไม่ใช่ว่าแบร์มีหูอยู่แล้วหรอกเหรอ!? มืออวบจับหูสองข้างของตัวเองก็พบว่ามีอยู่ที่เดิมงั้นแสดงว่าตอนนี้แบร์มี 4 หูเหรอ 

     

    วอท!!

     

    “โอ้ย มึนสั* ไม่ใช่ว่าเรากำลังปั่นจักรยานกลับบ้านแล้ว- ” คิ้วเรียวสวยขมวดชิดกันมากกว่าเดิมก่อนดวงตาสีน้ำตาลอ่อนจะเบิกกว้างเพราะนึกเหตุการณ์ของตัวเองออกแล้ว

     

    ใช่แล้ว!! แบร์กำลังปั่นจักรยานกลับบ้านแต่เพียงแค่ไม่กี่วินาที แบร์ที่กำลังปั่นจักรยานบนฟุตบาทกลับโดนรถสิบล้อที่พุ่งทะลุจากเลนตรงข้ามมาชนเขาที่อยู่บนฟุตบาทอย่างรวดเร็ว แรงปะทะทำเอาร่างทั้งร่างของแบร์ปวดระบมไปหมด ความเจ็บที่เกิดขึ้นทั่วร่างบ่งบอกได้เลยว่าถ้าแบร์รอดไปได้จริงๆร่างกายจะต้องใช้ไม่ได้ไปหลายส่วนแน่ๆ 

     

    “นี่ โรงบาล?” สายตากวาดมองรอบห้อง แต่มันดูไม่เหมือนโรงพยาบาลเลยเฮะ แถมไม่มีสายน้ำเกลือหรือรอยเจาะของเข็มบนแขนเลยสักนิดแล้วแบร์อยู่ที่ไหนกันละ ??

     

    ร่างแบร์ขยับไปนั่งมองรอบห้องอย่างละเอียดอีกรอบ ภายในเหมือนจะเล็กกว่าห้องนอนของแบร์เลยมันกว้างพอให้จุเตียงนอนพื้นแข็ง 1 เตียงวางอยู่ มีช่องว่างเว้นไว้ข้างเตียงให้เดินเท่านั้นส่วนอีกฝั่งเตียงก็ติดกำแพงที่ดูเหมือนจะเป็นเหล็ก ส่วนประตูไม่มีให้ปิดพอมองออกไปก็จะเห็นโต๊ะเล็กและเก้าอี้เพียงตัวเดียววางอยู่ส่วนรอบๆเหมือนจะเป็นห้องครัว 

     

    “โอ้ย!” 

     

    ในตอนที่แบร์กำลังลุกจากเตียงที่ตัวเองนั่งอยู่ อาการปวดหัวจี้ดก็กำเริบมืออวบทั้งสองก็ยกขึ้นมากุมหัวก่อนความทรงจำของคนบางคนจะไหลเข้ามาในหัวอย่างเป็นเรื่องเป็นราว

     

     

    เด็กชายตัวน้อยลืมตาตื่นขึ้นมาวันหนึ่งมีเสียงคอยเรียกเขาว่า ‘ลูกแม่’ ตลอดเวลา สายตาปรับไปเห็นใบหน้าของหญิงสาวใบหน้าอวบอิ่มคนหนึ่ง แก้มตุ่ยอมชมพูดวงตากลมโตมีหูสีน้ำตาลอยู่ด้านบนผมยาวสีดำสนิทอยู่สองอันก่อนจะได้ยินอีกเสียงเดินมาใกล้กันพร้อมเอ่ยว่า 

     

    ‘เจ้าก้อนขนของพ่อลืมตาแล้วสินะ’ 

     

    เสียงดูทุ้มนุ่มน่าฟังพร้อมใบหน้าของชายหนุ่มดูหล่อใช้ได้คนหนึ่งโผล่มา บนหัวของชายคนนั้นมีหูลักษณะเหมือนกันกับผู้หญิงก่อนหน้าแต่เพียงต่างสีกันเท่านั้น เพราะของผู้ชายเป็นสีแดงส้มแต่ของผู้หญิงเป็นสีน้ำตาลอมเหลืองนิดๆ 

     

    ‘ลูกหมี อย่ากินลูก’

     

    ‘ฮาฮ่าๆ ลูกพ่อช่างกินเก่งเสียจริง’

     

    ภาพเรียงกันเป็นช่วงเวลาต่างๆ เด็กน้อยคนนั้นที่อยู่บนเตียงเริ่มคลานได้ เริ่มหัดเดิน รอยยิ้มแสนสุขกับบ้านหลังน้อยที่ใหญ่กว่าตอนนี้ 1 เท่าดูอบอุ่นพร้อมด้วยเสียงหัวเราะ 

     

    ‘ที่รัก ดูลูกเราสิ โตขึ้นมากเลยนะ’

     

    ภาพเปลี่ยนไปจนถึงวันที่เด็กน้อยชื่อว่า ลูกหมี ได้เติบโตครบ 5 ปี พ่อผู้ขยันทำงานอยู่ในโรงงานผลิตอะไหล่ AI ที่กลับมาบ้านก็ตรงเข้ามาหอมแก้มลูกหมีและกอดภรรยาแสนรัก แม่ผู้แสนดีก็คอยดูแลลูกหมีทั้งวันแต่ก็ไม่ลืมทำงานบ้านพร้อมเตรียมของ และอาหารเที่ยงที่เป็นเพียงอาหารสังเคราะห์ให้สามีตนเองตลอด พอพ่อกลับบ้านก็เตรียมน้ำและเสื้อผ้าให้เปลี่ยนทั้งยังนวดไหล่ และเก็บชุดให้ตลอด 

     

    ‘แม่ฮะ’

     

    ‘แม่ขอโทษนะลูกหมี แม่คงต้องนอนพักก่อนลูกแล้วละ อยู่กับพ่อห้ามดื้อ ห้ามซน เข้าใจไหม’

     

    ‘ฮะ’ 

     

    ภาพเปลี่ยนจากวันแห่งความสุขเป็นภาพเตียงในห้องนอนของแม่ พร้อมด้วยแม่ที่ใบหน้าซีดทรุดโทรม ปากแห้ง ใบหน้าก็ดูหมองคล่ำ มือของแม่ที่บีบเบาๆบนมือเล็กๆของลูกหมีดูไร้แรวแรง พร้อมคำพูดก่อนที่ภาพจะเปลี่ยนจากบ้านแสนอบอุ่น เป็นห้องเล็กๆที่อยู่ตอนนี้ 

     

    ภาพพ่อผู้แสนอ่อยโยนกลายเป็นเงียบขรึม รอยยิ้มอ่อนล้าที่เห็นทำเอาลูกหมีที่อยู่บ้านคนเดียวตลอดไม่กล้าบอกว่าตัวเองยังไม่ได้กินอะไรเลย พอพ่อกลับมาพร้อมอาหารสังเคราะห์เด็กน้อยก็เปลี่ยนไปยกน้ำและอาหารมาให้พ่อกิน ก่อนพ่อจะอาบน้ำและเข้านอนทิ้งเด็กน้อยนามว่าลูกหมีวัยเพียง 10 ปีเก็บกวาดบ้านเก็บครัวและซักเสื้อผ้าให้พ่อตัวเองในห้องน้ำอย่างเงียบๆ 

     

    ‘พ่อขอโทษนะลูก’

     

    ‘ไม่เป็นไรฮะ ลูกหมี จะไม่ดื้อ ไม่ซนฮะ’ 

     

    เด็กชายแก้มตุยส่วนสูงเพียง 155 ในวัยเพียง 14 ปี พูดขึ้นพร้อมยิ้มกว้างให้พ่อที่นอนอยู่บนเตียง ใบหน้าคนเป็นพ่อดูโทรม ทั้งยังหมองคล้ำ ปากแห้ง และดูอ่อนล้ามากจนลูกหมีได้แต่ฝืนส่งยิ้มให้ 

     

    ภาพสุดท้ายของพ่อคือวันนั้น ก่อนจะเป็นภาพศพของพ่อที่ถูกทางการจัดการให้เรียบร้อยตามกฏหมายของ The Agate สุดท้ายเด็กชายนามลูกหมีก็เหลือเพียงตัวคนเดียวในบ้านที่เป็นเหมือนตู้เล็กๆที่มีเพียง 1 ห้องนอน  1 ห้องน้ำและห้องครัวที่เป็นโซนกินข้าวไปในตัว 

     

    เด็กชายชื่อลูกหมีใช้ชีวิตอย่างลำบากเพราะอายุเพียง 14 ปีซึ่งกฏหมายของ AG ไม่สามารถให้ทำงานได้ อีกทั้งดาวที่ลูกหมีอาศัยอยู่คือดาวเคราะห์ที่ยากจนที่สุดดาว Ruby (รู-บี) งานจึงไม่มีให้ทำ สิ่งที่เด็กชายวัย 14 ทำได้คือเก็บขยะไปแลกพีส์ซึ่งได้ไม่มากเพราะลูกหมียังไม่มีสถานะ 

     

    ตามกฏหมายของบุคคลใน TA ทุกคนมีสถานะก็ต่อเมื่ออายุครบ 16 ปี ส่วนเด็กจนถึงวัย 16 ปีจะต้องอยู่ในความดูแลของผู้ปกครอง หากไม่มีจะต้องอยู่ในความดูและของสถานสงเคราะห์ในเครื่อสหพันธรัฐ AG จนกว่าจะครบ 16 ปีเพื่อออกไปหางานเมื่อเติบโต 

     

    แต่เพราะเมื่อ 2 เดือนก่อนพ่อของลูกหมีเพิ่งเสียไปด้วยโรคระบาดที่หาทางแก้ไม่ได้เหมือนๆกับแม่ของลูกหมี ตอนนี้ทางสหพันธรัฐในหน่วยการจัดการทรัพยากรบุคคล จึงยังไม่สามารถส่งคำร้องให้ลูกหมีเข้าสถานสงเคราะห์ได้เพราะต้องรอผลตรวจทางการแพทย์ซึ่งต้องใช้เวลานานหลายเดือน 

     

    ผ่านไปหลายเดือนเงินเก็บของพ่อที่มีเริ่มจะไม่พอสำหรับค่ากินและอยู่ของลูกหมี เพราะเอเบิลหรือบ้านเล็กเท่ารูหนูนี้ต้องจ่ายค่าเช่าตลอดเป็นจำนวนเดือนละ 1,000 Ps ส่วนอาหารที่ต้องกินก็ตกเดือนละ 700 Ps ตอนนี้เงินที่มีเก็บจึงใกล้จะหมดลูกหมีจำต้องทำวิธีเดียวกับผู้ที่ไร้บ้าน และไร้สถานะคนอื่นๆในดาวรูบีนี้นั้นคือการเก็บขยะไปขาย 

     

    จนแล้วจนรอดผ่านไป 1 ปีสถานะของลูกหมีก็ยังไม่ได้ เมื่อวานลูกหมีไปเก็บขยะมาขายเพราะต้องจ่ายค่าเช่าบ้านแล้ว แต่ดวงซวยโดนคนอื่นฟาดหัวเพื่อขโมยของดีที่หามาได้ ร่างอวบจากกรรมพันธุ์ฝั่งแม่บวกความเตี้ยเป็นการส่วนตัว จึงลากสังขารกลับมาที่บ้านอย่างลำบากลำบน สุดท้ายล้มตัวนอนบนเตียงแล้วทนอาการบาดเจ็บไม่ไหวตายลงอย่างเงียบๆในบ้านคนเดียวไร้คนมองเห็น 

     

    “อ้า สู้ชีวิต แต่ชีวิตสู้กลับเฮะ” 

     

    ความทรงจำของร่างที่แบร์เข้ามาอยู่ทำเอามึนหัวไปเกือบ 10 นาทีก่อนปะติดปะต่อเรื่องได้ว่า แบร์โดนรถชนตาย แล้วคงเข้ามาอยู่ในร่างของลูกหมีซึ่งก็คือเด็กคนนี้ที่ตายเพราะโดนฟาดหัวแตก 

     

    “อู้ย ”  แบร์ยกมือลูบหลังหัวที่โดนของแข็งซึ่งเป็นอะไรไม่รู้ฟาดก่อนจะพบว่าจุดนั้นเหมือนมีอะไรเกาะอยู่ ก็พอเดาได้ว่าคงเป็นเลือดที่แห้งตัวเพราะแบร์เข้ามาอยู่ในร่างนี้หลังจากตายไปแล้วเกือบ 1 วัน

     

    “โลกอนาคตสะด้วย แถมชื่อเหมือนกันอีก” 

     

    พึมพำได้แค่นั้นก่อนจะลุกจากเตียงเบาๆพาร่างที่ส่วนสูงลดลงไปเกือบ 10 เซนไปเข้าห้องน้ำ ลูกหมีสูงขึ้นเพิ่มมาอีกจากปีก่อนถึง 8 เซน ตอนนี้จึงสูง 163 เซน แต่ก็ยังสูงน้อยกว่าแบร์ในโลกเก่าอยู่ดี

     

    อุตสาห์ได้มาสิงร่างคนอื่นทำไมไม่ขอหน้าตาดี บ้านรวย สูงหล่อดูดีบางวะครับ!!? ทำไมต้องเอาเตี้ยกว่าเดิมเพิ่มเติมด้วยน้ำหนักด้วยนะ! ตาสีน้ำตาลมองเข้าไปที่กระจกภาพเด็กหนุ่มดวงตากลมโต แก้มตุ่ย ปากเล็กอมชมพูน่ารัก บวกผมยาวซอยเท่าหลังหูบนหัวมีหูสีน้ำตาลส้มอมเหลืองนิดๆ

     

    “แบบนี้ไม่เรียกหล่อ เรียกว่าน่ารักเถอะ!”

     

     

     

     

     

    // สวัสดีครับ นักอ่านที่เข้ามาอ่าน ฝากลูกหมี ไว้เป็นลูกชายด้วยนะครับ 

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×