คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : ตอนที่3 ซวย!!!!(100%)
ตอนที่3 ซวย!!!!
"เฮ้ ใจเย็นๆ ผมไม่ใช่คนที่น่าสงสัยอะไรนักหรอกนา" ซุยเซทำใจดีสู้เสือพูดออกไปก่อนจะค่อยๆลุกขึ้นยืน แต่ชายคนนั้นก็ยังไม่ยอมลดปืนลงซักนิด
"ไม่น่าสงสัยรึ? นายคอยจับตาดูฉันตั้งแต่เช้าแล้วไม่ใช่เหรอไง แถมยังคว่ำลูกน้องฉันซะหมอบเลยนี่" เสียงเย้ยหยันแฝงประกายเย็นชาดังออกมาจากปากที่ประดับด้วยรอยยิ้มหยิ่งๆนั่น
"อ้าว ช่วยไม่ได้..ลูกน้องคุณน่ะแย่ จับตามองดูผมทั้งที ดันทำให้รู้สึกตัวซะนี่" ซุยเซพูดเหมือนไม่ยี่หระ ทั้งที่ในใจเต้นแทบไม่เป็นจังหวะกับประกายเย็นชาจากดางตาคมๆนั่น
"ลูกน้องฉันอาจจะแย่ แล้วนายล่ะ..ทำยังไงให้ฉันรู้สึกตัวซะได้" เสียงกระซิบโหดๆข้างหูเล่นเอาซุยเซขนลุกเกลียวทั้งตัว
"อย่ามากระซิบใกล้หูเซ่..ขนลุก" ซุยเซโวยวายขึ้น
"ผมบอกไม่น่าสงสัยก็คือไม่น่าสงสัยสิ ผมชื่ออันเซน ซุยเซ จะมาเป็นบอร์ดี้การ์ดให้คุณไง" ซุยเซรีบอธิบายยกใหญ่ เพราะสภาพตัวเองตอนนี้ไม่น่าไว้ใจสิ้นดี ...มีชายร่างใหญ่ผู้(กำลังจะ)เป็นนายจ้างของเค้า เอาปืนมาจ่อหัวพร้อมลั่นไกทุกเมื่อ แถมตอนนี้แผ่นอกกว้างก็ชิดซะจนแนบไปกับแผ่นหลังเค้าแล้ว ไหนจะใบหน้าคมๆที่ยื่นมาจนชิดหน้าเค้าอีก ใครเห็นนี่ได้เข้าใจผิดกันไปใหญ่ เพราะตอนนี้ทั้งคู่หันหลังให้กับทางเข้าตรอก คนมองเข้ามาก็คงเห็นแค่ข้างหลังไม่เห็นปืนที่จ่อกะหัวอีกคนอยู่ แล้วภาพมันก็จะออกมาชวนให้คิดซะจริง...
"หือ? ..นายเหรอคนที่จะมาเป็นบอร์ดี้การ์ดให้ฉัน" น้ำเสียงแปลกใจก่อนจะเปลี่ยนเป็นเย้ยหยันเมื่อพูดประโยคต่อไป
"ไม่น่าเชื่อว่าจะส่งแค่ เด็ก มาให้" ประโยคนี้เล่นเอาซุยเซฉุนกึก เตรียมหันไปด่าเต็มที่ แต่อีกฝ่านดันชิงตัดหน้าพูดขึ้นซะก่อน
"แต่ดูจากฝีมือแล้วท่าทางจะไม่เด็กเหมือนหน้าสินะ"
"หน้าผมมันทำไมมิทราบ หน้าตาผมจะเป็นยังไงมันก็ไม่เกี่ยวกับคุณ รู้เอาไว้ด้วยว่าหน้าแบบนี้นี่แหละที่จะปกป้องคุณน่ะ"
เด็กหนุ่มหันหน้าไปโวยวายอย่างเหลืออดกับคำว่า ไม่เด็กเหมือนหน้า ถึงจะรู้ตัวว่าไอ่หน้านี่แหละที่เป็นปัญหาเพราะมันทำเอาเค้าหมดหล่อไปสวยแทน และด้วยอารมณ์โมโหทำให้เด็กหนุ่มไม่รู้ตัวเอาซะเลยว่าตอนนี้หน้าตัวเองอยู่ห่างจากอีกฝ่ายไม่ถึงคืบ
ชายหนุ่มใบหน้าเรียบเฉย แต่ประกายตาไหววูบเล็กน้อยด้วยความไม่เข้าใจว่าอีกคนจะโกรธอะไรนักหนา แค่พูดถึงเรื่องหน้า แต่พอเห็นหน้าอีกฝ่ายถึงได้รู้ เมื่อกี้เค้าก็คุยกับเด็กนี้ข้างหลังไม่ค่อยเห็นหน้าเท่าไหร่ และไม่คิดจะสังเกตุด้วย แต่พอตอนนี้..เห็นแล้วชักถูกใจ
"เรื่องหน้าตานายเกี่ยวกับฉันแน่นอน เพราะฉันไม่ชอบร่วมงานกับคนขี้เหร่" ว่าแล้วชายหนุ่มก็ดึงหน้าอีกฝ่ายที่ห่างกันไม่ถึงคืบเข้ามาประทับริมฝีปากทันที
"อื้อออ" คนไม่ทันตั้งตัว และไม่คิดว่าจะโดนแบบนี้ได้แต่ร้องออกมาอย่างตกใจ และพยายามขัดขืนอย่างสุดชีวิต แต่ก็ไม่เป็นผลเมื่ออีกฝ่ายเล่นล็อคตัวไว้ซะแน่นหนา ...เพียงไม่นานนายจ้างหนุ่มก็ถอนริมฝีปากออกมา โดยที่อีกคนยังคงตะลึงค้างอยู่อย่างนั้น
"งานนายเริ่มพรุ่งนี้ มาหาฉันที่บริษัท7โมงตรง ห้ามสายเด็ดขาด" ชายหนุ่มพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉยเย็นชา ก่อนจะเดินจากไปเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ซุยเซเองกว่าจะได้สติอีกคนก็เดินไปไกลลับแล้ว จะตามไปด่าก็กระไรอยู่ เลยได้แต่ยืนหน้าแดงกระฟัดกระเฟียดอย่างโกรธๆอยู่อย่างนั้น
-------------------------------------------------------------------------------------------------
"เฮ้ คิน ซุยมันเป็นอะไรของมันน่ะ" โคเซพูดพลางมองไปข้างบนด้วยความแปลกใจ
เนื่องจากน้องชายตัวดีที่กลับมาจากการไปสอดส่องดูลาดเลา เล่นกระแทกเท้าปึงปังขึ้นข้างบน แล้วขังตัวเองอยู่ในห้องไม่ยอมลงมาอีกเลย ไม่ว่าพี่ชายจะพูด ถาม หรือเอาของกินมาล่อ(ซึ่งปกติจะได้ผล) ก็ไม่เป็นผลเลยซัดนิด แถมยังมีเสียงดังโครมครามลอดออกมาให้ได้ยินอีกเป็นบางครั้ง
"ไม่รู้สิ" โคเซหันไปมองคินเซที่ให้คำตอบอย่างไม่ทุกข์ร้องกับอะไรทั้งนั้น
"คิน พรุ่งนี้เริ่มงานแล้วนี่นา นายจ้างเป็นยังไงบ้างล่ะ" โคเซถามพลางเดินไปที่ตู้เย็นเพื่อหาอะไรมาให้อีกคนที่นั่งอยู่หน้าจอทีวีกิน
"ก็ดี" คินเซตอบกลับอย่างไร้อารมณ์ตามเคย ซึ่งดูเหมือนโคเซจะชินกับนิสัยแบบนี้แล้ว จึงไม่รู้สึดตะขิดตะขวางอะไร กลับหัวเราะอย่างอารมณ์ดีตามสไตล์
"ฮ่าๆๆ นั่นสินะ คนที่ฮานาบิเลือกน่ะ ต้องดีอยู่แล้วล่ะ" แล้วสองคนก็นั่งดูทีวีพลางกินขนมที่โคเซเดินไปเอาเมื่อกี้มาพลาง โดยที่ไม่ได้ใส่ใจเสียงดังโครมครามที่มาจากห้องน้องชายคนเล็กอีกเลย
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
แย่ที่สุด!!!
ทำไม๊...ทำไม..คนแบบนั้นถึงมาเป็นนายจ้างได้ฟะ...ฮานาบิคิดอะไรอยู่เนี่ย...เก่งขนาดนั้น แถมบอร์ดี้การ์ดก็ยังมีอีกเป็นพรวน...แล้วยังจะจ้างทำไมอีกฟะ..แค่ตัวเองก็เก่งพอแล้วมั้งน่ะ -*- ...เย็นชาสุดๆ นิสัยก็ไม่ดี ทั้งหยิ่งทั้งชอบดูถูก...แถมยังไม่พอ...ยังไม่พ้อ!!..โธ่ๆๆๆๆ จูบแรกตู ฮือๆT^T...
หลังจากกลับถึงบ้านอย่างหัวเสีย ซุยเซก็ตรงดิ่งเข้าห้องอย่างไม่สนใจใครหรืออะไรทั้งนั้น และเปิดฉาก..ถล่ม..ทันที พอถล่มจนหมดแรงก็มานั่งค่ำนั่งครวญถึงเหตุการณ์วันนี้ ยิ่งพอนึกถึงฉากจูบทีไรก็ยิ่งหน้าแดงมีแรงลุกขึ้นมาอาละวาดอีกครั้ง จนตอนนี้ทั้งคนทั้งห้อง สภาพเละดูไม่ได้พอกัน
"เฮ้อ เหนื่อย..ไปอาบน้ำให้หัวมันเย็นลงดีกว่ามั้ง" ซุนเซพึมพำ แล้วก็ลากร่างกายโทรมๆของตัวเองเข้าห้องน้ำไป แต่พอเห็นสภาพตัวเองในห้องน้ำเท่านั้นแหละ
"แว้กกกกกกกก!! ทำไมฉันโทรมอย่างนี้ฟะ" สติแตกทันที - -"
"ทั้งหมดเป็นเพราะหมอนั่น...เป็นเพราะมัน...เป็นเพราะม๊านนนนนนน"
โครมครามๆ ตึงตังๆ
แล้วก็อาละวาดอีกรอบ...
ส่วนอีกสองคนที่นั่งดูทีวีอยู่ข้างล่าง
"ซุยมันยังอาละวาดไม่เสร็จอีกเรอะ แรงควายจริงๆ" โคเซพูดพลางมองขึ้นไปข้างบน
"ปล่อยไปเถอะ พอใจก็หยุดเอง" คนนี้ก็พูดแบบตูไม่สนใจเต็มที่
"รู้น่า แต่ฉันก็ยังอดห่วงไม่ได้อยู่ดี" โคเซพูดอย่างกังวล..ปล่าวหรอก..ไม่ได้ห่วงน้องมันแต่อย่างใด..โน่นต่างหาก..ห้องมันอ่ะ..เฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น แพงๆทั้งนั้น ไม่รู้ตอนนี้จะเละ เหลือซากอะไรอยู่มั้ย..ขี้เกียจทำความสะอาด..ที่สำคัญ..ดูทีวีอยู่มันหนวกหู..
..พี่น้องบ้านนี้นี่รักกันจริงวุ้ย - - ..
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
เช้า เวลา6.40น.
"เฮ้ ซุยฉันไปก่อนนะ" โคเซตะโกนบอกหลังจากที่ขับรถมาส่งน้องชายหน้าบริษัทที่เคยมาส่งเมื่อวาน
"อืม ขับรถดีๆล่ะ" ซุยเซตอบรับด้วยอาการคล้ายจะกลายเป็นซอมบี้อยู่รอมร่อ
วันนี้เป็นวันที่ต้องเริ่มทำงานจริงๆจังๆ เพราะฉนั้นซุยเซต้องใส่ชุดสูทเนี้ยบ ผมเผ้าก็ต้องเรียบร้อย แต่หน้าตานี่สิ อย่างกะผี เพราะเมื่อคืนเอาแต่อาละวาด แถมหลับตาทีไรหน้าของคนที่ตอนนี้แสนจะเกลียดก็ลอยมาให้ได้เห็นจนไม่เป็นอันนอน ผลที่ตามมาก็คือ สภาพโทรมๆ ขอบตาคล้ำ หน้าซีดเซียวจากการออกแรงมากแล้วไม่ได้นอน
"เฮ้ย ไหวมั้ยนั่นหน่ะ" พี่ชายถามด้วยความเป็นห่วง
"เออ ไหวๆ ไม่ต้องเป็นห่วง" ถึงจะพูดแบบนั้นแต่น้ำเสียงมันชวนให้น่าเป็นห่วงสิ้นดี
"ปล่าวฉันไม่ได้ห่วงแก ฉันห่วงนายจ้างแกต่างหาก กลัวแกจะเบลอเอาเค้ามารับกระสุนแทนที่จะรับกระสุนแทนเค้าน่ะสิ"
"ไอ้พี่โค๊~ กลับมาเดี๋ยวนี้เลยนะ" คนสภาพใกล้ตาย เลยเหมือนได้ยาดีหายจากอาการผีทันที
คนเป็นพี่ได้แต่หัวเราะด้วยความสะใจแล้วรีบขับรถออกไปทันที
..นายจ้างแบบนั้นมีอะไรให้ห่วงฟะ ฉันสิต้องห่วงตัวเอง.. ซุยเซคิดอย่างหงุดหงิด..เออ แต่จะว่าไปความคิดพี่โคก็ไม่เลว เอามันมาเป็นเกราะซะเลยดีมั้ยเนี่ย..
"ขอโทษครับ ผมเป็นบอร์ดี้การ์ดคนใหม่ ขอพบคุณคุโรซาริ จินครับ" ซุยเซเดินไปทีประชาสัมพันธ์ แล้วบอกกับหญิงที่ทำงานอยู่ตรงนั้น
"อ้อ คุณอันเซน ซุยเซสิน่ะคะ ห้องท่านประธานอยู่ชั้นบนสุด เชิญไปขึ้นลิฟท์ทางด้านซ้ายได้เลยค่ะ" ประชาสัมพันธ์บอก พลางชี้ให้เค้าเห็นลิฟท์ตัวนั้น
"ขอบคุณมากครับ" ซุยเซกล่าวขอบคุณแล้วยิ้มให้เธออย่างเป็นมิตร
"ยินดีค่ะ" เธอตอบกลับและยิ้มให้ตามหน้าที่
ระหว่างที่เดินไปขึ้นลิฟท์ซุยเซก็สังเกตุว่ามีพนักงานบริษัทเดินไปมากันค่อนข้างเยอะ แสดงว่าบริษัทนี้เริ่มทำงานกันค่อนข้างเช้ามากทีเดียว เพราะตอนนี้ก็พึ่งจะ6โมงกว่าๆ ยังไม่7โมงดีด้วยซ้ำไป
เมื่อถึงชั้นบนสุดและประตูลิฟท์เปิดออก สิ่งที่ได้เห็นคือห้องโถงกว้างๆ หากมองตรงไปจะเจอบานประตูหรูที่ติดป้ายไว้หน้าห้องว่า ห้องประธาน ซึ่งมีโต๊ะเลขาอยู่หน้าห้อง มองไปทางซ้ายจะเจอห้องรองประธานมีโต๊ะเลขาอยู่หน้าห้องเหมือนกัน ติดๆกันคือห้องรับรองแขก ส่วนทางด้านขวาเป็นห้องประชุม ตอนแรกซุยเซคิดว่าจะเจอบอร์ดี้การ์ดอีกหลายคน แต่ก็ต้องผิดคาดเพราะไม่เห็นใครเลย นอกจากเลขาสองคนที่นั่งทำงานอยู่เท่านั้น ซุยเซจึงตัดสินใจเดินไปที่โต๊ะเลขาของประธานบริษัททันที
"ขอโทษครับ ผมมาพบคุณคุโรซาริ จินครับ" เลขาสาวเงยหน้าจากงานขึ้นมามอง แล้วถามอย่างมีมารยาทว่า
"ไม่ทราบว่าได้นัดไว้รึปล่าวค่ะ"
"ครับ"
"ขอทราบชื่อด้วยค่ะ"
"อันเซน ซุยเซครับ" พอซุยเซบอกชื่อไป คุณเลขาก็ยกหูโทรศัพท์ขึ้นมากดทันที
"ท่านประธานคะ คุณอันเซน ซุยเซขอเข้าพบค่ะ บอกว่านัดไว้แล้ว" พอพูดอะไรอีกสองสามคำเธอก็วางหูโทรศัพท์ลง
"เชิญเข้าไปข้างในได้เลยค่ะ ท่านประธานรออยู่" เลขาสาวยิ้มให้ก่อนจะก้มหน้าก้มตาทำงานของเธอต่อไป ซุยเซเลยเดินไปเคาะประตูห้องประธานเบาๆ ก่อนจะพลักเข้าไปข้างใน
"มาแล้วสินะ ตรงเวลาดีนี่" จินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นๆตามนิสัย เมื่อเห็นอีกฝ่ายเปิดประตูเข้ามา
"สวัสดีครับท่าน ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ผมรับใช้มั้ย" ซุยเซพูดเรียบๆด้วยสีหน้านิ่งๆ เพราะถือว่าตอนนี้เป็นเวลางาน นายจ้างคือพระเจ้า เรื่องส่วนตัวไม่เกี่ยว
จินแย้มรอยยิ้มเยาะน้อยๆก่อนจะบอกว่า
"จะพูดตามสบายก็ได้ ฉันไม่ว่าอะไร"
"ไม่ได้ครับ ตอนนี้ผมเป็นแค่ลูกน้อง ไม่มีสิทธิก้าวก่ายนายครับ" ยังคงพูดนิ่งๆต่อไป แม้ข้างในใจนี่แถบอย่างจะกระโดดเตะกับท่าทางหยิ่งๆของอีกฝ่ายก็ตาม
"หึ ตามใจ เอานี่ไป" จินว่าแล้วโยนปึกกระดาษปึกหนึ่งให้ซุยเซ
"นั่นคือรายละเอียดของงาน ต่อไปนี้นายต้องอยู่กับฉันตลอด24ชั่วโมง ไม่ว่าตอนทำงาน กินข้าว หรือนอน เพราะฉนั้นไปขนเสื้อผ้ากับข้าวของที่จำเป็นมาซะ"
"ทราบแล้วครับ" งานที่มีระยะเวลาในการทำแล้วแต่นายจ้างแบบนี้ เป็นธรรมดาที่บางครั้งก็ต้องอยู่ติดกับนายจ้างตลอด24ชั่วโมง จึงไม่ใช่เรื่องแปลกนักสำหรับซุยเซ
"นอกจากนี้นายยังต้องทำหน้าที่ขับรถให้ฉัน และบางทีก็อาจต้องให้ช่วยงานด้วย" จินพูดอย่างออกคำสั่งตามความเคยชิน
..เว้ย พูดดีๆไม่เป็นรึไงฟะ สั่งอย่างทาส บอร์ดี้การ์ดนะเว้ยไม่ใช่คนใช้.. ซุยเซคิดอย่างหงุดหงิดในใจ
"รับทราบครับ" เอาวะงานนี้ เห็นทีต้องทำใจ เจ้านายสั่งก็ต้องทำล่ะ
"ดี ตอนนี้อ่านรายละเอียดให้เข้าใจซะ ไปนั่งอ่านตรงนั้น" ชายหนุ่มชี้ไปยังโซฟาที่อยู่ไม่ไกล
"ครับ" ซุยเซพูดพลางก้มหัวให้เล็กน้อย ก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟา
เวลาผ่านไปจนเกือบบ่ายโมง ชายหนุ่มผู้เย็นชายังคงนั่งทำงานต่อไป ส่วนซุยเซเองเมื่อไม่มีคำสั่งจากเจ้านายเค้าก็ขยับไปไหนไม่ได้ จึงนั่งอยู่ที่โซฟานั้นโดยไม่ส่งเสียงหรือทำอะไรที่เป็นการรบกวนการทำงานของเจ้านาย เลขาสาวเข้ามาเอาชาและกาแฟ หรือแฟ้มงานต่างๆให้เป็นครั้งคราว ในที่สุดจินก็วางปากกาลงและลุกขึ้น ส่งผลให้ซุยเซขยับตัวลุกขึ้นโดยอัตโนมัติทันที
จินเดินนำหน้าออกไปโดยไม่ได้เรียกหรือบอกอะไรกับซุยเซเลย แต่ด้วยหน้าที่เค้าจึงเดินตามไปทันที พอเดินไปเรื่อยๆจึงรู้ว่า จุดหมายคือห้องอาหารนั่นเอง พอทานอาหารเสร็จทั้งคู่ก็ต้องกลับมานั่งทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเดิมคือ คนหนึ่งนั่งทำงานโดยไม่สนสิ่งรอบข้าง ส่วนอีกคนก็นั่งเฉยๆคอยระแวดระวังสิ่งรอบตัว เพราะไม่รู้ว่าอันตรายจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่
"ท่านจะกลับบ้านเลยหรือจะไปที่ไหนก่อนดีครับ" ซุยเซเอ่ยปากถามผู้เป็นนายขณะที่ขับรถคันหรูออกจากตัวบริษัทในเวลา4ทุ่มกว่าแล้ว
"ไปเก็บของที่บ้านนาย แล้วกลับบ้านฉัน" เสียงเย็นๆตอบกลับมา
..สั่งได้สั่งดีนะแก ถ้าไม่ติดว่าเป็นนายจ้างล่ะก็..ซุยเซได้แต่เขม่นเจ้านายตัวเองอยู่ในใจ
"กลับมาแล้วครับ" ซุยเซพูดแล้วรีบวิ่งขึ้นไปข้างบน แล้วก็รีบวิ่งลงมาพร้อมกับกระเป๋าเสื้อผ้าหนึ่งใบภายในเวลาไม่ถึง5นาที
"ไปแล้วนะครับ" แล้วก็รีบวิ่งออกไปทันที ทิ้งให้พี่ชายสองคนที่นั่งดูทีวีอยู่มองตามอย่างอึ้งๆ กับการมาเร็วไปเร็วของน้องชาย
"อะไรของมัน" โคเซพูดงงๆ
"คงได้งาน24ชั่วโมงล่ะมั้ง" คินเซตอบ แล้วทั้งคู่ก็หันกลับไปดูทีวีต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ซุยเซมองบ้านของเจ้านายตัวเองด้วยสายตาเฉยเมย หรูหรา ใหญ่โต สวย แต่ก็ยังสู้ของฮานาบิไม่ได้
"กลับมาแล้วเหรอคะ" คุณป้าแก่ๆ ท่าทางจะเป็นหัวหน้าแม่บ้านของที่นี่เดินออกมาต้อนรับ
"มิเอะ นี่เป็นบอร์ดี้การ์ดคนใหม่ของฉัน ช่วยชี้แจงเรื่องในบ้านให้ฟังด้วยนะ"
"อันเซน ซุยเซครับ ขอฝากเนื้อฝากตัวด้วย"
"แหม คนใหม่เหรอคะ ยินดีต้อนรับค่ะ" ป้ามิเอะยิ้มให้อย่างใจดี
"มิเอะ พาไปที่ห้องสิ ส่วนนายพออาบน้ำแต่งตัวเสร็จให้ไปหาฉันที่ห้อง" แล้วคนถนัดสั่งก็เดินจากไปทันที
..มารยาทกับผู้หลักผู้ใหญ่ไม่มีเลยรึไงฟะ.. ซุยเซแอบนินทาในใจ
"ตามมาทางนี้เลยค่ะ เดี๋ยวป้าจะพาไปที่ห้องนะคะ"
"ครับ" ซุยเซรับพลางยิ้มให้ป้ามิเอะ
หลังจากที่ซุยเซอาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว ก็ถูกพามาส่งที่ห้องอะไรซักอย่างตามคำสั่งของเจ้านายเค้า
"ขออนุญาติครับ" ซุยเซพูดแล้วเปอดประตูเข้าไปถึงได้รู้ว่ามันเป็นห้องนอนกึ่งๆห้องทำงานยังไงไม่รู้ เพราะห้องนี้ถูกแบ่งเป็นสองฝาก ด้านหนึ่งมีเตียง ตู้เสื้อผ้า และอะไรต่อมิอะไรที่ควรจะมีในห้องนอนวางอยู่ ส่วนอีกด้านมีโต๊ะทำงานและกองเอกสารวางอยู่เป็นตั้งๆ ซึ่งเจ้านายของเค้ากำลังง่วงอยู่กับกองเอกสารเหล่านั้น
"เวลาอยู่บ้านทำตัวตามสบายเหมือนอยู่บ้าน นี่เป็นคำสั่ง"
..เข้ามาไม่เงยหน้าจากกองเอกสารนั่นก็สั่งเชียวนะแก.. ซุยเซคิดอย่างหมั่นไส้นิดๆ
"ครับ"
จินวางปากกาและเก็บกองเอกสารก่อนจะเดินมาทางซุยเซ
"หือ?" ซุยเซแปลกใจเล็กน้อยที่เห็นอีกฝ่ายเดินตรงมาหาไม่พูดอะไร แล้วเสียง หือ ก็ต้องเปลี่ยนเป็นเสียง เฮ้ย เมื่ออีกคนพูดว่า
"ไปนอนกัน" อย่างน่าตาเฉย
"หา!! เดี๋ยวๆๆ ทำอะไรของนายเนี่ย" เมื่อสั่งว่าให้ทำตัวเหมือนอยู่บ้านเจ้าตัวดีเลยปฏิบัติตามทันที ไม่เก็บอาการสำรวมเลยซักนิด
"ทำอะไร ก็นอนไง" อีกฝ่ายพูดแล้วดึงให้อีกคนลงไปนอนด้วย
"นอน!! เตียงเดียวกันเนี่ยนะ!!" ซุยเซโวยวายอยู่ในอ้อมแขนของเจ้านายตัวเองที่ล็อคตัวเค้าไว้ซะแทบจะขยับไม่ได้
"ใช่ นี่ถือไปหนึ่งในหน้าที่ ทำไม? กลัวฉันจะทำอะไรนายรึไง" จินพูดแล้วมองคนในอ้อมแขนอย่างเยาะ แล้วนั่นก็ทำให้คนในอ้อมแขนนั้นตกหลุมลงไปทันที
"กลัวทำไมไม่ทราบ มีอะไรต้องกลัว" ซุยเซโวยวายด้วยความยั๊วะ
"งั้นก็ไม่ต้องบ่น นอนไป" คนขุดหลุมพูดเสียงเย็นๆเหมือนเดิมแล้วหลับตาลง ปล่อยให้อีกคนอึ้งและนึกเสียใจที่หลงกลอีกฝ่านอย่างง่ายดาย
..เอาวะ ช่างหัวมัน นอนก็นอน.. ซุยเซคิดอย่างแค้นๆ แล้วก็ติดสินใจนอนทั้งที่ถูกกอดอยู่อย่างนั้น เพราะรู้ว่าดิ้นไปก็คงไม่หลุด เล่นรัดซะแน่น แถมจะทำร้ายคนเป็นเจ้านายก็ไม่ได้อีก แต่พอหลับตาไปได้ซักแปปอีกฝ่ายก็สะกิดให้ลืมตาขึ้น
"หือ อะไร" ซุยเซถามงงๆ เมื่อลืมตามาเห็นเจ้านายตัวเองกำลังจ้องหน้าอยู่
"ฉันลืม" พูดสั้นๆง่ายๆ แล้วก็ประกบปากตัวเองลงไปกับปากอีกฝ่ายให้คนในอ้อมแขนได้ช็อคอีกรอบ
"ราตรีสวัสดิ์"
..มันพูดแค่นั้น..มันพูดแค่นั๊น..แล้วมันก็หลับไปเลยเนี่ยนะ..ว้ากกกกกกกก.. นี่คือเสียงคิดคำนึงของคนที่นอนแข็งอยู่ในอ้อมแขนของคนที่ทำให้ตัวเองแข็ง
-----------------------------------------------------------------------------------------------------------
แหะๆ
- -"
เอ่อ..คือว่า..ต้องขอโทษคนอ่านทุกท่านด้วยค่า ที่กว่าจามาต่อก็ปาไปเปงชาติ
แบบว่า..ไม่มีขอแก้ตัวง่ะ.. - -"
จริงๆแล้วมันไม่มีอารมณ์แต่งอ่าค่า พอตอนนี้มีอารมณ์จาแต่งก็จาพยายามแต่งให้ได้มากที่สุดนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามอ่านกันค่ะ
สัญญาว่าจะไม่หายไปนานอย่างนี้อีกแล้ว
ขอโทษค่า - -"
ความคิดเห็น