ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    FanClul3::ตำนานสมเด็จพระนเรศวร มหาราช::

    ลำดับตอนที่ #1 : ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช::1 วันฉาย

    • อัปเดตล่าสุด 13 ม.ค. 50



    ฉีกแนวสร้างประวัติศาสตร์วงการภาพยนตร์ไทยอีกครั้งด้วยการฉายทั้ง  ๒ ภาคพร้อมกัน  และจำหน่ายบัตรราคาพิเศษทุกที่นั่งประกาศความยิ่งใหญ่แห่งอิสรภาพให้สะใจผู้ชม   เบิกฤกษ์ลงโรงในวันกองทัพไทย ที่รัฐบาลประกาศเปลี่ยนแปลงให้ตรงตามความเป็นจริง ๑๘ ม.ค. ๕๐  เป็นครั้งแรก

    พร้อมมิตรโปรดักชั่น/  ท่านมุ้ย - ม.จ. ชาตรีเฉลิม ยุคล ผู้กำกับภาพยนตร์ “ตำนานสมเด็จพระนเรศวรมหาราช” เปิดเผยว่า ได้เลื่อนกำหนดฉายภาพยนตร์แห่งอิสรภาพเรื่องนี้พร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศ จากเดิม ๒๑ ธันวาคม ๒๕๔๙ ไปเป็นวันกองทัพไทย          ๑๘ มกราคม ๒๕๕๐   โดยจัดทำเป็น ๒ ภาค  ความยาวภาคละประมาณ  ๒ ชั่วโมง ๑๐ นาที  และฉายทั้ง ๒ ภาคนี้ไปพร้อมๆ กัน 



    โดยภาคแรกเริ่มตั้งแต่สงครามช้างเผือก ในปี พ.ศ. ๒๑๐๗       ที่พระองค์ดำ (สมเด็จพระนเรศวรมหาราช)  ซึ่งมีพระชันษาเพียง ๙ พรรษา ต้องเสด็จไปประทับยังหงสาวดีในฐานะองค์ประกัน  โดยพระเจ้าหงสาวดีบุเรงนองทรงรับเป็นโอรสบุญธรรม  และจบ   ภาคแรกในช่วงที่ทรงหนีกลับอยุธยาซึ่งผู้ชมจะได้เรียนรู้เกร็ดประวัติศาสตร์ที่น่าสนใจในช่วง       ทรงพระเยาว์และทรงใช้ชีวิตอยู่ในดินแดนพม่า ทรงพระผนวชเป็นสามเณรอยู่ในสำนักของ       พระมหาเถรคันฉ่องที่ได้ถวายความรู้แด่พระองค์ดำจนทรงเจนจบทั้งด้านศิลปวิทยาการแขนงต่างๆ และยุทธศาสตร์การรบตามตำราพิชัยสงคราม ฯลฯ โดยได้มีการศึกษาค้นคว้าอย่างละเอียดจากแหล่งข้อมูลที่หลากหลายของทั้งสองฝ่าย  

    ส่วนภาค ๒  เป็นช่วงที่ทรงเจริญพระชันษา กลับไปประทับยังหงสาวดีอีกครั้งหนึ่ง ทรงผ่านเหตุการณ์สำคัญมากมาย และทรงมีชัยชนะในศึกสงครามต่างๆ ด้วยพระอัจฉริยภาพในการรบที่ล้ำเลิศ  ภาคนี้จบลงที่การประกาศอิสรภาพอันทำให้ดำรงเอกราชและความเป็นไทที่เราภาคภูมิใจตราบจนทุกวันนี้  

    “ตลอดพระชนม์ชีพของสมเด็จพระนเรศวรมหาราช มีเรื่องราวต่างๆ ที่สำคัญและน่าสนใจ มากมาย  ทรงเปี่ยมไปด้วยความเสียสละ  กล้าหาญเด็ดเดี่ยว  อดทน  และทรงมุ่งมั่นที่จะกอบกู้     เอกราชตั้งแต่ทรงพระเยาว์  ความคับแค้นพระทัยในการอยู่ท่ามกลางศัตรู  เราอยากถ่ายทอด    สิ่งเหล่านี้ให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระองค์ท่าน  ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของคำว่า อิสรภาพ ที่ทำให้เรามีศักดิ์ศรีอย่างเต็มภาคภูมิ และเรื่องราวเหล่านี้หากสร้างให้จบในภาคเดียวคงไม่ประทับใจ จึงแบ่งเป็น ๒ ภาคที่มีครบรส     มีความสำคัญและความน่าสนใจไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากันเลย แล้วก็นำออกฉายพร้อมกันทั้ง ๒ ภาค 

    ใครอยากดูภาคไหนก็เลือกได้  หรือจะดูทั้ง ๒ ภาคแบบต่อเนื่องก็ได้ทันทีในช่วงเดียวกันนี้เลย    ไม่ต้องรอ” ท่านมุ้ยกล่าว 
    สำหรับกำหนดการเข้าฉายพร้อมกันทุกโรงภาพยนตร์ทั่วประเทศที่เลื่อนไปเป็นวันที่        ๑๘ มกราคม ๒๕๕๐ นั้น เนื่องจากต้องการให้มีความหมายที่สำคัญต่อภาพยนตร์เฉลิมพระเกียรติเรื่องนี้  โดยถือเป็นการฉายเบิกฤกษ์วันกองทัพไทยที่เปลี่ยนแปลงจากเดิม ๒๕ มกราคม ให้เป็น    วันที่ ๑๘ มกราคมของทุกปี โดยเริ่มตั้งแต่ปี ๒๕๕๐ เป็นต้นไป  ตามมติคณะรัฐมนตรี

    เมื่อ                วันที่ ๒๒ สิงหาคม ๒๕๔๙ หลังจากที่ได้มีการกำหนดให้วันที่ ๑๘ มกราคมของทุกปีเป็นวัน      ยุทธหัตถี ที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงมีชัยชนะเหนือพระมหาอุปราชา  เพื่อให้เป็นไปตามหลักฐานที่คณะกรรมการเอกลักษณ์ของชาติเสนอ จากวันทางจันทรคติ (ข้างขึ้นข้างแรม) ตามที่ระบุในพงศาวดาร คือวันจันทร์ เดือนยี่  แรม ๒ ค่ำ  ปีมะโรง  จ.ศ. ๙๕๔   ให้เป็นวันทางสุริยคติ (กำหนดวันที่ตายตัว) อย่างถูกต้องตามความเป็นจริงที่คณะกรรมการชำระประวัติศาสตร์ไทยและราชบัณฑิตได้คำนวณและตรวจสอบ

    นอกจากนี้ยังเตรียมการจำหน่ายบัตรเข้าชมภาพยนตร์ในราคาพิเศษ ทุกที่นั่ง ทุกโรง     ทั่วประเทศ  เพื่อให้ทุกคนได้ชมภาพยนตร์แห่งอิสรภาพเรื่องนี้อย่างเต็มอิ่ม  และร่วมสร้างจิตสำนึกในความรักชาติ รักแผ่นดินไทย มีความสามัคคีปรองดอง และพร้อมที่จะตอบแทนคุณของแผ่นดินไทยด้วยความกตัญญูร่วมกัน
     
    เตรียมพบกับภาพยนตร์ที่จะประกาศความยิ่งใหญ่แห่งอิสรภาพพร้อมกัน ทั่วประเทศ ๑๘ มกราคม  ๒๕๕๐ แน่นอน

    ขอบคุณข้อมูลดีๆจาก คุณธิติพันธ์

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×