ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    MIHSAST แก๊งซ่าโรงเรียนป่วน

    ลำดับตอนที่ #3 : MIHSAST 1 "คำบอกรักที่ถูกปฏิเสธ"

    • อัปเดตล่าสุด 23 ก.พ. 51


    ณ หอประชุมโรงเรียนนานาชาติมีเซสท์
    “แฮ่กๆ”
    “ เป็นไงบ้าง”
    “นี่เธอปี่นี้โมนิค G.12 ห้อง A/1ได้เป็นPDGล่ะ”
    “ก็ต้องแหงอยู่แล้ว สวย รวย เก่งขนาดนั้นน่ะ”
    “อืมๆ แต่ที่ช็อกเนี่ยสิ”
    “อะไรล่ะ”
    “อเล็กซ์G.12 ห้อง A/2ได้เป็นPBDล่ะ”
    “จริงดิ”
    “อืม”
    “แต่ไม่แน่นะอเล็กซ์กับโมนิคอาจจะไม่อาฆาตกันก็ได้ ก็สองคนนั้นพึ่งมาเรียนได้ไม่นานฉันยังไม่เคยเห็นเค้าคุยกันเลย”
    “ก็ใช่ สองคนนั้นรู้จักกันแล้วหรือยังก็ไม่รู้ แต่ก็มันก็มีโอกาสใช่มะก็โรงแรมของเค้าสองคนเป็นคู่แข่งกันอยู่ตอนนี้มันก็มีโอกาสเยอะเลย ยิ่งต้องทำงานด้วยกันอีก ก็คงมีบ้างแหละ”
    “แต่ไงก็เหอะยูสุดที่รักของฉันได้เป็นBDCด้วยล่ะ”
    “ไอ้พวกบ้าผู้ชาย แต่ฉันก็ปลื้มอเล็กซ์กับเดวิดอยู่น้า”
    “เธอก็เหมือนกันและย่ะ”
    ในหอประชุมตอนนี้มีนักเรียนอยู่จำนวนมากเลยทีเดียว เพราะวันนี้เป็นวันประกาศPCGBDEหรือประธานกรรมการหอหญิงชายนั่นเอง ซึ่งตอนนี้นักเรียนที่ได้รู้ว่าใครได้อยู่ตำแหน่งไหนก็ต่างพูดคุยกันถึงเรื่องนี้ทั้งนั้น และถ้าจะพูดถึงtalk of the town ในตอนนี้ก็คงจะเป็นประธานของทั้งสองหอที่เป็นศัตรูกันทางธุรกิจของพ่อแม่นั่นเอง
    ส่วนการเลือกPCGBDEหรือชื่อเต็มว่า President and Council of Girl and Boy Dormitory Election จะจัดขึ้นทุกปีในโรงเรียนแห่งนี้ ซึ่งผู้ที่สมัครได้ต้องเป็นนักเรียนG.12 เท่านั้น และหลังจากที่มีประกาศผู้ที่ได้รับตำแหน่งจะต้องไปประชุมกับครูใหญ่ที่ President and Council’s Conference Room หรือ ห้องประชุมประธานกรรมการนั่นเอง ถ้าใครได้รับตำแหน่งนี้ก็จะเหมือนผู้รักษากฎของโรงเรียนและหอพัก จะมีอำนาจรองจากพวกครู และจะได้ความไว้วางใจจากคณะครูมากที่สุดในโรงเรียน ทุกคนก็ต่างหวังตำแหน่งนี้กันทั้งนั้น แต่ต้องทำงานเหนื่อยมากเพราะต้องจัดกิจกรรมหลายอย่างในโรงเรียน
     
    ณ หอประชุมประธานกรรมการนักเรียน
    “เอาล่ะวันนี้พอแค่นี้ แยกย้ายได้”
    “ค่ะ/ครับ Mrs.Megan”
    เฮ้อในที่สุดก็ประชุมเสร็จสักทีหิวข้าวจะแย่
    “โมนิค น่าเบื่อจังเลยนะไอ้ตำแหน่งเนี้ย”
    โยโกะบ่นขึ้นมา โยโกะถือว่าเป็นเพื่อนสนิทที่สุดของฉันเลยก็ว่าได้ ยัยนี่เป็นลูกครึ่งญี่ปุ่นแบบว่าหน้าหน้าตาออกไปทางนั้นเลยล่ะ หน้าตาน่ารักผิวขาวมากๆผมซอยประบ่าสีดำ แต่เตี้ยไปหน่อยแค่นั้นเอง เวลาเดินคู่กับโยโกะน่ะจะเห็นได้ชัดที่สุด คือยัยเนี่ยสูงแค่ 156 แต่ฉันสูง168 ก็คงจะจินตนาการออกนะ
    “เอาน่าแต่ก็คุ้ม”
    จากนั้นเราทั้ง 6 คน (เราเป็นเพื่อนกันทั้ง6คนเลย) หลายคนอาจจะคิดว่ามันบังเอิญเกินไปหรือเปล่า ก็จะไม่ให้บังเอิญได้ไงล่ะ ก็ฉันเป็นคนขอเลือกคณะกรรมการนี่ และแน่นอนฝั่งนายอเล็กซ์อะไรนั่นด้วยเหมือนกัน ฉันก็ไม่ได้แค้นนายนั่นเหมือนกับที่พ่อของฉันแค้นพ่อของนายนั่นหรอกนะ ก็มันคนละเรื่องกันนี่ แต่จะว่าไปฉันยังไม่เคยคุยกับอเล็กซ์เลยซักครั้ง แต่จากนี้ไปต้องทำงานด้วยกันก็สนิทกันไว้ก็ดี 
    "หวัดดีโมนิค"
    พนันได้ว่าไม่ใช่เสียงของเพื่อนฉันเพราะมันเป็นเสียงผู้ชาย ฉันค่อยๆหันหน้าไปดูก็เห็น รอยยิ้มอันน่าหลงไหลและหน้าตาที่หล่อมากๆกับผมสีน้ำตาอ่อน แล้วก็ดวงตาสีเขียวที่จ้องมาทางฉัน นี่แหละนายอเล็กซ์ที่ฉันกำลังพูดถึง
    "อืม หวัดดี นายมีอะไรล่ะ เรากำลังจะไปทานข้าวพอดี"
    ฉันหันไปคุยกับอเล็กซ์โดยที่ไม่ต้องเงยหน้ามากเท่าไหร่เพราะความสูงของเราไล่เลี่ยกันคงห่างกันสักประมาณ 5-6เซนมั้ง
    "คือเราอยากคุยกับเธออ่ะ ตั้งแต่มานี่เราเห็นเธอหลายครั้งแล้วแต่ไม่มีโอกาสได้คุยกันสักที ไว้เธอกินข้าวเสร็จก่อนแล้วกัน มาเจอเราที่ห้องประชุมได้ไหมแบบว่าคุยกันแค่สองคนได้ไหม"
    "อืมได้สิเราก็อยากคุยกับนายเหมือนกัน"
    "อืมๆแล้วเจอกัน"
    อเล็กซ์ยิ้มอย่างร่าเริงก่อนจะเดินไปกับเพื่อนของเขา
    "ไปกันเถอะ"
    "นั่นแน่อเล็กซ์ทำท่าสนใจเธอนะโมนิค"
    เพชรหรือเพชรไพลินลูกครึงไทย-โคลัมเบีย เพื่อนอีกคนของฉันพูดขึ้น
    "ไร้สาระน่าเพชร"
    "มาเจอเราที่ห้องประชุมได้ไหมแบบว่าคุยกันแค่สองคนได้ไหม"
    บริทหรือบริทนีย์ ลูกครึ่งไทย-อเมริกัน เพื่อนในกุ่มอีกคนเลียนแบบอเล็กซ์แล้วพูดขึ้นมา หนอยไอ้เพื่อนเลว
    "อืมได้สิเราก็อยากคุยกับนายเหมือนกัน"
    มินหรือ คิม มิน อา ลูกครึ่งไทย-เกาหลี เพื่อนของฉันอีกคนทำท่าเลียนแบบฉันตอนพูดกับอเล็กซ์ ยัยนี่ก็เป็นไปกับด้วยเหรอ
    "นี่อย่าไปแซวโมนิคเค้าสิเห็นไหมหน้าแดงใหญ่แล้ว"
    นัชหรือนัชชา ลูกครึ่งไทย-โปแลนด์ไอ้เพื่อนตัวแสบอีกคน ชิ ฉันหน้าแดงตรงไหนกันยะ
    "นี่นัชเราหน้าแดงตรงไหนไม่ทราบ แล้วยัยสองคนนี้ก็เลิกแซวเราได้แล้วเราไม่ได้คิดอะไรสักหน่อย"
    "โธ่ๆ โมนิคที่น่ารักเราแค่ล้อเล่นเองอย่าทำหน้างอสิ แต่เธอไปคนเดียวจะไม่เป็นไรหรอ"
    บริทพูด ด้วยความเป็นห่วงโธ่เพื่อนที่น่ารัก(เปลี่ยนอารมได้เร็วมาก)
    "ไม่เป็นไรแน่นอนฉันเรียนการต่อสู้มาตั้งหลายแบบ ดูแลตัวเองได้น่า"
    "ปาวหรอกบริทมันห่วงว่าเธอจะไปทำอเล็กซ์เค้าเข้าโรงบาลน่ะสิ"
    ยัยเพชรยัยเพื่อนเลว ฮึ่ม
    "ยัยเพื่อนบ้ากินกันเข้าไปให้หมดเลยข้าวเนี่ย ก่อนที่จะไม่มีปากไว้กิน"
    ชิ้ง ฉันส่งสายตาอำมหิตให้พวกมัน จากนั้นก็ไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย เหอะๆๆให้รู้ซะบ้างว่ากำลังคุยอยู่กับใคร โฮะๆๆ(ใกล้บ้าเต็มที่)
    หลังจากกินข้าวเสร็จ
    "ไงโมนิค"
    "อืม รอนานหรือป่าว"
    "ไม่นานหรอกแค่ครึ่งชั่วโมงกว่าๆเอง"
    นายประชดฉันหรือไงยะ
    "นายได้กินข้าวหรือป่าวเนี่ย"
    นันสิทำไมกินเร็วจัง
    "กินสิ"
    "เร็วจัง"
    "ก็เราอยากเจอเธอเร็วๆนี่"
    ..........
    "แล้วเรื่องที่นายจะพูดกับเราล่ะ"
    "อ๋อ อืม คือว่า....."
    "ว่า?"
    ทำไมนายต้องอั้มอึ้งๆด้วยล่ะ
    "เออฟังดีๆนะคือเรา เรา"
    "นายจะพูดอะไรก็พูดมาสิเราฟังอยู่"
    ฉันพูดยิ้มๆ อะไรมันจะพูดยากขนาดนั้น
    "คือว่าเราชอบเธอ คบกับเราได้ไหม////"
    ฮะ!! 
    "เอ่อ"
    จะตอบไงดี ปฏิเสธไปเหมือนที่ทำกับคนอื่นดีไหมนะ(มีคนมาสารภาพรักเยอะ) ก็ฉันไม่ได้ชอบนายนี่
    ในตอนที่ฉันกำลังจะปฏิเสธ อเล็กซ์ก็ขัดขึ้นมาก่อน
    "เราชอบเธอจริงๆไม่ใช่ว่าเพิ่งชอบแต่ชอบมานานแล้วเราคอยแอบมองเธออยู่ตลอดเวลาเธอไปที่ไหนบ้างเธอชอบอะไรบ้าง เราถึงขนาดไปถึงหน้าบ้านเธอแต่ก็รู้อยู่ว่าพ่อเธอเป็นไง แล้วเธอก็เป็นคนแรกและคนเดียวที่ทำให้เราเป็นแบบนี้ ทำให้เราหวั่นไหวขนาดนี้ รู้ไหมเราดีใจมากแค่ไหนที่ได้ทำงานร่วมกับเธอ ทั้งที่เมื่อก่อนเราไม่เคยอายขนาดนี้แต่เธอก็ทำให้เราเป็นแบบนี้เวลาอยู่ต่อหน้าเธอ เราต้องรวบรวมความกล้าที่จะบอกเธอเพราะกลัวว่ามันอาจจะสายไป"
    "อเล็กซ์คือ.."
    "เรารู้ว่าเธอต้องปฏิเสธเราแน่ๆเพราะเธอไม่เคยสนใจหรือมาคุยกับเราเลย แต่ว่าเรื่องที่โรงแรมเราเป็นศัตรูกันเราไม่เคยเห็นด้วยกับพ่อเราไม่เคยเกลียดครอบครัวเธอ เราแค่ให้เธอรู้ไว้อย่างที่ฉันบอกเธอไปเราบอกไปในฐานะผู้ชายคนนึงที่ชอบเธอ ไม่สิเราอาจจะรักเธอไปแล้วก็ได้"
    "อเล็กซ์ขอโทษนะเราขอบใจจริงๆแต่ นายอาจจะไม่ได้ชอบเราอย่างนั้นก็ได้แล้วอีกอย่างเราไม่เคยคุยกันด้วยซ้ำ นายจะมารักเราได้ยังไงกัน"
    "เธออาจจะไม่เชื่อแต่ถึงเราจะไม่เคยคุยกันแต่ตลอดเวลาที่เราแอบมองเธอเรารู้สึกได้ มันเป็นความรู้สึกที่บอกไม่ถูกแต่กว่าจะรู้ตัวอีกทีเราก็หลงรักเธอไปแล้ว"
    "เราไม่ได้รู้สึกกับเธอแบบนั้นตอนนี้ความรู้สึกที่เรามีให้ได้ก็แค่เพื่อน โอเคไหม เราไปก่อนนะ"
    แล้วฉันก็เดินออกจากห้องนั้นมา โดยที่ไม่มีใครรั้งไว้ ตอนนี้นายอาจจะยังไม่แน่ใจว่าชอบฉันจริงหรือป่าว แต่ถ้านายชอบฉันจริงตอนนี้นายอาจกำลังจะเจ็บปวดนะ เหมือนที่ฉันเคยเป็น ฉันเข้าใจดี













    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×