ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ NaruSasu ] ลำนำบุปผา...พฤกษาผลิบาน

    ลำดับตอนที่ #13 : บทที่ ๑๑ ฝันร้าย

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 910
      34
      20 ต.ค. 61


    บทที่ ๑๑
    ฝันร้าย
    ____________________

    นี่พวกนาย...ทำบ้าอะไรกัน

    หืม?!...

    พลุ่บ!!

    เสียงที่ดังขึ้นทำให้โจนินหนุ่มรู้สึกตัว มือหนาดันหญิงสาวออกห่างตัว แล้วหันไปมองบุคคลที่สาม นัยน์เนตรสีแดงสดทว่าถูกคาดไว้ด้วยผ้าคาดสีดำที่ข้างซ้าย  เรือนผมสีขาวตัดสั้นระต้นคอ ร่างสูงกำยำก้าวออกมาจากมุมมืดอย่างช้าๆ

    นายมัน...

    ยูกิคุง...

    กลางค่ำกลางคืนมาทำเช่นนี้ ไม่อายผีสางกันบ้างหรืออย่างไรยูกิฮิโระกล่าวน้ำเสียงตำหนิ

     “อะ เอ่อ คือมันไม่ใช่อย่างที่นายเห็นนะ..นารูโตะพยายามอธิบาย ทั้งๆที่ตัวเขาเองก็ไม่รู้สถานการณ์ใดๆทั้งสิ้น  บอกตามตรง ตัวเขาจำอะไรไม่ได้เลย รู้แค่ว่าพาผู้หญิงคนนี้มานั่งที่เก้าอี้ จากนั้นก็คุยกัน รู้ตัวอีกที...สองแขนแกร่งก็โอบกอดร่างบอบบางไว้ใต้อาณัติตนเสียแล้ว แถมเขายัง...จูบกับเธอ ได้ไงกัน?!  มันเกิดอะไรขึ้น?! ร่างสูงได้แต่คิดไม่ตก

    แต่ก็เอาเถอะ ข้าจะทำเป็นว่าไม่เห็นก็แล้วกันยูกิฮิโระเอ่ยเสียงเรียบ ว่าแต่ ท่านพี่มาทำอะไรที่นี่

    แหม พี่ก็แค่มาตรวจอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ แล้วเจ้ามาทำอะไรที่นี่รึหญิงสาวยิ้มหวาน ลุกขึ้นเดินไปคุยกับน้องชายตน

    ข้าทราบจากสาวใช้ว่าท่านหายไปจากเรือนใหญ่ และคิดว่าท่านพี่น่าจะยู่ที่นี่ เลยลองมาดู

    งั้นหรือ ข้าทำให้เจ้าลำบากสินะเนี่ยหญิงสาวเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจนัก

    ข้าว่าคงได้เวลาที่ท่านพี่จะกลับไปแล้ว ทางนี้เดี๋ยวข้าจัดการให้เองเอ่ยพร้อมกับมองไปยังโจนินหนุ่ม

    แต่ว่าข้า...หญิงสาวพยายามแย้ง

    ไม่มีแต่ใดๆทั้งสิ้น ท่านพี่น้ำเสียงเด็ดขาดที่เปล่งออกมาจากริมฝีปากหนาทำให้หญิงสาวต้องหยุดปากลงอย่างช่วยไม่ได้ ไปได้แล้ว...

    ฮึ จะทำอะไรก็ทำนางชักสีหน้าหงิกใส่ผู้เป็นน้องก่อนจะเดินฟึดฟัดออกไปอย่างรวดเร็ว ท่าทีเจ้าอารมณ์ดูต่างจากหลายนาทีก่อนหน้านี้ลิบลับ  เหลือไว้เพียงสองหนุ่มร่างใหญ่ โดยที่หนึ่งในนั้นยังไม่สร่างดี ได้แต่มองเหตุการณ์ตรงหน้าอย่างงุนงง

    ส่วนนาย...”  ยูกิฮิโระหันมาจ้องหน้านารูโตะ อุสิมากิ นารูโตะคุง สินะ

    อะ อื้อ

    ห้องครัวอยู่ฟากทางเดินปีกตะวันออก เดินตรงไปทางนี้แล้วเลี้ยวขวาก็จะเจอว่าพลางชี้มือประกอบ

    เจ้าเดินไปเองได้มั้ย

    ได้สิ ไม่มีปัญหา

    ก็ดี...งั้นก็หมดธุระของข้าแล้ว คงต้องขอตัว...

    อ๊ะ เดี๋ยวก่อน!” เสียงทุ้มเอ่ยรั้งไว้ ทำให้อีกฝ่ายหันกลับมาถามอย่างสงสัย

    หือ...มีอะไรรึ

    คือว่า...เรื่องเมื่อกี๋น่ะร่างสูงเอ่ยอย่างกล้าๆกลัวๆ "ฉันต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่ว่าที่จริงแล้วมันไม่ใช่อย่างที่นายเห็นเลยนะ คะ คือฉันสาบานได้เลย ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจทำแบบนั้นเลยจริงๆ  บะ แบบว่า...

    ข้ารู้...ทายาทแห่งโทสึกิเอ่ยแทรกขึ้นมา

    เอ๋...

    ข้าเชื่อเจ้า เจ้าไม่ผิดหรอก หล่อนต่างหากที่เป็นฝ่ายผิด ข้ารู้ดี

    ทำไมถึงคิดแบบนั้นล่ะ

    ขึ้นชื่อว่าเป็นพี่น้อง ย่อมต้องรู้นิสัยกันดีอยู่แล้ว จริงมั้ย

    “...”

    เพราะงั้นข้าถึงไม่ถือโทษเจ้าไงล่ะชายหนุ่มเอ่ยราวกับเรื่องที่พี่สาวตนทำนั้นเป็นเรื่องปรกติสามัญ

    “...”

    เจ้าน่ะ ระวังนางไว้หน่อยก็ดี ดูเหมือนว่านางดันถูกใจเจ้าเข้าแล้วล่ะสิ เฮ้อ...ชายหนุ่มกล่าวเตือน พลางถอนหายใจอย่างเหนื่อยใจ

    ฉันเหรอ?” นารูโตะถามพร้อมกับชี้นิ้วมาที่ตัวเองอย่างงงๆ

    ใช่...งั้นข้าไปล่ะ อ้อ แล้วก็..”  ชายหนุ่มกล่าวเหมือนพึ่งนึกอะไรขึ้นได้

    ครับ?

    ข้าฝากความห่วงไยไปยังซาสึเกะคุงด้วยนะ อากาศหนาวเช่นนี้หนุ่มน้อยคนนั้นคงหนาวแย่ ข้าไปล่ะ...ราตรีสวัสดิ์เอ่ยแล้วหันหลังก้าวฉับๆจากไปอย่างรวดเร็วไม่แพ้ผู้เป็นพี่สาว ทิ้งให้โจนินหนุ่มแห่งโคโนฮะ ยืนหน้าสลอนอย่างเดียวดาย พลางคิดในใจ

     

    ที่ไม่ถือโทษโกรธเคือง  มันก็น่าซาบซึ้งอยู่หรอก แต่...ไอ้ประโยคหลังนั่นมันอะไรกันนนน มีฝากความคิดถงคิดถึงให้ซาสึเกะด้วย เหอๆๆๆ ขัดใจชะมัด เฮอะ!  ยังไงซะ เขาก็ไม่ชอบหมอนี่อยู่ดีนั่นแหละ ฮึ่มมมม-*-  

     

    หลังจากลงไปกินน้ำที่ห้องครัว(ซึ่งกว่าจะหาเจอก็แทบลากเลือด) เสร็จแล้ว โจนินหนุ่มจึงเดินขึ้นบันไดเพื่อมุ่งตรงไปยังห้องนอน ในหัวก็พาลให้คิดถึงเรื่องที่เพิ่งเกิดขึ้นเสียไม่ได้ เขาเป็นอะไรไม่...ต้องบอกว่าผู้หญิงคนนั้นทำอะไรกับเขามากกว่า เท่าที่พอจะบอกได้คือ เหตุผลที่เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ต้องเป็นเพราะหล่อนแน่นอน ใช้คาถาควบคุมเหรอ...เหอๆ น่ากลัวชะมัด แถมยังโดนขโมยจูบไปอีก ถึงจะไม่ใช่จูบแรกก็เถอะ....

     

    จูบแรก...

     

    ตึกตัก...ตึกตัก...ตึกตัก...

    อ๊ากกกกก =[ ]= บ้าจริง...พอนึกถึงเรื่องนั้นขึ้นมาทีไร ใจมันเต้นแรงไม่ยอมหยุดเลย ให้ตายสิ หมอนั่นชักจะมีอิทธิพลกับชีวิตเขามากเกินไปแล้ว แย่ที่สุด...

     

    ทั้งที่บอกกับตัวเองแล้วแท้ๆ...ว่านายเป็นเพื่อนคนสำคัญของฉัน แต่ฉันกลับ...

    ได้โปรด...อย่าทำให้ฉันดูเลวในสายตานายไปมากกว่านี้เลย ซาสึเกะ

     

     

    อ๊าาาาาา!!!

    !!!” นั่น...เสียงซาสึเกะนี่ !!!

    ไม่นะ...ได้โปรด อย่า อ๊ากกกกก”  ดังมาจากห้องนอน

    ไวเท่าความคิด สองขารีบตรงดิ่งไปยังต้นเสียงอย่างรวดเร็ว รู้สึกใจหายวาบเมื่อเสียงกรีดร้องอย่างบ้าคลั่งนั่นดังมากระทบโสต เป็นเสียงซาสึเกะไม่ผิดแน่... ขอร้องล่ะ อย่าเป็นอะไรไปนะ !

    ซาสึเกะ...สังหรณ์ไม่ดีเลย...

    ปังงงๆๆๆ

    “เกิดอะไรขึ้น ตอบชั้นสิ ซาสึเกะ!

     “ชะ ช่วยด้วย อ๊าาาาา!!!

    ปังงงงง!!!

    ซาสึเกะ!!!

    .

    .

    .

    ซาสึเกะกำลังหวาดกลัว

     

    ใช่...เขาฝันร้าย

    ที่นี่ที่ไหน...?

    ในฝัน เขายืนอยู่ท่ามกลางความมืดมิด ในโลกซึ่งทุกสิ่งมีแต่ความว่างเปล่า จันทราสีแดงฉานฉาบชโลมผืนดินแห้งเกอะกรังที่ทอดยาวสุดขอบฟ้า ไร้ซึ่งสัญญาณแห่งสรรพชีวิตใดๆ

    หนาว..หนาวเหลือเกิน

    ในที่สุด...ท่านก็มา ข้ารอเวลานี้มาแสนนาน

    !!

    จู่ๆก็มีเสียงลึกลับดังขึ้น เสียงนั้นดังขึ้นรอบตัวเขา ไม่สิ

     มันดังมาจากข้างในนี้ ดังมาจาก...ข้างในตัวเขา  นั่นเป็นเสียงของบุรุษ ถึงจะแผ่วเบา...หากแต่กลับทรงพลังจนน่าขนลุก

    นายเป็นใคร...?
    “…”

    “…”

    ข้าคือเบญจมาศสิ้นแสง...ข้าเป็นข้ารับใช้ของท่าน

    “...” ข้ารับใช้...หมอนี่พล่ามอะไรน่ะ...

    แต่ในขณะเดียวกัน...ข้าก็คือท่าน และท่านก็คือข้า พวกเรามิใช่ใครอื่น

    ฉัน...ไม่เข้าใจ

    ที่ทุ่งบุปผาหลับใหล...ข้าคือเสียงที่ท่านได้ยิน

    …” แล้วมันคือที่ไหนกันล่ะ

    กลับไปที่ๆท่านจากมาซะท่านไม่ควรมาอยู่ที่นี่เลย

    “...”

     “หายนะได้เริ่มขึ้นแล้ว ศรัทธาจะบ่อนทำลายทุกสิ่ง...จงระวัง ‘สิ่งสำคัญ’ ของท่าน ไว้ให้ดี

    นายพูดเรื่องอะไร...ฉันไม่เข้าใจ

    ที่ที่ปลอดภัยที่สุด...อาจเป็นที่ที่อันตรายที่สุดก็ได้ มนุษย์ก็เช่นกัน...ท่านว่ามั้ย

    “...”

    อย่าเข้าใกล้แสงสว่างมากจนเกินไป...มันอาจแผดเผาท่านจนมอดไหม้ได้ ข้าขอเตือน

    “...” แสงสว่าง....นี่นายกำลังจะบอกว่า...

    บางครั้ง...แสงสว่างก็ไม่ได้อยู่ข้างท่านเสมอไป ‘ความรักของท่าน รังแต่จะทำให้ท่านเจ็บปวดทรมานดั่งตายทั้งเป็น   ท่านไม่คู่ควรกับ ‘เขาหรอก”    

    “...” หมอนั่นรู้ ว่าเรา...

    ‘‘ ศรัทธา’ ที่ๆท่านอยู่ตอนนี้ก็เช่นกัน ไม่นาน...คนพวกนั้นจะมาแว้งกัดท่าน ช่วงชิงทุกสิ่งทุกอย่างของท่านไป...ท่านจะสูญสิ้นซึ่งทุกสิ่ง

    “...คนพวกนั้นหมายถึงพวกเขาเหรอ...โทสึกิ?

    ไปซะ...กลับคืนสู่ความมืดมิดอย่างที่ท่านเคยเป็น จงอย่าได้ออกมาอีกเลย

    “…”

    “…”

     “...แล้วถ้าฉันบอกว่าไม่ล่ะ”   จะให้กลับไปที่แบบนั้นอีกครั้งเหรอ...บ้าบอ ไม่มีทางเด็ดขาด ไม่มีวัน แบบนั้น...ฉันไม่มีวันตามหมอนั่นได้แน่...เจ้าบ้านารูโตะคนนั้น

     “...”

    ถ้าฉันไม่ยอมทำตามที่นายเตือนล่ะ จะเป็นยังไง

     “ถ้าเช่นนั้น...

    “...”

     “ข้าก็คงต้องขอให้ท่าน ‘หายไป’ ก็แล้วกัน

     

    ครึ่ก...ครืนนน ตู้มม

     

    เฮือก!!

     

    ทันใดนั้น พื้นที่ซาสึเกะเหยียบอยู่ก็สั่นไหวอย่างรุนแรงจนแทบทรงตัวไม่อยู่ ไม่รอช้า...สองเท้าถีบตัวออกวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว  และแล้วผืนพธุธาที่เคยเหยียบเมื่อไม่กี่วินาทีก่อนพังทลายสู่เบื้องล่างส่งเสียงสนั่นหวั่นไหว โลกทั้งใบสั่นคลอน ทุกอย่างเกิดขึ้นภายในชั่วพริบตา  ก้อนดินแห้งเกอะกรังก้อนแล้วก้อนเล่าร่วงกรูลงสู่ความมืดมิดใต้ล่างอย่างไม่มีทีท่าว่าจะหยุด

    แฮ่ก...แฮ่ก..

    ร่างเล็กยังคงวิ่งต่อไปข้างหน้าอย่างไร้จุดหมาย จิตใจมันเหนื่อยล้าไปหมด ในสถานการณ์เช่นนี้ เขามืดแปดด้านเหลือเกิน คิดอะไรไม่ออก เรี่ยวแรงที่เคยมีเหลือล้น มาตอนนี้กลับอ่อนปวกเปียกสิ้นดี แม้แต่จะใช้เนตรวงแหวนก็ยังทำไม่ได้เลย!

    อึ่ก...โอ๊ย!

     ด้วยไม่ทันระวัง เท้าเปล่าดันไปสะดุดกับก้อนหินจนร่างเล็กล้มลงไป คมหินบาดเข้าลึกเป็นทางยาวจนเกิดแผลฉกรรจ์ เลือดสีแดงสดไหลทะลักอาบฝ่าเท้าขาวเนียนราวกับก๊อกแตก 

     

    ข้าเตือนท่านแล้ว...

     

    อึ่ก...บ้าบอ...สิ้นดี

    ร่างเล็กสบถเบาๆด้วยเสียงที่อ่อนแรง บาดแผลที่สาหัสทำให้ร่างเล็กขยับไปไหนไม่ได้ เขาจะมาจบชีวิตที่นี้เหรอ...ต้องตายทั้งๆที่ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเนี่ยนะ !!! ใครก็ได้ช่วยบอกทีว่าเขากำลังเผชิญกับอะไรนรกเหรอความฝันอะไร...อ่านจันทราสะท้อนกลับบอกมาสิมันเรื่องบ้าอะไรกัน!!!

     

    หากไม่อยากตาย...ก็จงหนีตาย

     

    เสียงนั้นดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้กลับแจ่มชัดอยู่ในเส้นโสต ราวกับ...เป็นเสียงของเขาเอง

    หนีตาย...

     ซาสึเกะคิด

    หึ...ฉันมีที่ให้หนีได้ด้วยเหรอในโลกใบนี้ยังมีที่ให้ฉันพึ่งพิงได้อยู่ด้วยงั้นหรอ!!

    อุจิวะหนุ่มหลับตาลงอย่างจนปัญญา หายนะยังไล่ตามหลังมาเรื่อยๆ และในไม่ช้ามันก็จะถึงตัวเขา...เขาจะร่วงลงไปในความมืดมิดนั่น ไม่มีที่ให้หนีอีกต่อไป ความรู้สึกด้านลบเริ่มเข้าเกาะกุมจิตใจ เป็นครั้งแรกที่รู้สึกกลัวได้ขนาดนี้  ความหวาดกลัวกำลังครอบงำเขา เมื่อนึกถึงความตายที่กำลังคืบคลานเข้ามา

    ไม่เลย...โลกใบนี้ไม่มีพื้นที่สำหรับท่านหรอก พลังเนตรต้องสาปของท่านทำให้พวกเขาหวาดกลัว...

    พอแล้ว...ไม่ หยุดพูดนะ

     “อยากไล่ตามแสงสว่างนักหรือ...ข้าจะบอกอะไรให้นะ ท่านน่ะ...ไม่มีวันทำได้หรอก

    “...หุบปากซะ อึ่ก!” ปวดหัว...ไม่ไหว เหมือนมันจะแตกเป็นเสี่ยงๆเลย

    เพราะในไม่ช้า...แสงสว่างดวงนั้นแหละ จะเป็นฝ่ายไล่ตามท่านซะเอง อ้อ...ข้าหมายถึง ไล่ตามเอาชีวิต น่ะนะ ท่านควรจะกำจัดเขาทิ้งซะ เหมือนที่เคยเกือบลงมือในครานั้น...ที่หุบผาสิ้นสุด ” 

    “...” นายมัน...น่ารังเกียจ

    ใครกันแน่ที่น่ารังเกียจ  หึ...หากยังดื้อดึงอยู่...ก็จงลิ้มรสแห่งวาระสุดท้ายของท่านซะเถอะ เหมือนอย่างที่คนรอบตัวท่านได้สัมผัสจากน้ำมือของท่านเอง...อุจิวะ ซาสึเกะ ตัวข้า...ที่แสนน่ารังเกียจ

    ครืนนน...ครืนนนน

    นี่สินะ...ความตาย...ที่เขาเคยหยิบยื่นให้แก่ใครอีกหลายคนตลอดหลายปีที่ผ่านมา เขากำลังจะได้เผชิญกับมันในอีกไม่กี่อึดใจข้างหน้า

    กลัว...กลัวเหลือเกิน ไม่เอานะ...เขายังไม่อยากตาย

    ฮึ่ก...นารูโตะ...ช่วยฉันด้วย พาฉันออกไปจากที่นี่ที ฉัน...ฉัน...

    อย่าได้กลัวไปเลย...นายท่านแห่งข้า เพราะไม่ว่ายังไง...ท่านก็หนีชะตากรรมไม่พ้นอยู่ดี ขึ้นอยู่กับว่า ท่านจะยื้อ ‘มัน’ ไว้ได้นานแค่ไหน ก็เท่านั้น

    ไม่นะ...

    ครืนน...

    ไม่...จะร่วงแล้ว...

    ฉัน...กำลังจะตาย

    ช่วยด้วย ฮึ่ก...นารูโตะ นายอยู่ไหน ฮึ่ก...ทำไมถึงทิ้งฉันไว้คนเดียว เจ้าคนบ้าฮึ่ก...

    ได้โปรด...ต่อให้ฉันถูกแสงสว่างกลืนกิน แต่ว่า...ฉันอยากรักษามันไว้ ‘สิ่งสำคัญ’ ของฉัน ฉันอยากปกป้องมัน ฉันอยากจะคว้ามันไว้อีกครั้ง เพราะฉะนั้น ได้โปรด....แสงสว่างของฉัน...

    ช่วยพาฉันออกจากความมืดมิดนี้ที!!!

    .

    .

    .

    สิ้นหวัง...

    สิ้นหวังสิ...

    จงสิ้นหวัง...

    สิ้นหวังไปซะ!!!!!!  

    ฟุ่บบบ...

    อ๊าาาาาาาาาาา!!!

    .

    .

    .

    สึ...เกะ

    ซา...สึ...เกะ

    เฮ้ ตื่นสิ!! ซาสึเกะ

    เฮือก!!

    ร่างเล็กลืมตาโพลง ผุดลุกขึ้นอย่างตื่นตระหนก เนตรคู่สวยสั่นระริก กวาดมองไปรอบตัว แม้จะมืดสนิทแต่ก็รับรู้ได้ว่าเขายังนอนอยู่บนเตียงในห้องนอนของตระกูลโทสึกิ  เขายังไม่ตาย...แค่ฝันไปเท่านั้น แต่ถึงกระนั้น มือบางก็ไม่อาจหยุดสั่นได้เลย

    น่ากลัว...ฝันร้ายครั้งนี้น่ากลัวเหลือเกิน

    เป็นไงบ้าง รู้สึกดีขึ้นมั้ยเสียงทุ้มเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง เมื่อหันไปมองก็พบว่าเป็นนารูโตะ ร่างสูงนั่งอยู่ข้างๆ มือหนาเกลี่ยเส้นผมดำที่ปรกหน้าออกแผ่วเบา มืออีกข้างก็ลูบหลังให้อย่างปลอบโยน เนตรสีครามเคร่งเครียดแฝงแววห่วงไย 

    ไม่เป็นไรแล้วนะ นายแค่ฝันร้ายก็เท่านั้นเองโจนินหนุ่มเอ่ยปลอบคนขวัญเสียด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน นึกสงสัยว่าซาสึเกะฝันแบบไหนถึงเป็นได้ขนาดนี้

    นารูโตะ ฮึ่ก ฉัน...ฉันไม่ไหวแล้ว.... ไม่ไหวแล้วจริงๆ

    ฟุ่บบบ

    อะ เฮ้!

    ร่างสูงร้องอย่างตกใจเมื่อโดนคนตัวเล็กโผเข้าสวมกอดจนเกือบงายหลัง วงแขนหนาเอื้อมไปโอบรอบกายบางก็พบว่ามันสั่นระริกตามจังหวะสะอื้นไห้ของเจ้าตัว

    หายไปไหนมา ฮึ่ก นายไปอยู่ไหนมาฮะ เจ้าบ้า ฮึ่ก...คนตัวเล็กตัดพ้อด้วยเสียงสะอื้น ตอนนี้เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้นแล้ว เขาต้องการที่พึ่ง...ต้องการใครสักคนที่พอจะมาปลอบโยนให้หายจากฝันร้ายนี้ได้  

    ไม่เป็นแล้ว นายปลอดภัยแล้วนะซาสึเกะโจนินหนุ่มเอ่ยพลางลูบหลังเล็กที่สั่นระริกอย่างน่าสงสาร ซาสึเกะในตอนนี้ดูอ่อนแอยิ่งนัก

    ฮึ่ก...ฮึ่ก ฮืออคนตัวเล็กซุกหัวลงกับแผ่นอกกว้าง ร้องไห้ออกมาไม่ยอมหยุดอย่างน่าเวทนา

    ชู่วว อย่าร้องนะ คนดี...ฉันอยู่ตรงนี้แล้ว”  มือข้างหนึ่งยกขึ้นมาลูบหัวทุยๆ อย่างแผ่วเบา ริมฝีปากหนาก้มลงจูบขมับปลอบขวัญร่างบาง เปล่งน้ำเสียงอ่อนโยนตัดกับเสียงสะอื้นที่ดังระงมไปทั่วห้องกว้าง

    ไม่ต้องกลัวนะ ฉันอยู่กับนายแล้วนี่ไง คนดีของฉัน หยุดร้องเถอะนะ” 

    ได้โปรด อย่าร้องไห้แบบนี้อีกเลย...น้ำตาหยดแล้ว หยดเล่า ....ร่างกายที่สั่นระริกของนาย  มันทำให้ฉันทรมาน ความอ่อนแอของนาย...พาลให้หัวใจฉันมันจะแหลกสลายลงตรงนี้ซะได้ให้ นายรู้มั้ย...ฮึ

    ฮึ่ก อย่า...ฮึ่ก ทิ้งฉันไปไหนนะ ฮึ่ก ร่างเล็กเอ่ยน้ำเสียงสั่นพร่า กำชายผ้าของร่างสูงแน่นจนมือบางขาวซีด แผ่นอกแกร่งชุ่มไปด้วยหยาดน้ำตาที่ยังคงรินไหลไม่ยอมหยุด

    แน่นอน ฉันสัญญา จะไม่ทิ้งนายไปไหนอีกแล้ว เพราะงั้นหยุดร้องได้แล้ว...เด็กน้อย” 

    คำสัญญาที่ถูกเอื้อนเอ่ยออกไป ความอบอุ่นที่ส่งผ่านมือหนาที่ลูบหัวอย่างอ่อนโยน ราวกับแสงตะวันเจิดจ้าที่สาดส่องลงมาปัดเป่าความหนักอึ้งในจิตใจที่บอบช้ำจนมลายสิ้น  ไม่นาน ซาสึเกะก็ยอมสงบลงก่อนร่างเล็กจะผลอยหลับไปอย่างเหนื่อยอ่อน...ในอ้อมอกของร่างสูงซึ่งก็โอบกอดร่างนั้นไว้แน่นไม่ยอมปล่อยเช่นกัน

     

    ราตรีสีดำ...มักมากับฝันร้ายแบบนี้เสมอ

    ก็คงได้แต่ภาวนาให้รุ่งอรุณมาถึงเร็วๆ

    ท้องฟ้าที่ถูกแต่งแต้มด้วย ‘สีขาว’ ของเมฆานั้น

    ไม่ว่าเมื่อไหร่

    ...ก็งดงามเสมอ :)  

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×