ตอนที่ 2 : ตอนที่1 พี่เขาดุจังครับ
"พี่แมงมัน! นี่ตกลงพี่ให้ผมไปหาพี่ที่คุ้มเชียงคำได้แล้วใช่มั้ยครับ ได้ครับวันเสาร์นี้นะพี่ว่างแน่นะ อย่าให้ผมดีใจเก้อนะ ครับโอเคครับสวัสดีดีครับ"
เยี่ยม! ผมยกยิ้มอย่างดีใจหลังจากวางสายจากพี่ชายของผม ซึ่งก็คือพี่แมงมันที่ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ไร่คุ้มเชียงคำ อะไรที่ทำให้ผมดีใจขนาดนี้นะหรือ นั่นก็เพราะว่าคุ้มเชียงคำเป็นที่เลื่องลือในเน็ตมากๆเลยนะสิ ทั้งเรื่องความลึกลับ ตำนานต่างๆ มากมาย ซึ่งหนึ่งในเรื่องที่ผมสนใจสุดๆก็คือ ตำนานผีดิบในคุ้มเชียงคำนี่แหละครับ
อ่า ตอนนี้ผมต้องขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการสักหน่อยนะครับ ผมชื่อน้ำเหนือครับ อายุ22ปีพึ่งเรียนจบ และตอนนี้ผมเป็นเจ้าของเพจตะลอนหาเรื่องหลอน ฟังชื่อคุ้นๆมั้ยครับ ใช่ครับเป็นเพจที่กำลังติดลมบนอยู่ในเน็ตตอนนี้นั่นเองและไม่ใช่มีแค่เพจนะ แต่ผมยังมีช่องในยูทูปชื่อเดียวกันที่ลงเรื่องเล่าฉบับการ์ตูนหลอน
โดยมีผมและเพื่อนอีกคนช่วยตัดต่อและพากย์เสียงกันเอง และแฟนเพจของผมนับแสนก็ชื่นชอบเรื่องเล่าผีหลอนๆจากช่องพวกผมมาก ไม่ได้อวยตัวเองหรอกนะครับ แต่ว่าเรื่องไหนที่ผมนำลงในช่องนั้นจะได้รับความนิยมและถูกพูดถึงตลอดยังไงล่ะ ไม่ต้องถามถึงยอดวิวยอดกดไลค์ เพราะไม่เคยต่ำกว่าหมื่นไลค์เลยสักครั้ง
และคอนเทนต์ที่แฟนเพจส่งเข้ามามากก็หนีไม่พ้นเรื่องผีในไร่คุ้มเชียงคำ ที่ว่ากันว่าลึกลับและหลอนสุดๆ รายการผีดังๆหลายที่พยายามติดต่อไปก็ไม่ได้รับการตอบรับ ทำได้เพียงแค่เขียนข่าวจากเสียงเล่าลือของชาวบ้านระแวกใกล้ๆเท่านั้น นี่จึงเป็นเรื่องท้าทายมากๆของเพจตะลอนหาเรื่องหลอนของผมที่จะได้เข้าไปสืบเรื่องผีๆในไร่ลึกลับแห่งนี้
ผมจึงไม่รอช้าต่อสายหาแอดมินร่วมอุดมการณ์การอย่างไอ้ไม้เพื่อนสนิทผมหลังจากที่ได้รับข่าวดีนี้
"เออ เราเองไม้ ฟังเราดีๆนะคือตอนนี้พี่เราให้เราไปหาได้แล้ว"
'แล้วไงวะ เรื่องแค่นี้ต้องโทรมาบอกไอ้ไม้เลยเหรอครับ ไอ้คุณเพื่อนน้ำเหนือ'
"หึหึ ลืมไปแล้วสินะครับคุณไม้เพื่อนรัก ว่าพี่ชายเราอ่ะทำงานอยู่ในไร่..."
'เชี่ยยย! ไร่นั้นใช่มั้ยวะไร่ผีดิบนั่นใช่มั้ยวะ โอ้ย!ไชโย่ แม่งโคตรดีใจเลยว่ะ '
"ใช่"
'เยี่ยมไปเลยเพื่อนรัก เพื่อนน้ำเหนือมึงนี่มันแต้มบุญสูงสัดๆเลยว่ะ ยอมใจคุณมึงจิมๆ'
"เออ แต่ของร้องเถอะไม้ พูดภาษาคนปกติกับเรานะ ภาษาไทยจะวิบัติอยู่แล้วเนี่ย"
'อ้าวก็ภาษาพ่อขุนไงคร้าบ'
"เอาเถอะแค่นี้แหละเดี๋ยวเราจะไปเตรียมตัวละ"
'เครๆ ว่าแต่จะไปวันไหนนะลืมถาม'
"อ่า จริงด้วยสิ วันเสาร์นี้อ่ะไม้ งั้นที่นัดกันจะไปโรงแรมเก่าที่แม่ริมคงไปด้วยไม่ได้แล้วนะ ไม้ต้องไปหาข้อมูลคนเดียวแล้วล่ะ"
'เฮ้ย! จริงดิน้ำเหนือมึงก็รู้ว่ากูกลัวผีอ่ะ นี่มึงจะทิ้งกูไปคนเดียวจริงๆเหรอ'
"ใช่ เพราะการที่จะเข้าคุ้มเชียงคำได้มันอาจจะไม่มีโอกาสดีๆแบบนี้อีกแล้วน่ะสิ ไม้ก็รู้ว่าที่นั่นเข้ายากแค่ไหน เพราะฉะนั้นเพื่อนไม้โชคดีนะครับ"
พูดจบผมก็กดตัดสายโดยไม่รอฟังคำโวยวายจากปลายสาย ที่กำลังตัดพ้อต่อว่าผมอยู่ให้เสียประสาทหูแม้แต่น้อย เพราะตอนนี้ผมต้องไปเตรียมตัวเพื่อเดินทางไปเชียงราย จุดหมายคือไร่คุ้มเชียงคำ ที่ใครๆก็ต่างอยากเข้าไปสัมผัสเรื่องลึกลับตามข่าวลือที่มีออกมาเรื่อยๆในช่วงนี้
เช้าวันเสาร์ ณ ไร่คุ้มเชียงคำ
หลังจากที่ผมแจ้งคนงานที่เฝ้าทางเข้าไร่ว่ามาหาพี่ชาย เขาก็ให้ผมรอเกือบๆจะสิบห้านาทีได้ ร่างสันทัดในชุดม่อฮ่อมสีเข้มก็เดินเข้ามาพูดคุยกับคนเฝ้าสักพักจึงมองเลยมาทางผม
"น้องพี่แมงมันเหรอเรา ชื่ออะไรล่ะ พี่ชื่อสตางค์ เรียกพี่สตางค์ก็ได้"
"สวัสดีครับพี่สตางค์ ผมชื่อน้ำเหนือครับเป็นน้องชายพี่แมงมัน มาจากป่าซางจังหวัดลำพูนครับ"
"อืม งั้นเดี๋ยวพี่พาเราไปหาพี่แมงมันเองตามมาสิ"
พี่สตางค์พูดพร้อมส่งยิ้มมาให้อย่างใจ
ดี
"ขอบคุณมากครับพี่"
ผมรีบก้าวเดินตามเข้าไปภายในคุ้มเชียงคำ ระหว่างนั้นพี่สตางค์ก็แนะนำภายในไร่แบบคร่าวๆให้ผมฟังบ้าง ชวนคุยบ้าง เพื่อไม่ให้เงียบเกินไป พี่สตางค์ก็เป็นคนใจดีคนหนึ่งและเหมือนจะรู้จักสนิทกับพี่ชายของผมเป็นอย่างดี
ในระหว่าที่เดินมาได้สักพัก ร่างสูงใหญ่ของใครบางคนก็ปรากฏตัวขึ้น
"พี่ พี่ พี่ผาเมืองครับเดี๋ยวก่อนครับ"
"อ้าว ว่าไงสตางค์"
"พี่ผาเมืองเห็นพี่แมงมันมั้ยครับ"
"พี่ใช้แมงมันให้ไปทำธุระ เดี๋ยวสักพักก็คงกลับมา แล้วนั่นพาใครมาล่ะ"
"อ๋อ คนนี้ชื่อน้ำเหนือครับเป็นน้องชายพี่แมงมันมาจากป่าซาง จังหวัดลำพูนโน้นครับ"
"สวัสดีครับ พี่แมงมันให้ผมมาหาที่นี่น่ะครับ"
"อืมสวัสดี พาเขาไปรอที่ฝั่งไร่ดอกไม้แล้วกันนะสตางค์"
"ได้ครับ"
"ขอบคุณครับพี่ผาเมือง"
พูดจบคนร่างสูงตรงหน้าก็เดินคิ้วขมวดจากไป
"พี่ผาเมืองคิ้วขมวดแบบนี้ตลอดเลยหรือครับพี่สตางค์ ท่าทางพี่เขาจะดุมากๆเลยนะครับ"
"ไม่เลย เห็นแบบนี้นะพี่ผาเมืองใจดีกับคนงานที่นี่มากๆด้วยซ้ำ และที่สำคัญนะยังเป็นผู้จัดการไร่ที่หล่อที่สุดในเชียงรายเลยนะจะบอกให้ "
"อ่า อย่างนั้นหรือครับ"
"ปะ ไปกันต่อเถอะ"
"อ้าว พี่สตางค์รอผมด้วยครับ"
ไม่นานนักผมกับพี่สตางค์ก็มาถึงไร่ดอกไม้และไม่ถึงสิบนาทีพี่แมงมันก็มาถึง
"น้ำเหนือไม่เจอกันนานเลยนะ โตขึ้นจนหล่อจะเท่าพี่แล้วหรือนี่"
"พี่แมงมัน คิดถึงพี่จังเลยครับ พี่ไม่ยอมกลับไปเยี่ยมบ้านเลยพ่อแม่ก็บ่นหาตลอด"
ผมสวมกอดกับพี่ชายที่ไม่เจอกันนานหลายปีครู่นึงจึงผละออก
"พี่สบายดีนะครับ"
"สบายดีสิ แต่ที่นี่มันยุ่งๆหลายอย่างแหละ เลยไม่มีเวลาไปเยี่ยมบ้านเลย พ่อกับแม่สบายดีใช่มั้ย"
"ครับสบายดี"
"เอ้อ เรื่องที่เราจะมาอยู่ที่นี่สักพักพี่คุยกับผาเมืองให้แล้ว เดี๋ยวพี่จะให้สตางค์พาไปหาผาเมืองอีกทีแล้วกันว่าเขาจะให้ทำอะไรพักที่ไหนระหว่างอยู่ที่นี่"
"อ้าว ผมไม่ได้พักกับพี่แมงมันหรือครับ"
"น่า ตอนนี้พี่กำลังยุ่ง สตางค์ฝากด้วยนะเดี๋ยวพี่ต้องไปจัดการธุระในไร่ต่อ"
"อ๋อ ได้สิพี่แมงมันเดี๋ยวผมดูแลจัดการให้ไม่ต้องห่วง"
"เออขอบใจมาก น้ำเหนือแล้วค่อยคุยกันนะพี่ต้องไปแล้ว"
"เดี๋ยวสิครับพี่ อ้าวทิ้งน้องไปเฉยเลย"
"งั้นเราก็ต้องไปกันบ้างแล้วล่ะ ปะไปรอที่บ้านพักพี่ผาเมืองแล้วกันเรา จะได้ไปหาอะไรกินกลางวันที่นั่นด้วย"
"โอเคครับพี่"
ผมเดินตามพี่สตางค์เหมือนอย่างเคย ระหว่างนั้นก็สำรสวจเส้นทางและบรรยากาศภายในคุ้มเชียงคำไปด้วย
"ฝั่งนั้นจะเป็นทางไปคุ้มใหญ่ถ้าไม่จำเป็นก็อย่าไปแถวนั้นล่ะ เดี๋ยวเลี้ยวขวาทางนี้ไปก็เป็นบ้านพักพี่ผาเมืองแล้ว"
"ครับพี่สตางค์"
"อ้าวไหวมั้ยเนี่ยดูหน้าซีดไปนะ"
"ไหวครับไปต่อเถอะครับ"
พี่สตางค์พยักหน้าให้ก่อนเดินนำไป ผมหอบหน่อยๆจากการเดินหลายสิบนาทีติดต่อกัน แต่ก็ไหวแหละครับผมออกจะแข็งแรง หากปกติไม่ค่อยได้เดินเยอะขนาดนี้มันก็มีหอบบ้างไรบ้างแหละคนเรา
และในที่สุดเราก็มาถึงบ้านพักของพี่ผาเมือง พี่สตางค์แนะนำผมให้พ่อใหญ่รู้จัก หลังจากคุยกันได้ไม่นานพ่อใหญ่ที่ผมมารู้ภายหลังว่าคือหมอยาของที่นี่ และยังเป็นพ่อของผู้จัดการไร่หน้าดุที่ผมกำลังรอพบอยู่ พ่อใหญ่ึงชวนผมกับพี่สตางค์กินข้าวกลางวันด้วยกันเสียที่นี่ หลังจากนั้นพ่อใหญ่ก็ขอตัวไปทำธุระต่อ ผมก็ได้แต่รอพี่ผาเมืองโดยเดินเล่นสำรวจรอบๆบ้านไปเท่านั้น
"อ้าว สตางค์มีอะไรถึงได้มาอยู่ที่นี่ได้"
"พี่ผาเมืองมาพอดีเลย ผมกำลังจะไปตามพี่อยู่พอดี"
เมื่อผมได้ยินเสียงทุุ้มต่ำที่ติดจะดุหน่อยๆ แต่ก็คุ้นเคยอย่างประหลาด จึงเดินมาดู อ๋อพี่ผาเมืองนั่นเองมิน่าล่ะถึงเสียงคุ้นๆ
"ก็เรื่องของน้องพี่แมงมันนั่นแหล่ะครับ น้ำเหนือมานี่สิ"
"อืม แมงมันบอกพี่ไว้แล้วเหมือนกัน แล้วนายทำอะไรเป็นบ้างล่ะ"
"ครับ ผมทำได้ทุกอย่างเลยครับงานหนักงานเบาผมไม่เกี่ยง พี่ผาเมืองจะให้ผมทำอะไรผมทำได้หมดเลยครับ"
"งั้นก็ดี เดี๋ยวพี่จะให้สตางค์สอนงานนายไปก่อนก็แล้วกัน"
"นี่แสดงว่า พี่ผาเมืองให้ผมอยู่ที่นี่ ทำงานที่นี่แล้วใช่มั้ยครับ"
"อืม"
"ขอบคุณมากครับพี่ผาเมือง ผมสัญญาว่าผมจะตั้งใจทำงานให้ดีที่สุดเลยครับ"
ผมไหว้ขอบคุณพี่ผาเมืองด้วยความดีใจ พี่สตางค์ตบไหล่ผมเบาๆอย่างยินดี ผมจึงหันไปขอบคุณพี่สตางค์อีกคน
"ขอบคุณพี่สตางค์ด้วยนะครับ เอ่อแล้วก็ขอบคุณพี่ผาเมืองอีกครั้งนะครับที่ให้โอกาสผม"
"อืม ไม่เป็นไรแค่ตั้งใจทำงานให้ดีก็พอแล้ว ส่วนเรื่องที่พัก นายก็พักที่นี่ไปก่อนแล้วกันมีห้องว่างอยู่ไม่ได้ใช้งานอะไร"
"ให้ผมพักที่บ้านของพี่ผาเมืองหรือครับ"
"ใช่ นายมีปัญหาอะไรหรือเปล่า"
" ปะ เปล่าครับ"
"งั้นก็ตามมา เดี๋ยวพี่จะพาไปดูห้องพักของนาย"
ผู้จัดการไร่หน้าดุที่ผมตั้งฉายาให้ในตอนแรกเดินนำขึ้นไปด้านบน ตอนนี้นี่เองที่ผมเพิ่งรู้ว่าจริงๆแล้ว พี่ผาเมืองเป็นคนใจดีอย่างที่ใครๆเขาว่าจริงๆ
"พี่สตางค์ พี่ผาเมืองทั้งหล่อและก็ใจดีอย่างที่พี่บอกจริงๆด้วย"
"อือ งั้นก็ตามพี่ผาเมืองไปได้แล้ว เดี๋ยวพี่จะกลับแล้วไว้พรุ่งนี้พี่จะพาพี่แมงมันมาหาเราด้วยแล้วกัน"
"ครับ"
ผมรับคำพี่สตางค์ก่อนจะเดินตามพี่ผาเมืองขึ้นไปบนชั้นสองของตัวบ้าน
"บ้านนี้มีสามห้องนอน ห้องนั้นในสุดเป็นห้องพ่อพี่ ส่วนนายก็อยู่ห้องตรงข้ามห้องพี่ไปก็แล้วกันนะ"
"ครับ"
"งั้นนายเอาของไปเก็บ แล้วพักผ่อนเถอะได้เวลาอาหารเย็นเดี๋ยวพี่จะมาเรียกนายอีกที"
"ให้ผมช่วยทำอาหารเย็นด้วยก็ได้นะครับ จะได้ไม่ต้องลำบากมาเรียกเดี๋ยวเก็บของเสร็จผมจะลงไปช่วยครับ"
"ไม่ต้อง พี่ให้นายเริ่มงานวันจันทร์ไม่ใช่วันนี้ ไปพักได้แล้ว"
"ก็ได้ครับ งั้นผมขอตัวก่อนนะครับพี่ผาเมือง"
ผมตอบตกลงในที่สุด ก็ดีเหมือนกันมีเวลาพักผ่อนได้สำรวจไร่อีกตั้งหนึ่งวันก่อนเริ่มฝึกทดลองงานไม่เลวเลย คิดได้อย่างนั้นผมก็เดินไปยังห้องพักเพื่อเก็บของก่อนเป็นอันดับแรก
"เดี๋ยวก่อน"
ยังไม่ทันที่ผมจะเปิดประตู มือใหญ่ของพี่ผาเมืองก็คว้าต้นแขนของผมเอาไว้เสียก่อน
"ครับ มีอะไรหรือครับพี่ผาเมือง"
"พี่แค่จะบอกเราว่า นั่นน่ะมันห้องพี่ ส่วนห้องของเราน่ะอยู่ทางซ้ายมือ"
"เอ่อ ขอโทษครับ งั้นทางนี้ใช่มั้ยครับ เอ่อผมขอตัวเข้าห้องนะครับ"
ผมรู้สึกอายมากที่เผลอทำตัวเปิ่นๆออกไปซะได้ มือไม้ก็ไม่รู้จะวางไว้ตรงไหน ได้แต่ยกขึ้นมาเกาแก้มแก้เก้อ
"ครับ"
เชี่ยแล้วไอ้น้ำเหนือ จะมาแพ้คำว่าครับคำเดียวของพี่ผาเมืองไม่ได้นะ ผมได้แต่สบถในใจหลังจากเข้ามาภายในห้องแล้ว ได้แต่กุมมือไว้ตรงหัวใจเพราะกลัวว่าใครอีกคนที่อยู่ข้างนอกจะได้ยินเสียงหัวใจที่เต้นแรงจนแทบจะทะลุออกจากอก
"เราที่พี่สตางค์พูดกับเราที่พี่ผาเมืองใช้เรียกเรา ทำไมมันให้ความรู้สึกต่างกันจังวะ ตอนแรกก็เรียกเราว่านาย แต่พอเปลี่ยนมาเรียกว่าเรา ทำไมใจมันเต้นแรงแปลกๆได้วะน้ำเหนือ"
'ตึง!ตึง!ตึง!'
เสียงแจ้งเตือนไลน์ดังขึ้น
ไม้เอกไม่ใช่ไม้โท: เป็นไงบ้างมึง
ไม้เอกไม่ใช่ไม้โท: ผู้จัดการหน้าดุของมึงรับมึงเข้าทำงานที่นั่นหรือเปล่าวะ
ไม้เอกไม่ใช่ไม้โท: ว่าไงตอบ!
น้ำเหนือเหนือสุด: รับ
ไม้เอกไม่ใช่ไม้โท: เอ่อดีแล้ว แต่ว่าเขาดุมากมั้ยว่ะกูชักเป็นห่วงมึงแล้วสิไหวแน่นะมึง
น้ำเหนือเหนือสุด: อืมพี่เขาดุมาก แต่เราไหวแหละ
ไหวแหละใจหวั่นไหวแหละดูออก ช่างแม่งมันแล้วกัน อยากได้ลูกเสือก็ต้องเข้าถ้ำเสือก็ถูกแล้ว ถึงเสือจะดุแต่หนูก็ไหวแหละครับ ผมได้แต่ให้กำลังใจตัวเองอยู่ในห้องเงียบๆ
??’???’???’???’???’???’???’???’???’???’?
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

1 ความคิดเห็น
-
#1 hlouknam (จากตอนที่ 2)วันที่ 15 กันยายน 2563 / 07:22โอ๊ยยยย ใจบางงงง#10