คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Gerbera ❀ 3
Noted : เรนเดล บรูค [ เหรินจวิ้น ]
วันเกิดของลูกชายคนเดียวของตระกลูโลเวลกำลังใกล้เข้ามาทุกทีเหลือเวลาอีกไม่กี่วันต้องเตรียมตัวสำหรับทำขนมและช่วงนี้คุณเมลิกมาช่วยขายทุกวันทำให้ร้านขายดีรายการสั่งขนมก็เพิ่มขึ้นทุกวันจนต้องติดประกาศหน้าร้านว่าปิดรับสั่งขนมและจะไม่ขายจนกว่าจะผ่านวันงานเลี้ยงส่วนที่สั่งไว้จะได้วันถัดไปของวันที่สั่ง
“ขอบคุณพ่อเมลิกมากๆนะที่ช่วยทุกวันแถบยังอยู่เป็นเพื่อนเล่นกับน้องเจีย”
“มันไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยครับผมเต็มใจแล้วตัวผมเองก็อยากมีน้องสาวมาตลอดได้เล่นกับเจียน่าเหมือนได้เติมเต็ม”
“เจ้าเจียน่าช่วงนี้ก็ติดพ่อเมลิกแจจนพี่ชายแท้ๆงอนมางอแงกับแม่ว่าน้องไม่รักแล้ว”
“คุณงอนน้องหรอ”
“ก็ใช่นะสิเจียน่าดูรักคุณมากขนาดก่อนนอนทุกวันต้องร้องไห้ผมอ่านหนังสือนิทานให้ฟังแต่เดี๋ยวนี้เอาแต่พูดว่าจะรับนอนเพื่อจะได้ตื่นเช้ามีเวลาเล่นกับคุณก่อนไปโรงเรียน”
“อย่างอนเลยยังไงเจียน่าก็ต้องรักพี่แท้ๆแบบคุณมากกว่าผมอยู่แล้วเธอแค่กำลังเห่อของเล่นใหม่เท่านั้น”
“คุยกันไปนะพ่อขอตัวไปเอนหลังหน่อยยืนนวดแป้งตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้น”
“ที่เหลือเดี๋ยวพวกเราทำเองครับเหลือไม่เยอะแล้วพ่อกับแม่ไปพักเถอะครับ”
“งั้นเดี๋ยวแม่ชงชามาให้ ”
“ขอบคุณครับ” แม่ยิ้มให้ก่อนจะเดินตามพ่อออกไปผมกับคุณเมลิกก็ก้มหน้าก้มตาตกแต่งธัญพืชและผลไม้สดบนขนมปังคุณเมลิกเวลาตั้งใจทำอะไรนี้ดูเท่มองไม่รู้ตัวเลยว่าจ้องเขาจนเขารู้ตัว
“มองผมขนาดนี้ชอบผมหรอ”
“พูดอะไรของคุณชะ ชอบอะไรผมไม่มองสักหน่อย”
“นอกจากจะเป็นเด็กอ้วนแล้วยังเป็นเด็กเลี้ยงแกะอีกผมจะบอกอะไรให้นะผมรู้ตั้งแต่คุณหันมามองแล้ว”
“แล้วทำไมไม่บอกล่ะ”
“แค่อยากรู้ว่าจะมองนานแค่ไหนก็เท่านั้นแล้วคุณมองผมทำไม”
“ก็คุณเวลาตั้งใจทำอะไรมันเท่ดี”
“ขอบคุณครับคุณเองเวลาตั้งใจทำอะไรคุณจะหลงใหลไปกับสิ่งที่ทำอยู่มันมีเสน่ห์นะรู้ตัวมั้ย”
“คุณเคยพายเรือมั้ย”
“เคยครับ”
“งั้นเราไปพายเรือในทะเลสาบกันตั้งแต่คุณมานี้คุณอยู่แต่ที่ร้านกับที่บ้านของผมคุณยังไม่เคยไปเที่ยวพรุ่งนี้ผมจะพาคุณไปเที่ยวให้ทั่วเขตใต้”
“คุณพูดเรื่องพายเรือผมก็รู้สึกอยากพายขึ้นมาเลย” เราหันกลับมาสนใจขนมปังต่างๆตรงหน้าเราช่วยกันตกแต่งจนเสร็จจัดใส่ถุงแล้วนำถุงที่เต็มไปด้วยขนมปังหอมๆเหล่านั้นส่งให้กับลูกค้าที่มายืนรออยู่ที่หน้าร้าน
“มานั่งพักแม่ชงชาเสร็จพอดี”
“หอมมากเลยได้กลิ่นมาแต่ไกลเลยนะครับ”
“ชาเป็นของฝากจากเขตเหนือๆได้มาจากคุณท่านตระกูลโลเวลบ้านเราส่งขนมให้เขาทุกสัปดาห์มานานหลายสิบปีพวกท่านใจดีเวลาไปไหนก็จะหาของฝากเล็กน้อยๆมาให้ตลอดและพวกเขายังเอ็นดูเจนนิซกับเจียน่ามาก”
“ใช่ครับพวกท่านให้ของขวัญทุกวันเกิดส่งเสียค่าเล่าเรียนจนกว่าจะเรียนจบตัวผมเองอยากที่จะเรียนสูงๆแต่ต้องหยุดเรียนเพราะพ่อประสบอุบัติเหตุทำให้ขาเดินไกลหรือยืนมากๆจะเกิดอาการเจ็บผมเลยตัดสินใจหยุดเรียนแล้วมาช่วยทำงานในร้านแทนผมขอบคุณพวกท่าน”
“ผมหวังว่าสักวันจะได้ตอบแทนท่าน”
“คนแบบคุณใครที่ใกล้ก็รับรู้ถึงความอ่อนโยน การวางตัว นอบน้อม กตัญญู สดใสร่าเริง คิดบวก ใส่ใจคนรอบข้างทุกอย่างที่คุณไม่ว่าเป็นใครก็รัก”
ก๊อกๆๆ เสียงเคาะประตูทำให้ทุกคนในบ้านหันไปตามเสียงนั้นวันนี้ส่งขนมครบหมดแล้วไม่น่าจะใช่ลูกค้าพ่อเดินไปเปิดแระตูพบกล่องลังสีดำขนาดไม่เล็กไม่ใหญ่บนกล่องมีจดหมายจ่าหน้าซองถึง ‘ เจนนิซ อลาโน่ ’ วางอยู่พ่อมองซ้ายขวาว่าใครเป็นคนเอามาวางไว้แต่ก็ไม่พบใครเลยเลยยกกล่องนั้นเข้ามาในบ้าน
“จดหมายถึงลูกเปิดอ่านซะสิ” ผมพยักหน้าก่อนจะหยิบซองจดหมายเปิดอ่านออกเสียงเพื่อให้ทุกคนได้รับรู้ไปด้วยกัน
ถึง เจนนิซ อลาโน่
นี้คือจดหมายฉบับแรกที่เคยเขียนถึงเธอนะเธอรู้ใช่ไหมว่าอีกไม่กี่วันจะถึงวันฉลองวันเกิดอายุ20 ปี ของลูกชายคนเดียวของตระกูลโลเวลฉันขอเชิญเธอมาร่วมงานในกล่องนั้นมีชุดและหน้ากากที่สั่งทำและตัดเย็บพิเศษสำหรับเธอใส่ในวันงานหวังว่าจะชอบและที่ฉันเชิญเธอเพียงคนเดียวเป็นไม่ใช่เพราะว่ารังเกียจแต่มันคืองานกลางคืนพ่อกับแม่ของเธอทำขนมสำหรับงานเลี้ยงทั้งวันคงจะเหนื่อยพวกเขาต้องได้รับการพักผ่อนและหนูเจียน่าตัวน้อยเป็นเด็กฉลาดก็ควรนอนแต่หัวค่ำเพื่อตื่นเช้าแล้วไปโรงเรียนได้อย่างสดใสเหมือนทุกๆวันเข้าใจใช่ไหม วันงานฉันจะรอเธอ
ด้วยรักจาก เมเบล โลเวล
ผมอ่านจบก็วางจดหมายลงและเปิดกล่องและมันก็จริงอย่างที่ในจดหมายได้กล่าวไว้ผมหยิบชุดและกล่องกำมะหยีสีดำออกมาจากกล่องชุดสีขาวหรูหราเนื้อผ้าคลุมที่มีฮูดเหมือนหนูน้อยหมวกแดงเนื้อดีปักดิ้นทองและประดับด้วยอัญมณีเสื้อด้านในเป็นผ้าซาตินเรียบๆกางเกงใช้ผ้าชนิดเดียวกับผ้าคลุมทำให้ชุดดูเรียบร้อยไม่เยอะจนดูขัดตาพออยู่รวมกันแล้วสวยงามจนไม่ว่าใครก็ไม่อาจละสายตาได้เลยรวมถึงตัวของเขาเองก็ด้วย
ในกล่องกำมะหยีสีดำเมื่อเปิดออกจะพบกับหน้ากากสีขาวที่เป็นลายหินอ่อนถูกตกแต่งรวดลายด้วยสีทองทำให้มันหน้าหลงใหลที่สื่อตัวตนถึงคนที่สวมใส่มันอธิบายความเป็นเจนนิซได้เป็นอย่างดี
“มันเข้ากับคุณนะทุกๆอย่างเลย ”คุณเมลิกพูดขึ้นขณะที่ผมกำลังเก็บทุกอย่างกลับใส่ในกล่อง
“คุณจะไปงานนั้นมั้ย”
“ต้องไปอยู่แล้วไม่ไปไม่ได้คุณหญิงทั้งเขียนจดหมายด้วยตัวท่านเองและส่งชุดพร้อมหน้ากากใครกันที่จะกล้าปฏิเสธความเมตตาของท่านได้”
“นั้นนะสิใครจะกล้า”
“วันงานก็ทำวางตัวให้ดีรู้มั้ยเจนนิซ”
“ครับแม่ผมจะไม่ทำให้พ่อกับแม่และคุณท่านทั้งสองต้องขายหน้าและคิดผิดที่เชิญผมมาร่วมงานด้วย”
“แล้วคุณว่าในงานจะมีการเต้นรำมั้ย”
“ไม่รู้สิครับผมไม่เคยไปงานแบบนี้มาก่อนเหมือนกันถ้ามีผมแย่แน่ผมเต้นรำไม่เป็น”
“แต่ผมสอนคุณได้นะสนใจมั้ย”
“คุณสอนผมได้หรอสนใจสิคุณต้องสอนผมนะ”
“จะสอนแบบรวบรัดให้เพราะเหลือเวลาอีกไม่กี่วันแล้ว”
“ขนมก็ต้องทำเรียนก็ต้องเรียนเหนื่อยหน่อยนะลูก”
“ครับพ่อ”
“คุณวันนี้เริ่มสอนเลยได้มั้ยแต่สอนหลังไปรับเจียน่านะน้องจะได้ดูด้วยผมว่าเธอชอบ” เขาพยักหน้ายิ้มให้ผมยิ้มตอบกลับไปเรานั่งคุยกันระหว่างรอแม่ไปอุ่นข้าวเที่ยงให้เรานั่งรวมกันข้าวทั้งสามมื้อด้วยกันทุกวันจนพ่อกับแม่รับคุณเมลิกเป็นสมาชิกในครอบครัวอีกคนโดยปริยาย
“คุณถึงเวลาไปรับเจียน่าแล้ว”
“ถึงแล้วหรอกำลังคุยกับพ่อเรื่องล่าสัตว์กำลังสนุกเลยงั้นพ่อครับผมไปรับเจียน่ากับเจนนิซก่อนนะครับเดี๋ยวกลับมาคุยต่อ”
“ไปดีมาดีนะทั้งสองคน” เราบอกลาพ่อกับแม่แล้วออกเดินไปโรงเรียนของเจียน่าที่มีเพียงแห่งเดียวในเขตใต้ที่เป็นโรงเรียนเด็กเล็กผมเองก็เรียนที่นั้นมาก่อนจริงๆมันอยู่มานานก่อนรุ่นของพ่อเสียอีกแต่ทุกวันก็ช่วยกันดูแลรักษากันมาอย่างดีทำให้โรงเรียนนี้ไม่ถูกปิด
“น้องเจียน่าพี่ชายมารับแล้วนะคะ” คุณครูเรียกเจียน่าที่กำลังวิ่งเล่นอยู่กับเพื่อนเมื่อเจียน่าเห็นว่าใครยืนอยู่ข้างๆคุณครูก็รีบเดินจูงเมื่อเพื่อนสนิทมาหาทันที
“สวัสดีค่ะพี่เจนนิซพี่เมลิก”
“กลับกันเลยมั้ยคะ”
“ยังไม่กลับได้มั้ยคะหนูขออยู่รอเป็นเพื่อนไลลาก่อนนะคะ”
“ได้สิ สวัสดีค่ะไลลา”
“สวัสดีค่ะพี่เจนนิซ”
“เรนเดล บรูค มาช้าอีกแล้วน่าตีปล่อยให้น้องสาวที่น่ารักรอได้ยังไงกันใช่ไม่ได้เลย”
“นายจะตีใครเจนนิซ ”
“ก็ตีนายไงมารับไลลาช้าเกือบทุกวัน”
“ทำงานในร้านอาหารมันยุ่งไลลาเข้าใจใช่มั้ยครับ”
“ไลลาเข้าใจพี่เรน”
“แล้วนี้ใคร”
“คุณเมลิกเพื่อนใหม่คุณเมลิกนี้ เรนเดล บรูคเพื่อนสนิทของผมเอง”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับคุณเรนเดลผมเมลิก”
“ยินดีที่ได้รู้จักครับผมเรนเดล บรูท คุณมาจากที่ไหนผมไม่เคยเห็นหน้าคุณมาก่อน”
“ผมเป็นคนเขตใต้ครับแต่ผมไปเรียนเขตกลางตั้วแต่เด็กตอนนี้ผมทำงานอยู่ที่ร้านของเจนระหว่างที่อยู่นี้”
“อย่างนี้นี่เองเขตใต้ยินดีตอนรับนะครับถ้าว่างๆก็ให้เจนนิซพามาทานอาหารร้านผมได้อยู่ไม่ไกลร้านขนมปังอลาโน่ของเจนนิซ”
“มีโอกาสจะไปครับ ”
“งั้นผมกับน้องขอตัวนะครับไว้เจอกันใหม่ไลลาบอกลาเจียน่าได้แล้ว” ไลลาบอกลาเจียน่าทั้งสองกอดกันเหมือนทุกๆวันเมื่อไลลาและเรนเดลเดินออกไปเจียน่าก็กระตุกชายเสื้อคุณเมลิกเพื่อให้เขาอุ้ม
“วันนี้เรียนเป็นยังไงบ้างคะ”
“วันนี้เจียน่าได้วาดรูประบายสีหัวข้อโตขึ้นอยากเป็นอะไรหนูวาดเจ้าหญิงค่ะคุณครูกับเพื่อนๆชมว่าหนูวาดรูปสวย”
“อยากดูจัง”
“พี่เจนนิซอยากดูหรอคะหนูเอามาด้วยอยู่ในกระเป๋าพี่หยิบออกมาให้หนูหน่อย” เจียน่าถอดกระเป๋าส่งให้เจนนิซที่เดินอยู่ข้างๆ
เจียน่าอธิบายภาพที่วาดระบายสีเองพื้นหลังเป็นภาพบ้านของเรามีเจียน่ายืนอยู่ตรงกลางใส่ชุดเจ้าหญิงสีชมพูมีผู้หญิงกับผู้ชายที่ยืนขวามือคือพ่อกับแม่ส่วนด้านซ้ายมือคือผมกับคุณเมลิกมันไม่ได้สวยมากแต่รับรู้ได้ถึงความสุข ความฝัน ความตั้งใจ ของเจียน่ากลับบ้านเดี๋ยวต้องหากรอบสวยๆมาใส่ให้
“เราไม่กลับบ้านกันหรอคะทำไมเรามาที่นี้ ”คุณเมลิกวางเจียน่าที่ชิงช้าที่ถูกผูกใต้ต้นใหญ่ที่นี้อยู่ไม่ไกลจากโรงเรียนเป็นที่จัดงานเทศกาลต่างของเมืองเป็นลานกว้างมีต้นไม้ใหญ่ตรงกลาง
“วันนี้เราจะกลับช้านิดหน่อยนะคะน้องเจียน่าเพราะพี่จะสอนพี่เจนนิซเต้นรำ”
“เต้นรำหรือคะหนูอยากเต้นรำด้วยสอนหนูด้วย”
“ได้ค่ะแต่พี่สอนได้ทีละคน”
“งั้นพี่เมลิกสอนพี่เจนก่อนเดี๋ยวหนูนั่งดู”
“เอางั้นหรอคะ” เธอพยักหน้าก่อนจะไกวชิงช้าผมมองคุณเมลิกที่เริ่มอธิบายมารยาทต่างๆในการเต้นรำเมื่ออธิบายเสร็จคุณเมลิกโค้งตัวเพื่อเป็นการให้เกียรติ
เรายืนหันหน้าเข้าหากัน ตัวและเท้าตรงกันเขาเอามือขวาโอบหลังผมระดับเอวมือซ้ายของเขาจับกับมือขวาผมยกขึ้นระดับไหล่มือซ้ายของผมเกาะที่ไหล่ขวาของเขาเราค่อยๆก้าวตามที่คุณเมลิกนับจังหวะก้าวที่ 1 ตรงกับจังหวะพั่ม ให้ก้าวเท้าไปข้างหน้ายาวๆ โดยการลงส้นเท้าก่อนแล้วจึงราบเท้าลงเต็มเท้า ก้าวที่ 2 ตรงกับจังหวะแท๊ก แยกเท้าอีกข้างหนึ่งออกไปทางข้างๆ ให้เท้าทั้งสองเสมอกันพร้อมกับเขย่งเท้าขึ้น ก้าวที่ 3 ตรงกับจังหวะ แท๊ก ลากเท้าอีกข้างหนึ่งมาชิดเท้าแรกพร้อมกับเขย่งเท้า ทั้งสองให้สูงที่สุด ให้น้ำหนักอยู่ที่ปลายเท้าส้นเท้าเปิด จากนั้นลดเท้าทั้งสองลง เมื่อหมดจังหวะที่ 3
เรามองตากันในตาสีอำพันของเขามันสวยจนไม่อาจละสายตาได้เลยยิ่งได้มองใกล้ก็ยิ่งหลงใหลเราใกล้กันมากจนสัมผัสลมหายใจ
“ตาของคุณสวยผมชอบมันเหมือนอัญมณี”
“ตาของคุณเองก็สวยไม่แพ้กันได้ยามที่มองรู้สึกหมู่ดาวที่สว่างไสวอยู่เต็มท้องฟ้าในคืนที่มืดสนิท”
“ถ้าวันนึงที่คุณรู้เรื่องที่ผมไม่ได้บอกคุณจะโกรธผมมั้ย”
“มันขึ้นอยู่ว่าเรื่องนั้นของคุณมันมีเหตุผลสำคัญมากแค่ไหน”
“ถ้าถึงวันนั้นได้โปรดคุณอย่าเกลียดผม”
“เรื่องนั้นมันร้ายแรงมากหรอครับ”
“ผมไม่รู้ว่ามันร้ายแรงแค่ไหนแต่ผมแค่ไม่อยากถูกคุณเกลียดก็เท่านั้น”
“ถ้าคุณไม่ได้ฆ่าใครมาผมก็เกลียดคุณ”
“แต่มันเกี่ยวกับความรู้สึกของคนในครอบครัวของคุณและตัวคุณผมไม่กล้าจริงๆที่จะบอกเราอยู่ด้วยกันมาจนสนิทกันมาก”
“ถ้าคุณพร้อมบอกเมื่อไรผมก็พร้อมฟัง”
“รอหน่อยนะอีกไม่นานผมจะบอกคุณ” เราหยุดเต้นรำคุณเมลิกดึงผมเข้ามากอดผมกอดตอบลูบหลังของเข้าเบาๆเพื่อปลอบประโลมเขากอดแน่ขึ้นคงจะเป็นเรื่องอยากที่จะพูดจริงๆมันร้ายแรงขนาดไหนกันแต่ก็ทำได้แค่สงสัยและคนเดียวที่จะตอบได้ก็คือเขา คุณเมลิก ผู้ชายที่แสนดี
#Gerberamj
ความคิดเห็น