ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Gerbera [ MPREG ] #MINNO

    ลำดับตอนที่ #2 : Gerbera ❀ 1

    • อัปเดตล่าสุด 21 พ.ค. 64


     

     



     

    ถึงจะอยู่เขตใต้มาตั้งแต่เกิดก็ไม่เคยชินกับอาการร้อนตอนสายแบบนี้เลยลมเย็นๆที่พัดผ่านคลายร้อนไปได้บ้างทำให้วันยุ่งๆรู้สึกดีขึ้นเยอะเพราะต้องซื้อวัตถุดิบเข้าร้านหลายอย่างคนเดียววันนี้ขายดีมากลูกค้าแน่นร้านไม่ว่าจะขนมปัง พาย หรือ เค้ก ทุกอย่างเกือบหมดแล้วยังต้องรีบทำขนมปังที่ลูกค้าสั่งไว้


     

    “ลุงเกลครับวันนี้เอาแป้งสาลี 2 กระสอบ น้ำตาล 1 กระสอบ เนยสดกับยีสต์เอามากกว่าเดิม2เท่านะครับ” 


     

    “วันนี้ขายดีหรือไงถึงซื้อไปซะเยอะ”


     

    “ครับวันนี้ขายดีมากยังไม่ทันจะเที่ยงขนมก็จะหมดแล้วนี้ต้องรีบทำที่เขาสั่งไว้อีก”


     

    “เหนื่อยแย่เลยถ้าลุงขายดีแบบนั้นนะลุงปิดร้านหนีดีกว่าไม่ไหวๆ”


     

    “ตลกอีกแล้วนะครับเราขายดีขายหมดเร็วเราก็ได้เงินเยอะไปซื้อของอร่อยเป็นรางวัลสำหรับความเหนื่อยในวันนี้”


     

    “ก็ลุงไม่มีลูกแบบเอ็งมาช่วยขายนิลุงขายคนเดียวลุงแก่แล้วด้วย”


     

    “แก่ตรงไหนกันครับลุงเกลยังดูหล่อดูยังหนุ่มยังแน่น แข็งแรง หุ่นดี แถมกล้ามก็ใหญ่ วัยแบบลุงเกลเขาเรียกว่าวัยกำลังร้อนแรงครับ”


     

    “ใครสอนมาอยากตีจริงๆอย่ายอคนแก่เยอะเลยลุงก็เขินเป็นนะเจนนิซ”


     

    “ลุงเกลครับพ่อฝากรายการสั่งของมาให้ครับ”


     

    “โอ้เยอะเหมือนกันนะเนี่ยอย่างกับจัดงานฉลอง”


     

    “ใช่ครับงานฉลองวันเกิดอายุ20ปีของลูกชายคนเดียวตระกูลโลเวล”


     

    “โลเวลหรอที่คฤหาสน์ใหญ่ใกล้ป่าสนใช่มั้ยถ้าใช่คุณชายคุณหญิงตระกูลนั้นหน้าตางดงาม กิริยามารยาทก็ดี พูดจาไพเราะ เป็นมิตร ไม่ถือตัว ลูกชายคนเดียวคงต้องดูดีสง่างามเหมือนผู้ให้กำเนิดมากแน่ๆ อยากเห็นเหมือนกันนะลุงไม่เคยเห็นหน้าค่าตา”


     

    “ไม่เคยเห็นเลยหรอครับ”


     

    “อืมเห็นว่าไปเรียนที่เขตกลางนะเมืองเคนเนดี้ตระกูลโลเวลเก่าแก่เขาก็คงส่งลูกไปเรียนที่ดีๆเขตนั้นเป็นศูนย์กลางของประเทศรวมทุกอย่างทั้งความเจริญความศิวิไล เออ แล้วนี้ไม่ต้องไปซื้ออย่างอื่นหรอ”


     

    “ต้องไปซื้อนม ไข่ แล้วก็ผลไม้ครับ”


     

    “ของที่สั่งวันนี้เดี๋ยวลุงไปส่งให้ที่ร้านแต่ขอกินข้าวเที่ยงก่อนส่วนในรายการของงานฉลองลุงจะจัดการให้ยืนคุยกันกับลุงซะนานเลยครั้งที่แล้วไปส่งของโดนพ่อเอ็งด่าว่ากักตัวลูกเขาไว้คุยเล่นแก้เหงาแล้วไม่มีคนช่วยอบขนม”


     

    “นี้เงินนะครับงั้นผมขอตัวก่อนนะครับวันหลังจะแวะมาคุยเล่นด้วยลุงเกลจะได้ไม่เหงา”


     

    คนในเมืองนี้เป็นมิตรทุกคนคงเพราะเขตใต้เป็นเขตเล็กๆเลยทำให้คนในเขตสนิทกันมีอะไรก็จะมาแบ่งปันใครมีปัญหาก็จะช่วยเหลือครอบครัวของเจนนิซสนิทกับลุงเกลขายวัตถุดิบทำขนมลุงเฮนรี่ขายนมกับไข่และป้าโซเฟีย ขายผลไม้เป็นพิเศษเพราะรู้จักกันตั้งแต่พ่อเริ่มทำร้านพ่อบอกว่าลุงๆกับป้าชอบมาขโมยตัวเขาตอนยังเล็กๆไปเล่นด้วยตลอดและยังช่วยเหลือพ่อกับแม่หลายอย่างโตขึ้นต้องดูแลพวกเขาให้ดีเหมือนที่เขาทำดีกับเรามาตลอด


     

    “ป้าโซเฟียสวัสดีครับ”


     

    “เจ้าเจนนิซป้าคิดถึงจังเลยมากอดหน่อยซิ ”เจนนิซยิ้มก่อนจะเดินไปสวมกอดหญิงสาววัยกลางคนที่รู้จักกันมาตั้งแต่จำความได้โดยไม่รู้สึกเขินอาย


     

    “พึ่งเจอกันเมื่อเช้าเองนะครับคิดถึงกันแล้วหรอเนี่ยสงสัยต้องมาอยู่ด้วยแล้วป้าโซเฟียจะได้ไม่ต้องคิดถึงผมให้เหนื่อย”


     

    “เจ้าเด็กคนนี้นิคำพูดคำจาช่างน่าเอ็นดูเสียจริงแถมยังขี้อ้อนไม่แปลกใจทำไมใครๆก็รักเจ้าเจนนิซตัวน้อยของป้า”


     

    “ผมไม่ตัวน้อยแล้วครับป้าโซเฟียเจนนิซอายุครบ20ปีแล้วไม่เด็กแล้ว”


     

    “ก็ยังเด็กในสายตาป้าอยู่ดี แล้ววันนี้เจ้าเด็กน้อยของป้ามาทำไมอีกล่ะผลไม้ที่ซื้อไว้เมื่อเช้าไม่พอหรอ”


     

    “ไม่พอครับวันนี้ขายดีมากเกือบหมดตั้งแต่สายๆแถมยังมีรายการขนมที่สั่งไว้อีกเลยตั้งมาซื้อเพิ่ม”


     

    “เอาเยอะมั้ยวันนี้ป้าก็ขายดีเหมือนกัน”


     

    “พ่อจดผลไม้ที่จะใช้มาให้แล้วครับเอาไม่กี่อย่างแล้วก็พ่อฝากรายการผลไม้สำหรับงานฉลองที่จะจัดอีกไม่กี่สัปดาห์งานนี้ใหญ่มากต้องใช้ผลไม่เยอะพ่อเลยสั่งไว้เสียตั้งแต่เนิ่นๆ”


     

    “งั้นรอป้าแป็บเดียวเดี๋ยวป้าจัดผลไม้ขอวันนี้ให้ป้าจะคัดแต่สวยๆให้เลย”


     

    “ให้ผมไปช่วยมั้ยครับ”


     

    “ไม่เป็นไรจ้ะรอป้าแป๊บนะ” ป้าโซเฟียพูดเสร็จก็รับตะกร้าไม้เปล่าๆที่เจนนิซเอามาด้วยเดินเข้าไปในร้านไม่นานนักป้าโซเฟียก็ออหมาพร้อมตะกร้าที่เต็มไปด้วยผลไม่มากมายหลากหลายสายพันธุ์


     

    “เมื่อวานป้าพึ่งได้เชอร์รี่จากเขตกลางหลานป้าส่งมาให้กินมันเยอะมากป้ากินคนเดียวไม่ไหวตั้งใจจะให้ตั้งแต่เมื่อเช้าแล้วเรารีบเลยไม่ทันได้ให้ก็ไปแล้วของโปรดเรากับเจ้าเจียน่านิกินเยอะๆนะจะได้โตๆ”


     

    “ขอบคุณครับป้าโซเฟียนี้เงินครับผมขอตัวไปช่วยพ่อกับแม่อบขนมแล้วนะครับวันหลังจะแอบมานั่งเล่นกับป้าโซเฟียอีก”


     

    “จ้าอย่าลืมขโมยเอาเจ้าเจียน่ามาด้วยนะป้าคิดถึงยัยตัวเล็ก ”


     

    เจนนิซกอดลาป้าโซเฟียก่อนจะเดินออกมา ตะกร้าที่เต็มไปด้วยผลไม้บวกกับอาการยามบ่ายที่ร้อนต่อให้เป็นชายหนุ่มชาติทหารก็ต้องมีความรู้สึกวูบบ้างแหละ แถมร้านป้าโซเฟียก็ใกล้จากร้านพอตัวทางรัดก็เป็น ป่าทึบ เขาเลยตัดสินใจหยุดพักนั่งม้านั่งใต้ต้นไม้ใหญ่กลางเมือง ที่มีน้ำพุไอน้ำคงจะช่วยคลายร้อนได้บ้างไม่มากก็น้อย วันนี้ช่วยพ่ออบขนมตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นข้าวปลาก็ยังไม่ตกถึงท้องสักเม็ดได้กินแค่นมสดแก้วนึงกับขนมปังหนึ่งแผ่นก่อนออกมาถ้ายังดันทุรังเดินกลับร้านมีหวังเป็นลมกลางทางแน่


     

    ปึก เจนนิซเดินชนกับผู้ชายคนนึงเขาจนล้มลงตะกร้าผลไม้ก็ตกไม่น่ามัวแต่มองไปที่น้ำพุเลยชนคนอื่นจนได้ชายคนๆนั้นรีบลุกแล้วมาช่วยเจนนิซปัดเศษดินออกจากตัวก่อนจะเงยหน้ามองผู้ชายตรงหน้าคือใครไม่เคยเห็นมาก่อนถ้าเป็นคนในเขตใต้เขาต้องเคยเห็นหน้า


     

    “ขอโทษครับคุณเจ็บตรงไหนหรือป่าว”


     

    “มะ ไม่ครับ”


     

    “ไม่อะไรกันครับเข่าคุณเลือดออกคุณนั่งก่อนนะครับผลไม้คุณตกหมดเลยผมเก็บเองนะครับ”


     

    “ผลไม้ของคุณยังใช้ได้มั้ยครับถ้าใช้ไม่ได้แล้วผมรับผิดชอบเอง”


     

    “ยังใช้ได้ครับมีช้ำไม่กี่ลูกแต่ยังใช้ได้อยู่ครับ”


     

    “แล้วโรงพยาบาลไปทางไหนครับ”


     

    “เดินตรงไปเจอร้านขายผ้าแล้วเลี้ยวขวาเดินไปเรื่อย ๆก็เจอแล้วครับไม่ไกลมาก”


     

    “งั้นไปกันครับ”


     

    “ครับ ? ”


     

    “ผมจะพาคุณไปทำแผล”


     

    “มะ ไม่เป็นไรครับแผลแค่นี้อีกเดี๋ยวกลับไปทำที่บ้านก็ได้งั้นขอตัวก่อนนะครับขอบคุณที่ช่วยเก็บผลไม้ให้ โอ้ย”


     

    “ดูท่าข้อเท้าจะแพลงด้วยให้ผมพาไปหาหมอเถอะนะครับไม่งั้นก็ให้ผมไปส่งคุณนะครับให้ผมได้รับผิดชอบที่เดินไม่ดูทางจนชนคุณจนเจ็บเถอะนะครับผมรู้สึกผิดขาก็เจ็บเข่าก็เลือด”


     

    “ผมเองก็ใจลอยเหมือนกันขอโทษนะครับ”


     

    “เอาผ้าเช็ดหน้าขอผมไปปิดแผลก่อนนะครับแมลงหรือฝุ่นจะได้ไม่เข้ามันยังไม่ได้ถูกใช้มันอาจจะไม่สะอาดมากแต่ดีกว่าปล่อยไว้เฉยๆ”


     

    “ขอบคุณครับสำหรับผ้าเช็ดหน้าแต่ไม่ต้องไปส่งหรอกครับเราแยกกันตรงนี้เลยก็ได้ครับผมกลับเองได้”


     

     “คุณไม่ต้องกลัวผมจะทำอะไรคุณนะครับนี้กลางเมืองมีคนเดินขวักไขว่ผมทำอะไรคุณไม่ได้หรอกและผมจะไม่ทำด้วย”


     

    “งั้นก็ได้ครับ”


     

    “คุณขึ้นมาเลยครับ” เขาย่อตัวหันหลังให้อีกมือก็หยิบตะกร้าผลไม้เขาพูดพร้อมหันมายิ้ม


     

    “ขึ้นอะไรครับ”


     

    “ขึ้นมาบนหลังผมไงครับ”


     

    “คุณจะให้ผมขี่หลังหรอครับ”


     

    “คุณเดินไม่ไหวนิก็มีแค่วิธีนี้ที่ง่ายที่สุดแล้ว”


     

    “แค่พยุงก็ได้นะครับคุณลุกขึ้นมาเถอะถ้าคุณไม่ลุกงั้นไม่เป็นไรดีกว่าครับผมค่อยๆเดินกลับเอง”


     

    “อย่าดื้อนะครับข้อเท้าแพลงถ้ายังฝืนใช้งานมัน ระดับที่ 1 ปวด บวม กดแล้วเจ็บที่บริเวณเท้าระดับที่ 2  เอ็นและเนื้อเยื่อรอบข้อเท้ามีการฉีกขาดบางส่วน ปวด บวมที่บริเวณเท้ามาก ระดับที่ 3  ระดับนี้รุนแรงที่สุด เอ็นที่บริเวณเท้ามีการฉีกขาดทั้งหมด เดินลงน้ำหนักไม่ได้คุณยังอยากเดินหรือวิ่งเล่นได้อยู่มั้ยครับ”


     

    “คุณเป็นหมอหรือไงถึงรู้ดีจัง”


     

    “ป่าวหรอกครับผมไม่ได้เป็นหมอแต่ผมอ่านหนังสือมาเยอะเท่านั้นเองคุณขึ้นหลังผมมาเถอะครับก่อนที่เท้าจะใช้การไม่ได้อีกผมไม่ได้ขู่คุณนะ”


     

    “ก็ได้ครับ” ผมชั่งใจก่อนจะเกาะหลังชายแปลกหน้าที่ยิ้มให้เขาลุกขึ้นพร้อมหยิบตะกร้าผลไม้แล้วออกเดินเขาไม่มีท่าทีที่จะหนักเลยเขาก็น้ำหนักไม่ใช่น้อยๆแถมยังเป็นผู้ชายอีกผู้คนนี้ช่างแข็งแรงเสียจริงหรือเขาจะเป็นทหารที่ถูกฝึกเป็นพิเศษก็ใช่แน่ๆเขาทั้งสูงร่างกายใหญ่ที่มีแต่กล้ามเนื้อไหล่กว้างการเคลื่อนไหวที่มั่นคงการหายใจที่เป็นจังหวะสม่ำเสมอผิวสีแทนสวยหน้าตาหล่อรอยยิ้มที่ใครเห็นก็ต้องชอบแต่สิ่งหนึ่งที่ทำให้รู้สึกแปลกคือดวงตาคมสีอำพันคู่สวยเหมือนเคยเห็นมาจากที่ไหนมาก่อน


     

    “ต้องไปทางไหนต่อครับ”


     

    “เลี้ยวซ้ายตรงร้านขายร้องเท้าแล้วก็เดินตรง”


     

    “เราก็อยู่ด้วยกันมาสักพักแล้วผมยังไม่รู้จักชื่อของคุณเลยผม  เมลิก


     

    “ผมเจนนิซครับ”


     

    “ชื่อเหมาะสมกับเจ้าของจังเลยนะคะ”


     

    “ขอบคุณครับแต่ว่าคุณเมลิกมาจากที่ไหนคุณคงไม่ใช่คนที่นี้แน่ๆเพราะผมไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน”


     

    “จริงๆแล้วผมเป็นคนเขตใต้ครับแต่ย้ายไปเรียนที่เขตกลาง”


     

    “ดีจังเลยนะครับสักวันผมก็อยากลองไปเที่ยวที่เขตกลางและเขตเหนือ”


     

    “ถ้าได้ไปผมขอเป็นคนพาเที่ยวนะครับผมรู้จักทั้งสองเขตดี”


     

    “ถ้าถึงวันนั้นถ้าคุณเมลิกยังไม่ลืมก็ขอรบกวนด้วยนะครับ”


     

    “ด้วยความยินดีครับผมมีเรื่องอยากจะถามหน่อยครับ”


     

    “ว่าไงครับ”


     

    “ร้านขนมปังอลาโน่อยู่ตรงไหนหรอครับพ่อกับแม่เวลาไปหาชอบซื้อไปฝากผมชอบมากๆพอได้กลับมาเขตใต้ก็อยากจะไปซื้อขนมปังที่ร้านนั้นด้วยตัวเองมันอร่อยที่สุดเท่าที่ผมเลยได้ทานมาคุณเจนนิซเชื่อมั้ยครับในเขตกลางหาร้านที่อร่อยแบบนี้ไม่ได้เลย”


     

    “ขอบคุณนะครับที่ชื่นชอบขนาดนี้ร้านอยู่ไม่ไกลครับใกล้ถึงแล้ว”


     

    “ร้านขนมปังอยู่ติดกับที่ๆคุณเจนนิซจะไปหรอครับ”


     

    “ไปถึงเดี๋ยวก็รู้เองครับ”


     

    “คุณคงไม่ใช่ลูกเจ้าของร้านขนมปังร้านโปรดของผมใช่มั้ยครับถ้าใช่นี้ผมเขินเลยชมร้านเขาซะยกใหญ่แต่ไม่รู้ตัวตัวเลย”


     

    “ฮ่าาาเขินทำไมกันครับ”


     

    “ไม่รู้ครับแต่มันเขินๆ”


     

    “น่ารักดีออก คุยกันเพลินเลยถึงแล้วครับ” ผมพูดเสร็จก็สะกิดให้คุณเมลิกค่อยๆปล่อยเขาลงยืนเขายืนมองร้านต้นไม้ที่อยู่ตรงหน้าแต่ไม่ได้ทันสังเกตร้านขนมปังเมลิกมองร้านต้นไม้พร้อมมองที่ผมสลับกันไปมา สอง สาม ครั้งแล้วพยักหน้า


     

    “โอ้โห คุณลูกร้านขายต้นไม้หรอเนี่ยร้านใหญ่มากเลยนะครับ”


     

    “ป่าวครับผมไม่ได้ไม่ใช่ลูกร้านขายต้นไม้แต่ผมเป็นลูกของร้านข้างหลังคุณลองหันมาสิครับ” เขาหันหลังมาแล้วมองผมสลับกับป้ายร้านเขาอ้าปากค้างก่อนจะยิ้มเขินแล้วเกาท้ายทอยผมหัวเราะนิดหน่อยกับท่าทางท่ารักของเขาที่แสดงออกมาเมื่อรู้ความจริง


     

    “เข้าร้านกันมั้ยครับอุสามาถึงที่แล้วมาชมคนอบขนมปังทุกก่อนที่คุณกินแล้วชอบจนยกให้เป็นร้านโปรดสิครับ”ผมยิ้มให้เขาก่อนที่เราสองคนจะเดินเข้าไปในร้านกัน


     

    หลังจากเข้าร้านพ่อกับแม่ก็เดินออกมาจากหลังร้าน พวกเขาตกใจมากที่เห็นผู้ชายแปลกหน้าพยุงลูกตัวเองอยู่และเข่าที่มีผ้าพันก็มีเลือดซึมเล็กน้อย แต่ คุณเมลิกอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้น และขอโทษ พวกเขาก็ไม่ถือโทษ หรือ โกรธอะไรแถมผมเเนะนำลูกค้าเจ้าประจำที่ไม่เคยเห็นหน้าให้พ่อกับแม่รู้จัก พวกเขาตื่นเต้นกันใหญ่ไม่คิดว่าร้านขนมปังร้านเล็ก ๆ ของพวกเราจะไปไกลถึง เขตกลาง แม่พาผมไปนั่งทำแผล ผมนั่งมองคุณเมลิกยืนคุยกับพ่ออย่าง ออกรส ออกชาติ ก็รู้สึกดีแปลก ๆ ชอบรอยยิ้มของคุณเมลิกจัง เวลายิ้มแล้วมุมปากยกขึ้น มันมีเสน่ห์ พ่อก็เอาขนมปังที่เพิ่งอบใหม่ใส่ถุงกระดาษเพื่อเป็นคำขอบคุณที่เขาชอบร้านเราและช่วยลูกของเขาถึงมันจะเป็นอุบัติเหตุก็เถอะ


     

    “ผมกลับแล้วนะครับ”


     

    “ขอบคุณที่ช่วยนะครับ”


     

    “เรื่องเล็กน้อยครับ”


     

    “กลับดีๆนะครับ”


     

    “ดะ เดี๋ยวครับนั่งรอผมแป๊บนะครับอย่าพึ่งไปไหนเดี๋ยวผมมา” เขาพูดแล้วก็วิ่งออกไปจนลับสายตาผมก็นั่งรอตลกดีเหมือนกันที่ทำตามที่เขาบอกสักพักพ่อเรียกให้ไปหาที่หลังร้านผมกำลังจะลุกไปแต่ก็ต้องหยุดนั่งเหมือนเดิมเพราะเสียงวิ่งที่ดังเข้าใกล้มาทุกทีและคุณเมลิกก็มายืนอยู่ตรงหน้าพร้อมช่อดอกไม้ ดอกที่เหมือนกับสร้อยข้อมือที่คุณท่านตระกูลโลเวลให้มา ดอกเยอบีร่า เข้าจำมันได้


     

    “ผมให้มันสวยเหมาะกับคุณ” เป็นประโยคสั้นๆที่เรียบง่ายแต่กลับทำให้ความรู้สึกที่ไม่คิดว่าจะเกิดก็เกิดขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัวเพราะอะไรกัน ความใจดี คำพูด การกระทำน่ารักที่ขัดกับภาพลักษณ์ภายนอก รอยยิ้มที่มีเสน่ห์ หรือ ดวงตาสีอำพันคู่นี้


     

     

     


     


     

    #Gerberamj


     


     


     

     


     

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×