ตอนที่ 4 : Three shot
Three shot
ค่ำคืนนี้อาจจะเป็นค่ำคืนที่ผมจดจำไปตลอดชีวิตเลย...
การเดินทางที่ยังไม่แน่ใจว่าจะต้องมีจุดจบอยู่ที่ไหน ผมย้ายออกไปอยู่ด้านชานเมืองที่ไกลออกมาพอสมควร แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังต้องกลับเข้ามาในเมืองอีกครั้ง อีกไม่นานก็จะเป็นเวลาเที่ยงคืน ถนนยามราตรีมืดสนิทแต่ไม่ได้ดูเงียบเหงา ผู้คนยังพลุกพร่านเต็มไปหมด
สีหน้าแห่งความสุขที่แสดงออกมากันได้อย่างเต็มที่ ราวกับไม่มีเรื่องทุกข์ร้อนใดๆมันช่างดูน่าอิจฉา...
ผมยังคงเดินตรวจตราสืบเรื่องนู่นนี่ไปเรื่อยๆ และเรื่องนึงที่สำคัญที่สุด จองแดฮยอน...
อากาศที่หนาวเหน็บในค่ำคืน ตรอกซอยเล็กๆที่เงียบสงัดต่างจากถนนใหญ่ที่มีผู้คนพรุกพร่าน ไอร้อนจากริมฝีปากไม่ได้ช่วยให้มือที่สั่นเทาอยู่อุ่นขึ้นเท่าไหร่แต่ก็พอหยวนๆไปได้
ไม่มีเวลามากพอที่จะหยุดอยู่เฉยๆ ยังไงหน้าที่ก็คือหน้าที่ ต่อให้ไม่อยากทำก็ต้องทำ
กระดาษแผ่นขาวปรากฏข้อมูลบางอย่างเกี่ยวกับองค์กร black rabbit ผมมองมันนิ่งๆ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าจองแดฮยอนคือคนขององค์กรนี้ เพราะนี่คืออาชญากรรายใหญ่ ที่ว่ากันว่าทำงานได้โดยไม่เหลือร่องรอยให้ตามจับ...
ก็ไม่น่าแปลกใจเลย ไม่งั้นทั้งฮิมชาน ทั้งแดฮยอน จะเคยเข้ามาพัวพันกันพวกเขาได้โดยไม่ผิดสังเกตซักนิดได้งั้นหรอ...
‘อ้ากกกกกกกกกกกกกก ก ก ก !’
คิดอะไรอยู่เพลินๆก็ต้องสะดุ้งสุดตัว เสียงร้องโหยหวนอย่างเจ็บปวดที่ดังระงมมาจากด้านในตรอกซอยแคบ เสียงร้องราวกับนักโทษในแดนประหารที่กำลังค่อยๆถูกเฉือดเฉือนกับเสียงโครมครามเหมือนคนดิ้นทุรนทุรายไปทั่ว ดวงตาเรียวเบิกกว้างใจเต้นไม่เป็นส่ำ ขาเรียวออกก้าววิ่งอย่างรวดเร็วตามเสียงที่ได้ยินไป
อะ อะไรกัน...
พอมาถึงที่หมายร่างทั้งร่างหยุดนิ่งราวกับต้องคำสาปแม้แต่ลมหายใจยังถอดถอนออกมาได้อย่างยากลำบาก ภาพเบื้องหน้าคือชายหนุ่มอายุประมาณเขาสวมชุดตำรวจ ร่างนั้นเปลอะเปื้อนด้วยคาบเลือดเหม็นคาวคลุ้งไปหมด สภาพร่างแน่นิ่งนั้นดูยังไงก็คงโดนมัจจุราชพรากเอาลมหายใจไปแล้วแน่ๆ
นี่มันไม่ตลกเลยนะ... กลางเมืองหลวงแบบนี้ ถึงจะเป็นตรอกซอยแคบๆก็เถอะ แต่...
พลันสายตาเหลือบไปเห็นมีดโลหะเล่มเล็กปักอยู่กลางอกโดยมีพื้นผ้าสีขาวเสียบไว้ด้วย มือเรียวรีบหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาก่อนจะพูดกรอกให้ปลายสายรัวๆเร็วๆ
พอได้รับคำยืนจากปลายสายเป็นที่เรียบร้อย ยองแจคอ่ยเดินเข้าไปใกล้ร่างไร้วิญญาณ ใบหน้าซีดเซียวแต่ยังคงสีสันแสดงอารมณ์หวาดกลัวอย่างชัดเจน ราวกับเจอพญามัจจุราชมาพรากเอาชีวิตไปจริงๆ
กลิ่นคาวเลือดคาวคลุ้งไปหมดด้วยเพราะของเหลวแดงข้นนั้นกระจายไปทั่วทุกทิศทาง เป็นภาพเหตุการณ์สยองขวัญที่เขาไม่เคยได้พบเห็นมาก่อน อย่างมากเวลาออกตรวจงานแนวนี้ก็เป็นแค่ร่างไร้วิญญาณที่มีบาดแผลไม่กี่จุด อาจจะแค่โดนแทงครั้งเดียวตาย หรือหลายครั้งหน่อยแต่ก็ไม่ขั้นเหวอะหวะ หรืออาจจะโดนกระสุนผ่าจุดสำคัญเสียชีวิต
ไม่เคยเลยที่จะเจอภาพชวนสะอิดสะเอียนแบบนี้...
ปลายมีดโลหะที่มีแผ่นผ้าขาวปักไว้ ยองแจหลี่ตาลงมองเล็กน้อยด้วยเพราะเห็นว่าผืนผ้านั้นพับทบอยู่ แถมดูว่าภายในจะมีอักษรบางอย่างสลักไว้ อักษรสีเลือดน่าขยะแขยง...
มือบางที่สวมถุงมือแล้วเรียบร้อยก่อนจะเอื้อมไปหยิบวัตถุแหลมคมออกมาแล้วหยิบผืนขาวค้างไว้ในมือ ริมฝีปากยางเม้มติดกันแน่นก่อนจะค่อยๆทำใจคลี่ผืนผ้าออก
ข้อความสีแดงฉานดูไม่ยากว่าถูกเขียนขึ้นจากเลือดที่ไหลทะลักอยู่มากมายจากร่างไร้วิญญาณ ข้อความหยาบคายที่ทำให้เผลอปล่อยผ้าผืนนี้ร่วงลงกับพื้น มือบางกำแน่นอย่างไม่อยากจะเชื่อสายตาตัวเอง
‘fu ck you police’
น้ำลายก้อนเหนียวหนืดค้างอยู่กลางลำคอ ข้อความถ่อยนั่นทำให้จิตแทบหลุดออกไปไกล พลานนึกไปถึงคนบางคน ข้อมือบางพลิกดูนาฬิกาเรือนสวยที่ข้อมือ ตีเวลาอีก5นาทีเที่ยงคืน จู่ๆลมหายใจก็เกิดติดขัดด้วยความรู้สึกที่เหมือนกำลังถูกจ้องมอง
กระบอกปืนถูกหันขวับไปตามทิศที่เจ้าตัวรับรู้ได้ถึงสายตา แต่กลับว่างเปล่า...
“ยองแจ ยองแจ!”
เสียงทุ้มของผู้มาใหม่เรียกสติเอาไว้ ยงกุกวิ่งเข้ามาหารุ่นน้องร่วมอาชีพที่นั่งเหงื่อซกอยู่ข้างๆร่างไร้วิญญาณสภาพเหวอะหวะ แม้แต่คนอย่างบังยงกุกเห็นหยังเบ่หน้าด้วยความสะอิดสะเอียน
“นะ นี่มันอะไรกัน...”
เสียงทุ้มเอ่ยออกมาอย่างติดๆขัดๆ ยองแจลุกขึ้นมาพร้อมกับผืนผ้าขาวในมือตนยื่นให้คนเป็นพี่ที่ยืนมองภาพเหตุการณ์อยู่
“…”
ทุกอย่างเงียบลงไปถนัด ข้อความที่ถูกสายตากร้าวไล่อ่านช้าๆแต่ชัดเจนในความรู้สึก มือหนากำแน่นก่อนจะปล่อยกับข้างกำแพงอย่างแรง
“โธ่เว้ยย! ไม่ใช่แค่เราสองคนงั้นหรอ”
ใช่แล้ว... ไม่ใช่แค่พวกเขาสองคนที่เสี่ยงต่อการโดนพรากลมหายใจ แต่ยังรวมไปถึงเพื่อนร่วมอาชีพคนอื่นอีกด้วย...
“ทำยังไงดีหละ”
“กี่โมงแล้ว?”
เสียงทุ้มกร้าวเอ่ยแทรกถามอย่างร้อนรน นาฬิกาเรือนเดิมถูกยกขึ้นมาจับจ้องอีกครั้ง
อีก 5 นาที เที่ยงคืน...
“...ยองแจหนีไป”
“แต่...”
“หนีไป ตอนนี้เราเสียเปรียบอยู่!!”
สิ้นเสียงตะโกนกร้าวนั้น ร่างของยองแจเซถอยหลังทันทีด้วยความผวา ไม่ใช่ว่าเป็นห่วงว่าหากแยกกันจะเกิดอะไรขึ้น เขารู้บังยงกุกเก่งพอจะเอาตัวรอด เขาก็เช่นกัน ไม่อย่างงั้นจะเป็นสายลับที่ไปแฝงตามที่มืดต่างๆแล้วรอดมาได้อย่างปัจจุบันนี้งั้นหรอ
เพียงแค่กำลังกลัว ร่างกายมันหวาดผวาไปหมด เป็นคนถูกล่าหนะเคย แต่ไม่เคยจริงจังขนาดนี้ก็เท่านั้นเอง...
เหงื่อเม็ดโตผุดเต็มขมับขาว แรงก้าวที่ไม่ค่อยจะมีนักแต่ก็ก็ต้องหันหลังเดินออกไปจากที่เกิดเหตุ เสียงรถหวอที่ดูท่าจะมาคลี่คลายสถานะการณ์สยองขวัญทำให้ใจมันเต้นรัวไปหมด
เขากลัวอะไรอยู่กันนะ...
นานเท่าไหร่แล้วไม่รู้ที่วิ่งออกมาจากภาพนรก ขาที่เริ่มล้าน้อยๆเสียงหอบหายใจเพราะความเหนื่อยอ่อนกายขาวเอนพิงกับกำแพงสีหม่นสกปรกอย่างอ่อนแรง ลมหายใจพ่นเข้าออกอย่างรวดเร็วคล้ายคนเป็นหอบยังไงยังงั้น
กึก!
เสียงวัตถุกระทบกับอะไรบางอย่างทำให้ร่างที่กำลังหอยหายใจอย่างหนักหยุดนิ่ง ลมหายใจขาดช่วงไปเล็กน้อย ใบหน้าหวานซีดเซียวอาจด้วยเพราะได้เห็นอะไรที่มันไม่ดีมาแถมยังต้องมาวิ่งออกแรงแบบนี้
‘เมี้ยว~’
แมวดำตัวหนึ่งเดินโผล่ออกมาจากมุมขอกกำแพงเล่นเอาร่างทั้งร่างสะดุ้งโหยง แต่พอจับจุดได้ว่าเป็นแค่สิ่งมีชีวิตตัวเล็กๆดำๆธรรมดา ร่างของยองแจก็ค่อยๆนั่งยองๆก่อนจะยื่นมือไปหาแมวน้อยตัวนั้น
บ้าชะมัด... ตกใจหมดเลยนะ...
“โอ้ย!”
ใบหน้าหวานเหยเกเล็กน้อยเป็นเพราะแมวน้อยนั้นดูจะไม่คุ้นชินกันมนุษย์ เขี้ยวเล็กๆนั่นถึงได้ฝังลงมาบนนิ้วเรียวของเขา หาเรื่องให้ได้เลือดตลอดเลยซินหน่า... บ่นอุบในใจเพราะปลายนิ้วเรียวนั้นปรากฏของเหลวสีแดงที่ไหลออกมาเล็กน้อย ก่อนจะหันไปทำหน้ายู่ใส่เจ้าแมวดำที่ตอนนี้เดินมานอนแหมะอยู่บนเท้าเขา
“ไม่เอาหน่า ไปกัดคนอื่นเขาแบบนั้นได้ยังไงกัน~”
เป็นอีกครั้งที่ลมหายใจแผ่วๆขาดห้วงชะงัก เสียงของผู้มาใหม่ที่ดังก้องมาจากทางด้านบนเรียกให้ใบหน้าหวานรีบหันขึ้นไปมองทันที เหงื่อเม็ดใหญ่ค่อยๆไหลผุดดั่งก๊อกแตก ใบหน้าที่ซีดอยู่แล้ว ยิ่งเซียวลงไปใหญ่เพราะร่างของคนที่ปรากฏอยู่ตรงหน้า
จองแดฮยอน...
“นะ นาย... ”
“ยองแจอา~ ฉันนึกว่าคืนนี้จะไม่ได้เจอนายซะอีก”
ใบหน้าหล่อนั้นยิ้มร่าเหมือนคนอารมณ์ดีต่างจากคนที่กำลังยืนหน้าซีดอยู่เบื้องล่าง ขาวเล็กก้าวถอยหลังไปจนติดกับกำแพงเมื่อคนด้านบนดันกระโดดลงมาจากริมระเบียงตึก เพราะไม่ได้สูงนักจึงทำให้กระโดดลงมายืนอยู่ได้อย่างสวยงาม
“เลยเที่ยงคืนแล้วนะ”
คำพูดนิ่งๆที่แต่ทำให้คนที่กำลังเคว้งคว้างสะดุ้งโหยง มือขาวชักวัตถุสีดำขลับคู่กายออกมาก่อนจะเล็งไปที่คนด้านหน้าที่ยืนจ้องมองเขานิ่งๆ
“นายเคยบอกฉันว่าปืนนี่มีไว้ยิงศัตรูเท่านั้น ยองแจ”
ใบหน้านั้นพูดไปยิ้มไป... ทำไม ทำไมถึงต้องยิ้มกัน เห็นแล้วมันเจ็บรูรึเปล่า มือบางสั่นเทาอย่างไม่เคยเป็นมาก่อนทั้งที่ตลอดมาเมื่อหยิบจับอาวุธคู่กายนี้เหมือนกับมีอวัยวะส่วนที่33เพิ่มมา ไร้ซึ่งความประหม่าและความวิตก มันไม่เหมือนกับที่เป็นอยู่ตอนนี้
“ไม่พูดอะไรหน่อยหรอ?”
“ทำไม...”
“?”
“ทำไมถึงมาอยู่ตรงนี้”
คำถามที่เรียกเสียงหัวเราะทุ้มต่ำในลำคอ คนถูกถามยิ้มเล็กน้อยก่อนย่อตัวลงนั่งบนลังไม้เก่าๆที่วางระเกะระกะอยู่ทั่วพื้นที่
“วิ่งตามนายมาหนะซิ เหนื่อยชะมัดเลย เป็นตำรวจสายลับนี่ต้องวิ่งเร็วขนาดนี้เลยหรอ ฮ่าๆ”
เสียงนั้นเล่าไปทั้งเจื่อด้วยเสียงหัวเราะเบาๆ ใบหน้ายิ้มแย้มต่างจากอีกฝ่ายที่เม้มริมฝีปากบางแน่น
“ตามมาจากไหน?”
ดวงตาคมนิ่งไปชั่วขณะทั้งยังจ้องร่างเล็กของยองแจนิ่ง เผยยิ้มเล็กออกมาที่มุมปากก่อน ทั้งยังค่อยๆลุกขึ้นย่างกายเข้ามาคนที่ยืนสั่นเป็นลูกนก คำตอบที่ออกมานั้นแทบจะทำให้วัตถุในมือบางหล่นร่วง
“...ก็จากที่ที่มีร่างไร้วิญญาณของนายตำรวจคนนึงนอนอยู่หนะ”
กริ๊ก
จนวัตถุสีดำสนิทนั้นจ่ออยู่กลางหน้าผาก ใบหน้าหล่อเหลาก็ยังไม่ขาดรอยยิ้มไป มือบางชื้นเหงื่อหากแต่หายสั่นแล้วกำวัตถุนี้แน่น ทำไม...
“จะลั่นไกก็ได้นะ ไม่ว่า”
ทำไมถึงพูดแบบนั้น... จริงอยู่ว่าเขาก็กำลังล่าคนตรงหน้า เช่นเดียวกันกับที่คนตรงหน้าก็ต้องตามล่าเขา แต่ทำไม ทำไมต้องทำเหมือนพร้อมจะเต็มใจตายแบบนี้ด้วย ไม่ชอบ ยูยองแจไม่ชอบเลยซักนิด สถานการณ์แบบนี้!
ปืนในมือบางถูกลดระดับลงมาไว้ข้างตัว ลมหายใจแผ่วๆถอนออกมาแรงๆ สุดท้ายก็ไม่มีความกล้าจะลั่นไกปืน
“ฉันก็ต้องฆ่านายนะ อย่าลืมซิ”
คำพูดนั้นจุดให้ดวงตาหวานลุกวาวขึ้น รอยยิ้มเย็นๆจากคนตรงหน้าที่ไม่เคยได้พบเห็น ก่อนที่ความรู้สึกถึงความปวดหนึบที่หน้าท้องราบ
พอก้มลงไปมอง มีดโลหะขนาดเล็กปักอยู่บริเวณที่รู้สึกเจ็บปวด โลหิตที่แดงข้นไหวออกมาแม้จะไม่มากเพราะมีดนั้นเป็นเพียวมีดเล่มเล็กๆแต่มันก็อดจะเจ็บปวดไม่น้อย เจ็บทั้งกาย ทั้งใจ
“บอกแล้วไง ตั้งแต่นี้ เรามีทางเดินที่ต่างกันนะ ยูยองแจ”
อั้ก!
ร่างเล็กเซถลาไปอัดเข้ากับลังไม้เก่าที่กระจัดกระจายไปทั่วเพราะแรงอัดกระแทกจากขายาวของคนตรงหน้า ใบหน้าหวานบิดเบี้ยวอย่างเห็นได้ชัดเพราะความเจ็บปวด
“ถ้านายยิงฉันซะเมื่อกี้ ทุกอย่างมันก็คงจบ...”
มือหนาบีบคางมนแน่นพร้อมทั้งเชยใบหน้าหวานให้มาสบตา แรงบีบที่ดูหนักแน่นแต่สัมผัสได้ถึงความสัมสนเพราะมือของคนที่กำลังประทุษร้ายเขาอยู่นั้น มัน สั่น...
จองแดฮยอน...
“ฉันยังทำแบบนี้กับนายได้เลย วันหลังไม่ต้องมีความลังเลที่จะยิงฉันหรอกนะ ยูยองแจ”
ใบหน้านั้นจริงจังอย่างน่าประหลาด ลมหายใจอ่อนเริ่มหายใจแผ่วๆเพราะแม้แผลจะเล็กแต่ก็เสียเลือดไปมาก ด้วยเหนื่อยจากการวิ่งมา ทั้งจิตใจกำลังเคว้งจากภาพไม่น่ามอง มันทำให้อะไรๆก็ดูวิงเวียนไปเสียหมด
“จ... จะไปไหน”
ร่างสูงผิวแทนลุกขึ้นยืนก่อนจะหันหลังเดินจากไป เสียงหวานเรียกไว้ทำให้ร่างนั้นชะงักเล็กน้อย
“วันนี้พอแล้วหละ แมวหยอกหนูหนะ มันไม่หยอกจนหนูตายหรอกนะ”
แผ่นหลังกว้างเดินจากไปทิ้งไว้แต่ปริศนาในคำพูดเหล่านั้น แมวหยอกหนูงั้นหรอ... แต่สุดท้ายพอมันหยอกจนพอใจ มันก็ฆ่าหนูทิ้งแล้วกินลงท้องไปหนิ... หึ จองแดฮยอน ไอบ้า ทำไมไม่ฆ่าเขาซะเลยหละ...
“โอ้ย!”
พอเห็นว่าร่างนั้นลับสายตาไปแล้วก็ลองขยับร่างตัวเองดู ความรู้สึกเจ็บแปล็บแล่นเข้ามาทันทีอาจเพราะอาวุธสีเงินที่ยังคงปักคาอยู่ กับความรู้สึกปวดเมื่อยที่โดยเตะอัดกระแทกมากับกล่องลังพวกนี้...
“นึกว่าจะตายแล้วแหะ...”
ใหน้าหวานหม่นลง ดวงตาเรียวเรื้อด้วยหยดน้ำตามากมายที่ไหนพลั่งพลูราวกับเขื่อนแตก
นี่อย่าร้องซิ...
นายไม่เหมาะกับน้ำตานะยูยองแจ
อย่าร้องอีกเลยนะ
หึ... ทำไงได้หละ ใครมันจะไปปั้นหน้ายิ้มเก่งแบบนายได้กัน จองแดฮยอน
กริ๊งง กริ๊งง
“ครับผม ครับผม ใครโทรมาฮะ?”
‘…’
“ห่ะ อไรนะฮยอง?”
‘…’
“อ้อ ตอนนี้ฮิมชานฮยองยังไม่กลับมานะ”
‘…’
“อ้อ ฮะๆ รีบๆกลับมานะ แดฮยอนฮยอง~”
กริ้ก
“แดฮยอนฮยองโทรมาหรอ?”
เสียงเบาๆจากคนด้านหลังทำให้คนที่เพิ่งวางสายโทรศัพท์ไปสะดุ้งโหยง ก่อนจะค่อยๆหันร่างกายสูงใหญ่ของตนไปเผชิญหน้ากับคนด้านหลัง
“อื้อ เห็นว่าทำ ภารกิจที่ได้รับมอบหมายเสร็จแล้วหนะ”
“ฆ่าคนอีกแล้วซิ...”
พูดด้วยเสียงเรียบก่อนจะเดินผ่านไปทิ้งให้คนตัวสูงใหญ่เลิ่กคิ้วขึ้นกับถ้อยคำนั้น
“แล้วนั่น... เอ่อ ฮยองเขาได้รับบาดเจ็บอะไรมารึเปล่า”
“เป็นห่วงฮยองเขาหรอ?”
เสียงเงียบไปถนัดตา คนตาตี่วกใบหน้ามามองคนตัวขาวส่างที่ยืนนิ่งอยู่ ทำไมสีหน้านั้นต้องแสดงออกถึงความเจ็บปวดด้วยหละ...
“อืม ห่วง มากด้วย”
คำตอบนั้นทำเอาคนฟังกำมือแน่น ริมฝีปากได้รูปเม้มติดกัน ทำไมถึงต้องห่วงมากมายแบบนั้นหละ แล้วถ้าเกิดว่า...
“แล้วถ้าคนที่ออกไปทำเป็นฉัน นายจะห่วงแบบนี้มั้ย มุนจงออบ?”
น้ำเสียงตะโกนลั่นหากฟังดูแฝงด้วยอารมณ์ตัดพ้อเล็กน้อย คนถูกถามสะดุ้งเบาๆแล้วจ้องมองหน้าความที่ยืนนิ่งอยู่
“ก็คงจะห่วง...”
คงจะงั้นหรอ... ดูไม่เห็นจะมีความมั่นใจเหมือนที่บอกว่าห่วง แดฮยอนฮยองเลยนะ... มุนจงออบ
“งั้นหรอ... คงจะงั้นหรอ...”
จุนฮงหลุบตาลงต่ำก่อนขายาวๆจะก้าวเดินไปนั่งข้างๆรุ่นพี่ที่อายุไม่ห่างกันมากนักตาตีๆจ้องมองร่างสูงนิ่งโดยมือนั่นยังสาลวนอยู่กับการกดอะไรยิกๆหน้าจอคอม
“นี่~ ทำไมถึงใช้ตาตี่ๆของนายจ้องฉันเขม็งอย่างนั้นหละ มุนจงออบ 5555”
พยายามจะทำเสียงให้ดูร่าเริงเข้าไว้เพื่อไม่ให้คนตรงหน้านี้สงสัยอะไรมาก ดวงตากลมใสพยายามแง้มมองหน้าจอคอมขนาดเล็กตรงหน้าแต่จงออบก็พยายามหมุนจอคอมเบี่ยงหนีเขาเช่นกัน
“หึ คุณดูประวัติมืดเกินไปจนผมอดกลัวไม่ได้เลยนะ เชวจุนฮง”
เขานิ่งเงียบไปกับคำพูดของคนตรงหน้านี้ เชวจุนฮง หรือ นามแฝง เซลโล่ บุคคลอายุน้อยแต่ประวัติกับดำมืดจนน่าเกรงกลัว ด้วยใบหน้าที่ดูอ่อนวัยแบบเด็กหนุ่มกับรอยยิ้มที่ดูเดียงสาไม่มีพิษมีภัย หากแต่ใครได้มารู้ประวัติเบื้องหลังนั้น มันช่างเป็นเด็กที่ไม่น่าเข้าใกล้เอาเสียเลย
อายุน้อยก็จริงๆ แต่ประวัติการฆาตรกรรมยาวเป็นหางว่าวอย่างกับว่าถูกประดิษฐ์ขึ้น หนึ่งในลิสมืดของเด็กน้อยปรากฏลายชื่อของ ชายสูงอายุนามสกุลเดียวกับเจ้าตัว ดูไม่ยากว่านั่นคือ บิดา...
หึ แม้แต่ผู้เป็นเจ้าของชีวิต ยังฆ่าได้เลยงั้นหรอ มันจะมืดเกินไปหน่อยรึเปล่า...
“อะไร ดูประวัติผมอยู่งั้นหรอ?”
เด็กชายร่างเขื่องทำหน้าราวกับมันเป็นเรื่องตลก รอยยิ้มสดใสปรากฏชัดเจนกว่าสิ่งใด ก็ถึงได้บอกว่าเจ้าเนี่ยเป็นคนที่ไม่น่ามีประวัติร้ายแรงเลย...
“มันก็เป็นเรื่องสมควรไม่ใช่รึไง ที่ต้องตรวจดูประวัติสมาชิก ยิ่งมาใหม่ๆก็ยิ่งต้องระวังไว้ก่อน...”
“ก็หลงนึกว่าจะสนใจกันซะอีก”
ตึก ตึก ตึก
เหมือนจังหวะการเต้นของหัวใจมันหยุดไปชั่วคราว มือเล็กๆที่พิมพ์ยุกยิกๆชะงักค้างทันทีก่อนจะเหลือบมองจอคอมน้อยอย่างไม่อยากจสนใจว่าคนตรงหน้าตนมีปฏิกิริยาหน้าตาแบบไหนในตอนนี้
ทำไมถึงรู้สึกว่าใจมันเต้นเร็วอย่างน่าประหลาด...
ไม่เอาหน่า มุนจงออบ นายหนะ...
ชอบ แดฮยอนฮยอง ต่างหากเล่า...
“เฮ้ออ อ ช่วงนี้ไม่เห็นมีงานให้ทำเลยน้า~”
เด็กหนุ่มตัวสูงทิ้งตัวลงกับพื้นห้องก่อนจะหมุนตัวกลิ้งเกลือกไป ดวงตากลมใสนั้นจ้องหน้าคนที่ยังให้ความสนใจกับจอคอมอย่างไม่คิดจะสนใจเขา
แกรก ~
“กลับมาแล้ว”
ชายหนุ่มผู้มากับรอยยิ้มเอกลักษณ์ จองแดฮยอนเปิดประตูเข้ามาอย่างเบามือก่อนจะมาทิ้งตัวลงนั่งข้างๆน้องตัวไม่น้อยที่นอนระเกะระกะอยู่บนพื้น
“หืม เข้ามาแบบปกติแหะ นี่หัวฮยองไปโขกอะไรมาป่ะ?”
น้องตัวไม่น้อยกระเด้งขึ้นมามองพี่ชายผิวแทนที่ยังคงนั่งยิ้มอยู่แบบเดิม คำพูดยั่วประสาทจากริมฝีปากได้รูปนั้นไม่ได้ทำให้จองแดฮยอนโมโหแต่อย่างใด หากกลับเรียกเสียงหัวเราะเบาๆได้อีกต่างหาก มือหนายืนไปลูบหัวสีน้ำเงินสวยเบาๆอย่างเอ็นดูเจ้าเด็กเขื่องตรงหน้า
“พี่ว่านายเลิกเปลี่ยนสีผมบ่อยๆเหอะ เดี๋ยวจะเป็นมะเร็งเอานะ ฮ่าๆ”
เสียงแซวเล่นเจือหัวเราะเบาๆของผู้เป็นพี่เรียกสีหน้ายู่เล็กน้อยจากเด็กตัวโต มือขาวซีดเลื่อนไปปัดมือพี่ชายที่ลูบเขาเบาๆอยู่ออกแบบไม่จริงๆจังอะไรนัก ซึ่งคนเป็นพี่ก็ถึงกับขำค้าง
“จงออบ ทำอะไรอยู่หนะ?”
ร่างสูงผิวแทนเดินเข้าไปหาคนที่ยังหมกตัวอยู่กับหน้าจอ จงออบสะดุ้งน้อยๆก่อนจะเงยหน้ามาสบตากับคนตรงหน้า ใบหน้าขาวซับสีเลือดเล็กน้อยแต่ก็ไม่ได้เป็นที่สังเกตอะไรของแดฮยอน หากแต่...
“จงออบฮยองดูประวัติผมอยู่หละ!”
เสียงของเด็กเขื่องที่ยังนั่งนิ่งอยู่บนพื้นเรียกให้แดฮยอนหันไปมองพร้อมหัวเราะออกมาเบาๆ ใช่ จองแดฮยอนไม่สังเกตเห็นแก้มขาวที่ซับสีแดงเรื่อนั่น มันเพราะแดฮยอนฮยอไม่ได้สนใจรายละเอียดเล็กน้อยของมุนจงออบ หากแต่ชเวจุนฮงคนนี้มองเห็นนั่นเพราะทุกอย่างที่เป็นมุนจงออบ ชเวจุนฮง สนใจไปทุกเรื่อง...
“ฮ่าๆๆ เด็กใหม่โดนสอบประวัติงั้นหรอ”
ร่างสูงผิวแทนหัวเราะร่าตามภาษาคนอารมณ์ดีตลอดเวลา เขาทรุดตัวลงนั่งข้างๆจงออบพร้อมทั้งยื่นหน้าไปมองในจอคอมขนาดเล็ก ประวัติอาชญากรอายุน้อยแต่ตัวไม่น้อย ไม่เบาเลยแหะ
“ฮยอง... เลือดที่เสื้อ!?”
คนตาตี่เลิกสนใจจอคอมตรงหน้าแล้วหันมาสนใจเสื้อขาวเปื้อนสีแดงของคนข้างๆแทน ใบหน้าหล่อเหลาก้มลงมองตามก่อนจะเผยยิ้มนิดๆที่มุมปาก
“ไม่ใช่ของพี่หรอก...”
เสียงเบาๆหวิวพูดขึ้น ก่อนจะเอนตัวพิงกับผนักเก้าอี้ ง่วงนอนจังเลยนะ~
“ของเหยื่อวันนี้หรอครับ?”
เหยื่องั้นหรอ... นี่น้องๆคงจะหมายถึงไอนายตำรวจหน้าจืดที่นอนเป็นร่างไร้วิญญาณด้วยสภาพอันน่าสยดสยองซินะ... มันใช่ซะที่ไหนหละ พูดก็พูดเถอะ นายตำรวจคนนั้นไม่ใช่ฝีมือเข้าซะหน่อย...
“เปล่า ของยูยองแจหนะ”
ทุกอย่างในห้องนิ่งไปชั่วคราว เสียงพิมพ์ตอกแตกก็เงียบลง เสียงเด็กน้อยร่างยักษ์เล่นเกมในมือก็เงียบลง
“ฮยอง...”
“เปล่า ยังไม่ได้ฆ่าหรอก”
รอยยิ้มนั้นเผยกว้างออกมาเผื่อตอบคำถามที่แม้จะไม่ทันถามจบแต่ก็พอจะรู้ว่าเด็กยักษ์ผิวขาวหมายถึงอะไร
“ยังทำใจไม่ได้หรอฮะ?”
เด็กน้อยตัวสูงใหญ่ลุกขึ้นมายืนข้างๆพี่ชายผิวสีแทน มือหนายังคงกเล่นเกมไปด้วย เสียงเกมโอเว่อดังขึ้นแผ่วๆ เด็กเผือกมุ่ยหน้าทันทีก่อนจะวางมันลงแล้วสนใจพี่ชายผิวแทนข้างๆนี้แทน
“อย่าเรียกว่าทำใจไม่ได้เลย เรียกว่ารักซะจนทำไม่ได้ดีกว่านะ ฮ่ะๆๆ”
คำพูดทีเล่นทีจริงๆ หากแต่ทำให้ปฏิกิริยาของคนบางคนแปลกไป ร่างของมุนจงออบลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วเดินออกไปจากห้องโถงใหญ่ เซลโล่มองตามร่างนั้นไปก่อนจะหันมายิ้มให้พี่ชายที่ยังนั่งหัวเราะนิ่งๆข้างๆ
“ตามไปซิ เด็กน้อย”
แดฮยอนรู้ว่า มุนจงออบชอบเขา และ แดฮยอนก็รู้ ว่าเด็กเขื่อง ชเวจุนฮง ชอบ มุนจงออบ...
และก็เช่นเดียวกัน เขารัก ยูยองแจ...
“ฮยองทำงี้ทำไม? จงออบจะเสียใจนะ ฮยองก็...”
“ถ้าฮยองไม่ทำจะมีอีกหลายคนที่เสียใจ ตามไปเถอะ เซลโล่ ตอนนี้ฮยองขออยู่คนเดียวหน่อยนะ”
เด็กร่างสูงมองหน้าแดฮยอนก่อนจะขมวดคิ้วนิ่วแต่ก็ยอมเดินตามคนตาตี่ออกไป ทิ้งให้เหลือแต่ร่างของแดฮยอนที่นั่งนิ่งอยู่บนโซฟาตัวโต
นั่นซิ ชักไม่แน่ใจแล้วแหะ ว่าถ้ามันถึงเวลาจริงๆเขาจะทำใจฆ่า ยองแจได้รึเปล่านะ
รอยยิ้มบางเบา ก่อนเปลือกตาหนาจะปิดไปเผื่อเข้าสู่ห้วงนิทรา
อาชญากรที่ฆ่าคนมาไม่รู้กี่ร้อยรายใครๆก็บอกว่าไม่มีหัวใจเป็นแน่
หากแต่ใครจะรู้ อาชญากรอย่างเขานั้นมีหัวใจ หัวใจดวงเดียว และ ต่อไปนี้เขาก็ต้องตามล่าทำลายหัวใจตัวเอง ยูยองแจ...
------------------------------------
เย้ะ อัพรัวๆ 5555555555555555555555555555
แอบสารภาพนิดๆว่าตอนนี้ที่เริ่มแรกๆกำลังอ่านนิยายฆาตรกรรมอยู่
แล้วแบบอยากเขียนแบบนี้บ้าง
แต่ไอครั้นจะให้เอามาบรรยายใช้กับตัวเอกตายสภาพนี้คงเซอไพส์คนอ่านไป
5555555555555555555
มันก็เลยออกมาเป็นเงี้ยแหละ 5555555
สังเกตฟิคของคนเขียนมันจะมีกลิ่นการ์ตูนผสมๆหลายๆเรื่อง กร๊ากกกกกกก ><
ฝากติดตามกันต่อไปด้วยนะฮะ
เม้นให้หนูโหน่ยยย ย ยย 5555555555
ปล้ำโล่.ตอนหน้าแอบอยากแต่งเป็นช้อตฟิคใสๆ(ใสจริงๆนะแจ๊ะ กร๊ากกกกกก กกกก)
แต่ไม่รู้จะเขียนคู่ไหนดี...
จริงๆคนเขียนไม่ซีเรื่องคู่ บัพนี่คนเขียนวนรอบวงคะ กร๊ากกกกก
แต่แอบอยากแต่ง บังแด้(ห่ะ?) เพราะถูกใจ คิลลิ่งแคมป์ ที่อิแด้มันกระโดดกอดคอพี่บัง
แต่ถ้ามีคู่ไหนที่คนอ่านเสนอมาเยอะๆ อาจจะแต่งก็ได้... แต่ไม่ขอคู่ตามเรื่องหลัก เดี๋ยวขัดฟีล 5555555
5555555555555555555
นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ

ทำไมแด้ต้องทำร้ายแจด้วยยยยยย
ดราม่าอ่ะ TwT ฮืออออออออออออ
เมื่อถึงเวลานั้นอ่ะ แต่ทำไมต้องทำให้จงออบเสียใจด้วย ฮือออออ
โล่ช่วยอยู่ปลอบใจจงออบด้วยนะ ประวัติโล่น่ากลัวไปนะ คาดไม่ถึงจริงๆๆ
ปล้ำโล่ จะมาต่อดีๆมั้ย รอนานแล้วน๊า TT^TT
สงสารคู่นี้จริงๆ
ตัวดำแล้วจิตใจแกยังดำอีก =^= #ได้ข่าวว่าแกเมนแด้ 55555
โล่รักออบข้างเดียว TT
แจต้องมาโดนแดแทงเพราะไม่ยิง
แต่แดก็ต้องเจ็บเพราะยังรักแจอยู่
อิแด้ แกแทงแจทำไมห๊ะ? เดี๋ยวปั๊ดเอาปืนจ่อกบาล -.-
ทั้งคู่ฆ่ากันไม่ได้หรอก เค้ารักกันนะ ฮืออออออ
นั่นไง ออบชอบแด้จริงๆๆ และน้องฮงก็ชอบออบ
แต่แดรักแจ รักกี่เศร้าดีเนี่ย
แต่ยิ่งกว่าอะไร คือประวัติน้องฮงนี่แหละ ฆ่าพ่อตัวเองหรออ -0- #ช็อค !!!
แด้! แกแทงแจทำไม!?
ฮื๊ออออออ ชเว จุนฮงแอบรัก มุน จงออบ ข้างเดียววว แต่เดี๋ยวน้องออบตาตี่ของเราก็จะรู้ใจตัวเองแล้วล่ะ ㅋㅋ แอบใจเต้นแล้ววว >3<
ไรท์คะ sf อ่ะ เอาเป็นบังแด้ก็ได้นะไรท์ เค้าเห็นด้วย // แต่เค้าไม่เอาโล่แจน้าาา ㅜㅜ ขอร้อง ใจจริงเค้าอยากได้โล่ออบอ่ะ เห็นมักเน่ไลน์บทน้อย(?) 5555555
ปล.ยืมยูส
ปล2.อัพไวๆนะคะไรท์ เค้าเป็นกำลังใจให้น้าาาา 🍭
แล้วยองแจจะไปอยู่ที่ไหนอ่าาาาาาา