กับดักหัวใจ...ยัยจอมวุ่น - นิยาย กับดักหัวใจ...ยัยจอมวุ่น : Dek-D.com - Writer
×

    กับดักหัวใจ...ยัยจอมวุ่น

    ผู้เข้าชมรวม

    680

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    680

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  0 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 66 / 17:57 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    กับดักหัวใจยัยจอมวุ่น
     
                    ช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อนที่ฉันรอคอยมาถึงเสียที จนรู้สึกว่ามันช่างเป็นการรอคอยที่แสนยาวนานเหลือเกินสำหรับเด็กนักเรียนกระโปรงบาน ผมสั้นเสมอติ่งหูอย่างฉัน เพราะต้องตรากตรำนั่งท่องตำรับตำราที่กองสูงเกือบเท่าภูเขาย่อมๆสำหรับการสอบไล่ก่อนปิดภาคการศึกษาถือเป็นงานหนักที่ฉันต้องเผชิญมาตลอดกับการเรียนมัธยมศึกษาตอนต้น
     
                    รางวัลที่ได้สำหรับปิดเทอมนี้ ผู้เป็นแม่อนุญาตให้ฉันเดินทางจากบ้านนอกพร้อมกับน้องสาวตัวเล็กไปยังกรุงเทพฯเพื่อไปเยี่ยมน้าที่ทำงานที่นั่นมาเกือบสิบปี
     
                    การนั่งรถเข้าเมืองกรุงครั้งนี้แม้ว่าจะไม่ใช่ครั้งแรกก็ตาม แต่ฉันก็อดที่จะตื่นเต้นไม่ได้ ฉันนั่งรถไฟและชอบมองดูวิวทิวทัศน์ข้างทางมากที่สุด เพราะให้ความรู้สึกที่สดชื่นเหมือนกับได้เรียนรู้โลกใบนี้นอกเหนือจากการอยู่อุดอู้ในห้องสี่เหลี่ยมแคบๆกับกองหนังสือที่กองสูงเกือบเท่าภูเขา
     
                    รุ่งเช้าของอีกวัน ฉันและน้องสาวทั้งถือและสะพายสัมภารก ที่ประกอบไปด้วยของฝากที่แม่นั้นเตรียมมาให้อย่างดิบดีเพราะกลัวเหลือเกินว่าน้าสาวสุดที่รักจะอดอยาก  เมื่อก้าวเดินเข้าไปในห้องพัก ฉันแทบไม่อยากเชื่อเลยว่าจากภายนอกที่มองมาว่าน่าจะเหมือนรังหนูกลับต่างอย่างลิบลับเมื่อก้าวเดินเข้ามาข้างในที่กว้างขวางยิ่งกว่าบ้านฉันที่บ้านนอกเสียอีก
     
                    เหมือนคนบ้าหอบฟางเลยนะแพรว น้าไม่ได้อดอยากขนาดนั้นนะ น้าสาวอดส่ายหน้าไม่ได้กับกองสัมภาระที่กองเท่าภูเขาย่อมๆและพยายามแกะห่อดูของข้างในและพบกองเสบียงอาหารเกือบเลี้ยงทหารได้ทั้งกองทัพ
     
                    ก็แม่น่ะสิคะน้าจัดมาให้ครบชุด เตรียมออกไปรบได้เลยนะเนี่ย ฉันยืนบ่นให้น้าสาวฟังพร้อมกับน้องสาวตัวเล็กที่บ่นไปพลางมือก็แกะของ ซึ่งกว่าจะจัดการของทั้งหมดได้ก็แทบหมดแรง
     
                    คงจะเหนื่อยกัน ไปนอนพักก่อนเถอะ เอ้อ! น้ามีข่าวดีมาบอกว่าพี่สาวเราน่ะจะมาเที่ยวกรุงเทพฯด้วยนะ ฉันแทบจะกระโดดออกมาด้วยความดีใจเหมือนเหมือนถูกรางวัลฉลากกินแบ่งรางวัลที่ 1 (เวอร์ไปหน่อยเนอะ) เมื่อได้ยินข่าวจากน้าสาวว่าพี่สาวผู้เป็นลูกพี่ลูกน้องกันจะเดินทางมาถึงวันนี้ตอนเย็น เพราะนานเกือบ 2 ปีแล้วที่เราได้ไม่เจอหน้ากันเลย พี่สาวคนนี้เป็นคนที่ฉันแทบจะอ้อนได้เสมอและเธอจะให้ฉันได้แทบทุกอย่าง
     
                    ครั้งแรกนั้นฉันคิดว่าจะไม่ได้เจอพี่สาวแล้ว เพราะว่าอีก 4 เดือนข้างหน้าพี่สาวจะเตรียมสอบเรียนต่อในคณะแพทยศาสตร์ที่เธอใฝ่ฝันเป็นหนักหนา แต่ฉันเชื่อในความรู้ความสามารถของพี่สาวคนนี้เสียเหลือเกินเพราะเธอนั้นมีพรสวรรค์เรื่องเรียนที่เป็นเลิศมากเลยทีเดียว
     
                    นอกจากเรียนเก่งด้วยดีกรีนักเรียนโอลิมปิกระดับโรงเรียนแล้ว พี่สาวยังเป็นนักกีฬาบาสเกตบอลประจำโรงเรียนอีกด้วย ฉันจึงอดภูมิใจไม่ได้ที่ได้เป็นน้องสาวของผู้หญิงคนนี้ แต่บางครั้งก็อดอิจฉาไม่ได้เช่นกันที่บรรดาสาวๆมักจะรุมล้อมพี่สาวคนนี้พร้อมกับห่อของขวัญ และช่อดอกไม้อีกเป็นกระบุง
     
                    แม้เราจะไม่ได้เรียนที่โรงเรียนเดียวกัน แต่ชื่อเสียงของพี่สาวนั้นดังกระฉ่อนข้ามจังหวัดมาถึงโรงเรียนฉัน ครั้งใดที่เธอไปแข่งขันบาสเกตบอล บรรดาสาวๆต่างกรูกันไปรุมล้อมส่งเสียงกรี๊ดกร๊าดติดขอบสนาม
     
                    ฉันเองก็อยากมีคนมาร้องกรี๊ดๆบ้างเหมือนกันนะ!!!
     
                    ใช่ว่าประสบการณ์คนมาร้องกรี๊ดๆต่อหน้าฉันจะไม่มี ก็มีบ้างเหมือนกัน  อย่างครั้งที่เคยเล่นฟุตบอลในคาบเรียนนั่นล่ะ.แตะบอลไปมา วาดลวดลายเสียสวยงามจนกางเกงขาด
     
                    บรรดาสาวๆร้องกรี๊ดกันซะ!!! น่าชื่นใจจริงๆเลยนะเนี่ย
     
                    แพรวมารับโทรศัพท์หน่อย เจ๊เราน่ะโทรมา ฉันรีบลุกขึ้นและวิ่งไปรับโทรศัพท์จากพี่สาวที่เหมือนจะเป็นพี่ชายเสียมากกว่า เธอมักไม่ชอบให้ใครใครมองว่าเธอเป็นสาวหล่อ เพราะจริงๆแล้วเธอชอบเป็นสาวสวยมากกว่า (สวยซ่อนรูป ซ่อนมากเกินไปเลยมองไม่เห็น ^^) แต่เพราะบุคลิกด้วยร่างสูงใหญ่ หุ่นแบบสาวเมืองฝรั่งตาน้ำขาว ผิวขาวเนียนและผมที่ตัดแบบซอยสั้น ทำให้ฉันคิดเสมอว่า ช่างไม่เหมาะเลยจริงๆที่จะเป็นสาว
     
                    เจ๊สุดที่ร๊ากเมื่อไหร่จะมาถึงจ๊ะ คิดถึงที่สุดในโลกเล๊ยยยยย ลูกอ้อนหยอดคำหวานแบบน้ำผึ้งเดือนห้ายอมซูฮก ทำให้พี่สาวถึงกับยิ้มออกมาแล้วส่ายหน้าเบาๆ เพราะรู้ได้ทันทีเลยว่าน้องสาวอ้อนเพื่อต้องการอะไรสักอย่าง
     
                    หวานมาเชียวนะเรา อยากได้อะไรจากพี่ล่ะ ฉันถึงกับอึ้งเพราะไม่นึกเลยว่าพี่สาวจะรู้ในสิ่งที่ฉันคิดเสียแล้ว
     
                    ไม่ได้อยากได้อะไรหรอกจ๊ะเจ๊แต่ถ้าเป็นไปได้ซื้อฝอยทองของโปรดของแพรวติดไม้ติดมือมาด้วย คงไม่หนักหรอกมั๊ง คนปลายสายถึงกับหัวเราะกิ๊กออกมา ทำเอาฉันเกาศีรษะอย่างอายๆกับความหวังที่จะได้ของโปรดอย่างฝอยทองกรอบและนิสัยที่เห็นของกินไม่ได้ 
     
                    ได้สิ เรานี่นะเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนเลยเอ้อ เจ๊มีเรื่องจะบอกว่า คราวนี้เจ๊ไม่ได้มาหาเราคนเดียวนะ เจ๊พาเพื่อนมาด้วยคนนึง เค้าเป็นเพื่อนนักบาสของเจ๊ และ อยากมาเที่ยวช่วงปิดเทอมนี้ด้วย
     
                    หลังจากพี่สาววางสายไปแล้ว ฉันยังคงอึ้งและถือโทรศัพท์นิ่งอยู่อย่างนั้น รู้สึกได้ถึงความไม่พอใจที่เกิดขึ้นอย่างเงียบๆในใจ เพราะ 2 ปีแล้วที่ไม่ได้เจอพี่สาวและฉันต้องการไปเที่ยวเล่นกันตามประสาพี่ๆน้องๆเท่านั้น
     
                    อาการหวงพี่สาวแบบหน้ามืดตามัว ฉันไม่รู้ว่าใครจะมีอาการเช่นนี้บ้าง แต่ฉันเป็นแบบนี้จริงๆ
     
                    ประกอบกับในมโนภาพนั้น เพื่อนของพี่สาวน่าจะ ตัวสูงๆ อาจจะขาว หรือผิวคล้ำ ตัดผมสั้นๆ ห้าวๆ เท่ห์ๆ ตามแบบฉบับของนักบาสเก็ตบอล.โอ้ว! ภาพนั้นในความคิดทำให้ฉันรู้สึกหน้าซีดเซียวขึ้นมาทันทีเพราะคิดว่าแค่พี่สาวคนเดียวที่เป็นคู่แข่งทางอาหารตาของใครใครยังให้อภัยได้แต่นี่ยังมีคู่แข่งเพิ่มมาอีกคนฉันกำลังคิดว่าถ้าเดินกันไปสี่คน ถ้าเรียงตามอันดับความน่ารักแบบใครใครต้องเหลียวหลังมองนั้น พี่สาวและน้องสาว แถมพ่วงมาด้วยเพื่อนสนิทของพี่สาวอีกคงชนะขาดลอย ปล่อยให้ฉันกลายเป็นเหมือนหมาหัวเน่าที่ไม่มีใครสนใจเป็นแน่
     
                    ฉันพยายามนั่งทำใจเพื่อรับสภาพที่จะเกิดขึ้นในอีกไม่กี่ชั่วโมงที่จะถึงนี้   พี่สาวกับบุคคลแปลกหน้าที่ฉันไม่อยากทำความรู้จัก
     
                    เจ๊นั่งรถมาถึงไหนแล้วอ่ะ ฉันกรอกเสียงลงไปนั่งหน้าไม่สบอารมณ์นัก จนน้าสาวยิ้มออกมาและรู้ดีว่าอาการที่เกิดขึ้นนั้นเป็นเรื่องปกติธรรมดาสำหรับฉัน
     
                    ออยหลับอยู่ค่ะ มีไรฝากไว้ก็ได้นะคะ
     
                    ฉันรู้สึกว่าหน้าเริ่มชา และหยิบโทรศัพท์มานั่งดูอีกครั้งว่าตัวเองต่อสายผิดหรือเปล่า น้ำเสียงปลายสายแสนหวานจนฉันแทบไม่เชื่อหูตัวเอง
     
                    ภาพนักบาสเกตบอล กับ เสียงอันอ่อนหวานของผู้หญิงแปลกหน้าคนนี้ ทำไมถึงดูขัดกันจังเลยนะ!
     
                    ฉันพยายามคิด(เข้าข้างความคิดตัวเอง)ว่า เสียงนั้นอาจแปลผกผันกับหน้าตาเป็นแน่ เนื่องด้วยอคติส่วนตัวที่ผู้หญิงคนนั้นจะเข้ามาเป็นมารทำลายความสุขระหว่างพี่ๆน้องๆในช่วงปิดภาคเรียนนี้
     
                    ยิ่งคิดก็ยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดในใจเหลือเกิน ไม่เข้าใจเลยว่าทำไมพี่สาวสุดที่รักถึงฝากโทรศัพท์ไว้ที่คนคนนั้น
     
                    พี่ออยหลับเหรอคะ งั้นไม่เป็นไรค่ะ แค่นี้นะคะ ฉันวางสายไปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์นักและเดินไปเข้าห้องน้ำ   นอนเล่นแช่น้ำในอ่างอาบน้ำคลายความร้อน (ใจ) เป็นดีที่สุด
     
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น