คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #21 : ตอนที่15 : หายนะ
ตั้งแต่ที่คานาโกะย้ายมาเรียนที่เดียวกับพวกลุกซ์นั้นก็ได้ล่วงเลยมาจนถึงกำหนดการที่พวกเขาทั้งสามจะต้องเดินทางไปสำนักงานใหญ่ของปีกแห่งแสงหรืออีกชื่อก็คือHoly wingนั่นเอง
“เตรียมของทุกอย่างไปพร้อมแล้วใช่ไหม”คานาโกะเอ่ยถาม
“น่าจะครบแล้วล่ะนะ”เอรินะค่อยๆถือกระเป๋าเดินทางออกมาจากห้องนอนของตน
ในขณะที่ทั้งสองสาวมัววุ่นกับข้าวของเครื่องใช่ของตนเองนั้น
ลุกซ์ก็กำลังยืนอยู่ที่ระเบียงพร้อมกับจิบชาอุ่นๆที่ละนิดๆและค่อยๆซึมซับบรรยากาศยามเช้าอันแสนบริสุทธิ์
“อ้า
เช้านี้ก็เป็นวันที่สดใสอีกเช่นเคย”หลังจากที่ลุกซ์ดื่มชาไปแล้วอึกนึงจึงกล่าวออกมาแสดงถึงอารมณ์อันสุรทรีย์ของตน
“นี่นายน่ะช่วยพวกเราถือของมั่งสิ
เป็นลูกผู้ชายหรือป่าวเนี่ย”เอรินะอดหมั่นไส้กับการแสดงท่าทางของลุกซ์ไม่ได้จึงเอ่ยออกมา
ถ้าดูจากข้าวของที่ทั้งสองสาวเตรียมกันไว้นั้นสามารถไปพักแรมกลางป่ากันได้ประมาณครึ่งเดือนเลยทีเดียว
“นี่พวกเธอจะขนอะไรไปเยอะแยะ”ลุกซ์ที่เห็นกระเป๋าเดินทางหลายขนาดที่วางกองอยู่จึงอดที่จะบ่นไมได้
“บางที่นายก็ไม่ควรที่จะยุ่งเรื่องของฉันนะ”เอรินะเท้าเอวแล้วบ่นลุกซ์กลับ
“ถ้าทั้งสองคนยังไม่หยุดทะเลาะกันอย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะคะ”จู่ๆคานาโกะที่ฟังที่ทั้งสองคนเถียงกันไปเถียงกันมานานมากแล้วและมันจะเสียเวลาเพราะสำนักงานใหญ่อยู่ไกลจากที่นี่มากและถ้าจะเดินทางด้วยรถไฟฟ้าคงจะถึงประมาณทุ่มถึงสองทุ่มเลยทีเดียว
“…”
“…”
พอคานาโกะพูดจบทั้งเอรินะและลุกซ์ทั้งสองต่างเงียบกันออกมาและไม่มีใครกล้าพูดอะไร
เพราะว่าตลอดหลาดวันที่ผ่านมาเวลาเอรินะและลุกซ์มีปากเสียงกันทีไรคนที่จะมาห้ามก็ไม่ใช่ใครอื่นคนๆนั้นก็คือคานาโกะนั่นเอง
และคานาโกะก็รู้ว่าเวลาที่ลุกซ์และเอรินะทะเลาะกันนั้นจะใช้ไม้อ่อนไม่ได้เด็ดขาด
ครั่งล่าสุดที่เอรินะโดนคือโดนกักบริเวณชั่วคราวสามวัน
ส่วนลุกซ์ก็โดนสามง่ามไล่จิ้มไปสามวันสามคืนโชคดีที่คานาโกะเหนื่อยไปก่อนเลยรอดออกมาได้น่ะนะ
“ดีมาก
งั้นลุกซ์คะฝากกระเป๋าพวกนี้ด้วยนะคะ”คานาโกะที่เห็นทั้งสองหยุดเถียงกันแล้วก็ฝากเรื่องกระเป๋าที่กองกันเป็นภูเขาอยู่ตรงหน้า
“ไว้ใจได้เลย”ลุกซ์ยกนิ้วโป้งให้คานาโกะพร้อมกับเรียกวงเวทย์ออกมาที่พื้นตรงที่ภูเขากระเป๋าทั้งหลายตั้งอยู่
และจากนั้นไม่นานภูเขากระเป๋าก็จมหายไปในวงเวทย์
“เท่านี้ก็เรียบร้อย”เมื่อลุกซ์เห็นว่าภูเขากระเป๋าตรงหน้าหายไปในวงเวทย์เรียบร้อยแล้วก็เอ่ยขึ้น
“ถ้างั้นพวกเราก็ไปปกันเถอะค่ะ”พอพูดจบคานาโกะก็เดินนำพวกลุกซ์ออกไปจากคอนโดทันที
ณ
สถานีรถไฟฟ้า
“นี่เธอเอาจริงดิ”เป็นเสียงของลุกซ์ที่เอ่ยขึ้นมาด้วยความตกใจ
เอรินะก็ได้แต่พยักหน้าเห็นด้วยกับลุกซ์
เพราะว่าด้านหน้าของพวกเขาตอนนี้นั้นได้มีเหล่าชายชุดสุทสีดำยืนเรียงแถวสองข้างทางเหมือนกำลังยืนรอใครอยู่
เมื่อพวกลุกซ์เดินเข้าไปใกล้พวกนั้น เหล่าชายชุดสุทสีดำก็ตะโกนออกมาเสียงดังฟังชัดจนคนที่อยู่รอบๆหันมามอง
“สวัสดีครับคุณหนู!!!”
คานาโกะไม่พูดอะไรแล้วเดินไปตามทางเดินที่เหล่าชายชุดดำปูพรมแดงไหวให้โดยมีลุกซ์
และเอรินะคอยเดินตาม
เมื่อเดินมาถึงก็ขึ้นรถไฟที่จอดอยู่โดยประตูของรถไฟอยู่ตรงปลายสุดของพรมพอดี
ส่วนคนรอบข้างก็ยกโทรศัพน์ของตนขึ้นมาถ่ายรูปเพราะไม่เคยเห็นอะไรแบบนี้มาก่อน
และคิดว่าพวกลุกซ์นั้นต้องเป็นคนใหญ่คนโตแน่นอน
ด้วยรูปร่างหน้าตาอันหล่อเหล่าของลุกซ์ดั่งเทพบุตรถึงลุกซ์จะเป็นเทพอยู่แล้วก็เถอะ
และโดนประกบคู่กับสาวงามทั้งสองอย่างเอรินะ และคานาโกะแล้วยิ่งทำให้พวกเขานั้นดูเด่นขึ้นไปอีก
เมื่อขึ้นมาบนรถไฟแล้วลุกซ์ก็อดที่จะแปลกใจไม่ได้
เพราะอะไรน่ะเหรอ
มันก็เพราะว่าเมื่อเข้ามาแล้วภาพที่ลุกซ์เห็นมันไม่เหมือนกันรถไปเลยสักนิดเดียว
มันเหมือนกับบ้านมากว่า
แถมรอบยังเครื่องทองประดับอยู่เต็มฝาผนังทำห็ดูหรูไปอีกขั้น พอพวกลุกซ์เข้ามาในรถไฟเรียบร้อยแล้วรถไฟส่วนตัวของคานาโกะก็ค่อยๆเคลื่อนที่ออกจากชานชลา
“อย่าจับทำมันแตกล่ะเอรินะแจกันนั้นมีแค่ชิ้นเดียวในโลกนะ”เอรินะที่กำลังเดินไปดูรอบๆอย่างตื่นเต้นและกำลังจะเอื้อมมือไปจับแจกันใบหนึ่ง
เมื่อมองแล้วให้ความรู้สึกเก่าแก่และน่าดึงดูเป็นอย่างมากซึ่งถ้าดูแล้วคงต้องบอกว่าคนที่ทำมันขึ้นมาต้องใช้เวลานานมาแน่ๆ
เพราะว่ามันมีความประณีตอย่างมากแถมลวดลายที่สวยงามนั้นอีก
เอรินะที่ได้ยินว่าแจกันที่เธอกำลังจะเอื้อมไปแตะมีเพียงชิ้นเดียวในโลกเท่านั้นแหละรีบชักมือกลับทันที
ถึงครอบครัวของเอรินะจะรวยมากก็เถอะแต่แจกันที่มีเพียงชิ้นเดียวในโลกนี้ราคาคงไม่ใช่ถูกๆแน่นอน
มันเปรียบเสมือนสมบัติของชาติเลยก็ว่าได้
“ขอบคุณที่เตือนนะคานาโกะ”เอรินะที่รู้ว่าถ้าเกิดทำแจกันใบนี้แตกขึ้นมาจะทำยังไง
ก็ได้บอกขอบคุณคานาโกะ
“หืม
ภาพจิตรกรรมบนแจกันนี่เหมือนเคยเห็นที่ไหนนะ”ลุกซ์เดินไปยังแจกันใบนั้นทันทีแล้วเอามือเท้าคางเหมือนกำลังจะใช้ความคิด
พอดูๆไปมันก็รู้สึกคุ้นตาเหมือนเคยเห็นที่ไหนมาก่อน
“เคยเห็นมาก่อนเหรอค่ะ”คานาโกะที่ยินที่ลุกซ์พูดก็ถามออกไปด้วยความสนใจ
เอรินะก็พยักหน้าเห็นด้วยกับคานาโกะ
“อืม
มันรู้สึกคุ้นๆน่ะ ขอดูหน่อยนะ”ผมพูดพร้อมกับหยิบแจกันใบนั้นขึ้นมาดู
“นะ
นี่นายจะทำอะไรน่ะ”เอรินะที่เห็นลุกซ์หยิบแจกันขึ้นมาพลิกไปพลิกมาเอ่ยถามด้วยความกังวล
เพราะกลัวว่าแจกันใบนั้นจะหล่นลงมาแตกนั่นเอง
ส่วนคานาโกะที่คิดว่าที่ลุกซ์ทำอย่างนี้ต้องมีเหตุผลแน่นอนจึงไม่เอ่ยขัด
“ใช่จริงๆด้วย”พอลุกซ์พลิกไปดูตรงก้นของแจกันก็เห็นสัญลักษณ์แปลกๆเป็นตัวหนังสือคล้ายกับเป็นตัวหนังสือโบราณ
“นายแปลตัวหนังสือโบราณนั้นออกเหรอ”คานาโกะเห็นว่าพอลุกซ์มองไปที่ตัวหนังสือโบราณเหมือนกับรู้อะไรบางอย่าง
เอรินะที่ได้ยินอย่างงั้นก็ฟังทั้งสองคนพูดอย่างสนใจ
“ไม่
มันไม่ใช่ตัวหนังสือโบราณหรืออะไรทั้งนั้นแหละ”ลุกซ์พูดออกมาพร้อมกับคิดว่าทำไมของแบบนี้ถึงมาอยู่บนโลกได้
“นายหมายความว่าไง”คานาโกะถาม
“นี่น่ะไม่ใช่ตัวหนังสือโบราณอย่างที่พวกเธอคิดหรอก
มันเป็นตัวหนังสือของพวกเทพถึงจะพูดว่าของเทพก็เถอะแต่พวกปีศาจก็ใช้ภาษานี้เหมือนกัน
แต่ที่ฉันสงสัยคือทำไมสิ่งนี้ถึงมาอยู่บนโลกได้”ลุกซ์พูดพร้อมกับสีหน้าเคร่งเครียด
“นายแปลมันออกสินะ
แล้วตัวหนังสือนั่นแปลว่าอะไรอย่างงั้นเหรอ”คานาโกะอดที่จะถามไม่ได้เมื่อเห็นลุกซ์ทำสีหน้าเคร่งเครียด
เอรินะได้แต่พยักหน้า
“มันแปลว่า
“หายนะ” น่ะ”ลุกซ์พูดออกไป
“แล้วมันทำไมงั้นเหรอคะ”คานาโกะถามออกเป็นซึ่งจากที่เห็นลุกซ์แสดงท่าทางจริงจังและพูดออกมาก็ทำให้คานาโกะจริงจังตามไปด้วย
เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องที่จำเป็นลุกซ์แทบจะไม่แสดงสีหน้าจริงจังแบบนี้หรอก
ไม่รอช้าลุกซ์วางแจกันลงแล้วล้วงมือเข้าไปในวงเวทย์ของตนเองที่เชื่อมต่อกับห้องสมุดนิรันดร์อยู่
พร้อมกับหยิบหนังสือเล่นหนึ่งออกมาแล้วเปิดหาสิ่งที่ต้องการทันที
“นี่ไง
เจอแล้ว”พูดจบลุกซ์ก็ยื่นหนังสือไปให้คานาโกะและเอรินะดู
“พิธีคืนชีพจอมมารแห่งบรรพกาล!!!”คานาโกะและเอรินะเบิกตากว้างทันทีที่อ่านหัวข้อเรื่อง
พอเลื่อนตาลงมานิดหน่อยก็จะเห็นรูปของช้อน จาน ดอกไม้ที่เป็นหินและอันสุดท้ายที่พวกเธอคุ้นมาที่สุดก็แจกันที่วางอยู่ตรงหน้าของพวกเธอ
“ทำลาย
ความตาย ความแข็งแกร่ง
และหายนะถ้าเกิดว่าเจ้าพวกปีศาจหาทั้งสี่อย่างนี้พบละก็จะสามารถคืนชีพให้กับจอมมารแห่งบรรพกาลได้”ลุกซ์ที่เห็นว่าคานาโกะกับเอรินะอึ้งจนพูดไม่ออกก็เอ่ยแทน
“แล้วทำไมต้องเป็นช้อน
จาน ดอกไม้และแจกันล่ะ”คานาโกะที่สงสัยถามขึ้น
“อันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน”ลุกซ์พร้อมกับส่ายหัวเป็นการบอกว่าไม่รู้จริงๆ
คานาโกะกลับอึ้งมากกว่าเก่าอีกตอนนี้
เพราะปกติเวลาเธอถามอะไรลุกซ์จะรู้เรื่องหมดแต่ครั้งนี้เจ้าตัวกลับไม่รู้เรื่องแล้วจะไม่ให้เธอไม่ตกใจได้ยังไงล่ะ
“แบบนี้ก็เหมือนกับว่าพวกเรากำลังถือระเบิดที่พร้อมระเบิดอยู่ทุกเวลาน่ะสิ”เอรินะที่รู้สึกตัวก็เอ่ยขึ้นบ้าง
“ก็คงจะเป็นอย่างนั้นแหละ ดีนะที่พวกนั้นยังไม่มาเห็นแจกันนี่สะก่อน
ไม่งั้นคงแย่แน่”คานาโกะพูดออกมาด้วยความวิตกกังวลแต่สักพักก็โล่งใจ
เพราะเจ้าพวกปีศาจพวกนั้นยังไม่รู้เรื่องนี้
ขอโทษที่หายไปนานนะครับ
พอดีช่วงนี้งานเยอะจนทำแถบไม่ทันแต่ตอนนี้ก็ยังทำไม่เสร็จหรอกครับ555
แต่พอคิดว่าคุณพูดอ่านทั้งหลายจะรอนานจึงลงให้ครับ
ความคิดเห็น