ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    รักหมดใจยัยแกล้งบื้อ

    ลำดับตอนที่ #2 : หนี้ชีวิต

    • อัปเดตล่าสุด 5 ส.ค. 51


                   “ พี่ใบข้าว ตื่นเร็วสิ นี่มันสายแล้วนะ เดี๋ยวก็ไปโรงเรียนสายกันพอดีหรอก ” น้องชายของฉันเคาะประตูห้องนอนของฉันจนประตูแทบจะพัง
                   
                   “ นี่ ใบชากี่โมงแล้วเนี่ย ” ฉันยังคงงัวเงีย ยังไม่ยอมลุกจากที่นอน
                   
                    “
    7 โมงครึ่งแล้วครับพี่ใบข้าว ”
                    
                     “ ว้ายยยยยยยยยย ตายแล้วฉันต้องไปโรงเรียนสายแน่เลย ”  ด้วยอาการตกใจ และรีบร้อน ฉันจึงรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทันที ชุดนักเรียนถูกใส่ด้วยอาการลุลี้ลุกลน ผมเพ้ายุ่งเหยิง ฉันสวมวิณญาณกระทิงหมาป่าวิ่งหน้าตั้งออกจากบ้านด้วยความเร็วจี๋ ก่อนจะไปถึงหน้าโรงเรียน ประตูโรงเรียนก็ถูกปิดเสียแล้ว 
                    
                    “ นี่ ยัยใบข้าว ” เสียงอาจารย์ท่านหนึ่งในฝ่ายปกครองตะโกนเรียกชื่อฉัน
                    
                   ฉันจึงตัดสินใจเดินเข้าหาไปอาจารย์ แล้วมองอาจารย์ด้วยอาการเศร้า ๆ
                   
                   “ นี่ เธอมาโรงเรียนสายอีกแล้วนะ ฉันจะทำอย่างไรกับเธอดีนี่ ตามฉันมาเดี๋ยวนี้ ” ฉันเดินตามหลังอาจารย์ด้วยอาการหงอย ๆ แต่ก็ชินแล้วล่ะ เพราะ ฉันไม่เคยมาโรงเรียนเช้า ๆ กับเขาสักที วันไหนที่ฉันมาเช้าล่ะก็จะเป็นวันประวัติศาสตร์ของโลกเลยทีเดียว
                    
                   “ นี่ เธอคราวนี้ฉันจะให้เธอ.............”
                   
                    ครืด........
                   
                   เสียงเลื่อนประตูดังขึ้น ทำให้อาจารย์ต้องหยุดชะงัก และหันไปมองผู้ที่กำลังเดินเข้ามา
                   
                    “ อาจารย์ครับ เดี๋ยวผมจะจัดการกับเด็กคนนี้เองครับ ” เหมือนเสียงสวรรค์มาโปรด ฉันหันไปมองหน้าเขาแล้วส่งยิ้มให้ 
                   
                    “ ก็ได้ นั้นฉันฝากเด็กคนนี้ด้วยนะ ” หลังจากที่อาจารย์พูดจบ ฉันก็รีบเดินออกจากห้องปกครองทันที
                   
                     “ ขอบคุณมากนะ นายไกด์ ”
                   
                     “ อย่าลืมสิ เธอเป็นแฟนฉันแล้วนะ ”
                    
                    “ ฉันไปเป็นแฟนนายตั้งแต่เมือไหร่กัน ” ฉันตะโกนใส่เขาเพื่อปกปิดอาการเขินอาย
                    
                    “ เธอติดหนี้ชีวิตฉันเป็นครั้งที่
    2 แล้วนะ ยัยบื้อ”
                    
                   “ ฉันไม่ได้ชื่อยัยบื้อนะ ฉันชื่อใบข้าวหย่ะ ” ฉันมองหน้าเขาด้วยอย่างเย่อหยิ่ง แล้วกระเติบเท้าเขา ก่อนจะวิ่งออกไปอย่างรวดเร็ว
                    
                  “ นี่ยัยบื้อ หลังเลิกเรียนมาหาฉันด้วยนะ ” เขาตะโกนบอกฉันเสียงดัง แต่ฉันก็ทำเป็นไม่สนใจ
                   
                   คำพูดของเขา ทำให้ฉันคิดถึงเรื่องเมื่อวาน
                    
                  ‘เธอต้องมาเป็นแฟนของฉัน ’
                   
                   
    นี่นายบ้าไปหรือเปล่าเนี่ย’
                    
                   ‘เธอห้ามปฎิเสธ เพราะว่าเธอเป็นหนี้ชีวิตฉัน’
                   
                    คำพูดของเขาทำให้ฉันมึนงง และงงในหลาย ๆ อย่างจนตั้งสติได้ก็มาถึงหน้าห้องเรียนของฉันละ
     
                    “ ใบข้าว ” เสียงเรียกของเพื่อนสนิทของฉันดังขึ้น ทำให้ฉันได้สติขึ้นมา
                    
                   “ เป็นอะไรหรือเปล่า ใบข้าว ดูใจลอย ๆ คิดถึงใครอยู่รึเปล่า ” 
                    
                   ฟ้าใสเป็นเพื่อนสนิทที่ดีที่สุดของฉัน คบกันมา
    3 ปี ตั้งแต่อยู่ชั้น ม. 4 เขาเป็นที่ปรึกษาที่ดีสำหรับฉัน ตอนนี้เรียนใกล้จบแล้วเราสัญญาว่าจะเข้ามหาลัยที่เดียวกัน หรือเรียกเพื่อนคนนี้ว่าเพื่อนร่วมสาบานก็เป็นได้
                    
                   “ ฉันเลิกกับที่ไทม์แล้วล่ะ ” เมื่อพูดจบสีหน้าของฉันก็เศร้าลงทันที
                    
                   “ หรอ อย่าไปคิดถึงมันเลยผู้ชายดี ๆยังมีอีกเยอะ ” ฟ้าใสพูดปลอบใจฉัน แล้วก็เปลี่ยนเรื่องพูดทันที
                   
                    “ เอ่อ ใบข้าวหลังเลิกเรียนมีการแข่งขันบาสเก็ตบอลของโรงเรียน ไปดูกันน้า น้าาาาาาา ” ฟ้าใสอ้อนฉันเหมือนเด็ก ๆ แล้วฉันก็ต้องตามใจ เพราะ สิ่งที่ฉันยอมแพ้ก็คือ ลูกอ้อนของฟ้าใสนี่แหละ
                    
                     แล้วพวกเราก็เข้าเรียนตามปกติ รอเวลาเลิกเรียนจะได้ไปดูการแข่งขันบาสเก็ตบอลของโรงเรียน จริง ๆ แล้ว ฟ้าใสไม่ได้ชอบดูบาสเก็ตบอลสักเท่าไหร่ แต่เป็นเพราะ คนเล่นต่างหาก คือ ฟ้าใสแอบชอบน้ำเงินมานานแล้ว แต่ไม่กล้าพูดออกไปเพราะกลัวเสียหน้า 
                   
                    ออดดดดดดดดดดดด 
                   
                   เสียงออดดังขึ้นบอกเวลาเลิกเรียน ฟ้าใสดึงมือฉันแล้วรีบวิ่งตรงไปยังสนามบาสอย่างรวดเร็ว
                  
                    กรี๊ดดดดดดดดดดดด
                   
                   เสียงกรี๊ดดังลั่นไปทั่วสนาม พร้อมด้วยบรรดาสาว ๆ ต่างนั่งจับจองที่บนอัศจรรย์จนแน่น อีกทั้งยังยืนเกาะอยู่ข้างสนามเต็มไปหมด
                   
                    “ โฮฮฮฮ  นี่มันอะไรกันเนี่ย รวมพลคนรักบาสเก็ตบอลหรือยังไงกันเนี่ย ”
                   
                   “ แหมก็เค้าทั้งเก่ง ทั้งหล่อ อย่างเนี่ยจะไม่ให้รักได้ยังไง ” คำพูดของฟ้าใสนั้นทำให้ฉันถึงกับจะอาเจียรออกมาเลยทีเดียว
                    
                   “ กรี๊ดดดดดดด เห็นไหมใบข้าว นั่นไงน้ำเงิน ไกด์ด้วยหล้อ หล่อ กรี๊ดดดดดดด ” ฟ้าใสส่งเสียงกรี๊ดดังลั่นเมื่อเห็นน้ำเงินและไกด์เดินเข้ามาในสนาม
                   
                   “ มองหาใครอยู่อ่ะ ไกด์ ”  น้ำเงินถามเพื่อนด้วยสีหน้าฉงน
                   
                   “ อ๋อ เปล่า ๆ ม่ายมีอะไรหรอก ”
                   
                   “ งั้นก็ไปเตรียมตัวได้แล้วล่ะ ” น้ำเงินตบไหล่ไกด์ที่นึงก่อนจะเดินไปวอร์มร่างกาย
                    
                  ไกด์มองซ้ายมองขวา ทำท่าเหมือนมองหาใครสักคน ในที่สุดไกด์ก็มองตรงมาทางฉัน แล้วหันหลังเดินตามน้ำเงินไปเพื่อไปรวมตัวนักกีฬา เริ่มต้นการแข่งขัน บรรดาสาว ๆ ต่างพากันกรี๊ดไม่หยุด เมื่อไกด์ดรั้งได้ลูกแรก และต่อมาน้ำเงินก็ทำแต้มเพิ่มขึ้น ทำให้การคะแนนแข่งขันเป็นไปได้สวย และชนะในที่สุด เมื่อจบการแข่งขันทุกคนต่างแยกย้ายกันกลับบ้าน
                   
                  “ ใบข้าว วันนี้น้ำเงินเท่สุด ๆเลย ” ฟ้าใสพูดเพ้อถึงน้ำงินด้วยสีหน้าที่ยิ้มไม่หุบ
                    
                  “ ตื่น ๆ ได้แล้วจ้ะ ฝันตอนเย็นอยู่ได้ กลับบ้านได้แล้ว ”
                    
                “ นี่ยัยบื้อ ฉันบอกให้ไปหาทำไมไม่ไป ”       เสียงตะโกนมาจากข้างหลังฉัน ทำให้ฉันต้องหยุดชะงัก แล้วหันหน้าไปมอง
                    
                 “ นายสั่งใครมิทราบ แล้วฉันก็ไม้ได้ชื่อยัยบื้อด้วย ฉันชื่อใบข้าวหยะ ” คำพูดของฉันทำให้นายไกด์ รู้สึกโกรธขึ้นมานิด ๆ แล้วเขาก็กึ่งจูงกึ่งลากฉันไป
                   
                  “ ฟ้าใสเธอกลับบ้านไปก่อนนะ ไม่ต้องเป็นห่วง ” ฉันตะโกนบอกเพื่อนไม่ให้เป็นห่วง ก่อนฟ้าใสจะทำหน้าฉงนแล้วเดินกลับบ้านไป วันพรุ่งนี้ฉันคงต้องนั่งตอบคำถามของยัยฟ้าใสเป็นชุดแน่ๆ
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×