ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    The Road to Become a Lord | jaeten

    ลำดับตอนที่ #1 : stage 00 – red snow

    • อัปเดตล่าสุด 2 มิ.ย. 63


     


                นานมาแล้วหลายศตวรรษที่มนุษย์เคยเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก พวกเขาปกครองโลกใบนี้ สรรค์สร้างอารยธรรม วัฒนธรรม และเทคโนโลยีที่ทันสมัย พวกเขามั่นใจเหลือเกินว่าโลกใบนี้เป็นของพวกเขา มั่นใจเหลือเกินว่าพวกเขาเป็นเผ่าพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดและไม่มีสิ่งใดมาเทียบเท่าได้ และเพราะแบบนั้น..

    พวกเขาจึงคาดไม่ถึงว่ายุคสมัยของมนุษย์จะจบอย่างรวดเร็วราวกับสายลมที่พัดผ่าน

    เพียงเพราะความโลภในการขวนขวายหาพลัง เพียงเพราะความไม่รู้จักพอในการขูดรีดธรรมชาติที่เหลืออยู่เพียงน้อยนิด เพียงเพราะตื่นตาตื่นใจกับ สิ่งประหลาดที่พวกเขาพบเจอในป่าลึกลับแห่งนั้น

    พวกเขานำมันมาทดลอง นำมันมากักขัง จากหนึ่งกลายเป็นสอง จากสองกลายเป็นสาม จากสามกลายเป็นสี่ และกลายเป็นนับไม่ถ้วน

    เพื่อทดลองว่าพวกเขาสามารถทำให้ พวกมันเชื่องได้หรือไม่

    เพียงเพื่อการทดลองงี่เง่าแสนบัดซบนั่น ท้ายที่สุดแล้วพวกมนุษย์จึงถูกธรรมชาติเอาคืน เหล่าสิ่งที่พวกเขาเคยตราหน้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานหยัดลุกขึ้นสู้ ถล่มทำลายอารยธรรมที่มนุษย์เพียรสร้างมากว่าพันกว่าหมื่นปีอย่างยากลำบากด้วยกรงเล็บที่แหลมคมจนแทบจะสะบั้นต้นไม้ขาดเป็นท่อนในการตวัดเพียงครั้งเดียว

    พวกมันที่เคยหลบซ่อนในมุมมืดต่างปรากฏกายเพื่อต่อสู้ พวกมันโกรธเกรี้ยว ทุกอณูในความคิดเต็มไปด้วยโทสะ

    พรากบ้าน พรากครอบครัว พรากคนรัก พรากอาหาร และพรากชีวิต

    มนุษย์ทำกับพวกมันเช่นไร พวกมันย่อมเอาคืนเช่นนั้น

    จากประเทศหนึ่ง สู่อีกประเทศหนึ่ง— ท้ายที่สุดเผ่าพันธุ์มนุษย์ก็ล่มสลาย จากเผ่าพันธุ์ที่เป็นใหญ่ ก็กลายเป็นเพียงสิ่งมีชีวิตใต้อาณัติของผู้ที่มีพลังอำนาจเหนือกว่า จากผู้ปกครอง— สู่ผู้รองมือรองเท้า จากผู้จับสายจูง— กลายเป็นผู้ถูกล่ามด้วยโซ่ตรวน

    ในฤดูหนาวที่ไร้ซึ่งซานต้า เหล่าเด็กเล็กพากันหลบอยู่ในบ้านพร้อมกับไฟที่ถูกปิดจนมืด พวกเขาต่างขดตัวอยู่ใต้โต๊ะ สั่นผวายามได้ยินเสียงกรีดร้องและกลิ่นเลือดคาวจมูกด้านนอกนั่น หิมะที่ขาวสะอาดถูกย้อมเป็นสีแดงเช่นเดียวกับสีโลหิตที่หลั่งไหล เสียงคำรามกรรโชกของสัตว์ดุร้ายดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับราตรีที่ผ่านไปอย่างเชื่องช้า

    ไม่มีใครอยากตกเป็นเบี้ยล่าง ไม่มีใครอยากถูกพรากทุกสิ่งทุกอย่างไป

    ทั้ง มนุษย์ทั้ง พวกมัน

    ต่างสูญเสียกันมามากเหลือเกิน

     


    ในฤดูหนาวปีคริสต์ศักราชที่ 2020 เผ่าพันธุ์มนุษย์ได้ล่มสลาย พร้อมกับเผ่าพันธุ์ใหม่ที่ก้าวเท้าเข้าหาแสงสว่างเพื่อปกครองโลกใบนี้

    อันเดลไฮส์โลกของมนุษย์หมาป่า

     


                และนี่คือเหตุการณ์ในอีก 1000 ปีหลังจากนั้น

                เสียงลมพัดโหยหวนดังขึ้นจากทุกสารทิศ พร้อมกับหิมะสีขาวบริสุทธิ์ที่ตกลงมากองจนเกือบท่วมถนนรถม้าสายหลักซึ่งกั้นกลางอยู่ระหว่างร้านอาหารจานเด็ดอย่างเนื้อหมักไวน์สดกับร้านดอกไม้ชื่อดังที่บัดนี้กลับไม่มีใครมาใช้บริการเลยแม้แต่คนเดียว ค่ำคืนที่มีเพียงแสงจากเสาไฟทรงโบราณตามทางและแสงจันทร์บนฟากฟ้านั้นช่างเงียบเหงา

                ทั้งความหนาวเหน็บที่พาลทำให้ตัวสั่น ทั้งกลิ่นไอเย็นที่ทำให้จมูกของเด็กน้อยแดงระเรื่ออย่างน่ากลัว

                แขนบอบบางภายใต้เสื้อไหมพรมตัวหนาที่ผู้เป็นมารดาบอกว่าซื้อมาในราคาถูกกอดตัวเองอย่างหลวมๆ ดวงเนตรสีน้ำเงินเข้มราวกับท้องฟ้ายามนี้กะพริบตาขับไล่ความง่วงงุนพลางสอดส่องมองไปรอบด้านเพื่อหามารดาที่ทิ้งตนไว้แล้วจากไปตั้งแต่เมื่อราวๆ 6 ชั่วโมงก่อน

                เสียงกังวานของหอนาฬิกาใจกลางเมืองดังขึ้น ร่างเล็กก้มหน้าลงปกปิดริมฝีปากที่ซีดเผือดและสั่นเทาเพราะพิษของหิมะที่ตกมาตลอดโดยไม่มีหยุดพัก

                “เที่ยงคืนแล้ว..” เขากระซิบกับตัวเองเสียงแผ่ว ในใจพร่ำภาวนาขอให้ผู้เป็นมารดารีบกลับมารับเขากลับบ้านไปเสียที

                “ธุระของคุณแม่ยังไม่เสร็จรึไงนะ”

                เด็กชายตัวน้อยผู้มีผิวขาวราวหิมะและใบหน้าที่หากโตขึ้นคงหล่อเหลาราวรูปปั้นสลักขยับตัวขยุกขยิกบนม้านั่ง ใจดวงน้อยที่บริสุทธิ์สมวัยเต้นอ่อนลงยามเผลอคิดขึ้นมาว่าตนอาจถูกทิ้งไว้ที่นี่เสียแล้ว

     

              เจค รออยู่ที่นี่นะ อย่าไปไหน ไว้แม่เสร็จธุระแล้วแม่จะกลับมารับ  

     

                เสียงอ่อนโยนของมารดายังคงดังก้องอยู่ในหู เด็กชายเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าที่ไร้หมู่ดาวเนื่องจากถูกเมฆบดบังจนหมด ใจหนึ่งยังคงเชื่อมั่นในคำพูดนั้น— ทว่าอีกใจหนึ่งกลับหมดหวังและเริ่มรู้สึกต่อต้าน

              หากคุณแม่จะกลับมา คงกลับมานานแล้วไม่ใช่หรือ

                เด็กชายเอนกายลงนอนบนโซฟาเย็นเยียบ หวังเพียงเมื่อตื่นขึ้นมาจะพบกับใบหน้าของผู้เป็นมารดาที่เขาเฝ้าถวิลหา

                ทว่าท่ามกลางไอเย็นจนแสบจมูกนั้น เขาได้กลิ่นคาวเลือดปะปนมา

                เด็กชายผุดลุกขึ้นยืนในทันทีอย่างหวาดระแวง ดวงเนตรสีน้ำเงินเข้มล้ำลึกขยายม่านตากว้างขึ้นตามสัญชาตญาณ ไม่ไกลจากจุดที่เขายืนอยู่นัก เขาเห็นเงาคนเลือนรางเดินออกมาจากมุมอาคารหนึ่งอย่างทุลักทุเล กลิ่นคาวของโลหิตเด่นชัดขึ้น..เช่นเดียวกับกลิ่นเย็นๆที่ไม่ใช่กลิ่นของหิมะ

                คล้ายกลิ่นของดอกไม้ป่า— แต่ก็เหมือนจะไม่ใช่

                มันเป็นกลิ่นหอมเย็นที่ทำให้เขารู้สึกหน้าร้อนวูบวาบขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

                แต่แล้วกลิ่นเหล่านั้นก็ถูกกลบด้วยกลิ่นคาวเลือดที่รุนแรงยิ่งกว่ายามที่ชายร่างโปร่งบางคนนั้นเคลื่อนตัวเข้ามาใกล้ โลหิตสีแดงที่อาบมือและร่างกายของเขาหยดแหมะลงบนหิมะ กระจายเป็นวงกว้างย้อมหิมะสีขาวพิสุทธิ์ตามทางเดินเหล่านั้นกลายเป็นสีแดงฉานน่าขนลุก

                เมื่อได้มองหน้าใกล้ๆ เขาจึงเห็นว่าคนตรงหน้าเป็นบุรุษวัยประมาณ 18-19 ปีผู้มีใบหน้าหวานหยด แม้ไม่ได้งามแบบสตรีที่เขาเคยพบเห็น แต่ก็นับได้ว่ามีเอกลักษณ์ไม่ซ้ำใคร ซ้ำยังตราตรึงราวกับรอยสักที่ไม่สามารถลบเลือนออกไปจากความคิดได้ ผมสีเทาควันบุหรี่ตัดสั้นละต้นคอ ดวงเนตรสีทองเข้มไร้ประกายที่มองมายังเขาคล้ายกับกำลังประเมินบางสิ่ง น่าแปลกที่เขาไม่ได้รู้สึกกลัวกับสายตานั้นเลยแม้แต่นิดเดียว

                มีเพียงเสียงก้อนเนื้อตรงหน้าอกข้างซ้ายเท่านั้น ที่ดังจนเขากลัวเหลือเกินว่าอีกฝ่ายจะได้ยิน

                ทั้งที่ชายตรงหน้าเปื้อนไปด้วยคราบโลหิต ทั้งที่ใบหน้านั่นฉายแววเยือกเย็นระคนเศร้าหมอง ทั้งที่เป็นแบบนั้น

                เขากลับคิดว่าภาพตรงหน้าช่างงดงามนัก

                “เจค..”

                หัวใจของเขาเต้นระรัวยามได้ยินเสียงหวานนั่นเอ่ยเรียกชื่อของเขา

                “ฉันชื่อ เทนเลอร์ ดาร์เคอตัน ฉันได้รับมอบหมายให้มารับเธอ”

                แม้ว่าจะยังเด็กนัก แต่เขาก็รู้ว่า ดาร์เคอตัน คืออะไร

                ราชวงศ์

                “ผ ผม..”

                “ตั้งแต่นี้ต่อไป เธอคือ เจควินน์ แลนฟอร์ด ลูกชายเพียงคนเดียวของโคลวิส แลนฟอร์ด ขุนนางระดับสูงผู้ภักดีต่อราชวงศ์”

                มันคือจุดเริ่มต้น



    -----|-----|-----|-----|-----|-----

    เปิดเรื่องใหม่แล้ว!! ใครที่ไม่เคยอ่านฟิคของเรา ลองไปแง้มๆดูเรื่องเทนทาเนียกับท่านอ๋องกลัวเมียได้นะคะ!

    เรื่องนี้ธีมเรื่องเดียวกับเทนทาเนียนะคะ (ยุโรปแฟนตาซีพีเรียด ออกแนววิคตอเรียนหน่อยๆ) แต่โทนเรื่องนี้ค่อนข้างดาร์คและเหมาะกับเรามากกว่า (เทนทาเนียฟีลกู๊ด.. ย้ำว่าฟีลกู๊ดค่ะ หมายถึงช่วงแรก)

    เรื่องนี้จะเป็นเรื่องราวในโลกหลังจากที่เผ่าพันธุ์หมาป่าเอาชนะเผ่าพันธุ์มนุษย์และกลายเป็นผู้ปกครองโลกได้ค่ะ เป็นแนวๆ Omegaverse โทนเรื่องจะดาร์คประมาณนึง และอิงการแต่งกายกับวัฒนธรรมสมัยวิคตอเรียนมาส่วนนึงด้วยค่ะ โดยจะมีตัวละครหลัก 2 ตัวคือ เจควินน์ แลนฟอร์ด พระเอกของเรื่อง และ เทนเลอร์ ดาร์เคอตัน นายเอกของเรื่อง (ย้ำว่านายเอก ไม่ใช่ fem แบบเรื่องเทนทาเนียแล้วค่ะ)

    สำหรับใครที่อยากติดตามเรา/ทวงฟิค/ส่องความเคลื่อนไหว สามารถดูได้ที่ @EVE05x07 และ #ท่านลอร์ดโอเมก้า ในทวิตเตอร์ค่ะ!

     

     

     

     

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×