ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    At Gwanghwamun [ KyuHyuk ]

    ลำดับตอนที่ #7 : Seventh – In My Mind

    • อัปเดตล่าสุด 12 ก.พ. 58


     

     

    Seventh

     

     

    In My Mind

     

     

     

     

     

     

    ฮยอกแจนอนก่ายหน้าผากอยู่ในห้อง พยายามข่มตานอนมาเกือบๆชั่วโมงแต่ความรู้สึกข้างในนี่มันก็ไม่สามารถทำให้หลับตาได้สนิทเลยจริงๆ

     

    “เฮ้อ” ฮยอกแจถอนหายใจและหันมองโทรศัพท์หน้าจอดำมืด เอื้อมมือไปกดดูเวลาและก้มหน้าซุกลงกับหมอนอย่างรวดเร็ว

     

    “แม่งเอ้ย!!” ฮยอกแจดิ้นพล่านอยู่บนเตียงก่อนลุกขึ้นมานั่งและคว้าโทรศัพท์มากดเข้าแอพริเคชั่นแชทกลุ่มเพื่อนที่เพิ่งคุยกันจบไปไม่นาน เรื่องที่คุยกันก็เรื่องทั่วไปแต่สุดท้ายก็มาจบที่การแซวเขานิดๆหน่อยๆเพราะว่ามีหมาตัวนึงในกลุ่มดันเห็นชอตเราสองสามคนที่หน้าโรงเรียนพอดี ฮยอกแจกัดปากตัวเองไว้เพราะดูจากตัวเลขคนเข้ามาอ่านนั่นก็เดาได้แล้วว่าทงเฮมันก็คงอ่านแล้ว

     

     

    แต่มันไม่ได้ตอบอะไรเลย สติ๊กเกอร์สักอันก็ไม่มีทั้งที่เขาก็เมนชั่นหามันตรงๆเลยด้วยซ้ำ

     

     

    2.45  มึงนอนยัง

     

     

    ฮยอกแจตัดสินใจทักไปในแชทส่วนตัวที่ไม่ได้ร้างหรือห่างหายเท่าไหร่นัก มีหลายครั้งเลยแหละที่ถึงแม้จะคุยกันอยู่ในกลุ่มแชทแต่ก็ยังมีเรื่องที่คุยกันอยู่แค่สองคน..

     

     

    ยัง 2.45

     

     

    ฮยอกแจคลี่ยิ้มนิดๆเมื่อมีข้อความตอบกลับมา แต่พอจะพิมพ์ตอบกลับไป ข้อความที่เด้งมาอีกอันก็ทำให้ต้องกำโทรศัพท์แน่น

     

     

    แต่กูยังไม่อยากคุยกับมึง 2.46

     

     

    ฮยอกแจคว้าโทรศัพท์ลงกับหมอน ทั้งที่ในใจแทบจะพิมพ์ตอบกลับว่าไปตายที่ไหนก็ไป หรืออะไรก็ได้ที่มันรุนแรงพอจะให้มันรู้สึกดิ้นพล่านได้เหมือนเขาในตอนนี้

     

     

    “ทำไมเนี่ย ทำไมกูต้องมาสนใจมึง มึงคิดว่ามึงเป็นใครห๊ะ วิเศษมากใช่ไหม” ฮยอกแจบ่นอยู่คนเดียวก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกรอบ

     

     

    2.47  มึงไม่อยากคุยกับกูใช่ไหม ดี!!

     

    2.47 กูจะบ่นเรื่องเหี้ยๆในหัวกูออกไปให้หมดเลย

     

     2.47 แล้วมึงอย่าตอบกูนะ!!

     

     

    “ดี.. มึงเงียบให้ได้ตลอดแล้วกัน” ฮยอกแจพึมพำกับตัวเองหลังจากพิมพ์ข้อความส่งไปรัวๆแต่ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับ

     

     

    2.48 กูเบื่อออออออออออออออออ

     

     2.48 ทำไมชีวิตกูต้องมาเจออะไรแบบนี้วะ

     

    2.48 กูควรจะไปนอนตั้งแต่4ทุ่มละ

     

    2.48 นี่เป็นเหี้ยอะไรตีสองตีสามยังต้องมานั่งบ้าอยู่คนเดียว

     

    2.49 พรุ่งนี้ยังต้องไปเรียนแต่เช้าอีก

     

    2.49มึงว่ามันใช่เรื่องป่ะ

     

    2.49  นี่มันชีวิตกูนะกูจะคุยกับใครไปกับใครทำไมกูต้องมานั่งกังวลว่าใครจะคิดยังไง

     

    2.49 จะเป็นตายอะไรก็ช่างห่ามันสิ

     

    2.50 จริงไหม!

     

    2.50 แค่กูไปกับน้องเขาแปปเดียวเนี่ยมันจะอะไรนักหนา

     

     

    “ไอ้เชี่ย...นอกเรื่อง กูจะบ่นแบบนี้ที่ไหนล่ะ” ฮยอกแจบ่นกับตัวเองแต่พอเลขหนึ่งหายไปก็ทำให้ต้องหยุดมือเพื่อดูปฏิกิริยาต่ออีก ฮยอกแจเชิดปากขึ้นทั้งมันอ่านแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมตอบอะไรกลับมาอีก

     

     

    ที่มันจะเป็นจะตายต่อหน้ามึง ทั้งที่ก็แค่เห็นมึงไปกับคนอื่น 2.58

     

    ก็เพราะมันเห็นมึงเป็นคนสำคัญของมันไง  2.58

     

    เข้าใจยากตรงไหน 2.58

     

     

    ฮยอกแจเม้มปากเมื่อได้อ่านข้อความนั้น มือเลื่อนลงวางลงที่ตักก่อนจะส่งสติ๊กเกอร์นั่งกอดเข่ารอฟังต่อ

     

     

    แล้วถ้ามึงเก็บเอามาคิดมากจนนอนไม่หลับ  3.00

     

    บางทีไอ้เหี้ยนั่นมันอาจจะเป็นคนสำคัญของมึงเหมือนกันก็ได้นะ  3.00

     

     

    “ห๊ะ...” ฮยอกแจร้องออกมากระพริบตามองข้อความนั้น

     

     

    3.02 เข้าข้างตัวเองไปป่ะวะ

     

     

    ฮยอกแจตอบกลับไปก่อนจะคลี่ยิ้มเมื่อเห็นข้อความตอบกลับจากอีกฝ่ายที่ส่งมาเร็วเหมือนปกติ

     

     

    พูดตามเหตุและผล  3.02

     

    3.02 ยอมคุยกับกูแล้วหรือไง

     

    3.02 ไหนเมื่อกี้บอกไม่อยากคุย

     

    มึงง้อกูแล้วนิ 3.03

     

    3.03 ไม่ได้ง้อเหอะ ไหนๆหาประโยคที่กูง้อมึงมาโชว์ดิ๊

     

    เออๆๆๆๆ กูมโนไปเอง 3.03

     

    พอใจยัง 3.03

     

     

    ฮยอกแจนอนกลิ้งลงบนที่นอนอย่างสบายใจ รอยยิ้มกลับมาอีกครั้งทั้งที่มือยังพิมพ์ข้อความตอบโต้อีกฝ่ายไม่หยุด คุยเถียงกันเรื่องไร้สาระเหมือนกับก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดให้ขุ่นข้องหมองใจกันเลยแม้แต่นิด จากสิบนาที ล่วงเลยไปเป็นชั่วโมงๆโดยที่เอาแต่ไล่กันนอนสุดท้ายก็ก็ชวนกันเรื่องอื่นอีกรอบ

     

     

    ไปนอนไป เดี๋ยวพรุ่งนี้มานอนในห้องจะโดนอีป้าเคาะหัวอีก  4.24

     

    4.25 กูไม่เคยนอนหลับในห้องเรียนเหอะ

     

    เออๆๆๆๆ รู้แล้วไอ้คนดีสีสังคม 4.26

     

    ต้องให้กูกราบไหมมึงถึงจะไปนอน 4.26

     

    นี่จะตีห้าละไปนอนสิเว้ยยยยยยย กูง่วงเหมือนกันนะ 4.26

     

     

    ฮยอกแจแกล้งทำปากพึมพำล้อเลียนเจ้าของข้อความนั้นและกดฟังเสียงที่ถูกส่งมาห่างกันไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ

     

     

    “...ฝันดีล่ะ” 

     

     

    ฮยอกแจอมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงอวยพร กดปิดล็อคหน้าจอทั้งที่ไม่ได้ตอบกลับอะไรไปอีก วางโทรศัพท์ลงที่โต๊ะข้างเตียงเหมือนเดิม และก็เอานิ้วชี้และนิ้วโป้งเลื่อนมาที่มุมปากทั้งสองข้างแล้วดึงลงเพื่อลบรอยยิ้มในตอนนี้...พยายามข่มตาหลับลงทั้งที่ในหัวยังคงวนเวียนคิดถึงประโยคเดิม

     

     

    บางทีไอ้เหี้ยนั่นมันอาจจะเป็นคนสำคัญของมึงเหมือนกันก็ได้นะ

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    ฮยอกแจเดินเข้ามาในโรงเรียนทั้งที่ตายังลืมได้ไม่เต็มที่นัก ยกมือขึ้นยีตาก่อนจะอ้าปากหาวเป็นรอบที่สิบกว่าๆ มือที่ใช้ปิดปากหาวเมื่อครู่ยกเลยขึ้นไปเช็ดน้ำตาที่หางตาแต่ก็ต้องหยุดอยู่นิ่งก่อนจะเงยหน้ามองคนที่เดินมาขวางหน้าไว้

     

     

    “อ่า... หวัดดีตอนเช้า” ฮยอกแจเอ่ยทักและส่งยิ้มให้ก่อนจะอ้าปากหาวอีกรอบ คนตัวสูงกว่าก้มหน้ามามองตามก่อนจะค่อยๆขมวดคิ้วเมื่อเห็นเพียงร่องรอยของการอดนอนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น

     

    “โทษทีนะ แหะๆ คยูฮยอนมีไรป่ะ” ฮยอกแจก้าวถอยหลังไปก้าวนึงก่อนจะส่งยิ้มยามเช้าให้

     

    “ทีแรกผมเป็นห่วง”

     

    “ห่วงเหรอ?? เรื่องไรอ่ะ?”

     

    “ช่างเถอะ” คยูฮยอนพูดปัดบทสนทนานั้นก่อนจะสอดมือเข้ากระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปเอากระเป๋าถือของตัวเองที่ม้านั่งใกล้ๆ ฮยอกแจทำหน้ามุ่ยและเดินตามไป เฝ้าสังเกตสีหน้าเรียยบนิ่งนั้นก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อวานคยูฮยอนอยู่ในเหตุการณ์ที่เขาทะเลาะกับทงเฮ

     

     

    ไม่สิ... ต้องเรียกว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาสองคนทะเลาะกันเสียมากกว่า

     

    “ไม่ต้องคิดมากนะ” ฮยอกแจพูดพร้อมกับวางมือลงที่ไหล่ คยูฮยอนหยุดเดินและหันมองคนที่ส่งยิ้มไม่รู้เรื่องราวใดบนโลกมาให้

     

    “เราดีกันแล้ว” ฮยอกแจพูดด้วยรอยยิ้มขณะที่คยูฮยอนแค่นหัวเราะออกมาทันที

     

    “บอกผมทำไม?”

     

    “อ้าว... ก็คยูฮยอนคิดมากเรื่องที่พี่ทะเลาะกับทงเฮไม่ใช่เหรอ”

     

    “ผมคิดมากเรื่องที่ฮยอกแจแค่นั้น... ไม่เกี่ยวกับคนอื่น” คยูฮยอนพูดก่อนจะก้าวขึ้นบันได แต่ฮยอกแจกลับคว้าข้อมือนั้นไว้ก่อน

     

    “ยังไงอ่ะ” ใบหน้าใสซื่อที่กำลังมึนงงกับสิ่งที่ได้ยินทำให้คยูฮยอนรู้สึกหงุดหงิดได้มากกว่าเดิมเสียอีก

     

    “ผมสนใจแค่ฮยอกแจ แค่ความรู้สึกของฮยอกแจ”

     

    “.นะ...นั่นก็รู้แล้ว ไม่ต้องย้ำมากหรอกน่า” ฮยอกแจเสียงสั่นไปนิดนึงเพราะรู้สึกว่าคนตรงหน้าจะเริ่มจริงจังขึ้นมา คยูฮยอนถอนหายใจก่อนจะเป็นฝ่ายจับมือฮยอกแจและเดินลงมาจากบันไดที่ก้าวขึ้นไปแล้ว

     

    “ไปไหน...” ฮยอกแจร้องถามก่อนจะหันมองด้านหลัง เพราะเห็นนักเรียนส่วนใหญ่มองตามกันมาทั้งแถบ แต่ว่าเขาก็บังคับให้ตัวเองขัดขืนมือใหญ่ที่กุมมือเขาอยู่นี่ไม่ได้เหมือนกัน ฮยอกแจอมลมไว้จนแก้มป่องขณะที่ถูกรุ่นน้องคนนี้ลากให้เดินไปตามใจ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่หลังอาคาร.. ข้างๆห้องปกครอง -o-

     

    “มาตรงนี้ทำไมเนี่ย”

     

    “แล้วเห็นว่าที่นี่มีใครนอกจากเราไหมล่ะ” ฮยอกแจอ้าปากเหมือนจะเถียงแต่คยูฮยอนก็โยนกระเป๋าตัวเองไปบนพื้นหญ้าและทิ้งตัวลงนั่งตรงนั้น ฮยอกแจกระพริบตาถี่ก่อนจะค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ มันคงจะแปลกนะถ้าเขาจะยังยืนอยู่ตรงนั้นหรือเดินหนีไปทั้งที่ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย

     

     

    ดูท่าแล้วคยูฮยอนจะกำลังหงุดหงิด... แล้วถ้าฮยอกแจคิดไม่ผิดมันก็คงเกิดขึ้นเพราะตัวเขาเอง เขาก็เลยสรุปว่าอาการแบบนี้มันคงเป็นการดีกว่าที่จะนั่งอยู่ข้างๆคยูฮยอน

     

     

    “มันใช่ที่ผมอยากให้ฮยอกแจยิ้มได้...”

     

    “...อ่าฮะ”

     

    “แต่มันไม่ได้หมายความว่าผมจะอยากให้ฮยอกแจไปยิ้มให้คนอื่น” ฮยอกแจนิ่งไป ขณะที่คยูฮยอนค่อยๆหันมาหา

     

    “ผมชอบฮยอกแจ” ฮยอกแจสะดุ้งเมื่อสายตาคมหันมาจ้องมองพร้อมกับบอกความในใจ ตัวแข็งทื่อไม่รู้จะตอบอะไรทำได้เพียงแค่พยักหน้ารับก่อนจะรวบเข่าตัวเองมากอดไว้และกวาดสายตามองโดยรอบเพื่อหาทางออก

     

     

    บางทีตอนนี้ความคิดที่จะต้องนั่งอยู่ข้างๆอาจจะผิด...

     

     

    “อึดอัดเหรอ” คยูฮยอนถามและนั่นทำให้ฮยอกแจรีบส่ายหน้า

     

    “ไม่ๆ มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แค่ไม่รู้จะพูดอะไร” ฮยอกแจตอบไปแบบนั้นก่อนจะสูดลมหายใจเข้าออกให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เวลาผ่านไปโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรอีกนั่นทำให้ความง่วงเข้ากัดกินฮยอกแจอีกครั้ง คนตัวเล็กอ้าปากหาวก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างปิดปากตัวเองไว้อย่างลืมตัว ส่งยิ้มให้คยูฮยอนที่มองอยู่ก่อนจะเอามือมาเกาหัวแทน

     

    “ลองโดดโฮมรูมดูไหม” คาบโฮมรูมเป็นคาบแรกที่เข้าพบกับอาจารย์ที่ปรึกษาของห้องก่อนเริ่มเรียน ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าอาจารย์ไม่มามันก็จะเป็นช่วงเวลาเอาไว้สำหรับนั่งลอกการบ้านหรือเม้าส์กันก่อนเริ่มความจริงจังของชีวิต

     

    “ถ้าอยู่ที่นี่ไม่มีใครหาเจอหรอก” คยูฮยอนขยับนอนไปบนพื้นหญ้าเป็นตัวอย่าง และนั่นทำให้ฮยอกแจยิ้มออกมา ขยับหันเอากระเป๋ามาวางเป็นหมอนและนอนลงข้างๆคยูฮยอน

     

    “โดดบ่อยเหรอ” ฮยอกแจชวนคุยขณะจัดท่านอนตัวเอง

     

    “แล้วแต่อารมณ์”

     

    “แสดงว่ามาทุกวันชัวร์” คยูฮยอนไม่ได้ตอบ ฮยอกแจมองคนที่ใช้แขนตัวเองเป็นหมอนก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดปากหาวอีกรอบ

     

    “เมื่อคืนนอนดึกมากเลยเหรอ” ฮยอกแจสะดุ้งนิดๆเมื่อนิ้วเย็นๆลากไล้ผ่านแก้มไปที่หางตา ฮยอกแจค่อยๆลืมตามองก่อนจะส่งยิ้มให้เมื่อเห็นคยูฮยอนขยับหันหน้ามาหา

     

    “ก็.....”

     

    “ไม่ต้องพูดดีกว่า” คยูฮยอนพูดตัดบทและหลับตาลงในทันที ฮยอกแจเลิกคิ้วขึ้นงงๆและยื่นมือไปโบกผ่านหน้า

     

    “จะหลับจริงๆอ่ะ” ฮยอกแจถามแต่คยูฮยอนก็นอนนิ่งเหมือนกับหลับไปแล้วจริงๆ ฮยอกแจขมวดคิ้วก่อนจะเอามือไปโบกผ่านหน้าแรงๆ แต่เพราะกะระยะผิดไปนิดปลายนิ้วเขาก็เลยไปเฉียดโดนแก้มอีกฝ่ายซะ...

     

    “โทษที...” ฮยอกแจพูดก่อนจะฉีกยิ้มให้ทันทีที่คยูฮยอนลืมตาขึ้นมามอง

     

    “สรุปจะนอนจริงๆดิ” ฮยอกแจถามไปอีกรอบ แต่คยูฮยอนก็ยังไม่ตอบแต่ว่ามือใหญ่นั้นจะซ้อนทับลงบนมือที่วางอยู่บนพื้นหญ้า

     

    “ผมให้อยู่ด้วยแล้วก็ห้ามก่อกวนนะ” ฮยอกแจมองอีกฝ่ายที่หลับตาลงอีกครั้งทั้งที่ริมฝีปากกำลังอมยิ้มอย่างพอใจ ฮยอกแจส่ายหน้านิดๆก่อนจะขยับตัวให้นอนหันหน้าไปหาอีกฝ่าย มองมือที่จับกันอยู่ก่อนจะถอนหายใจยาวเพราะภาพพื้นหลังมันคือภาพใบหน้าของคนที่อยู่ในห้วงนิทรา

     

    “แล้วจะตื่นมาตอนไหนเนี่ย ตื่นเที่ยงฉันไม่ต้องโดดเรียนยาวเลยหรือไง” ฮยอกแจบ่นเบาๆขณะที่เห็นว่ารอยยิ้มของอีกฝ่ายชัดเจนขึ้นมาอีก

     

    “ยังไม่หลับนิ” ฮยอกแจพูดทักและนั่นทำให้มือที่จับกันไว้ถูกดึงเข้าไปหาจนแนบอยู่ที่หน้าอกอีกฝ่าย ฮยอกแจเม้มปากแน่นเพราะรับรู้ความรู้สึกของคนตรงหน้าได้จากก้อนเนื้อที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เพราะแบบนั้นก็เลยยิ่งไม่กล้าจะถอยหนีไปไหนอีก เฝ้ามองใบหน้าอีกคนก่อนจะจบลงด้วยรอยยิ้มและเปลือกตาที่หนักอึ้งก็ค่อยๆปิดลงตาม โดยมีจังหวะจากหัวใจของคนข้างๆเป็นดนตรีคอยกล่อม

     

     

    เพราะถึงมันจะไม่ได้เต้นเสียงดังขนาดที่ทำให้หูได้ยิน แต่มันก็แรงมากพอที่จะทำให้มือที่แนบอยู่ที่หน้าอกรู้สึกได้

     

     

    เวลาผ่านไปจนเสียงสัญญาณเข้าเรียนดังขึ้น คยูฮยอนลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเคยชินต่างจากอีกคนที่ดูเหมือนจะหลับลึกไม่ฟื้นขึ้นมาง่ายๆ แม้ว่าพระอาทิตย์เปลี่ยนทิศทางจนเงาของตึกทอดยาวห่างออกไป ฮยอกแจหน้ามุ่ยนิดๆเมื่อปุยเมฆเคลื่อนตัวออกทำให้แสงอาทิตย์สาดเข้าตา แต่ว่าก็ไม่ได้ทำให้เขาตื่นขึ้นมามีเพียงแค่ใบหน้านั้นซุกต่ำลงเพื่อหลบหนีแสงอาทิตย์เท่านั้น

     

    คยูฮยอนยิ้มออกมาเมื่อปุยเมฆก้อนใหม่ก็เข้ามาบดบังอาทิตย์ดวงโตเพื่อให้คนตัวเล็กได้นอนหลับพักผ่อนต่ออีกสักหน่อย หันไปมองท้องฟ้าก่อนมือใหญ่ที่เคยกุมมือเล็กค่อยๆปล่อยออก ขยับลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิ ดวงตาจ้องมองคนน่ารักในช่วงเวลานี้อย่างหลงใหลขณะที่เมื่อก้อนเมฆก้อนน้อยนั้นจะถูกลมพัดห่างออกไป เงาสีดำจากร่างสูงที่นั่งขวางอยู่ค่อยๆทอดยาวไปหา และดูเหมือนเงานั้นจะสามารถบดบังแสงอาทิตย์ที่รบกวนการนอนได้ดีเสียกว่าก้อนเมฆไหนๆ

     

    “...งื้อ” ฮยอกแจครางออกมาเมื่อมีมือปัดผ่านใบหน้า ถึงแม้จะเป็นจะเป็นการปัดปลายผมให้ออกห่างจากใบหน้าก็ตาม

     

    “.....” คยูฮยอนขยับไปเอากระเป๋าของตัวเองและหยิบเปากระดาษโน้ตที่ชอบใช้ออกมาเขียนยุกยิกอยู่พักใหญ่ เขียนใบแรกแล้วก็ขยำทิ้งเปลี่ยนใหม่จนพอใจ อมยิ้มอยู่คนเดียวก่อนจะบรรจงแปะลงบนแก้มนุ่ม มองคนที่ถูกตนแกล้งแล้วก็ได้แต่ขำอย่างอารมณ์ แต่ถึงจะมีเสียงหัวเราะที่อยู่ใกล้ขนาดนี้คนขี้เซานี่ก็ยังไม่ตื่นขึ้นมาเสียที

     

    คยูฮยอนขยับวางทุกอย่างลงข้างตัวและคลานเข้าไปหา ใช้มือยันตัวไว้ในระยะพอเหมาะถึงจะเป็นเหมือนการคร่อมอีกฝ่ายไปครึ่งตัวแล้วแต่ก็ค่อยๆก้มหน้าลงไปใกล้

     

    “ฮยอกแจครับ” คยูฮยอนกระซิบข้างหูแต่ฮยอกแจก็ยังนิ่งไม่รู้สึกตัว

     

    “ฟู่วววว” คยูฮยอนตัดสินใจเป่าลมเข้าไปในหัวเพื่อกลั่นแกล้งอีกฝ่ายอีกครั้ง ฮยอกแจย่นคิ้วและเบนหน้าหนีก่อนจะขยับตัวและค่อยๆลืมตาขึ้นมามอง

     

    “เฮ้ย!!” ฮยอกแจร้องลั่นเพราะระยะห่างของเขากับคยูฮยอน ใบหน้าที่แทบจะแนบสนิทนั่นทำให้ฮยอกแจรีบลุกขึ้นแต่ก็พาลให้คยูฮยอนต้องรีบลุกตามขึ้นมาด้วย มือเล็กช่วยคว้าจับให้คยูฮยอนที่เซไปด้านหลังกลับมานั่งได้

     

    “ฉัน..หลับไปนานเลยเหรอ” ฮยอกแจถามออกมาและกัดปากตัวเองนิดๆ พยายามตั้งสติเพื่อรับกับสถานการณ์ในตอนนี้

     

    “ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น” คยูฮยอนพูดขำๆก่อนจะชี้ไปที่ใบหน้าหวาน ฮยอกแจทำตาโตก่อนจะรีบเอามือตะปบข้างแก้มและดึงโน้ตนั่นออกมา

     

    “คราวที่แล้วแปะหน้าผาก คราวนี้แปะแก้ม คราวหน้าจะแปะตรงไหนเนี่ย” ฮยอกแจบ่นพึมพำ

     

    “ปากมั้ง” ฮยอกแจหรี่ตาลงและนั่นทำให้คยูฮยอนหัวเราะออกมา มือเอื้อมขึ้นไปหยิบเศษหญ้าที่ติดหัวออกให้ขณะที่ฮยอกแจยังคงก้มหน้าอ่าน...

     

     

    ลำดับที่เจ็ด – In My Mind

     

     

    “คือ?” ฮยอกแจถามด้วยความสงสัยขณะที่คยูฮยอนเอาแต่ยิ้มและลุกขึ้น

     

    “ฮยอกแจไง” ฮยอกแจกระพริบตาถี่งงๆกับคำตอบ

     

    “วันนี้ผมนอนหลับสบายมากเลย ฮยอกแจล่ะ”

     

    “ก็...อืม” ฮยอกแจยังคงตอบอย่างมึนงง

     

    “ไปเรียนได้แล้วครับ” คยูฮยอนยื่นมือมาหา ก่อนจะฉุดให้อีกคนลุกขึ้นมายืนข้างกัน รอยยิ้มที่ได้รับทำให้ฮยอกแจได้แต่ก้มหน้าหลบสายตา เม้มปากแน่นเมื่อรับรู้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจตัวเองก่อนจะค่อยๆก้าวขาออกไปเมื่ออีกฝ่ายดึงรั้งให้เดินตาม

     

     

     *****************************

     



    อย่าว่าฮยอกแจหลายใจนะ.... เพราะเรารู้ว่าพวกเธอก็เลือกไม่ได้หรอก

    #ตอนนี้สั้นไปนิด

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×