คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : Seventh In My Mind
Seventh
In My Mind
ฮยอกแจนอนก่ายหน้าผากอยู่ในห้อง พยายามข่มตานอนมาเกือบๆชั่วโมงแต่ความรู้สึกข้างในนี่มันก็ไม่สามารถทำให้หลับตาได้สนิทเลยจริงๆ
“เฮ้อ” ฮยอกแจถอนหายใจและหันมองโทรศัพท์หน้าจอดำมืด เอื้อมมือไปกดดูเวลาและก้มหน้าซุกลงกับหมอนอย่างรวดเร็ว
“แม่งเอ้ย!!” ฮยอกแจดิ้นพล่านอยู่บนเตียงก่อนลุกขึ้นมานั่งและคว้าโทรศัพท์มากดเข้าแอพริเคชั่นแชทกลุ่มเพื่อนที่เพิ่งคุยกันจบไปไม่นาน เรื่องที่คุยกันก็เรื่องทั่วไปแต่สุดท้ายก็มาจบที่การแซวเขานิดๆหน่อยๆเพราะว่ามีหมาตัวนึงในกลุ่มดันเห็นชอตเราสองสามคนที่หน้าโรงเรียนพอดี ฮยอกแจกัดปากตัวเองไว้เพราะดูจากตัวเลขคนเข้ามาอ่านนั่นก็เดาได้แล้วว่าทงเฮมันก็คงอ่านแล้ว
แต่มันไม่ได้ตอบอะไรเลย สติ๊กเกอร์สักอันก็ไม่มีทั้งที่เขาก็เมนชั่นหามันตรงๆเลยด้วยซ้ำ
2.45 มึงนอนยัง
ฮยอกแจตัดสินใจทักไปในแชทส่วนตัวที่ไม่ได้ร้างหรือห่างหายเท่าไหร่นัก มีหลายครั้งเลยแหละที่ถึงแม้จะคุยกันอยู่ในกลุ่มแชทแต่ก็ยังมีเรื่องที่คุยกันอยู่แค่สองคน..
ยัง 2.45
ฮยอกแจคลี่ยิ้มนิดๆเมื่อมีข้อความตอบกลับมา แต่พอจะพิมพ์ตอบกลับไป ข้อความที่เด้งมาอีกอันก็ทำให้ต้องกำโทรศัพท์แน่น
แต่กูยังไม่อยากคุยกับมึง 2.46
ฮยอกแจคว้าโทรศัพท์ลงกับหมอน ทั้งที่ในใจแทบจะพิมพ์ตอบกลับว่าไปตายที่ไหนก็ไป หรืออะไรก็ได้ที่มันรุนแรงพอจะให้มันรู้สึกดิ้นพล่านได้เหมือนเขาในตอนนี้
“ทำไมเนี่ย ทำไมกูต้องมาสนใจมึง มึงคิดว่ามึงเป็นใครห๊ะ วิเศษมากใช่ไหม” ฮยอกแจบ่นอยู่คนเดียวก่อนจะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาอีกรอบ
2.47 มึงไม่อยากคุยกับกูใช่ไหม ดี!!
2.47 กูจะบ่นเรื่องเหี้ยๆในหัวกูออกไปให้หมดเลย
2.47 แล้วมึงอย่าตอบกูนะ!!
“ดี.. มึงเงียบให้ได้ตลอดแล้วกัน” ฮยอกแจพึมพำกับตัวเองหลังจากพิมพ์ข้อความส่งไปรัวๆแต่ก็ยังไม่มีปฏิกิริยาอะไรตอบกลับ
2.48 กูเบื่อออออออออออออออออ
2.48 ทำไมชีวิตกูต้องมาเจออะไรแบบนี้วะ
2.48 กูควรจะไปนอนตั้งแต่4ทุ่มละ
2.48 นี่เป็นเหี้ยอะไรตีสองตีสามยังต้องมานั่งบ้าอยู่คนเดียว
2.49 พรุ่งนี้ยังต้องไปเรียนแต่เช้าอีก
2.49 ‘มึงว่ามันใช่เรื่องป่ะ’
2.49 นี่มันชีวิตกูนะกูจะคุยกับใครไปกับใครทำไมกูต้องมานั่งกังวลว่าใครจะคิดยังไง
2.49 จะเป็นตายอะไรก็ช่างห่ามันสิ
2.50 จริงไหม!
2.50 แค่กูไปกับน้องเขาแปปเดียวเนี่ยมันจะอะไรนักหนา
“ไอ้เชี่ย...นอกเรื่อง กูจะบ่นแบบนี้ที่ไหนล่ะ” ฮยอกแจบ่นกับตัวเองแต่พอเลขหนึ่งหายไปก็ทำให้ต้องหยุดมือเพื่อดูปฏิกิริยาต่ออีก ฮยอกแจเชิดปากขึ้นทั้งมันอ่านแล้วแต่ก็ยังไม่ยอมตอบอะไรกลับมาอีก
ที่มันจะเป็นจะตายต่อหน้ามึง ทั้งที่ก็แค่เห็นมึงไปกับคนอื่น 2.58
ก็เพราะมันเห็นมึงเป็นคนสำคัญของมันไง 2.58
เข้าใจยากตรงไหน 2.58
ฮยอกแจเม้มปากเมื่อได้อ่านข้อความนั้น มือเลื่อนลงวางลงที่ตักก่อนจะส่งสติ๊กเกอร์นั่งกอดเข่ารอฟังต่อ
แล้วถ้ามึงเก็บเอามาคิดมากจนนอนไม่หลับ 3.00
บางทีไอ้เหี้ยนั่นมันอาจจะเป็นคนสำคัญของมึงเหมือนกันก็ได้นะ 3.00
“ห๊ะ...” ฮยอกแจร้องออกมากระพริบตามองข้อความนั้น
3.02 เข้าข้างตัวเองไปป่ะวะ
ฮยอกแจตอบกลับไปก่อนจะคลี่ยิ้มเมื่อเห็นข้อความตอบกลับจากอีกฝ่ายที่ส่งมาเร็วเหมือนปกติ
พูดตามเหตุและผล 3.02
3.02 ยอมคุยกับกูแล้วหรือไง
3.02 ไหนเมื่อกี้บอกไม่อยากคุย
มึงง้อกูแล้วนิ 3.03
3.03 ไม่ได้ง้อเหอะ ไหนๆหาประโยคที่กูง้อมึงมาโชว์ดิ๊
เออๆๆๆๆ กูมโนไปเอง 3.03
พอใจยัง 3.03
ฮยอกแจนอนกลิ้งลงบนที่นอนอย่างสบายใจ รอยยิ้มกลับมาอีกครั้งทั้งที่มือยังพิมพ์ข้อความตอบโต้อีกฝ่ายไม่หยุด คุยเถียงกันเรื่องไร้สาระเหมือนกับก่อนหน้านี้ไม่ได้เกิดให้ขุ่นข้องหมองใจกันเลยแม้แต่นิด จากสิบนาที ล่วงเลยไปเป็นชั่วโมงๆโดยที่เอาแต่ไล่กันนอนสุดท้ายก็ก็ชวนกันเรื่องอื่นอีกรอบ
ไปนอนไป เดี๋ยวพรุ่งนี้มานอนในห้องจะโดนอีป้าเคาะหัวอีก 4.24
4.25 กูไม่เคยนอนหลับในห้องเรียนเหอะ
เออๆๆๆๆ รู้แล้วไอ้คนดีสีสังคม 4.26
ต้องให้กูกราบไหมมึงถึงจะไปนอน 4.26
นี่จะตีห้าละไปนอนสิเว้ยยยยยยย กูง่วงเหมือนกันนะ 4.26
ฮยอกแจแกล้งทำปากพึมพำล้อเลียนเจ้าของข้อความนั้นและกดฟังเสียงที่ถูกส่งมาห่างกันไม่ถึงหนึ่งนาทีด้วยซ้ำ
“...ฝันดีล่ะ”
ฮยอกแจอมยิ้มเมื่อได้ยินเสียงอวยพร กดปิดล็อคหน้าจอทั้งที่ไม่ได้ตอบกลับอะไรไปอีก วางโทรศัพท์ลงที่โต๊ะข้างเตียงเหมือนเดิม และก็เอานิ้วชี้และนิ้วโป้งเลื่อนมาที่มุมปากทั้งสองข้างแล้วดึงลงเพื่อลบรอยยิ้มในตอนนี้...พยายามข่มตาหลับลงทั้งที่ในหัวยังคงวนเวียนคิดถึงประโยคเดิม
‘บางทีไอ้เหี้ยนั่นมันอาจจะเป็นคนสำคัญของมึงเหมือนกันก็ได้นะ’
ฮยอกแจเดินเข้ามาในโรงเรียนทั้งที่ตายังลืมได้ไม่เต็มที่นัก ยกมือขึ้นยีตาก่อนจะอ้าปากหาวเป็นรอบที่สิบกว่าๆ มือที่ใช้ปิดปากหาวเมื่อครู่ยกเลยขึ้นไปเช็ดน้ำตาที่หางตาแต่ก็ต้องหยุดอยู่นิ่งก่อนจะเงยหน้ามองคนที่เดินมาขวางหน้าไว้
“อ่า... หวัดดีตอนเช้า” ฮยอกแจเอ่ยทักและส่งยิ้มให้ก่อนจะอ้าปากหาวอีกรอบ คนตัวสูงกว่าก้มหน้ามามองตามก่อนจะค่อยๆขมวดคิ้วเมื่อเห็นเพียงร่องรอยของการอดนอนเพียงอย่างเดียวเท่านั้น
“โทษทีนะ แหะๆ คยูฮยอนมีไรป่ะ” ฮยอกแจก้าวถอยหลังไปก้าวนึงก่อนจะส่งยิ้มยามเช้าให้
“ทีแรกผมเป็นห่วง”
“ห่วงเหรอ?? เรื่องไรอ่ะ?”
“ช่างเถอะ” คยูฮยอนพูดปัดบทสนทนานั้นก่อนจะสอดมือเข้ากระเป๋ากางเกงแล้วเดินไปเอากระเป๋าถือของตัวเองที่ม้านั่งใกล้ๆ ฮยอกแจทำหน้ามุ่ยและเดินตามไป เฝ้าสังเกตสีหน้าเรียยบนิ่งนั้นก่อนจะนึกขึ้นมาได้ว่าเมื่อวานคยูฮยอนอยู่ในเหตุการณ์ที่เขาทะเลาะกับทงเฮ
ไม่สิ... ต้องเรียกว่าเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้เขาสองคนทะเลาะกันเสียมากกว่า
“ไม่ต้องคิดมากนะ” ฮยอกแจพูดพร้อมกับวางมือลงที่ไหล่ คยูฮยอนหยุดเดินและหันมองคนที่ส่งยิ้มไม่รู้เรื่องราวใดบนโลกมาให้
“เราดีกันแล้ว” ฮยอกแจพูดด้วยรอยยิ้มขณะที่คยูฮยอนแค่นหัวเราะออกมาทันที
“บอกผมทำไม?”
“อ้าว... ก็คยูฮยอนคิดมากเรื่องที่พี่ทะเลาะกับทงเฮไม่ใช่เหรอ”
“ผมคิดมากเรื่องที่ฮยอกแจแค่นั้น... ไม่เกี่ยวกับคนอื่น” คยูฮยอนพูดก่อนจะก้าวขึ้นบันได แต่ฮยอกแจกลับคว้าข้อมือนั้นไว้ก่อน
“ยังไงอ่ะ” ใบหน้าใสซื่อที่กำลังมึนงงกับสิ่งที่ได้ยินทำให้คยูฮยอนรู้สึกหงุดหงิดได้มากกว่าเดิมเสียอีก
“ผมสนใจแค่ฮยอกแจ แค่ความรู้สึกของฮยอกแจ”
“.นะ...นั่นก็รู้แล้ว ไม่ต้องย้ำมากหรอกน่า” ฮยอกแจเสียงสั่นไปนิดนึงเพราะรู้สึกว่าคนตรงหน้าจะเริ่มจริงจังขึ้นมา คยูฮยอนถอนหายใจก่อนจะเป็นฝ่ายจับมือฮยอกแจและเดินลงมาจากบันไดที่ก้าวขึ้นไปแล้ว
“ไปไหน...” ฮยอกแจร้องถามก่อนจะหันมองด้านหลัง เพราะเห็นนักเรียนส่วนใหญ่มองตามกันมาทั้งแถบ แต่ว่าเขาก็บังคับให้ตัวเองขัดขืนมือใหญ่ที่กุมมือเขาอยู่นี่ไม่ได้เหมือนกัน ฮยอกแจอมลมไว้จนแก้มป่องขณะที่ถูกรุ่นน้องคนนี้ลากให้เดินไปตามใจ จนกระทั่งมาหยุดอยู่ที่หลังอาคาร.. ข้างๆห้องปกครอง -o-
“มาตรงนี้ทำไมเนี่ย”
“แล้วเห็นว่าที่นี่มีใครนอกจากเราไหมล่ะ” ฮยอกแจอ้าปากเหมือนจะเถียงแต่คยูฮยอนก็โยนกระเป๋าตัวเองไปบนพื้นหญ้าและทิ้งตัวลงนั่งตรงนั้น ฮยอกแจกระพริบตาถี่ก่อนจะค่อยๆหย่อนตัวลงนั่งข้างๆ มันคงจะแปลกนะถ้าเขาจะยังยืนอยู่ตรงนั้นหรือเดินหนีไปทั้งที่ยังไม่ได้คุยอะไรกันเลย
ดูท่าแล้วคยูฮยอนจะกำลังหงุดหงิด... แล้วถ้าฮยอกแจคิดไม่ผิดมันก็คงเกิดขึ้นเพราะตัวเขาเอง เขาก็เลยสรุปว่าอาการแบบนี้มันคงเป็นการดีกว่าที่จะนั่งอยู่ข้างๆคยูฮยอน
“มันใช่ที่ผมอยากให้ฮยอกแจยิ้มได้...”
“...อ่าฮะ”
“แต่มันไม่ได้หมายความว่าผมจะอยากให้ฮยอกแจไปยิ้มให้คนอื่น” ฮยอกแจนิ่งไป ขณะที่คยูฮยอนค่อยๆหันมาหา
“ผมชอบฮยอกแจ” ฮยอกแจสะดุ้งเมื่อสายตาคมหันมาจ้องมองพร้อมกับบอกความในใจ ตัวแข็งทื่อไม่รู้จะตอบอะไรทำได้เพียงแค่พยักหน้ารับก่อนจะรวบเข่าตัวเองมากอดไว้และกวาดสายตามองโดยรอบเพื่อหาทางออก
บางทีตอนนี้ความคิดที่จะต้องนั่งอยู่ข้างๆอาจจะผิด...
“อึดอัดเหรอ” คยูฮยอนถามและนั่นทำให้ฮยอกแจรีบส่ายหน้า
“ไม่ๆ มันไม่ถึงขนาดนั้นหรอก แค่ไม่รู้จะพูดอะไร” ฮยอกแจตอบไปแบบนั้นก่อนจะสูดลมหายใจเข้าออกให้ตัวเองรู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น เวลาผ่านไปโดยที่ไม่มีใครพูดอะไรอีกนั่นทำให้ความง่วงเข้ากัดกินฮยอกแจอีกครั้ง คนตัวเล็กอ้าปากหาวก่อนจะใช้มือทั้งสองข้างปิดปากตัวเองไว้อย่างลืมตัว ส่งยิ้มให้คยูฮยอนที่มองอยู่ก่อนจะเอามือมาเกาหัวแทน
“ลองโดดโฮมรูมดูไหม” คาบโฮมรูมเป็นคาบแรกที่เข้าพบกับอาจารย์ที่ปรึกษาของห้องก่อนเริ่มเรียน ซึ่งส่วนใหญ่ถ้าอาจารย์ไม่มามันก็จะเป็นช่วงเวลาเอาไว้สำหรับนั่งลอกการบ้านหรือเม้าส์กันก่อนเริ่มความจริงจังของชีวิต
“ถ้าอยู่ที่นี่ไม่มีใครหาเจอหรอก” คยูฮยอนขยับนอนไปบนพื้นหญ้าเป็นตัวอย่าง และนั่นทำให้ฮยอกแจยิ้มออกมา ขยับหันเอากระเป๋ามาวางเป็นหมอนและนอนลงข้างๆคยูฮยอน
“โดดบ่อยเหรอ” ฮยอกแจชวนคุยขณะจัดท่านอนตัวเอง
“แล้วแต่อารมณ์”
“แสดงว่ามาทุกวันชัวร์” คยูฮยอนไม่ได้ตอบ ฮยอกแจมองคนที่ใช้แขนตัวเองเป็นหมอนก่อนจะยกมือขึ้นมาปิดปากหาวอีกรอบ
“เมื่อคืนนอนดึกมากเลยเหรอ” ฮยอกแจสะดุ้งนิดๆเมื่อนิ้วเย็นๆลากไล้ผ่านแก้มไปที่หางตา ฮยอกแจค่อยๆลืมตามองก่อนจะส่งยิ้มให้เมื่อเห็นคยูฮยอนขยับหันหน้ามาหา
“ก็.....”
“ไม่ต้องพูดดีกว่า” คยูฮยอนพูดตัดบทและหลับตาลงในทันที ฮยอกแจเลิกคิ้วขึ้นงงๆและยื่นมือไปโบกผ่านหน้า
“จะหลับจริงๆอ่ะ” ฮยอกแจถามแต่คยูฮยอนก็นอนนิ่งเหมือนกับหลับไปแล้วจริงๆ ฮยอกแจขมวดคิ้วก่อนจะเอามือไปโบกผ่านหน้าแรงๆ แต่เพราะกะระยะผิดไปนิดปลายนิ้วเขาก็เลยไปเฉียดโดนแก้มอีกฝ่ายซะ...
“โทษที...” ฮยอกแจพูดก่อนจะฉีกยิ้มให้ทันทีที่คยูฮยอนลืมตาขึ้นมามอง
“สรุปจะนอนจริงๆดิ” ฮยอกแจถามไปอีกรอบ แต่คยูฮยอนก็ยังไม่ตอบแต่ว่ามือใหญ่นั้นจะซ้อนทับลงบนมือที่วางอยู่บนพื้นหญ้า
“ผมให้อยู่ด้วยแล้วก็ห้ามก่อกวนนะ” ฮยอกแจมองอีกฝ่ายที่หลับตาลงอีกครั้งทั้งที่ริมฝีปากกำลังอมยิ้มอย่างพอใจ ฮยอกแจส่ายหน้านิดๆก่อนจะขยับตัวให้นอนหันหน้าไปหาอีกฝ่าย มองมือที่จับกันอยู่ก่อนจะถอนหายใจยาวเพราะภาพพื้นหลังมันคือภาพใบหน้าของคนที่อยู่ในห้วงนิทรา
“แล้วจะตื่นมาตอนไหนเนี่ย ตื่นเที่ยงฉันไม่ต้องโดดเรียนยาวเลยหรือไง” ฮยอกแจบ่นเบาๆขณะที่เห็นว่ารอยยิ้มของอีกฝ่ายชัดเจนขึ้นมาอีก
“ยังไม่หลับนิ” ฮยอกแจพูดทักและนั่นทำให้มือที่จับกันไว้ถูกดึงเข้าไปหาจนแนบอยู่ที่หน้าอกอีกฝ่าย ฮยอกแจเม้มปากแน่นเพราะรับรู้ความรู้สึกของคนตรงหน้าได้จากก้อนเนื้อที่เต้นเป็นจังหวะสม่ำเสมอ เพราะแบบนั้นก็เลยยิ่งไม่กล้าจะถอยหนีไปไหนอีก เฝ้ามองใบหน้าอีกคนก่อนจะจบลงด้วยรอยยิ้มและเปลือกตาที่หนักอึ้งก็ค่อยๆปิดลงตาม โดยมีจังหวะจากหัวใจของคนข้างๆเป็นดนตรีคอยกล่อม
เพราะถึงมันจะไม่ได้เต้นเสียงดังขนาดที่ทำให้หูได้ยิน แต่มันก็แรงมากพอที่จะทำให้มือที่แนบอยู่ที่หน้าอกรู้สึกได้
เวลาผ่านไปจนเสียงสัญญาณเข้าเรียนดังขึ้น คยูฮยอนลืมตาตื่นขึ้นมาอย่างเคยชินต่างจากอีกคนที่ดูเหมือนจะหลับลึกไม่ฟื้นขึ้นมาง่ายๆ แม้ว่าพระอาทิตย์เปลี่ยนทิศทางจนเงาของตึกทอดยาวห่างออกไป ฮยอกแจหน้ามุ่ยนิดๆเมื่อปุยเมฆเคลื่อนตัวออกทำให้แสงอาทิตย์สาดเข้าตา แต่ว่าก็ไม่ได้ทำให้เขาตื่นขึ้นมามีเพียงแค่ใบหน้านั้นซุกต่ำลงเพื่อหลบหนีแสงอาทิตย์เท่านั้น
คยูฮยอนยิ้มออกมาเมื่อปุยเมฆก้อนใหม่ก็เข้ามาบดบังอาทิตย์ดวงโตเพื่อให้คนตัวเล็กได้นอนหลับพักผ่อนต่ออีกสักหน่อย หันไปมองท้องฟ้าก่อนมือใหญ่ที่เคยกุมมือเล็กค่อยๆปล่อยออก ขยับลุกขึ้นมานั่งขัดสมาธิ ดวงตาจ้องมองคนน่ารักในช่วงเวลานี้อย่างหลงใหลขณะที่เมื่อก้อนเมฆก้อนน้อยนั้นจะถูกลมพัดห่างออกไป เงาสีดำจากร่างสูงที่นั่งขวางอยู่ค่อยๆทอดยาวไปหา และดูเหมือนเงานั้นจะสามารถบดบังแสงอาทิตย์ที่รบกวนการนอนได้ดีเสียกว่าก้อนเมฆไหนๆ
“...งื้อ” ฮยอกแจครางออกมาเมื่อมีมือปัดผ่านใบหน้า ถึงแม้จะเป็นจะเป็นการปัดปลายผมให้ออกห่างจากใบหน้าก็ตาม
“.....” คยูฮยอนขยับไปเอากระเป๋าของตัวเองและหยิบเปากระดาษโน้ตที่ชอบใช้ออกมาเขียนยุกยิกอยู่พักใหญ่ เขียนใบแรกแล้วก็ขยำทิ้งเปลี่ยนใหม่จนพอใจ อมยิ้มอยู่คนเดียวก่อนจะบรรจงแปะลงบนแก้มนุ่ม มองคนที่ถูกตนแกล้งแล้วก็ได้แต่ขำอย่างอารมณ์ แต่ถึงจะมีเสียงหัวเราะที่อยู่ใกล้ขนาดนี้คนขี้เซานี่ก็ยังไม่ตื่นขึ้นมาเสียที
คยูฮยอนขยับวางทุกอย่างลงข้างตัวและคลานเข้าไปหา ใช้มือยันตัวไว้ในระยะพอเหมาะถึงจะเป็นเหมือนการคร่อมอีกฝ่ายไปครึ่งตัวแล้วแต่ก็ค่อยๆก้มหน้าลงไปใกล้
“ฮยอกแจครับ” คยูฮยอนกระซิบข้างหูแต่ฮยอกแจก็ยังนิ่งไม่รู้สึกตัว
“ฟู่วววว” คยูฮยอนตัดสินใจเป่าลมเข้าไปในหัวเพื่อกลั่นแกล้งอีกฝ่ายอีกครั้ง ฮยอกแจย่นคิ้วและเบนหน้าหนีก่อนจะขยับตัวและค่อยๆลืมตาขึ้นมามอง
“เฮ้ย!!” ฮยอกแจร้องลั่นเพราะระยะห่างของเขากับคยูฮยอน ใบหน้าที่แทบจะแนบสนิทนั่นทำให้ฮยอกแจรีบลุกขึ้นแต่ก็พาลให้คยูฮยอนต้องรีบลุกตามขึ้นมาด้วย มือเล็กช่วยคว้าจับให้คยูฮยอนที่เซไปด้านหลังกลับมานั่งได้
“ฉัน..หลับไปนานเลยเหรอ” ฮยอกแจถามออกมาและกัดปากตัวเองนิดๆ พยายามตั้งสติเพื่อรับกับสถานการณ์ในตอนนี้
“ปลุกเท่าไหร่ก็ไม่ตื่น” คยูฮยอนพูดขำๆก่อนจะชี้ไปที่ใบหน้าหวาน ฮยอกแจทำตาโตก่อนจะรีบเอามือตะปบข้างแก้มและดึงโน้ตนั่นออกมา
“คราวที่แล้วแปะหน้าผาก คราวนี้แปะแก้ม คราวหน้าจะแปะตรงไหนเนี่ย” ฮยอกแจบ่นพึมพำ
“ปากมั้ง” ฮยอกแจหรี่ตาลงและนั่นทำให้คยูฮยอนหัวเราะออกมา มือเอื้อมขึ้นไปหยิบเศษหญ้าที่ติดหัวออกให้ขณะที่ฮยอกแจยังคงก้มหน้าอ่าน...
ลำดับที่เจ็ด – In My Mind
“คือ?” ฮยอกแจถามด้วยความสงสัยขณะที่คยูฮยอนเอาแต่ยิ้มและลุกขึ้น
“ฮยอกแจไง” ฮยอกแจกระพริบตาถี่งงๆกับคำตอบ
“วันนี้ผมนอนหลับสบายมากเลย ฮยอกแจล่ะ”
“ก็...อืม” ฮยอกแจยังคงตอบอย่างมึนงง
“ไปเรียนได้แล้วครับ” คยูฮยอนยื่นมือมาหา ก่อนจะฉุดให้อีกคนลุกขึ้นมายืนข้างกัน รอยยิ้มที่ได้รับทำให้ฮยอกแจได้แต่ก้มหน้าหลบสายตา เม้มปากแน่นเมื่อรับรู้ถึงจังหวะการเต้นของหัวใจตัวเองก่อนจะค่อยๆก้าวขาออกไปเมื่ออีกฝ่ายดึงรั้งให้เดินตาม
*****************************
อย่าว่าฮยอกแจหลายใจนะ.... เพราะเรารู้ว่าพวกเธอก็เลือกไม่ได้หรอก
#ตอนนี้สั้นไปนิด
ความคิดเห็น