ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    At Gwanghwamun [ KyuHyuk ]

    ลำดับตอนที่ #5 : Fifth - ผมปล่อยคุณไม่ได้

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 57


     

     

     

    Fifth

     

    ผมปล่อยคุณไม่ได้

     

     

     

     

     

     

     

    ใครจะว่าอีทงเฮเป็นคนเห็นแก่ตัวยังไงก็ช่าง... เพราะถ้าแลกกับที่จะมีรอยยิ้มประดับอยู่บนใบหน้าของเขาแบบนี้เขาก็ยอมแลกกับทุกสิ่ง ขอเพียงแค่มีคนๆนี้อยู่กับเขา

     

     

    ขอแค่ยังมีอีฮยอกแจอยู่ตรงนี้

     

     

    “มองหน้ากูทำไมนักเนี่ย” ทงเฮอมยิ้มอยู่คนเดียวก่อนจะส่ายหน้าและก้มลงกินข้าวในจานตัวเองไป ฮยอกแจทำปากยู่ใส่ก่อนจะหันไปคุยกับเพื่อนคนในกลุ่มที่นั่งอยู่ในโต๊ะเดียวกัน มือเล็กเอื้อมหยิบน้ำของเพื่อนมากินหน้าตาเฉยก่อนจะรีบวางคืนทันทีที่เจ้าของตัวจริงโวยวายออกมา

     

    “อะไรอ่ะ กูกินนิดเดียวเองนะ” ฮยอกแจพึมพำก่อนจะร้องออกมาลั่นโรงอาหารเมื่อโดนตบหัวเสียเต็มแรง

     

    “ไอ้เชี่ยทึก กูเจ็บนะ!!

     

    “เทียบกับสิ่งที่มึงทำไปมันน้อยไปด้วยซ้ำ”

     

    “กูกินไปนิดเดียวเองเหอะ!!

     

    “นิดบ้านพ่อมึงสิเหลือแต่น้ำแข็งเลยเนี่ย”

     

    “บ่นเชี่ยไรนักแค่น้ำแก้วเดียวเนี่ย” ทงเฮพูดขัดสงครามและเลื่อนแก้วน้ำตัวเองไปให้อีเพื่อนทึกที่แสนจะหวงแหนของกินทุกสิ่งของตัวเอง

     

    “มึงทำหน้าที่สามีที่ดีแล้ว ทำต่อไปนะทงเฮนะ” ทงเฮหลุดขำกับคำพูดของเพื่อนแต่ว่าพอมองฮยอกแจที่ทำหน้าไม่พอใจก็ต้องก้มหน้าลงแทน เพื่อนคนอื่นๆไม่ได้สังเกตอะไรก็ยังมีแซวต่อจากจองซูเพื่อนผู้นำการสนับสนุนสามีภรรยาของกลุ่ม แต่พอฮยอกแจหรือทงเฮไม่เล่นด้วยก็กลายเป็นว่าทุกคนต้องหันมามองหน้ากันเอง ทงเฮเท้าคางอย่างเบื่อหน่ายไม่ตอบคำถามจากสายตาของเพื่อนคนไหนทั้งนั้น แต่ว่าพอเท้าคางเบี่ยงห่างจากฮยอกแจไปด้านข้างอีกหน่อยก็ทำให้เห็นคนด้านหลังของฮยอกแจเอง ร่างสูงโปร่งที่มักจะมีหูฟังสีแดงเสียบคาหูอยู่ตลอดเวลา เขานั่งกินข้าวอยู่คนเดียวห่างออกไปอีกสองโต๊ะ และสายตานั่นก็กำลังจ้องมองเพื่อนของเขาไม่วางตา ทงเฮหรี่ตาลงก่อนจะเอื้อมมือไปวางบนหัวของฮยอกแจก่อนจะแกล้งโยกไปมาเพื่อพิสูจน์ และแน่นอนว่าสายตานั้นมองตามทุกครั้ง

     

    “ไอ้ทงเฮ มึงอยากให้กูอ้วกใส่หน้ามึงใช่ไหมเนี่ย!!” ฮยอกแจที่โดนโยกหัวไปมาโวยและปัดมือของทงเฮออก แถมด้วยการผลักหัวเขาอย่างแรง

     

    “แกล้งแค่นี้ไม่ได้ไง” ทงเฮพยายามหาประโยคที่มันดูดีกว่านี้แต่มันก็ไม่ได้ส่งผลอะไร ฮยอกแจยังคงบ่นอะไรอีกยาวเหยียดแต่ทงเฮก็ไม่ได้สนใจจะฟัง

     

    “โรคจิตเอ้ย” ทงเฮบ่นกับตัวเองเพราะเห็นว่าไอ้มนุษย์หน้านิ่งนั่นยิ้มออกมา

     

    “ด่ากูเหรอ -_-!” ฮยอกแจเท้าเอวหาเรื่องและนั่นทำให้ทงเฮถอนหายใจยาว

     

    “กูด่ามึงที่ไหน เสือกยื่นหน้ามารับทำไมล่ะ”

     

    “อ้าวไอ้นี่!!” บรรยากาศของสงครามครอบครัวที่เพื่อนๆในกลุ่มเรียกกันค่อยๆเบาบางลงก่อนทุกคนจะแยกย้ายกันไปเพราะข้าวในจานอันตรธานหายไปหมดแล้ว ทงเฮเดินตามฮยอกแจไปก่อนจะรีบเอามือขึ้นโอบไหล่ให้อีกฝ่ายเข้ามาในอ้อมแขน ฮยอกแจหันมามองก่อนจะศอกใส่แต่ทงเฮก็ยังไม่ยอมปล่อยมือออก

     

    “อะไรของมึงอีกเนี่ย” ฮยอกแจพยายามจะเอามือที่ติดเหนียวแน่นนี่ออกแต่ก็ไร้ผล ยอมเดินตามไปก่อนจะหยุดชะงักเมื่ออยู่ๆทงเฮก็หยุดเดินเสียเอง ขยับเท้าซ้ายขวาซะเหมือนกำลังเล่นหยอกกับสาวอินเดีย ฮยอกแจจิ๊ปากให้กับอาการประหลาดๆของเพื่อนและตีไปที่แขนนั้น เมื่อทงเฮเบี่ยงตัวมาหาเพราะการเจ็บตัวนั้นก็ทำให้ฮยอกแจมองเห็นว่ามีคนยืนขวางทางพวกเขาอยู่

     

    “อ้าว” ฮยอกแจร้องออกมาเมื่อเห็นเสี้ยวนึงของใบหน้าของคนที่เคยยืนอยู่ตรงหน้าเขาและทงเฮก่อนจะรีบหันมองด้านหลังเมื่อเห็นแผ่นหลังนั้นเดินห่างออกไป

     

    “กูรำคาญแม่งจริงๆเลยว่ะ” ทงเฮบ่นและคว้ามือฮยอกแจมาเพื่อดึงตัวให้อีกคนเดินห่างจากบริเวณนั้นให้เร็วขึ้นอีก

     

     

    มันจะไม่หงุดหงิดเท่าไหร่หรอกถ้าไอ้เด็กเวรนั่นจะเห็นเขาอยู่ในสายตาบ้าง...

     

     

    เพราะเขาเห็นเด็กนั่นเป็นคู่แข่ง... แต่กับไอ้เด็กนั่นมันไม่เคยเห็นเขาอยู่ในสายตาเลยด้วยซ้ำ

     

    ดูเหมือนมันจะไม่ได้ใส่ใจกับการมีชีวิตอยู่ของเขาเลยด้วยซ้ำ สายตานั้นมองเห็นเพียงแค่ฮยอกแจ มองแค่ฮยอกแจและพอใจเพียงแค่นั้น ต่างจากเขาที่แค่เห็นแววตาแบบนั้นมองมาก็รู้สึกหงุดหงิดจนอยากจะเข้าไปต่อยหน้ามันได้แล้ว

     

     

    “ทงเฮ” ฮยอกแจร้องเรียกก่อนจะรั้งตัวไว้

     

    “อะไร”

     

    “เมื่อกี้มึงไม่ได้ทำอะไรใช่ไหม” คำถามนั่นทำให้ทงเฮแค่นหัวเราะ

     

    “แล้วอะไรที่มึงว่ามันคืออะไรล่ะ”

     

    “อย่ามากวนตีน” ฮยอกแจถอนหายใจและดึงมือออก

     

    “......”

     

    “.......”

     

    “กูไม่ได้ทำอะไร” คำตอบหลังจากความเงียบนั่นไม่ได้ทำให้ฮยอกแจเชื่อได้มากนัก

     

    “กูบอกมึงไปแล้วนะ” ฮยอกแจพูดและหมุนตัวเดินออกไป ทงเฮเตะฝุ่นที่พื้นด้วยความหงุดหงิดเพราะแค่คิดว่าฮยอกแจกำลังเดินเพื่อไปหาใครก็ทำให้ยิ่งรู้สึกใกล้บ้าเข้าไปทุกที

     

     

     

     

     “ฮยอกแจ” มือที่เคยจับแน่นมาตลอดกุมแน่นขึ้นอีกเมื่อถึงหน้าประตูบ้านของฮยอกแจเอง ทงเฮได้แต่ก้มหน้าลงและเอ่ยเรียกชื่อของเพื่อนสนิทออกมาอย่างแผ่วเบา

     

    “อะไร” เจ้าของชื่อตอบกลับมาเสียงแข็งทำให้ทงเฮแต่ได้ถอนหายใจ

     

    “มึงไม่ได้โกรธกูใช่ป่ะ”  

     

    “โกรธเรื่องอะไร”

     

    “ก็...” พอทงเฮตั้งท่าจะพูดออกมาก็เหมือนกับฮยอกแจจะเดาคำพูดนั้นได้

     

    “ถ้ามึงไม่งี่เง่าใส่กูอีก”

     

    “.....”

     

    “...กูก็โอเค”

     

    “หมายถึงกูชอบมึงต่อได้”

     

    “อย่าพูดอีกก็ดีว่ะ กูขนลุก” ฮยอกแจตอบด้วยความรวดเร็วพร้อมกับทำหน้ายี๋ๆใส่

     

    “ขอกอดที” ทงเฮไม่พูดเปล่า มือนั้นกลับคว้าตัวฮยอกแจไปกอดเสียแน่น

     

    “ไอ้ทงเฮ!!” ฮยอกแจร้องโวยวายแต่สุดท้ายก็สู้แรงไอ้อ้วนนี่ไม่ได้เลยต้องยอมอยู่ในอ้อมกอดนั้นไป

     

    “ขอบใจนะ”

     

    “....”

     

    “กูกลัวมึงจะเกลียดกู”

     

    “ปล่อยกูช้าว่านี้อีกนาทีเดียวกูเกลียดมึงแน่ๆ” ทงเฮหัวเราะออกมาก่อนจะรีบปล่อยมือออก และก็ต้องยิ้มกว้างเมื่อฮยอกแจยกมือขึ้นมาเตรียมแท็คด้วย

     

    “เจอกันพรุ่งนี้” ฮยอกแจพูดด้วยรอยยิ้ม ทงเฮประทับมือลงมาให้เกิดเสียงก่อนช่องว่างระหว่างมือนั้นจะถูกเติมเต็มซึ่งกันและกัน

     

     

     

    ถ้าไม่ให้เขางี่เง่า... แล้วเขาต้องทำยังไงล่ะ...

     

    ยืนมองอยู่เฉยๆหรือต้องเป็นคนผลักคนที่ตัวเองชอบมาหลายปีให้เด็กเวรที่ทำตัวเป็นหมามองเครื่องบินแบบนั้นไปซะ...

     

     

     

     



     

     

     

    ฮยอกแจเดินห่างออกมาจากตึกเรียนก่อนจะทรุดนั่งลงที่ม้านั่ง มือยกขึ้นมาปิดหน้าไว้ก่อนจะถอนหายใจออกมาเพราะความคิดในสมองมันเริ่มตีกันอีกรอบ ทั้งที่หลายวันมานี้ทุกอย่างมันก็กลับมาเหมือนปกติแล้ว เขากับทงเฮยังคงเป็นเพื่อนสนิทที่ไปไหนมาไหนด้วยกันเสมอ ยังคงตัวติดกันจนเพื่อนคนอื่นยังใช้คำพูดเอ่ยแซวให้ได้ยินกันทุกวัน ทุกอย่างเหมือนเดิมจนเขาแทบจะลืมไปแล้วด้วยซ้ำว่าเขามีใครอีกคนเพิ่มเข้ามาในชีวิตด้วย

     

     

    พอวันนี้ได้เห็นคยูฮยอนทุกอย่างมันก็เลยย้อนกลับมาอีกครั้ง ท่าทีที่ทงเฮแสดงออกมามันทำให้เขารู้สึกขัดใจ.. ไม่ใช่เพราะกลัวว่าคยูฮยอนจะเข้าใจผิด แต่เขาไม่ชอบเลยกับการที่อีกคนจะมาแสดงความเป็นเจ้าของตัวเขาทั้งที่มันไม่ใช่ความจริง

     

     

    “...!!” ฮยอกแจสะดุ้งเมื่ออยู่ๆก็มีมือมาวางบนหัว ลดมือลงก่อนจะแค่นยิ้มออกมา

     

    “คยูฮยอน” เจ้าของมือนั้นส่งยิ้มจางๆมาให้ก่อนจะจัดลูบผมที่ปลิวไม่เป็นทรงให้ ฮยอกแจแกล้งต่อยไปที่หน้าท้องรุ่นน้องที่ยืนค้ำหัวและยังกล้ามาเล่นหัวเขาอีก

     

    “ทำไมมานั่งตรงนี้ จะเข้าเรียนแล้วนะ” และก็เหมือนเดิมคยูฮยอนไม่ได้สนใจแต่ก็เปลี่ยนย้ายตัวเองมานั่งอยู่บนเก้าอี้ฝั่งตรงข้าม

     

    “คิดว่าอยากจะลองโดดดูเหมือนกัน” ฮยอกแจพูดทีเล่นทีจริงแต่คยูฮยอนกลับย่นคิ้วใส่

     

    “นิสัยไม่ดีแหะ”

     

    “ฉันก็คิดว่าตัวเองนิสัยไม่ค่อยดีหรอก”

     

    “.....” บรรยากาศเปลี่ยนไปเมื่อคยูฮยอนไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เอาแต่มองตรงมาหาจนคนถูกจ้องรู้สึกเกร็งๆ ฮยอกแจแกล้งเอียงตัวไปซ้ายและสายตานั้นก็ยังคงมองตามมา เอนตัวไปทางขวาก็ยังมองตามแถมคนที่ตีหน้านิ่งยังยิ้มออกมาเหมือนกับเอ็นดูกับการกระทำเหมือนเด็กๆของเขา

     

    “ผมมองฮยอกแจนั่นแหละ”

     

    “อ่า..” ฮยอกแจร้องออกมาก่อนจะก้มมองตามเมื่อคยูฮยอนเปลี่ยนเอากระดาษจากกระเป๋าออกมา ปากคาบปลอกปากกาที่เสียบเคยไว้ที่กระเป๋าเสื้อก่อนจะก้มหน้าลงไปเขียนโน้ต

     

    “ใบที่ 5 สินะ” ฮยอกแจอมยิ้มและยื่นมือออกไป แต่คยูฮยอนกลับเอามือปิดไว้และเอาปากกาเก็บลงในกระเป๋าเสื้อ

     

    “ต้องตอบคำถามก่อนถึงจะให้”

     

    “วันนี้พิเศษแหะ คำถามไรอ่ะ”

     

    “คิดถึงผมไหม”

     

    “ห๊ะ?” ฮยอกแจร้องเสียงดัง แต่พอเห็นว่าคยูฮยอนทำหน้ามุ่ยก็ต้องเกาหัวเพราะไม่รู้ว่าควรตอบคำถามเถรตรงแบบนั้นดีหรือเปล่า

     

    “เราไม่ได้เจอกันตั้งหลายวัน ไม่คิดถึงผมเลยเหรอ” คยูฮยอนพูดเหมือนกับบ่นอยู่กับตัวเอง แต่สุดท้ายดวงตานั้นก็ยังคงจ้องมองฮยอกแจ

     

    “ไม่ตอบ... ผมไม่ให้นะ”

     

    “นายนี่มันจริงๆเลยนะ” ฮยอกแจพูดปนเสียงหัวเราะก่อนจะเปลี่ยนเป็นถอนหายใจออกมาเพราะดูจากแววตาแล้วถ้าเขาไม่พูดออกมาสงสัยจะไม่ได้หลุดจากสถานการณ์นี้ง่ายๆ

     

    “ก็เหมือนจะลืมๆไปแล้วว่ารู้จักคนชื่อคยูฮยอนด้วย” ฮยอกแจตอบไปตามความจริง และจากคำพูดนั้นฮยอกแจก็คาดหวังจะเห็นใบหน้าไม่พอใจจากคยูฮยอนบ้าง แต่มันกลับไม่ได้ส่งผลอะไรเลยแม้แต่นิด คยูฮยอนแบมือข้างนึงลงบนโต๊ะ สายตาที่กำลังส่งผ่านมาทำให้ฮยอกแจค่อยวางมือซ้อนลงกับมือนั้น มือค่อยๆสอดประสานกันพร้อมกับรอยยิ้มบนใบหน้านั้นจะกลับมาอีกครั้ง

     

    “แต่ผมคิดถึงฮยอกแจ” ฮยอกแจอมยิ้มเมื่อสังเกตเห็นว่าที่แก้มนั้นเริ่มเปลี่ยนสีราวกับมีใครเอาสีแดงไปป้ายไว้จางๆ

     

    “...เขินเหรอ” ฮยอกแจพูดด้วยรอยยิ้มเพราะนี่ดูจะเป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นมุมเด็กๆของคยูฮยอน เพราะจริงๆแล้วมันต้องเป็นฮยอกแจที่เขินนะ ถูกสารภาพรักและบอกว่าคิดถึงขนาดนี้น่ะ

     

    “แค่ใจเต้นแรงกว่าปกตินิดหน่อย” ฮยอกแจหลุดหัวเราะออกมาเพราะคำพูดแก้ต่างนั่น

     

    “เพราะฮยอกแจทำตัวแบบนี้น่ะ”

     

    “หือ?”

     

    “ทีแรกก็คิดว่าไม่น่าจะเป็นขนาดนี้...คิดว่าแค่มองอยู่ไกลๆเหมือนทุกทีก็คงไม่เป็นไร” ฮยอกแจเฝ้ามองคนที่พยายามอธิบายความรู้สึกตัวเองออกมา

     

    “แต่ก็ไม่เห็นจะหายเสียที”

     

    “หมายถึง?”

     

    “ผมคิดถึงฮยอกแจ” ฮยอกแจนิ่งเงียบกับคำพูดนั้นอีกครั้ง คยูฮยอนส่งยิ้มให้และปล่อยมือออกก่อนจะวางโน้ตที่เพิ่งเขียนขึ้นมาลงบนมือนั้น

     

    “เพราะเคยมีฮยอกแจมายิ้มอยู่ใกล้ๆ.. เพราะเคยมีฮยอกแจมาหัวเราะให้ผมได้ยิน” สองมือใหญ่กุมแน่นอยู่ที่มือของฮยอกแจก่อนริมฝีปากนั้นจะคลี่ยิ้มออกมา

     

    “ต่อไปผมคงทำแค่มองอยู่เฉยๆไม่ได้” คราวนี้คงกลายเป็นฮยอกแจที่ถูกกลืนคำพูดหายไปหมด แม้คราวนี้คยูฮยอนจะหลบสายตาและจ้องมองอยู่ที่มือของเขา แต่เพราะคำพูดพร้อมกับสัมผัสจากมือนี้ก็ยังคงเร่งให้หัวใจทำงานหนักขึ้นได้ไม่ต่างจากทุกครั้ง

     

     

    ความเงียบระหว่างนั้นทำให้เสียงเตือนเข้าเรียนดังมากกว่าปกติที่ฮยอกแจเคยได้ยิน

     

    “เอ่อ...” ฮยอกแจดึงมือออกก่อนจะเอามือนั้นชี้ไปที่ตึกเรียนด้านหลัง

     

    “...ฉันไปเรียนก่อนนะ”

     

    “ฮยอกแจ” เพียงแค่ฮยอกแจลุกขึ้นคยูฮยอนก็ร้องเรียกขึ้นมาอีกครั้ง

     

    “หะ..หือ อะไรเหรอ?”

     

    “ผมอยากกินไอศกรีม” ประโยคบอกเล่านั่นเอาฮยอกแจงงไปสามวิแต่ก็นึกออกเมื่อมองหน้าคยูฮยอนที่เหมือนกำลังจะหาเรื่อง

     

    “ที่ฉันติดไว้สินะ”

     

    “อืม”

     

    “ได้สิ ก็บอกไว้แล้ว”

     

    “ตกลงตามนั้น” คยูฮยอนพูดและชูนิ้วก้อยยื่นมาหา ฮยอกแจพยายามเก๊กหน้าให้เป็นปกติก่อนจะรีบหันหลังให้ แม้จะไม่ได้ตอบรับ แต่เชื่อเถอะว่าตอนที่เขาเห็นคยูฮยอนยื่นนิ้วก้อยมาหานั้นมันทำให้ต้องกัดริมฝีปากตัวเองเพื่อห้ามรอยยิ้มที่กำลังจะคลี่กว้างออกมาเลย

     

    “ตอนเย็นฮยอกแจไปเดตกับผมนะ” ฮยอกแจหันไปมองก่อนจะทำหน้ามุ่ยใส่คนที่ยิ้มอวดดีใส่ และหมุนตัวเดินหนีเข้าไปในตึกเรียน พยายามบังคับลมหายใจของตัวเองให้กลับมาเป็นปกติ มือทาบลงที่หน้าอกก่อนจะยิ้มออกมาเมื่อนึกถึงใครอีกคน

     

     

    เขาเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าที่ผ่านมาเด็กนั่นทำแค่มองอยู่เฉยๆ...

     

     

    ฮยอกแจอ่านโน้ตที่แปะอยู่ที่มือก่อนจะมองตัวเลขที่เป็นเลข4 ซ้ำกับครั้งก่อน เขาค่อนข้างมั่นใจว่าเป็นเบอร์ของคยูฮยอนแน่

     

    “ก็จับไว้ให้ได้แล้วกันนะ” ฮยอกแจพูดและอมยิ้มอยู่คนเดียวก่อนจะเก็บโน้ตนั่นลงในกระเป๋า

     

     

    ลำดับที่ห้า – ผมปล่อยคุณไม่ได้

     

     

     

    “เอ้ย! ทำเชี่ยไรกันเนี่ย” ฮยอกแจก้าวเข้ามาในห้องเรียนก่อนจะโดนเพื่อนอีกคนคว้าตัวไปที่หลังห้อง แถมยังโดนล้อมซะออกไปไหนไม่ได้

     

    “มึงมีชู้เหรอวะ”

     

    “ไอ้หนุ่มนั่นใคร”

     

    “มึงบอกมาเลย พวกกูเห็นนะ!!

     

    “ใคร.. อะไรวะ กูงงนะ” ฮยอกแจพยายามปัดป้องตัวเองเต็มที่ แต่ว่าพวกเพื่อนที่ห้อมล้อมอยู่ก็ไม่ได้มีท่าทีเย็นลงแถมยังลากฮยอกแจไปที่ข้างหน้าต่าง

     

    “เมื่อกี้มึงนั่งอยู่กับใคร”

     

    “กรรม” ฮยอกแจพึมพำออกมาเมื่อเห็นว่าข้างหน้าต่างของห้องประจำนี่มันสามารถมองเห็นม้านั่งนั่นได้พอดี

     

    “มึงทำแบบนี้มันเป็นการย่ำยีหัวใจลูกผู้ชายตัวใหญ่ๆอย่างทงเฮมากนะเว้ย”

     

    “แล้วมันไปไหน” ฮยอกแจถามและนั่นทำให้เพื่อนคนอื่นจ้องมองด้วยสายตายามเหยียด

     

    “คิดว่าน่าจะหนีไปฆ่าตัวตาย โดนเมียนอกใจต่อหน้าก็แบบนี้อ่ะ”

     

    “ไอ้พวกเวรนี่!!” ฮยอกแจไล่ถีบทีละคนก่อนจะรีบทำตัวเรียบร้อยในทันทีที่อาจารย์ประจำวิชาเข้ามาในห้อง ถึงจะเดินเข้าไปนั่งที่ก้มหน้าก้มตาเหมือนตั้งใจเรียนมาก แต่จริงๆแล้วฮยอกแจก็ยังกังวลอยู่กับโต๊ะว่างเปล่าที่อยู่ข้างๆเขา

     

     

    **********************************

     



    ถ้าทงเฮมันจะน่าสงสารขนาดนี้....

    เราคงต้องหานายเอกคนใหม่มาให้เขาจริงๆสินะ...

    ไม่งั้นทุกคนคงประนามเราแน่ๆ T_T




    ป่ะ.. ตอนหน้าไปเดตกัน


     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×