[Short fic HP/Harry Potter] muggle girl (TMR x OC) - นิยาย [Short fic HP/Harry Potter] muggle girl (TMR x OC) : Dek-D.com - Writer
×

    [Short fic HP/Harry Potter] muggle girl (TMR x OC)

    ไม่มีอะไรที่ทอม ริดเดิ้ลอยากได้แล้วไม่ได้ น้องชายหรือ? ตลกสิ้นดี [ สถานะนิยาย : คามุย//หายตัว ]

    ผู้เข้าชมรวม

    2,511

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    2.51K

    ความคิดเห็น


    17

    คนติดตาม


    330
    จำนวนตอน :  3 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  20 เม.ย. 66 / 18:25 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    [ Introduction ]

    ค.ศ. 1934

    บ้านอิฐสไตล์ยุโรปที่ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป ภายในห้องนั่งเล่นที่สว่างไสว มีเด็กสาวอายุราวๆ สิบสี่ปีกำลังนั่งสัปหงกอยู่ใกล้ๆ ประตูไม้ของบ้าน

     

    เธอสะดุ้งโหยงเงยหน้าขึ้นมองออกหน้าต่างฉับพลันเมื่อได้ยินเสียงของม้าที่คุ้นเคย ร่างเล็กรีบวิ่งไปเปิดประตูให้อ้ากว้าง พบเห็นชายวัยกลางคนหิ้วกระเป๋าหนังสีน้ำตาลใบเก่าๆ เดินเข้ามา

     

    “พ่อคะ!” เด็กน้อยยิ้มแก้มปริ

     

    คนเป็นพ่อที่เห็นลูกสาวมาเปิดประตูรอแม้มืดค่ำก็ใจฟูฟ่องและเป็นห่วงในเวลาเดียวกัน “ดึกดื่นทำไมไม่นอน รอพ่ออยู่หรือ?”

     

    “พ่อบอกจะกลับมาคืนนี้”

     

    “โอ้ ลูกรัก” เขายิ้มอย่างอ่อนใจ

     

    “ทานอะไรรึยังคะ ให้ลูกทำมื้อดึกดีหรือไม่?” เธอเอ่ยอย่างกระตือรือร้นพลางถอยหลังไปสองสามก้าวให้ผู้ปกครองได้เดินเข้าบ้าน

     

    โจเซฟ — ผู้เป็นพ่อของเด็กสาววางกระเป๋าใส่อุปกรณ์การแพทย์ไว้ข้างประตู ถอดหมวกและเสื้อคลุมตัวนอกออก “ไม่เป็นไร พ่อทานมาแล้ว”

     

    “งั้นลูกเอากระเป๋าไปเก็— ประเดี๋ยว?” เด็กสาวเบนสายตาไปทางข้างหลังผู้สนทนา เป็นเด็กผู้ชายร่างเล็ก “นั้นใครหรือคะ?”

     

    “โอ้! นี่ทอม เขาจะมาอาศัยอยู่กับเรา — หวังว่าจะเข้ากันได้นะเด็กๆ” พ่อตอบยิ้มๆ พลางดันแผ่นหลังของเด็กชายที่ตัวเล็กกว่าเธอให้เดินมาข้างหน้า

     

    พอต้องแสงไฟ ทุกอย่างก็ชัดเจนขึ้น สภาพชุดเสื้อผ้าซอมซ่อ เนื้อตัวผอมแห้งขาดสารอาหาร เส้นผมและนัยน์ตาสีดำสนิท เธอสำรวจอีกฝ่ายอย่างถือวิสาสะ

     

    “ฉันชาร์ล็อตเต้ แอนเดอร์สัน” เด็กสาวยื่นมือไปข้างหน้าตามมารยาท

     

    “ทอม ริดเดิ้ล” เด็กชายจับมือทักทายตอบ

     

    เด็กน้อยทั้งสองเงียบกริบจนผู้ใหญ่หนึ่งเดียววิตก สายตาหันซ้ายแลขวาพยายามทำลายบรรยากาศมาคุนี้และเหมือนลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนจะเดาใจผู้พ่อได้ไปหมดเสียทุกเรื่อง

     

    “ห้องน้ำมีเพียงห้องเดียว รีบไปอาบน้ำเถอะ ส่วนหนูจะเอาของไปเก็บให้ค่ะ” ว่าแล้วก็หิ้วกระเป๋าขึ้นไปชั้นสองของบ้าน

     

    “อ่า— งั้นทอม ยังหิวอยู่หรือไม่? แซนด์วิชชิ้นนั้นเพียงพอหรือเปล่า?” โจเซฟวางมือบนไหล่เด็กชายเบาๆ เพื่อให้อีกฝ่ายผ่อนคลายมากขึ้น

     

    เขาส่ายหัว “ไม่เป็นไรครับ ผมอิ่มแล้ว”

     

    คนอายุมากกว่ายิ้ม “งั้นดีเลย เดี๋ยวฉันไปหยิบเสื้อผ้ามาให้นะ”

     

    “ครับ” ทอมพยักหน้ารับ

     

     

     

     

     

    ไม่นานนักทอมก็อาบน้ำเสร็จ แล้วตามด้วยโจเซฟ ในระหว่างที่พ่อของเธอกำลังเข้าห้องน้ำอยู่นั้น เด็กสาวต้องพาแขกถาวรไปเก็บของที่ห้อง แต่ที่น่าหงุดหงิดใจคือบ้านหลังนี้มีห้องนอนเพียงสองเท่านั้น

     

    แน่นอนว่าเธอได้คุยเรื่องนี้กับพ่อแล้ว และเธอยินดีที่จะให้ทอมมานอนที่ห้องตัวเอง ทั้งหมดนี้เพียงเพราะไม่อยากให้เด็กชายไปรบกวนการพักผ่อนของผู้เป็นพ่อ

     

    แขนเล็กผลักประตูไม้เข้าไปด้านใน มือเอื้อมเปิดสวิตช์ไฟ ก่อนก้าวไปด้านหน้าให้อีกคนเดินตามเข้ามา

     

    ทอมสำรวจรอบห้องโดยไม่สนใจเจ้าของ เนื่องจากสร้างบ้านด้วยอิฐ โทนสีจึงออกไปทางส้มน้ำตาลตามอายุของมัน เฟอร์นิเจอร์ประดับค่อนข้างน้อยชิ้น มีเตียงใหญ่ขนาดประมาณหกฟุตชิดอยู่ใกล้หน้าต่างตรงมุมห้อง โต๊ะวางโคมไฟอยู่ใกล้ๆ อีกฟากด้านข้างเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งขนาดไม่ใหญ่มากทิศทางปลายเตียงมีโต๊ะเก้าอี้และชั้นหนังสือ ตามกำแพงมีไม้ประดับให้ดูสบายตา

     

    เขายอมรับว่ารสนิยมการแต่งห้องของเธอดีไม่น้อย

     

    “นายต้องนอนร่วมกับฉัน — เอาของไปวางไว้ตรงนู้นก่อน” เธอชี้ไม้ชี้มือไปทางมุมห้อง

     

    ทอมทำตามอย่างว่าง่าย จัดแจงอะไรสักอย่างให้เรียบร้อยก่อนเดินไปนอนที่เตียงอย่างถือวิสาสะ

     

    เด็กสาวเลิกคิ้วขึ้น ไม่คิดว่าจะไร้มารยาทและสามัญสำนึกขนาดนี้ แต่ก็เลือกปล่อยผ่าน ชาร์ล็อตเต้ปิดไฟก่อนคลานขึ้นเตียงไปนอนเพราะรูมเมทจำเป็นดันเหลือพื้นที่ริมกำแพงไว้ให้ ผ้าห่มผืนใหญ่ที่เลื่อนขึ้นมาถึงอก จากที่ง่วงเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว เมื่อหัวถึงหมอนไม่นานนักก็เข้าสู่ห่วงนิทรา

     

     

     

     

     

    ในกลางดึกที่กี่โมงก็ไม่อาจทราบได้ ทอมสะดุ้งตื่นขึ้น หยาดเหงื่อไหลลงตามกรอบโครงหน้า อ้าปากหอบหายใจแรงกอบโกยอากาศ เขารู้สึกเหมือนพึ่งได้นอนไปเมื่อห้านาทีที่แล้ว ภาพฝันร้ายยังคงติดตา ครั้งจะนอนต่อก็ยากเกินไป ลองขยับท่าหันซ้ายทีขวาทีก็ไม่เป็นผล

     

    เด็กสาวพลิกตัวหันมาทางผู้ร่วมเตียง เปลือกตาเปิดออกจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายแฝงไปด้วยความรู้สึกหงุดหงิดเล็กๆ

     

    “นอนไม่หลับหรือ?” เธอถาม

     

    “…อืม” เขาตอบรับในลำคอ

     

    หล่อนถอนหายใจเบาๆ “เทียนหอมบนโต๊ะอาจช่วยได้” ว่าจบก็คลุมโปงหนี

     

    เขาหันไปดูโต๊ะข้างเตียงสีขาว แสงจันทร์อ่อนๆ สว่างมากพอที่จะให้เขาแยกแยะสิ่งของต่างๆ ได้ มือผอมแห้งเอื้อมไปหยิบไฟแช็กเหล็กทรงสี่เหลี่ยมๆ ขึ้นมาจุดเทียน

     

    กลิ่นหอมคล้ายดอกไม้ชนิดหนึ่งชวนผ่อนคลายอ่อนๆ ลอยล่องไปทั่วอากาศ ทอมล้มตัวนอนอีกครั้งพลันหลับตา สมองเริ่มปลอดโปร่ง ไม่นานนักลมหายใจก็สม่ำเสมอ

     

     

     

     

     

    รุ่งเช้า กลิ่นเบคอนทอด ไส้กรอกและไข่ดาวลอยเตะจมูกเด็กชาย ซึ่งกระตุ้นความหิวได้ดีเลยทีเดียว เขาก้าวขาเดินลงบันไดไปห้องครัวด้วยจังหวะที่ดูเป็นธรรมชาติที่สุด พอไปถึงก็พบชาร์ล็อตเต้ที่กำลังทำอาหารกับคุณโจเซฟนั่งอ่านหนังสือพิมพ์อยู่ที่โต๊ะ

     

    “อรุณสวัสดิ์ทอม” คนอายุมากสุดในบ้านเอ่ยทักเมื่อเห็นเขาเดินเข้ามาใกล้

     

    “อรุณสวัสดิ์ครับ” เขาตอบกลับ

     

    “เมื่อคืนหลับสบายไหม?”

     

    “ก็ดีครับ” ทอมว่าพลางเลื่อนเก้าอี้นั่ง

     

    คุณโจเซฟพยักหน้ารับแล้วก้มอ่านต่อ ไม่นานนักอาหารก็เสร็จ จานกระเบื้องขาวตรงหน้ามีเบคอนทอดกรอบสองชิ้น ไข่ดาวหนึ่งฟอง ไส้กรอกยาวสองชิ้น ขนมปังทาเนยหนึ่งแผ่นและน้ำส้มคั้นสด มื้อเช้าง่ายๆ ที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้าไม่มีวันทำได้แบบนี้ ทันทีที่นึกถึงโอ๊ตมีลสีเหลืองอ่อนข้นหนืดจืดชืดก็รู้สึกเหมือนจะอ้วกออกมา

     

    “เป็นอะไรหรือทอม? ไม่หิวหรือ?” เขาเงยหน้าสบตากับคุณโจเซฟที่อยู่ฝั่งตรงข้าม อีกฝ่ายมองเขาด้วยแววตาเป็นห่วง พลันในใจก็รู้สึกอุ่นวาบอย่างหน้าประหลาด

     

    “เปล่าครับ” ทอมส่ายหัวก่อนลงมือทานอาหารจนหมดจาน ครั้งจะดื่มน้ำส้มต่อก็ชั่งใจ เขาไม่ค่อยชอบรสชาติหวานๆ เปรี้ยวๆ ของมันสักเท่าไหร่นัก แต่มือข้างหนึ่งก็จับแก้วไว้มั่นเสมือนกำลังทำใจ

     

    ชาร์ล็อตเต้เหล่มองพลางยกแก้วนมกระดกจนหมด เธอลุกเดินไปหยิบแก้วในมือเด็กชายมาถือไว้เองแล้วหายเข้าครัวไป

     

    ทอมมองตามอย่างฉงนปนหงุดหงิด ทำไมถึงฉวยไปจากมือเขาแบบนี้กัน? และไม่นานนักหล่อนก็กลับมาพร้อมแก้วนมในมือแทน

     

    เด็กสาวยื่นมันให้เขาและกล่าว “ดื่มให้หมด”

     

    ทอมรับมาในมือ สบเข้ากับนัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนเล็กน้อยก่อนหันมากระดกรวดเดียว รสชาตินมอุ่นๆ ไหลลื่นลงคอทำให้รู้สึกดีไม่น้อย พูดตามตรงว่าเขาไม่เคยดื่มนมมาก่อน นัยน์ตาสีดำจ้องมองแก้วเปล่าในมืออย่างใช้ความคิด

     

    โจเซฟนั่งมองเด็กๆ ด้วยรอยยิ้ม เห็นเค้าลางว่าจะไปได้สวยและรักกันดีเขาก็อุ่นใจ อย่างน้อยชาร์ล็อตก็จะได้มีเพื่อนเสียบ้าง แม้ทอมจะอายุน้อยกว่าเป็นหกปีเลยก็ตาม

     

    “ถ้าอิ่มแล้วก็ดี เดี๋ยวไปเตรียมตัวเสีย ฉันจะพาเข้าเมืองไปซื้อของใช้จำเป็น”

     

    “ครับ” ทอมพยักหน้ารับก่อนขึ้นห้องไป

     

    ชายวัยกลางคนหันไปหาลูกสาวตนเอง “คิดว่าทอมเป็นยังไงหรือ?”

     

    “ลูกว่าไม่แย่ แต่ยังต้องเรียนรู้อีกมาก” เธอว่าพลางลงมือเก็บจานบนโต๊ะ

     

    “เขายังเด็กนัก” โจเซฟกล่าว “สิ่งแวดล้อมที่โรงเลี้ยงเด็กกำพร้าสรรค์สร้างให้เขากลายเป็นเขาในตอนนี้”

     

    คนลูกมองหน้าพ่อตัวเองอยู่ครู่หนึ่ง “ไม่แปลกใจเท่าไหร่”

     

    “ระหว่างที่พ่อไม่อยู่ดูแลเขาดีๆ อย่าปล่อยให้เสียคนเชียว” ผู้ปกครองเด็กสาวกำชับอย่างหนักแน่น ด้วยหน้าที่การงานที่ให้ไม่ค่อยอยู่ติดบ้านเสียเท่าไหร่นัก ทำให้ค่อนข้างเป็นกังวลไม่น้อย

     

    “ค่ะ” เธอพยักหน้ารับคำก่อนหายเข้าครัวไปล้านจาน

     

    เวลาผ่านไปสักพักทอมก็เดินลงมาอีกครั้ง

     

    “เรียบร้อยดีนะ? งั้นไปกันเถอะ” โจเซฟลุกขึ้นจากโซฟา สวมเสื้อโค้ทตัวยาวและหมวกก่อนเดินนำออกจากบ้าน

     

    เมื่อถึงรถม้า คนขับที่จ้างวานมาก็เปิดประตูให้อย่างนอบน้อม ทั้งสองพากันขึ้นไปนั่ง และเริ่มออกตัว เด็กชายเหล่มองซ้ายขวา เหมือนว่าคนโตกว่าจะรู้จึงชิงเอ่ยปาก

     

    “ชาร์ลไม่ชอบไปที่คนเยอะๆ น่ะ” เขายิ้ม

     

    “ค— ครับ” ทอมก้มหน้างุดอย่างเขินอายที่ตัวเองเผลอแสดงออกมากเกินไป

     

    โจเซฟหัวเราะในลำคอเบาๆ “อีกสักพักใหญ่กว่าจะถึงที่หมาย อดทนหน่อยนะทอม

     

    “ครับ”

     

     

     

     

     

    พอตกเย็นทั้งสองก็กลับมา อ้อมกอดของโจเซฟเต็มไปด้วยเสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้จำเป็นต่าง ๆ มากมาย นอกจากนี้ สองวันต่อมาก็มีเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่อย่างโต๊ะเขียนหนังสือและตู้เสื้อผ้ามาส่งที่บ้านน่าเสียดายที่ขนาดห้องไม่ได้กว้างมากพอที่จะรองรับเตียงสองหลัง

     

    กิจวัตรประจำวันง่ายๆ ของทอมดำเนินขึ้นวนเป็นวงกลม ตื่นเช้า อาบน้ำ ทานอาหาร ช่วยทำงานบ้านจิปาถะ พักผ่อนอ่านหนังสือ และเว้นช่วงไว้ทานมื้อเที่ยงและมื้อค่ำ

     

    ส่วนคุณโจเซฟ — ชายผิวขาววัยกลางคน ผมและดวงตาสีน้ำตาลอ่อน เขานั้นเป็นหมอ ลักษณะนิสัยคือคนอบอุ่น ใจดี ยิ้มง่าย และชอบช่วยเหลือผู้อื่นแม้อีกฝ่ายจะไม่มีเงินจ่ายก็ตาม — ซึ่งส่วนตัวแล้วเขาไม่ค่อยเห็นด้วยสักเท่าไหร่ที่คุณโจเซฟใจบุญขนาดนี้ — ส่วนใหญ่จะได้เจอหน้ากันตอนมื้อเช้า แล้วก็หิ้วกระเป๋าออกบ้านไปดูแลคนไข้ตามพื้นที่ต่าง ๆ พอตกเย็นก็กลับมา และบางครั้งก็ไปต่างเมืองจึงหายหน้าหายตาไปเสียหลายวัน

     

    สุดท้ายคือชาร์ล็อตเต้ ลูกสาวคนเดียวของคุณหมอใจบุญที่ได้ความเหมือนมาเพียงสีผมและดวงตา หล่อนค่อนข้างโรคส่วนตัวสูงสักเล็กน้อย แต่กลับใจดีกว่าที่คิดเอาไว้ — หรือเขาคิดไปเองก็ไม่อาจทราบได้ — เป็นคนมีความรับผิดชอบเกินขนาดตัวไปมาก งานบ้านทุกอย่างถูกเธอจัดการเสียจนหมด — ซึ่งบางครั้งเขาก็คอยเป็นลูกมือให้ — เธอเป็นคนฉลาด ได้ยินมาจากคุณโจเซฟว่าสามารถศึกษาตำราหนังสือได้ด้วยตนเองโดยไม่ต้องพึ่งพาอาจารย์ — นั้นน่าสนใจมากเลยทีเดียว

     

    และเวลาก็ผ่านเลยไปหลายปี จนกระทั่งเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น

     

     

     

     

     

    [แถม]

    ค.ศ. 1938

    สายฝนสาดกระหน่ำราวกับย้ำเตือนถึงการสูญเสียครั้งใหญ่ เสาหลักของบ้านได้จากไปด้วยวัยเพียงสี่สิบสี่ปี ในงานทุกคนสวมใส่ชุดคุมโทนสีดำ เหล่าเพื่อนบ้านและคนรู้จักของคุณหมอโจเซฟที่เดินทางมาร่วมงานไว้อาลัยค่อยๆ ทยอยกลับไปกันจนหมด เหลือไว้เพียงหญิงสาวผู้เป็นทายาทและเด็กชายในการดูแลของบ้านแอนเดอร์สัน ป้ายหลุมศพไม่ใกล้ไม่ไกลจากต้นไม้ใหญ่ในสวนหลังบ้านเต็มไปด้วยดอกไม้สีสด

     

    หญิงสาวเหล่สายตาไปมองเด็กชายที่ยืนอยู่ข้างๆ ทอมในชุดสูทสุภาพขนาดพอดีกำลังก้มหน้าคางชิดอกราวกับกำลังอดกลั้นอะไรบางอย่าง เธอขยับเข้าใกล้พลางเอื้อมไปจับมืออันสั่นเทาของอีกฝ่ายไว้

     

    “ไม่เป็นไร” เธอพูด “ฉันจะดูแลนายในส่วนของเขาเอง”

     

    เด็กชายทำเพียงพยักหน้ารับ ยกมือปาดน้ำบนหน้าแบบลวกๆ

     

    “เข้าข้างในเถอะริดเดิ้ล ก่อนหวัดจะกินหัวนาย” ชาร์ล็อตค่อยๆ โอบไหล่เล็กของเด็กชายก่อนพยุงเข้าบ้าน

     

    ทอมรู้ตัวดีว่าควรทำอะไร เจ้าตัวเดินขึ้นชั้นสองไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าโดยที่หญิงสาวไม่ต้องบอก ส่วนตัวเธอนั้นก็เช่นกัน ชาร์ล็อตไม่ประสงค์อาการป่วยใดๆ ทั้งสิ้น เพราะตอนนี้ที่บ้านไม่มีหมอเหมือนทุกทีแล้ว

     

    ถึงเวลาเข้านอน ห้องมืดสนิทเพราะผ้าม่านสีทึบที่พึ่งเปลี่ยนเมื่อไม่กี่เดือนก่อน ชาร์ล็อตพลิกตัวไปมาเล็กน้อยเพราะนอนไม่หลับ จิตใจฟุ้งซ่านถึงการสูญเสียและสิ่งที่ต้องจัดการในอนาคต และความบังเอิญ หลังมือของหญิงสาวแตะไปโดยแผ่นหลังเล็กของเด็กชายเข้า

     

    เธอหันขวับไปมองทันใดเมื่อสัมผัสได้ถึงความสั่นไหวเบาๆ “ริดเดิ้ล”

     

    “…”

     

    “นาย…” เธอกำลังจะถามว่าโอเคไหม แต่ให้ตาย หลังการสูญเสียแบบนี้ใครบ้างจะทนไหว

     

    ชาร์ล็อตสบถด่าตัวเองในใจก่อนดึงไหล่ทอมให้หันมา อีกฝ่ายไม่ได้ขืนแรงแต่อย่างใด พอได้เผชิญหน้ากันในความมืด หญิงสาวลังเลอยู่สักพักเพราะไม่รู้จะทำอย่างไรดี พลันนึกขึ้นได้ว่าแต่ก่อนพ่อของเธอเคยกอดปลอบ แขนบางก็รวบตัวเด็กชายเข้ามาในอ้อมกอด มือข้างหนึ่งลูบหลังเล็กขึ้นลงเบาๆ

     

    แม้จะทำตัวเข้มแข็งเพียงใด ในใจลึกๆ ของเธอกำลังร่ำไห้ เศร้าโศก และเสียใจ ถึงชาร์ล็อตจะไร้มารดาแต่ผู้พ่อก็ไม่ได้ทำให้เธอรู้สึกขาดเหลือแต่อย่างใด เขาทำหน้าที่พ่อได้ดีมากสำหรับเธอ แต่ตอนนี้หล่อนกำลังรู้สึกราวกับแขนขาดไปข้างหนึ่ง — ไม่สิ แขนขาดยังรู้สึกดีกว่าเสียอีก

     

    เมื่ออายุครบสิบแปด ภาระหน้าที่ย่อมมากขึ้น แล้วพระเจ้าช่างกลั่นแกล้ง รีบทวงคืนวิญญาณของพ่อเธอไปเสียเร็วนัก สาวกผู้ภักดีเช่นเขา เหตุใดถึงหวงแหนนักหนา เธอไม่เข้าใจเลยจริงๆ

     

    ต่อให้เสียใจแค่ไหน แต่เธอก็ไม่อาจร้องไห้ได้ เพราะเธอกลายเป็นเสาหลักต้นใหม่ของบ้านไปแล้ว


     


     

    [ Introducing the main character ]
     

    - Charlotte Anderson -

    - Simple female muggle -

     

     

     

    - Tom Mavolo Ridlle -

    - The perfect wizard -

     


     

    ** PG-13 :: นิยายฟิคนี้เหมาะสมกับผู้ที่อายุ 13 ปีขึ้น **

    ** Trigger Warnings & Content Warning ** 

    พบเห็นแน่นอน :: Age gap(มีความต่างของอายุมาก — ในที่นี้ต่างกัน 6 ปี) ,Coercion(การใช้ความสัมพันธ์หรืออำนาจที่เหนือกว่าเพื่อบังคับหรือโน้มน้าวอีกฝ่ายต้องยอมทำตามในสิ่งที่ไม่อยากทำ) ,Submission(การยอมอยู่ใต้อำนาจ เป็นฝ่ายรอง เป็นผู้ถูกกระทำในแง่ของเพศสัมพันธ์ ซึ่งเป็นรสนิยมและเต็มใจกันทั้งสองฝ่าย) ,Supernatural(โลกเหนือธรรมชาติ) ,Pseudo-Incest(ความสัมพันธ์เชิงชู้สาวระหว่างบุคคลในครอบครัวเดียวกันที่ไม่ใช่สายเลือดเดียวกัน) ,Obsessive Behavior(พฤติกรรมการหลงใหลในบางคนหรือบางอย่างอย่างมาก) ,Tsundere(ตัวละครปากไม่ตรงกับใจ)

    อาจจะพบเห็น :: Profanity(คำหยาบคาย) ,Stalking(สะกดรอยตาม) ,Underage(มีความสัมพันธ์กันคนที่อายุต่ำกว่าเกณฑ์)  ,Violent(การใช้ความรุนแรง) ,Blood(เลือด) ,Bullying(การบูลลี่) ,Cutting(ใช้ของมีคม) ,Gun(มีการใช้ปืน)

     

    Genre : Canon Divergence ,Romance ,Fluff or Tooth-Rotting Fluff

     

    *ในส่วนของ NC ยังไม่มีการวางแผนอย่างแน่ชัดว่าจะจัดทำขึ้นหรือไม่ หากมีการเปลี่ยนแปลงจะแจ้งเพิ่มเติม

     


     

    แฟนฟิคนี้ถูกจัดทำขึ้นเพื่อสนองความต้องการเขียนของเจ้าของฟิค ไม่ได้ตั้งใจล้อเลียน ลบหลู่ หรือบิดเบือนต้นฉบับแต่อย่างใด — ขอบคุณต้นฉบับของคุณ JK ด้วยค่ะ

    เนื้อหาอาจมีการรวบรัดตัดตอนไปบ้าง เพราะความอยากให้ถึงฉากที่ผู้เขียนต้องการบรรยาย หวังว่าทุกคนจะเข้าใจเนื้อหาที่จะสื่อและสนุกไปกับมัน

    ยังไม่มีการแก้ไขคำผิดหรือรีไรท์ตลอดทั้งเรื่อง

    เครดิต : ขอบคุณรูปภาพทุกรูปจาก Google and Pinterest 

    เปิดเรื่องอย่างเป็นทางการ : 8/1/2566

    ปิดเรื่อง : ??/??/????

     

    ปล.

    ฟิคนี้เป็นแฟนฟิคสั้น ๆแบบสั้น ๆจริงๆ เพราะกลัวว่าจะหมดไฟในการเขียนไปซะก่อน จึงมีความตั้งใจจะเขียนเพียงสิบกว่าตอนเท่านั้น(หรืออาจน้อยกว่า) คนเขียนอาจหายหน้าหายตาไป หรืออาจเก็บดองก็ต้องขอประทานอภัย ณ ที่นี้ด้วย

    สปอยเนื้อหาบางส่วน

    สำหรับคนที่อยากเห็นพี่ทอมคลั่งรักแบบ ‘คลั่ง’ ถึงขั้นหลงใหลก็เชิญชวนเข้ามาเต็มที่ เพราะงานนี้พี่ทอม(หรือควรเป็นน้องนะ เพราะอ่อนกว่ามาก) ต้องสู้ชีวิตอยู่พอตัว

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น