คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : กระดานที่ 1: Chess
กระดานที่ 1
เซราห์ไม่รู้ตัวเลยว่ากำลังเฝ้าวนเวียนอยู่ในความคิดของตัวเองตลอดเวลา
“นี่เซราห์! ถ้าจะเหม่อตอนกำลังผสมสารเคมีอยู่ละก็ ครูขอแนะนำให้วางเดี๋ยวนี้!!” คุณครูวิชาเคมีพูดเสียงดังอย่างไม่พอใจจนเซราห์สะดุ้งโหยงเผลอทำกรดหกบนโต๊ะ
“จัดการเดี๋ยวนี้!!!!!”
“ขอโทษนะเพื่อนๆ...” เซราห์ขอโทษเพื่อนอย่างหมดแรงหลังจากช่วยเพื่อนยกโต๊ะตัวใหม่เข้ามาในห้องเคมี กรดที่เธอทำหกนั่นไม่ใช่น้อยๆ มันทำให้โต๊ะพังไปครึ่งแถบแถมด้วยคะแนนหายไปครึ่งหนึ่งทั้งกลุ่มสำหรับการทดลองครั้งนี้ ถึงแม้ว่าทุกคนจะบอกว่าไม่เป็นไร แต่คิ้วที่ย่นเข้าหากันบอกความรู้สึกได้เป็นอย่างดี
“เอาเถอะนะ อย่างน้อยๆมันก็ไม่ได้ทำให้ใครบาดเจ็บ” เนียร์ปลอบ เธอกับพอลไม่ถือโกรธเธอเรื่องนี้เลย “แต่ก็นะ วันหลังก็ระวังด้วยละ อย่ามัวแต่เหม่อนา~” เนียร์เอาแก้มนุ่มๆถูไถเพื่อนสาวแล้วกอดแน่น
“แล้วเหม่อถึงอะไรละ” พอลถาม พยายามทำเป็นไม่สนใจเพราะหนุ่มๆเริ่มมองมาทางสองสาว เนียร์ ถึงจะมีนิสัยแปลก เป็นคนโผงผางแต่เธอก็น่ารักใช่เล่น ตาโตสีน้ำตาล ผมสั้นยักโศกสีน้ำตาลอ่อนผิวคล้ำน้อยๆเพราะชอบเล่นกีฬา ดูเหมือนตุ๊กตาอย่างไงอย่างนั้น เซราห์ก็เหมือนกัน ใบหน้ากลมน่ารัก ดวงตาสีดำเข้ม ผมยาวระบ่าสีน้ำตาลแดงกับผิวขาวใส เมื่อสองสาวที่เกือบจะเหมือนแต่ไม่เหมือนมากอดรัดกันอยู่อย่างนี้ ถึงจะเป็นพอลที่เป็นเพื่อนกันมาสิบปีก็ยังมีอาการหน้าร้อนหน่อยๆยังไม่ชินกับการที่สองสาวมานัวเนียตรงหน้า ถึงจะเห็นมาเป็นนานแล้วก็เถอะ
“นั่นสิ เหม่อถึงอะไรหรอ?” เนียร์เริ่มสงสัย แต่ยังไม่ทันได้ตอบ สมองของเด็กสาวก็คิดคำตอบได้ก่อนคนถูกถาม “หรือว่าคิดถึงหนุ่ม!! ไม่ได้นะ! เซราห์ต้องอยู่กับเรานะ!!” เนียร์ทำท่าเหมือนจะร้องไห้โอเวอร์
“หรือว่าเป็นเพราะพอล...” เนียร์หันไปหาแพะตัวสำคัญ พอลสะดุ้งก่อนจะโดนเนียร์คว้าคอไว้ “เพราะนายใช่ไหม...” เธอพูดเสียงเหี้ยม ไม่ปล่อยให้เขาพูดอะไรเลย
“นี่! เนียร์ ไม่ใช่อย่างนั้นซะหน่อยนะ ฉันคิดเรื่องอื่นต่างหาก!”
“งั้นหรอ” เนียร์ปล่อยเสื้อพอล แต่สายตายังอำมหิตอยู่ “งั้นช่างเถอะ~” เธอว่า พอลถอนหายใจแล้วยิ้มขอบคุณเซราห์ ในความคิดของเด็กสาว พอลก็มีเสน่ห์เหมือนกัน ใบหน้านิ่งๆที่ดูใจดีเข้ากับตาสีดำธรรมชาติกับนิสัยโอบอ้อมอารีและอ่อนโยนแบบเขา สาวๆที่ไหนก็ชอบ แต่สำหรับเซราห์ ถึงแม้ว่าเขาจะเคยสารภาพรักด้วย ยังไงเธอก็ยังชอบเขาในฐานะเพื่อนอยู่ดี ทั้งหมดกลับมาที่ห้องและยึดที่นั่งตัวเองนั่งหันหน้าหากัน
“แล้วอะไรละที่เธอคิดถึงอยู่” เนียร์กลับมาเรื่องเดิม เซราห์ล้วงเข้าไปในกระเป๋าแล้วหยิบกุหลาบออกมา
“เอ๋?” เพื่อนทั้งสองดูจะแปลกใจไม่น้อยกับกุหลาบสีขาวที่ถูกย้อมสีขาวอย่างลวกๆ กลีบหลายกลีบยังมีสีทาไม่ทั่วและบางที่ก็มีรอยสีที่ไหลลงมาทับกันเป็นคลื่นด้วย ทว่ากลิ่นหอมของมันก็ยังลอยแตะจมูกบางๆแม้ส่วนบนจะโดนย้อมไปแล้วก็ตาม
“มีแมวตัวหนึ่งให้มาน่ะ” เซราห์ตอบสายตาถามไถ่ของเพื่อนทั้งสอง ทำให้ยิ่งงงกันไปใหญ่
“มันเป็นแมวจริงนะ! เป็นแมวแบบเจ้าเหมียวน่ะ ตัวสีดำตัวใหญ่ๆ ใหญ่มากเลย! ใหญ่กว่าคนอีก แล้วก็ใส่ชุดเหมือนพระราชาด้วยละ มีมงกุฎด้วย!” เซราห์อธิบายอย่างรวดเร็วยกมือไม้วาดรูปกลมๆในอากาศ
“เซราห์... เธออ่านนิยายมากไปแล้ว” เนียร์ว่า แล้วดึงมือเพื่อนลงก่อนจะจิ้มตาเธอ “เมื่อวานนอนดึกน่ะสิ” เธอเอ็ดเพื่อนสาว เซราห์ร้องเสียงสูง
“เปล่านะ! จริงๆนะ!” เซราห์ร้อง จนกุหลาบในมือจะร่วงแหล่ไม่ร่วงแหล่ เนียร์คว้ามันไว้ก่อนที่มันจะหลุดจากมือแล้วเธอสะดุ้งปล่อยมันตกลงพื้นเสียงเอง
“อะไรหรอ” เซราห์มองเพื่อนสาวที่ดูดนิ้วตัวเอง
“เปล่าน่ะ แค่หนามตำ” เนียร์บอกปัดๆ แล้วสลัดมือไล่ความเจ็บปวด “พอลเก็บมาทีสิ” เธอสั่ง พอลทำตามอย่างว่างาย เขาเอื้อมมือไปแตะกุหลาบก่อนจะเสียหลักหงายท้องล้มโครมเสียงดังลั่นจนเพื่อนในห้องหันมามองอย่างสงสัย
“ขะ... ขอโทษ... อ๊ะ! นี่!” เขาคีบกุหลาบโยนส่งให้เซราห์ที่แบมือรอ พอดีกับที่ออดดังขึ้นและครูของพวกเขาเข้ามาพอดี
“อ้อ! วันนี้อย่าไปไหนนะ เดี๋ยวฉันจะพาไปที่สนุกๆ” เนียร์รีบบอกเพื่อนแล้วไหลลงจากเก้าอี้รีบเดินไปที่นั่งของตัวเอง
“ตะ... แต่วันนี้ฉันเป็นเวรนะ!” เซราห์แย้ง
“แต่เธอทำฉันบาดเจ็บ! อย่าเถียงนะ!” เนียร์พูดเสียงเฉียบขาด และแน่นอนว่าเซราห์ได้แต่เงียบ
ต้องโดดเวรอีกแล้ว...
หลังจากที่ให้อิทธิพลที่ไม่เคยมีในตัวของเนียร์จัดการพาเซราห์ออกมาได้โดยไม่ต้องทำเวร ทั้งสามคนก็ต้องเดินขาแข็งเกือบชั่วโมงเนื่องจากฝนตก รถติด แท็กซี่ไปไม่ได้เผื่อไปให้ถึงร้านอะไรซักอย่างของเนียร์
“ฉันก็จำไม่ได้หรอกนะว่ามันชื่อร้านว่าอะไร แต่มันเป็นร้านที่น่ารักมากเลยละ” เธอบอกเซราห์ พาเพื่อนสาวเดินหลบสายน้ำจากกันสาดและรางน้ำด้านบนเลาะไปเรื่อยๆริมตึก ชุดทั้งสามคนชื้นและหนาวสั่นจนเซราห์ต้องถูมือตัวเองเพิ่มความอบอุ่นทำให้เดินได้ช้าลง ส่วนเพื่อนทั้งสองยังเฉยๆ สำหรับเนียร์คงเป็นเรื่องของร่างกายที่แข็งแรง แต่ของพอลคงเป็นเพราะไม่อยากโดนเนียร์เล่นงานฐานเป็นตัวถ่วงแบบทุกครั้งแน่เลย
“เอาละถึงแล้ว!” เนียร์บอกทุกคน เซราห์เงยหน้าขึ้นมองร้านตรงหน้า ป้ายสีเหลืองจางๆที่เขียนไว้ว่า ‘8 16
แต่ร้านอะไรหนอที่ทำให้เนียร์กับพอลมาบ่อยๆ ในเมื่อสองคนนี้ชอบอะไรต่างกันสุดๆด้วยสิ
กริ๊ง~!!
“สวัสดีค่ะ” เสียงพนักงานตอนรับสาวในชุดคอสเพลย์เมดสีน้ำเงินดังขึ้นเมื่อทั้งสามเข้ามาในร้าน “เสื้อนอกที่เปียกถอดแขวนไว้ที่ไม้แขวนได้นะคะ ส่วนกระเป๋าฝากไว้ข้างๆกันนี่เลยนะคะ” เธอบอก ทั้งสามทำตาม ถอดเสื้อนอกสีน้ำเงินเข้มไปแขวนไว้ ฝากกระเป๋าไว้ในช่องวางกระเป๋าเล็กๆข้างกันก่อนจะเปลี่ยนร้องเท้าเป็นรองเท้าแตะขนปุยน่ารักเข้าไปในร้าน
ในร้านช่างอบอุ่นไม่หนาวเหน็บเหมือนด้านนอก แสงไฟจากโคมไฟบนพนังเพียงสามดวงไม่น่าเชื่อว่าจะทำให้ร้านใหญ่ๆสามารถสว่างไสวได้ขนาดนี้ ทุกอย่างดูสะอาดตาด้วยสีอ่อน ตู้โชว์ขนาดเล็กวางเรียงกันที่ด้านขวาโชว์เครื่องประดับจำพวกเข็มกลัดและจี้เล็กๆ ส่วนบริเวณกลางร้านจะเป็นตู้กระจกขนาดใหญ่โชว์เครื่องประดับสวยงาม และอีกฝั่งของร้านก็เต็มไปด้วยตุ๊กตาทั้งตัวเล็กตัวใหญ่วางอย่างไม่ค่อยเป็นระเบียบ จุดนี้จะมีผู้คนมากที่สุด และเกือบทั้งหมดจะเป็นสาวๆ
มันทำให้รู้สึกแปลกๆที่ว่าพอลเคยเข้ามาในร้านนี้ด้วยงั้นหรือ?
“น่ารักใช่ไหมล่า~” เนียร์ยิ้มแป้น “ร้านเนี้ยฉันกับพอลเจอเมื่อสี่ห้าเดือนที่แล้ว เป็นร้านที่ดีมากๆเลยละ” เธอบอกขณะเดินนำเพื่อนไปยังเคาน์เตอร์
“แล้ว... พาฉันมาทำไมหรอ?” เซราห์ยังไม่รู้จุดประสงค์ แต่เนียร์ไม่สนใจเธอเดินเข้าไปทักทายพนักงานด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “สวัสดีค่ะ~”
“สวัสดีค่ะคุณเนียร์ คุณพอล” พนักงานสาวในชุดเมดสีดำกล่าวทักทายเสียงใส ก่อนจะมองเป็นเชิงถามมาที่เซราห์
“นี่เพื่อนของเราเองค่ะ ชื่อ เซราห์” เนียร์แนะนำ เซราห์ยิ้มประหม่า พนักงานสาวมองเธออย่างพินิจก่อนจะยิ้มแล้วโค้งให้
“เราขอพาเพื่อนของเราเข้าไปด้วยได้ไหมคะ?” เธอยิ้มกว้าง พนักงานสาวเลิกคิ้วมองเซราห์เหมือนไม่อยากตอบรับเท่าไหร่ เซราห์ขยับหลบมุม แต่เนียร์ลากเธอออกมาแล้วล้วงเข้าไปในกระเป๋า เซราห์ตกใจเผลอร้องออกมา เนียร์คว้านหาแปบเดียวก็เอากุหลาบสีขาวย้อมสีออกมา มือของเธอสั่นนิดๆ
“เชิญเลยค่ะ” อยู่ๆพนักงานสาวก็ยิ้มกว้างแล้วผายมือไปทางประตูข้างเคาน์เตอร์ บนนั้นแปะป้ายไว้ว่า ‘เฉพาะผู้เกี่ยวข้องเท่านั้น!’
“นะ... เนียร์! นี่มัน ”
“เอาน่าๆ ถือไว้นะ” เธอยัดกุหลาบใส่มือเซราห์แล้วลากเพื่อนสาวเข้าไปในห้องที่มืดมิด พอลตามหลังมาพร้อมแท่งแก้วในมือ เขาเข้ามาคลำๆพนังห้องที่แคบมาก แคบจนไม่น่าจะเป็นห้องเพราะมันยืนกันได้น่าจะประมาณแปดเก้าคนเท่านั้น พอลคลำจนเจออะไรบางอย่างแล้วไฟก็สว่างทำให้เห็นสภาพห้องอย่างชัดเจน แล้วก็ได้รู้ว่ามันเป็นลิฟต์ ไม่ใช่ห้อง ตรงแผงข้างประตูที่น่าจะเป็นปุ่มกดชั้นกลับเป็นเพียงช่องให้สอดอะไรเข้าไป พอลสอดแท่งแก้วเข้าไป
“เนียร์...” เซราห์คราง แต่เนียร์ส่งเสียงให้เงียบแล้วยืนรอขณะที่ลิฟต์เลื่อนลงมาเรื่อยๆ
‘ขอต้อนรับสู่ Pumpkin’s Head ค่ะ’
“ถึงแล้วละเซราห์” เนียร์ยิ้มกว้างแล้วก้าวออกไปนอกลิฟต์
สถานที่แห่งใหม่นี้ทำให้เซราห์ต้องอ้าปากค้าง จากร้านขายจองน่ารักๆกลายมาเป็นห้องโถงใต้ดินขนาดใหญ่ที่แลดูคล้ายกับเป็นโดมยักษ์ เบื้องหน้าเป็นม้านั่งสีขาวเรียกต่อกันยาวทั้งสองข้างของเคาน์เตอร์กลมตรงกลางห้อง ไกลออกไปลิบๆทางที่ผู้คนเดินไปเดินมา ที่นั่นมีจอขนาดยักษ์อยู่ แต่เซราห์ไม่ทันได้เห็นนาน เพราะเนียร์ลากเธอไปที่เคาน์เตอร์แล้ว
“สวัสดีค่ะ” หญิงสาวในชุดเมดหูสุนัขกล่าวด้วยรอยยิ้มเมื่อทั้งหมดเข้าไปหา “ทางเกทที่หนึ่งได้แจ้งมาแล้วว่ามีผู้ครอบครอง ‘เศษเสี้ยว’ ได้ลงมาที่นี่ ใช่เพื่อนของคุณหรือเปล่าคะ?”
“อ้อ! ค่ะ!” เนียร์ยิ้มแล้วดึงเซราห์ไปอยู่ตรงหน้าเธอ “ส่งกุหลาบให้เขาสิ” เธอสั่ง เซราห์ทำตาม วางกุหลาบลงบนเคาน์เตอร์ เมดสาวกดปุ่มหลังเคาเตอร์ แล้วกุหลาบก็สลายไปกลายมาเป็นบัตรเล็กๆสีแดงหนึ่งใบ
‘สวัสดีครับเหล่าผู้เชื่อมต่อทุกท่าน! ขอต้อนรับสู่ส่วนขวา Gourd and Pumpkin’s garden ครับผม!!’ เสียงของชายหนุ่มอารมณ์ดีดังขึ้นทั่วห้องโถง เซราห์เงยหน้าขึ้น แล้วก็ตกใจเมื่อเห็นหมูบินแบกโทรโข่งบินผ่านไป
‘วันนี้อากาศไม่ดีเลยนะครับ ฝนตกตั้งแต่กลางวันเลย แต่ไม่เป็นไรครับ เราอยู่ใต้ดิน รับรองฝนไม่ซึมมาแน่’ มีเสียงหัวเราะคิกคักมาจากกลุ่มเด็กสาวกลุ่มหนึ่ง เซราห์สังเกตเห็นว่ามีสองคนที่เธอเคยเห็นก่อนจะเข้ามาในร้านอยู่ในกลุ่มนั้นด้วย ‘และแน่นอน! คืนนี้ได้มีการท้าแข่งจากผู้เชื่อมต่อท่านหนึ่ง เขาขอท้าแข่งกับผู้เชื่อมต่อ เนียร่า เฟรีส ครับผม!!’
‘ไม่ทราบว่าท่านผู้นั้นอยู่ในนี้หรือเปล่าเอ่ย?’
“เนียร์ เค้าเรียกเธอแน่ะ” พอลบอก มองหมูน้อยบินวนไปวนมาเหนือหัวเหมือนจะรู้ว่าคนที่เอ่ยถึงอยู่ใกล้ๆ “จะไปแข่งไหม?”
“อืม... อีกกี่นาทีจะเชื่อมต่อกับ ‘ดินแดน’ คะ?” เนียร์หันไปถามพนักงาน
“อีกยี่สิบนาทีจะมีการติดต่อกับดินแดนค่ะ” เมดสาวรายงาน เนียร์พยักหน้าก่อนจะหยิบอะไรบางอย่างจากกระเป๋าเสื้อออกมาเหนือหัว
ตัวหมากรุก?
“เนียร่า เฟรีส ระดับ Gold Linker ขอรับคำท้าค่ะ!!”
‘โอ้!! เธออยู่นี่เองครับ!! และรับคำท้าด้วย!!’ เจ้าหมูบินขยับปีกบินขึ้นลงก่อนจะโฉบไปที่ทางเดินใหญ่
‘หากเช่นนั้นเชิญที่สนามแข่งได้เลยครับ!!’
“ไปกันเซราห์!” เนียร์ยิ้มกว้างแล้วจูงมือเธอ
“ดะ... เดี๋ยวสิ! นี่มันอะไรกัน ที่นี่...”
“เอาน่าๆ ตามมาแล้วเธอจะชอบ” เนียร์ยิ้มกว้างลากเพื่อนสาวลัดเลาะผู้คนไปตามทางเดินกว้างใหญ่ จุดหมายคือจอขนาดใหญ่อีกฝั่ง ยิ่งเดินเข้าใกล้ คนยิ่งเยอะ และยิ่งเข้าใกล้เธอก็รู้ว่ามันไม่ใช่จอยักษ์
“ไนท์ G8 ไป F5 กินเบี้ย!!”
“บิชอพ A7 ไป A2 ใช้ความสามารถ!!”
เสียงเชียร์ของคนดูที่เกาะกันอยู่ริมราวกั้นเหล็กดังกระหึ่มเมื่อนักบวชสีขาวตวงคทาส่องแสงวาป เซราห์เงยหน้าขึ้นมองตามสัญชาตญาณ สิ่งที่เธอนึกว่าเป็นจอขนาดใหญ่ จริงๆแล้วเป็นก้อนน้ำขนาดยักษ์ลอยเด่นอยู่กลางหลุมลึกที่เว้นวางไว้ตรงกลางโดม ทางเดินกว้างที่เซราห์เดินมานั้นก็เป็นหนึ่งในสี่เส้นทางที่กระจายออกจากวงแหวนทางเดินนี้ เกิดแสงวาบอีกครั้งดึงให้เซราห์ละสายตากลับมาที่เดิม ภาพเปลี่ยนไปเป็นกระดานหมากรุก นักบวชขาวที่ควงคทาเมื่อครู่ค่อยๆหย่อนมันลงบนพื้น รอบกายของเขามีแสงระยิบระยับและร่างที่กำลังเลือนหายไปของนักรบหนุ่มบนหลังม้า
“ไนท์ตนที่สองโดนทำลายไปแล้วละครับ คุ้มจริงๆสำหรับเบี้ยหนึ่งตัว แต่ก็ไม่แน่หรอกครับ...”
เซราห์มึนไปหมดที่เธอเห็นเมื่อกี้มันตารางหมากรุกแล้วทำไม...ทำไมมีคนอยู่บนตารางได้ละ?
“นี่คือเชส หมากรุกของผู้วิเศษยังไงละ” พอลบอกด้วยรอยยิ้มก่อนที่เนียร์จะทันได้ส่งเสียง ทำให้โดนต่อยเข้าหน้าไปตามระเบียบ
“หมากรุก...” เซราห์ยังคงไม่ละสายตาไปจากการต่อสู้ ลูกบอลน้ำซูมภาพออกทำให้เห็นทั้งกระดานอย่างชัดเจน ที่ปลายสุดของกระดานทั้งสองข้างมีเด็กหนุ่มและเด็กหญิงยืนหันหน้าเข้าหากระดาน ใบหน้าคนหนึ่งครุ่นคิด ส่วนอีกคนยิ้มย่อง
“เชรียต!! รุกฆาต!!!”
เฮ!!!
เสียงเชียร์ดังกระหึ่มอีกหนเมื่ออยู่ๆฝ่ายที่ยอมแลกม้ากับเบี้ยก็กลับพลิกสถานการณ์มาชนะได้ เด็กสาวคนนั้นชูมือขึ้นกระโดดแสดงความดีใจส่วนอีกคนถึงกับทรุดลงไปนั่งบนพื้น
“ผลหมากกระดานนี้ คุณซิลเวียเป็นฝ่ายชนะ!!!”
เสียงประกาศชัยชนะปลุกเสียงเฮสั่นอีกหนจนเซราห์สะดุ้ง เหล่าตัวหมากที่อยู่ในสนามเมื่อผลประกาศออกมาต่างก็เดินกลับไปหาเจ้าของ
นี่หมากรุกงั้นหรอ...
“วะ... ว่ายังไงนะคะ!! แข่งเลยหรอคะ!!!” เนียร์ตะโกนเสียงดังเมื่อไปถึงเคาน์เตอร์แบทเทิลโซน ส่วนนี้จะอยู่ในโดม Dark Witch ซึ่งจะรวมห้องดวลหมากไว้ล้วนๆ เนียร์ชะโงกหน้าเข้าไปมองจอคอมพิวเตอร์เพื่อดูเวลาดวล แล้วก็พบมาเวลาดวลของเธอกับเวลาเลือกเชสของเซราห์ตรงกันพอดี
“ไม่เป็นไรหรอกเนียร์ เดี๋ยวฉันไปกับพอลก็ได้” เซราห์บอกเพื่อนสาว เนียร์กัดริมฝีปากหันมามองหน้าตาเหมือนคนร้องไห้แล้วก็โผกอดเซราห์
“ก็แหม!! เค้าอยากเห็นเซราห์ตอนเข้าไปในดินแดนนี่น่า แง~!” เนียร์งอแงไม่มีน้ำตาสักหยดจนคนข้างๆหันมามอง “แต่ก็ช่างเถอะ เดี๋ยวขอผู้คุมเอาก็ได้” เธอว่าแล้วหันไปหาพอล
“ถ้าพาเซราห์ของฉันหลงทางหรือไปไม่ทันละก็ นายตายแน่!!!” เนียร์ข่มขู่ และอีกเช่นเคยที่พอลไม่มีการโต้ตอบใดๆ
“งั้นเดี๋ยวจะรีบชนะตามไปนะ!!” เนียร์บอกเพื่อนทั้งสอง คำพูดที่ดูถือดีเล่นเอาคู่ต่อสู้หนังตากระตุกอย่างไม่พอใจ แต่เนียร์ก็ไม่คิดจะสังเกต
“ไปเถอะ” พอลเอ่ย แล้วทั้งคู่ก็เดินออกมาจากแบทเทิลโซน
“แล้ว... เขาจะเลือกหมากรุกให้เรายังไงหรอ....” เซราห์ถามพอลรู้สึกประหม่าเล็กน้อยขณะเดินไปตามเส้นทางสู่โดมที่สาม Nightmare จากชื่อที่ฟังดูน่ากลัวๆแล้ว คำตอบของพอลยิ่งทำให้มันน่ากลัวเปลี่ยนความรู้สึกจากประหม่าไปเป็นกลัวแทน
“เธอต้องเข้าไปในดินแดน แล้วเผชิญหน้ากับเหล่าเชส ดูว่าจะรับมือกับพวกมันได้หรือไม่” เขาว่า ท่าทางสบายๆ
แต่เซราห์รู้สึกไม่ดีเลยกับคำว่ารับมือ...
“แล้วพอลจะไปด้วยกันไหม...” เธอถามต่อ ตอนนี้ทั้งสองเข้าไปลึกมากแล้วและพบว่าคนบางส่วนรอบลูกบอลน้ำหลั่งไหลเข้ามาที่นี่กันพอสมควร
“ไม่ได้หรอก ฉันมีเชสแล้ว” พอลบอก ทำเอาเซราห์หัวใจหล่นวูบ “แต่ว่า เธอน่ะจะได้เข้าไปพร้อมกับว่าที่ผู้เชื่อมต่อคนอื่นๆด้วย ไม่ได้เข้าคนเดียวหรอก มันอันตราย”
‘มันอันตราย’ ทำให้เธอรู้สึกแย่อีกครั้ง
“ขอต้อนรับทุกท่านค่ะ! เข้าสู่เกทประตูแห่ง ‘ดินแดน’ เพื่อรับเหล่าขุนพลของตนเองค่ะ!!” พิธีกรสาวในชุดเมดแบบเดิมกล่าวใส่ไมค์เสียงดัง เธอแตกต่างจากคนอื่นหน่อยๆตรงที่ไม่ได้ใส่หูหางสุนัข แต่ใส่ปีกแทน “ขอให้ว่าที่ผู้เชื่อมต่อรีบเข้ามาเลยนะคะ ส่วนผู้เชื่อมต่อท่านอื่นๆกรุณาหลบๆไปอยู่หลังราวกั้นด้วยนะคะ เพื่อความปลอดภัยของตัวท่านเองจากความตื่นเต้นที่จะเริ่มในไม่ช้านี่แล้วละคะ!!!”
“ไปตรงลานนั่นเลยเซราห์ แล้วทำตามที่เขาบอก” พอลบอกเพื่อนสาวแล้วดันเธอขึ้นไปสู่เวที
เซราห์เซถลาเกือบล้มเมื่ออยู่ๆพอลก็ผลักเธอขึ้นมา เวทีกลมเตี้ยสีขาวหน้าม่านน้ำขนาดใหญ่ช่างดูน่ากลัวนักเมื่อยืนอยู่ข้างบนนี้ มันเหมือนกับว่าเวทีนี้ขยายออกไปเพื่อรับคนเรื่อยๆ จากตรงนี้เธอได้เห็นว่าว่าที่ผู้เชื่อมต่อนี้เยอะแค่ไหน ตั้งหกคนแน่ะ
“เอาละ พิธีกรพร้อม! เกทพร้อม! ว่าที่ผู้เชื่อมต่อพร้อม! งั้นเปิดประตูกันเลยนะคะ!!”
“อะไรนะ!” เซราห์ (และว่าที่ผู้เชื่อมต่อทุกคน) สะดุ้ง นี่ยังไม่ได้พูดบอกอะไรเลยจะ (ถีบ) ส่งกันไปแล้วหรอ!!
กึ่ง!!
อยู่ๆพื้นข้างตัวของเซราห์ก็สั่นแล้วประตูไม้ก็เด้งออกมาลอยเด่นอยู่ตรงหน้าเด็กสาว เซราห์ผงะเกือบร้องกรี๊ด แต่ยังไม่ได้ทันพูดอะไรประตูก็เปิดออก แล้วเงาดำรูปร่างเหมือนเชือกก็พุ่งเข้ามารัดตัวเธอก่อนจะกระชากเธอเข้าไป
ม่านน้ำที่เป็นสีใส บัดนี้ปรากฏออกมาเป็นภาพ
“ได้เวลาแอบดูแล้วค่ะ!”
เงียบ... และหนาว... คือสิ่งที่เซราห์รับรู้...
ต่อมาก็คือแสงสว่างและความอบอุ่น...
พื้นดิน...
เซราห์ลืมตาขึ้นอีกครั้ง อารามตกใจเมื่อครู่ทำให้เธอผงะล้มลงนั่งบนพื้น ดวงตาของเธอเบิกกว้างตกใจกลัว แต่เมื่อพบว่าพื้นดินคือพื้นหญ้า รอบกายเป็นต้นไม้ และที่บินไปบินมาข้างหัวเป็นผีเสื้อเธอก็คลายใจค่อยๆลุกขึ้นยืน
ที่ไหน... คำถามแรกในสมอง เซราห์เหลียวซ้ายแลขวามองหาว่าที่คนอื่นๆ แต่ไม่มีใครเลย รอบกายเธอมีแต่ต้นไม้และธรรมชาติอันแสนสดชื่น เหมือนป่าในนิทานเลย
แซ่ก!!
อะไรบางอย่างกระโจนออกจากพุ่มไม้ด้านหลังของเด็กสาวหนีไปหลบอยู่หลังต้นไม้ใหญ่ เซราห์สะดุ้งเฮือกหันขวับมาประจันหน้ากับสิ่งต้องสงสัย
บางส่วนของมันยื่นออกมา เป็นปุยๆขาวๆ...
ปุยๆขาวๆ = นุ่มนิ่ม
นุ่มนิ่ม = น่ารัก
น่ารัก = ไม่อันตราย
เซราห์ตัดสินใจสืบเท้าเข้าไปหามันทันที
ดึ๋ง~! ตุบ!!
อะไรบางอย่างนิ่มๆเด้งเข้าหาเธอ เซราห์รับมันไว้ได้เหมาะเจาะ
“เอ๊ะ!” เซราห์มองดูเจ้าตัวปริศนาที่ตอนนี้กำลังซุกไซ้เธออยู่ก่อนจะเงยหน้ามาสบตากับเธอ มันเป็นกระต่ายสีขาวที่สวมชุดสีดำหนาตัดกับสีขนนุ่มนิ่มของมัน ดวงตาโตๆสีนิลเรียวเหมือนเมล็ดข้าวสะท้อนใบหน้าของเซราห์ในดวงตาคู่นั้น มันช่างน่ารักเหลือเกิน
“นี่แน่ะๆ!!” เซราห์เอานิ้วจิ้มหน้าผากมัน เจ้ากระต่ายหลับตาปี๋แล้วเอามือลูบหัวลูบหูแล้วขดตัวกลม ท่าทางของมันทำให้เซราห์นึกมันเขี้ยวอยากกอดแรงๆขึ้นมาเลยทีเดียว
ติ๊กๆๆๆๆๆๆๆๆๆ
เสียงนาฬิกาเดินถี่ๆดังออกมาจากเสื้อของเจ้ากระต่าย แล้วนาฬิกาพกแบบแขวนคอก็เด้งออกมาจากเสื้อของมันมาอยู่ในมือเจ้ากระต่าย มันลองอยู่สักพักก็สะดุ้งก่อนจะกระตุกเสื้อเซราห์แล้วกระโดดลงวิ่งนำเข้าไปในป่า
“อะ... อ้าว! เดี๋ยวสิ!!” เซราห์ตามมันไป เจ้ากระต่ายน้อยวิ่งเร็วมาก เร็วจนเธอเกือบตามไม่ทัน
“เดี๋ยวสิ!! รอด้วย!! ทำไมต้องวิ่งด้วยละ!!” เซราห์ตะโกน กระโดดข้ามรากไม้บนพื้นตามเจ้ากระต่าย ไม่นานมันก็หยุด แต่หยุดเหมือนรอ
“เจ้ากระต่าย แฮ่ก... รอ...”
หมับ!!!
“กรี๊ด!!!!” เซราห์ร้องเสียงหลงเมื่ออยู่ๆอะไรเถาวัลย์ก็เข้ามารัดตัวเธอจากด้านหลัง ดึงเธอถอยครูดไปกับพื้นก่อนจะถูกกระชากขึ้นฟ้าแล้วลอยลงมาอยู่ในดอกกุหลาบอย่างเหมาะเจาะ
“ได้ตัวท่านแล้ว” เสียงของเด็กสาวดังขึ้นข้างๆเซราห์ แล้วตรงกลางดอกกุหลาบก็นูนออกเป็นกุหลาบอีกดอกหนึ่งก่อนจะค่อยๆบานออกเผยให้เห็นร่างเปลือยเปล่าของเด็กสาวผมสีแดงเพลิงในดอกกุหลาบ “ฉันไม่ยกท่านผู้นี้ให้เจ้าหรอกนะ ไวท์แรทบิท!” เด็กสาวตะโกนชี้ไปที่เจ้ากระต่ายด้วยท่าทีของผู้ชนะ
แต่แล้ว ขณะที่เธอกำลังเย้ยหยันกระต่ายน้อย เปลวเพลิงสีแดงฉานก็พุ่งมาจากด้านข้างอย่างรวดเร็ว ภูติสาวหันตามเสียง ดวงตาเบิกกว้างแล้วเบี่ยงดอกไม้หลบได้อย่างหวุดหวิด
“ฮึ... ข้าเองก็ไม่ปล่อยให้อยู่ในมือเจ้าเช่นกัน...” เสียงทุ้มต่ำของผู้มาเยือนอีกคนดังลอดมาจากแนวป่า แล้วอยู่ๆพื้นก็สั่นสะเทือนราวกับมีของขนาดใหญ่กำลังเคลื่อนที่ นกที่เกาะตามกิ่งไม้บินหนีขึ้นฟ้า สัตว์ป่าแตกตื่น ต้นไม้ล้มระเนระนาดต้อนรับการมาของมังกรเพลิง
“ท่านผู้นั้นข้าจะรับไปเอง...”
ที่ด้านนอก ม่านน้ำกำลังฉายภาพของว่าที่ผู้เชื่อมต่ออยู่
“แฮ่ก!... แฮ่ก!... โอ๊ย ขอโทษทีนะ ดันเจอเชสป้องกันเข้าเลยมาช้า” เนียร์บอกกับเพื่อนชาย มือของเธอกุมชายโครงที่จุกเพราะวิ่งมา “เซราห์ละ?”
“เพิ่งเข้าไปเอง” พอลบอก ขณะนี้ว่าที่ผู้เชื่อมต่อคนหนึ่งกำลังสนทนาธรรมกับตัวหมากอยู่
“ทำไมไม่ตัดภาพมาหาคนอื่นบ้างนะ!!” เนียร์โวยวายอย่างร้อนรน แล้วเหมือนจะได้ยิน ภาพบนม่านน้ำก็ตัดมาที่เซราห์พอดี “นั่นไง... กรี๊ด!!”
เนียร์เผลออุทานออกมาเสียงดัง แต่ว่าไม่ใช่แค่เธอเท่านั้น คนอื่นๆในบริเวณรอบๆเองก็อุทานออกมาเช่นกันก่อนที่เสียงฮือฮาจะเริ่มดังขึ้น
“โอ้ ไม่นะคะ!! ดูเหมือนว่าคุณเซราห์จะได้พบกับปัญหาใหญ่แล้วละคะ!!!” พิธีกรสาวรายงานด้วยเสียงแหลมสูง ประกอบกับภาพการต่อสู้บนม่านน้ำ
ตัวหมากเจ็ดตัวกำลังต่อสู้กันยื้อแย้งเซราห์...
“มันอะไรกันน่ะ!! ทำไมเชสถึงมารุมที่เซราห์คนเดียวละ!” เนียร์เอ่ยอย่างตกใจ คนอื่นๆรอบตัวเองก็พึมพำหัวข้อเดียวกับเธอเช่นกัน
แล้วไม่นานภาพการต่อสู้ก็ถูกฉายขึ้นสู่ก้อนน้ำกลางโดมใหญ่
เนื่องจากการขัดจังหวะการแข่งขันในช่วงที่กำลังผลัดกันรุกผลัดกันรับของหมากสองกระดาน สายทุกคู่จึงเงยหน้าขึ้นมองว่าอะไรนะที่สามารถมาขัดจังหวะการแข่งขันได้ แล้วเมื่อคำตอบเฉลยอยู่บนนั้น ทุกคนก็ลืมการแข่งขันเมื่อครู่ไปเสียสนิท
“ดูท่าจะมีเรื่องนะเนล ท่าทางแตกตื่นกันใหญ่เชียว” เสียงของเด็กสาวในชุดแซคสีขาวบางเบากล่าวกับเพื่อนที่อยู่อีกฝั่ง เนลเบนสายตาไปทางผู้คนที่พากันหลั่งไหลออกจากฟู้ดเซ็นเตอร์ คิ้วบางขมวดน้อยๆก่อนจะวางแก้วน้ำลงบนโต๊ะ
“ไปดูกัน”
หือ?
ใบหน้าของเด็กหนุ่มที่จมไปกับหนังสือโงออกมาจากสู่อากาศภายนอกได้อีกครั้งจากความวุ่นวายที่เกิดขึ้นใกล้ตัว
แล้วกรงเล็กๆที่เอวก็ขยับ...
“อยากดูหรอ...” เขาพึมพำ มองตามผู้คนที่เดินพูดกันอย่างตื่นเต้นและเร่งรีบไปด้วยท่าทีสงสัย “ฉันเองก็ว่าจะไปเหมือนกัน...”
“น่าหนวกหูชะมัดเลยพวกนี้!!”
เสียงร้องอย่างไม่พอใจของเด็กหนุ่มคนหนึ่งทำเอาสาวๆที่ตามเขาต้อยๆสะดุ้ง ดวงตาที่หรี่เล็กลงอย่างน่ากลัวส่งสัญญาณอันตรายจนพวกเธอต้องล้าถอย แล้วเด็กหนุ่มเจ้าอารมณ์ก็เดินไปยังลูกบอลน้ำตามทางเดินที่มีผู้คนแหวกทางให้เมื่อเขามาถึง เสียงกระซิบกระซาบอย่างตื่นเต้นดังขึ้นทันทีเมื่อเขาปรากฏตัว แต่มีอยู่หนึ่งคนที่ตื่นเต้นยิ่งกว่า ตื่นเต้นจนกลัวว่าหัวใจจะหลุดออกมาจากอกยังไงอย่างงั้นเลย ตัวเขานั่นเอง...
ตอนนี้ ผู้เชื่อมต่อและผู้ดูแลทุกคนต่างจับจ้องอยู่ที่ภาพใน ‘ดินแดน’
เซราห์เริ่มขวัญเสียกับการต่อสู้ ตอนแรกเธอเป็นเหมือนแก้วอันมีค่าที่ต้องการไปทั้งดวง แต่ตอนนี้ พวกตัวประหลาดต่างต่อสู้แย่งชิงเธอให้ได้มาแม้จะไม่สมบูรณ์เหมือนของที่ใช้แล้ว
“ชะ... ช่วยด้วย!!!” เซราห์กรีดร้องเป็นหนที่ที่เท่าไหร่แล้วไม่รู้ขณะวิ่งหนีเหล่าภูติผีนางพรายและสัตว์ร้ายในเทพนิยายอยู่กลางป่า เธอทั้งเหนื่อยหอบและขวัญเสีย นี่มันเรื่องอะไรกัน ทำไมเธอถึงต้องมาเจอเรื่องแบบนี้ด้วย
“เนียร์... พอล... พวกเธออยู่ไหน...” เซราห์สะอื้น หยุดหอบพักหายใจครู่หนึ่งแล้วออกวิ่ง แต่เวลาสั้นๆเพียงนาที เจ้าพวกหมากรุกก็จับเธอไว้ได้แล้ว
กรี๊ด!!!
“อยู่นี่เอง!! ข้าเจอแล้ว!!!” พ่อมดดำกล่าวอย่างดีใจเมื่อมือเน่าๆของซากศพโพล่ขึ้นมาจับขาของเซราห์ไว้ได้ เด็กสาวที่พยายามจะฝืนวิ่งล้มลงหน้าคะมำ เลือดในปากผสมกับน้ำลายจนเหนียวหนืดบอกให้รู้ว่าแผลนี้คงลึกไม่น้อย “เอาละ อย่าหนีเลยท่าน เรามาทำสัญญากันเถิด ”
มือของพ่อมดดำยื่นมาหาเซราห์ที่กำลังหวาดผวา... ไม่นะ... อย่าเข้ามานะ...
“เชเฌออยู่ไหน...”
“หือ?”
เปรี้ยง!!!
แรงอัดรุนแรงของมวลอากาศที่รวมกันเป็นลูกบอลพายุอัดเข้าท้องของพ่อมดดำเต็มๆ ส่งร่างผอมบางจนแทบไร้กระดูกให้ลอยละลิ่วไปชนโครมกับต้นไม้ด้านหลังจนล้มครืนทั้งต้น
“เชเฌอ...” เซราห์พูดชื่อเดิมอีกหนด้วยสติที่เลื่อนลอย “ไม่... กริฟฟอน...”
พั่บ!! ลมกรรโชกพัดเป็นเกลียวคลื่นเข้าล้อมตัวเซราห์ไว้ ปัดเป่ามือผีร้ายให้หลุดกระเด็นออกจากพื้นหายไปอย่างไร้ร่องรอย พร้อมกับการปรากฏตัวของกริฟฟินตัวใหญ่ยักษ์ข้างตัวเซราห์
“นะ... นี่มันอะไรกัน...” พ่อมดดำโงหัวออกมาจากซากไม้ที่ทับร่างของตน แต่ยังไม่ทันได้ยืน เหล่าเชสตัวอื่นๆก็โผล่มาบังเต็มจอหมดแล้ว
“อะ!!... กะ กริฟฟอน!!” เชสหลายตนเผลออุทานออกมาเมื่อตามเซราห์ได้ทัน บัดนี้สายตาของพวกมันไม่ได้อยู่ที่เด็กสาว แต่เป็นที่กริฟฟินตนนั้นต่างหาก
“เห? ตอนนี้อยู่ๆก็มีหมากมาช่วยคุณเซราห์แล้วละคะ!!!” เสียงพิธีกรสาวอุทานเสียงสูงเรียกอารมณ์ทุกคนในโดมได้เป็นอย่างดี
โดยเฉพาะกับกลุ่มคนกลุ่มหนึ่ง
เพราะบางสิ่งได้ปรากฏตัวต่อหน้าเขาแล้ว
เซราห์ที่ปวดระบมไปทั้งตัวโอนเอนพิงตัวกริฟฟินยักษ์อย่างอ่อนแรง เธอไม่รู้ตัวว่าพูดอะไรออกไป แต่ถ้าเธอจำไม่ผิด เธอรู้จักมัน
“ยะ... อย่าไปสนมัน! ยังไงซะเราก็ต้องได้ท่านเซราห์!” มังกรเพลิงหนุ่มคำรามแล้วโถมเข้าใส่เต็มกำลังก่อนใครเพื่อน
ผัวะ!!! แล้วมันก็โดนกระแทกสวนกลับไป...
ไม่ใช่ฝีมือกริฟฟอนแต่เป็นมังกร
“แจ๊บเบอร์วอค...” เชสบางตัวเอ่ยขึ้นเช่นเดียวกับคนบางคนข้างนอก
เสียงฮือฮาดังขึ้นอีกเมื่อมีเชสที่โผล่มาปกป้องเซราห์เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งตน ตอนนี้บรรยากาศอันน่าอึดอัดกำลังแผ่ไปปะทะกับเหล่าเชสที่กล้าเพียงแค่จะยืนมองเท่านั้น
“...”
“...”
‘พูดอะไรกัน...?’ เซราห์สงสัยในใจ เท่าที่เธอเห็นกริฟฟอนกำลังขยับจะงอยปากพูด แจ๊บเบอร์วอคก็ด้วย แต่เธอไม่ได้ยินเสียงพวกมันเลย มันเหมือนโลกไปสั่งปิดเสียงของพวกนั้นอย่างนั้นเลย
ซูม!!! แล้วทั้งสองก็โถมเข้าโรมรันกับศัตรู ร่างของเซราห์ที่พิงอยู่เอนลงด้านหลังสู่อ้อมแขนใครบางคน
กลิ่นน้ำหอมกับกลิ่นชาปะทะจมูก... ช่างเป็นกลิ่นที่คุ้นเคย...
ใช่แล้ว... แล้วเจ้าเหมียวยักษ์ที่ชะโงกหน้ามาดูนั้นเธอก็รู้จักดี
“...”
มันพูดอะไรน่ะ... เธอไม่ได้ยินอีกแล้ว..
วาบ!!!
แสงสีแดงบาดตาสว่างวาบขึ้นจากอกเซราห์ แล้วดวงแสงสีทองแดงก็ลอยออกมา ไม่ใช่จากในตัวเธอ แต่จากกระเป๋าเธอ ข้างในนั้นบรรจุบัตรสีแดง
บัตรสีแดงที่กำลังจะคืนสภาพไปเป็นดอกกุหลาบขาวย้อมสี และเปลี่ยนต่อไปเป็นแหวน...
เซราห์เหมือนจะรู้ว่าควรจะทำอย่างไร เธอเอื้อมมือไปหามัน แหวนกุหลาบสวมเข้านิ้วเธออย่างเหมาะเจาะ
“...” คราวนี้ชายหนุ่มกับหมวกทรงสูงพูดบ้าง แต่เธอไม่ได้ยิน แต่จากรอยยิ้ม เขาคงจะพอใจไม่น้อย เธอยิ้มตอบแล้วมองคนข้างๆอีกคน
หญิงสาวแสนสวยกับกระต่ายสองตัวในอ้อมแขน
เธอรู้จักพวกนี้...
คงปลอดภัยแล้ว...
ฟุบ!!!
เซราห์ เวนเดล เชื่อมต่อกับเชสอย่างสมบูรณ์
ความคิดเห็น