ลำดับตอนที่ #2
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : ตัดสินใจ
ตัดสินใจ
"ผมจะไปตามหาท่านไทร่า"
"ผมจะไปตามหาท่านไทร่า"
"เอ้านี่! หนังสือของพวกเมจ เชิญหาได้ตามสบาย" เสียงของชาร์ลดังขึ้นที่ด้านหลังก่อนที่ตั้งหนังสือหนาหนักหลายเล่มจะทับลงมาบนหนังสือโบราณคดีที่ผมกางไว้ตรงหน้าจนขาดดังแควก
"นี่ ถ้านายโยนหนังสืออีกรอบ ฉันจะเตะนาย" ผมพูดอย่างหงุดหงิด ดึงหนังสือที่ผมอ่านก่อนหน้านี่ออกมาช้าๆ เก็บเศษซากที่ขาดวิ่นยัดไส้ในแล้ววางแยกไว้ต่างหาก จะเอาไปให้แม่ผมซ่อม
"เอสทรั่ลมีเยอะแยะมากมาย หากนายชักช้า ฉันว่าไม่ได้ออกเดินทางกันแน่เลย" เพื่อนกวนโอ๊ยของผมพูดต่อราวกับไม่ได้ยินผม แล้วมันก็เดินร่อนไปที่ชั้นหนังสืออีกหน ดึงหนังสือขนาดเท่าพจนานุกรมบวกสารานุกรมเล่มโตสี่เล่มออกมา โยนโครมข้างๆผม... ผมกระโดดเตะมันทันที!
"ฉันบอกแล้วไง! ว่าหากทำกับหนังสือฉันแบบนั้นอีก ฉันจะเตะนาย!!" ผมตวาดมัน แล้วเดินกระทืบเท้ากลับไปนั่ง เหยียบเท้ามันเล็กน้อย
"เออๆ ไม่ทำแล้ว" ชาร์ลบอก สีหน้ายังคงเรียบเฉย เป็นนิสัยของหมอนี่อยู่แล้วที่จะไม่ทุกข์ร้อนอะไร "แล้วนายจะตามหาเอสทรั่ลตนไหนละ เอาพวกแฟรี่ไหม หาง่ายออกนะ" ชาร์ลว่า แล้วเดินมาพลิกหน้าหนังสือที่เขาโยนมาให้ไปที่หน้าหนึ่งซึ่งเขียนเกี่ยวกับเอสทรั่ลที่เป็นแฟรี่ต่างๆ ผมมองภาพไอซิเคิลแฟรี่บนหนังสือเล่มหนึ่งก่อนจะปิดหนังสือทั้งหมดที่ชาร์ลเปิด
"การพิสูจน์ตนของตระกูลฉันน่ะ มีครั้งเดียวนะ ในเมื่อจะทำ ฉันก็อยากจะให้สมกับที่เป็นผู้สืบทอดของตระกูลเสียหน่อย" ผมว่าแล้วลุกขึ้นเดินไปที่หิ้งหนังสือด้านในสุดของห้อง มองหน้าหนังสือเล่มโปรดของผม ก่อนจะพบมันอยู่หลังหนังสือบทกลอนของนักปราชญ์แห่งแกรนวิสดอม
มันเป็นหนังสือปกหนาสีน้ำตาลแก่ สันปกและขอบปกตรึงไว้ด้วยทองคำบริสุทธิ์ลวดลายสวยงามล้ำค่า ด้านหลังของหนังสือไม่ตกแต่งลวดลายต่างจากด้านหน้าที่มีอัญมณีสี่สีที่ภายในปรากฏรูปสัญลักษณ์ของธาตุทั้งสี่ฝังอยู่ล้อมกันเป็นสี่มุมตรงกลางปก ผมดึงหนังสือเล่มนี้ออกมาอย่างทะนุถนอม กอดมันไว้แนบอกเดินกลับไปหาชาร์ล
"เฮ้ย! เอทวาล... นั่นมัน..."
"หนังสือที่เขียนกล่าวถึงเอสทรั่ลโดยนักปราชญ์ชั้นสูงของแกรนวิสดอม ใช่ ของพ่อฉันเอง" ผมตอบยิ้มๆ รู้สึกภูมิใจเมื่อได้เห็นสีหน้าตกใจและประหลาดใจของเพื่อน "ท่านได้เป็นรางวัลจากการที่ได้ไปสำรวจเจอห้องลับของวิหารไอซิเคิลลิคเป็นคนแรกน่ะ นี่ถือเป็นสมบัติของแกรนวิสดอมได้เลยนา" ผมคุยโว ยกหนังสือขึ้นเปิดช้าๆ ขยับเข้าไปหาชาร์ลที่มีท่าทีตื่นเต้นอยู่มิใช่น้อย
"ฉันว่า... ฉันจะหาเอสทรั่ลที่กล่าวถึงในหนังสือนี้แหละ" ผมบอก ชาร์ลทำตาโต ก่อนจะปล่อยก๊ากออกมาดังลั่น... เป็นอีกครั้งที่ผมเตะมัน...
"แล้วไงว่ะ ผิดด้วยหรือไง!" ผมพูดเสียงดัง รู้สึกโมโห แต่ก็ค่อยๆบรรจงปิดหนังสือของพ่ออย่างหวงแหน แน่นอน ก็ผมไม่ใช่คนที่ชอบประบายอารมณ์ใส่อะไรมัวๆนิ
"เอทวาล ขอแม่เข้าไปนะ" เสียงของแม่ผมดังที่ประตู และยังไม่ทันตอบ ท่านก็เดินเข้ามาในห้องสมุดพร้อมถาดของว่าง ผมรีบเข้าไปช่วยกันถือทันที
"โอ้โห! นี่จะรื้อบ้านน้าหรอจ๊ะเนี่ย" แม่ของผมพูดยิ้มๆ มองสภาพห้องสมุดที่เละแทะ ชั้นหนังสือโดนรื้อ และหนังสือต่างๆกระจัดกระจุยเต็มห้อง ชาร์ลและผมได้แต่ยิ้ม
"เอ่อ... เดี๋ยวผมก็เก็บแล้วละแม่ ไม่ต้องห่วง"
"แน่ละ ถ้าไม่เก็บ เราโดนดีแน่ๆ" แม่หันมาพูดกับผมแล้วสั่นนิ้วเป็นเชิงเตือน ผมยิ้มแห้งๆแล้วเอาถาดของว่างไปวางบนโต๊ะ "ว่าแต่ ลูกคิดได้หรือยังว่าจะไปตามหาเอสทรั่ลตนไหน" คุณแม่ถามขึ้น มองหนังสือที่ระเกะระกะข้างเท้าตัวเอง
ผมไม่ตอบ แค่หันไปยิ้มแล้วเคาะปกหนังสือของพ่อเบาๆเท่านั้น คุณแม่เลิกคิ้ว
"จะตามหาสี่เอสทรั่ลโบราณหรอ"
"ห๊ะ อะ... เออ..." ผมสะดุด ในใจผมยังไม่ได้เลือกสักหน่อย แต่ว่า... ไหนๆคุณแม่ก็พูดออกมาแล้ว ถือเอาตามคำของแม่เลยแล้วกัน อิอิ
"ชะ... ใช่ครับ ใช่แล้ว!" ผมรีบพูดสร้างความมั่นใจ แน่นอนว่าเจ้าชาร์ลจะต้องหันมาเลิกคิ้วใส่ผม
"แล้วเอสทรั่ลตนไหนละ ที่ลูกจะตามหา" คุณแม่ถามต่อ เปิดหนังสือไปเรื่อยๆแล้วหยุดเมื่อถึงหน้าเกริ่นนำเรื่องของเอลทรั่ลทั้งสี่ อันได้แก่ เมทรอน โอราคอส ไดมอนดาส และไทร่า ก่อนจะหันมามองผมต่อ
"ผมยังไม่รู้เลยครับ" คราวนี้ผมตอบตามตรง เดินถือน้ำชามะนาวของโปรดมาอยู่ข้างๆคุณแม่ "แม่ช่วยผมหน่อยจิ" ผมอ้อน
แล้วก็โดนคุณแม่เขกหัวเบาๆหนึ่งที
"ได้ไงกันละ นี่การพิสูจน์ตนของลูกนะ ลูกต้องตัดสินใจเองสิ!"
"คร้าบบบบ"
ผมรับเสียงอ่อย...
---------- Fadalgia ----------
คืนนั้น ผมนอนไม่หลับเลย ผมขอตัวคุณแม่ขึ้นมานอนแต่หัวค่ำ แต่ว่าผมกลับไปได้ล้มตัวลงนอน ตรงกันข้าม ผมกลับนั่งลงบนพื้น กางหนังสือเล่มหนาไว้บนตัก อ่านไล่ตัวหนังสือทุกตัวอักษรตั้งแต่เกริ่นนำเรื่องของเอสทรั่ลทั้งสี่ ไปจนถึงสิ่งต่างๆที่เหล่านักปราชญ์ได้จดบันทึกเอาไว้เกี่ยวกับเหล่าเอสทรั่ล พยายามตักสินใจเลือกหนึ่งในสี่เอสทรั่ลที่ผมจะตามหา แต่ยิ่งอ่าน ยิ่งคิดเท่าใด ความคิดแย่ๆที่ว่าสิ่งเหล่านี่ ยากเกินกว่าที่ผมจะเอื้อมไปถึงก็เข้ามารุมเร้ามากยิ่งขึ้นเท่านั้น
"เฮ้อ~ คุณพ่อให้โจทย์ผมยากไปหรือเปล่าครับเนี่ย " ผมรำพึงเบาๆ กอดหนังสือไว้แนบอก หลับตาที่บวมเป่งหวังบรรเทาให้อาการคันคล้ายลง ผมรู้สึกดีขึ้นมาหน่อยเวลาหลับตา แต่ก็รู้ว่าเมื่อลืมตาขึ้น ผมจะกลับมาเป็นอย่างเดิมอีก ผมจึงเลิกทำ พอดีกับที่นิ้วของผมโดนอะไรบางอย่างจิกเบาๆ
"แซนด์ นี่ยังไม่หลับอีกหรอ" ผมก้มลงพูดกับสัตว์เลี้ยงของผม แซนด์ เป็นลูกเเซนด์สตรอมสกาเวนตัวจ๋อยที่ชอบก่อเรื่องใหญ่โตให้ผมแก้ปัญหาเสมอๆ อันที่จริง ผมถือว่าผิดกฎหมายด้วยละมั้งที่เอาเจ้าตัวนี้มาเลี้ยง แต่ทำไงได้ แม่ผมเป็นถึงศาสตราจารย์ของแกรนวิสดอม เส้นหญ่ายอยู่แล้ว~ เรื่องแค่นี้จิ๊บๆ
"คู้~" เจ้าสกาเวนน้อยส่งเสียงร้องอย่างร่าเริง แล้วกลิ้งร่างที่อ้วนๆกลมๆผิดส่วนสัดของเหล่าสกาเวนที่ผมอุสาห์ขุนมันมาเป็นปี ทับลงมาบนตักผมแล้วแน่นิ่งทำเป็นลูกฟุตบอล หลับมันคาตักเจ้าของ...
"ถ้าพวกตำรวจมาตรวจนี่... ฉันโดนขอหาทรมานสัตว์แน่เลย" ผมเปรย แล้วเกาพุงเจ้าสกาเวนอ้วนกล่อมมัน
ผมกลับมาคิดกังวลต่อ เปิดหน้าหนังสือไปเรื่อยเปื่อย มองไล่ผ่านๆไปตามหน้าที่มีรูปภาพ หวังว่าจะมีอะไรมากระตุ้นความอยากในตัวผม แต่ก็ไม่เลย อาจเป็นเพราะผมอ่านหนังสือเล่มนี้มาหลายร้อยรอบตั้งแต่คุณพ่อเสีย เนื้อหาต่างๆผมแทบจะจำได้ขึ้นใจ เหตุนี้ละมั้งที่เมื่อทำแบบนี้แล้วกลับทำให้ผมอยากจะหลับ มากกว่าอยากจะคิด
แล้วสิ่งที่ไม่ช่วยเลยก็คือเจ้าแซนด์...
"อะไรอีกละ" ผมถามมันอย่างหงุดหงิด เจ้าสกาเวนตัวจ๋อยตอนนี้ไม่ยอมนอน มันหงกหัวขึ้นมาตีปีกพับๆใส่หนังสือแล้วส่งเสียงร้องอย่างร่าเริงจนน่าเตะ ผมใช้นิ้วคีบหนังคอมันดึงขึ้นมา กะจะต่อว่ามันเสียหน่อยแต่มันกลับเอาเท้าทั้งสองแปะหน้าผมเข้าให้
"โว้ย! แซนด์! นี่จะกวนฉันหรือไง!!" ผมตวาดใส่มัน เจ้าสกาเวนจอมยุ่งยังไม่สลด มันบินมาเกาะหน้าผมจนมิด...
"แซนด์!!" ผมตะโกนเสียงดังลั่นอยากเดือดดาล ทิ้งหนังสือลงคว้าตัวแซนด์ไว้แต่พลาด มันบินหนีได้ทัน แถมยังเอาหนังสือไปเปิดเล่นด้วย
"แซนด์! เอาคืนมานะ ไม่งั้นนายเจ็บตัวแน่!" ผมพยายามคว้าหนังสือคืน แต่เจ้าแซนด์ก็ยิ่งบินหนีสูงขึ้น คราวนี้ผมโมโหจริงๆแล้ว คว้าหนังสือมากะว่าถ้าจับได้จะฟาดให้เข็ดเลยคอยดู
แต่แล้วผมก็ชะงัก เจ้าแซนด์ที่ทำท่าร่าเริงอยู่บนอากาศกำลังเปิดหนังสือหน้าหนึ่งให้ผมดู เป็นหน้าที่กล่าวถึงเอสทรั่ลตนหนึ่ง "คู้~" มันร้องเสียงใสแล้วบินเข้ามาวางหนังสือลงบนมือของผมที่รอรับอยู่ ก่อนจะบินมาเกาะไหล่ผมทำตัวเป็นนกเชื่องๆ ผมหันมามองมัน ครู่หนึ่ง สมองของผมดูเหมือนจะเล่นตลก รับรู้สิ่งที่มันจะสื่อ (หรือไม่ได้จะสื่อ) ได้เหมือนเข้าใจภาษาของมัน แถมสมองยังทำเหมือนกับมันส่งเสียงพูดออกมาด้วย
เป็นเสียงเล็กๆของเด็กผู้ชายจอมยุ่ง...
'เจ้านาย เราไปตามหาเอสทรั่ลตนนี้กันเถอะ'
วันรุ่งขึ้น ผมดิ่งไปหาแม่ที่กำลังนั่งคุยกับศาสตราจารย์วอตัน และชาร์ลที่ห้องรับแขกทันที
"ทุกคน ผมตัดสินใจแล้ว..." ผมประกาศเสียงดังพร้อมกับเสียงร้องก้องกังวานของแซนด์ ทำเอาทุกคนในห้องถึงกับสะดุ้ง
"มะ... มีอะไรหรอลูก ตัดสินใจอะไร" คุณแม่พูดพลางกุมหน้าอก ท่านดูท่าทางจะตกใจกว่าใครอื่น ทว่าผมกลับยิ้ม ยิ้มให้ทุกคนแล้วประกาศต่อด้วยเสียงดังกังวาน
"ผมจะไปตามหาท่านไทร่า!"
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น