ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บารามอส ตอน คุมตัวนักโทษแห่งเดมอส

    ลำดับตอนที่ #7 : 006 ยอดขุนพลหรือฆาตกร

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 55


                    ในขณะที่คณะเดินทางคุมตัวนักโทษได้รวมตัวกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วนั้น ก็กำลังถามข้อมูลถึงตัวของนักโทษที่ต้องไปนำตัวมาอยู่ เสียงของลูซิน่าดังขึ้นมาช่วยเสริม

                    “เธอเคยไปพบกับเขาคนนั้นหรอไง”วูฟถามออกมาโดยที่ไม่ต้องมองหาเจ้าตัว

                    “ไม่เคย แต่ตอนที่อยู่ปากทางเข้าระดับ 7 เขาคนนั้นปล่อยรังสีคุกคามออกมาอย่างหนาแน่นมากจนแทบจะหมดสติอยู่ตรงนั้นด้วยซ่ำไป พวกนักโทษที่จะต้องอยู่ระดับ 7ยังไม่ใครกล้าพอที่จะเข้าไปเลยด้วยเลยต้องอยู่ที่ระดับ 6 กันแทน ส่วนที่เคยอยู่นั้นนะ บางก็หมดสติ บางไม่กลัวจนบ้า ก็แทบจะฆ่าตัวตายไปด้วยซ่ำ”

                    “ไม่เชิญอย่างนั้นสินะ”วิกเตอร์พึมพำออกมาพร้อมกับคิดบ้างอย่างอยู่

                    “เดี๋ยวๆ ตกลงว่าคนที่พูดกันนี้ เป็นใครกันแน่”อาเธอร์ถามขึ้นมาก่อน เพราะเขาไม่มีทางเชื่อเด็จขาดว่ามีใครที่เก่งกาจมากมายขนาดนี้มาก่อน

                    “ความจริงคือ ไม่ใช่คนหรอกครับ แต่เป็นมังกรมากกว่า”วิกเตอร์แก้ไขให้เล็กน้อย

                    “มังกร แล้วมันแปลกตรงไหนละ เป็นมังกรรัตติกาลอย่างนั้นหรือ”วีชาถามขึ้น เพราะในความเป็นจริงแล้ว มังกรรัตติกาลไม่น่าที่จะจัดการยาก ถึงขนาดที่มหาปราชญ์เลโมธีต้องให้พวกเธอชั้นปีสุดท้ายมาจัดการสักนิด

                    “เพราะพวกเอเดนเป็นพวกคิดอะไรง่ายๆอย่างนี้ละ ถึงได้เป็นตัวถ่วงมากกว่า”ลูซิน่าเอ่ยขึ้นมาอีกครั้ง

                    “ใจเย็นๆ ก่อนเถอะครับ ลูซิน่าเองก็ด้วย”วิกเตอร์เอ่ยขึ้นมาทันทีที่คิดว่าเรื่องมันชักเกินเรื่องที่ดูดไปแล้ว

                    “แล้วตกลงว่าเป็นใครกันแน่”โรมถามขึ้นมาบ้าง

                    “เคยได้ยินชื่อนี้ไหม ยอดขุนพลเงาของจ้าวเอวิเดส”วูฟเอ่ยขึ้นมาข้างต้น ทุกคนที่อยู่ต่างพยายามนึกถึงชื่อนี้ แต่ดูเหมือนว่า ปี 3ที่ชอบหลับในวิชาประวัติศาสตร์จะยอมแพ้กันซะแล้ว

                    “ขุนพลเงา หรือว่าหมายถึงคนๆนั้น”โรถามวูฟดูเพื่อความแน่ใจ วูฟเพียงแค่พยักหน้าเท่านั้น แต่แต่การพยักหน้าก็ทำให้โรสั่นสะเทือนอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ตอนนี้ทุกคนต่างหันมามองโรทันที เพื่อรอดูว่าหอสมุดเคลื่อนที่ได้จะมีคำตอบให้ไหม

                    “มันเป็นเรื่องเก่ามากๆเลยละ ในช่วงที่เดมอสพึ่งจะเกิดมา ปฐมปีศาจองค์แรกได้รวบรวมเผ่าปีศาจมากมายไว้ พร้อมกับวันที่พระองค์ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นจ้าวแห่งปีศาจนัน ท่านได้แต่งตั้งคนๆหนึ่งขึ้นมาให้เป็นขุนพลคนสนิท คนๆที่ถูกตั้งนั้นมีรูปร่างเหมือนมนุษย์อย่างพวกเราเอง ไม่มีส่วนใดที่สามารถบอกได้เลยว่าเขาคือ ปีศาจ  ทำให้มีปีศาจมากมายไม่ยอมรับในตัวคนๆนั้นขึ้นมา พร้อมกับรวมตัวกันเป็นกองทัพ”โรหยุดเลล่าเพียงเท่านั้น แล้วหันไปมองดูวิกเตอร์กับวูฟ เหมือนต้องการถามว่าจะให้เขาเป็นคนเล่าเรื่องนี้ต่อไหม

                    “ไอ้เจ้าพวกโง่นั้นนะ บุกขึ้นมาถึงเมืองหลวงเดมอส แต่พวกนายรู้ไหมว่าอะไรรอเจ้าพวกโง่นั้นอยู่นะ คนๆเดียวที่เจ้าพวกนั้นไม่ยอมรับว่าเป็นปีศาจเหมือนกันนั้นละ เพียงแค่กระพริบตากองทัพจากเผ่าต่างๆ ทุกจัดการจนหมด ไม่มีใครตายแต่มีแค่ความหวาดกลัวที่แซกซึมลงไปในหัวใจของพวกนั้น ไม่เพียงแค่วพกโง่นั้นเท่านั้น รวมไปถึงพวกที่อยู่ข้างปฐมกษัตริย์ปีศาจก็ด้วย”วูฟเล่าต่อแต่ดูเหมือนว่าจะเป็นการตัดจบไปซะมากกว่า

                    “มีอีกหลายครั้งที่เขาคนนั้น ออกสู้กับพวกเดมอและพวกเอเดนที่มักจะยกทัพเข้ามาที่เดมอส ถึงแม้ว่าจะไม่ใช่การที่ออกเป็นขุนพล เพราะปฐมกษัตริย์ได้สั่งไว้ว่าไม่ให้ออกมาเป็นแนวหน้า แต่กลยุธมากมายที่ทำให้ฝ่ายกบฎและเอเดนต้องล่าถอยไปนั้นก็มาจาก เขาคนนั้นทั้งหมดก็ตาม ปฐมกษัตริย์ก็ยกย่องให้เป็นยอดขุนพลและมหาเสนาธิการ จนถึงตอนที่ท่านสละตำแหน่งนั้นมีหลายฝ่ายต่างๆก็คิดว่า เขาคนนั้นต้องได้รับตำแหน่งนี้ต่อไปอย่างแน่นอน แต่คนที่ได้รับเลือกคือ ท่านจ้าวเอวิเดส”วิกเตอร์อธิบายต่อทันที

                    “แปลว่าที่โดนจับได้ เพราะความไม่พอใจซินะ”ลอเรนต์สรุปจากที่ได้ฟังมา

                    “ไม่ใช่ครับ สำหรับเขากับท่านจ้าวนะสนิทสนมกันมาก เหมือนกับพี่น้องมากกว่า แถมยังคอยช่วยงานต่างๆด้วยมากกว่าความไม่พอใจ”วิกเตอร์แก้ขอสรุปให้

                    “ถ้าอย่างนั้น มันเป็นเพราะอะไรละ”คาโลถาม เพราะถ้าไม่มช่เรื่องความไม่พอใจแล้วมันจะเป็นเรื่องอะไรกันแน่ วิกเตอร์กับวูฟมองหน้ากัน เพราะไม่รู้ว่าเรื่องนั้นสมควรที่จะพูดไหม เพราะนั้นเป็นเรื่องที่ท่านจ้าวให้ทุกคนปิดเงียบไว้ ห้ามพูดขึ้นมาอีกเป็นเด็จขาด

                    “เพราะเขาคนนั้น เป็นผู้ที่ลงมือสังหาร อลิเซีย เกรเดเวล เดอะควีน ออฟเดมอส”ลูซิน่าตอบคำถามให้แทน

     

    คำตอบของลูซิน่าทำให้ทุกคนในคณะเดินทางเอเดนต่างตกตะลึงกับเรื่องนี้มาก มันเป็นเรื่องที่ประวัติศาสตร์ไม่เคยรับรู้มากก่อน เพราะการสิ้นพระชนของราชินีอลิเซีย เป็นเรื่องที่ลึกลับมากไม่มีใครได้รู้ว่า ใครเป็นสาเหตุในเรื่องนี้ ถึงแม้ว่าจะมีพยานเป็น โกโดมแต่เจ้าตัวนั้นดันสลบไปซะก่อน

    “มันเป็นเรื่องจริงแน่ๆใช่ไหม”คาโลถามเพื่อย่ำความเป็นจริง แต่ลูซิน่ากับไม่ตอบกลับมา คาโลจึงหันไปมองที่วิกเตอร์กับวูฟแทน ทั้งสองคนไม่สบตากับคาโลเลย

    “เพราะเรื่องนี้ละครับที่ทำให้ท่านจ้าว จะฆ่าเขาคนนั้นให้ตายซะ แต่พวกข้าราชการต่างห้ามไว้ เพราะถึงแม้ว่าเรื่องการฆ่าราชินีของเดมอส เป็นเรื่องที่ให้อภัยไม่ได้ แต่ถ้านำมาเปรียบเทียบกับเรื่องที่เคยทำให้กับเดมอส เรียกได้ว่าลดหย่อนการถูกประหารไว้ได้”วิกเตอร์อธิบายเรื่องต่อจากนั้น อย่างน้อยการที่วิกเตอร์เล่าต่อ ก็ทำให้มันเป็นการยืนยันเรื่องนี้ได้จริงๆ

    “ผมพูดได้เพียงแค่เท่านี้ละครับ เรื่องหลังจากนี้คุณ เอาได้พวกคุณได้เจอกับเขาคนนั้นเมื่อไหร่ก็จะรู้คำตอบต่างๆแน่ครับ แต่เขาจะยอมตอบไหมนั้น ผมตอบให้ไม่ได้จริงๆ”วิกเตอร์ตัดการพูดคุยเพียงเท่านี้ แล้วลุกขึ้นมา เดินไปพูดคุยบางอย่างกับพนักงานในเกวียน วูฟก็ขอตัวกลับห้องนอนของตัวเองไปก่อน

    ตอนนี้ทุกคนต่างนั่งจมความคิดในเรื่องที่ได้ฟัง เรื่องนักโทษที่จะต้องไปคุมตัว โดยเฉพาะคาโลที่จมอย่างสุดๆ คนที่ฆ่าราชินีเดมอส เป็นคนของเดมอส แต่ทำอย่างนั้นทำไม คาโลเก็บความสงสัยนี้ไว้กับตัวเอง เพราะอย่างน้อยก็ต้องไปถามนักโทษคนนั้นอย่างที่วิกเตอร์บอกจริงๆ

    เดมอสปิดบังเหตุผลบางอย่างไว้ รวมไปถึงเรื่องการคุมตัวนักโทษนี้อีก

     

    ในตอนเย็น ทุกคนต่างมานั่งกินข้าวกันอย่างสนุกสนาน รวมไปถึงวิกเตอร์,วูฟ และลูซิน่าที่มาร่วมนั่งทานข้าวด้วย ทำให้พวกเขารู้ว่า พวกเดมอสกินแต่อาหารประเภทผักแทนที่จะเป็นเนื้อ เมื่อทุกคนต่างกินกันเสร็จแล้วนั้น ก็แยกกันไปนอนที่ห้องนอนของตัวเอง เพื่อเก็บแรงไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ที่จะต้องเข้าไปยัง แดนนักโทษ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×