ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บารามอส ตอน คุมตัวนักโทษแห่งเดมอส

    ลำดับตอนที่ #4 : 004 คณะเดินทางสองดินแดน

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.พ. 55


                เช้าของวันใหม่ได้เริ่มขึ้นอีกครั้งโดยนักเรียนแห่งเอดิเบิรก์ เริ่มตื่นนอนเหมือนทุกวันที่จำเป็นต้องตื่นนอนมาเรียนหนังสือในตอนแปดโมงเช้าอย่างนี้ แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่ามีนักเรียนจำนวนหนึ่งที่ต้องไปทำภารกิจสุดยอดอย่างหนึ่ง

                “รุ่นพี่ครับ ทำไมไม่เห็นเกวียนสำหรับการเดินทางมาเลยนะครับ”ซีบิลหนุ่มพูดเรียบร้อยและสุภาพที่สุดในป้อมถามรุ่นพี่ลูคัสที่อยู่ข้างๆ คณะเดินทางเฉพาะกิจต่างยืนรอกันหน้าประตูของโรงเรียนตามเวลานัดหมายแต่กลับไม่มีพาหนะในการเดินทางครั้งนี้ปรากฏตัวให้เห็นเลย

                “นั้นสินะ ทำไมกันนะลอรี่”ลูคัสหันกลับไปถามคู่หูพร้อมกับหลบพายุมีดที่พุ่งมาหาตัวอีกด้วย ทำเอาคนรอบข้างแทนหลบกันไม่ทัน

                “คณะเดินทางของเอดิเบิรก์ใช่ไหม”เสียงถามเกิดขึ้นมากลางพายุมีด ทำให้มีดที่ถูกขว้างออกมาหยุดลง สายตาทุกคู่ต่างมองมายังเสียงถาม เสียงที่ถามเป็นร่างที่สูงเท่าเด็กสิบขวบเท่านั้น ซึ่งพอไม่มีใครตอบคำถาม คนคำถามจึงทำท่าเดินจากไป

                “เดี๋ยวก่อน พวกเรานี้ละคณะเดินทางของเอดิเบิรก์”เจ้าชายโรมตอบทันทีหลังจากตั้งสติได้ ทำให้คนกำลังเดินจากไปหยุดการก้าวทันทีแล้วพูดบ้างอย่างออกมา ทำเอาคนฟังโกรธกันมาก

                “ประติกริยาตอบช้าจริงๆ งานนี้ท่าทางเป็นตัวถ่วงทั้งคณะ"

                คนฟังอย่างป้อมอัศวินที่เป็นแหล่งบวกพวกใจร้อนหลายคน อยากกระทืบไอ้คนพูดตรงหน้าซักรอบ แต่โดนสายตาปรามจากพวกรุ่นพี่ซะก่อนเลยทำอะไรไม่ได้

                “แล้วไม่ทราบว่าคุณเป็นใครอย่างนั้นหรือ”เจ้าหญิงวีชาถามขึ้นมา เพราะคนปริศนายังไม่ได้แนะนำตัวเองเลย

                “คนของเดมอส ตามมา”คนปริศนาตอบเพียงแค่นั้น แล้วเดินนำหน้าทุกคนเข้าไปในโรงเรียน ทำเอาคนที่เหลือมองหน้ากันก่อน แล้วตัดสินใจเดินตามไปพร้อมทั้งสำภาระ พอเดินเข้าไปในโรงเรียนจนถึงโรงเก็บสัตว์เลี้ยงทุกคนจึงต่างเห็นรถม้าคันหนึ่งจอดอยู่ สัตว์ที่ใช้ยังเป็นม้าสีดำตัวใหญ่มีเพลิงสีน้ำเงินลุกไหม้ที่แผงคอและหางทั้งสองตัวอีกด้วย

                “ม้าของเดมอสไนท์แมร์ ชื่อไพรดกับเนเมซิส” ซึ่งดูเหมือนว่าม้าทั้งสองตัวต่างฟังรู้เรื่อง ต่างร้องขึ้นมาว่าใครก่อนใครหลัง ทำเอาแต่ละคนต่างให้ความสนใจม้าทางเดมอสทันทีลืมคนนำทางที่หายเข้าไปในรถม้าแล้ว พอแต่ละคนซึ่งรู้สึกตัวเลยนำสำภาระเดินขึ้นไปยังรถม้า มีสิ่งหนึ่งที่ไม่ว่าใครก็มีประติกริยาเหมือนกับเมื่อเข้าไปในรถม้า นั้นคือการอ้าปากค้าง

                ในรถม้าไม่ใช้รถม้าธรรมดา ถ้ามองตากภายนอกที่คนอื่นเห็นนั้นก็เป็นเพียงรถม้า แต่เมื่อได้เหยียบเข้าไปในตัวรถแล้วนั้นชั่งหน้ามหัศจรรย์ที่ภายในเหมือนได้ยกโรงแรมหรูระดับห้าดาวเข้ามาอยู่ภายในนี้

                “ยินดีต้อนรับค่า~”คณะพนักงานต้อนรับห้าคนโค้งต้อนรับอย่างมีระเบียบ ก็มารับกระเป๋าของแต่ละคนไปเก็บไว้ตามห้องต่างๆ เมื่อคนสุดท้ายก้าวเท้าขึ้นมาเรียบร้อยเกวียนก็เคลื่อนที่ในทันทีซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกใหม่ให้น่าสนใจทีเดียว

                “เออ~ ใครเป็นคนเตรียมรถม้าคันนี้”โรเวนถามพนักงานที่เดินมารีนน้ำชาให้ ซึ่งตอนนี้ทุกคนนั่งที่ห้องรับแขก

                “ท่านจ้าวค่ะ”พนักงานตอบเพียงแค่นี้ แต่ก็มีคำตอบเสริมเข้ามาให้

                “ถึงแม้จะเป็นคณะเดินทางเพื่อรับตัวนักโทษ แต่ก็มีเหล่าเจ้าชายเจ้าหญิงหลายคนเดินทาง แถมตัวมีท่านราชบุตรเขยไปด้วย ทำให้เดินทางกันโดยรถม้าธรรมดาได้อย่างไรกัน”เหล่าคณะเดินทางแห่งเอเดนมองไปยังที่มาของเสียงพูด ที่บันไดที่ตอนนี้มีคนลงมาอีกสามคนด้วยกัน และ1ใน3คนนั้นมีคนที่ปากเสียที่พวกเขาเจอด้วยรวมอยู่ในนั้น

                “คณะของเดมอส”โรเอ่ยออกมา เพราะรับรู้ได้ถึงกลิ่นอายเดมอสจากทั้งสามคนนี้

                “ต้องขอโทษทุกคนด้วยที่ลงมาต้อนรับช้า วูฟเวอรีน เดอะ วูฟท์ ราชันแห่งเผ่าพันธุ์มนุษย์หมาป่า”คำแนะนำตัวอย่างเป็นทางการของชายหนุ่มที่ซึ่งมีคนสีขาวโพลงยาวตรงจนถึงกลางหลัง ดวงตาสีแดง ใบหน้าคมสัน ซึ่งเป็นปกติที่ต้องมีการแนะนำตัวแต่ไม่ใช้กับ วูฟเวอรีนคนนี้ที่แผ่จิตสังหารออกมาด้วย

                “พอได้แล้ว วูฟ เจ้ากำลังเสียมารยาทอยู่”ชายที่อยู่ข้างๆวูฟเวอรีนเอ่ยออกมา

                “ต้องขออภัยด้วยทุกท่าน ข้ามีนามว่า วิกเตอร์ ซันเบิร์ก แม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักรแวมไพร”ชายหนุ่มผมและดวงตาสีดำดั่งรัตติกาลที่มืดมิดแนะนำตัวเอง ซึ่งตอนนี้2ใน3ไปแนะนำตัวไปแล้วนั้นเหลืออีกคนเดียวที่ยังไม่ได้แนะนำตัว และมีท่าทีไม่สนใจสิ่งรอบตัวอีกด้วย จนวิกเตอร์ตบไหลของอีกฝ่ายเพื่ออีกสติกลับมา

                “ข้าว่าไม่จำเป็นต้องแนะนำตัวกับพวกที่จะมาเป็นตัวถ่วงเลย”พอได้ยินคำว่าตัวถ่วงเป็นครั้งที่สองทำให้แต่ละคนอยากฆ่าคนปากเสียซะเดียวนี้ คนปากเสียหันมาสบตาของวิกเตอร์ ที่ทำสีหน้าเรียบเชยจึงยอมแนะนำตัวเอง “ลูซิน่า สเกเลตอน คนแคะดำ”

                “ยัยนี้ ไม่มีมนุษย์สัมพันเลยให้ตาย”ครี๊ดกระซิบบอกกับเพื่อนๆอีกครั้ง

                “แล้ว เฟริ เฮ้ ไม่ใช้ เจ้าหญิงเฟลิโอน่าไม่ได้มาด้วยหรอครับ”โรมถามขึ้นแต่ก็ยังเอยชื่อนายเหนือหัวของเดมอสผิด

                “ครับ ต้องขออภัยด้วยที่เจ้าหญิงของพวกเราไม่อาจที่จะเดินทางร่วมกับพวกท่านได้”วิกเตอร์เอ่ยขอโทษแทนเจ้านายของตน

                “วิกเตอร์ ข้าเขียนจดหมายให้ฟรายมาร่วมเดินทางกับข้าได้ไหม”ลูซิน่าถามเพื่อนต่างเผ่าทันที อย่างไม่สนใจใคร

                “ไม่ได้หรอกลูซิน่า เธอก็รู้ไม่ใช่หรือไงว่า ฟรายมีงานสำคัญที่ต้องทำที่วังหลวงนะ”วูฟเอ่ยตอบแทนทำให้ลูซิน่าทำได้เพียงแค่หน้าบึ่งเท่านั้น

                “งั้นถึงเวลาอาหารก็เรียกแล้วกัน”ลูซิน่าเดินกลับเข้าห้องพักของตัวเองทันที

                “อย่าไปถือความเธอเลยนะครับ ที่เธออารมญ์เสียเนี้ยเพราะเพื่อนสนิทที่สุดไม่ได้มาด้วยครับ”วิกเตอร์เอ่ยทำขอโทษแทนเมื่อเห็นประตูห้องพักปิดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

                “ทางเราก็ไม่ได้คิดที่จะถือความเธออยู่แล้วละ”โรเว่นตอบแทนทุกคน ถึงแม้ว่าจะรู้ดีว่าแต่ละคนตอนนี้อารมณ์ไหน

                “ถ้าอย่างนั้นก็เซ็นนี้ซะ”วูฟยื่นกระดาษปึกหนึ่งให้ หัวหน้าหอทั้งสามรับกระดาษนั้นมาแล้วอ่านเนื้อความในกระดาษทันที เมื่ออ่านจบประสานเสียงถามทันที

                “นี้มัน หมายความว่าไง”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×