ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic:Gundam Seed Destiny]

    ลำดับตอนที่ #26 : Phase 26

    • อัปเดตล่าสุด 25 ธ.ค. 51


    Phase 26 ฟรีด้อมและคุซานางิ
     
    ‘ที่นี้มันที่ไหน’คางาริมองดูรอบๆที่มีแต่ความมืด
     
    ‘ไง’มีเสียงทักขึ้นมา คางาริรีบหันไปมอง
     
    ‘คิ ค คิระ’คางาริเอ่ยชื่อของคนที่ทักและวิ่งเข้าไปกอด
     
    ‘เฮ้คางาริฉันหายใจไม่ออก’คิระรีบบอกเนื่องจากน้องสาวเล่นกอดซะแน่น
     
    ‘ขอโทษ’คางาริรีบปล่อยมือพร้อมกับน้ำตาที่ไหลออกมาจากดวงตาทั้ง2ข้าง
     
    ‘คางาริเป็นอะไรไปนะ’คิระถามอย่างเป็นห่วง
     
    ‘ก็ฉันคิดว่านายตายไปแล้ว’คางาริบอกและร้องไห้ออกมา
     
    ‘แล้วนี้ฉันตายไปแล้วหรอ’คางาริถาม คิระลูบหัวของคางาริ
     
    ‘ยังไม่ตาย’คิระบอกอย่างอ่อนโยนและเช็ดน้ำตาของคางาริ
     
    ‘คิระนายอยู่ที่ไหน’คางาริถาม
     
    ‘ไม่ต้องห่วงนะคางาริ ฉันอยู่ใกล้ๆเธอและพวกอัสรันเสมอ’คิระบอกและเดินหายไป
     
    ‘เดี๋ยวก่อนสิคิระ’คางาริวิ่งตามคิระไปแล้วกลับถูกดึงไปที่อื่นแทน
     
    “คางาริ คางาริ”ทุกคนต่างเรียกคางาริที่สลบไป
     
    “อืม”คางาริค่อยๆลืมตาออกมา
     
    “คางาริ”ทุกคนเรียกคางาริโดยความดีใจ มีลี่รีบกอดคางาริไว้
     
    “ฉันนึกว่าเธอจะตายซะอีก”มีลี่รีบบอกพร้อมกับน้ำตา
     
    “อย่าทำให้พวกเราใจหายอีกนะ”ชิโฮะบอก
     
    “ดีนะค่ะที่ไม่เป็นอะไรมาก”สเตล่าบอก
     
    “โอ้ดีใจ”ดีอัคก้าร้องไห้อย่างมากมาย
     
    “ไอ้บ้าอย่าทำตัวทุเรศสิฟ่ะ”อิซาคบอกและพยายามไม่ให้ใครเห็นน้ำตา
     
    “เมื่อกี้คุณอิซ๊าคยังร้องไห้ใหญ่เลย”ชินบอก
     
    “แกพูดใหม่อีกทีสิ”อิซ๊าคเดินไปบีบคอชิน
     
    “ฮ่ะ ฮ่ะ ฮ่ะ”คางาริหัวเราะออกมาเป็นครั้งแรกที่มาอยู่ในโรงเรียนและเป็นครั้งแรกที่พวกอัสรันต่างเห็นคางาริหัวเราะออกมาซึ่งเป็นเหมือนนางฟ้ามาหัวเราะอย่างร่าเริงอยู่ตรงหน้า
     
    “หัวเราะน่ารักดีนะ”อัสรันบอก
     
    “ไม่เป็นไรมากนะ”ลักซ์ถามออกมา
     
    “ไม่เป็นไรมากแล้วนี้ฉันสลบไปนานเท่าไร”คางาริบอก
     
    “ประมาณ10นาที”มีลี่บอก
     
    “นี้นะที่เจ้านี้ช่วยไว้ไม่งั้นเธอตายไปแล้ว”ดีอัคก้าบอกพร้อมกับชี้ไปที่ด้านหลัง คางาริหันไปมอง
     
    “ฟรีด้อม”คางาริเอ่ยชื่อของมังกรสีฟ้าอ่อน
     
    “รู้จักด้วยหรอ”อิซ๊าคถาม มังกรสีฟ้าอ่อนได้หายไป
     
    “หายไปไหนแล้ว”ชิโฮะรีบหองหาแต่ไม่พบ คางาริค่อยๆลุกขึ้นมา
     
    “ระวัง”อัสรันรีบจับที่แขนของคางาริ
     
    “ขอบใจ”คางาริบอก
     
    “คุณคางาริจะไปไหนครับ”ชินถาม
     
    “ไปนอน”คางาริบอกและค่อยๆเดิน
     
    “แล้วศัตรูละค่ะ”สเตล่าถาม
     
    “ไม่มีแล้ว ฉันไม่รู้สึก” ทั้ง9คนเดินไปที่ห้องพักของตัวเอง โดยที่อิซ๊าค ดีอัคก้า มีลี่และชิโฮะแยกกับอัสรัน ชิน ลักซ์ สเตล่าและคางาริเนื่องจากพวกอิซ๊าคพักอยู่ที่ชั้น 5 ห้องของพวกอัสรันอยู่ชั้น6
     
    “ขอบใจนะที่มาส่ง”ลักซ์บอก
     
    “ชินเจอกันพรุ่งนี้นะ”สเตล่าบอกกันชินและหอมแก้มชินที่หนึ่งก่อนที่จะเข้าห้องตามด้วยลักซ์ ลักซ์ยิ้มให้ชินพร้อมกับปิดประตูห้องแต่ชินกลับยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิมพร้อมกับหน้าที่แดงอย่างมาก ส่วนอัสรันได้เดินไปส่งคางาริที่ห้อง ทั้ง2คนต่างไม่พูดอะไรกัน อัสรันเหล่สายตามองตามตัวของคางาริซึ่งตอนนี้ไม่มีเลือดไหลออกมาแล้วแต่เหลือบาดแผลไว้ท่าสังเกตดีๆจะเห็นว่ามีบาดแผลลางๆมากๆไปหมด ทำให้อัสรันไม่ชอบตัวเองที่เป็นอยู่ตอนนี้ที่ไม่สามารถปกป้องใครไว้ได้ บางทีการต่อสู่เมื่อกี้ดีไม่ดีคางาริอาจตายเหมือนคิระก็ได้
     
    “นายคิดอะไรของนาย”หน้าของคางาริอยู่ใกล้หน้าอัสรันมาก
     
    “ป...เปล่า”
     
    “นายไม่ต้องคิดมากหรอก”คางาริบอกกับอัสรันและเดินต่อไป
     
    “คางารินี้เธออ่านความคิดของฉันได้งั้นหรอ”อัสรันรีบถาม
     
    “นายคิดว่าฉันอ่านได้ได้ไง แต่สีหน้าของหน้ามันบอกแทนต่างหาก”
     
    “ขอโทษนะที่ฉันไม่สามารถสู้เคียงข้างเธอได้”อัสรันบอก
     
    “คิดมากไปก็เท่านั้นอีกอย่างหมอนั้นฝากฉันดูแลพวกนายไว้ด้วย”คางาริบอกกับอัสรันและเปิดประตูห้อง
     
    “แต่ว่า”
     
    “อัสรันฉันจะบอกอะไรบางอย่างให้”คางาริหันมามองอัสรัน
     
    “ในโลกนี้มีคนอยู่ 2คนเท่านั้นที่เก่งกว่าฉันและเป็น2คนที่ต่อให้ฉันทุ่มพลังทั้งหมดก็ไม่สามารถชนะได้”คางาริบอกพร้อมกับสายตาที่เย็นชา
     
    “แล้วใครละคนที่เธอไม่สามารถเอาชนะได้”
     
    “อีกไม่นานนายก็จะได้เจอเอง” คำพูดของคางาริยิ่งทำให้อัสรันไม่สบายใจยิ่งขึ้น
     
    เพี๊ยะ
     
    “โอ๊ย”อัสรันรีบเอามือถูทีหน้าผากที่โดนคางาริดีดใส่อย่างเจ็บถึงแม้แค่ทีเดียวก็เถอะ
     
    “เธอทำอะไรของเธอนะ”อัสรันตวัดถาม
     
    “นายมันพวกชอบคิดแล้วเก็บไว้คนเดียวอย่างกับคนแบกโลกทั้งใบไว้อย่างนั้นละมีอะไรจะพูดออกมาก็พูดออกมาสิ ฉันมันไม่ใช่คนที่ชอบให้ใครเก็บบางอย่างไว้พูดเปิดเผยออกมาเลยจะได้ไม่ต้องเก็บความคิดไว้คนเดียว”คางาริจัดการเทศน์อัสรันยกใหญ่ก่อนที่จะปิดประตูใส่
     
    “ขอบใจนะคางาริ”อัสรันตะโกนบอก
     
    “เจ้าบ้า”คางริที่ยืนพิงประตูยิ้มออกมาและนอนหลับใหลจากการต่อสู่ที่หนักหนามา
     
    ‘อืมที่นี้ที่ไหนกัน’ลักซ์มองไปรอบๆที่มีแต่ทุ่งหญ้ากว้าง
     
    ‘เอ๋จำได้ว่าเราอยู่ในห้องแล้วนอนนี้อืมมมมม’ลักซ์พยายามคิดว่าเธอว่าอยู่ที่นี้ได้อย่างไรแถมชุดของเธอก็ไม่ใช้ชุดที่เธอนอนด้วยกลับเป็นชุดคล้ายพวกจอมเวทย์แถมชุดยังเป็นสีขาวอีกด้วย ได้มีชายคนหนึ่งเดินมาหาลักซ์จากข้างหลัง
     
    ‘ไง’ชายคนนั้นทัก ลักซ์รีบหันมามอง
     
    ‘คุณเป็นใครหรอค่ะ’ลักซ์ถามชายแปลกหน้า
     
    ‘แล้วเธอคิดว่าฉันเป็นใครละ’ชายแปลกหน้าถามคืนอย่างอารมณ์ดี
     
    ‘นั้นซิคุณเป็นใครแต่ฉันรู้สึกเหมือนเคยเจอคุณมาก่อนเลย’ลักซ์บอก แล้วทั้ง2คนต่างนั่งลง
     
    ‘3ครั้งแล้วนะที่เธอถามฉันอย่างนี้’ชายแปลกหน้าบอกแล้วทิ้งตัวนอนลงแล้วได้มีดอกไม้โผล่ออกมา
     
    ‘3ครั้ง?’
     
    ‘ที่เธอถามว่าฉันเป็นใครไงละ’ได้มีลมพัดมาอย่างรุนแรงท้องฟ้าได้เปลี่ยนเป็นสีดำมืด ชายแปลกหน้าลุกขึ้นลักซ์ลุกตาม
     
    ‘อีกไม่นานเราคงได้เจอกันอีก’ชายแปลกหน้าบอกพร้อมกับผลักลักซ์เบาๆแต่ลักซ์กลับรู้สึกว่าชายแปลกหน้าคนนี้ผลักอย่างแรงเธอพยายามทรงตัวแต่กลับไม่มีพื้นดินให้เธอเหยียบไว้
     
    ‘ไม่ม่ม่ม่ม่ม่ม่ม่ม่’ลักซ์ร้องออกมาพร้อมกลับมองชายแปลกหน้าที่มองดูเธอร่วงลงข้างล่างโดยไม่ช่วยอะไร ชายแปลกหน้าได้ส่องแสงมีขาวพุ่งไปยังท้องฟ้าที่มืด
     
    “เดี๋ยวก่อน”ลักซ์ตื่นจากความฝันที่น่ากลัวโดยที่มีเหงื่อเต็มใบหน้าแล้วรีบหันมองข้างๆ สเตล่ายังคงหลับอยู่...อะไรกันฝันไปหรอเนี้ยแต่ทำไมถึงเหมือนจริงขนาดนั้น...ลักซ์ลุกจากเตียงแล้วไปอาบน้ำ
     
    ก๊อก ก๊อก ก๊อก
     
    “ค่ะรอเดี๋ยวค่ะ”ลักซ์รีบอาบน้ำแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเปิดประตู
     
    “ไง”
     
    “เข้ามาก่อนสิค่ะ”ลักซ์เชิญผู้ที่มา
     
    “มีธุระอะไรงั้นหรอค่ะถึงมาหาแต่เช้าแถมยังเป็นวันหยุดอีกด้วย”
     
    “คุณลักซ์ใครมาหรอค่ะ”สเตล่าที่พึ่งจะตื่นนอนถาม
     
    “คางาริมานะจ๊ะ”
     
    “งั้นหนูไปอาบน้ำก่อนนะค่ะ”สเตล่าบอกและเดินไปอาบน้ำ
     
    “แล้วมีเรื่องอะไรงั้นหรอค่ะถึงได้มาหา”ลักซ์ส่งแก้วกาแฟให้
     
    “ไม่มีอะไรมาก”คางาริยกแก้วชาขึ้นมาชิม
     
    “หนาวไปนิดนึง”คางาริบอก
     
    “ยอดเลยนะค่ะรู้รสชาติได้ดีมากเลย”ลักซ์ชมออกมา
     
    “โทษทีลิ้นฉันมันดีกว่าคนทั่วไปเยอะ”
     
    “ฉันไม่ได้ว่าสักหน่อยนี้ค่ะ”
     
    “นี้เธอชวนฉันคุยนอกเรื่องแล้วนะกลับเรื่องได้แล้ว ฉันขอดูสร้อยไม้กางเขน”คางาริยืนมาออกมาพร้อมด้วยสายตาจริงจังมาก
     
    “คางาริจะเอาไปทำอะไร”ลักซ์ถาม
     
    “เอาเหอะน่าฉันขอดูสร้อยแป๊ปหนึ่ง”คางาริบอกอย่างรำคาญกับคำถามของลักซ์ ลักซ์จึงยอมถอดสร้อยที่สวมอยู่ออกและยื่นให้กับคางาริ คางาริมองดูสร้อยสักพักพร้อมกับยิ้มออกมาเล็กน้อย
     
    “หึอย่างนี้เองหรอ”
     
    “อะไรหรอค่ะ”ลักซ์กับสเตล่าถามพร้อมกัน
     
    “อยากรู้เรอะ”ลักซ์กับสเตล่าพยักหน้า
     
    “ฉันรู้แล้วละว่าความทรงจำทั้งหมดของเธอที่เกี่ยวกับคิระหายไปไหน”
     
    “จริงหรอค่ะ”สเตล่าถามเพื่อยืนยัน
     
    “ใช่ถ้าอยากรู้ฉันจะไปรอที่สวนด้านหลัง”คางาริบอกเสร็จก็หายไป ลักซ์และสเตล่าต่างรีบออกจากห้องไปยังสวนหลังโรงเรียนพอดีกับที่เจออัสรันและชินจึงชวนทั้ง2คนไปด้วยกัน
     
    สวนหลังโรงเรียน
     
    “ตกลงมามากัน4คนสินะ”คางาริมองดูผู้มาทั้ง4คน
     
    “แล้วทำไมต้องเลือกสวนหลังโรงเรียนด้วยละครับ”ชินสงสัย
     
    “มันเหมาะดีที่จะเรียกบางอย่างออกมาไงละ”
     
    “ไอ้สิ่งที่เธอจะเรียกออกมา มันคือมังกรเมื่อคืนใช่ไหม”อัสรันถาม คางาริพยักหน้า
     
    “จะไม่มีคนอื่นเห็นงั้นหรอค่ะ”สเตล่าถามเนื่องจากสวนหลังโรงเรียนติดกลับหอพักนักเรียน ถ้าเรียกมังกรออกมามีสิทธิ์นักเรียนทั้งโรงเรียนใจวายกันหมด
     
    “ไม่ฉันกางเขตเกาะกำบังไว้แล้ว”คางาริบอกซึ่งสิ่งที่ทำมันรอบคอบมากเกินไปสำหรับสาวอายุ 17ปีมันเหมือนกับคนที่มีประสบการณ์มานาน
     
    “ฉันจะเริ่มเลย”คางาริบอกพร้อมกับถอดสร้อยที่สวมอยู่ออก
     
    “จงออกมา คุซานางิในนามของข้าที่เป็นเจ้านายของเจ้าผู้มีพันธะสัญญาของเจ้านับแต่อดีตกาล”คางาริร่ายออกมาได้เกิดแสงออกมาจากสร้อยคอของคางาริพร้อมกับมังกรสีเหลืองค่อยๆออกมาจากแสงจนออกมาได้ทั้งตัวแสงจากสร้อยคอถึงหายไป
     
    “แล้วอีกตัวหนึ่งละครับ”ชินถามอย่างสงสัยเนื่องจากความจริงน่าจะออกมาทั้ง2ตัว
     
    “รอหน่อย”คางาริหยิบมีดสั้นที่แอบไว้ใต้เสื้อคุมออกมาซึ่งตัวด้านจับเป็นรูปมังกรขดตัวรอบลูกแก้ว คางาริทาบมีดที่มือขวาพร้อมกับกรีดมันที่มือทำให้มีเลือดออกมา
     
    “ทำอะไรของเธอนะ”อัสรันรีบยื่นมือมาจับคางาริห้ามไว้ก่อน
     
    “ออกมาซิฟรีด้อม”คางาริเอ่ยอย่างสั้นเลือดได้หยดลงที่ไม้กางเขน ไม้กางเขนได้ส่องแสงพร้อมกับมังกรสีฟ้าอ่อนออกมาจากไม้กางเขน
     
    “ไงฟรีด้อม คุซานางิเมื่อคืนต้องขอบใจมากนะ”คางาริลูบมังกรทั้ง2ตัวอย่างอ่อนโยน
     
    “จะ จะ   เจ้า   พะ พวก นี้   ชะ ใช่ มัง   กร จะ จริงระ หรือ คะ ครับ”ชินถามอย่างไม่เชื่อสายตาของตนเอง
     
    “พวกนายไม่เคยเห็นมังกรกันหรือไง”
     
    “จริงสินะมังกร มันหายไปตั้งนานแล้วนี้ซักเมื่อ 1,000ปีก่อนแล้วมั้ง”
     
    “มังกร2ตัวนี้เป็น2ตัวสุท้ายงั้นหรอค่ะ”ลักซ์ถาม
     
    “หึ ไม่หรอกยังมีมังกรตัวอื่นอยู่อีกเพียงแต่”คางาริหันมามองมังกรทั้ง2ตัว
     
    “เพียงแต่อะไรค่ะ”สเตล่าถาม
    “เพียงแต่พวกมันไม่ยอมปรากฏตัวออกมาหลังจากที่...”คางาริหยุดพูดไปเฉยๆทำให้อัสรันรู้สึกแปลกๆ
     
    “หลังจากที่คนที่มันใกล้ชิดที่สุดตายไปโดยไม่เหลือใครซักคนที่จะอยู่เคียงข้างมันและยังมีมนุษย์บางกลุ่มตามล่าอีก”คางาริบอกอย่างแค้นใจ
     
    “มนุษย์ตามล่า”
     
    “มังกรนะได้ทุกเรียกว่าเป็นสิ่งที่มีการทำลายล้างสูงที่สุด ทำให้มนุษย์เริ่มหวาดกลัวหลังที่ผ่านไปถึง1,000ปีแล้ว ทั้งๆที่มังกรอยากอยู่ร่วมกันแท้ๆแต่สุดท้ายมังกรต้องหลบหนีมนุษย์อย่างยากลำบากจึงยอมที่จะไม่ให้มนุษย์เห็นหน้าอีก”
     
    “ทำไมเธอกับคิระถึงมีมังกรละ”อัสรันถาม
     
    “มันเป็นเรื่องของพวกฉัน”คางาริเอ่ยบอกโดยไม่หันมามองอัสรัน อัสรันนึกถึงคำพูดของคางาริที่เคยพูดตอนอยู่ L4เมนเดล
     
    “มังกร2ตัวนี้ชื่ออะไรครับ”ชินรีบถามเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศ
     
    “ข้าฟรีด้อม”มีเสียงบอกออกมา
     
    “เสียงของใครนะ”พวกอัสรันรีบมองมาที่มาของเสียง
     
    “ข้าเอง”ฟรีด้อมยืนหัวมาที่พวกอัสรัน ทำให้พวกอัสรันถอยหลังหนึ่งก้าว
     
    “ไม่ต้องกลัวไป มันเป็นเสียงของฟรีด้อมเองละ”คางาริบอก
     
    “ยอดไปเลยพูดได้ด้วย”
     
    “ส่วนข้าชื่อคุซานางิ”มังกรสีเหลืองยื่นมาเช่นกัน เสียงของมังกรทั้ง 2ตัวเป็นเสียงของหนุ่มและสาวอายุเท่าพวกอัสรัน
     
    ที่ทะเลทรายที่แสบทารุณสำหรับนักเดินทางที่เดินทาง อากาศที่ร้อนมากโดยไม่มีท่าทีที่จะอ่อนลงแต่กลับมีนักเดินทางคนหนึ่งเดินทางโดยที่ไม่มีอาการอะไรเลยไม่มีความหิวน้ำแต่สำหรับนักเดินทางโดยทั่วไปคงหิวน้ำตายไปนานแล้ว แต่นักเดินทางคนนี้ต่างกัน ในทะเลทรายกว้างใหญ่มากถ้าเดินทางข้ามทะเลทรายโดยมีการพักตอนกลางคืนต้องใช้เวลาเดินทางถึง 12วันแต่ถ้าไม่พักเลยใช่เวลาสูงสุด 9วัน แต่นักเดินทางคนนี้กลับใช่เวลาเพียง 4วันเท่านั้นซึ่งเมื่อนักเดินทางคนนี้เดินทางออกจากทะเลทรายไปจะเป็นทางไปสู่โรงเรียนSEED นักเดินทางคนนี้มุ่งหน้าไปที่โรงเรียนSEEDเพื่อจุดประสงค์อะไรกัน
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×