ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บารามอส ตอน คุมตัวนักโทษแห่งเดมอส

    ลำดับตอนที่ #9 : 008 นรกแดง

    • อัปเดตล่าสุด 2 เม.ย. 55


                            ดินแดนนักโทษ เป็นดินแดนที่มีไว้สำหรับคุมขังตัวนักโทษจากดินแดนต่างๆ ทั่วทั้งดินแดนไม่ว่าจะเป็นเอเดน เดมอสหรือสโนว์แลนต์ ที่แห่งนี้ไม่ได้ถูกปกครองโดยใครมีเพียงผู้คุมนักโทษเท่านั้น  นักโทษมีตั้งแต่พวกลักเล็กขโมยน้อยไปจนถึงพวกระดับอาชญากรรมรุนแรงที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งคนเหล่านี้จะมีการตั้งค่าหัวไว้แต่ก็มีสำเร็จน้อยรายที่จะจัดการพวกนี้ได้ จนกระทั้งเอเดนไม่เจอสถานที่แห่งหนึ่งเข้า สถานที่นั้นอยู่ในดินแดนของเดมอสที่อยู่เหนือขึ้นไปจากเมืองหน้าด่านเดมอส เป็นรอยแยกที่ครั้งสมัยเอวิเดสให้ดาบผ่าปฐผีแยกแผ่นดินเอเดนและเดมอสออกจากกัน ทางเดมอสได้ทำการสำรวจความเสียหายที่ได้เกิดขึ้นมา จึงพบว่า รอยแตกที่เกิดขึ้นนั้นได้ลงทำลายลึกลงไปมาก แต่ก็น่าแปลกที่ชั้นหินเหล่านั้นไม่มีท่าที่จะพังทลายลงมาง่ายๆ บวกกับที่เดมอสเริ่มที่จะมีนักโทษมากขึ้นทำให้ทางข้าราชการเดมอสคิดที่จะหาที่คุมขังใหม่ ซึ่งที่รอยแยกนี้น่าจะเหมาะที่สุด

                    ทำให้ทางเดมอสเริ่มที่จะสร้างที่คุมขังทันที แต่งานนี้กลับไม่สามารถเดินหน้าได้เพราะชั้นหินที่แข็งกว่าปกติหลายเท่านั้น ไม่มีเครื่องมือใดสามารถเจาะชั้นหินเหล่านั้นได้ จนทางเดมอสต้องให้ราชายักษ์เกรเซอร์ เกรเดเวลและราชินีนครจันทราลูน่า เกรเดเวลมาดูแลเรื่องนี้แต่ทั้งสองคนก็ไม่สามารถทำอะไรได้เช่นกัน จนกระทั้งได้ส่งขุนพลเงาออกจัดการเรื่องนี้ซึ่งขุนพลทำเพียงแค่ดีดนิ้วเพียงครั้งเดียว ดินแดนนักโทษก็เกิดขึ้นมา ก็แค่คุยกับพื้นดินคำพูดที่ออก มาจากปากนั้นจนกระทั้งเดี๋ยวนี้ก็ไม่มีใครเข้าใจ จากผู้ที่สร้างมันขึ้นมากลับกลายเป็นการดินแดนที่สร้างขึ้นมานั้นเป็นที่คุม ขังตัวเอง

     

                            นรกแดง ชั้นที่หนึ่งจาก 7ชั้น เพราะชั้นนี้มีไว้สำหรับผู้ที่เป็นขโมยกับนักโทษธรรมดา สาเหตุที่ทำให้ชั้นนี้มีชื่อนั้นก็เพราะ

                    “อ้าก ไอ้บ้านี้ ตายซะเถอะ”นักโทษคนหนึ่งที่ถูกนักโทษด้วยกันแทงเข้า หยิบมีดที่แอบไว้แทงกลับไป นักโทษที่นี้มักจะหาเรื่องต่อยตีกันเป็นประจำทำให้มีเลือดตกยางออกกันทุกช่วงเวลาทำให้ที่นี้เรียกว่านรกแดง

                    “ดูเหมือนที่นี้จะไม่ค่อยเท่าไหร่เลยนะ”โรมบอกจากการที่ดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า

                    “คิดอะไรง่ายๆ”ลูซิน่าบอก แล้วก้าวเดินไปข้างหน้า ทุกคนรีบเดินตามไปทันที

                    “ระวังทรัพย์สินไว้หน่อยนะครับ ถ้าไม่ระวังเดี๋ยวมันจะหายไปง่ายๆ”วิกเตอร์เตือนทุกคน ยังนี้ทุกคนต่างเดินเกาะกลุ่มในการเดินทาง พยายามเดินไม่ให้ชนพวกนักโทษทีนี้เพียงนิดเดียว ไม่อย่างนั้นเดี๋ยวมีเรื่องขึ้นมา

                    “แล้วตอนที่พวกนายมาทำไงละ”คิลถามดู แล้วมองดูรอบๆ เพราะตั้งแต่เหยียบเท้าเข้ามากก็ถูกจ้องมองมาโดยตลอดจึงเดินคู่ขนานไปกับเรน่อน

                    “อัดพวกมันมันหมดก็เท่านั้นละ”วูฟบอกวิธีการให้ฟัง

                    “แล้วพวกเราจะถึงด้านที่2 เมื่อไหร่”คาโลถามขึ้น เพราะเข้ามาถึงที่นี้เรียกได้ว่ามีขนาเขตกว้างมากๆ

                    “ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาดนะครับประมาณ พรุ่งนี้ก็น่าจะถึงด้านที่2”วิกเตอร์บอกอย่างสนุก เพราะในความคิดของเขาด้าน1 ก็เหมือนกันการเดินเล่นมากกว่าที่จะต้องมาระวังตัวเอาไว้

                    “พวกนายนี้ดูสบายจังนะ ทั้งๆที่มีคนเฝ้ามองพวกเรามาตลอด”หัวหน้าปราการปราชญ์เจ้าหญิง วีช่าเอ่ยบอก แต่ก็ไม่ได้พูดเสียงดังให้พวกที่ตามมานั้นรู้ตัว

                    “มันก็เป็นเรื่องที่ปกติดีครับ อีกอย่างไม่แน่ เดี๋ยวก็มีการรับน้องใหม่ของที่นี้กัน พอดี”วิกเตอร์บอกแล้วหยุดเดิน เพราะข้างหน้าของพวกเขานั้นมีคนยืนต้อนรับอยู่เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว

                    “เฮ้ พวกน้องนี้เด็กใหม่ใช่ไหมเนี้ย”ชายคนหนึ่งที่ดูเหมือนว่าจะเป็นหัวหน้าเอ่ยขึ้นมา ทุกคนในคณะเตรียมอาวุธพร้อมทันที

                    “พวกขยะนะ ถอยไป”ลูซิน่าเอ่ยกลับ ทำเอาคนที่ฟังก็รู้แล้วว่าเจ้าตัวนั้นหมายถึงใคร ทำเอาคนร่วมเดินทางคิดเหมือนกันคือ ปากพาความซวยมาให้

                    “หนอย นังหนูอยากตายมาก ช..”ก่อนที่ชายที่เป็นหัวหน้าจะพูดจบ ลูกไฟก็พุ่งระเบิดใส่หน้าเข้าให้อย่างจัง ทำเอาทุกคนที่เห็นเหตุการณ์อันรวดเร็วนั้น หันไปมองยังคนที่ทำซึ่งนั้นก็คือ คนที่ปากพาความซวยมาให้ ลูซิน่า!!!

                    “อย่าให้ต้องพูดซ่ำอีก”ลูซิน่าเอ่ยอีกครั้งหัวคทาในมือส่องแสง เหมือนเป็นการบอกว่า ให้ทำตามที่บอกไม่อย่างนั้นจะเป็นอย่างเมื่อกี้ ช่วยผสมโรงช่วยเจ้านายของตน ทำเอาพวกที่มาขวางทางไว้เรียบจับกลุ่มปรึกศากันทันที ส่วนลูซิน่าที่เห็นว่าไม่มีใครมายืนขวางทางแล้วก็เดินต่อทันทีตาด้วยวิกเตอร์และวูฟ เหลือเพียงแค่ทางเอเดนเท่านั้นที่ไม่มีใครเดินกันเลย วิกเตอร์เห็นว่าไม่มีใครเดินตามมาเลยจึงกวักมือให้เดินตามมา พวกคาโลจึงรีบเดินตามให้ทัน ก่อนที่จะถูกทิ้งไว้ที่นี้

    ทุกคนในคณะเดินทางได้เดินทางกันจนมาถึงกลางป่าแห่งหนึ่ง ซึ่งมันก็เริ่มมืดแล้วทำให้ทุกคนต้องหยุดการเดินทางไว้เพียงแค่นี้ เพื่อที่จะกางเต้นท์นอนกันในคืนนี้ อย่างน้อยในการหาอาหารกินกันนั้น ในดินแดนนักโทษก็มีสัตว์ป่าให้ล่าหาอาหารมากินได้

                    “แล้วคืนนี้ ใครต้องมาเฝ้า”อาเธอร์ถามขึ้น เพราะอย่างน้อยในคืนนี้ก็ต้องให้ใครมาเฝ้ากองไฟ

                    “เฝ้ากันคนละ 2ชั่วโมงเป็นไง”ลูคัสเสนอ เพราะอย่างน้อยทุกๆ2ชั่วโมงก็ไม่น่าจะมีอันตรายขึ้นมา

                    “ก็ดี รอบแรกให้โรมกับโร ก็แล้วกัน”โรเวนเอ่ยถึงคู่แรกของคืนนี้

                    “รอบสอง พวกผมครับ”ครี๊ด ซีบิลและกัสเสนอ

                    “ถ้าอย่างนั้น รอบสามให้พวกฉันก็แล้วกัน”พวกสาวๆเพียง 5คนเสนอตัว เพราะอย่างน้อยมีพวกผู้หญิงอยู่ด้วยกันน่าจะดีกว่าที่จะให้เฝ้าร่วมกับพวกผู้ชาย

                    “จะนั่งเฝ้าหรือโม้กัน หว่า”ครี๊ดถามคิลดู ทำเอาคิลกั้นเสียงหัวเราะเอาไว้โดยลืมไปดีพวกเดมอสนะหูดีมากกว่าคนธรรมดา คำพูดของครี๊ดก็ทำให้วูฟท์หัวเราะออกมาโดยไม่ได้เก็บอาการซักนิด

                    “ถ้าอยากรู้ ก็อยู่ต่อดีไหมละ ครี๊ดว่าพวกผู้หญิงนะจะเฝ้ายามหรือคุยโม้กัน”วูฟท์ถามให้ทุกคนได้ยิน ทำเอาครี๊ดโดนคทาของแองจี้ฟาดใส่หัวเต็มรักเลย โทษฐานไม่ไว้ใจพวกเธอ

                    “ถ้าพวกคุณจะเฝ้ากันก็ให้ ลูซิน่าอยู่ด้วยละกันครับ”วิกเตอร์อีกคนร่วมเฝ้ายาม ส่วนคนที่ไม่อยากเสนอตัวมองตาขวางใส่เพื่อนร่วมเดินทางที่เสนอตัวเองขึ้นมา

                    “น่าๆ จะได้มีเพื่อนเพิ่มไง อยู่กับยัยฟรายตลอดไม่ได้หรอกนะ”วูฟช่วยเสริม เพราะพวกเขาไม่เคยเห็นลูซิน่ามีเพื่อนคนอื่นเลยยกเว้น ฟรายที่ไม่ได้มาร่วมเดินทางด้วย

                    “เห็นพวกนายพูดถึงคนที่ชื่อ ฟรายนี้หลายครั้งแล้ว เขาเป็นใครอย่างนั้นหรอ”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×