ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บารามอส ตอน คุมตัวนักโทษแห่งเดมอส

    ลำดับตอนที่ #17 : 016 ลาวาที่ร้อนแรง

    • อัปเดตล่าสุด 10 ก.ย. 56


     ขอโทษคนอ่านด้วยที่หายไปนานมากมากเลย แต่คนเขียนพยายามเขียนตอนใหม่มาให้แล้ว
    ถึงแม้ว่ามันจะติดขัดที่นึกเนื้อเรื่องที่ออกก็ตาม


    ============================================================================================

    “เวลาเหลือไม่มากแล้ว”ลูซิน่าที่ตื่นขึ้นมาเป็นคนแรก ในเช้าวันใหม่สิ่งแรกที่เธอจะต้องทำเป็นอย่างแรกก็คือ การตรวจดูเปลวไฟจากตะเกียงที่เป็นของสำคัญในการเดินทางครั้งนี้ที่คนจากเอเดนไม่มีใครรู้เรื่องนี้เลย ว่าตะเกียงที่เธอดูแลยิ่งชีวิตนั้นสำคัญมากขนาดไหนเพราะเธอก็ไม่ได้แสดงมันให้ใครเห็นมัน ยกเว้นแค่ตอนแสดงมันให้ผู้คุมแต่ละด่านเห็นเท่านั้น

    “อีตาบ้าตื่นได้แล้ว”ลูซิน่าตบแก้มปลุกคนชอบตื่นยากหลายครั้ง ที่เมื่อคืนแอบมานอนกันเธอ ทุกครั้งที่เจ้าตัวมีโอกาสเป็นจอมฉวยโอกาส

    “อีกแป๊บนะ ยัยเตี้ย”คนโดยปลุกที่ยังอยากนอนต่อดึงคนปลุกลงมาเป็นหมอนข้างของตัวเอง ด้วยความอยากนอนต่ออีกทำให้พูดสิ่งที่ไม่ควรพูดออกมาไป

    ใคร เตี้ย หา!!!!”ลูซิน่าตะโกนด้วยความโมโหกับคำต้องห้ามที่เธอไม่ชอบมันเลยแม้แต่นิดเดียว แต่ตัวคนพูดดูเหมือนจะยังไม่รู้สึกตัวว่าหายนะกำลังมาหาแล้ว

    “ระเบิดไปซะ”ลูซิน่าร่ายเวทระเบิดใส่ทันที เสียงระเบิดดังสนั่นคนอื่นๆที่นอนอยู่สะดุ้งตกใจรีบออกมาดูเหตุการณ์ว่าเกิดอะไรขึ้นแต่ที่มีก็เพียงแค่วูฟที่เสื้อผ้าขาดบางส่วนกับบาดแผลอีกเล็กน้อย

     “ทำบ้าอะไรของเธอนะ ยัยเตี้ย”วูฟที่ถูกปลุกด้วยวิธีรุนแรงภามทันที แต่ที่จะได้รับคำตอบกลับมานั้น ลูซิน่าที่ได้ยินคำต้องห้ามอีกครั้ง ยืนอยู่หน้าวูฟด้านหลังก็มีรังสีฆ่าฟันเกิดขึ้นมาแทนทีซะแล้ว เหตุการณ์เดิมเกิดขึ้นมาเป็นครั้งที่สองแต่ครั้งนี้กลับต่างจากครั้งก่อนที่ วูฟสามารถหลบออกมาได้อย่างง่ายดาย

    ปึด เสียงที่ดูเหมือนเสียงเส้นความอดทนที่มีอยู่มานานขาดลง ทำเอาวูฟที่หลบเวทหยุดการเคลื่อนไหวของตัวเองลง

     “ใจเย็น ไม่ได้ตั้งใจที่จะพูดนะ”วูฟรีบขอโทษแต่โดยดีก่อนที่อะไรมันจะเลยเถือดไปมากกว่านี้ แต่คำพูดนี้จะไม่ได้เข้าไปในหูของใครบางคนแล้ว ที่จะมีก็คงเพียงเสียงร่ายเวทเบาๆที่เหมือนกับการพึมพำออกมามากกว่า

     “ครั้งนี้ครั้งเดียวเท่านั้น”ลูซิน่าที่ร่ายเวทจวนเสร็จแล้ว หยุดร่ายเวทลงเพราะตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะทำให้การเดินทางเกิดความล่าช้าเด็จขาด ลูซิน่ากลับเข้าไปเก็บของในเต็นท์ทันที ท่ามกลางคนที่ดูเหตุการณ์อย่างลุ้นระทึก

    “เกือบไปแล้วไหมละ”จีนที่เดินมาพร้อมกับวิกเตอร์บอกซึ่งวูฟเองก็เห็นด้วย เพราะถ้าเป็นตอนปกติ ป่านี้เขาก็คงลงไปนอนกับพื้นเป็นที่เรียบร้อยไปแล้ว

    “วันนี้ยัยนั้นรีบร้อนมากกว่าปกติ”วูฟบอก เพราะมีเรื่องที่สำคัญกว่าการอัดเขาทำให้ ยัยเตี้ยของเขาเลือกที่จะทำเป็นไม่สนใจ(จำไม่ยักได้ว่าลูจังนี้ เป็นแฟนแกนะ ไอ้ตูบ: Dra)(อีกไม่นานก็ได้เป็น:วูฟ)(ขอให้ไม่สมหวัง:dra)

    “พวกนอนกินเวลาลุกขึ้นมากันได้แล้ว”ลูซิน่าที่เก็บของเสร็จเรียบร้อย เรียกให้คนอื่นตื่นนอนกันทันที งานนี้ใครไม่ลุกลูซิน่าบุกเข้าไปปลุกถึงที่ ทำเอาเหยื่อเคราะห์ร้ายแทนวูฟเจ็บกันไปทั่วหน้า

    “ยัยนั้นเป็นบ้าอะไรเนี้ย”พวกโดนปลุกโอดครวญกันไปเป็นแถว ขนาดโซโลที่มักจะหลับอยู่เสมอยังต้องทำตามที่ลูซิน่าสั่งเลย การเดินทางครึ่งหลังของคณะคุมตัวนักโทษต่างเดินทางกันได้เร็วกว่าครั้งแรกนิดหนึ่ง แต่ในความรู้สึกของลูซิน่ากลับคิดว่าช้าเหมือนกับเต่ากำลังเดินทางมากกว่า

    “เร็วกว่านี้ไม่ได้หรือไงกัน พวกนาย”ลูซิน่าที่นำหน้าคนอื่นไปไกลประมาณห้าช่วงตัวตะโกนถามขึ้น

    “ใจเย็นหน่อย ลูซิน่า พวกเขาพึ่งจะเคยเดินทางแบบนี้กันเป็นครั้งแรกนะจะให้ปรับตัวเร็วๆไม่ได้หรอก”วิกเตอร์ที่เดินร่วมกับคนอื่นตะโกนตอบกลับไป

    “ยิ่งเธอพยายามเร่งพวกเขามาก ภารกิจจะไม่สำเร็จได้”จีนที่กระโดดเพียงแค่ครั้งเดียวก็สามารถลอยไปจนถึงตัวของลูซิน่าได้บอกกับเจ้าตัว

    “รู้อยู่แล้ว”ลูซิน่าบอกเพราะตัวเองรู้ถึงความสามารถของเพื่อนร่วมเดินทางครั้งนี้ แต่มันก็อดไม่ได้ที่จะเร่งการเดินทางขึ้นถึงแม้ว่าจะเพียงแค่เล็กน้อยก็ยังดี การเดินทางออกจากด่านที่3 จึงจบลงกับมาเดินทางถึง3วันที่ยาวนานสำหรับใครหลายๆคน ก่อนจากกับผู้คุมด่านที่3 วิกเตอร์ก็มีท่าทีไม่อยากที่จะไปต่ออยากอยู่กับจีนมากกว่า จนวูฟต้องดึงตัวไปด้วยกันจึงจะได้ออกเดินทางกันต่อก่อนจากกันมีภาพเด็จให้ทุกคนได้ตะตึงกันคือ ไม่ว่าอย่างไรวิกเตอร์ก็ไม่อยากไปต่อจีนกระซิบบางอย่างกับวิกเตอร์ก่อนแล้วฉากจูบอย่างดูดดื่มก็เกิดขึ้นต่อหน้าต่อตาของทุกคนโดยมีจีนเป็นฝ่ายรุกก่อนจนจีนถอนจูบออก วิกเตอร์จึงยอมที่จะเดินทางกันต่อ

    “เอาละทุกคน ด่านที่4เป็นที่ๆซึ่งอันตรายมากๆขอให้ทุกคนระมัดระวังการเดินด้วยนะ”วิกเตอร์บอกด้วยความร่าเริง ทำเอาคนอื่นๆรู้สึกเลี่ยนไม่ได้โดยเฉพาะพวกที่ไม่มีความรักแทบอยากจะอ้วกออกมากันทั้งนั้น

    “หวานไม่ดูสถานที่เลยนะ”ชายคนหนึ่งที่ยืนอยู่หน้าประตูทางเชื่อม เป็นชายหนุ่มอายุประมาณ20ปลายๆ ผมสีเทายาวถึงเพียงแค่ระดับต้นคอ ดวงตาก็สีเทาด้วยเช่นกัน แต่สิ่งที่เรียกความสนใจของทุกคนไว้นั้น คือชุดที่ชายคนนั้นใส่อยู่ เพราะมันเป็นชุดของนักบวชแต่มันก็ไม่ได้เหมือนกับชุดที่ลอเรนช์ใส่ หรือบาซิลใส่เลยแม้แต่น้อย

    “ที่แท้ก็มาอยู่ที่นี้เอง”ลอเรนซ์เป็นคนแรกที่พูดกับผู้คุมด่าน4

    “คิดว่าใคร ที่แท้ก็เจ้าหนูลอเรนซ์นี้เอง”ผู้คุมด่านที่4 ที่เหมือนว่าจะรู้จักกับลอเรนซ์เอ่ยขึ้น ถึงแม้ว่าทุกคนจะไม่รู้ว่าทั้งสองคนนี้มีความสัมพันกันอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกคนต่างมองเห็นเหมือนกันคือ อารมณ์โกรธของลอเรนซ์กำลังปะทุขึ้นมาเรื่อยๆ โดยไม่สามารถที่จะหยุดได้แล้วในตอนนี้

    ลอเรนซ์ปามีดของตัวเองใส่ผู้คุมด่าน4 ทันทีไม่รอช้า ไม่มีสัญญาณเริ่มอะไรเกิดขึ้นแม้แต่น้อย แต่มีดที่ถูกปานั้นกลับถูกหยุดได้โดยง่ายดายอยู่กลางอากาศจากเวทมนตร์

    “เมื่อก่อนไม่ได้ขี้หงุดหงิดอย่างนี้ไม่ใช้หรอไง”ผู้คุมด่าน4 ที่เหมือนว่าจะเป็นคนหยุดมีดที่ปามาใส่ตัวเองพูดต่อโดยไม่มีท่าทีตกใจเรื่องมีดเลยแม้แต่น้อย

    “บอกเหตุผลมา ทำไมวันนั้นถึงได้หายตัวไป”ลอเรนซ์ที่ตั้งท่าจะขว้างมีดเป็นครั้งที่สองถามก่อน

    เปรี๊ยง

    เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถัดมาทำเอาแต่ละคนตะลึงกับไปตามๆกัน เมื่อก่อนที่ลอเรนซ์กับผู้คุมด่านที่4 ที่ได้ถามตอบกัน ลูซิน่าที่วันนี้ดูอย่างไรก็เหมือกับว่าสามารถอารมณ์เสียไปได้ทุกเรื่อง ถีบเข้าที่หลังของลอเรนซ์เต็มแรงเจออย่างนี้เข้าไปลอเรนซ์ถึงกับหน้าลงที่ทิ่มกับพื้นทรายทันที

    “เธอ”ลอเรนซ์เงยหน้าแล้วหันไปสบตากับคนทำ

    “ถ้าจะกัดกันละก็ ไว้พวกเราที่เหลือเดินทางไปจนถึงด่านที่5 ได้ก่อนแล้วจะแตกตัวออกไปก็ได้ ฉันเคยบอกก่อนหน้านี้แล้วว่า พวกนายนะเป็นภาระในการเดินทาง”ลูซิน่าย่ำเตือนคำพูดที่เคยดูดเอาไว้ก่อนที่ทุกคนที่เดินทางมาให้ทุกคนไปยินกันอีกครั้ง

    “ส่วนนาย”ลูซิน่าชี้นิ้วที่ยังผู้คุมด่าน4 ที่ยืนนิ่งไม่สนใจอะไรทั้งสิ้นกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้า

    “รีบเปิดประตูได้แล้ว”คำสั่งที่ลูซิน่าสั่งขึ้น ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรมากแต่ผู้คุมด่านก็ยอมทำให้โดยดี

    เมื่อประตูด่านที่4 ถูกผลักเข้าไปเปิดอ้าเพียงแค่เล็กน้อยสิ่งแรกที่ทุกคนสามารถรับรู้ได้เลยคือ ไอร้อนที่มีความร้อนมากกว่าตอนที่อยู่ในทะเลทรายมากมายนักแถมด้วยเสียงที่เป็นเสียงดัง ครืน ครืนตลอดเวลา ทำเอาแต่ละคนเริ่มกลัวกันแล้ว

    “ยังไม่ได้แนะนำตัวเลยซินะ ลีออน เบลมอส ผู้คุมด่าน4 หรือด่านที่ชื่อว่า ลาวาที่ร้อนแรง”

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×