ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    บารามอส ตอน คุมตัวนักโทษแห่งเดมอส

    ลำดับตอนที่ #15 : 014 บุตรีแห่งพระอาทิตย์

    • อัปเดตล่าสุด 30 ต.ค. 55


      โอ้วเย้ ไรเดอร์กลับมาลงให้แล้วนะ หลังจากที่หายไปนานเหมือนกัน แต่หลังจากลงตอนนี้ไปไรเดอร์ก็คงหายไปประมาณ 2-3อาทิตย์ละ
    ทั้งๆที่ไรเอดร์พึ่งจะได้หยุดพัก เป็นอาทิตย์สุดท้ายจากการพักผ่อนแค่สองอาทิตย์ เศร้าจัง อาทิตย์หน้าต้องไปเรียนเทอมสองแล้ว
    ============================================================================================

    หลังจากที่คณะเดินทางก้าวเท้าเข้าไปยังด่านที่3 แล้งนั้นสิ่งแรกที่ทุกคนต่างก็คิดเหมือนกันนั้นก็คือ อากาศที่สุดแสนจะร้อนมากๆ ซึ่งนี้ขนาดที่ทุกคนเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นเสื้อผ้าที่บางแล้วยังไม่อาจที่จะทำให้ไม่รู้สึกถึงความเย็นได้จากไอร้อนที่ทะเลทรายระบายออกมาได้เลย ในคณะเดินทางตอนนี้ก็มีใครที่จะไม่ไหวที่แสดงอาการออกมาแล้ว ย่างน้อยก็2คน นั้นก็คือ เจ้าชายอาชูร่าที่ชอบการกินเป็นชีวิต กับวิกเตอร์ที่เป็นแวมไพรที่ไม่สามารถโดนแสงอาทิตย์ได้อยู่ในสภาพที่ต้องให้ วูฟสะพายวิกเตอร์ให้ขี่หลังของตัวเองแล้วพาเดินแทน

    “นี้เราเดินมาได้แค่ไหนแล้ว”แองจี้ตะโกนถามผู้นำทางที่ดูเหมือนว่าจะไม่มีอาการเหนื่อยจากความร้อนของที่นี้

    “ยังไม่ถึง 1ใน3 ด้วยซ่ำไป”จีนบอกให้ทุกคนได้ฟัง ทำเอาทุกคนหน้าซีดกันไปตามๆกัน เดินกันมาตั้ง 3ชั่วโมงยังไม่ถึง 1ใน3อีก

    “อย่าไปสนใจเรื่องระยะทางเลย คิดว่าการเดินทางตอนนี้เป็นการฝึกฝนร่างกายของพวกเจ้าไปซะ”จีนเปลี่ยนเรื่อง เพราะดูท่าถ้าไม่ทำให้พวกอื่นๆคิดเรื่องอื่นที่ไม่ใช่เรื่องระยะการเดินทางจะเป็นเรื่องที่ดีที่สุด

    “ที่เดินทางกันได้น้อยอย่างนี้ก็มาจากที่ พวกเจ้าทั้งหมดนั้นไม่รู้วิธีการเดินในทะเลทรายที่ถูกต้องย่อมทำให้การเดินทางนั้นสั้นอย่างที่เป็นอยู่”จีนอธิบายเรื่องนี้ทันที ซึ่งมันก็สามารถทำให้ทุกคนมีความสนใจเรื่องวิธีที่จะทำให้เดินทางได้ดีขึ้นฃ

    “การเดินในทะเลทรายจะเป็นการฝึกให้พวกเจ้าทุกคนรู้จักวิธีการเดินให้มีสมดุลของร่างกาย ต่อให้เก่งอย่างไรก็ตามแต่สมดุลของร่างกายไม่ดีก็ไม่อาจที่จะสู่กับคนที่ฝึกสมดุลมาอย่างดีได้ มนุษย์นั้นไม่เคยรู้เลยว่า ร่างกายนั้นมีสมดุลที่คอยค้ำร่างกายในการทรงตัว เพราะไม่รู้จึงไม่ดูว่าจะต้องทำตัวอย่างไรจึงเป็นการรักษาสมดุลไม่ให้เสีย”จีนอธิบายไปเดินไป โดยที่ให้แต่ละคนหาวิธีการกันเอง

    “ยาก อะ”ครี๊ดที่ฝึกเดินได้เพียงนิดเดียวบ่นออกมา

    “ถ้าคุณครี๊ดคิดว่ายาก อย่างนั้นลองนึกถึงตอนที่พวกเราอยู่ปีหนึ่งดูสิครับ ที่ฝึกซ้อมแบกถังเดินดูซิครับ ผมว่ามันเกี่ยวข้องกับการฝึกนี้ได้เลย”ซีบิลแนะนำ ซึ่งป้อมอัศวินทุกคนย่อมเคยผ่านการฝึกอย่างนี้มาก่อน ย่อมลองทำดู ซึ่งมันเป็นไปด้วยดีที่แต่ละคนเดินได้ดีมากขึ้น

    จนเวลาผ่านกันมาถึงตอนเย็นจีนจึงให้ทุกคนหยุดพักผ่อน เรียกเสียงหัวเราะจากวูฟที่มองทุกคนจนครบเมื่อแต่ละคนถอดผ้าคลุมใบหน้าออกกัน ใบบริเวณรอบดวงตาของทุกคนต่างออกสีผิวคล่ำกัน จากการที่เดินแตกแดดมาเป็นเวลานาน

    “นี้ขนาดมีผ้าคลุมทั้งร่างแล้วนะเนี้ย”วีช่าบ่นออกมา สำหรับผู้หญิงนั้นการที่สีผิวนั้นคล่ำเป็นเรื่องที่ ถ้าใครเห็นคงคิดได้ว่า เป็นผู้หญิงที่ไม่ดูแลตัวเองเลย

    “อยากออกจากที่นี้เร็วๆซะแล้ว”โซมาเนียเห็นด้วยกันเรื่องนี้

    “แล้ว ร่างกายของรุ่นพี่ไม่เป็นอะไรหรอค่ะ”เรน่อนถามวีช่าดู เพราะวีช่าเป็นเจ้าหญิงสโนว์แลนที่เป็นภูมิอากาศหนาวเย็นตลอดปี

    “ก็ไม่เป็นอะไรมากนักหรอก จะเป็นก็แค่รู้สึกเหนื่อยง่ายก็เท่านั้นละ”วีช่าบอกซึ่งมันก็เป็นเรื่องจริงที่เธอรู้สึกอย่างนั้น รวมไปถึงพลังของเธอที่มันปั่นป่วนอยู่เป็นระยะ

    “แต่ดูคู่นั้นแล้ว มันหวานเหมือนกันนะ”วีช่าบอกที่คืนนี้มีคนมาร่วมเฝ้าด้วย ซึ่งนั้นก็คือ วิกเตอร์กับจีน โดยวิกเตอร์กำลังนอนหนุนตักจีนหลังจากที่พอมืดแล้ว วิกเตอร์กลับมามีสภาพที่สมบูรณ์ดีไม่เหมือนตอนกลางวัน ทั้งคู่ไม่มีใครเอ่ยคำพูดอะไรออกมาเหมือนกับการใช้การมองตากันนั้นเป็นคำพูดในการบอกเล่าเรื่องราวของตนเองแทน

    “อ่า อยากให้มีใครทำอย่างงี้กับเราบ้างจัง”วีช่าบอก แล้วสังเกตุท่าทางของคนอื่นๆที่มีอยู่คนเดียวที่มีประติกิริยาออกมาอย่างน้อยก็ใบหน้าแดงไปแล้ว

    “เปลี่ยนเรื่องคุยกันแถอะ ส่วน2คนนั้นก็ปล่อยให้อยู่ในโลกของสองคนนั้นไปเถอะ”

     

    ในตอนเช้าวันใหม่จีนก็รีบให้ทุกคนตื่นนอน เพื่อออกเดินทางให้เร็วมากที่สุด ส่วนเหล่าคนที่เดินทางเมื่อวานนั้นมีสภาพอย่างไร วันนี้มันก็เป็นเหมือนเดิมอย่างนั้นเลย

    “วันนี้ มันจะไปได้เท่าไหร่เนี้ย”อาเธอร์บ่นออกมา เมื่อการเดินทางนั้นช้ามาก

     แต่ก็ไม่มีใครสามารถทำอะไรมันได้ ในเมื่อพวกเขาต่างพึ่งจะเคยเดินทางที่มันยากลำบากแบบนี้เป็นครั้งแรกย่อมต้องช้าอยู่แล้ว คณะเดินทางเดินทางอย่างนี้มาจนเป็นวันที่ 5ตั้งแต่เริ่มเดินทางยังด่านที่3 สิ่งที่เริ่มส่งผลเสียนั้นก็คือ น้ำดื่มที่เริ่มจะไม่เพียงพอต่อทุกคนทำให้ทุกคนต้องมาประหยัดการดื่มน้ำ แต่ถ้าที่ด่าน3นี้ ไม่มีแหล่งน้ำในการดื่มหรือเติมน้ำนั้น ดีไม่ดีทุกคนได้กลายเป็นศพก่อนเป็นแน่

    “น้ำจ้า น้ำ”อาชูร่าพึมพำกลับจัวเอง แล้วหยิบขวดน้ำของตัวเองออกมา เพื่อดื่มน้ำแต่กลับไม่มีน้ำออกมาจากขวดแม้แต่หยดเดียว

    “ใครมีน้ำเหลือบ้างไหม”อาชูร่าตะโกนถามเพื่อนๆ จนนิกส์โยนขวดน้ำของตัวเองให้อาชูร่า อาชูร่ารีบดื่มน้ำทันทีไม่รอช้า จนน้ำของนิกส์นั้นหมดลง ทำเอานิกส์ตะลึงไม่ได้ที่น้ำของตัวเองหมดซะแล้ว ความอดทนภายในใจของนิกส์ก็หมดลง นิกส์พุ่งตัวเข้าชนอาชูร่าจนทั้งสองกลิ้งลงลงข้างล่าง ทำให้คนที่เดินอยู่ด้านหลังต้องลงไปช่วยกันห้าม ทั้งสองที่เริ่มเปิดศึกสู่กันเองซะแล้ว

    “นายทำบ้าอะไรของนายนะ”นิกส์ชกใส่อาชูร่าทันทีที่พยุงตัวเองได้

    “แล้วชกฉันเรื่องอะไรเล่า”อาชูร่าถามทันทีพร้อมกับชกมัดสวนกลับไป

    “เล่นดื่มน้ำซะหมดอย่างนี้ ไงละ”

    “คนมันเหนื่อยนี้ ทำไงได้”

    “ไม่ใช่ให้ดื่มหมด อย่างนี้”

    “พวกนายหยุดทะเลาะกันได้แล้ว”โซโลที่เข้ามาถึงเป็นคนแรกห้ามทั้งคู่ทันที ตามมาด้วยกัสกับเดทที่จับแยกทั้งสองคนออกจากกัน

    “ไอ้อ้วนบ้านี้ เล่นดื่มน้ำจนหมดเลย”นิกส์พยายามสะบัดตัวให้หลุดจากการที่ถูกจับอยู่ เหมือนกันอาชูร่า

    “นี้ ไม่ใช่เวลามาทะเลาะกันนะพวกนาย”มาทิลด้าพูดเตือนสติของทั้งสอง แต่ดูเหมือนว่ามันจะไม่ได้ผลอะไรเลย

    “เจ้าพวกบ้า รีบขึ้นมาเร็ว”จีนที่เป็นผู้นำทางตะโกนบอกขึ้น แต่เสียงบอกจีนก็ไม่มีใครฟังเลย แต่ก่อนที่เรื่องชกต่อยจะบานปลายไปกว่านี้ พื้นทรายจะนักเรียนปี 3ป้อมอัศวินที่ยืนอยู่นั้นก็ยุบตัวลงเป็นหลุดทรายดูดขนาดใหญ่ ที่ก้นหลุดมีตัวบางอย่างรออยู่ข้างล่างแล้ว

    “วีช่า รีบร่ายเวทเร็ว”โรเวนที่ไม่ได้ลงไปด้วยบอก แล้วตัวเองก็ร่ายเวททันที ในตอนนี้ที่ทุกคนต่างร่ายเวทที่ตัวเองสามารถใช้ได้ออกมา เพื่อที่จะช่วยพวกรุ่นน้อง ทางคาโลเองก็ร่ายเวทที่ไว้ใช้จัดการกับตัวอะไรก็ตามที่อยู่ก้นหลุม

    “หอกน้ำแข็ง”คาโลเรียก อาวุธบนอากาศเป็นหอก 6อัน คาโลสั่งให้หอกทั้งหมดพุ่งลงไปยังก้มหลุม แต่ระหว่างนั้นหอกน้ำแข็งที่เรียกมากับโดนอากาศที่ร้อนที่ให้มันเริ่มละลายจนมันกลายเป็นไอแทน

    “บ้าจริง”คาโลที่เห็นสิ่งที่เกิดขึ้นกับเวทของตัวเอง จึงเปลี่ยนจากการโจมตีไม่การช่วยเหลือคนอื่นๆให้ขึ้นมาจากหลุมทรายให้ได้แทน

    “วูฟ”จีนเรียกวูฟที่ยืนอยู่ห่างจากตัวเองไม่มากนัก พร้อมกับโยนเชือกของตัวเองให้โดยที่ตัวเองถือปลายเชือกข้างหนึ่งไว้ วูฟรีบพันเชือกกับมือของตัวเองทันที

    จีนกระโดดลงไปยังกลางหลุมท้ามกลางสายตาตกตะลึงของแต่ละคน ที่ไม่มีใครคาดคิดว่าผู้คุมจะกระโดดลงไปตายอย่างนี้

    แสงอาทิตย์สาดส่องลงมายังที่เราทั้ง2 ประสาน 2เราให้เป็นหนึ่งเดียวเสียงร้องเพลงออกมาจากจีนอย่างเบาๆ พร้อมกับเกิดแสงสว่างขึ้นที่ข้อมือข้างซ้ายของจีน เมื่อแสงสว่างอ่อนลงสิ่งที่ทุกคนเห็นอยู่ก็คือ หญิงสาวคนหนึ่งที่มีผมสีเงินยาวไปจนถึงกลางหลัง แถมมีอาวุธประหลาดที่ดูเหมือนว่าน่าจะเป็นดาบ ที่รอบๆตัวก็มีแท่นแก้วยาวประมาณ 2นิ้วลอยตัวหลายอัน

    “ไป”หญิงสาวแปลกหน้าเอ่ยออกมาเบาๆ แท่นแก้วทั้งหลาย พุ่งตรงไปยังเหล่านักเรียนปี3 ที่อยู่ในหลุมทรายดูด

    “รีบจับ พวกนั้นไว้เร็ว”วูฟตะโกนบอก ซึ่งแต่ละคนรีบจับแท่นแก้วไว้ทันที

    “เอาละนะ .......”หญิงสาวแปลกที่เห็นว่าทุกคนนั้นจับแท่นแก้วไว้ทุกคนแล้ว ก็หันไปสนใจสิ่งที่อยู่ก้นหลุมแทนพร้อมกับพูดอะไรบางอย่างออกมาเบาๆ แล้วกลับมาพูดด้วยเสียงปกติที่สามารถได้ยินได้

    “ราชาหนอนแห่งทะเลทราย ขออภัยด้วย”ดาบประหลาดก็ส่องแสงออกมา หญิงสาวแปลกหน้าตวัดดาบลงไปยังพื้นทรายเพียงครั้งเดียว พื้นก็ระเบิดขึ้นอย่างแรงทำให้แต่ละคนที่จับแท่นแก้วนั้นเกือบที่จะปลิวไปกับแรงลมที่มีแล้ว

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×