คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 3rd MISTLETOE
3rd MISTLETOE
อากาศตอนเย็นในฤดูหนาวไม่ได้ต่างไปจากช่องแช่แข็งในตู้เย็นสักเท่าไหร่นัก การใส่ขาสั้นมาข้างนอก ทั้งๆที่เป็นคนขี้หนาวจึงเป็นปัญหาสำหรับ ไอรีน ที่ตอนนี้นั่งลูบแขนขาไปมาหวังว่าจะทำให้มันอุ่นขึ้น ทั้งที่ลมหายใจยังกลายเป็นควัน ลอยขึ้นชั้นบรรยากาศอยู่แบบนี้
เสื้อยีนส์สีซีด ถูกคลุมที่ไหล่บางก่อนเจ้าของมันจะเดินไปที่ไหนสักที่ และกลับมาด้วย แก้วช็อคโกแลตร้อน ควันฉุย สองแก้ว แก้วนึงยื่นให้หญิงสาวที่อยู่ตรงหน้า แล้วหดมือกลับมากุมแก้วช็อคโกแลตของตัวเอง
“หนาวเนอะ”
“อือ”
“เป็นอะไรคะ”
“เปล่าหรอก พี่แค่คิดว่า ดาวมันสวยดีน่ะ”
ไอรีนตอบออกมาพร้อมรอยยิ้มบางๆ ดวงตากลมโตเหม่อมองผืนฟ้าที่มีดาวระยิบระยับ โดยที่มีสายตาอบอุ่น ทอดมองอยู่ข้างกาย ไม่ไกลกัน ของซึลกิ
“พี่เคยมีความรักไหม”
“ถามทำไม”
“ฉันอยากรู้”
“อยากรู้ไปทำไม”
ซึลกิ หัวเราะ ก่อนจะหยุดลง รอยยิ้มยังค้างอยู่บนใบหน้าคม
“ฉันอยากรู้มุมมองความรักของพี่น่ะ”
“ไม่เห็นมีอะไรมากเลย แค่รักน่ะ รู้แค่รักก็พอแล้ว”
ไอรีนตอบ
“แล้วถ้าเป็นฉันล่ะ”
ไอรีน หันกลับมามองใบหน้าซึลกิ ก่อนจะขมวดคิ้วเข้าหากัน ริมฝีปากเม้มเป็นเส้นตรง หัวใจเต้นถี่รัว เหมือนมันกำลังจะบอกบางอย่าง บางอย่างที่เธอรอคอย
“ถ้าเป็นฉัน พี่จะใช้คำว่ารัก แบบนั้นได้รึเปล่า”
“.....”
“ฉันก็แค่ถามเล่นๆน่ะ ฮ่าๆๆ ช่างมันเถอะ”
ตลอดทางกลับคอนโด มีแค่เสียงเพลงเบาๆที่ถูกเปิดคลอ จากเครื่องเล่นเพลงในรถเท่านั้น ไร้เสียงพูดคุย จน คัง ซึลกิ อึดอัด
“ฉันไปทำอะไรให้พี่โกรธรึเปล่า”
ซึลกิถาม คนที่กำลังขับรถอย่างเคร่งเครียด ไม่พูดไม่จา คิ้วชนกันตั้งแต่เดินมาขึ้นรถ จนกระทั่งขึ้นรถ จะถึงคอนโดอยู่แล้ว ยังไม่ปริปากพูดสักคำ
“ ….. ”
ขนาดที่ถามไปเมื่อกี้นี้ยังไม่ตอบเลย
“พี่ไอรีน..”
“ฉัน ไม่เป็นอะไรหรอก ปกติดี แค่คิดอะไรนิดหน่อย”
ไอรีน ยังคงไม่เปิดปากพูดอะไร หลังจาก ประโยคสุดท้ายนั่น จนถึงเวลาที่ต้องลงรถและกลับขึ้นห้อง เธอเปิดประตูลงมา ตามด้วยน้องสาวอย่างซึลกิ ที่สีหน้าหงอยเป็นหมีเฉา การขึ้นลิฟต์ โดยที่ไม่ได้คุยกัน ได้ยินเพียงเสียงลมหายใจ มันอึดอัดไม่ใช่น้อย แต่ทำไงได้ อารมณ์ ไอรีนกำลังคุกรุ่น ไอ้เด็กบื้อ!
ภายในห้องกลางมืดสนิท ไร้แสงไฟสาดส่อง ผ้าม่านถูกรูดปิดเอาไว้ เมื่อไหร่ไม่อาจรู้ ริมระเบียงอาจเป็นพื้นที่ที่ดีที่สุดเวลานี้ คนตัวเล็ก ยืนกดเล่นสมาร์ทโฟนในมือ เช็คโซเชี่ยล ไปเรื่อยเปื่อย แต่ในหัวกลับวนเวียนคิดเรื่องบางคนตลอดเวลา คนที่บื้อแสนบื้อ ไม่ฉลาดเอาซะเลย...
“อ้ะ..”
“ไม่หนาวรึไงคะ”
อยู่ดีๆก็มีไออุ่นเผื่อแผ่มาถึงเธอ ซึลกิ ตื่นมาเมื่อไหร่ไม่อาจรู้ แต่ตอนนี้เขาอยู่นี่ ยืนกอดเธอจากข้างหลัง แปลก... เพราะซึลกิไม่เคยทำแบบนี้ ไม่กล้าพอที่จะทำ
“เป็นอะไรคะ เงียบอีกแล้ว”
ซึลกิพูดเบาอยู่ข้างใบหูเล็ก ที่ตอนนี้แดงเป็น สตรอว์เบอร์รี่ไปแล้ว
“เปล่า”
“คิก คิก”
ซึลกิหัวเราะ ชอบใจ ก่อนจะวางคางมนลงบนไหล่เล็กของ ไอรีน
“เบ จูฮยอน ออนนี่”
“อะไรของเธอ”
“เปล่า”
ซึลกิอมยิ้ม หัวใจเต้นถี่เร็ว จนมันเหมือนแทบจะหลุดออกมาอยู่แล้ว ปากของเธอเม้มจนเป็นเส้นตรง เธอเขิน.... ซึลกิยังคงกอดไอรีนอยู่อย่างนั้น แขนเรียวกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้น โคลงตัวไปมา คนตัวเล็กได้แต่แอบอมยิ้มอยู่คนเดียว ภายใต้อ้อมกอดอันอบอุ่น ในสภาพอากาศหนาวเย็นยะเยือกอย่างคืนนี้
ไม่อยากให้มันผ่านไปเลย
มันเป็นเพียงแค่เสียงในใจของหญิงสาวทั้งสองคนที่ยืนอยู่ ไม่มีการเอื้อนเอ่ยคำพูดใดใด มีเพียงเสียงหัวใจ และรอยยิ้มที่ระบายอยู่บนใบหน้าของทั้งคู่เท่านั้นเอง
เช้าวันนี้ดูสดใสกว่าวันอื่นๆ อาจเพราะเรื่องราวดีๆเมื่อคืนที่เกิดขึ้น คัง ซึลกิ เดินไปที่หน้าต่างบานใหญ่ เปิดผ้าม่านออก ก่อนจะนั่งลงที่ขอบหน้าต่าง พร้อมกับแก้วสีขาวที่ด้านในมีกาแฟดำเข้มในมือปากบาง เบาควันร้อน เบาๆก่อนจะค่อยๆยกชิดริมฝีปากบางตัวเอง ของเหลวสีเข้มค่อยๆไหลตามแรงโน้มถ่วงเข้าสู่ริมฝีปากบาง
“คิดว่าสวยมากนักรึไงกัน”
เสียงหวานใสแต่หากยังติดงัวเงียอยู่เล็กน้อย ดังขึ้นไม่ใกล้ไม่ไกลนัก คังซึลกิ หันมามองเจ้าของเสียงยืนพิงกำแพงขาว ใบหน้าใสไร้เครื่องสำหนาเตอะ อย่างทุกๆวัน ผมเผ้ายุ่งเหยิงตามธรรมชาติของคนพึ่งตื่นนอน เสื้อยืดสีขาวตัวโคร่ง ยาวแทบคลุมเข่า แต่เหมือนมันจะทำให้คนตัวเล็กดูเซ็กซี่ขึ้น.....
“นี่กิ ทำไว้หรอ”
เธอหมายถึงอาหารเช้าแบบ American Breakfast ที่มีเพียง แฮมสองสามชิ้น ไส้กรอก ไข่ ขนมปัง ที่ถูกจัดจาน และวางไว้ที่โต๊ะกระจกหน้าเคาท์เตอร์ครัว
“อืม”
เจ้าของผลงาน ทำเพียงแค่ครางเสียงรับในลำคอเท่านั้น ก่อนจะหันกลับไปสนใจทิวทัศน์ยามเช้านอกหน้าต่างต่อไม่ใช่ไม่อยากคุย แต่จิตสำนึกด้านมืดมันกำลังทำงาน เพราะชุดนอนที่ใส่ออกมายามเช้าของพี่สาวตัวเล็กต่างหาก...
“ซึลกิ ซึลกิ ซึลกิยา สนใจฉันหน่อยสิ”
น้ำเสียงออดอ้อนที่ตอนนี้ถูกกระซิบอยู่ข้างหู แต่ดังพอแล้วในความรู้สึกคนฟัง ซึลกิหน้าร้อนผ่าว และแน่นอน หูเธอคงแดงพอที่จะเอาไปเทียบสีมะเขือเทศได้แล้วในตอนนี้
“ซึลกิ สนใจกันเดี๋ยวนี้นะ”
“ฮื่ออ ก็สนใจอยู่นี่คะ”
คัง ซึลกิ ไม่ได้หันมาอย่างที่ควรจะเป็น กลับยังนั่งหันหน้าออกไปนอกหน้าต่างบานใหญ่เช่นเคย
“สนใจอะไรกัน ข้างนอกนั่นมันมีอะไรน่าสนใจกว่าฉันนักหรือไง คังซึลกิ”
เสียงพี่สาวตัวเล็ก แสดงออกถึงความไม่พอใจ จนคนที่หันหลังให้อยู่รับรู้ถึงความเย็น ซึลกิค่อยๆหันกลับมา พี่สาวตัวเล็กไม่ได้อยู่แถวนี้แล้ว.. ไปไหน?
“พี่ไอรีน พี่ไอรีนคะ”
ซึลกิวางแก้วกาแฟที่พร่องไปยังไม่ถึงครึ่งไว้ที่โต๊ะกระจก ก่อนจะเดินจ้ำอ้าวไปทางห้องนอนของพี่สาวตัวเล็ก ประตูปิดไม่สนิท... ซึลกิมองเข้าไป สายตาพลันเห็นแผ่นหลังขาวนวล เกินกว่าจะละสายตา และเรียกสติกลับคืน เท้าทั้งสอง พาซึลกิเดิน เข้าเขตประตูห้องไปอย่างเชื่องช้า ก้อนเนื้อ ที่อยู่เยื้องไปทางด้านซ้ายของหน้าอกของซึลกิ กำลังจะระเบิด
“ซึลกิ..”
“เอ่อ.. ฉันแค่เห็นว่าพี่หายไปน่ะ”
ไวเท่าความคิด ชั่วแว้บนึงซึลกิเห็น ไอรีนยิ้ม ยิ้มมุมปาก
“ฉันแค่เข้ามาอาบน้ำ ถ้าหมดธุระแล้วก็ออกไปได้แล้ว จะแต่งตัว หรือเธอจะนั่งเฝ้าฉันแต่งตัวก็ได้นะ คัง ซึลกิ”
“ใครเค้าจะบ้าเฝ้าพี่แต่งตัวกัน”
ซึลกิ เลิ่กลั่ก ก่อนจะรีบเดินออกจากห้องไปพร้อมกับใบหน้าที่ไม่ต้องส่องกระจกก็รู้ว่ามันแดงเหลือเกิน ซึลกิเดินขมวดคิ้ว ให้กับความคิดดำมืด เมื่อสักครู่ ถ้า ไอรีน ไม่หันมา ถ้าไอรีน ไม่เรียกเธอ ป่านนี้เธอได้ทำอะไรบ้าๆลงไปแน่
ซึลกิกำลังนั่งสงบสติอารมณ์ ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นเวลาไอรีนแต่งตัว ใช่ว่าไม่เคยเห็นแผ่นหลังขาวเนียนน่าสัมผัสนั่น แต่แค่ตอนนี้มันไม่เหมือนเดิม ซึลกิไม่ได้เป็นเพียงแค่เด็ก มัธยมต้นที่แอบปลื้มพี่สาวน่ารักคนนี้ ไม่ใช่อีกแล้ว
Rrrrrrrrrrrrrrrrr
เสียงโทรศัพท์เครื่องหรูดึงให้ซึลกิ ออกจากภวังค์ความคิดของตัวเอง
-เวนดี้-
เมื่อเห็นชื่อคนโทรเข้าซึลกิ ระบายลมหายใจอ่อนๆ เลื่อนนิ้วเรียวสไลด์แถบตอบรับสายโทรศัพท์ก่อนจะเอามันแนบใบหู
[คัง ซึลกิ งานวันนี้ยกเลิกทั้งหมด แล้วออกมาเจอฉันที่แม่น้ำฮัน ตอน หกโมงเย็นห้ามสาย]
“นัดตั้งเย็น ทำไมจะต้องยกเลิก..”
[เธอคิดว่าจะขุดตัวเองออกมาก่อน 6 โมงเย็นหรือไง]
เถียงต่อไม่ได้เลยแฮะ...
[ก็แค่นั้น ไว้เจอกันนะ]
“ซึลกิ วันนี้ฉันไม่กลับมากินข้าวเย็นนะ หาอะไรกินไปเลย”
ยังไม่ทันจะวางสายดี คนตัวเล็กก็เดินออกมาพร้อมกับประโยคที่เหมือนเดิมเช่นทุกวัน ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ทิ้งให้ คนบื้อ นั่ง งงกับตัวเองอยู่พักใหญ่ๆ
สี่โมงเย็นแล้วการอยู่บ้านคนเดียวมันน่าเบื่อเกินไปสำหรับซึลกิเธอจึงเลือกออกมาเดินเล่นท่ามกลางหิมะในฤดูหนาว พร้อมกับเสื้อโค้ทสีดำตัวเก่ง มันไม่จำเป็นต้องซํกทุกวันเสียหน่อย ซึลกิเดินมาถึงย่านชุมชนที่มีผู้คนพลุกพล่าน แม้จะยังไม่ถึงเวลาเลิกงาน แต่ช่วงนี้เป็นช่วงที่เด็กๆกำลังเลิกเรียน กลุ่มหนุ่มสาววัยรุ่นมากมาย รวมถึงคู่รักมัธยม กำลังเดินกันขวักไขว่ พื้นหิมะขาวโพลน ถูกเหยียบจนเกิดเป็นรอยเท้า รอยแล้วรอยเล่า ซึลกินั่งลงที่ม้านั่งใต้ต้นไม้ริมทาง แหงนหน้าขึ้นมองใบไม้ที่กำลังถูกปกคลุมด้วยเกล็ดน้ำแข็งสีขาว
มิสเซิลโท?? ต้นที่เธอนั่งอยู่มีมิสเซิลโท เจ้ากาฝากต้นไม้ที่คอยแย่งสารอาหารจาก ต้นไม้ที่สมบูรณ์จนเหือดแห้ง
แต่ผู้คนกลับเชื่อว่า การที่ชายหญิงได้จูบกันอยู่ข้างใต้มัน ในวันคริสมาส หรือต้นปีใหม่ เป็นเรื่องที่ดีเพราะจะทำให้สมหวังในความรัก และคำขอแต่งงาน แล้วถ้าไม่ใช่วันคริสมาส? ไม่ใช่วันปีใหม่? ไม่ใช่คู่รักชายหญิงอย่างที่ควรจะเป็น ถ้า ถ้าเธอทำตามที่เขาพูดต่อๆกันมา มันจะเป็นยังไงนะ
17:10 14.03.15
ตัวเลขบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือกำลังบ่งบอกถึงวันที่และเวลาที่เดินไปเรื่อยๆ นัด 6 โมง ตอนนี้พึ่งจะเลยห้าโมงหน่อยๆ ยังไม่ต้องรีบรอก แม่น้ำฮันอยู่แค่นี้เอง ซึลกิหลับตาลงเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ไม้ตัวเดิม
วินาทีกำลังเดินไปเรื่อย ซึลกิก็เช่นกัน กำลังเดินไปเรื่อยอยู่ในความฝัน ใต้ มิสเซิลโท
➹ Talk ➹
เอิ้วๆๆ จะจบล้าววว
*วันที่ 14 มีนาคม ที่เกาหลี เป็นวัน ไวท์เดย์ ฮับ
ความคิดเห็น