ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Sobel The Flame of Dragon: เกิดใหม่เป็นมังกรเพลิงในตำนาน

    ลำดับตอนที่ #6 : ตอนที่ 5: มังกรดำไกอัส

    • อัปเดตล่าสุด 2 ก.ย. 66


    ความเดิมตอนที่แล้ว

    กลุ่มนักผจญภัยเซอร์ริวยืนมองไปที่ร่างมังกรเพลิงในตำนานที่กำลังบินอยู่บนท้องฟ้าพร้อมกับอาการขาแข็งขยับไปไหนไม่ได้ ในขณะเดียวกันเจ้ามังกรไฟที่เผาหมู่บ้านก็มองเห็นกลุ่มของเซอร์ริวเข้าแล้ว มันจึงเดินเข้าไปหาด้วยความประสงค์ร้าย

    มังกรดำ: ฮ่า! ยังมีพวกมนุษย์อยู่ที่นี่อีกงั้นรึ แถมยังเป็นนักผจญภัยสะด้วย...ดีล่ะข้าจะบดขยี้พวกเจ้าให้สิ้นซากเลย ฮึฮึ

    มังกรดำแสยะยิ้มออกมาด้วยความคิดประสงค์ร้ายชัดเจน ก่อนจะเดินย่ำเท้าตรงไปยังกลุ่มเซอร์ริวในทันที แต่ในขณะเดียวกันโซเบลกับสเตลร่าก็กำลังสงสัยกับสิ่งที่เกิดขึ้น

    โซเบล: เกิดอะไรขึ้นที่นี่น่ะ ?

    สเตลร่าชำเลืองมองลงไปข้างล่างเล็กน้อยก่อนจะพบเข้ากับมังกรดำตัวหนึ่งซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นตัวการที่ก่อเรื่อง

    สเตลร่า: ดูเหมือนหมู่บ้านแห่งนี้จะถูก มังกรระดับสูง โจมตีนะ 

    โซเบล: มังกรระดับสูงงั้นหรอ?

    สเตลร่า: ใช่ โลกนี้มีมังกรหลายประเภท หลายสายพันธุ์ และหลายระดับ มีทั้งมังกรที่ไร้สติปัญญาขับเคลื่อนด้วยสัญชาตญาณดิบในการดำรงชีวิตเป็น มังกรระดับต่ำ ส่วนพวกที่มีสติปัญญาขึ้นมาหน่อยใจ รู้จักผลิกแผลงสถานการณ์ และฉลาดในระดับหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถคิดอะไรที่มันซับซ้อนได้มากนักจะเป็นพวก มังกรระดับกลาง ซึ่งส่วนใหญ่มังกรพวกนี้จะเป็นมังกรเลี้ยงที่ถูกฝึกให้เชื่องสะเป็นส่วนใหญ่จนบางตัวสามารถพูดภาษามนุษย์ได้ และมังกรที่มีสติปัญญาเฉียบแหลม มีอารยธรรม สามารถ คิด อ่าน ในระดับที่ซับซ้อนได้เหมือนมนุษย์จะเป็นพวก มังกรระดับสูง

    โซเบล: อย่างงั้นเองหรอ 

    ในขณะที่โซเบลกับสเตลร่ากำลังคุยกันอยู่นั้นเอง โมนาที่ตั้งสติได้ก่อนใครเพื่อน ได้หยิบเอาสำรับไพ่ออกมาก่อนจะปามันลงพื้นเพื่อเตรียมพาทุกคนวาร์ปหนีกลับไปที่เมืองเดนิส

    โมนา: พวกเราต้องไปแล้ว...!

    เซอร์ริว: อ...อะไรนะ 0 0 ?! 

    โมนา: พวกเราต้องหนีแล้ว...เดี๋ยวนี้...!!

    ตู้มมมม!!!!!

    โซเบลบินลงมาจอดตรงหน้ามังกรดำอย่างรุนแรงและในเวลาเดียวกันนี้เองเซอร์ริว อลันบี และโมนารีบวิ่งไปหยุดอยู่ที่อาณาเขตวงเวทย์เทเบพอร์ตจนเหลือแค่ลอร่าเป็นคนสุดท้าย

    ฮืออองือออ~~ 

    ในขณะที่ลอร่ากำลังจะวิ่งไปเข้าอาณาเขตวงเวทย์เพื่อที่จะหนีไปกับเพื่อนๆของเธออยู่นั้น จู่ๆ เธอก็ได้ยินเสียงเด็กคนหนึ่งกำลังร้องไห้ดังมาแต่ไกลจากทางด้านหลัง และเมื่อเธอหันไปมองที่ต้นทางเสียงนั้นเธอก็พบกับเด็กผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งร้องไห้เขย่าร่างอันไร้วิญญานของผู้เป็นแม่ ที่มีซากปรักหักพังทับครึ่งร่างอยู่

    เด็กชาย: *ฮือออ~* แม่ครับ...ฟื้นสิครับ...ฟื้น .0 0.

    อลันบี: ลอร่า เธอมัวยืนทำอะไรอยู่รีบมาเร็วเข้า!

    ลอร่าเกิดอาการห่วงหน้าพวงหลัง ใจหนึ่งเธอก็อยากจะหนีไปจากที่นี่ แต่อีกใจหนึ่งก็อยากจะช่วยเด็กคนนั้น ทำให้เธอตัดสินใจไม่ได้เสียที จนเวทย์เทเลพอร์ตทำการวาร์ปส่งเพื่อนๆของเธอกลับไปที่เมืองเดนิส 

    อลันบี: ลอร่า~!!! 

    วิ้งงงงง~!!!!!

    ทั้งสามถูกวาร์ปกลับไปที่เมืองเดนิสโดยไม่สามารถทำอะไรได้อีก ส่วนลอร่านั้นที่ตัดสินใจอะไรไม่ได้ก็เริ่มโทษตัวเองที่ตัวเธอนั้นใจอ่อนและตัดสินใจอะไรบางอย่างได้ไม่เด็ดขาด จนทำให้ตัวเธอนั้นเดือดร้อน และตอนนี้เธอก็เหลืออยู่ตัวคนเดียวแล้ว 

    ลอร่าหันกลับไปมองมังกรเพลิงโซเบลที่กำลังยืนประจันหน้ากับมังกรดำ

    มังกรดำ: เจ้าเป็นใคร

    โซเบล: ฉันน่ะหรอ...คนไม่สำคัญ 

    มังกรดำ: หา?

    โซเบลตอบแบบกวนประสาททำให้มังกรดำทำหน้างงและรู้สึกว่าตัวมันกำลังโดนท้าทาย

    มังกรดำ: นี่เจ้ากำลังยั่วโมโหข้าอยู่งั้นรึ ?!!

    โซเบล: ก็แล้วแต่แกจะคิด แต่ดูจากขนาดของแกแล้วแกมันไม่มีความน่ากลัวเลยสักนิด 

    โซเบลมองลงมาที่มังกรดำซึ่งมีขนาดตัวที่เล็กกว่า 3 เท่า เพราะมันมีความสูงเพียง 10 เมตรเท่านั้น ผิดกับตนที่สูงถึง 40 เมตร แต่ทว่าเจ้ามังกรดำกลับไม่มีท่าทีที่จะหวาดกลัวโซเบลแม้แต่น้อย

    มังกรดำ: เจ้าคิดว่าแค่มีร่างกายที่ใหญ่โตกว่ามังกรตนอื่นจะไม่มีผู้ใดเอาชนะเจ้าได้งั้นรึ จะจองหองเกินไปเสียแล้ว 

    พูดจบมังกรดำก็ร่ายเวทย์ขยายร่างของตัวมันเองให้ใหญ่ขึ้นจนสูงพอๆกับโซเบล

    มังกรดำ: ข้าเองก็สามารถตัวใหญ่เช่นเจ้าได้เหมือนกัน!

    โซเบลตะลึงเล็กน้อยที่มังกรดำสามารถทำแบบนี้ได้ 

    ไกอัส: เจ้าจะต้องเสียใจที่กล้ามาท้าทายมังกรดำอย่างข้า! เพราะข้าคือ... มังกรทมิฬ ไกอัส (Gaius Black Dragon) และข้าก็มีพลังเวทย์ลมหายใจมังกรอันทางพลังที่สามารถทำลายเมืองทั้งเมืองได้จนมังกรระดับสูงด้วยกันยังไม่กล้าเผชิญหน้ากับข้าเชียวนะ เจ้ารู้รึเปล่า ?!

    โซเบล: งั้นหรอ

    โซเบลตอบส่งๆและดูเหมือนจะไม่กลัวคำขู่ของไกอัสแม้แต่น้อยจนมันเริ่มโมโห

    ไกอัส: ได้ยินข้าแนะนำตัวแบบนี้ยังไม่หนีไปอีก ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็จงตายสะ!!!

    ทันใดนั้นมังกรดำก็ยกกรงเล็บขึ้นมาก่อนจะตะปบไปที่โซเบลเพื่อโจมตี แต่โซเบลก็สามารถกระโดดถอยออกมาได้ทัน ทำให้การโจมตีของมังกรดำพลาดเป้า 

    ไกอัส: หลบได้เรอะ? งั้นเจอนี่หน่อย!

    ตู้มมมมมม!!!!!

    ไกอัสร่ายเวทย์ 'ลมหายใจมังกร' (Dragon Breath) พ่นลมหายใจมังกรที่มีพลังทำลายล้างสูงใส่โซเบลในทันที ก่อนที่คลื่นพลังลูกบอลไฟลูกใหญ่จะอัดใส่โซเบล โดยหวังจะกำจัดเขาให้สิ้นซาก

    ตู้มมมมมม!!!!!!

    โซเบลรีบบินหลบขึ้นไปด้านบนเพื่อหลบการโจมตีชุดใหญ่นี้ คลื่นระเบิดพลังทำลายล้างจากลมหายใจมังกรที่มังกรดำปล่อยออกมาได้ทำลายล้างพื้นที่ส่วนหนึ่งของหมู่บ้านจนราบคาบไม่เหลือซาก โซเบลที่เห็นว่าความเสียหายจากการโจมตีแบบนี้มันรุนแรงเกินไปและจะปล่อยให้ยืดยื้อต่อไปไม่ได้ เขาจึงคิดจะปิดเกมในตอนนี้เลย

    โซเบล: ให้มันเบาๆหน่อยสิ โจมตีแบบนี้เดี๋ยวคนอื่นก็โดนลูกหลงไปด้วยหรอก!

    โซเบลไม่รอช้ารีบบินโฉบลงมาเอาหัวกระแทกใส่ที่ใบหน้าของมังกรดำจนมันเซล้มถอยหลังไป แต่ไกอะสก็ไม่ยอมแพ้มันจึึงได้ร่ายเวทย์ ลมหายใจมังกรอีกครั้งโดยคราวนี้มันกะไม่ให้พลาดเป้า 

    ไกอัส: ตายซะ!!!!!

    โซเบล: ไม่มีทางหรอก!!

    โซเบลยืนตั้งท่า สูดลมหายใจเข้าลึกๆก่อนจะการพ่นเปลวเพลิงธรรมดาโจมตีสวนพลังเวทย์ของไกอัสกลับไป จนพลังของมังกรทั้งสองปะทะกันอย่างรุนแรง 

    ตู้มมมมม!!!!!

    ลอร่าที่ยืนดูอยู่ในเหตุการณ์ได้ถูกกระแสลมกรรโชกพัดแรง จนตัวเธอและเด็กแทบจะต้านทานเอาไว้ไม่อยู่ แต่ทั้งสองก็ได้สเตลร่ามาช่วยดึงตัวทั้งคู่มาหลบอยู่ในม่านป้องกันเพื่อช่วยเหลือทั้งสอง

    สเตลร่า: มาหลบตรงนี้ก่อน อยู่ตรงนั้นมันอันตรายนะ!

    ลอร่า: ขอบคุณมากนะคะที่ช่วยเราสองคนเอาไว้

    ลอร่าคลานลงกับพื้นเพราะหมดแรงแต่ก็เงยหน้าขึ้นมาเพื่อขอบคุณสเตลร่า

    สเตลร่า: ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก

    ลอร่าลุกขึ้นปัดฝุ่นออกจากเสื้อที่เปรอะเศษดินและเศษทรายออกก่อนจะถามสเตลร่าขึ้นมา

    ลอร่า: ว่าแต่คุณเป็นใครหรอคะ ?

    สเตลร่ามองสำรวจร่างกายของลอร่าก่อนจะรู้ว่าลอร่านั้นคือนักผจญภัยคลาสนักบุญ 

    สเตลร่า: เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก แต่เธอคือนักผจญภัยนักบุญสินะ

    ลอร่า: ค่ะ...

    สเตลร่า: แล้วปาร์ตี้ของเธอไปไหน หรือว่าเธอออกเดินทางคนเดียวตามลำพัง?

    ลอร่า: คือว่า....

    ในขณะที่ลอร่ากำลังจะอธิบายเรื่องราวที่อย่างให้สเตลร่าฟัง เสียงระเบิดคลื่นพลังจากการต่อสู้ของมังกรทั้งสองก็ระเบิดดังขึ้นมาอีกครั้ง

    ตู้มมมมม!!!

    ทั้งสองหันไปมองต้นตอเสียงระเบิดนั้นก่อนจะพบกับมไกอัสที่ลอยกระเด็นไปอีกฝั่งของหมู่บ้านพร้อมกับอาการบาดเจ็บจากการโดนไฟเผาทั่วร่าง ซึ่งตามปกติแล้วเกล็ดของมังกรทุกชนิดจะทนทานต่อการโจมทักประเภท นั่นจึงทำให้ลอร่าเกิดความประหลาดใจขึ้นมา

    ลอร่า: ทำไมมังกรดำตัวนั้นถึงมีบาดแผลไฟไหม้ทั่วร่างแบบนั้นล่ะ 0 0 ?

    ลอร่าถามถามขึ้นมาแต่ไม่นานเกินรอลอร่าก็ได้คำตอบ เมื่อเธอเห็นร่างมังกรโซเบลที่มีขนาดใหญ่โตกำลังเดินผ่านหน้าเธอไป ทำให้เธอเห็นเกล็ดสีแดงเพลิง ปีกลวดลายเพลิงขนาดใหญ่ และแกนจิตวิญญานแห่งธาตุอยู่บริเวนหน้าอกได้อย่างชัดเจน ทำให้เธอเริ่มสะหงิดใจขึ้นมาเหมือนว่าลักษณะมังกรแบบนี้เคยเห็นหรือได้ยินที่ไหนมาก่อน

    โซเบลเดินตรงไปหาไกอัสที่นอนแผ่หลาหงายท้องพร้อมกับอาการบาดเจ็บจากการโดนไฟเผา ด้วยความสงสัยไกอัสจึงได้ถามโซเบลออกไป

    ไกอัส: น...นี่เจ้าเป็นมังกรอะไรกันแน่...ทำไมแค่เปลวไฟธรรมดาๆที่เจ้าพ่นออกมา...ถ...ถึงสามารถโจมตีข้าได้... ??

    ไกอัสถามไปพร้อมกับพยายามใช้สายตาจองมันชำเลืองมองสำรวจร่างกายของโซเบลให้ละเอียดถี่ถ้วน ก่อนที่ไกอัสจะตกใจจนหน้าถอดสีเมื่อเขาเห็นจิตวิญาณแห่งธาตุรูปเปลวเพลิงอยู่ที่หน้าอด

    ไกอัส: สัญลักษณ์แกนพลังเวทย์แบบนั้น....หรือว่าเจ้าก็คือ...มังกรเพลิงในตำนาน...โซเบล 0 0" !!!!??

    ลอร่า: มังกรเพลิงในตำนานโซเบลงั้นหรอ 0 0 ??!!

    ลอร่าที่ได้ยินชื่อเรียกโซเบลจากปากมังกรดำถึงกับอุทานขึ้นมาเช่นกัน

    โซเบล: ทีนี้ก็รู้แล้วสินะว่าฉันเป็นใคร ความหยิ่งจองหองที่เคยพล่ามก่อนหน้ามันหายไปไหนแล้วล่ะ 

    โซเบลเชิดหน้าชูคอมองแรงไปยังร่างอันน่าสมเพชของไกอัสที่ในตอนนี้มันกำลังหวาดกลัวสุดขีด ตัวสั่นไม่กล้าขยับแม้แต่สายตา

    ลอร่า: ไม่จริงน่า! มังกรเพลิงในตำนานโซเบล ถูกผู้กล้ามังกรเพลิงลูซิสสังหารไปเมื่อหนึ่งพันปีที่แล้วไม่ใช่หรอ ?!

    ลอร่าหันไปมองสเตลร่า ก่อนจะพบกับความผิดปกติบางอย่างและดูเหมือนว่าสเตลร่าจะมีความเกี่ยวข้องบางอย่างกับโซเบลในความคิดของเธอ

    ไกอัสที่เริ่มรู้ตัวแล้วว่าตัวมันนั้นกำลังเล่นอยู่กับใคร มันจึงรีบหอบสังขารที่บอบช้ำพยุงตัวเองลุกขึ้นมา ก่อนจะทำท่าคลานก้มกราบผงกหัวรัวๆเพื่อขอร้องให้โซเบลไว้ชีวิตมัน

    ไกอัส: ข....ข้าน้อยผิดไปแล้ว...ข้าน้อยไม่ได้ตั้งใจจะท้าทายท่านโซเบลมังกรเพลิงในตำนานผู้ยิ่งใหญ่...ข...ข้าน้อยไม่รู้ว่าท่านจะเป็นมังกรเพลิงในตำนานตนนั้น....

    โซเบลมองมังกรดำและไม่ได้พูดอะไร ยิ่งทำให้เจ้าไดอัสถึงกับคิดมากและเหงื่อตกเพราะไม่รู้ว่าโซเบลจะทำอะไรกับตน และตอนนี้ชีวิตของมันอยู่ในกำมือของโซเบลแล้ว มันจึงขอต่อรองอีกครั้ง

    ไกอัส: ขอร้องล่ะ....ได้โปรดไว้ชีวิตมังกรตัวน้อยๆอย่างข้าน้อยด้วยเถิด... .v~v.

    ไกอัสถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาเพราะความกลัวตาย แต่ก่อนที่โซเบลจะได้ทำอะไรเขาก็ได้ถามไกอะสถึงแรงจูงใจในการบุกโจมตีหมู่บ้านแห่งนี้

    โซเบล: ถ้าแกอยากให้ฉันไว้ชีวิตล่ะก็...งั้นลองบอกหน่อยซิ๊ว่าทำไมนายถึงโจมตีหมู่บ้านแห่งนี้

    ไกอัส: ค...คือว่า...ที่เผ่าของข้า...มีข้อพิพาทเรื่องพื้นที่อาณาเขตกับเผ่า มังกรขาว (White Dragons) จนเกิดสงครามขึ้น...และอาหารก็เริ่มขาดแคลน...

    โซเบล: ถ้าให้เดา นายคงมาที่นี่เพราะต้องการหาอาหารให้คนในเผ่าสินะ

    ไกอัส: ข้าเป็นมังกรดำตัวที่แข็งแกร่งที่สุดในเผ่าแล้ว...เผ่าของข้าไม่อาจออกหาอาหารได้ตามปกติ เพราะพวกเผ่ามังกรขาวแย่งอาหารของพวกเราไปจนหมด จนตอนนี้มังกรในเผ่าที่ข้าอยู่ก็เริ่มอ่อนแอลงไปทุกทีเพราะขาดอาหาร

    โซเบลได้ยินแบบนั้นเขาก็รู้สึกสงสารขึ้นมา เพราะมังกรตัวนี้ยอมเสี่ยงชีวิตออกมาจากอาณาเขตเพื่อมาหาอาหารให้มังกรตัวอื่นในเผ่า และไกอัสคงจะเป็นความหวังสุดท้ายแล้ว

    เมื่อคิดได้เช่นนั้นโซเบลจึงเดินเข้าไปจับไหล่ของไกอัสทำให้เขาถึงกับเงยหน้าที่มีน้ำตาแอบแก้มสองข้างขึ้นมาด้วยความประหลาดใจ 

    โซเบล: ฉันเข้าใจนาย นายเองก็ต้องทำทุกอย่างเพื่อให้ตัวนายเองกับคนรอบตัวที่นายรักอยู่รอดสินะ 

    ลอร่าที่ยืนดูเหตุการณ์อยู่อีกฝั่งรู้สึกประหลาดใจเพราะทีแรกเธอคิดว่าโซเบลคงไม่ปล่อยให้ไกอัสมีชีวิตรอด แค่กลับผิดคาดโซเบลเลือกที่จะไว้ชีวิตไกอัสสะอย่างงั้น 

    ลอร่า: อะไรกัน นี่มังกรเพลิงในตำนานโซเบลไว้ชีวิตมังกรตัวนั้นงั้นหรอ 0 0 ? 

    สเตลร่ายิ้มมุมปากเล็กน้อยที่เห็นว่าโซเบลเลือกเส้นทางแห่งสันติและไม่เข่นฆ่าใครตามอำเภอใจ

    ไกอัส: ท่าน.....ท่านไว้ชีวิตข้าน้อยผู้นี้งั้นรึ .0 0. ??

    โซเบลพยักหน้าพร้อมกับรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร ทำให้ไกอัสที่ได้รับโอกาสอีกครั้งถึงกับก้มหัวแสดงคำขอบคุณอย่างสุดซึ้งอย่างที่เขาไม่เคยทำมาก่อนในชีวิต 

    ไกอัส: ขอบคุณท่านโซเบลมากๆ ที่ไว้ชีวิตมังกรตัวเล็กๆอย่างข้า....ขอบคุณจริงๆ.... 

    สถานการณ์ทุกอย่างจบลงด้วยดี ก่อนที่โซเบลจะกลับมาหาสเตลร่าอีกครั้ง และในเวลานี้สเตลร่าก็ได้สอนให้โซเบลใช้ร่างจำแลงเป็นร่างมนุษย์ครั้งแรก

    .

    .

    .

    .

    โซเบลจำแลงร่างเป็นมนุษย์เป็นชายหนุ่มอายุราวๆ 20 ปี ผมยาวถึงบ่าสีแดงเพลิง สวมเสื้อกั๊กแขนยาวสีดำ สวมถุงมือสีดำ มีตราสัญลักษณ์มังกรเพลิงสีแดงอยู่บริเวนอกเสื้อ สวมกางเกงขายาวสีดำ รองเท้าหุ้มข้อ และมีหน้าตาหล่อเท่เกินคนธรรมดาทั่วไป

    สเตลร่า: และแล้วทุกอย่างก็จบลงสักทีนะ 

    โซเบล: นั่นสินะ แต่พอมาอยู่ในร่างนี้ความรู้สึกติดดินที่คุ้นเคยก็กลับมาอีกครั้ง ไม่ต้องตัวใหญ่เทอะทะอะไรให้มากมาน

    โซเบลมองสำรวจตัวเองในร่างจำแลงมนุษย์อยู่ครู่หนึ่งก่อนจะหันมาส่งยิ้มให้สเตลร่าด้วยความโล่งใจ ก่อนที่ลอร่าจะค่อยๆเดินเข้ามาหาอย่างกล้าๆกลัวๆ

    ลอร่า: ค....คุณคือ... 0 0" 

    โซเบลหันไปมองลอร่าที่เป็นคนแปลกหน้าด้วยความสงสัย 

    โซเบล: หื้ม? เธอคือ... 0 0 ? 

    ทั้งสองยืนจ้องมองกันเพราะโซเบลไม่รู้จักกัน ก่อนที่สเตลร่าจะบอกว่าเธอเป็นคนช่วยลอร่าเอาไว้กับเด็กชาวบ้านอีกคน 

    โซเบล: เธอชื่ออะไรงั้นหรอ

    ลอร่า: ล....ลอร่า....ค่ะ...เป็นนักผจญภัย...คลาสนักบุญค่ะ....

    สเตลร่า: ดูเหมือนเธอคนนี้จะหลงกับปาร์ตี้ของเขานะ 

    โซเบล: งั้นหรอ

    แล้วโซเบลก็เดินเข้าไปหาลอร่าเพื่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมให้แน่ชัด

    โซเบล: เธอหลงกับกลุ่มเพื่อนของเธอสินะ 

    ลอร่า: ค..ค่ะ...ค่ะ...

    โซเบล: แบบนี้ก็แน่น่ะสิ ผู้หญิงออกเดินทางตัวเดียวมันอันตรายนะเนี่ย 

    ลอร่า: อันที่จริง....ฉันควรจะหนีไปกับเพื่อนๆก่อนหน้า....แต่เพราะ...ฉันเห็นเด็กคนนั้นร้องไห้อยู่ข้างศพแม่ของเขาและเขากำลังตกอยู่ในอันตราย...ฉันจึึงรีบเขาไปช่วยเด็กึนนั้นมา

    ลอร่าหันไปมองเด็กชายที่กำลังนั่งกอดเข่าเหมือนจะกำลังร้องไห้ด้วยความสงสาร ส่วนโซเบลก็ชะง้อมองตาม

    และในขณะเดียวกันนี้เอง จู่ๆ เด็กชายที่นั่งกอดเข่าเขาก็ลุกขึ้น ยืนก้มหน้ากำหมัดโดยไม่ทราบสาเหตุ

    ลอร่า: อะ...เออ เป็นอะไรรึเปล่า ?

    เด็กชายไม่ตอบอะไรก่อนที่เขาจะวิ่งไปหยิบก้อนหินที่อยู่บนขึ้นมา ก่อนจะปาหินก้อนนั้นไปที่ไกอัสที่นั่งมองอยู่ด้านหลังโซเบลด้วยความโกรธแค้น

    เด็กชาย: เอาแม่ของผมคืนมานะ!!! เอาชีวิตแม่ของผมคืนมา!!!!! 

    เด็กชายหยิบก้อนหินและปาไปที่ไกอัสอย่างต่อเนื่องมพร้อมกับตะโกนคำเดิมซ้ำไปซ้ำมาด้วยความโกรธแค้นและสิ้นหวัง ก่อนที่สเตลร่าจะเข้ามาตับแขนเด็กคนนั้นเอาไว้เพื่อห้ามให้เด็กคนนั้นหยุด

    สเตลร่า: พอได้แล้วล่ะ

    เด็กชาย: ปล่อยผมนะ! เจ้ามังกรนี่มันฆ่าแม่ผมแถมยังทำลายบ้านที่ผมกับคุณแม่อยู่อีกนะ!!!

    สเตลร่า: การแก้แค้นไม่อาจเปลี่ยนแปลงอดีตอะไรได้หรอก มันมีแต่จะทำให้ใจของเธอจมปลักอยู่กับอดีตทีเจ็บปวดเปล่าๆ

    เด็กชายไม่เข้าใจคำพูดของสเตลร่าเพราะความเป็นเด็กและมองโลกอะไรแคบๆ ทำให้เขายังคงยืนยันที่จะแก้แก้นไกอัสต่อไป จนกระทั่งลอร่าต้องเข้ามาช่วยปลอบด้วยการเข้ามาสวมกอดเด็กคนนีเ

    ลอร่า: หยุดเถอะนะ...ให้มันจบลงแค่นี้เถอะ v~v 

    เด็กชาย: พ...พี่สาว...

    ลอร่า: ถ้าต่างคนต่างจ้องจะแก้แค้นกันไปกันมา...ก็มีแต่จะเจ็บปวดกันทั้งสองฝ่าย...อีกอย่าง...แม่ของเธอที่ตายไปคงไม่อยากให้เธอต้องมาเจ็บปวดกับเรื่องอะไรแบบนี้แน่นอน...

    เด็กชาน: แตะ...แต่ว่า....บ้านของผม....ทุกสิ่งทุกอย่างที่แม่ของผมทำมาให้ผม....

    ลอร่า: สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับแม่คนนึงก็คือ...การที่ได้เห็นลูกของตนได้เติบใหญ่ มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ต่อให้วันนี้เธอสูญเสียทุกอย่างไป แต่ตราบใดที่เธอยังมีชีวิตอยู่ เธอก็สามารถสร้างมันขึ้นมาใหม่ได้ 

    เด็กชายดูเหมือนจะเริ่มเข้าใจขึ้นมาได้ และเริ่มสงบสติอารมณ์ลงมาได้บ้างแล้ว ก่อนที่ลอร่าจะค่อยไผละกอดจากเด็กชายพร้อมกับส่งรอยยิ้มที่อ่อนโยนให้กำลังใน

    ลอร่า: ดูสิ ตอนนี้เธอเริ่มใจเย็นลงบ้างแล้ว ^ ^ 

    หลังจากที่เด็กชายใจเย็นลง ก็เริ่มมีกลุ่มชาวบ้านที่กหนีไปซ่อนตัวนอกหมู่บ้านก็ค่อยๆทยอยกลับเข้สมาดูสภาพในหมู่บ้านอีกครั้ง พร้อมกับความแค้นสุมอกที่มีต่อไกอัส 

    ชาวบ้าน A: เจ้ามังกรชั่ว!!! ทำไมต้องฆ่าคนในหมู่บ้านของพวกเราด้วย ?!!!

    ชาวบ้าน B: เอาชีวิตคนในครอบครัวของพวกเราคืนมานะ!!!

    ชาวบ้าน C: แกต้องชดใช้ในสิ่งที่แกทำ!!!!

    เหล่าชาวบ้านต่างรุมด่า สาบแช่ง ไกอัสต่างๆนาๆทำให้เขาเริ่มโมโหคิดจะจัดการชาวบ้านพวกนี้ทิ้งทแต่มันก็ต้องล้มเลิกความคิดนั้นไปเพราะมีโซเบลอยู่ด้วย และโซเบลคงจะไม่ยอมแน่ๆหากไกอัสสังหารชาวบ้านผู้ยริสุทธิ์เหล่านี้ 

    โซเบลที่เห็นว่าไกอัสกำลังถูกชาวบ้านรุมด่า และเริ่มมีชาวบ้านบางส่วนรุมปาก้อนหินใส่เพื่อขับไล่ เขาจึงออกหน้ารับผิดแทนไกอัส เพื่อบรรเทาความโกรธโดยการยืนอ้าแขนรอรับความโกรธของชาวบ้านที่โกรธแค้นเอาไว้คนเดียว

    โซเบล: ถ้าพวกนายจะเอาผิดไกอัสล่ะก็ ให้ความโกรธของพวกนานมาลงที่ฉันแทนเถอะ! 

    สเตลร่า: โซเบลนั่นนายจะทำอะไรน่ะ 0 0 ?!

    โซเบล: ถ้าเทพธิดาไมอาร์บอกว่าฉันคือมังกรเพลิงที่ทำลายล้างอารยธรรมบนโลกจนเกือบสูญสิ้น นี่ก็ถือว่าเป็นการชดใช้ความผิดของฉัน แม้ว่ามันจะดูเล็กน้อยก็ตาม 

    ลอร่าที่เห็นโซเบลพูดแบบนี้มันก็เริ่มทำให้เธอรู้สึกว่า โซเบลในตอนนี้กับตัวเขาในตำนานที่เล่าต่อๆกันมานั้นดูมีความแตกต่างกันทั้งด้านความคิด พฤติกรรม รวมถึงการรับผิดชอบในสิ่งที่ตัวเองทำ 

    โซเบล: ถ้าหากไกอัสมีความผิดที่ต้องชดใช้โทษฐานที่เขาทำลายหมู่บ้านแห่งนี้ ฉันเองก็มีความผิดที่ต้องชดใช้โทษฐานที่ทำลายชีวิตผู้คนมานับไม่ถ้วนเหมือนกัน แค่นี้ก็คงจะเห็นความผิดที่แตกต่างกันแล้วใช่มั้ยล่ะ

    โซเบลจ้องมองไปยังชาวบ้านอย่างมุ่งมั่น แต่ถึงแม้เขาจะประกาศตัวเองว่าเขาพร้อมรับผิดแทนไกอัสและพร้อมได้รับการลงโทษจากชาวบ้านด้วยความเต็มใจ โดยเขาได้ให้คำมั่นสัญญาว่าจะไม่โต้ตอบ หรือใช้พลังมังกรทำร้ายพวกเขากลับอย่างแน่นอน ทำให้มีชาวบ้านเริ่มหยิบหาท่อนไม้หรืออาวุธใกล้ๆมาติดมือก่อนจะเดินกันเข้ามาใช้อาวุธเหล่านั้นฟาดไปที่โซเบลอย่างบ้าคลั่ง 

    ผั๊วะ!!! ป๊าาบบบ!!!! ปั๊กกกก!!!!!

    โซเบลถูกชาวบ้านรุมทำร้ายและแบกรับความโกรธของชาวบ้านที่ถาโถมเข้ามาไม่หยุด จนตอนนี้เขาถูกชาวบ้านใช้ไม้ทุบตีและเท้ากระทืบเหยียบย่ำอย่างไม่ใยดี ส่วนลอร่า สเตลร่า และมังกรดำไกอัสทั้ง 3 คนก็ได้เพียงยืนดูภาพที่น่าเวทนาและหดหู่ใจนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งมังกรดำไกอัส ที่ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงต้องนอมสละตัวเองเจ็บแทนตนด้วย จนลอร่าทนดูต่อไปไม่ไหวเธอจึงรีบเข้าไปห้ามพวกชาวบ้านให้หยุดทำร้ายโซเบล

    ลอร่า: พอได้แล้ว! หยุดแค่นี้เถอะค่ะ! 

    เหล่าชาวบ้านหยุดการกระทำก่อนที่ลอร่าจะวิ่งเข้ามาดูอาการของโซเบล จนพบว่าสภาพของโซเบลในตอนนี้มีบาดแผล รอยฟกช้ำบนร่างกาย ศีษระมีบาดแผลเล็กน้อยและมีเลือดอาบด้านซ้าย

    ลอร่า: พอเถอะค่ะ ให้ความบาดหมางและความโกรธแค้นชิงชังมันยุติลงเพียงเท่านี้เถอะค่ะ! 

    ชาวบ้านที่เห็นแก่ความใจดีของลอร่าในฐานะนักบุญ พวกเขาจึงยอมถอยไปแต่โดยดี ก่อนที่ลอร่าจะหันมาดูอาการบาดเจ็บของโซเบล ตามมาด้วยสเตลร่าที่เข้ามาตรวจสอบอาการบาดเจ็บเบื้องต้น

    สเตลร่า: นายเป็นอะไรรึเปล่า? 

    โซเบล: ไม่เป็นไร...แต่รู้สึกว่าอยู่ในร่างนี้เหมือนจะอ่อนแอลงกว่าปกตินะ...

    ลอร่า: ตอนนี้อย่าพูดอะไรเลยค่ะ ต้องรีบทำแผลก่อน

    หลังจากนั้นสเตลร่าก็อาสาทำหน้าที่เป็นคนเจรจากับพวกชาวบ้านแทน โดยให้ไกอัสพาโซเบลกับลอร่ากลับไปยังวิหารมังกรเพลิง ดราก้อน เทมเพลต ก่อนแล้วเดี๋ยวเธอจะตามไป

    .

    .

    .

    .

    ณ วิหารมังกรเพลิง ดราก้อน เทมเพลต 

    เวลาบ่ายแก่ๆ

    โซเบลในสภาพบาดเจ็บได้รับการปฐมพยาบาลและการรักษาเบื้องต้นจากลอร่า โดยมีมังกรดำไกอัสคอยอยู่ดูอาการด้วยความเป็รห่วง 

    ลอร่า: เสร็จเรียบร้อยแล้วค่ะ 

    โซเบล: ขอบใจนะสำหรับการทำแผลให้ฉัน 

    ลอร่า: ไม่เป็นไรค่ะ ฉันแค่ทำตามหน้าที่ที่ฉันต้องทำในฐานะนักบุญก็เท่านั้นเองค่ะ ^ ^ 

    ลอร่าส่งยิ้มให้โซเบลด้วยท่าทางที่ร่าเริง ก่อนที่โซเบลจะพยักหน้ายิ้มตอบ

    ไกอัส: ทำไมท่านถึงต้องยอมเสียสละขนาดเพื่อจะปกป้องข้าน้อยด้วยล่ะขอรับ?

    โซเบล: ที่จริงฉันไม่ได้จะปกป้องนายหรอก เพียงแต่ฉันอยากจะปกป้องชาวบ้านเอาไว้จากความโกรธของนายต่างหาก

    ไกอัส: เอ๋? ท่านโซเบลหมายความเช่นไรรึขอรับ? 

    ไกอัสเอียงคอทำหน้าสงสัยเล็กน้อย 

    โซเบล: พวกชาวบ้านพวกนั้นมีจิตใจที่เต็มไปด้วยความโกรธแค้นที่มีต่อนายอย่างมาก และพวกเขาคงจะแค้นนายไปอีกนานในฐานะที่นายเป็นคนทำลายหมู่บ้านของพวกเขา 

    ไกอัส: เอิ่ม...แต่ที่ข้าน้อยทำไปนั้น...เป็นเพราะข้าน้อยต้องการหาปศุสัตว์ของพวกชาวบ้านเพื่อนำไปเป็นอาหารให้กับเผ่าของข้าน้อยก็เท่านั้นเองขอรับ ส่วนเรื่องที่ข้าน้อยทำร้านชาวบ้านจนบาดเจ็บล้มตายไปนั้น...เดิมทีมันไม่ได้อยู่ในแผนของข้าน้อยแต่แรกหรอกขอรับ

    ลอร่า: หมายความว่าคุณไม่ได้ตั้งใจจะทำร้ายชาวบ้านตั้งแต่แรกหรอคะ 0 0 ? 

    ไกอัส: ข้าคิดแค่ว่า แค่เผาทำลายบ้านเรือนนิดๆหน่อยๆเพื่อขับไล่พวกชาวบ้านและต้อนให้พวกปศุสัตว์ของชาวบ้านให้วิ่งหนีแตกตื่น ข้าจะได้จับพวกมันได้ง่ายๆในทีเดียว...ไม่รู้ทำไมข้าถึงมีความคิดชั่ววูบอยากจะสังหารผู้คนในหมู่บ้านขึ้นมา...

    ลอร่าที่ได้ยินแบบนั้นเธอเองก็แอบสงสัยในใจ แต่ก็คงเดาว่ามันน่าจะเกิดจากนิสัยตามธรรมชาติของมังกรที่ชอบทำลายล้างและเผาเมืองขโมยสัตว์ชาวบ้าน

    แต่คำพูดของไกอัสก็ทำให้โซเบลเกิดตั้งข้อสงสัยขึ้นมาเช่นว่า หากตัวเขาในอดีตชาติเป็นมังกรเพลิงในตำนานที่เกิดจากเทพธิดาไมอาร์อันเป็นตัวแทนแห่งความดีและความจริงสูงสุด เหตุใดเขาถึงก่อสงครามฆ่าล้างบางอารยธรรมบนโลกจนเกือบหมดอย่างโหดเหี้ยมและเลือดเย็นขึ้นมาได้จนตัวเองถูกฆ่าตาย แต่สุดท้ายก็ไม่มีใครให้คำตอบของเขาได้ในตอนนี้และยังคงสงสัยต่อไป

    แล้วไกอัสก็หันไปถามโซเบลต่อ

    ไกอัส: ท่านโซเบลมีพลังเวทย์มากมายมหาศาลและทรงพลังที่สุดในโลก แค่เปลวไฟธรรมดาที่พ่นออกมาก็สามารถแผดเผาหลอมละลายเกล็ดมังกรของข้าให้ได้รับบาดเจ็บได้ แต่ทำไมท่านถึงไม่สังการข้าในตอนนั้นตั้งแต่ทีแรกล่ะขอรับ? รวมถึงทำไมถึงยอมให้มนุษย์พวกนั้นทำร้ายตัวท่านด้วย?

    โซเบล: เพราะทั้งนายและชาวบ้านพวกนั้นไม่สามารถฆ่าฉันได้น่ะสิ มันเลยไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องฆ่าทั้งตัวนายกับชาวบ้านพวกนั้นน่ะสิ

    เมื่อไกอัสได้ยินคำตอบแบบนั้นเขาถึงกับตะลึงไปพัดหนึ่ง เพราะเดิมทีหากเป็นโซเบลเมื่อหลายพันปีก่อน เขาคงไม่มีโอกาสได้มาถามคำถามแบบนี้ตั้งแต่แรกที่เจอแล้ว แต่เมื่อไกอัสคิดให้ลึกกว่านั้น บางทีเขาอาจจะตายตั้งแต่เจอหน้าโซเบลก่อนจะแนะนำตัวแล้วด้วยซ้ำ 

     แต่เพราะคำตอบที่โซเบลบอกมา ทำให้ไกอัสและลอร่าได้รู้ว่า โซเบลนั้นแม้จะสู้ได้แต่เขาเลือกที่จะยอม ทำให้ทั้งสองมองว่า โซเบลนั้นช่างเป็นผู้ที่ยิ่งใหญ่เหนือใครหลายๆคน โดยการยอมเจ็บตัวจากคนที่อ่อนแอเพื่อปกป้องคนที่อ่อนแอกว่าตนเองอีกที


    หลายนาทีต่อมา...

    และแล้วสเตลร่าก็เจรจากับกลุ่มชาวบ้านได้สำเร็จ โดยเธอนั้นได้ยื่นข้อเสนอว่า จะทำการแบ่งปันทรัพยสมบัติที่มีมูลค่าสูงให้ชาวบ้านในหมู่บ้านนำมันไปขายแล้วนำเงินที่ได้มาฟื้นฟูหมู่บ้านใหม่ โดยให้โซเบลที่เป็นเจ้าของทรัพยสมบัติมากมายที่เก็บเอาไว้ในวิหารมังกรเพลิงนำออกไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านเพื่อเป็นการชดเชยจุนเจือ

    เวลาต่อมาโซเบลและไกอัสก็ได้ช่วยพวกชาวบ้านฟื้นฟูหมู่บ้านขึ้นมาใหม่ และทำข้อตกลงในการช่วยปกป้องหมู่บ้านจากมอนเตอร์ป่ารบกวนในพื้นที่การเกษตร แม้ว่าจะมีชาวบ้านบางส่วนยังคงมีอคติกับไกอัสและมองว่าโซเบลนั้นคือมังกรเพลิงในตำนานที่ชั่วร้าย แต่สถานการณ์โดยรวมของคนในหมู่บ้านก็ถือว่าคลี่คลายลงได้บ้างแล้ว

    โซเบล: จนกว่าพืชผลการเกษตรของพวกคุณจะกลับมาออกดอก ผลผลิตตามปกติฉันจะทำหน้าที่คอยดูแลและช่วยปกป้องหมู่บ้านของพวกคุณให้

    หัวหน้าหมู่บ้าน: ขอบคุณมากที่ให้ความช่วยเหลือแก่พวกเรา ท่านมังกรเพลิงโซเบล ถึงจะมีชาวบ้านบางคนไม่ชอบท่านทั้งสองเท่าไหร่ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ไม่ถือโทษเอาผิดกับท่านทั้งสองแล้วล่ะ

    โซเบล: ยังไงฉันก็ต้องขอโทดพวกคุณแทนไกอัสด้วยล่ะ 

    และในขณะที่โซเบลกับไกอัสกำลังคุยกับกลุ่มตัวแทรชาวบ้านในหมู่บ้านอยู่นั้นเอง ก็ได้มีกลุ่มภูติเห็ดมัชรูมี่เจ้าเก่าจำนวนหลายสิบตัวเดินเข้ามาในหมู่บ้านด้วยท่าทางตะมุตะมิ ซึ่งเป็นเผ่าเดียวกันกับที่โซเบลเคยช่วยเอาไว้ พวกเขาได้นำปุ๋ยชั้นดีจากในป่าลึกมามอบให้กับชาวบ้านโดยใส่ตะกร้าสะพายหลัง เพื่อนำมันไปใช้ในการเกษตรตามคำขอของโซเบล

    มัชรูมี่: ท่านโซเบลขอรับ พวกเรานำของที่ท่านโซเบลต้องการมาส่งที่หมู่บ้านให้แล้วขอรับ \^w^/

    หัวหน้าหมู่บ้าน: น...นี่มันพวกมัชรูมี่งั้นหรอ 0 0 ?

    โซเบล: อืม ฉันเป็นคนวานให้เจ้าพวกนี้นำปุ๋ยชั้นดีมาส่งให้พวกคุณที่นี่น่ะ หวังว่าจะไม่เกี่ยงกันนะ 

    หัวหน้าหมู่บ้าน: อ...อ้อ...ไม่มีปัญหา พวกเรายินดีรับของพวกนี้ด้วยความเต็มใจอยู่แล้ว ^ ^ 

    หลังจากนั้นชาวบ้านก็ได้รับการช่วยเหลือจากพวกมัชรูมี่ต่างๆนาๆ ทั้งการเพาะปลูก การใส่ปุ๋ย รวมถึงการประยุกต์รูปแบบการเกษตรแบบยั่งยืนที่ได้องค์ความรู้มาจากพวกมัชรูมี่ ทำให้ชาวบ้านสามารถทำการเพาะปลูก ผลผลิต และผลพลอยได้มาใช้สอยในการดำรงชีพได้อย่างยั่งยืน โดยไม่ต้องเสียเงินไปซื้อของในเมือง ทำให้ลดค่าใช้จ่ายลงไปครึ่งหนึ่ง

    นี่เป็นครั้งแรกในรอบ 1,000 ปี ที่มนุษย์กับมอนเตอร์พึ่งพาอาศัยกันและกันอย่างปรองดอง หลังจากที่เกิดสงครามยุคแห่งไฟจากโซเบล มังกรเพลิงในตำนานจอมทำลายล้าง และไม่น่าเชื่อว่าคนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นได้ก็มาจากโซเบลเช่นกัน ที่ในตอนนี้เขากลายเป็นมังกรเพลิงในตำนานที่จะนำำพาสิ่งใหม่ๆและสันติสุขมาสู่ทุกคน 


    หลังจากที่เสร็จธุระที่ต้องทำที่นี่แล้ว โซเบลและสเตลร่าก็มีจุดหมายในการพาลอร่ากลับไปส่งที่เมืองเดนิส เพื่อพาเธอกลับไปหาเพื่อนๆที่พรากจากกันเมื่อหลายวันก่อน ส่วนไกอัสนั้นก็ขอตัวกลับไปต่อสู้เพื่อทำสงครามกับมังกรเผ่าสีขาวก่อน เพื่อรอให้โซเบลตามไปสมทบ

     และตอนนี้ทั้ง 3 คนก็เริ่มออกเดินทางมุ่งหน้าสู่พิกัดเมืองเดนิสในทันที

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×