คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #35 : ตอนที่ 30: ไออุ่นเล็กๆ
เร็กซ์ได้ยินเสียงกรีดร้องตะโกนขอความช่วยเหลือจากลาเนีย เขาจึงคว้าดาบเล็บมังกรอาวุธคู่ใจก่อนจะรีบวิ่งกระโจนทะยานไปตามป่าด้วยความเร็วสูงเพื่อไปช่วยลาเนีย จนกระทั่งเขาโผล่พ้นเขตป่าใกล้บึงน้ำเร็กซ์ก็ต้องพบเข้ากับลาเนียที่กำลังถูกปีศาจคางคกหนึ่งในทหารของจักรพรรดิ์ปีศาจเซาเซอร์ กำลังลวนลามลาเนียอย่างหื่นกระหายพร้อมกับเสียงหัวเราะชวนโรคจิตของมัน
“เร็กซ์!!”
“ไม่ต้องห่วงนะลาเนีย! ฉันจะรีบไปช่วยเธอเดี๋ยวนี้ล่ะ!!” พูดจบเร็กซ็ยกดาบขึ้นมาก่อนจะใช้พละกำลังทางด้านร่างกายของเขาพุ่งกระโจนขึ้นไปบนฟ้า ก่อนจะหมุนตัวพุ่งเข้าไปฟันหนวดของปีศาจทหารคางคกที่จับพันธนาการร่างของลาเนียขาดวิ่นจนเลือดสีม่วงทะลักออกมาจากบาดแผล
“*โอ๊ยยยย~!!!* หน๋อยแน่แก…~~!!!”
เจ้าปีศาจคางคกร้องโอดครวญด้วยความเจ็บปวดจนมันชะงักถอยออกไป ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้เองเร็กซ์ก็รีบโผเข้าไปรับตัวลาเนียมาไว้ในอ้อมกอด ก่อนที่ร่างของทั้งสองจะกระแทกเขตน้ำตื้นแต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร
“บาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า ไม่เป็นอะไรใช่มั้ย 0 0 ” เร็กซ์ใช้สายตาตรวจดูสภาพร่างกายของลาเนีย ก่อนจะพบว่าลาเนียนั้นกำลังหน้าแดงเพราะตอนนี้เธอกำลังโป๊อยู่ จนเร็กซ์อึ้งไปพักหนึ่งเพราะสายตาของเขานั้นไปมองยังจุดที่ไม่ควรมองของลาเนียเข้าโดยไม่ได้ตั้งใจ
“อ๊ะ!! ขอโทดที ฉันไม่ได้ตั้งใจจะมองตรงนั้นของเธอนะ !! 0//0 ”
เร็กซ์รีบหันหน้าหนีไปทางอื่นพร้อมกับอาการเขินหน้าแดง ถึงแม้เขาจะเป็นหมาป่าเฟอร์เรี่ยนที่เยือกเย็น แต่การที่ต้องมาเห็นเพื่อนสนิทอยู่ในสภาพแบบนี้ มันก็ทำเอาเขาเขินอยู่บ้างเล็กน้อย
ในระหว่างที่ทั้งสองกำลังเขินกันอยู่นั้นเอง เจ้าปีศาจคางคกก็ใช้หนวดของมันพุ่งเข้ามาโจมตีทั้งคู่เพื่อหวังจะเอาคืนที่เร็กซ์นั้นโผล่เข้ามาขัดจังหวะความสุขของมัน แต่ทว่าทั้งสองก็กระโจนหลบไปคนละทางอย่างรวดเร็วทำให้การโจมตีของปีศาจคางคกนั่นพลาดเป้า
เร็กซ์ได้พุ่งเข้าไปใช้ดาบกรงเล็บมังกรฟาดฟันหนวดจำนวนมากของปีศาจคางคกจนขาดสะบั้นไปหลายเส้น จนเลือดสีม่วงสาดทะลักไปทั่วบริเวณพร้อมกับเสียงโอดครวญของเจ้าปีศางคางคก แต่ทว่าต่อให้เร็กซ์ฟันหนวดของมันขาดไปมากเท่าไหร่ หนวดของมันก็จะงอกกลับมาเหมือนเดิม
“เจ้าคิดว่าเจ้าจะสามารถทำหลายหนวดของข้าได้อย่างงั้นหรออ…~ ไม่มีทางสะหรอก….~!! ”
ว่าแล้วเจ้าปีศาจคางคกก็รวมหนวดของมันเข้าไปด้วยกันจนเกิดเป็หนวดเส้นใหญ่ที่สามารถฟาดรถเกวียนขนาดใหญ่ให้พังได้ จากนั้นมันก็ฟาดหนวดใส่เร็กซ์ที่ไม่ทันระวังตัว จนร่างของเขาลอยกระเด็นไปอีกฟากต่อหน้าต่อตาลาเนีย
“เร็กซ์ 0 0 !! ”
ในขณะที่ลาเนียกำลังตกใจกับสิ่งที่เกิดขึ้นอยู่นั้นเอง เจ้าปีศาจคางคากก็ฟาดหนวดขนาดใหญ่อีกเส้นโจมตีใส่เธอ แต่ลาเนียที่มีความรวดเร็วและตัวเล็กกว่าเร็กซ์ ทำให้เธอสามารถกลิ้ง สไลด์หลบการโจมตีของปีศาจคางคกได้อย่างไม่ยากเย็นนัก ก่อนที่ลาเนียจะเคลื่อนตัวหลบไปทางใต้ต้นไม้อันเป็นจุดที่เธอวางอาวุธและสัมภาระของเธอเอาไว้
ลาเนียสามารถหยิบธนูราตรีของเธอได้ และเมื่อได้โอกาสเธอก็ได้ง้างธนูก่อนจะยิงลูกศรเวทย์โจมตีใส่ปีศาจคางคกไปหนึ่งลูก ซึ่งลูกศรเวทย์นั้นก็พุ่งเข้าหน้ามันเต็มๆก่อนจะเกิดการระเบิดขึ้นอย่างรุนแรง
ตู้มมมม!!!!
เจ้าปีศาจคางคกที่โดนลาเนียยิงศรเวทย์ใส่เข้าใบหน้าเต็มๆ มันก็ผงะถอยออกไปเกือบกลางบึงน้ำพร้อมกับความเจ็บปวด เจ้าปีศาจคางคกหันไปมองลาเนียด้วยความโกรธแค้นมันจึงร่ายเวทย์เสกลูกบอลพิษขึ้นมา 4 ลูก ก่อนจะปล่อยลูกบอลพิษโจมตีใส่ลาเนียอย่างบ้าคลั่ง ทำให้ลาเนียต้องรีบเปลี่ยนตำแหน่งเพื่อหลบการโจมตีของมัน
และในขณะเดียวกันเจ้าปีศาจคางคกก็ใช้หนวดของมันยืดยาวพุ่งเข้ามาโจมตีใส่ลาเนีย แต่เร็กซ์ที่ฟื้นตัวกลับมาได้ทันเขาก็กระโดดเข้ามาฟันหนวดเหล่านั้นขาดและอาสารับหน้าเป็นคนคอยคุ้มกันลาเนียในระหว่างที่เธอกำลังจะยิงลูกศรเวทย์ใส่มัน แต่ทว่ามันไม่ง่ายขนาดนั้นเมื่อเจ้าปีศาจคางคกรู้ทันว่าลาเนียจะยิงลูกศรเวทย์อีกครั้ง มันจึงใช้หนวดของมันทั้งหมดมามัดรวมกันสร้างเป็นกำแพงป้องกันขนาดย่อมๆ ก่อนที่ลาเนียจะยิงลูกศรเวทย์ใส่ในเวลาเดียวกัน
ลูกศรเวทย์ของลาเนียพุ่งตรงไปยังกำแพงหนวดของเจ้าปีศาจคางคกก่อนที่ลูกศรเวทย์จะระเบิดอย่างรุนแรง ทำลายกำแพงที่สร้างขึ้นจากหนวดของมันเป็นจุน แต่ความเสียหายก็ไม่ส่งถึงตัวปีศาจคางคกแต่อย่างใดเพราะธนูราตรีของลาเนียนั้นเป็นอาวุธที่เน้นสร้างความเสียหายมากกว่าการเจาะทะลวง
“ฮ่าๆๆ พวกเจ้าทำอะไรข้าไม่ได้หรอกก…~~”
“ลูกศรเวทย์ของเธอทำลายได้แค่หนวดของมัน”
“ชิ…ถ้าหากฉันเอาปืนสังหารมังกรมาด้วยล่ะก็…”
ลาเนียรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์เท่าไหร่ที่ผลออกมานั้นไม่เป็นตามที่คิด ก่อนที่เจ้าปีศาจคางคกจะยิงน้ำแรงดันสูงออกมาโจมตีใส่ทั้งสอง
ด้วยความเร็วของน้ำแรงดันสูงที่พ่นออกมาจากปากของปีศาจคางคกนั้นเอง มันก็ทำให้ลาเนียกับเร็กซ์ที่ไม่ทันระวังตัวโดนคลื่นน้ำซัดเข้าอย่างเต็มแรง จนทั้งสองลอยกระเด็นออกไปพร้อกมันก่อนจะตกลงพื้นนอนหมดสภาพใกล้กัน และพอผ่านไปไม่นานเจ้าปีศาจคางคกก็ตามมาเพื่อที่จะจัดการทั้งสองคนในสิ้นซาก
“ได้เวลาตายแล้วว…~”
เร็กซ์กับลาเนียที่นอนหมดแรงพยายามจะเอื้อมมือไขว่คว้าหากันและกันเป็นครั้งสุดท้าย ในขณะที่ปีศาจคางคกกำลังจะใช้หนวดของมันที่มีปลายแหลมแทงร่างของทั้งคู่เพื่อปลิดชีพ
ปัง!!!!!!
ในขณะที่วินาทีแห่งความเป็นความตายกำลังจะมาเยือนทั้งสอง จู่ๆ เสียงปืนก็ดังขึ้นกำปะนาดในป่าใหญ่ที่มืดมิด ก่อนกระสุนเวทย์สังหารสีฟ้าจะพุ่งเข้าหัวทะลุไปด้านหลังของเจ้าปีศาจคางคก จนสุดท้ายมันก็สิ้นชีพหงายหลังล้มตึงไปทั้งอย่างนั้น
ทั้งสองหันไปมองยังต้นตอทิศทางของกระสุนที่ถูกยิงออกมาก่อนจะพบเข้ากับเรดควีนที่กำลังยืนเล็งปืนยาวมังกรสังหารของลาเนียและมาพร้อมกับควันจากปากกระปืนที่บ่งบอกว่าเธอนั้นเป็นคนลั่นไกสังหารปีศาจคางคกตัวนั้นเพื่อช่วยชีวิตทั้งสองคนเอาไว้
“นี่เธอ… 0 0 ”
ในขณะที่ลาเนียกำลังอึ้งกับภาพที่เห็น เรดควีนก็เดินเข้ามาหาทั้งสองพร้อมกับถือปืนยาวมังกรสังหารมาด้วย
“ 'นักล่ามังกร…ที่ถูกมังกรที่ตัวเองล่ามาช่วยชีวิตเอาไว้ในสถานการณ์คับขัน' ช่างเป็นภาพที่ดูย้อนแย้งดีนะว่ามั้ัย”
พูดจบเรดควีนก็ยกปืนขึ้นมาเล็งมายังทั้งสองคน ทำให้ลาเนียกับเร็กซ์ที่ได้รับบาดเจ็บรู้สึกได้ถึงอันตรายที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่ทั้งสองก็ไม่สามารถที่จะทำอะไรได้ในตอนนี้
“นี่เธอคิดจะฆ่าเราสองคนเพื่อหนีไปจากที่นี่งั้นหรอ”
เร็กซ์ถามก่อนที่เรดควีนจะยิ้มแล้วตอบกลับมาว่า
“ในสถานการณ์แบบนี้มังกรอย่างฉันก็ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเอาตัวรอดจากนักล่ามังกรอย่างพวกเธออยู่แล้ว ไม่เห็นต้องถามเลยนี่”
“ถ้าเธอคิดจะยิงเราสองคนแล้วหนีไปล่ะก็…ฉันนี่แหละที่จะเป็นคนฆ่าเธอสะตั้งแต่ตอนนี้เลย…”
เมื่อลาเนียพูดจบเธอก็พยายามหอบสังขารที่บอบช้ำภายในลุกขึ้นยืนอีกครั้ง พร้อมกับทำท่าจะง้างธนูเตรียมยิงศรเวทย์ใส่เรดควีนก่อนที่อีกฝ่ายจะหนีไป
แต่ทว่าลาเนียก็ต้องล้มหมดแรงพร้อมกับอาการตาพร่าเบลอจากการที่เธอนั้นสูดดมควันพิษจากปีศาจคางคกในระหว่างต่อสู้เข้าไป ทำให้ร่างกายของเธออ่อนแอและประสาทสัมผัสทั้ง 5 ลดทอนลงจนไม่สามารถโฟกัสสมาธิในการใช้เวทย์มนต์ได้ จนเรดควีนที่เห็นดังนั้นถึงกับพูดขึ้นมาว่า
“เป็นอะไรไป ไม่คิดจะจัดการฉันแล้วงั้นหรอ ? ”
“ลาเนีย เธอเป็นอะไรรึเปล่า”
เร็กซ์รีบเข้ามาประคองลาเนียเพื่อสอบถามอาการผิดปกติของเธอ ก่อนจะพบว่าเธอกำลังติดพิษพร้อมกับอาการหน้าม่วงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้เองเรดควีนก็ได้โยนปืนของลาเนียส่งคืนให้กับเร็กซ์นำไปเก็บเอาไว้ที่เดิมก่อนจะหันหลังแล้วบอกอาการที่กำลังเกิดขึ้นกับลาเนียให้เร็กซ์รู้ว่า
“ดูเหมือนว่าแกะน้อยคนนั้นจะติดพิษจากปีศาจคางคกนั่นเข้าให้แล้ว ถ้าไม่รีบพาตัวไปรักษาเด็กคนนั้นจะตายเอานะ”
“เดี๋ยวก่อนสิ…!”
เรดควีนหยุดเดินไปครู่หนึ่งก่อนจะหันมามองเร็กซ์
“ทำไมเธอถึงไม่ฆ่าเราสองคนแล้วใช้โอกาสนี้หนีไปล่ะ”
“อยากรู้เหตุผลอย่างงั้นหรอ…นั่นก็เพราะฉันรู้สึกดีที่ทำแบบนี้น่ะสิ”
“หมายความว่ายังไง”
“ฉันมีเด็กๆสองคนที่ต้องดูแลอยู่นะ ถ้าหากฉันหนีเอาตัวรอดไปตอนนี้แล้วปล่อยเด็กคนนั้นเอาไว้กับพวกเธอ ฉันคงรู้สึกผิดกับตัวเองที่ทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้กับเอลเดนและไอริสไม่ได้ และฉันก็ไม่อยากจะทำผิดเหมือนแต่ก่อนอีกแล้ว”
พูดจบเรดควีนก็เดินกลับไปที่แคมป์ปล่อยให้เร็กซ์อึ้งกับคำตอบของเธอไปพักหนึ่ง ก่อนที่ทอร์เรนต์ อัลโดเบโด เอลเดน กับ ไอริสจะวิ่งสวนมาเพราะได้ยินเสียงปืนจนทุกคนตื่นหมด
“คุณเรดควีน เมื่อกี้นี้มันเสียงอะไรคะ”
“นั่นสิ เกิดอะไรขึ้นหรอคะ 0 0 ? ”
“ไม่มีอะไรหรอก เธอสองคนกลับไปพักผ่อนต่อเถอะนะ ^ ^ ”
เรดควีนที่เห็นเอลเดนกับไอริสมีสีหน้าตกใจ เธอจึงใช้มือของเธอลูบหัวไปยังเอลฟ์สาวทั้งสองเพื่อปลอบขวัญอย่างอบอุ่น ซึ่งในขณะเดียวกันนี้เอง ทอร์เรนต์กับอัลโดเบโดก็เข้ามาดูอาการของลาเนียและสอบถามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากเร็กซ์
“เกิดอะไรขึ้นกับลาเนีย แล้วเจ้าปีศาจน่ารังเกลียดตัวนั้นคืออะไร”
“เรื่องมันยาว แต่ตอนนี้รีบช่วยรักษาลาเนียก่อนเถอะ ตอนนี้เธอกำลังตกอยู่ในอันตราย”
ทอร์เรนต์ที่เชี่ยวชาญในการใช้พิษและเป็นหมอปรุงยาที่เห็นดังนั้น เขาจึบรีบเข้ามาตรวจดูอาการของลาเนียอย่างละเอียดก่อนจะวินิจฉัยว่าลาเนียนั้นติดพิษของเผ่าปีศาจที่มีความรุนแรงมากกว่าพิษปกติ แต่เขานั้นมีหนทางในการรักษาอยู่แล้ว
“ตอนนี้ยังพอมีเวลาก่อนที่พิษจะซึมไปทั่วร่างกายของเธอ นายรีบพาลาเนียไปที่เต้นท์ของฉันก่อน เดี๋ยวฉันจะรักษาเธอเอง”
“เข้าใจล่ะ…ฉันฝากที่เหลือด้วยนะ”
พูดจบเร็กซ์ก็ส่งตัวลาเนียให้กับทอร์เรนต์ เพื่อให้เขาพาเธอไปรักษาอาการต่อไป
ย้อนกลับไปเมื่อ 2 วันก่อนหน้า…
ณ เมืองหลวงเดนิส อาณาจักรเซซิลล่าร์
ในท้องพระโรงภายในปราสาทหลวง ได้มี ‘กลุ่มมือสังหารดาบทมิฬ’ กลุ่มนักฆ่ารัตติกาลที่มีสมาชิกเป็นผู้หญิงล้วนที่จะคอยทำหน้าที่ในเรื่องที่ราชวงศ์ไม่สามารถกระทำการต่อหน้าสาธารณะชนได้ พวกเขาเป็นกลุ่มนักฆ่าที่ได้รับการฝึกฝนจากสุดยอดปรมจารย์นักฆ่าของวังหลวง มีหน้าที่คอยรับใช้ราชาของอาณาจักรเซซิลล่าร์ในการสะสางปัญหาหรือทำภารกิจสกปรกให้กับราชวงศ์ลูซิเนีย มีอาวุธเป็นมีดต้องสาปสีดำม่วงที่สามารถสังหารได้แม้แต่เทพพระเจ้า พวกเธอสวมเกราะสีดำสนิทพร้อมผ้าคลุมปกปิดใบหน้ามิดชิดที่สามารถทำให้เคลื่อนไหวในเงามืดอย่างไร้ร่องรอย ราวกับความมืดที่ค่อยๆคืบคลานอย่างเงียบเชียบ
ซึ่งหากเปรียบเทียบกับ ‘กองอัศวินมังกรเงิน’ คือผู้ที่คอยรับใช้ราชวงศ์ลูซิเนียด้วยความจงรักภักดี ต่อสู้เพื่อปกป้องอาณาจักรเซซิล่าร์และประชาชนท่ามกลางแสงสว่างอย่างกล้าหาญ ‘กลุ่มมือสังหารดาบทมิฬ’ ก็คือผู้ที่คอยรับใช้ราชวงศ์ลูซิเนียภายใต้เงามืดที่เร้นลับ เพื่อกำจัดใครก็ตามที่เป็นคนนอกและรู้ความลับของราชวงศ์ที่อาจจะเป็นภัยต่อความมั่นคงในอนาคต
โดยพวกเธอถูกเรียกให้มาเข้าเฝ้าราชาเอ็กซ์โซสตามคำสั่งเนื่องจากราชานั้นต้องการมอบหมายภารกิจสำคัญให้กับพวกเขา นั่นคือการแอบสะกดรอยตามเพื่อจับตาดูกลุ่มดราก้อน สเลเยอร์ของลาเนียอย่างอยู่ห่างๆ และหากกลุ่มของลาเนียทำภารกิจล้มเหลวหรือคิดจะหนีจากภารกิจกลุ่มมือสังหารดาบทมิฬก็สามารถลงมือจัดการกลุ่มของลาเนียเพื่อฆ่าปิดปากได้ทันที
เมื่อได้รับคำสั่งโดยตรงจากราชาเอ็กซ์โซส เหล่านักฆ่าดาบทมิฬก็ไม่รอช้าควบม้าสีดำออกจากเมืองหลวงในยามรัตติกาลเพื่อทำภารกิจของตัวเองให้ลุล่วง
.
.
.
.
วันต่อมา…
หลังจากที่ค่ำคืนความวุ่นวายได้ผ่านพ้นไป เร็กซ์ที่มีเรื่องค้างคาใจจากคำพูดของไอริสเขาก็ได้เดินเข้ามาถามเรดควีนวึ่งในตอนนี้เธอกำลังยืนมองภาพวิวทิวทัศน์ของธรรมชาติด้วยความสงบกับเอลเดนและไอริส ซึ่งดูเหมือนเรดควีนจะรับรู้ถึงการมาของเร็กซ์ได้
“แกะน้อยคนนั้นเป็นยังไงบ้างล่ะ”
“ได้ทอร์เรนต์ช่วยรักษาจนอาการดีขึ้นมากแล้วล่ะ ตอนนี้คงไม่มีอะไรต้องเป็นห่วงแล้ว”
“อย่างงั้นหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีแล้วล่ะ ทีแรกฉันนึกว่าเจ้าตัวเล็กนั่นจะตายไปแล้วสะอีก”
เร็กซ์ยืนนิ่งไปพักหนึ่งเหมือนจะทบทวนกับตัวเองว่าเขาจะถามเรื่องที่ค้างคาใจกับเรดควีนเกี่ยวกับมังกรแห่งความมืดบรรพกาล คนร้ายที่ทำลายหมู่บ้านของลาเนีย
“ฉันได้ยินมาว่า…เธอเรื่องรู้อะไรบางอย่างเกี่ยวกับมังกรแห่งความมืด ฉันเลยอยากจะรู้ว่ามังกรแห่งความมืดตัวไหนที่บุกทำลายหมู่บ้านของลาเนีย”
เรดควีนที่ได้ยินคำถามจากเร็กซ์ เธอก็ชำเลืองสายตามองไปที่ไอริสราวกับว่าเธอรู้ว่าใครเป็นคนเล่าเรื่องมังกรแห่งความมืดให้เร็กซ์ฟัง ซึ่งไอริสก็ทำท่าเหมือนหลบสายตาของเธอด้วยความเขินเล็กน้อย แต่เรดควีนก็ไม่ได้ถือสาอะไร
“ถามแบบนี้ เธอสองคนคิดจะทำอะไร…ล้างแค้นงั้นหรอ ? ”
“มันเป็นความต้องการของลาเนียน่ะ ฉันเพียงแค่เป็นคนที่จะช่วยทำให้ความปราถนาของเขาเป็นจริงก็เท่านั้นเอง”
“งั้นหรอ…แล้วอะไรที่ทำให้เธอสองคนคิดว่าจะสังหารมังกรแห่งความมืดบรรพกาลได้ล่ะ อาวุธที่พวกเธอใช้ในการต่อสู้อย่างมากก็แค่สังหารมังกรระดับสูงได้ แต่มันไม่อาจจะใช้สังหารมังกรแห่งความมืดที่เป็นมังกรเทพตกสวรรค์ได้หรอกนะ”
เร็กซ์ที่ได้ยินเรดควีนบอกมาแบบนี้เขาก็รู้สึกท้อใจขึ้นมาเล็กน้อย แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังยืนยันที่จะทำตามเจตนารมณ์ที่ตั้งมั่นต่อไป
“แล้วเธอจะให้พวกเราทำยังไงล่ะ ปล่อยให้คนอื่นต้องตายไปอย่างเปล่าประโยชน์โดยปล่อยให้ลาเนียต้องเจ็บปวดไปทั้งชีวิตอย่างงั้นหรอ ? ”
เรดควีนหันหน้ามาหาเร็กซ์ก่อนที่เธอจะตอบกลับไปด้วยสีหน้าจริงจังว่า
“ฉันเองก็เคยสูญเสียคนที่ฉันรักไปเหมือนกับเด็กคนนั้นนั่นแหละ ฉันรู้ดีว่าความเจ็บปวดที่ต้องเสียคนที่ตัวเองรักไปและไม่สามารถทำอะไรคนที่เป็นตัวการได้มันเจ็บปวดมากแค่ไหน”
“ว่าไงนะ 0 0 ? ”
“ในอดีต…ฉันกับท่านโซเบลเราเคยใช้ชีวิตอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข ถึงเขาจะมองฉันเป็นแค่เครื่องมือ แต่สำหรับฉันแล้วฉันรักเขาเสมือนเจ้านายผู้เป็นที่รัก แต่ทว่า..ผู้กล้าลูซิสก็เป็นผู้พรากชีวิตของท่านโซเบลอันเป็นที่รักไปจากฉันเมื่อหลายพันปีก่อน ฉันจึงรู้ดีว่าความรู้สึกแบบนั้นมันเป็นยังไง”
เอลเดนกับไอริสเห็นแววตาที่ดูเศร้าสร้อยและเจ็บปวดของเรดควีน ทั้งสองคนก็รีบเข้ามาจับมือของเธอเพื่อช่วยปลอบโยน ก่อนที่เรดควีนจะพูดต่อว่า
“ฉันน่ะ…อยากจะล้างแค้นไอ้ผู้กล้านั่นให้กับท่านโซเบลที่ตายไปปานจะกินเลือดกินเนื้อให้ได้ แต่เมื่อรู้ว่าอีกฝ่ายนั้นมีพลังแข็งแกร่งมากแค่ไหนจนถึงขั้นสามารถสังหารมังกรธาตุในตำนานสิ่งเสมือนเทพได้ด้วยตัวคนเดียว ฉันก็ตระหนักรู้ได้ว่ายังไงสะ…มังกรระดับสูงธรรมดาอย่างฉันก็ไม่มีทางที่จะเอาชนะเจ้านั่นได้…แม้ฉันจะมีเศษเสี้ยวพลังที่ท่านโซเบลมอบมาให้ฉันก็ตาม…”
แล้วเรดควีนก็เอามือข้างหนึ่งขึ้นมาทาบอกพร้อมกับทำสีหน้าเศร้าใจ
“ตราประทับมังกรเพลิงที่สลักอยู่บริเวณอกของฉัน เป็นสิ่งเสมือนของดูต่างหน้าที่ฉันได้รับมาจากท่านโซเบลที่เหลือไว้ให้กับฉัน แต่เมื่อท่านโซเบลสิ้นชีพฉันก็หมดจุดหมายที่จะมีชีวิตอยู่ต่อ…จนกระทั่งฉันได้มาพบกับเด็กสองคนนี้ที่ทำให้ฉันมีจุดหมายใหม่ในการมีชีวิตอยู่ต่อ”
แล้วเรดควีนก็หันมาส่งยิ้มให้กับเอลเดนกับไอริส ที่เป็นดั่งแสงสว่างดวงใหม่ให้ชีวิตของเธอมีหนทางให้เดินต่อไป
“ถึงแม้ฉันจะสูญเสียเป้าหมายในชีวิตไป แต่อย่างน้อยฉันก็ยังมีเด็กๆสองคนนี้เป็นคนคอยชี้นำทางถึงการมีชีวิตอยู่ต่อไปให้กับฉัน และฉันคิดว่าเราควรที่จะปล่อยให้อดีตอันแสนเจ็บปวดนั้นเป็นเพียงอดีตไว้เบื้องหลัง แล้วหันมาโฟกัสกับปัจจุบันใช้ชีวิตกับคนที่ฉันรักอย่างมีความสุขจะดีกว่า”
เร็กซ์ที่เห็นเรดควีนแสดงถึงความอ่อนโยนและความห่วงใยที่มีต่อเอลเดนกับไอริส มันก็ทำให้เขารู้สึกลังเลขึ้นมาในใจ โดยสรุปแล้วนั้นเรดควีนอาจจะไม่ใช่มังกรระดับสูงที่เลวร้ายเหมือนที่พวกเขาคิด และเขาก็แอบหวังลึกๆในใจขึ้นมาว่ามังกรเพลิงโซเบลที่พวกเขาได้รับคำสั่งให้ไปสังหารก็อาจจะเป็นเช่นเดียวกันกับเรดควีน
“เธอน่ะดูไม่เหมือนมังกรตัวอื่นๆนะ และเธอช่างโชคดีจริงๆที่เธอยังมีโอกาสได้อยู่กับคนที่เธอรัก ไม่เหมือนกับลาเนียหรือว่าฉันที่ไม่เคยสัมผัสถึงความรู้สึกนั้นเลย…ความรู้สึก…ที่มีใครสักคนที่เรารักอยู่ข้างๆเรา…”
ไอริสที่เห็นเร็กซ์ทำหน้าซึม เธอก็ไม่อาจจะปล่อยให้เร็กซ์ต้องรู้สึกโดดเดี่ยวตามลำพังเหมือนหมาป่าเดียวดายแม้ว่าเขาจะมีลาเนียอยู่เคียงข้าง แต่ตอนนี้ลาเนียได้รับอันตรายและยังไม่มีท่าทีว่าจะฟื้น เธอจึงรีบวิ่งเข้าไปจับมือของเขาเพื่อช่วยปลอบโยนเร็กซ์ให้สบายใจ
“หืมมม 0 0 ? ”
“ถ้าหากว่าคุณรู้สึกเหงาและต้องเจ็บปวดที่ต้องอยู่ตัวคนเดียวอย่างโดดเดี่ยว ถ้าอย่างนั้นพวกเราจะอยู่เป็นเพื่อนคุณในระหว่างที่คุณลาเนียยังไม่ฟื้นนะคะ ^ ^ ”
“นี่เธอ….อยากมาอยู่เป็นเพื่อนฉันระหว่างรอลาเนียฟื้นอย่างงั้นหรอ…?”
“พวกเรารู้ว่าคุณเป็นคนดีและคอยจัดการมังกรที่นิสัยไม่ดี เพราะงั้นคุณเองก็คือฮีโร่ของผู้คนนะคะ ^ ^ ”
เอลเดนเข้ามาเสริมพร้อมกับส่งยิ้มอย่างอบอุ่นให้เขา ทำให้เร็กซ์ที่เป็นหมาป่าเฟอร์เรี่ยนที่ไม่ค่อยเปิดใจให้กับคนอื่นสักเท่าไหร่รู้สึกหวั่นไหวขึ้นมาบ้าง แต่ตอนนี้หางของเขาก็เริ่มส่ายไปมาเสมือนว่าอารมณ์ของเขากำลังตอบรับความรู้สึกดีๆของเอลเดนกับไอริสที่ส่งมาให้เขา
สุดท้ายเร็กซ์ก็ทนรับรอยยิ้มและความใจดีของเอลเดนกับไอริสไม่ไหว เขาจึงยอมที่จะเปิดใจให้กับทั้งสองรวมไปถึงยอมเชื่อใจเรดควีนสักครั้ง ก่อนที่เอลเดนกับไอริสจะได้มีโอกาสได้ลูบหัวเขาทำให้เร็กซ์สัมผัสได้ถึงความอบอุ่นและความสุขจากการลูบหัวของทั้งสองคน นั่นจึงทำให้เขาลืมเลือนความรู้สึกที่ต้องใช้ชีวิตท่ามกลางความหนาวเหน็บที่เขาเคยเผชิญมาในอดีตไปชั่วขณะหนึ่ง จนท้ายในที่สุดเร็กซ์ก็ได้บอกให้อัลโดเบโดปลดบ่วงผนึกเวทย์พันธนาการให้กับเรดควีนรวมถึงเอลเดนกับไอริสด้วย
“อื้มมม เจ้าแน่ใจแล้วหรอว่าจะทำแบบนี้น่ะ ? ”
อัลโดเบโดถามเพื่อความแน่ใจ
“ไม่ต้องห่วง มังกรตนนี้ไม่ใช่มังกรที่ชั่วร้ายอะไร และอีกอย่างพวกเราก็ไม่มีเหตุผลที่ต้องจัดการเขาด้วย”
เร็กซ์หันไปมองเรดควีนก่อนที่อัลโดเบโดจะมองตาม
“*เฮ้อออ* เอาเถอะ ถ้าหากเจ้าเห็นว่านางไม่มีพิษมีภัยอะไร ในฐานะที่เจ้าเป็นถึงรองหัวหน้ากลุ่มเจ้าว่ายังไงข้าก็ว่าอย่างงั้น v.v ”
พูดจบอัลโดเบโดก็ขอแยกตัวกลับไปทำธุระของตัวเองต่อ ก่อนที่เรดควีนจะเดินเข้ามาแล้วพูดกับเร็กซ์ว่า
“เคลียร์ใจกันเร็วดีนี่นา”
“ไม่แปลกหรอก อัลโดเบโดเขาเป็นคนเชื่อฟังคนง่ายน่ะ”
“งั้นหรอ ถ้าเป็นแบบนั้นก็ดีแล้ว”
หลังจากนั้นเร็กซ์ก็ขอแยกตัวเพื่อไปดูอาการของลาเนียที่ตอนนี้เธอนอนพักอยู่ในเต้นท์รักษาของทอร์เรนต์ โดยมีทอร์เรนต์คอยดูอาการอย่างใกล้ชิด
“อาการของลาเนียฟื้นตัวดีแล้วรึยัง”
“อืม ฉันได้ให้ยาถอนพิษจนตอนนี้พิษในร่างกายของลาเนียก็ถูกกำจัดออกไปจนหมดแล้ว ที่เหลือก็แค่รอให้ร่างกายของเขาฟื้นตัวเต็มที่เท่านั้น”
“โชคดีจริงๆที่กลุ่มของพวกเรามีนายที่ชำนาญด้านยาพิษ ไม่อย่างงั้นฉันกับอัลเบโดก็ไม่รู้จะช่วยลาเนียยังไง”
“ฮ่าๆ ไม่เป็นไรๆ ยังไงพวกเราก็เป็นทีมเดียวกันต้องช่วยเหลือกันอยู่แล้ว ^u^"\ ”
ทอร์เรนต์นั่งเกาหัวแก้เขินเล็กน้อย ก่อนที่ลาเนียจะค่อยๆรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาพอดี
“ลาเนีย เธอฟื้นแล้วงั้นหรอ 0 0 ”
เร็กซ์รีบเข้าไปดูอาการของลาเนียอย่างใกล้ชิด ก่อนที่ลาเนียที่มีอาการสลึมสลือจะค่อยๆหันมามองเร็กซ์ช้าๆด้วยความมึนงงเนื่องจากฤทธิ์ของยารักษายังไม่หมด
“เร็กซ์….นี่นายยัง…ปลอดภัยดีใช่มั้ย…”
“ฉันปลอดภัยดี เพราะงั้นไม่ต้องเป็นห่วงฉันหรอกนะ”
“แล้ว….ตอนนี้ฉัน….อยู่ที่…ไหน…”
“ในเต้นท์ที่พักของทอร์เรนต์น่ะ เมื่อคืนเธอโดนพิษจากปีศาจคางคกที่โจมตีเราเมื่อคืนทำให้เธอหมดสติไปน่ะ แต่ไม่ต้องห่วงเพราะทอร์เรนต์ช่วยถอนพิษออกมาจากตัวเธอแล้ว”
“ง….งั้นหรอ….แล้ว….ราชินีมังกรเพลิงล่ะ….”
ลาเนียถามหาเรดควีนจากเร็กซ์เนื่องจากเธอกลัวว่า เรดควีนจะฉวยโอกาสในตอนนั้นหนีไป แต่ยังไม่ทันที่เร็กซ์จะได้ตอบคำถามของลาเนีย จู่ๆ เรดควีนก็เดินเข้ามาในเต้นท์เพื่อแสดงตัวให้ลาเนียรู้ว่าเธอยังไม่ได้หนีไปไหน พร้อมกับพาเอลเดนกับไอริสมาด้วย
เมื่อลาเนียที่เห็นว่าพวกของเรดควีนยังอยู่ เธอก็พยายามจะลุกขึ้นจากเตียงที่เธอพักอยู่จนทอร์เรนต์ต้องเข้ามาช่วยประคองอีกแรง
“นี่เธอ….ไม่ได้หนีไปพร้อมกับสองคนนั้นหรอกหรอ….?”
“ถ้าฉันหนีไป คงไม่มายืนอยู่ตรงนี้หรอกนะ”
ลาเนียที่เห็นดังนั้นเธอจึงพยายามจะลุกขึ้นยืน โดยมีทอร์เรนต์คอยหิ้วปีกช่วยพยุง
“หมายความว่ายังไง…ในเมื่อเธอมีโอกาสให้หนีแท้ๆ…ทำไมถึง…”
เร็กซ์ได้อาสาเข้ามาช่วยอธิบายเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นให้ลาเนียฟัง ทำให้ลาเนียได้รู้ว่าเรดควีนนั้นเป็นมังกรที่มีจิตใจดีตนหนึ่ง แม้ว่าลาเนียจะยังไม่ค่อยปักใจเชื่อสักเท่าไหร่
ต่อมาเรดควีน เอลเดน และไอริส ก็ได้ช่วยกันทำอาหารสำหรับคนไข้ที่เพิ่งเข้าสู่ช่วงฟื้นตัว โดยทั้งสามได้ทำอาหารจากสิ่งที่ลาเนียชอบเป็นเมนูที่เน้นผักเป็นหลัก จนในที่สุดเมนูผัดผักและซุปผักก็ถูกนำมาเสิร์ฟให้กับลาเนียถึงที่
“อาหารเช้าสำหรับผู้ป่วยพักฟื้นเสร็จเรียบร้อยแล้วค่าา~ ^ ^ ”
เอลเดนกับไอริสนำอาหารใส่ถ้วยชามมาเสิร์ฟให้กับลาเนียถึงที่ ก่อนที่ลาเนียจะมองอาหารจำพวกผัดผักและน้ำซุปสมุนไพรที่เรดควีนเป็นคนทำเองกับมือ
ลาเนียรับชามอาหารมาถือในมือก่อนจะใช้ช้อนตักอาหารใส่ปากเพื่อชิมรสชาติอาหาร จนกระทั่งเธอถึงกับตาเบิกโพลงเมื่อรสชาติอาหารผัดผักที่เรดควีนทำออกมานั้นมันอร่อยมากๆจนเธอลืมความอ่อนเพลียเป็นปลิดทิ้ง
“เป็นไงบ้างลาเนีย อาหารเช้าที่เรดควีนทำมาเพื่อเธอน่ะ ? ”
“อร่อยจัง….นานแค่ไหนแล้วนะที่ฉันไม่ได้กินอาหารอร่อยๆแบบนี้….คิดถึงคุณแม่จัง…”
พูดจบลาเนียก็มองไปที่อาหารผัดผักที่อยู่ในชามพร้อมกับความรู้สึกคิดถึงเมนูผัดผักที่คุณแม่ของเธอเคยทำให้เธอกินตอนเด็กๆ จนน้ำตาแห่งความรู้สึกในวันวานมันไหลลงมาอาบแก้มไม่รู้ตัว
“คุณลาเนียร้องไห้ทำไมหรอคะ 0 0 ? ”
“เปล่า ไม่มีอะไร….ฉันก็แค่…คิดถึงคุณแม่ของฉันที่เคยทำผัดผักแสนอร่อยให้ฉันกินเมื่อหลายปีก่อนน่ะ…”
“งั้นหรอคะ ถ้างั้นเชิญคุณลาเนียกินให้เต็มที่เลยนะคะ ^ ^ ”
ลาเนียยิ้มมุมปากพร้อมกับพยักหน้าเบาๆ ก่อนจะกินอาหารในชามจนหมดและตามด้วยน้ำผลไม้คั้นสดๆที่เธอชอบตามลำดับ
ทุกคนในกลุ่มดราก้อน สเลเยอร์ ได้นั่งรับประทานอาหารจากฝีมือของเรดควีนโดยเธอนั้นได้ทำอาหารตามความชอบของแต่ละคนอย่างสุดฝีมือ ส่วนเอลเดนกับไอริสก็คอยทำหน้าที่เติมอาหารและเครื่องดื่มให้กับทุกคนโดยไม่ขาด ทำให้กลุ่มนักล่ามังกรลาเนียได้ทานอาหารเช้าจนอิ่มหน่ำสำราญกันพร้อมหน้า
เมื่อทุกคนรับประทานอาหารมื้อเช้าเสร็จ กลุ่มของลาเนียก็ตัดสินใจที่จะออกเดินทางกันต่อเพื่อทำภารกิจของตัวเองให้สำเร็จ ส่วนกลุ่มของเรดควีนก็ตัดสินใจที่จะร่วมออกเดินทางไปพร้อมกับกลุ่มของลาเนียด้วยเพราะเธอนั้นรู้ดีว่ายังไงกลุ่มของลาเนียก็ไม่มีทางที่จะเอาชนะมังกรเพลิงโซเบลได้ แต่เธอก็ตั้งใจเอาไว้ว่าหากผลการต่อสู้ปรากฏว่ากลุ่มของลาเนียเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ เธอจะอาสาเป็นคนกลางคอยช่วยพูดช่วยคุยกับโซเบลให้ละเว้นชีวิตกลุ่มนักล่ามังกรของลาเนีย และจะขอให้โซเบลช่วยลาเนียล้างแค้นมังกรแห่งความมืดเพื่อทำให้ความปราถนาของลาเนียเป็นจริง
โดยในระหว่างนั้นเอง กลุ่มมือสังหารดาบทมิฬก็แอบสะกดรอยตามและเฝ้าจับตาดูความเคลื่อนไหวของกลุ่มลาเนียอยู่ห่างๆ และอีกไม่นานพวกมันก็อาจจะได้ลงมือในอีกไม่ช้า
ความคิดเห็น